คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : ตอนพิเศษ - เที่ยวตะลุยเหนือ อีสาน ตอนสิบห้า : เรื่องวุ่นๆในรีสอร์ทที่ 3
หลังจากที่เจอเรื่องวุ่นวายมานับไม่ถ้วน ในที่สุดพวกผมก็มาถึงที่พักที่ 3 ของการมาเที่ยวโดยสวัสดิภาพ เพียงแต่มาถึงในตอนเย็นเท่านั้นเอง เพราะกว่าจะขับมาได้ แถมเจอด่านตรวจอีกตั้ง 4 ด่าน กว่าจะรอดมาได้ ดีนะที่ชายช่วยเอาไว้ แง้ๆ ทำไมพี่เฟิร์นไม่ทำให้ผมบ้างเลยนะ
ที่พักในครั้งนี้เป็นรีสอร์ทริมดอยภูเรือ ขณะนี้เวลาทุ่มกว่าแล้ว ท้องฟ้าก็มืดลง ทำให้ผมมองเห็นข้างในรีสอร์ทแล้วผมนึกถึงร้านอาหารหรูๆเลยด้วยซํ้า เพราะว่ามีดวงไฟสีเหลืองประดับส่องออกมาจากข้างในรีสอร์ท ซึ่งตกแต่งแบบเดียวกันร้านอาหารเลย เส้นทางในการเดินทางขึ้นรีสอร์ทนั้นครั้งแรกผมนึกว่าซาระจะพาไปนอนบนดอย แต่ผิดคาด รถตู้ของต้าขับขึ้นเนินทางขึ้นที่มีป้ายบอกทางว่า "ไปภูเรือ" เพียงไม่นานเท่านั้นก็เปิดไฟเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าไปในรีสอร์ทแล้ว ซึ่งบอกตามตรงว่าถ้าต้าไม่เลี้ยวเข้าไปและหัวหน้าห้องไม่วอถามต้าละก็ ผมก็คงจะนึกว่าต้าจะพาเข้าไปกินอาหารเย็นซะแล้ว เพราะนอกจากร้านอาหารติดชายแดนที่พวกเรากินกันมาตอนเที่ยงนั้นที่กินรองท้องก็มีแต่ขนมเท่านั้น
เมื่อรถขับเข้ามาในรีสอร์ท ผมพยายามมองดูรอบข้างด้วยความตื่นเต้น ซึ่งก็พบไฟตามจุดต่างๆของรีสอร์ทที่จุดส่องออกมาสว่างไสว ผมมองเห็นดอกไม้เมืองหนาวสะท้อนแสงกับแสงไฟด้วย คิดในใจว่าถ้าเป็นตอนกลางวันน่าจะสวยกว่านี้ รถผ่านลานหน้าที่น่าจะเป็นล็อบบี้ของรีสอร์ท ซาระเดินออกจากรถพร้อมกับต้าเข้าไปในล็อบบี้ของโรมแรม สักพักเธอก็เดินออกมาพร้อมกับพนักงานของโรมแรมที่น่าจะเป็นเด็กขนกระเป๋า
"พวกเขาจะนำทางไปยังบ้านพักครับ" ต้าเดินมาบอกกับผมเมื่อเขาเดินมาเคาะกระจกประตูรถฝั่งหัวหน้าห้อง แล้วเขาก็เดินกลับไปที่รถ แล้วจากนั้นผมก็เห็นพนักงานโรมแรมที่มาด้วยนั้นขึ้นขี่รถมอเตอร์ไซด์แล้วก็ขับนำรถของต้าไป แน่นอนว่าหัวหน้าห้องก็ขับตามไป เส้นทางภายในรีสอร์ทนั้นจะขึ้นๆลงๆราวกับขับอยู่ในสวนสนุก รอบข้างพวกผมนั้นเป็นบังกะโลที่ปลูกตามเนินเขา เรียงกันเป็นชั้นๆราวกับขั้นบันได พวกเขาขับเข้ามาลึกสุดของเขตบังกะโล ที่จอดรถนั้นมีที่ว่างให้ 3 คันหน้าบ้านพักพอดี ผมเห็นบ้านพักที่มีลักษณะคล้ายกับที่รีสอร์ทคืนแรกที่พวกเรามากันเลย หลังคาหุบลงมาราวกับจะถึงพื้น ดูๆแล้วน่าจะมีชั้นเดียวมากกว่าสองชั้น หน้าบ้านพักประดับด้วยไม้ดอกเมืองหนาว มีแสงไฟที่เปิดส่องแสงสีเหลืองนวลออกมา ทำให้แสงไฟตัดกับไม้ดอกเมืองหนาว ดูออกมาสวยสดงดงามยิ่งนัก
เมื่อปลาเปิดประตูรถออก ลมหนาวจับใจพัดเข้ามาหาผมทันที ผมถึงกับตัวสั่นและหยิบเสื้อหันหนาวที่ถอดเอาไว้ตอนอยู่ในรถขึ้นมาใส่ทันที ถึงอากาศจะไม่หนาวเท่าที่ที่พักที่สองของพวกเราก็ตาม แต่ความหนาวนี่เทียบพอๆกับที่พักคืนแรกเลย ผมเดินก้าวลงจากรถ ขาของผมสัมผัสถึงละลองนํ้าที่กระจายตัวกลางอากาศ ต้นตอทำให้อากาศโดยรอบหนาวเย็นได้ในทันที ผมมองไปรอบๆอย่างสดชื่น ถึงอากาศจะหนาวก็ตาม แต่ยังไงผมก็ชอบ เมื่อผมมองไปรอบๆ ก็พบว่ามีคนอื่นๆใส่เสื้อกันหนาวกันทุกคน ยกเว้นคนเดียวคือปลา
"ปลา" จ๋าถามเขาจนผมได้ยินเสียงฟันกระทบกัน "มะ ไม่หนาวบ้างเลยเหรอ"
"นิดหน่อย" ปลาตอบหน้าตาเฉย "อากาศแบบนี้ ฉันชอบ"
เหอๆ
แต่มีอีกคนที่ท่าทางลมหนาวจะมีผลมาก ปอนั่นเอง เธอตัวสั่นตั้งแต่เธอย่างก้าวลงมาจากรถแล้ว เธอเอามือทั้งสองข้างประสานกันไว้ เธอมองไปมารอบๆด้วยท่าทางกระวนกระวาย
"ปอ" เทรนรีบเดินมาแล้วก็ถอดเสื้อกันหนาวของเขาห่มร่างให้หมาป่าสาวทันที โดยที่ปลายังไม่ทันจะก้าวเท้าไปหาน้องสาวตัวเองเลยแม้แต่ก้าวเดียว "หนาวรึเปล่า"
"ซา ซาระ" ปอหันหน้าไปถามสาวญี่ปุ่นที่อากาศหนาวจะไม่มีผลอะไรกับเธอมาก "ขอ ขอเข้าไปในบ้านก่อนได้ไหม"
"อ๋อ ได้สิ" เธอตอบ แล้วเธอก็หันไปคุยกับคนของรีสอร์ท ซึ่งเขาก็ยื่นกุญแจบ้านพักให้ทั้งรอยยิ้ม แล้วก็เดินขึ้นไปขี่มอเตอร์ไซด์กลับไปยังที่ทำงานของเขาต่อในทันที ซาระหยิบกุญแจเดินไปเปิดประตูบ้านพักที่ใกล้ที่สุด ปอตัวสั่นเข้าไปใหญ่แล้วก็เริ่มขยับเท้าไปมาอย่างไม่สบายใจ
"ปอ หนาวมากเลยเหรอ" เทรนถามอย่างตกใจ เนื้อตัวของเขานั้นเย็นเฉียบเพราะความเย็น แต่เขายอมฝืน ผมมองเทรนอย่างสงสัย และเริ่มรู้สึกว่าเขามีความรู้สึกอะไรบางอย่างกับปอ แต่มันคืออะไรหว่า นึกไม่ออกเลยแฮะ ยิ่งมองดูหน้าของเทรนที่ยิ่งกระวนกระวายแล้วมันยิ่งอยากให้คิดเข้าไปใหญ่เลยนะ
"หะ หะ" ปอพึมพำออกมา สายตาของเธอจ้องดูซาระที่เธอยังไม่เข้าใจว่ากุญแจบ้านพักมันดอกไหน เล่นมีพวงละ 4 ดอกถึงหน้าบ้านพักจะมีแสงไฟส่องประดับดอกไม้ก็ตาม แต่ตรงประตูหน้าบ้านพักนั้นกลับมืดสนิทเพราะไฟหน้าบ้านไม่ได้เปิดนั่นเอง
"หนาวเหรอปอ" เทรนถามด้วยความเป็นห่วง เขาเลยยอมลงทุนถอดเสื้อตัวเองออกแล้วก็คลุมบนไหล่ของปอเข้าไปอีก ถึงมันจะมืดแต่แสงไฟโชว์ดอกไม้และแสงไฟจากในรถก็ทำให้ผมมองเห็นร่างที่มีกล้ามเล็กน้อยและหุ่นปอมเก้งก้างตามฉบับของนักวาดรูปออกมา นี่มันยอมลงทุนถอดเสื้อจนส่วนบนเปลือยเลยเหรอวะเนี่ย นี่มันทำให้ผมยิ่งคิดว่าใช่เข้าไปใหญ่เลยนะ แต่อะไรคือใช่หละ นึกไม่ออกเลยแฮะ
"ปะ เปล่า" ปอรีบส่ายหัว เส้นผมที่สยายยาวของเธอสะบัดไปตามหัวเมื่อเธอส่ายไปมา "หะ หะ"
"เอาหน่า ไม่ต้องปฏิเสธหรอก" เทรนเริ่มตัวสั่นเล็กน้อยเพราะอากาศที่หนาวรอบตัวพวกเรานั่นเอง "เดี๋ยวเข้าไปในบ้านก็จะอุ่นแล้ว"
"ปะ เปล่า" ปอรีบส่ายหัวเข้าไปอีก "หะ หะ"
"เปิดออกแล้ว" ซาระบอก เธอเปิดประตูบ้านพักเข้าไป ปอรีบเดินเข้าไปข้างในบ้านพักทันที
"หะ หะ ห้อง" เธอพึมพำออกมาอย่างดีใจ "ห้องนํ้า"
เพล้ง !!
เทรนอ้าปากเหวอเมื่อเธอพูดแบบนั้นออกมา เสื้อผ้าที่เทรนใส่ ทั้งเสื้อเชิ๊ตแขนยาวและเสื้อกันหนาว ปอวางไว้ตรงพื้นหน้าห้องนํ้า แล้วเธอก็ปิดประตูห้องทันที มีแสงไฟจากในห้องนํ้าเปิดสว่างขึ้น แล้วก็มีเสียงคล้ายๆฝาซักโครกกระทบกันดังออกมา เขามองดูห้องนํ้าโดยทั้งที่ลำตัวส่วนบนของเขายังเปลือยเปล่าอยู่ ผมกับคนอื่นๆแทบจะหัวเราะกลิ้ง
"ฮ่าฮ่า เทรน" แมนเดินมาตบไหล่เขา "ปอเขาจะเข้าห้องนํ้า ไม่ใช่หนาว"
"อ้าวเหรอ" เทรนพึมพำออกมา สักพักเขาก็เริ่มกอดอกแล้วก็วิ่งเข้าไปในบ้านพัก หยิบเสื้อทั้ง 2 ตัวของเขาขึ้นมาสวมทันที แต่เมื่อเขารู้ตัวว่าเผลอใส่เสื้อกันหนาวเข้าไปก่อน เขาเลยรีบถอดออกมาแล้วก็ใส่เสื้อเชิ๊ตเข้าไป จากนั้นก็สวมเสื้อกันหนาวทับไปอีกครั้ง เขาเอามือจับผมที่ตนเองมัดไว้ข้างหลังด้วยสีหน้าที่กระอักกระอ่วนเล็กน้อย
"แปลกนะ" ผมเดินไปคุยกับฝน "ราวกับว่าฉันคิดว่าเทรนกำลังคิดอะไรกับปอ แต่ยังไงมันก็นึกไม่ออก"
"อ๋อ ความรักไงจ๊ะ" ฝนเฉลยให้ผม
"หา รักเนี่ยนะ" ผมถามเธออย่างสงสัย
"จ้า ดูก็รู้แล้วแหละว่าเทรนนะแอบชอบปอไง" แมวเดินมาบอกบ้างแล้วก็หัวเราะคิกคัก จะว่าไปผมมองดูฟ้า จ๋า กับซาระบ้าง ถึงทั้ง 3 คนจะไม่หัวเราะแสดงอากาารออกมาอย่างชัดเจนเหมือนฝนกับแมว แต่ทั้งสามสาวก็อมยิ้มซะแก้มแทบปริ
"แล้วยิ่งตอนอยู่บนรถนะ" ฝนรีบเม้าท์ให้ผมฟังอย่างรวดเร็วจนฟ้ากับจ๋าหันมามองด้วยความสนใจ "เทรนพยายามนวดไหล่ให้ปอด้วยแหละ"
"ว้าย จริงเหรอเธอ" ฟ้ากับจ๋ารีบเดินมารวมกลุ่มกันอย่างรวดเร็ว ผมถอยหลังออกมาเล็กน้อยเพื่อให้สองสาวเข้ามาแทรกแทนที่ผมเพื่อไปคุยกับฝนได้ แปลกนะ ฝนก็พูดเสียงเบา พวกนี้ก็ยืนไกล ได้ยินได้ไงฟะนั่น
"จริงสิ แล้วมีการถามนะว่า เหมื่อยตรงไหนไหมครับ ผมจะช่วยนวดให้ด้วยนะ กรี๊ดๆ" ฝนรีบเล่าเหตุการณ์บนรถตู้ให้สางสาวที่กำลังยืนฟังด้วยความสนใจ เหอๆ
มิน่า ทำไมเทรนถึงทำตัวแบบนั้น ผมมองดูเทรนที่กำลังยืนคุยกับปอเพราะว่าเธอเพิ่งออกมาจากห้องนํ้า เอาไงดี ปรึกษาปลาดีไหม จะให้เขามาชอบครึ่งคนครึ่งสัตว์อย่างเธอความแตกไม่แตกแหล่ แต่อย่าเพิ่งเลย
ทุกพฤติกรรมของเทรน ปลายืนกอดอกแล้วก็จับตามองดูอยู่ตลอด ใบหน้าของเขากำลังมองเด็กหนุ่มศิลปินคนนั้นราวกับวิเคราะห์พิจารณาอะไรบางอย่าง
หลังจากที่พวกเราขนกระเป๋าขึ้นไปบนบ้านพักกันแล้ว เอิ่ม จริงๆแล้วแค่วางกันหน้าบ้านพักมากกว่า เพราะว่าเราต้องมาคุยกันว่าใครจะนอนบ้านพักหลังไหน แน่นอนว่ามติก็เป็นเอกฉันท์ แยกชายกับแยกหญิงนอนกัน และอาหารมื้อเย็นในวันนั้น ซาระก็โทรสั่งร้านอาหารของรีสอร์ทมาให้กิน ซึ่งจะเป็นอาหารจานเดียวกัน สาเหตุที่ไม่สั่งกันเยอะก็เพราะว่าพื้นที่หน้าบ้านพักมีกันน้อย และต่างคนต่างก็อยากนอนบนเตียงกันเต็มแก่ เพราะว่านั่งขดตัวอยู่บนรถมาทั้งวัน อาหารถูกนำมาเสิร์ฟโดยพนักงานของรีสอร์ทเดินกันมาเองเลยทีเดียว พวกเรานั่งกินกันบนหน้าบ้านพัก โดยใช้แสงไฟจากบ้านพักเอา มีเสียงจิ้งหรีดร้องและลมเย็นที่พัดเข้ามาทำให้ได้บรรยากาศไปอีกแบบ แรกๆเห็นมียุงบ้าง แต่ไม่รู้ทำไมพอผมไปนั่งแล้วยุงถึงหายไปยังไงก็ไม่รู้
"วันพรุ่งนี้เราจะไปที่ภูเขาเรือกันนะคะ" ซาระบอกเมื่อเธอกินอาหารเสร็จแล้ว "เราจะไปดูวิวสวยๆกัน"
"เขาเรียกภูเรือไม่ใช่เหรอ" ชายบอกกับเธอ ซาระเลยทำท่าทางอายๆเมื่อพูดผิด ไม่น่าแปลกอะนะ เพราะว่าเธอไม่ใช่คนไทยแท้นี่นา
"แล้วข้างบนนั้นมีอะไรเหรอ" ฟ้าถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"ความจริงที่ที่เรายืนอยู่กันตรงนี้นะ คือสถานที่ที่หนาวที่สุดในเมืองไทยเลยรู้เปล่า" ชายยิ้มบอก
"อ้าว ไม่ใช่ที่ดอยอินทนนท์เหรอ" แมนถามอย่างสงสัย
"ก็ใกล้เคียงกัน แต่ที่ภูเรือเขาจะได้รับฉายาว่าหนาวสุดแดนสยาม" ชายยิ้ม "ดังนั้นทีนี่บางทีจะหนาวกว่าดอยอินทนนท์ด้วยซํ้า"
"ฉันว่านายใช่คนเปล่าวะชาย" ต้าเอามือตบไหล่เขา "ทั้งห้องมีแต่แกคนเดียวที่ฉลาดไปซะทุกเรื่อง"
"โอ้ยไม่หรอก" ชายโบกมือไปมาเบาๆ "ฉันไม่ได้ฉลาดอะไรเลย"
"แต่จริงๆนะ" ฟ้าพูดออกมาอย่างตื่นเต้น "ชายฉลาดมากๆเลยแหละ ปีที่แล้วก็ช่วยพวกเราไว้ตั้งหลายอย่าง"
"นั่นสินะ" ต้ายกมือขึ้นมาทำท่านับนิ้ว "ครั้งแรกก็ช่วยฉันหามิ้นตอนโดนลักพาตัวไปเจอ ตอนงานโรงเรียนก็ช่วยหาที่วางระเบิดอีก แถมยังช่วยคนบนรถไฟฟ้า อีกตั้งหลายอย่าง" ต้าเอามือลงแล้วก็มองไปยังชายที่ยิ้มอย่างเคอะเขิน "ฉันว่าแกไปนุ่งโจงกระเบนแล้วก็สวมหน้ากากเหอะวะ"
"ทำไมวะ" ชายถามอย่างสงสัย
"เป็นฮีโร่ไง" ต้าชูไม้ชูมือทำท่าราวกับยอดมนุษย์กำลังแปลงร่าง ทำให้ทั้งวงหัวเราะกันครืน
"แต่ถ้าชายเป็นฮีโร่ละก็" ฟ้าประสานมือเอาไว้ทั้งสองข้างแล้วก็มองชายด้วยใบหน้าที่ประทับใจ "ฟ้าเชื่อนะว่าชายทำได้"
ฝนมองดูฟ้าจนแววตาของเธอแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังทันที เธอไม่รอช้าที่จะเอาศอกมากระทุ้งเอวผมเบาๆ ซึ่งเป็นจุดบ้าจี้ของผมเลย ผมเกือบจะอ้าปากหัวเราะแล้วแต่ฝนแอบเอาหูของเธอมากระซิบข้างหูผมก่อน
"นี่ๆมิ้นจัง" เธอบอกกับผม "ท่าทางเราจะได้คู่รักใหม่อีกคู่แล้วนะ"
"คู่ไหนอีกหละ" ผมถามเธอด้วยความรำคาญเล็กน้อย แต่เมื่อฝนให้ผมมองไปที่ฟ้า แล้วผมก็มองดูชายอีกทีนึง ซะอุ้ย เพื่อนเรากำลังจะมีแฟนแล้วโว้ย ฮิ้วววว
"อืมจะบอกอะไรให้นะชาย" ผมยิ้มใส่ชายจนเขามองผมอย่างแปลดใจ "นายนี่มันเท่มากๆเลยรู้เปล่า เท่มาก และเป็นฮีโร่ที่ดีได้ด้วย แถมยังฉลาดอีก แต่เสียดายน้า" ผมเหล่ตามองไปที่ฟ้า "ที่นายยังโสต"
ฟ้าเริ่มมองดูชายราวกับว่าเขาเป็นชายที่ใช่สำหรับเธอ ในขณะที่ชายเริ่มเอียงตัวมากระซิบข้างๆผม
"นพ ทำบ้าไรของนายเนี่ย" ชายหน้าแดงอย่างไม่สบายใจ "นายจะยุให้ฟ้ามาชอบฉันทำไม"
"ฮะ ฮะ ฮั่นแน่" ผมล้อเลียนเขากลับ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าฝนแอบขยับตัวมาใกล้ๆผมเพื่อแอบฟัง ระหว่างนั้นจ๋ากับแมวกำลังมองดูด้วยความสนใจ "ไม่ดีเหรอวะเกลอ เอ็งจะได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเขาซะดี"
"ไม่เอาด้วยเว้ย" ชายหลบหน้าผม หน้าแดงจัด "จัดการเรื่ององค์กรนั่นให้ได้ก่อนเหอะ"
"องค์กรอะไรเหรอ" เสียงของฝนถามผมที่ข้างหู
"ก็องค์กรที่... เว้ยยยย !" ผมเผลอตอบฝนไปโดยไม่ตั้งใจ แต่ทว่า เมื่อผมเอียงหัวไปหาคนที่คุยกับผมข้างหลังนั้น ทำให้เห็นหน้าของฝนเข้ามาในระยะประชิด ผมเห็นหน้าของฝนใกล้มาจนเกือบทิ่มกับผม และผมตกใจมากนั่นเอง ทำให้ขาของผมขยับไปโดนตัวของเธอจนผมหงายหลังล้มลง ปรากฎว่าฝนที่กำลังคุกเข่าอยู่ก็ล้มลงหน้าทิ่มพื้นด้วย แต่ตรงที่เธอล้มนั้นเป็นจุดที่ผมหงายหลังลงไปนอนบนพื้นหน้าบ้านพักพอดี
มือของเธอรีบยันเธอเอาไว้เพราะว่าตัวของเธอจะมากระแทกกับหน้าของผม เส้นผมของเธอตกลงมาโดยแก้มของผมบ้าง ผมมองเห็นใบหน้าของผมชัดเจนมาก และความห่วงของผมปากผมกับปากของเธอมันก็ไม่ต่างกันมากเสียด้วย แต่แววตาของฝนแปลก ราวกับว่าเธอมองผมเป็นคนละคน มองราวกับว่าผมคือคนที่เธอโหยหามาโดยตลอด
"นี่ เล่นไรกันเนี่ย" หัวหน้าห้องพึมพำแล้วก็มาช่วยจับร่างของฝนให้ลุกขึ้นจากการขึ้นคร่อมผม "ฝนนี่ละก็ ดันไปแกล้งมิ้นแบบนั้น"
"อารายกานฝน" ต้าเริ่มพึมพำออกมา "นั่นมันมุขฉันนะ ฉันต่างหากที่ต้องยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆมิ้นจัง" ว่าแล้วเจ้าตัวก็ใช้ความเร็วผิดกับทุกทีวิ่งมาข้างผมอีกฝั่งแล้วก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ทันที "มันต้องใกล้ๆแบบนี้"
"ทำบ้าไรของแกวะต้า" ผมหันหน้าไปทางเขาเพื่อที่จะโวยใส่เขาทันที เพราะว่าเล่นมาใกล้ผมซะไวแบบที่ไม่ทันที่ผมตั้งตัวแถมมาพูดข้างหูผมอีก มันสยิวนะเว้ย
แต่ทว่า เมื่อผมหันหน้าไปหาเขา ริมฝีปากของผมไปโดนกับริมฝีปากของต้าในทันที เพราะว่าต้ายื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมมากกว่าฝนเสียอีก ทำให้ปากของผมชนกับปากของเขาโดยไม่ตั้งใจ รอยเสียดสีและความอุ่นที่ริมฝีปากชนกันจนผมรู้สึกได้ ใบหน้าของผมซีดขาวอย่างรวดเร็วและมองดูต้าอย่างเอาเรื่อง
"นี่ไอ้ต้า" ผมกัดฟันจนตัวสั่นสะท้าน "นี่แกตั้งใจจะให้ฉันทำแบบนี้ใช่ไหม"
"ปะ เปล่านะ" ต้ารีบถอยหลังทันทีเมื่อสีหน้าของผมเปลี่ยนไป "ผมไม่ได้ตั้งใจนะ"
"ไอ้โกหก" ผมโวยใส่มัน ผมรู้สึกถึงความขยะแขยงที่ริมฝีปากผมราวกับมันเป็นเชื้อร้ายที่กำลังลามไปทั้งปาก "ไอ้หน้าหื่นอย่างแกนี่มัน"
"ผมไม่ได้ตั้งใจน้า"
"แกตายยยยยย !!"
ผมจับร่างของมันและด้วยพลังเหนือมนุษย์ที่ผมมีอยู่ ผมจับร่างของมันแล้วก็เหวี่ยงมันออกไปนอกที่กั้นระเบียงหน้าบ้านพัก ทำให้ต้ากระเด็นออกไปข้างนอก แล้วตกลงบนพุ่มไม้ที่ปลูกข้างๆบ้านพัก แต่ทว่า พุ่มไม้นั้นเป็นไม้ประเภทหนาม
"จ๊ากกกก" ต้าร้องออกมาแล้วเขาก็พยายามบิดดิ้นให้ออกจากบริเวณนั้น จากนั้นเขาก็กลิ้งตกลงไปตามเนิน เนื่องจากข้างบ้านพักนี้เป็นเนินลงไปข้างล่าง ทำให้ต้าหมุนติ้วๆๆๆไปตามสนามหญ้าที่ลาดเอียงและหายไปกับความมืด
"โหดจังมิ้นจัง" ซาระพึมพำออกมาอย่างตกตะลึง ในขณะที่ปอกับปลายังคงมองดูท่าจับต้าเหวี่ยงทุ่มเมื่อกี้อย่างสนอกสนใจ
"โทษที" อารมณ์ของผมคลายลงและเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมา "พอดีอารมณ์มันขึ้นนะ"
"ไม่เป็นไรหรอกมิ้นจัง" เสียงของต้าดังออกมาจากบริเวณที่จอดรถ ปรากฎว่าต้าเดินมาในสภาพที่ทั้งตัวมีเศษหญ้าติดตามตัวเต็มไปหมด "ฉันไม่เป็นไรง่ายๆหรอก"
"ว้าย มาได้ไงเนี่ย" แมวเจอต้าที่แวบมาจากที่เมื่อกี้จนเธอแทบร้องกรี๊ด
"คนอย่างนายที่มันตายยากจริงๆแฮะ" ผมบอกอย่างโล่งอกเล็กน้อยที่เขาไม่ติดใจอะไรผม ระหว่างนั้นฝนมองดูผมอย่างเงียบๆ
ทำไมตอนนั้น ฝนนึกถึงตอนเวลาที่เธอมานอนทับกับผม เราถึงอยากจูบกับมิ้นมากเลยหละ ราวกับว่า เราคิดถึงทั้งปากและใบหน้าของมิ้นมาก
เธอมองดูผมที่เริ่มบอกขอโทษกับต้าโดยที่ต้าบอกว่าไม่เป็นไร
นี่เรา เป็นอะไรกับมิ้นเหรอเนี่ย
ความคิดเห็น