ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Help i am a Girl ! Special !! : ตอนพิเศษ

    ลำดับตอนที่ #21 : ตอนพิเศษ - เที่ยวตะลุยเหนือ อีสาน ตอนสิบสอง : ทางลัดสู่ภูเรือ

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 52


    หลังจากที่พวกเราไปซัดข้าวเช้าในตัวเมืองกันเสร็จแล้วเรียบร้อย และก็ได้ไปเที่ยวที่เขาดินกัน ( ซาระตื่นเต้นมากที่มาเห็นดินที่โดนลมพัดกร่อนจนมีรูปร่างแปลกๆด้วยพลังของธรรมชาติ ที่พวกเราสนใจกันก็คือต้นไม้จักจี๋ได้ ซึ่งเมื่อเราเอานิ้วไปเขี่ยๆกิ่งไม้และใบไม้มันจะสั่นเอง) และจากนั้นซาระก็ได้มาบอกกำหนดการกับพวกเราต่อว่า เราจะไปเที่ยวกันที่ภูเรือ โดยจะค้างกันที่นั่นคืนนึง แรกๆผมนึกถึงภูเขาที่มีเรืออังปางอยู่ข้างบน แต่ชายมาบอกว่า มันเป็นสถานที่ที่หนาวที่สุดในไทยแล้ว ผมรีบบอกอ๋อทันที เพราะหน้าแตก คนมันไม่เคยไป) แต่หลังจากนั้นพวกเราก็เปิดกางแผนที่กัน แล้วต้าก็เสนอว่าเราน่าจะขับเลียบเส้นทางไปทางขอบๆชายแดนที่ติดกับประเทศลาวจะลัดกว่าไปขับในเมือง ตอนแรกๆหัวหน้าห้องไม่เห็นด้วยหรอก แต่ถ้าจะเอาความรวดเร็วละก็ ก็น่าสน

    ผมยังคงนั่งรถคันที่หัวหน้าห้องขับอยู่ เพราะว่ายังไม่อยากไว้วางใจไปนั่งกับรถของไอ้ต้ามัน ต้าก็ทำหน้าจ๋อยแล้วก็ยอมเดินไปขึ้นรถอย่างไม่เต็มนัก ซึ่งส่งผลให้ฝนเดินไปล้อเลียนต้าสักพัก แล้วเธอก็อะไรไม่รู้ที่ทำให้ต้าทำหน้าตาสดใสขึ้น แล้วฝนก็เดินมาหาผมด้วยท่าทางกระตือรือร้น

    "เอาหน่า มิ้นจัง ต้าสำนึกผิดแล้วน้า ไปนั่งรถคันเดียวกับเขาต่อเลย กรี๊ดๆ"

    "เหอๆ ไม่เอา ขี้เกียจ" ผมตอบปัดปฏิเสธไป มือของผมเปิดประตูรถตู้คันที่หัวหน้าห้องขับแล้ว

    "งั้นเหรอโอเค" ฝนยิ้มให้ผมอย่างเจ้าเล่ห์แล้วก็หันหน้าไปตะโกนบอกต้า

    "ต้า มิ้นบอกว่าวันพรุ่งนี้จะยอมขึ้นรถคันเดียวกันด้วยแหละ"

    "จริงเหรอครับ" ต้าถามฝนตาโตและท่าทางจะร่าเริงขึ้นกว่าเดิม เขาเต้นระบำท่าประหลาดๆแถมสะบัดก้นเป็นของแถมก่อนที่จะเดินขึ้นไปบนรถฝั่งที่นั่งคนขับ ผมหันขวับไปหาฝนอย่างไม่พอใจนักแต่เธอก็เอานิ้วของเธอมาดันที่ริมฝีปากของผมเอาไว้ราวกับว่าเธอจะกันไม่ให้ผมพูด

    "จุ๊ จุ๊ จุ๊" ฝนล้อเลียนให้ผม "มิ้นจังเขินไม่กล้าบอกตรงๆชิม้า ฝนบอกให้แทนแล้วนะ กรี๊ดๆ"

    ผมมองฝนจนผมอึ้งจนบอกไม่ถูก ตาของผมมองดูต้าที่นั่งอยู่ในรถเรียบร้อยแล้ว และเอามือทั้ง 2 ข้างประสานนิ้วชี้กับนิ้วโป้งเอาไว้ทำเป็นรูปหัวใจส่งมาให้ผม เหอะๆ ฝนนะฝน ฮึ้ยยย

    "หน่านะ คนจะเป็นแฟนกันมันต้องอดทน" ฝนพูดราวกับให้กำลังใจผม

    "ใครเป็นแฟนของเจ้านั่นกัน" ผมตอบอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ใจจริงอยากจะบอกกับฝนว่าไม่ได้ต้องการให้เธอยุ่งอะไรแบบนี้เล้ย

    "อุ้ย มิ้นจังเขินด้วยหละ" ฝนถามผมตาโต

    "นี่ ฝน" ผมเริ่มขึ้นเสียงกับเธอโดยไม่พอใจนัก แต่เด็กสาวกลับยิ้มแย้มออกมาและไม่สนใจอาการของผมเลย

    "เย้ๆ มิ้นจังเขินต้า มิ้นจังเขินต้า มิ้นจังเขินต้า" ฝนพูดล้อเลียนผมออกมาแล้วก็เดินไปยังรถตู้ที่ต้าทำ เหอๆ ดีอย่างที่เธอไม่พูดเสียงดังออกมาทำให้คนอื่นๆยังไม่รู้เรื่อง ได้แต่มองดูใบหน้าของผมที่อารมณ์ยังขุนมัวอยู่ และใบหน้าของต้าที่ยังยิ้มแย้ม

    "มีอะไรเหรอ มิ้น" หัวหน้าห้องเดินมาหาผม แล้วก็ถามอย่างสงสัยเพราะว่าต้าเริ่มทำท่าส่งจุ๊บมาให้ผมผ่านกระจกในรถแล้ว

    "ไม่มีอะไร" ผมรีบตอบปฏิเสธแล้วก็รีบเดินขึ้นรถไปทันทีเพื่อหลบเลี่ยงสถานการณ์นั้น หัวหน้าห้องมองดูต้าทีผมทีแล้วก็เริ่มยักไหล่ จากนั้นเขาก็เดินไปขึ้นบนเพื่อออกรถเดินทางต่อ

     

    ------

     

    รถเคลื่อนที่ผ่านมาได้สักพักแล้ว จากตึกและบ้านเรือนต่างๆที่ปลูกอยู่กันอย่างหนาแน่นกลับเริ่มทิ้งระยะห่าง และในที่สุด เส้นทางก็เริ่มชันขึ้น พวกเราเริ่มเข้าเขตภูเขา ลัดผ่านห่างไกลจากตัวเมือง ต้นไม้หลากต้นปรากฎให้พวกเราเห็นต้นแล้วต้นเล่า

    ภายในรถพวกผมนั่งทอดน่องมองดูวิวนอกรถไปพลางๆระหว่างที่หัวหน้าห้องขับรถตามรถของต้าไป วิวข้างนอกแรกๆก็สวยงามดีอยู่หรอก แต่พอมองบ่อยๆแล้วมันรู้สึกว่ามันเอียน แถมรถของหัวหน้าห้องก็ดันไม่มี CD หนังให้ดูอีก ผมเลยนั่งดูวิวไปอย่างน่าเบื่อ ต้นไม้หลายต้นวิ่งผ่านหน้าผมไป และข้างหลังต้นไม้นั้นก็เป็นหุบเขาที่ทอดลงไปข้างล่าง แต่ก็มองไม่ทันว่าข้างล่างจะเป็นอีกฝั่งของประเทศลาวเลยรึเปล่า เพราะว่ามีต้นไม้วิ่งมาบังอยู่เรื่อย

    เส้นทางถนนที่พวกเรานั่งไปนั่นเป็นถนน 2 เลนส์ นานๆจะมีรถสวนมาที ตั้ง 3 ชั่วโมงกว่าถึงจะถึงภูเรือ ผมเริ่มหมุนตัวไปมาเพื่อคลายเหมื่อย ให้ตายสิ น่าเบื่อชะมัด

    "มิ้นจัง" เสียงเรียกชื่อผมแผ่วเบาดังออกมาจากทางซ้าย เมื่อผมหันไปมอง ก็พบจ๋ากำลังอยู่ในสภาพงัวเงียและนัยน์ตาเริ่มปรือๆ

    "มีอะไรเหรอจ๋า" ผมถามเธออย่างสงสัย

    "จ๋าง่วงนะคะ" จ๋าบอกกับผมจนผมมีความรู้สึกว่าเธอน่าแกล้งยังไงไม่รู้วุ้ย "ขอนอนหน่อยนะคะ"

    "อืม เอาสิ" ผมบอกเธอ

    แต่ยังไม่ทันทำอะไร จ๋าก็เอียงหัวมาซบกับหัวไหล่ของผม หัวของเธอมาซบกับหัวไหล่ของผม เส้นผมของเธอปลิวตกลงไปข้างล่าง ผมสะดุ้งเฮือกเพราะไม่นึกว่าเธอจะขอเอาหัวมานอนลวบนหัวไหล่ของผม ผมสัมผัสได้ถึงเส้นผมของเธอที่นุ่มนวล ผมเริ่มหน้าแดงเล็กน้อยมีผู้หญิงมาซบกับหัวไหล่ของผมแบบนี้ ถึงผมจะอยู่ในร่างผู้หญิงมานานจนชินแล้วก็เหอะ

    "เฮ้ เฮ้ จ๋า" ผมเรียกเธอเบาๆ แต่เธอไม่มีอาการตอบโตั "นี่จ๋า ไปนอนตรงอื่นไม่ได้เหรอ หนัก"

    "อืม....อืม...." เสียงจ๋าครางออกมา

    "อ๋อ ได้ใช่ไหม" ผมถามเธอ

    "อืม.... คร่...อ...ก........."

    เวรกรรม หลับไปแล้วเหรอวะ ผมนึกในใจอย่างไม่ชอบใจนัก โห เล่นไม่บอกล่วงหน้ากันเลยเนอะว่าจะเอาหัวไหล่ฉันมานอน มันนุ่มตรงไหนฟะไอ้ไหปลาร้าเนี่ย

    "นี่ จ๋า" ผมกระดกหัวไหล่นิดนึงเพื่อให้เธอลุกขึ้นไปนอนที่อื่น แต่เธอก็กระดกหัวสักพักแล้วก็นอนต่อ

    "ให้ข้าปลุกไหม" ปลากระดกหัวขึ้นมาจากที่นั่งแถวหน้า เขากำลังนอนเอกเขนกอย่างสบายใจ เพราะว่ารถตู้คันนี้จะเน้นขนของมากกว่าบรรทุกคนนั่นเอง

    "กระดิกนิดเดียวก็ตื่นแล้วมั้ง" ผมตอบอย่างเกรงใจ เพราะว่าเห็นปลานอนอยู่ เขาผงกหัวให้ผมแล้วก็ลงไปนอนต่อ เหอๆ ดีวุ้ย ครองที่นั่งเบาะหน้าคนเดียวเลย แล้วทำไมฉันถึงเลือกมานั่งกับสองสาวนี่หว่า

    "นี่ จ๋า ไปนอนที่อื่นดี้" ผมกระดกหัวไหล่แรงกว่าเดิม จนหัวของจ๋าลอยขึ้นมาแล้วก็เริ่มหล่นมาซบบนตักผมแทน และเธอก็ยังหลับสนิท

    เวรกรรม แทนที่จะไปนอนที่อื่น ผมมองดูหัวของจ๋าที่ยังคงซบกับขาอ่อนผมจนผมเริ่มรู้สึกเจ็บ ทำไมหัวของผู้หญิงนี่มันถึงเจ๊บแบบนี้หว่า

    "อืม....อืม...." จ๋าครางออกมา มือของเธอเลื่อนมาจับบริเวณขาอ่อนของผมจนเลื่อนขึ้นมาตรงเกือบถึงเอวจนผมรู้สึกสยิวกิ้ว

    "เฮ้ยๆ จ๋า" ผมรีบบ่นเสียงเบาออกมา "อย่าทำงี้ดิ จักจี๋"

    "นี่ มิ้น" เสียงของฟ้าที่ดังออกมาจากทางขวาของผมดังออกมา เมื่อผมหันไปมอง ก็พบว่าหัวของเธอก็เอียงไปมาเหมือนกัน นัยน์ตาของเธอก็ปรือลงเช่นเดียวกัน นี่ อย่าบอกนะว่า

    "ขอโทษนะ" เธอพึมพำออกมาก่อนที่หัวของเธอจะเลื่อนลงมานอนซบกับหัวไหล่ของผมทางขวามือ เฮ้ย! ฟ้าก็ดันเป็นไปอีกคนเรอะเนี่ย

    "นี่ ฟ้า" ผมรีบบอกเธอ "อย่ามานอนซบแบบนี้ได้ไหม"

    "อืม.... แง่มๆๆๆ" ฟ้าขยับปากเล็กน้อยแล้วก็เริ่มหลับตาลงจนหนังตาปิดสนิท เส้นผมของเธอปลิวร่วงลงมาตามแรงโน้มถ่วง

    เวรกรรม ขาอ่อนฉันก็มีจ๋า ผมก้มลงไปมองจ๋าที่ยังคงนอนอยู่ ทางขวาก็ดันมีฟ้านอนบนหัวไหล่ ผมหันไปมองฟ้าต่อ นี่คนนะเว้ย ไม่ใช่เตียงนอน จะได้มานอนทุกจุดของร่างกายได้

    "อ้าว มิ้น เป็นเตียงนอนแล้วเหรอครับ" หัวหน้าห้องที่ขับรถอยู่ข้างหน้ารถล้อเลียนผมเมื่อเขาเห็นผมกำลังโดนสองสาวนอนซบบนขาและหัวไหล่อยู่

    "เหอๆ นายไม่ได้มาโดนซบแบบนี้นี่หว่า อยู่แบบนี้มันเหมื่อยนะ" ผมบอกหัวหน้า

    "โถ่ มิ้นครับ ผมขับรถทั้งวันนะ ไม่คิดว่าผมไม่เหมื่อยบ้างเหรอครับ" หัวหน้าบอกผม

    เออ จริงวุ้ย หัวหน้าห้องขับรถมาโดยตรงนี่หว่า ก็ต้องเหมื่อยกว่าเราสิ ผมคิดในใจณะที่มองสองสาว

    วิวทิวทัศน์ข้างนอกหน้าต่างรถเริ่มไม่มีต้นไม้แล้ว แต่ฝั่งขวานั้นเป็นภูเขาแทน แล้วฝั่งซ้ายมือก็เป็นหน้าผาไล่ลงไปสูงนับหลายเมตร ทำให้เห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขาแถบนี้ได้อย่างชัดเจน

    "นี่ พวกเธอ จะลุกออกไปได้ยังเนี่ย" ผมเริ่มกระดกตามตัวเพื่อให้สองสาวนี้เลิกเอาตัวผมมาเป็นที่นอนสักที

    "อืม..... " จ๋าเริ่มครางออกมาอีกครั้ง

    "ตกลงได้ใช่ไหมจ๋า" ผมถามเธออย่างโล่งอก

    "แป้งอยู่ที่ไหน" เธอพึมพำออกมา มือของเธอที่จับบริเวณต้นขาอ่อนของผมก็เริ่มเลื่อนมาใกล้เอวผมมากขึ้น จนกระทั่งเริ่มมาจับบริเวณหน้าท้องของผมจนผมสะดุ้งเฮือก

    "จะ จ๋า" ผมพยายามบอกเธอ "อย่ามาจับตรงนั้นซี่ มันจั๊กจี๋จริงๆนะ"

    "อืม...อืม..... " เสียงของฟ้าที่ยังคงนอนซบอยู่บนหัวไหล่ของผมทางขวาก็ดังขึ้นมาอีก "ซาลาเปาอยู่ไหน หิว...."

    มือของฟ้าที่ตอนแรกๆห้อยลงกลับยกขึ้นมาราวกับมีใครเอาเชือกที่มองไม่เห็นผูกเอาไว้และยกมันขึ้น ทำให้มือของเด็กสาวเคลื่อนที่ราวกับเป็นตุ๊กตาหุ่นไม้ มือของเธอมาจับที่ต้นแขนของผมไปมา ผมเริ่มมองเธออย่างสยดสยอง แต่คิดว่าคงไม่ร้ายแรงเท่าจ๋า ผมยื่นมือไปพยายามขัดขวางดันมือของจ๋าที่ยังคงจับที่หน้าท้องผม แถมเริ่มเลื่อนลงมาเรื่อยๆด้วยสิ

    แต่ทว่า มือของฟ้ากลับมาโดนตรงใต้คอของผมโดยที่ผมไม่รู้ตัว ผมสะดุ้งเฮือกอีกครั้งและรีบมองดูฟ้าทันที แถมมือของเธอก็เลื่อนลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว

    "อืม ซาลาเปาอยู่นี่เอง" ฟ้าพึมพำอีกที มือของเธอขยับสิ่งนั้นไปมา

    "ฟ้าาา มันไม่ใช่ซาลาเปา" ผมรีบโวยออกมาด้วยความตกใจปนอาย มือของผมรีบเปลี่ยนเป้าหมายเพื่อที่จะไปจับเอามือของฟ้าออก

    "อืม แป้งอยู่ไหน" เสียงของจ๋าพึมพำออกมาอีกครั้ง มือของเธอก็เริ่มเลื่อนลงมาจากหน้าท้องผมเรื่อยๆอีกครั้ง

    "จ๋า ไม่ต้องไปยุ่งตรงน้านนนนนน" ผมเริ่มโวยดังลั่นออกมาจนหัวหน้าห้องที่ยังคงขับรถอยู่มองผ่านกระจกหลังด้วยความสนใจ

    "โอ้วว มิ้น ทำอะไรกัน" หัวหน้าห้องมองผมกับสองสาวผ่านกระจกส่องหลังรถจนผมเห็นตาของหัวหน้าโตออกมาด้วยความตกใจ ทำไมผมรู้สึกว่าจมูกของหัวหน้ามีเลือดไหลมาด้วยวะ

    "ฉันไม่ได้ทำ แต่พวกเธอนี่สิทำ" ผมรีบแก้ตัว มือทั้ง 2 ข้างของผมจับมือของสองสาวได้สำเร็จ "นอนละเมอยังไงก็ไม่รู้เนี่ย"

    "งืมๆ ซาลาเปาไปหนาย" เสียงของฟ้ายังพึมพำออกมาต่อ เหอๆ ยังไม่เลิกอีกนะ

    "8 วินาที" เสียงของปลาเอ่ยขึ้นมาทำลายเสียงของผม ผมกับหัวหน้ามองดูปลาอย่างแปลกใจ เขายังคงนอนเอามือหนุนหัวกับที่นั่งข้างหน้าอยู่

    "อะไร พลอย" หัวหน้าห้องถามเขาอย่างสงสัย

    "อีก 8 วินาที ถ้าไม่รีบเลี้ยวรถ รถจะตกหน้าผา" ปลาตอบหน้าตาเฉย " เอาจริงๆนี่เหลืออีก 4 วินาทีแล้วนะ"

    !!

    "ว่าไงน้าาาา" ผมตะโกนลั่นออกมาอย่างตกใจ

    หัวหน้าห้องรีบมองไปยังข้างหน้า และก็พบว่าทางข้างหน้านั้นกำลังเข้าสู่เขตโค้งอันตราย ถนนเริ่มเอียงเลี้ยวไปทางขวา และทางเบื้องหน้าก็คือหน้าผาที่ที่กั้นหักลงไปบ้างและยังไม่ได้ซ่อมแซม มองไปตรงๆนี่ไม่เห็นอะไรเลยนอกจากก้อนเมฆที่ลอยอยู่เท่านั้น

    "หัวหน้า เลี้ยว เลี้ยววววว !"

    หัวหน้าห้องเขาเริ่มแตกเบรกเพื่อผ่อนความเร็วรถ มือของเขาทั้ง 2 ข้างเริ่มหมุนพวงมาลัยไปทางขวาเพื่อหักเลี้ยวรถ สักพักเขาก็เอามือข้างซ้ายสับเปลี่ยนเกียร์สำหรับขึ้นเขาเพื่อให้ตัวรถลดความชันในการลงภูเขา เพราะว่าทางถนนที่เลี้ยวไปทางขวานั้นเป็นทางลาดชันลงไป ตัวรถเอียงเล็กน้อยเมื่อหัวหน้าห้องหมุนรถเลี้ยวไปทางขวากระทันหัน ล้อข้างซ้ายของตัวรถหลุดออกนอกถนนเล็กน้อยไปล้อหนึ่ง เศษดินที่อยู่บนถนนกระเด้งกลิ้งลงไปเบื้องล่างจนผมได้ยินเสียงมันชัดเจน ราวกับว่าถนนที่รถกำลังอยู่นั้นเริ่มทรุดตัวลง ผมเริ่มมองไปทางซ้ายที่เป็นหน้าผาอย่างหวาดผวา หัวหน้าห้องพยายามหักเลี้ยวรถเต็มที่ แล้วจากนั้นเขาก็เหยียบเร่งความเร็วเพื่อให้รถไม่ร่วงลงไปและกลับเข้ามาอยู่ในเส้นทางเดิม แรงเสียดทานทำให้ผมกับสองสาวนั้นกระเด็นไปทางซ้ายตามแรงของตัวรถเมื่อมันหักเลี้ยว มือทั้งสองข้างของผมที่เมื่อกี้เอามาจับมือของสองสาวไว้ไม่ได้ทรงตัว ทำให้ผมกับสองสาวต้องล้มกลิ้งไปอีงด้านซ้ายของรถอย่างช่วยไม่ได้ ผมร้องเสียงหลงออกมาเล็กน้อยเมื่อโดนแรงเสียดแทนดึงตัวเองไปอีกฝั่งของรถ เสียงข้าวของหลังรถและเสียงกระเป๋าดินทางชนกระทบกันเอง หัวหน้าห้องที่นั่งที่คนขับรถนั้นใส่ที่คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่แล้ว เขาเลยไม่กลิ้งหลุดออกมา ส่วนปลานั้นยังคงนอนเอกเขนกอย่างสบายอารมณ์อยู่ที่เดิม และดูเหมือนกับว่าแรงที่ว่าไม่ส่งผลกระทบอะไรกับเขาเลย

    และในที่สุด หัวหน้าห้องก็สามารถขับรถผ่านโค้งมรณะนั้นออกมาได้ ล้อรถที่หลุดออกนอกถนนจนลอยกลางอากาศก็กลับมาวิ่งอยู่บนถนนลาดยางเหมือนเดิม เสียงดินที่กลิ้งตกลงไปยังพื้นเบื้องล่างนั้นก็เริ่มเบาลงแล้ว ที่เหลืออยู่ก็แค่เสียงเครื่องยนต์ เสียงแอร์ในรถ และเสียงหอบหายใจของผมกับหัวหน้าห้องที่เพิ่งรอดตายจากรถเกือบหลุดออกหน้าผาเมื่อกี้เท่านั้น

    "เป็นไงบ้าง" ปลาถามด้วยความอยากรู้อย่างสบายอารมณ์ มีแต่เขาคนเดียวที่ยังคงนอนได้ที่เดิมและไม่มีท่าทีตกใจจากเหตุเมื่อกี้เลยสักนิด

    "เกือบตายเดะ" ผมกับหัวหน้าห้อง (ที่มองไปข้างหน้าอย่างเดียวแล้ว) โต้ใส่ปลาพร้อมกัน และเมื่อผมรู้สึกตัวได้ ผมหันไปมองดูข้างหน้า

    เมื่อกี้ผมกลิ้งมาตามแรงของรถพร้อมกับสองสาว และในสภาพตอนนี้ก็คือ สางสาวที่ว่ากำลังนอนติดกันอยู่บนเบาะ หัวของเธอทั้งสองคนหล่นลงไปนอนบนเบาพอดี หัวของเธอทั้งคู่เกือบชนกับประตูรถ ทำให้เธอทั้งคู่โชคดีที่ไม่ต้องหัวโขกกับตัวรถ แต่ผมในตอนนี้นี่สิ กำลังนอนควํ่าขึ้นคร่อมสองสาวอยู่ เท้าของผมเหยียบยันกับพื้นรถและอีกข้างนั้นหัวเข่าก็ยันอยู่กับเบาะและอยู่ระหว่างเขาของจ๋าพอดี มือข้างหนึ่งของผมวางท้าวอยู่เหนือหัวไหล่ของระหว่างสองสาวตรงหัวของเธอทั้งสองคนพอดี ส่วนมืออีกข้างก็ขับที่เบาะที่นั่งข้างหน้าเพื่อพยุงตัวเองเอาไว้และหน้าของผมก็อยู่ในระดับใบหน้าของพวกเธอแล้วด้วย

    "ให้ตายสิ" ผมพึมพำออกมา แล้วก็เริ่มเหยียดแขนตัวเองดันให้ตัวเองลุกออกมา ผมกะว่าจะย้ายไปนั่งที่นั่งข้างหน้าข้างๆหัวหน้าห้องที่ยังว่างอยู่

    แต่ทันใดนั้น มือของจ๋าข้างหนึ่งก็คว้าขึ้นมาจับที่ต้นคอหลังของผมจนผมต้องรีบมองดูเธอด้วยความตกใจ

    "มิ้น...." เธอครางออกมาจนเหมือนกับเสียงของเธออยู่ในลำคอ

    หลับจริงเปล่าวะเนี่ย ผมเริ่มมองเธออย่างสงสัย นัยน์ตาของผมเพ่งมองดูตาของเธอ  แต่เปลือกตาของเด็กสาวก็ยังปิดสนิท แถมยังมีเสียงกรนออกมาอีกต่างหาก ให้ตายเดะ ผู้หญิงอะไรเนี่ย ขี้เซาซะมัด ผมกำลังจะใช้มืออีกข้างจับมือของจ๋าออก แต่ก็ดันมีมืออีกข้างมาคว้าที่ต้นคอของผมอีกข้างเช่นกัน และเมื่อผมหันไปมอง มือข้างนั้นก็เป็นของฟ้า

    "เฮ้ย ฟ้า" ผมพูดออกมาอย่างตกตะลึง เพราะว่าฟ้าเองก็ยังหลับสนิทเหมือนกับฟ้า แถมยังมาจับล็อคคอผมด้วยอีกคนเนี่ยนะ

    "เป๊ะโกะ เป๊ะโกะจ๋า" ฟ้าพึมพำออกมาด้วยนํ้าเสียงที่มีความสุข แล้วตัวเป๊ะโก๊ะอะไรนั่นมันตัวอะไรวะ

    "มิ้นจัง... " เสียงของจ๋าครางออกมา

    "เป๊ะโกะ" เสียงของฟ้าก็พึมพำออกมาเช่นกัน จนผมเริ่มทำตัวไม่ถูก อ๊ากกก ตรูจะออกเฟร้ย มาล็อคทำไม

    และทั้งสองสาวก็ดันจับกดหัวของผมให้ซบลงไปนอนทับตัวของเธอทั้งสองคนโดยที่ผมตั้งตัวไม่ติดและแปลกใจมากทั้งๆที่ยังนอนอยู่แท้ๆแต่กลับมีแรงฉุดให้ผมลงไปนอนทับตัวเธอได้ และเมื่อตัวของผมลงไปนอนทับของสองสาวแล้ว ยังไม่ทันไรมือของสองสาวคนละข้างก็เอื้อมมือมาล็อคตัวผมอีกชั้นราวกับว่าเธอทั้งสองคนไม่ต้องการให้ผมดิ้นหลุดได้เลย หน้าของผมทิ่มลงไปตรงเบาะพอมา ผมพยายามยกตัวขึ้นมา แต่ก็ทำไม่ได้ !

    "มิ้นจัง... " เสียงของจ๋าครางออกมา

    "เป๊ะโกะ" เสียงของฟ้าก็พึมพำออกมาอีกครั้งเช่นกัน

    และแล้ว ทั้งสองสาวก็เริ่มกอดผมแน่นขึ้น ไอ้กอดมันดันพอว่า แต่หน้าอกผมดันไปโดนตรงระหว่างตัวของพวกเธอเลยนะ

    "อ๊ากกกก ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ" ผมเริ่มโวยออกมา ทั้งไม่พอใจ ทั้งหงุดหงิด ทั้งเขิน ทั้งอาย ทั้งชอบ หรือไม่ชอบดีหว่า อ๊ากกกกก ปล่อยเดี๋ยวนี้ ตรูจะไปนั่งหน้ารถ

    "หือ มิ้นทำอะไรอยู่อะ" หัวหน้าห้องเริ่มมองดูผมผ่านกระจกหลังบ้าง แต่เนื่องจากผมโดนสองสาวจับลากไปนอนกอดอยู่บนเบาะ ทำให้เขามองไม่เห็นอะไรนอกจากเบาะหลังที่เต็มไปด้วยกระเป๋าเดินทาง

    "เงียบๆแล้วก็ขับรถไปเลยไป๊ไอ้หัวหน้า" ผมเริ่มโวยใส่เขา ซึ่งเขาก็รีบหันไปข้างหน้าทันที ตอนนี้เส้นทางเริ่มไล่ลงมาจากภูเขาแล้ว

    มิน่า ทำไมเทรนถึงอยากไปอยู่รถอีกคัน หัวหน้าห้องคิดในใจ สงสัยเทรนคงโดนจ๋ากับฟ้าละเมอกอดล็อคตัวเอาไว้เหมือนตอนขามาหละสิเนี่ย

    "อ๊ากกกก ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้จะเฟร้ย จะนอนกอดฉันไปถึงไหน ฉันไม่ใช่ตุ๊กตานะ อ๊ากกกก"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×