ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Help i am a Girl ! Special !! : ตอนพิเศษ

    ลำดับตอนที่ #20 : ตอนพิเศษ - เที่ยวตะลุยเหนือ อีสาน ตอนสิบเอ็ด : วันที่ 4

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 52


    ผมนอนขดตัวอยู่บนเตียงและซุกตัวกับผ้านวมเพราะอากาศหนาว เมื่อคืนหลังจากที่นั่งผิงไฟกันก็ไม่มีใครตั้งใจจะอาบนํ้าเลย เพราะว่าชายรายงานว่าเครื่องทำนํ้าอุ่นไม่ทำงาน นํ้าเลยเย็นราวกับนํ้าป่า แบบนี้ไข้ขึ้นแหงเลยไม่มีใครอาบนํ้าสักคน ผิดกับฝนที่พยายามที่จะไปอาบนํ้าให้ได้ เหอ ๆ รักสวยรักงามจริง ๆ ผู้หญิงเนี่ย ดังนั้น เมื่อคืนฝนเลยตัวสั่นกลับมาและนอนอยู่อย่างเดียว ขนาดผมเผลอเอาเท้าหรือมือไปโดนตัวเธอ ตัวของฝนนี้เย็นเฉียบเลย ผมสงสารเลยเอาผ้านวมอีกผืนที่ผมเอามาห่ม 2 ชั้นกับตัวเองแอบห่มให้ฝน ทำให้ฝนได้นอนผ้าห่มถึง 3 ชั้น ในขณะที่ผมมีผ้าห่มแค่ผืนเดียว

    ถึงแสงแดดจะยังไม่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา แต่ผมก็ยังขดตัวอยู่กับผ้าห่มผืนเดียว เพราะว่ามันหนาวมาก หนาวเสียจนผมไม่อยากลุกขึ้นออกจากผ้าห่มเลย ขนาดผมใช้เสื้อกันหนาวทับไปแล้วก็ตาม แต่ โฮ้ยยย หนาววุ้ย

    ผมนอนและพยายามเอามือจับกับผ้าห่มและขดร่างกายตัวเองให้อยู่ใต้ผ้าห่มให้ได้มากที่สุด แต่ทันใดนั้นก็มีใครก็ไม่รู้เอาผ้าห่มมาห่มตัวผมอีกชั้น ทำให้ผมรู้สึกตัวอุ่นขึ้นตั้งเยอะ แล้วบนเตียงที่ผมนอนอยู่นั้นข้าง ๆ ที่ว่างอยู่ก็มีอะไรบางอย่างที่หนัก ๆ เหมือนคนมานอนข้าง ๆ จนที่นอนจมบุ๋มลงไปเล็กน้อย

    ใครกันนะ ฝนรึเปล่า ผมคิดในใจอย่างนั้นเพราะว่าในห้องนี้ก็มีฝนกับซาระเท่านั้นที่มานอนด้วยกันกับผม ผมขี้เกียจลืมตาขึ้นตอนนี้ ใจจริงไม่อยากให้ลืมตาและมาเจอฝนแล้วสะดุ้งเหมือนเมื่อคืนอีกแล้ว ผมเลยกะว่าจะแกล้งนอนไปก่อนแล้วพอฝนลุกออกจากเตียงผมไปแล้วก็ค่อยลุกขึ้น

    ผมเลยแกล้งนอนต่อสักพัก แต่ก็อุ่นดีแฮะ

    ร่างนั้นยังคงนอนอยู่ข้าง ๆ ผม จากนั้นก็ลุกขึ้นออกจากเตียงที่ผมนอนไป ทำให้เตียงนอนนั้นกลับคืนสู่สภาพเดิม ผมเลยแน่ใจว่าฝนคงไม่ได้มานอนข้าง ๆ ผมแล้ว ผมเลยรอสักพักเพื่อกะเวลาให้ฝนเดินออกไปนอกห้องแล้วค่อนตื่น และเมื่อผมนับในใจถึง 40 แล้ว ผมก็ลืมตาขึ้นทันที

                    ผมมองเห็นดวงตาคู่หนึ่งที่กำลังมองผมอยู่อย่างสนอกสนใจ ผมลืมตาครึ่งนึงมองตาคู่นั้นอย่างเบลอ ๆ และยังไม่มั่นใจว่าคนที่มองผมอยู่นั้นเป็นใคร ที่รู้ ๆ ไม่ใช่ฝน

    " อรุณสวัสดิครับ " เสียงของเด็กหนุ่มดังออกมา ผมลืมตาขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองดูให้ชัดว่าใครพูด ผมเห็นต้ากำลังนั่งขัดสมาธและมองดูผมอย่างสนอกสนใจ ใบหน้าของเขานั้นอยู่ใกล้หน้าของผมมาก

    อ๋อ ต้านั่นเอง ผมพึมพำในใจแล้วก็หลับตาต่อ โชคดีที่ไม่ใช่ฝน

    ต้าเหรอ

    ! !

    เฮ้ยยยยยย ต้าาาาา !

    ผมลืมตาขึ้นทันทีด้วยความตกใจจากนั้นก็รวบรวมพละกำลังตนเองที่มีอยู่ตะบั้นไปที่หน้าของต้าที่นั่งมองผมอยู่ทันที

    ผลั๊ก !

    ต้าโดนเท้าผมกระแทกหน้าเข้าไปเต็ม ๆ จนร่างของเขาหงายหลังและหัวไปกระแทกกับขอบเตียงอีกเตียงที่ฝนนอน ซึ่งโชคดีอย่างที่ตรงขอบไม้นั้นมีผ้านวมทำให้หัวของเขาไม่ฟาดกระแทกโดนขอบไม้โดยตรง ผมรีบเอาตัวเองไปอยู่บนเตียงและรีบเขยิบตัวเองให้ห่างจากขอบเตียงและตัวของต้าให้ได้มากที่สุด มือทั้ง 2 ข้างของผมหยิบผ้าห่มมาปกปิดอวัยวะของรักของหวงอย่างรวดเร็วโดยสัญชาติญาณ และรีบมองดูต้าด้วยความตกใจ ในขณะที่ต้าเอามือลูบหัวตัวเองและมองผมโดยที่ใบหน้ายิ้มแป้น

    " หวัดดีคร้าบ มิ้นจัง " ต้ายิ้มหน้าตากวนมาก ในขณะที่ผมนั้นตรงกันข้าม

    " กะ กะ แก " ผมรีบถามมันจนตกใจกลัวมาก อุณหภูมิที่ใบหน้าของผมร้อนขึ้นวูบวาบ ๆ " เข้ามาในห้องนี้ทำไม "

    " ทำไมหละคร้าบ " ต้ามองผมโดยที่ตาไม่กระพริบ " ผมไม่ได้ทำอะไรมิ้นจังซะหน่อย "

    ต้าทำท่าจะเดินเข้ามาหาผม ผมพยายามกระเสือกกระสนเอาร่างกายตนเองให้หนีห่างจากไอ้บ้ากามนี่ให้ได้มากที่สุด ผมเตรียมตัวเรียกพลังไว้ที่เท้าเพื่อเตรียมเตะมันอีกรอบเผื่อมันจะบุกเข้ามาทำอะไรผมจริง ๆ ส่วนไอ้ต้านั้นก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไร ยังจ้องมองดูหน้าผมอยู่นั่นโดยที่ตาไม่กระพริบเลย

    ไม่ต้องเลื่อนตามองดูข้างล่างนะเฟร้ย เสียว

    " แล้วใครใช้ให้แกเข้ามา " ผมโวยลั่นด่าใส่มัน " ไม่มีมรรยาทเลยนะ เข้ามาในห้องผู้หญิงได้ยังไง "

    " ผมขออนุญาติแล้วนะ " ต้าบอกผมหน้าตาเฉย

    " ขอใคร "

    " หัวใจของผมคร้าบ " ต้าทำหน้าตาเคลิ้มไปยิ้มหวานไป

    " คือ เค้าเองแหละมิ้น " เสียงของฝนดังขึ้นมาจากฝั่งซ้ายมือของผม " ที่ให้ต้าเข้ามาอ่า "

    ผมหันไปมองทางซ้าย ก็พบฝนกับซาระกำลังยืนดูผมกับต้าอยู่ พวกเธอยังอยู่ในชุดเสื้อนอนแขนยาวขายาวและสวมเสื้อกันหนาวทับอยู่ ซาระกำลังมองดูผมอย่างสนอกสนใจ ส่วนฝนนั้นยกมือขึ้นเล็กน้อยและยิ้มออกมา

    " คือ พวกเค้าตื่นนานแล้ว แล้วเค้ากำลังจะปลุกมิ้นอ่า " ฝนบอก " แล้วบังเอิญว่าต้ามาเคาะประตูเพื่อมาปลุกพอดี เค้าเลยอยากให้ต้ามาปลุกมิ้นนะสิ "

    " โดยการให้มันมานั่งอยู่หน้าฉันจนเกือบจะจูบกับฉันเนี่ยนะ " ผมประชดตอบฝน ต้าทำหน้าตาราวกับว่าหน้าของมันแตกหัก

    " ผมยังไม่ได้จูบมิ้นเลยน้า " ต้ารีบแก้ตัว

    " ต้าไม่ทำหรอก " ซาระบอก " เพราะพวกเราก็ยืนดูตลอด ถ้าต้าทำอะไรมิ้นจังละก็ ซาระก็ไม่ยอมหรอกนะ "

    " และอีกอย่างนะ " ฝนยิ้มจนทำให้ผมนึกว่าปากของเธอเป็นแมว " ต้าคงไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอก เพราะต้านะรักมิ้นจะตาย "

    หน้าของผมร้อนวูบวาบออกมาอย่างไม่ชอบใจ ผมรีบส่ายหน้าเพื่อคลายอารมณ์นั้น ถึงผมจะไม่คิดอะไรกับไอ้ต้าก็ตาม แต่ร่างกายมันชอบขัดคำสั่งจิตใจอยู่เรื่องเลยวุ้ย

    ผมเลิกผ้าห่มออกแล้วก็ลุกขึ้นออกจากเตียง โดยที่ฝนกับซาระพอรู้ดีว่าผมจะรีบเดินออกไปข้างนอก แต่ต้านั้นมองดูผมอย่างไม่เข้าใจ

    " มิ้น จะไปไหนเหรอ " ต้าพยายามเดินมาหาผมแต่ผมรีบยื่นมือจับลูกบิดประตูที่เย็นเฉียบเดินออกไปก่อน

    อากาศของในห้องพักนั้นเย็นกว่าในห้องนอน พื้นห้องและตามผนังบ้านพักนั้นเย็นเฉียบ ผมเดินไปทางซ้ายที่เชื่อมโยงไปยังระเบียงหลังบ้านพัก โดยที่มีคนอื่น ๆ ยืนดูวิวนอกระเบียงอยู่

    " อ้าว ตื่นแล้วเหรอ มิ้น " แมวทักทายผม " ไม่สดชื่นเลยเหรอ ทำหน้าไม่เสบยเลย "

    " มันไม่สดชื่นเพราะใครบางคน " ผมจงใจพูดนํ้าเสียงเสียดแทงเพื่อให้ต้าที่เดินตามหลังผมมาได้ยิน ปรากฎว่ามันอ้าปากค้างซะจนเห็นลิ้นไก่

    " เอาหน่า " ชายเดินมามาหาผม " มาดูวิวแก้เครียดแล้วกัน วิวสวยน้า "

    ผมเดินออกไปดูริมระเบียงตามที่ชายบอก วิวมันสวยจริง ๆ ตามที่ชายบอกจริง ๆ เมฆลอยตํ่าลงมาปกคลุมท้องฟ้าเบื้องล่าง ก่อเป็นทะเลหมอกสวยสดงดงาม พระอาทิตย์แม้นยังไม่ขึ้นแต่ก็ทอแสงออกมาแล้ว เมฆหมอกลอยออกมาราวกับเป็นคลื่นทะเลที่กระทบฝั่ง ผมจินตนาการถึงที่ตนเองกระโดดลงไปในทะเลหมอกนั้น แต่พอรู้ความจริงว่าข้างล่างนั้นมีแต่อากาศและความตาย ความคิดนั้นก็ไม่น่าขำเอาเสียเลย




    อากาศยังหนาวจับใจ หนาวเสียจนผมตัวสั่นออกมาเพราะหัวของผมนั้นก็ไม่ได้ใส่หมวกไหมพรมเหมือนเมื่อคืน ผมจึงใส่แค่เสื้อกันหนาวตัวเดียวเท่านั้น ผมพยายามฝืนและต่อสู้กับความหนาวนี้และมองดูวิวสวย ๆ งาม ๆ ต่อไป เพราะกลัวเสียฟอร์ม ผมได้ยินเสียงฝนแอบกระซิบอะไรกับใครก็ไม่รู้ แล้วก็มีเสียงเท้าเดินเข้าไปในบ้านพัก แต่ผมไม่สนใจหรอก วิวข้างนอกนั้นสวยกว่าเยอะ

    " อ้อ ซาระ " ผมหันไปถามซาระที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ผม " โปรแกรมวันนี้เราจะไปไหนกันต่อนะ "

    " อ๋อ วันนี้เราจะแวะไปดูเสาดินนะ " ซาระตอบ

    " เสาดิน ? " ตอนนี้ในหัวผมนึกถึงเสาไฟฟ้าที่ทำจากดิน

    " มันจะคล้าย ๆ แพะเมืองผีนะ " ชายอธิบาย ซึ่งตอนนั้นหัวหน้ากำลังจะซิงอธิบาย แต่ไม่ทันชาย " มันเกิดจากลมที่กัดกร่อนตามภูเขาจนออกมาเป็นรูปร่างต่าง ๆ นะ "

    " อ๋อ " ผมนึกถึงปะติมากรรมประหลาดที่ตั้งอยู่ในสุสานจีน แต่ก็ไม่รู้แฮะ ไม่เคยไป เดี๋ยวลองไปดูดีกว่า แต่ว่า ลมมันเย็นจังเลยวุ้ย ผมตัวสั่นอีกรอบเมื่อมีลมพัดเข้ามาอีกครั้ง

    ตอนนั้นเอง มีคนเอาอะไรมาสวมบนหัวของผม หมวกไหมพรมของผมนั้นมีคนสวมให้ เมื่อผมหันหัวไปมอง ก็พบว่าต้าเอาหมวกไหมพรมมาสวมให้ผมเหมือนเมื่อคืนตอนที่ผิงไฟอยู่หน้าบ้านพัก ต้าส่งยิ้มให้ผม และไม่รู้ทำไมผมคิดแบบนี้ ผมคิดว่าวันนี้ต้ามันดูเท่มาก

    " เมื่อกี้ขอโทษนะมิ้น " ต้ายิ้มบอกผม " ผมคงทำให้มิ้นตกใจมากละสิเลยลืมใส่หมวกมาด้วย "

    ต้าสวมใส่หมวกให้จนเสร็จแล้วก็ถอยหลังออกมาเพื่อให้ผมเอาจัดหมวกให้เข้ากับหัวตัวเอง มือของผมยกขึ้นไปจับหมวกไหมพรมโดยที่ไม่ได้คิดว่าจะทำแบบนั้นเลย ผมมองต้าจนอึ้ง เพราะไม่นึกว่ามันจะทำอะไรแบบนี้มาก่อน

    " วิ้วววว " หัวหน้าห้องผิวปากออกมา " ไอ้ต้าเอ้ยยย จะเอาอกเอาใจเมียแกไปถึงไหน ลืมเพื่อนฝูงซะแล้วเรอะ "

    หา ว่าไงนะ

    " แหม๋ อิจฉาจังเลย " ฝนยิ้มจนแก้มแทบปริ " อยากให้มีใครสักคนมาทำแบบนี้ให้เค้าบ้างจังเลย "

    ว่าไงน้าาา !!

    ผมหันควับไปหาต้าทันทีซึ่งเขาก็ยังมองหน้าผมอยู่ ผมเริ่มหน้าร้อนออกมาโดยไม่รู้ตัว เวรกรรมหละ เอาไงดี เอาไงดี อ๊ากกก แล้วใจมันจะเต้นไปถึงไหนฟระ !

    " เอาเป็นว่า " ชายพูดเสียงดังออกมาทำลายความเงียบ " เรารีบเก็บของกันเถอะ เดี๋ยวเราต้องลงไปที่ตัวเมืองเพื่อหาข้าวเช้ากินกันนะ "

    " อืม นั่นสิเนอะ " หัวหน้าห้องพูดอย่างเห็นด้วย " แต่อาหารตานี่ไม่ต้องนะ เห็นจนอิ่มละ ฮ่าฮ่าฮ่า "

    " นี่ หัวหน้าห้องพูดไรก็ไม่รู้ " ซาระหัวเราะคิกคัก " ดูสิ มิ้นจังน่าแดงใหญ่เลย "

    วะ ว่าไงนะ นี่หน้าเราแดงเรอะ ผมรีบมองไปทางชาย เขาก็พยักหน้า

    ผมรีบก้าวขาตัวเองเข้าไปในห้องนอนตนเองแล้วก็ขังตัวเองไว้ในนั้นเพื่อสงบสติอารมณ์ ฝนรีบวิ่งไปที่หน้าห้องแล้วเอาหูแนบกับประตู

    " ว้าย ๆ ๆ " ฝนรีบกลับมารายงาน " มิ้นนิ่งเงียบเลยอ่า สงสัยเขินต้าแหง ๆ เลย "

    ต้าเอามือเกาตัวแก้เขิน แล้วจากนั้นเขาก็โดนแมน แมว และหัวหน้าห้องล้อเลียนไปด้วย ส่วนชายนั้นเริ่มมองดูผมอย่างวิตกกังวล

    นายต้องฝืนอาการนั้นให้ได้นะนพ ชายคิดในใจ ผมไม่อยากให้เพื่อนผมเป็นเกย์นะ

    ระหว่างนั้น ปอกับปลาเก็บของเสร็จแล้ว และยกกระเป๋ามานั่งรอพวกเราที่ขอนไม้ก่อกองไฟเมื่อคืน ซึ่งตอนนี้เหลือแต่เศษซากไม้ที่ยังไหม้ไม่หมดและขี้เถ้าอยู่ ปอเอากิ่งไม้เขี่ยเศษกองไฟที่ยังไม่มอดสนิทอยู่เพื่อหวังให้มันลุกขึ้นมาอีกครั้ง แต่ทั้งขอนไม้และกิ่งไม้มันชื้นหมดแล้ว เลยยากที่มันจะติดไฟขึ้นมาอีก

    " ข้างในเอะอะอะไรกันนะ " ปลายืนกอดอกและมองดูข้างในบ้านพักที่เริ่มจับกลุ่มล้อเลียนต้า " ไหนชายบอกว่าให้เก็บของแล้วออกมารอไง สงสัยนานแน่งานนี้ "

    " ไม่เห็นเป็นอะไรเลย " ปอพูดไปแล้วก็ยังเอากิ่งไม้เขี่ย ๆ กองขี้เถ้าอยู่ " ไหน ๆ เราก็กลับมาสูดอากาศบริสุทธิ์เหมือนบ้านเกิดแล้วนี่นา "

    " นั่นสินะ " ปลายักไหล่แล้วก็มานั่งข้าง ๆ ปอ " รอไปเรื่อย ๆ ก็ไม่เสียหาย "

    ทั้งคู่นั่งรับลมเย็น ๆ เพื่อรอพวกเราจัดของกันอย่างใจเย็น ยกเว้นเทรนที่แอบมองดูปอผ่านหน้าต่างบ้านพักอย่างใจลอย

     

    --------

     

    หลังจากที่ผมปรับอารมณ์ในห้องตัวเองได้ ( ชายแอบโทรมาให้คำแนะนำผมผ่านมือถือว่าให้ผมขึ้นรถอีกคันเพื่อหลบเลี่ยงหน้าต้าชั่วคราว ซึ่งผมตกลงเห็นด้วย ) ก็ยกกระเป๋าออกมาขึ้นรถ โดยผมไปบอกหัวหน้าห้องว่าจะไปขึ้นรถคันเดียวกับหัวหน้าห้องเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ โดยให้เทรนไปนั่งคันของต้าแทน ซึ่งต้านั้นรีบมาขอโทษผมเป็นการใหญ่

    " แง้ มิ้นคร้าบ ผมขอโทษนะคร้าบ ขึ้นรถคันเดียวกับผมเต๊อะ "

    " ไม่เอา " ผมพยายามยกขาออกมา แต่ดันยกไม่ได้

    " นะคร้าบ ผมขอร้อง " ต้าก็ยังพยายามตื้อผมอยู่นั่น

    " ไม่เอา " ผมบอกมันรอบที่ 2 แล้วก็พยายามยกขาหนีอีกครั้ง แต่ก็ดันยกไม่ได้

    " ผมสัญญานะครับว่าจะซื้อตุ๊กตาหมีบาบู้ด้วย "

    " ตุ๊กตาหมีบ้านนายสิมีแบบบาบู้ด้วย " ผมพยายามยกขาหนีอีกแต่ก็ดันไม่สำเร็จ " แล้วแกจะปล่อยขาฉันได้รึยัง "

    แหงแหละครับ ตอนนี้ต้าทุกเข่าลงกับพื้น ( สนามหญ้า ) แล้วก็เอามือเกาะขาของผมเอาไว้แน่น เล่นเอาผมขยับขาไม่ได้ ดูเหมือนว่าถ้าผมไม่ขึ้นรถ ต้าก็จะไม่ยอมปล่อย

    " ฮิฮิ " ฝนล้อเลียนผมอีก " มิ้นก็ขึ้นนำรถคันเดิมไปเถอะน้า ต้าจะได้ปล่อยขามิ้นสักที "

    " ไม่เอา " ผมตอบปฏิเสธ แต่เท่ากับว่าให้ต้ามันเกาะขาผมแน่นขึ้น ผมแอบเหล่หางตาไปทางชายเพื่อขอความช่วยเหลือ ชายทำนิ้ว 1 นิ้วไปที่รถของหัวหน้าห้อง แล้วก็ชี้ 2 นิ้วไปที่รถของต้า ผมถอนหายใจแล้วก็เริ่มทำตามคำแนะนำของชาย

    " ก็ได้ " ผมก้มลงบอกกับต้า " หลังจากกินข้าวเช้าแล้วฉันจะไปขึ้นรถนาย โอเคไหม "

    " จริงเหรอ " ต้าผงกหัวขึ้นมาถาม พอผมพยักหน้าให้อย่างรำคาญ ต้าก็ยอมปล่อยขาผมแล้วก็รีบวิ่งไปที่รถทันที

    " เย้ ๆ งั้นรีบไปกันเถอะครับ เราจะได้ไปกินข้าวเช้ากัน " ต้ารีบตะโกนบอกคนอื่น ๆ ทำให้คนอื่น ๆ หัวเราะกันคิกคัก ( ยกเว้น ปอ ปลา ชาย และ จ๋า ) ผมยักไหล่และถอนหายใจออกมาอย่างน่าเบื่อหน่าย ทำไมชีวิตตรูต้องเจอแบบนี้ด้วยฟะ

    มิ้นจังจะมานั่งรถคันเดียวกับเรา จ๋านั่งอยู่ในรถที่หัวหน้าห้องขับอยู่ก่อนแล้ว และมองมาดูผมพลางคิดในใจอย่างตื่นเต้น มิ้นจังจะมาได้มานั่งข้าง ๆ เราแล้ว

    ผมเดินขึ้นไปที่รถของหัวหน้าห้อง ยิ่งผมไปใกล้มาแค่ไหน จ๋าก็ยิ่งตื่นเต้นมากเท่านั้น

    มะ มาแล้ว จ๋าหลับตาแน่นและเริ่มเขยิบร่างตัวเองไปข้าง ๆ เพื่อเว้นที่ให้ผมนั่ง มิ้น มิ้นจังจะมานั่งข้าง  ๆ เราแล้ว

    ผมเอามือข้างหนึ่งจับที่ประตูรถตู้แล้วก็เปิดออกให้สุด ตาของผมก็มองดูที่นั่งที่ว่าง

    มาแล้ว จ๋าหลับตาแน่นแต่ก็ลุ้นให้ผมมานั่งข้าง ๆ เธอ

    " อืม จ๋า  " ผมเรียกจ๋าเบา ๆ

    มะ มาแล้ว จ๋าคิดในใจอย่างตื่นเต้น มะ มิ้นจังจะมาขอเรานั่งข้าง ๆ แล้ว

    " จ๋า " ผมเรียกเธออีกครั้งเมื่อเห็นว่าเธอยังไม่ตอบ

    " มะ มีอะไรเหรอ " จ๋าถามด้วยนํ้าเสียงเรียบนิ่งแต่ก็เก็บความตื่นเต้นเอาไว้ ผมมองเห็นตัวของเธอสั่นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก

    " เก้าอี้นี้มันเอาขึ้นยังไงเหรอ " ผมชี้ไปตรงเก้าอี้ที่อยู่ริมประตู " เราจะเข้าไปนั่งข้างในอะ "

    จ๋าอ้าปากค้างเมื่อรู้ว่าผมเล็งจะไปนั่งเบาะหลังที่ไม่มีคนนั่ง แถมไม่ได้ตั้งใจจะมานั่งข้างเธออีกด้วย

    " ยกมันแบบนี้คะ " จ๋าตอบผมเสียงหงอย ๆ แล้วก็กดยกเก้าอี้ขึ้นให้ผมเข้าไปนั่งเบาะหลังได้

    " ขอบใจนะจ๋า " ผมยิ้มให้เธอ " ไม่มีเธอนี่ฉันเข้าไปไม่ได้เลยนะ "

    จากที่จ๋าอ้าปากค้างเมื่อกี้เธอกลับหุบปากแน่นแล้วก็หน้าแดงขึ้นมาเฉียบพลัน เธอพยักหน้าอย่างเอียงอายแล้วก็เอามือทั้ง 2 ข้างของเธอไปกุมมือวางบนตัก และหันหน้ามองไปทางอื่นช้า ๆ

    ผมไม่สนใจอาการของจ๋าเลยแม้แต่น้อย ผมเลยเดินเข้าไปในเบาะหลังแล้วก็นั่งริมสุด โดยที่มีฟ้ามานั่งต่อ

    ขณะนั้นเอง เทรนเดินไปที่รถตู้ที่ขับ เขายืนหันหลังมองดูกองไฟหน้าบ้านพัก ซึ่งปอยังคงพยายามเอากิ่งไม้เขี่ยให้ไฟติดอยู่ ซึ่งปลาก็เดินไปตบไหล่แล้วบอกให้ไปได้แล้ว ปอเลยเดินออกไปแต่โดยดี

    ถ้าฉันได้บอกรักปอ เทรนพึมพำในใจ ก็ขอให้ไฟติดขึ้นมาด้วยเถิด

    แต่หลังจากที่ปลาพาปอขึ้นรถไปแล้ว เทรนก็ยังยืนอยู่อย่างนั้น เขายืนมองดูกองขี้เถ้ากองนั้นและลุ้นว่ามันจะติดไม่ติด แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนอกจากเศษขี้เถ้าที่ปลิวไปตามลม

    " เฮ้ เทรน " แมนตะโกนเรียกเมื่อรถทั้ง 2 คันสตาร์ทเครื่องแล้ว " ไม่ไปเรอะ เดี๋ยวก็ทิ้งหรอก "

    " ไป ๆ " เทรนตอบ แล้วก็เดินขึ้นรถโดยไม่หันกลับมามองดูกองขี้เถ้านั่นเอง เขาเดินขึ้นรถแล้วก็ปิดประตูรถ แล้วก็ถอนหายใจเงียบ ๆ

    งี่เง่าจริง ๆ เรา เทรนคิดในใจ คนที่เป็นศิลปินอย่างเราเนี่ยจะมาเพิ่งเรื่องดวงแบบนี้

    เมื่อรถตู้ทั้ง 2 คันขับออกจากบ้านพักไปแล้ว เกิดลมพัดวูบหนึ่ง ซึ่งทำให้สะเก็ตไฟที่ยังหลงเหลืออยู่ไปติดกับเศษใบไม้ที่จมอยู่ใต้กองขี้เถ้า ทำให้ไฟลุกขึ้นมาเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ และเมื่อไม่มีเชื้อเพลิงให้เผาผลาญต่อ มันก็มอดดับลง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×