คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 : สัญญาหมั้น
ร่างของผมทิ่มลงกระแทกพื้นจนหน้าของผมสีถลอกไปกับพื้นเจ็บ ๆ ปากของผมลิ้มรสฝุ่นและเลือดที่แตกริมฝีปาก โอ้ย เจ็บ
ผมค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนและเอามือปัดฝุ่นที่ตามเข่าและที่หน้าออก แขนของผมติดเลือดที่ปากของผมมาด้วย หญิงสาวปริศนายังยืนอยู่ข้าง ๆ ผม ราวกับว่าเธอมองดูผมมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว ทำไมกัน ?
" มองอะไรของคุณนะครับ " ผมถามเธออย่างอับอายที่ต้องมาหน้ากระแทกพื้นแบบนี้ แต่เธอกลับไม่ตอบ เลยทำให้ผมต้องมองไปรอบ ๆ มองดูสถานที่ที่ผมกับเธอยืนอยู่ด้วยความประหลาดใจอย่างที่ผมไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน
ผมยืนอยู่ใจกลางของเมืองแห่งหนึ่ง ราวกับว่าเมืองทั้งเมืองนี้อยู่ในถํ้าขนาดมหึมาที่สามารถบรรจุเมืองเข้าไปได้ทั้งเมือง บ้านเมืองไม่ได้ทันสมัย มีคบไฟส่องสว่างทั่วเมืองจนสว่างราวกับตอนกลางวันอย่างน่าอัศจรรย์ บ้านแต่ละหลังราวกับทำด้วยอิฐสีครีมและดูคล้าย ๆ บ้านเมืองในยุคหิน แต่เมื่อผมมองดูดี ๆ แล้วมันมีลักษณะคล้ายกับบ้านเมืองปัจจุบันอยู่บ้าง พื้นถนนที่ผมยืนอยู่นั้นปูด้วยกระเบื้องแปลก ๆ มีหลายขนาดและรูปทรงต่างกันออกไป ผมกับเธอยืนอยู่บนถนนที่มีลายรูปขดก้นหอย ชาวเมืองของที่นี่เดินขวักไขว่และผมก็ต้องมองดูพวกเขาอย่างตกตะลึง
พวกเขาไม่ใช่คน !
ไม่เชิงว่าไม่ใช่คนซะทีเดียว แต่มีหูและหางประหลาดโผล่ออกมาจากตัวของพวกเขา แถมส่วนใหญ่ก็มีใบหน้าราวกับสุนัขแทนที่จะเป็นหัวคน พวกเขาใส่เสื้อผ้ากันประหลาดมาก บางคนใส่เสื้อราวกับนินจา บางคนใส่เสื้อราวกับหนังขุนนางยุคโบราณ ผมจ้องมองพวกเขาอย่างน่าอัศจรรย์ พวกเขาเหมือนตัวการ์ตูนที่มีชีวิตเหลือเกิน
ราวกับชาวเมืองครึ่งคนครึ่งหมาพวกนี้เพิ่งจะสังเกตเห็นผม พวกเขาหันมามองดูผมด้วยความอยากรู้อยากเห็น มีหลายคนมองดูผมและกระซิบกระซาบออกมาโดยที่ผมไม่รู้ว่าแววตาสุนัขของพวกเขาเหล่านั้นมองมาทางผมยังไงกันแน่ ตัวประหลาด ? หรือ จะเอาผมไปกิน ! 0_0
" พอใจรึยัง " เสียงของหญิงสาวปริศนาเรียกผมอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ผมสะดุ้งและเมื่อหันไปทางเธอ ผมก็ต้องอ้าปากด้วยความตกตะลึง
เธอเองก็มีหูกับหางสุนัขเหมือนกับชาวเมืองทุกคนในนี้ หูสุนัขของเธองอกออกมาจากบนเส้นผมสีดำของเธอออกมาเป็นสีเหลือง และหางของเธอก็เป็นสีเหลือง หางของเธอส่ายไปส่ายมาจนผมอยากจะเข้าไปจับจัง >_<
" ไปกันได้แล้ว " เธอบอกผมแล้วก็ยื่นมือมาจับกับมือของผม แล้วก็ลากผมเข้าไปในเมืองโดยไม่รอคำตอบผม
" ดะ เดี๋ยวก่อนสิครับ " ผมพยายามพูดกับเธอ มือเรียวบางและนุ่มนิ่มของเธอจับกับมือของผม
ครั้งแรก ผมคิดในใจอย่างตื่นเต้น ครั้งแรก ที่เราได้จับมือกับผู้หญิง
เสียงหัวใจของผมเต้นตึกตักออกมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของผมร้อนผ่าวไปทั่วทุกอณู ราวกับว่ามีใครบางคนกำลังอบหัวของผมรอเวลาสุก
เธอจับมือผมแล้วก็จูงผมเข้าไปในตัวเมือง ชาวเมืองครึ่งคนครึ่งหมาทั้งหลายต่างแหวกทางให้ผมกับเธอเดินผ่านไป แทบทุกคนมองมาทางผมแล้วกระซิบกระซาบ แต่ผมก็ไม่ได้ยินที่พวกเขาพูดเลย
นี่มันอะไรกัน จากอารมณ์เขินอายของผมต้องปรับเปลี่ยนไปเมื่อผมโดนเธอจูงมือเข้าไปในตัวเมืองเรื่อย ๆ ที่นี่มันที่ไหนกันแน่
เธอพาผมเข้าไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงบ้านหลังหนึ่งที่ใหญ่มาก ประตูและกำแพงนี่อลังการราวกับพระราชวังตะวันออก ทำให้ผมนึกถึงปราสาทโซกุนของญี่ปุ่นเลย บนกำแพงก็มีคบเพลิงเป็นระยะ ๆ รวมทั้งทหารที่เป็นครึ่งคนครึ่งมายืนถือหอกประจำอยู่ทุกตำแหน่ง เมื่อทหารยามที่ยืนอยู่ประตูใหญ่พบเห็นผมกับเธอ พวกเขารีบก้มหัวแล้วก็เปิดประตูใหญ่ทันที และเมื่อประตูเปิด ผมก็ต้องอ้าปากอีกรอบ
ข้างในเป็นปราสาทแบบญี่ปุ่นขนานแท้ มีทางเดินที่ปูด้วยกระเบื้องทอดยาวเข้าไปราวกับพรม ทางซ้ายมีบ่อนํ้าและเป็นสวนขนาดย่อม มีคนสวนที่เป็นครึ่งคนครึ่งจิ้งจอกยังทำงานกันอยู่ ทางขวามือเป็นรูปปั้นนํ้าพุที่แกะสลักเป็นรูปสุนัขจิ้งจอกขนาดใหญ่น่าเกรงขาม มีครึ่งคนครึ่งสุนัขที่ในชุดกิโมโน ใบหน้าของพวกเธอนั้นเป็นคนเพศหญิง หน้าตาสะสวยมาก
" คุณหนูกลับมาแล้วเหรอเจ้าคะ " สาวครึ่งหมาคนนั้นบอกกับสาวปริศนาข้าง ๆ ผม " นายใหญ่กำลังรออยู่เลยคะ "
" นะ นายใหญ่เหรอ " ผมถามเธออย่างตกตะลึง
" ใช่ " เธอหันหน้ามาหาผมด้วยใบหน้าเฉยเมย " ข้าเนี่ยแหละ บุตรตรีของตระกูลชนเผ่าจิ้งจอก "
" วะ ว่าไงนะ 0_0 "
" ไปสิ " เธอปล่อยมือจากผมแล้วก็ผลักผมไปข้างหน้า กลุ่มสาวใช้ชุดกิโมโน " จัดการเขาให้สะอาดผุดผ่องทีนะ "
" ได้เจ้าคะ คุณหนู " สาวครึ่งหมารับปากเธอและทั้ง 2 คนก็เดินมาจับตัวผมที่หัวไหล่อย่างแน่นหนา
" นะ นี่ จะทำอะไรผมนะ " ผมหันไปมองดู 2 คนนี้อย่างสงสัย " แล้วที่บอกสะอาดผุดผ่องนี่ ... "
" จับไปชำระร่างกายนะสิ ท่านมนุษย์ " พวกเธอยิ้มให้ผมอย่างเจ้าเล่ห์ " ไปโรงอาบนํ้าซะดี "
" วะ แว๊กกกกกกกก =[]= "
ช่วยด้วยยยย ผมคิดในใจเมื่อโดนหญิงสาวครึ่งหมาทั้ง 2 คนลากผมไปข้างหลังนํ้าพุที่มีทางเข้าปราสาท และมีห้องอาบนํ้าอยู่ ช่วยด้วยยย ผมโดนผู้หญิงฉุด อ๊าากกกกกกกก
------------
20 นาทีต่อผมหลังจากที่ผมโดนเปลื้องผ้าและโดนสาวใช้ครึ่งคนครึ่งจิ้งจอกจับอาบนํ้าซะจนตัวของผมสะอาดเกลี้ยงเกลา แต่ก็เป็นลมและหน้าแดงจนมืดเป็นระยะ ๆ ( ซึ่งพวกเธอก็จับบังคับผมอาบนํ้าด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลจนผมต้องตะลึง ยังดีที่ผมยังใส่กุงเกงลิงอยู่ - - /// ) ตอนนี้ผมถูกจับใส่ชุดยูกาตะ เอาไว้ยืนอยู่หน้าห้องแต่งตัวเพื่อรอ คุณหนู หรือสาวปริศนาครึ่งคนครึ่งจิ้งจอกอยู่
ภายในปราสาทหลังนี้เท่าที่ผมเห็นในห้องอาบนํ้าและห้องอื่น ๆ ที่สาวใช้จับผมแต่งตัวราวกับตุ๊กตานั้น มันเป็นเหมือนสภาพของปราสาทญี่ปุ่นในการ์ตูนไม่มีผิด ผมหละสงสัยแล้วว่าตกลงนี่ผมมาอยู่ที่ไหนกันแน่
ผมมองไปตรงสวนข้าง ๆ ปราสาท มีสระนํ้าขนาดใหญ่และมีใบบัวอยู่เต็มสระ บริเวณปราสาทที่ผมอยู่นั้นส่องสว่างมากราวกับเป็นตอนกลางวัน ส่วนนอกปราสาทก็เป็นตอนกลางคืนที่ส่องสว่างด้วยแสงไฟจากคบเพลิงแทน ทำให้ผมรู้สึกราวกับว่าที่นีมันไม่ได้อยู่ในโลกมนุษย์เลย
" อย่างกับอีกโลก " ผมพึมพำและมองไปรอบ ๆ แล้วทำไมเราถึงสื่อสารกับคนเหล่านี้ได้หละ แล้วทางเข้า
ภาพในหัวของผมนึกถึงตอนที่ผมมาที่นี่ครั้งแรก และสาวปริศนาก็ลงมาจูบปากผม
หน้าของผมแดงฉ่าขึ้นมาอีกครั้ง
โว้ยยย ผมเอามือกุมหัวและนั่งยอง ๆ ด้วยความตกใจปนอาย นี่เราคิดอะไรอยู่เนี่ย บ้า ๆ ๆ ๆ ๆ
" ทำบ้าอะไรของเจ้าเนี่ย "
เสียงหญิงปริศนาดังขึ้น เมื่อผมเงยหน้าขึ้น ก็ต้องตกตะลึงในความงามของเธอ
เธออยู่ในชุดกิโมโนสีชมพูลายดอกไม้สวยสดใส เส้นผมของเธอที่มัดผมเป็นทรงหางม้าก็ปล่อยสยายยาว แต่เธอก็จับมัดผมของเธอขึ้นไปรวมกันบนศีรษะและใช้ปิ่นปักผมรวบผมเอาไว้ไม่ให้ปล่อยลงมา เธอมองผมราวกับเธอไม่เข้าใจปฏิกิริยาของผม
และวินาทีนั้น เมื่อผมเผลอมองริมฝีปากของเธอ ทำให้ผมนึกถึงตอนที่ผมจูบกับเธออีกครั้ง ส่งผลให้ผมต้องหน้าแดงขึ้นมาอีกรอบ
" ไปเถอะ อย่าเสียเวลาเลย " เธอมาจับมือของผม ( อีกแล้ว ) แล้วก็พาผมเดินไปตามระเบียงทางเดินปราสาท
" นี่ ๆ " ผมบอกกับเธออย่างสงสัย " จะพาผมไปไหนครับนี่ "
" เดี๋ยวก็รู้ " เธอบอกผมแล้วก็พาเข้าไปในห้องโถงทางเดินใหญ่ เดินเข้าไปสักพักข้างหน้าก็มีประตูสีแดงบานใหญ่สลักเป็นรูปไฟรายล้อมอยู่ เมื่อเธอเดินไปที่หน้าประตู ปรากฎว่าประตูดันเปิดเองโดยอัตโนมัติราวกับว่ามีคนเปิดให้ เมื่อผมชะเง้อมองไปก็พบว่าไม่มีใครเปิดประตูให้ มีแต่ความมืดมืดอยู่ภายใน
ทันใดนั้น มีแสงจากคบเพลิงไฟลุกขึ้น จะมีฝั่งละ 2 เสาคบเพลิง โดยมีความสูงประมาณคอของผม เมื่อผมกับเธอเดินเข้าไป ( จริง ๆ แล้วเธอยังจูงมือพาผมเข้าไปเอง ) คบเพลิงทุก ๆ ระยะ 1 ครึ่งเมตรก็จะลุกขึ้นราวกับมีคนเปิดสวิตซ์ให้ไฟคบเพลิงเปิดให้ แสงสว่างจากคบเพลิงแต่ละต้นนั้นก็เปิดเผยให้เห็นถึงเส้นทางที่ผมเดินกับเธออยู่ด้วย บนพื้นของผมปูด้วยพรมสีแดงและข้าง ๆ ผมนั้น ผมเห็นครึ่งคนครึ่งจิ้งจอกคุกเข่าอยู่ และก้มหัวให้ผมกับเธอเมื่อผมเดินไปถึง
นี่มันอะไรกันเนี่ย ? ผมคิดอย่างสงสัย
เธอยังคงจูงมือพาผมเข้าไปข้างในตามทางเรื่อย ๆ จนกระทั่งพรมแดงสิ้นสุดลง เธอก็หยุดเดิน ผมมองไปข้างหน้าแต่ก็ไม่พบอะไรนอกจากความมืด ความเงียบปกคลุมห้องนี้ตั้งแต่ผมกับเธอย่างก้าวเข้ามาในห้องนี้ ลมในอากาศไม่ไหวติงทำให้ผมสัมผัสไอความเย็นทุกอณูของอากาศได้เลย ตอนนี้จึงมีแต่เสียงลมหายใจของผมและเสียงจากคบเพลิงเท่านั้นที่ลุกไหม้อยู่
ทันใดนั้น เกิดเสียงตีกลองขึ้นจากที่ไหนสักแห่งที่ผมไม่รู้ และข้างหน้าก็ปรากฎร่างหนึ่งพร้อม ๆ กับคบเพลิงเปลวไฟสีเขียวลุกโซนแทนที่จะเป็นสีเหลืองแดง ผมตะลึงกับไฟสีประหลาดยังไม่พอ ผมก็ต้องอ้าปากด้วยความตกใจกับร่างที่อยู่ตรงหน้าผม
จิ้งจอกยักษ์เก้าหาง
เป็นร่างของสุนัขจิ้งจอกขนาดใหญ่ ลำตัวสีเงินน่าเกรงขามและน่าเคารพอย่างยิ่ง ลำตัวมีความสูงราว ๆ 3 - 4 เมตรได้ หางทั้ง 9 ห้างนิ่งราวกับหยุดนิ่งเพราะกาลเวลาที่หยุดนิ่ง เสียงตีกลองหยุดลงแล้ว ผมตัวสั่นอย่างที่ควบคุมไม่ได้
นี่มัน เกิดอะไรขึ้นเนี่ย
" เจ้า " เสียงของจิ้งจอกเก้าหางเอ่ยขึ้น นํ้าเสียงทรงพลังและยิ่งใหญ่มาก " จงบอกชื่อของเจ้ามา "
แววตาของจิ้งจอกเก้าหางมองมาที่ผม ผมกลืนนํ้าลายอึกหนึ่งเพราะความกลัวและสับสนกับภาพที่ผมเห็น แวบนึงผมคิดว่าผมฝันไป แต่มือของสาวปริศนายังคงจับมือของผมอย่างอบอุ่น ผมเงยหน้าสบตากับจิ้งจอกเก้าห้างแล้วก็เริ่มเอ่ยพูดออกมา
" ผม ป่านครับ " ผมพยายามบังคับไม่ให้นํ้าเสียงของผมสั่น " ป่านครับ "
แววตาของจิ้งจอกเก้าหางมองดูผมอย่างวิเคราะห์
" เจ้ารู้ตัวไหมว่าเจ้าได้ทำอะไร " จิ้งจอกเก้าหางตนนี้ถามผม นํ้าเสียงนั้นต้องการคำตอบอย่างมาก แต่ผมกลับส่ายหัว "
" เจ้าจุมพิตกับบุตรสาวของข้าใช่ไหม "
ผมหันไปมองหญิงสาวปริศนาข้าง ๆ ผมที่ตอนนี้มองผมด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก
นี่ เธอ เป็นลูกสาวของจิ้งจอกยักษ์นี่นะเหรอ !
" ผะ ผมไม่รู้เรื่องนะครับ " ผมพยายามพูดโต้แย้ง เมื่อผมรู้อีกว่าเธอยังจับมือผมอยู่ ผมเลยรีบแกะมือผมออกมาจากมือของเธออย่างรวดเร็ว แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรผม จิ้งจอกเก้าหางมองดูปฏิกิริยาผมทุกอย่าง
" คือ ตอนนั้น แดดออก " ปากของผมสั่นระริกเพื่อพยายามพูดออกมา " แล้วจู่ ๆ ฝนก็ตกลงมา ผมไม่รู้ด้วยซํ้าว่าทำไมฝนถึงตกมาได้ทั้ง ๆ ที่แดดออกในตอนนี้ พอผมเงยหน้าขึ้นไปมอง ลูกสาวของคุณ เอ่อ ลูกสาวของท่านก็ลงมาจูบกับผมแล้ว "
จิ้งจอกเก้าหางยังนิ่งและมองดูผมพูดแก้ตัวอยู่อย่างเงียบ ๆ
" มันเป็นอุบัติเหตุนะครับ " ผมเริ่มเหงื่อแตกซิกด้วยความกลัว " ผมไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อผมรู้สึกตัว เธอก็ลากผมมาที่นี่แล้ว ที่นี่คือที่ไหนผมยังไม่รู้เรื่องเลย "
ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อ หน้าอกของผมยังสั่นกระเพือมด้วยความกลัว ท่านจิ้งจอกเก้าหางมองดูผมและก็เริ่มตวัดสายตามองมาดูลูกสาวของเขา
" ข้ามีนามว่า บาทามอส " จิ้งจอกเก้าหางเอ่ย " เจ้าเรียกชื่อข้าได้นะ "
" คะ ครับ คุณ เอ่อ บาทามอส " ผมทวนชื่อเขาอย่างไม่เข้าใจ
" เจ้าเป็นมนุษย์ เจ้าอาจไม่รู้พิธีกรรมของเผ่าปีศาจจิ้งจอกอย่างเรา ข้าจะอธิบายให้ฟัง "
หะ หา ปีศาจเหรอ !
" เผ่าจิ้งจอกอย่างพวกข้าจะดำเนินการทำพิธีแต่งงานกันในวันที่ฝนตกแดดออก " จิ้งจอกเก้าหางบาทามอสเอ่ย " แต่ถ้ามีคู่ใดได้สัมผัสริมฝีปากกันในวันที่ฝนตกแดดออก จะถือว่าเป็นการหมั้นกันทันทีโดยไม่ต้องสงสัย "
" หมะ หมั้นเหรอครับ " ผมเสียงแหบเมื่อผมรู้ความหมายดังกล่าว
" และฝ่ายหญิงจะต้องไปกินอยู่กับฝ่ายชายเป็นเวลาทั้งหมด 99 วัน เพื่อเป็นการลองใจและดูใจของอีกฝ่าย ดังนั้น ไม่ว่าเจ้าจะได้กระทำการนี้ด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม แต่เจ้าก็ได้กระทำไปแล้ว ป่าน นับแต่นี้ เจ้าต้องรับผิดชอบ รับเลี้ยงดูลูกสาวของข้าไปอยู่กับเจ้าที่โลกมนุษย์เป็นเวลา 99 วันนับจากนี้ "
โลกมนุษย์อย่างนั้นเหรอ ผมหอบหายใจแรงขึ้นด้วยความตกใจ นี่ หมายความว่า ที่เราอยู่ที่นี่ ไม่ใช่โลกมนุษย์อย่างงั้นเหรอ
" มะ มีทางถอนหมั้นไหมครับ " ผมพยายามถามด้วยความสุภาพ
" มี " ท่านบาทามอสเอ่ยด้วยนํ้าเสียงที่เหี้ยมขึ้น " เจ้าต้อง ตาย "
" มะ ไม่ดีกว่าครับ " ผมหน้าถอดสีเมื่อได้ยินคำตอบนั้น " คือ มันไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ คือ ผมยังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของเธอเลย "
" เจ้าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ แต่เจ้ากระทำไปแล้ว " ท่านบาทามอสเอ่ยเสียงเรียบอย่างน่ากลัว " เจ้าก็ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการเป็น ว่าที่คู่หมั้นของบุตรสาวข้า ไม่ต้องห่วงหรอก แค่อยู่กินกัน 99 วันเอง หมด 99 วันแล้วถ้าเจ้าไม่ชอบ จะขอแยกทางมาก็ได้ "
หญิงสาวปริศนาลูกสาวจิ้งจอกเก้าหางไม่ได้มองผมเลย แต่มองไปที่พ่อของเธอด้วยแววตาที่ผมไม่เข้าใจ
" ป่าน เจ้าจะรับปากข้าไหม ว่าเจ้าจะรับผิดชอบเรื่องนี้ " ท่านบาทามอสเอ่ยถามผม " ไม่ต้องห่วงหรอก บุตรสาวของข้าแข็งแกร่งกว่ามนุษย์อย่างเจ้ามาก เธอดูแลตนเองได้ "
" มะ ไม่มีทางเลี่ยงเลยเหรอครับ " ผมพยายามต่อรองกับเขา " เช่น ให้เธอไม่ต้องมาอยู่กับผมงี้... "
" ไม่ได้ " แววตาของจิ้งจอกเก้าหางดุดันขึ้นและนํ้าเสียงสั่นสะเทือนไปทั่วปราสาท " เจ้าจะรับปากรึไม่ ป่าน "
" ระ รับก็ได้ครับ " ผมรีบตอบด้วยความหวาดกลัว " รับก็ได้ "
" ดีมาก " ท่านบาทามอสเอ่ยด้วยนํ้าเสียงที่พึงพอใจ " นับแต่นี้ พิธีหมั้นเสร็จสมบูรณ์ "
เกิดแสงสว่างสีขาวพุ่งเข้าตาของผม ผมมองเห็นแต่แสงสีขาวเต็มหน้าของผมเท่านั้น และผมก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย
เมื่อผมรู้สึกตัวอีกครั้ง ผมลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอนของผมและเหงื่อแตกพลั่ก ผมอ้าปากหอบหายใจแรงขึ้นในขณะที่ผมมองไปรอบ ๆ เสียงนกร้องเจี้ยวจ้าวดังมาจากหน้าต่างทางซ้ายของผม ผมหันไปมองก็พบนกกระจอก 2 ตัวมาทักทายผมด้วยเสียงร้องจิ๊บ ๆ แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ทอดลำยาวลงมาผ่านหน้าต่างมุ้งลวดของผม มือของผมที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อยังจับผ้าห่มอยู่ ผมมองไปรอบห้อง ตู้เสื้อผ้า ทีวีรุ่นเก่าโต๊ะเขียนหนังสือ และปฏิทินดาราสาวเกาหลี ซอง เค เฮียว ยังแขวนเอาไว้อยู่ ผมก้มมองดูตัวผมที่ใส่ชุดนอนตัวประจำของผมอยู่อย่างสับสน
" นี่มัน ความฝันเหรอ " ผมพึมพำออกมา และเริ่มเอามือมาเช็ดเหงื่อบนหน้าของผม " ฝันจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย "
ผมเอามือตบหน้าเบา ๆ เพราะกลัวเจ็บ แต่ผมก็รู้สึกแล้วว่าตัวเองฝันไปจริง ๆ
" เฮ้อ ที่แท้ก็ฝันจริง ๆ ด้วย " ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ " ทั้งเรื่องคำทำนายบ้า ๆ นั่น ทั้งจูบกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ แล้วเธอก็กลายมาเป็นปีศาจ แถมยังมีสัญญาหมั้นอะไรอีก เป็นไปไม่ได้แล้ว "
ผมเงยหน้ามองดูเพดานห้องตัวเองด้วยความโล่งใจ
" เอาหละ เตรียมตัวไปเรียนดีกว่า " ผมยิ้มพลางเอามือจับผ้าห่มเพื่อเตรียมดึงออกมา
" หือ นี่อะไร " ผมจับคลำของบางอย่างได้ มันทั้งนุ่ม อุ่นอย่างประหลาดเหมือนไม่ใช่หมอนข้างและกองผ้าห่ม เมื่อผมเลิกผ้าห่มขึ้นมา
" เฮ้ย ! " ผมตะลึงสุดชีวิต เมื่อหญิงสาวปริศนาคนที่ว่านอนอยู่บนเตียงเดียวกับผม ! เธอใส่ชุดนอนสีชมพูธรรมดาแขนสั้น กางเกงขายาว และนอนขนตัวนอนข้างอยู่ข้าง ๆ ผมเมื่อกี้เนี้ย !
" หือ " เธอลุกขึ้นมานั่งและทำท่างัวเงียเหมือนเด็กสาวไร้เดียงสาที่เพิ่งตื่นนอน " เช้าแล้วเหรอเนี่ย "
" นะ นะ นี่เธอ " ผมยกมือชี้ไปทางเธออย่างตกใจ หน้าแดงจัด " นี่เธอมาได้ยังไงเนี่ย ! "
" ถามได้ มาได้ยังไง " เธอบอกกับผมด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เหมือนเดิม แต่ดวงตายังปรี่ครึ่งหนึ่งเพราะเพิ่งตื่น " ก็มานอนเตียงเดียวกับเจ้านะสิ "
" ไม่ใช่แบบนั้น เธอมาบ้านฉันได้ยังไง "
" อ๋อ พอท่านบิดาทำสัญญาหมั้นแล้ว เจ้าก็เป็นลมหมดสติเลย ข้าเลยต้องหามเจ้ามาที่บ้านและจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เจ้าไง " เธอตอบผมหน้าตาเฉย
" หะ หา เปลี่ยนเสื้อผ้า " ผมถามเธอไปหน้าเริ่มแดงแป้ดไป
" ก็ใช่นะสิ ไม่เปลี่ยนแล้วจะให้เจ้านอนยังไงหละ "
" นะ นี่ " ผมเริ่มเอาผ้าห่มมาคลุมกับตัวของผมจนเหลือแค่ส่วนคอขึ้นไปเท่านั้นที่โผล่มาเหนือผ้าห่ม " อยะ อย่าบอกนะว่าเธอ "
" วางใจเถอะ " เธอค่อย ๆ เลิกผ้าห่มขึ้น คอเสื้อของเธอลู่ลงมาจนเห็นหัวไหล่ขาว ๆ ของเธอ ( ผมพยายามสุดขีดโดยไม่คิดมากไปกว่านั้น " ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอกหน่า "
" มั่นใจนะ " ผมถามเธออย่างหวาดผวาและตกใจสุดขีดเมื่อเธอค่อย ๆ คลานเข้ามาใกล้ผม จนผมเริ่มสังเกตแล้วว่าเธอไม่ได้ใส่เสื้อในด้วย !
" หรือว่าเจ้าอยากทำตอนนี้เลย " เธอค่อย ๆ คลานมาหาผม ใบหน้าของเธอยังทำสีหน้าไรอารมณ์เหมือนเดิม แต่ผมนี่สิ หน้าแดงและไม่รู้ผมคิดอะไรเตลิดเปิดเปิงไปหมดแล้ววววว !
" มะ ไม่นะ " ผมพยายามถอยหลังออกมา ใบหน้าของเธอก็เข้ามาใกล้ผมแล้ว ไม่นะ ไม่ ม่ายยยยยยยยยย -[]- !!!
" เอะอะอะไรเหรอลูก " เสียงพ่อของผมเคาะประตู " เช้าแล้วนะลูก เดี๋ยวก็ไปมหาลัยสายหรอก "
" พะ พ่อ ! " ผมรีบมองไปทางประตูห้องนอนผมอย่างตกใจ " แย่แล้ว ขืนพ่อเดินเข้ามาหาเราในสภาพแบบนี้ละก็ "
" พ่อเข้าไปนะ " ว่าแล้วพ่อของผมก็เปิดประตูเข้ามาในห้องทันที และมองดูผมกับสาวปริศนาอย่างสนใจ
พ่อของผมนั้นมีอายุวัยกลางคน ใบหน้าของผมถอดแบบมาจากพ่อผมเด๊ะ ๆ แต่พ่อผมหน้าเข้มกว่าเท่านั้นเอง พ่ออยู่ในชุดเสื้อสีขาวและกางเกงขายาวสีดำ
" ป่าน ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน " พ่อผมมองไปทางเธออย่างสงสัย เธอยังคงทำหน้าไร้อารมณ์เหมือนเดิม
" พ่อครับ " ผมเหงื่อแตกซิกด้วยความกลัว " คือ พ่อ ฟังผมก่อน คือ ผมอธิบายได้ คือ เธอคนนี้ "
" ป่าน " พ่อผมเดินเข้ามาหาผมแล้วก็เอามือจับที่หัวไหล่ของผมทั้ง 2 ข้าง ผมหลับตาแน่นด้วยความกลัว
" พ่อครับ " ผมพึมพำออกมา " คือว่า "
" เก่งมากลูก " พ่อผมมองผมด้วยสายตาชื่นชม " ที่พาผู้หญิงมาค้างที่บ้านได้ "
หะ หาาาาา 0_0 !! ว่าไงนะ !
" มีอะไรเหรอคะคุณ " แม่ของผมเดินเข้ามาตามสมทบกับพ่อของผม แม่ของผมไว้ผมยาวถึงกลางหลังและใส่ชุดผ้ากันเปื้อน " อุ้ย ตายจริง "
" แม่ " ผมอ้าปากค้างเมื่อเห็นแม่เดินเข้ามา พ่ออาจไม่ว่า แต่แม่นี่สิ ตาย ๆ ๆ ๆ
" ไปเถอะที่รัก " พ่อผมปล่อยมือจากหัวไหล่ของผม " ลูกเราโตแล้ว "
" นั่นนะสิคะคุณ " แม่ของผมยิ้มอย่างดีใจเมื่อมองที่ผู้หญิงที่ยังนั่งคุกเข่าอยู่บนเตียงข้างหน้าผม " ในที่สุดเราก็เป็นลูกผู้ชายในสายตาแม่แล้ว "
" แม่ค้าบบบ -[]- lll "
" งั้น แม่จะเตรียมอาหารเช้าให้นะลูก " แม่ยิ้มให้ผมอย่างเจ้าเล่ห์ " อย่านานนักนะลูก "
พ่อส่งยิ้มให้ผมสักพักแล้วก็เดินตามแม่ผมออกไปนอกห้องนอนผม แล้วก็ปิดประตูห้อง จนตอนนี้เหลือแค่ผมกับเธออยูกันสองต่อสอง
" เฮ้อ นึกว่าจะตายแล้วซะอีก " ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วก็มองเธออีกครั้ง เธอมองดูผมอย่างสนใจ สักพักหูกับหางของเธอก็โผล่ออกมาจนมีสภาพเป็นครึ่งคนครึ่งจิ้งจอกเหมือนเดิม ผมต้องอ้าปากอย่างตกใจ
" นี่ แล้ว สรุปเรื่องทั้งหมดนี่ " ผมถามเธออย่างกลัว ๆ กล้า ๆ " ไม่ใช่ความฝันใช่ไหม "
เธอพยักหน้าตอบผม
" ตกลง ฉัน หมั้น กับ เธอ แล้ว ขะ ใช่ไหม "
เธอพยักหน้าตอบผมอีกครั้ง
" ละ แล้ว เธอต้องมาอยู่กับฉันถึง 99 วัน ใช่ไหม " ผมถามเธอไปเหงื่อแตกซิกไป
เธอก็พยักหน้าตอบผม
ผมเอาหน้าซุบกับผ้าห่มอย่างลำบากใจ นี่ผมไม่มีเพื่อนหญิง เลยอาจไม่กล้าแม้กระทั่งจับตัวอะไรเลย แต่นี่ผมกับเธอต้องมานั่งกินนอนกับเธออีกเหรอเนี่ย !
" แล้ว เธอ ไม่โกรธผมเลยเหรอครับ " ผมเงยหน้าถามเธอด้วยความรู้สึกผิดขึ้น
" ข้าไม่ว่าอะไรหรอก มันเป็นอุบัติเหตุ " เธอยักไหล่แล้วก็กระโดดลงจากเตียงอย่างสง่างาม หางของเธอแกว่งไปมาอย่างน่ารักจนผมอยากจะไปจับมันเล่นซะจริง ๆ
" แล้วเธอมีชื่อว่า อะไรนะ "
" อะเมะ " เธอบอกผม " ข้ามีนามว่า อะเมะ "
" อะเมะเหรอ " ผมทวนชื่อเธออีกครั้ง ชื่อประหลาดดีวุ้ย " งะ งั้น ยินดีที่ได้รู้จักนะ "
ครั้งแรกที่ผมเห็นเธอยิ้มออกมา มันทำให้ผมหน้าแดงออกมาโดยที่ผมไม่รู้ตัว เพราะเธอยิ้มออกมาแล้วน่ารักมาก
" เอ้า ไปซะสิ "
" หะ หา ไปไหนเหรอ "
" ก็ไปอาบนํ้าสิ เจ้าไปอาบก่อน เดี๋ยวข้าไปอาบตาม " เธอชี้ไปที่ห้องนํ้าข้างนอกห้องนอนผม
" งะ งั้นเหรอ " ผมมองดูใบหน้าของเธออย่างกับต้องมนต์
" ไม่รีบไป เดี๋ยวข้าช่วยถอดเสื้อผ้าให้เอาไหม "
" วะ แว๊กกกก ไม่ต้องงง ผมไปเองได้คร้าบบบ " ผมรีบพุ่งตัวออกไปที่ห้องนํ้าทันที เมื่อผมปิดประตูห้องนํ้าแล้ว ผมเอาหลังพิงกับประตูเอาไว้แล้วก็ถอนหายใจอีกครั้ง
" นี่มันเรื่องอารายกานเนี่ยยยยยยยย ! ! "
ความคิดเห็น