ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Miracle Love : หนุ่มเอ๋อกับจิ้งจอกสาวเจ้าเสน่ห์

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 : สัญญาหมั้น

    • อัปเดตล่าสุด 7 มิ.ย. 52


    ร่างของผมทิ่มลงกระแทกพื้นจนหน้าของผมสีถลอกไปกับพื้นเจ็บ ๆ ปากของผมลิ้มรสฝุ่นและเลือดที่แตกริมฝีปาก โอ้ย เจ็บ

    ผมค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนและเอามือปัดฝุ่นที่ตามเข่าและที่หน้าออก แขนของผมติดเลือดที่ปากของผมมาด้วย หญิงสาวปริศนายังยืนอยู่ข้าง ๆ ผม ราวกับว่าเธอมองดูผมมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว ทำไมกัน ?

    " มองอะไรของคุณนะครับ " ผมถามเธออย่างอับอายที่ต้องมาหน้ากระแทกพื้นแบบนี้ แต่เธอกลับไม่ตอบ เลยทำให้ผมต้องมองไปรอบ ๆ มองดูสถานที่ที่ผมกับเธอยืนอยู่ด้วยความประหลาดใจอย่างที่ผมไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน

    ผมยืนอยู่ใจกลางของเมืองแห่งหนึ่ง ราวกับว่าเมืองทั้งเมืองนี้อยู่ในถํ้าขนาดมหึมาที่สามารถบรรจุเมืองเข้าไปได้ทั้งเมือง บ้านเมืองไม่ได้ทันสมัย มีคบไฟส่องสว่างทั่วเมืองจนสว่างราวกับตอนกลางวันอย่างน่าอัศจรรย์ บ้านแต่ละหลังราวกับทำด้วยอิฐสีครีมและดูคล้าย ๆ บ้านเมืองในยุคหิน แต่เมื่อผมมองดูดี ๆ แล้วมันมีลักษณะคล้ายกับบ้านเมืองปัจจุบันอยู่บ้าง พื้นถนนที่ผมยืนอยู่นั้นปูด้วยกระเบื้องแปลก ๆ มีหลายขนาดและรูปทรงต่างกันออกไป ผมกับเธอยืนอยู่บนถนนที่มีลายรูปขดก้นหอย ชาวเมืองของที่นี่เดินขวักไขว่และผมก็ต้องมองดูพวกเขาอย่างตกตะลึง

    พวกเขาไม่ใช่คน !

    ไม่เชิงว่าไม่ใช่คนซะทีเดียว แต่มีหูและหางประหลาดโผล่ออกมาจากตัวของพวกเขา แถมส่วนใหญ่ก็มีใบหน้าราวกับสุนัขแทนที่จะเป็นหัวคน พวกเขาใส่เสื้อผ้ากันประหลาดมาก บางคนใส่เสื้อราวกับนินจา บางคนใส่เสื้อราวกับหนังขุนนางยุคโบราณ ผมจ้องมองพวกเขาอย่างน่าอัศจรรย์ พวกเขาเหมือนตัวการ์ตูนที่มีชีวิตเหลือเกิน

    ราวกับชาวเมืองครึ่งคนครึ่งหมาพวกนี้เพิ่งจะสังเกตเห็นผม พวกเขาหันมามองดูผมด้วยความอยากรู้อยากเห็น มีหลายคนมองดูผมและกระซิบกระซาบออกมาโดยที่ผมไม่รู้ว่าแววตาสุนัขของพวกเขาเหล่านั้นมองมาทางผมยังไงกันแน่ ตัวประหลาด ? หรือ จะเอาผมไปกิน ! 0_0

    " พอใจรึยัง " เสียงของหญิงสาวปริศนาเรียกผมอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ผมสะดุ้งและเมื่อหันไปทางเธอ ผมก็ต้องอ้าปากด้วยความตกตะลึง

    เธอเองก็มีหูกับหางสุนัขเหมือนกับชาวเมืองทุกคนในนี้ หูสุนัขของเธองอกออกมาจากบนเส้นผมสีดำของเธอออกมาเป็นสีเหลือง และหางของเธอก็เป็นสีเหลือง หางของเธอส่ายไปส่ายมาจนผมอยากจะเข้าไปจับจัง >_<

    " ไปกันได้แล้ว " เธอบอกผมแล้วก็ยื่นมือมาจับกับมือของผม แล้วก็ลากผมเข้าไปในเมืองโดยไม่รอคำตอบผม

    " ดะ เดี๋ยวก่อนสิครับ "  ผมพยายามพูดกับเธอ มือเรียวบางและนุ่มนิ่มของเธอจับกับมือของผม

    ครั้งแรก ผมคิดในใจอย่างตื่นเต้น ครั้งแรก ที่เราได้จับมือกับผู้หญิง

    เสียงหัวใจของผมเต้นตึกตักออกมาอย่างเขินอาย ใบหน้าของผมร้อนผ่าวไปทั่วทุกอณู ราวกับว่ามีใครบางคนกำลังอบหัวของผมรอเวลาสุก

    เธอจับมือผมแล้วก็จูงผมเข้าไปในตัวเมือง ชาวเมืองครึ่งคนครึ่งหมาทั้งหลายต่างแหวกทางให้ผมกับเธอเดินผ่านไป แทบทุกคนมองมาทางผมแล้วกระซิบกระซาบ แต่ผมก็ไม่ได้ยินที่พวกเขาพูดเลย

    นี่มันอะไรกัน จากอารมณ์เขินอายของผมต้องปรับเปลี่ยนไปเมื่อผมโดนเธอจูงมือเข้าไปในตัวเมืองเรื่อย ๆ ที่นี่มันที่ไหนกันแน่

    เธอพาผมเข้าไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงบ้านหลังหนึ่งที่ใหญ่มาก ประตูและกำแพงนี่อลังการราวกับพระราชวังตะวันออก ทำให้ผมนึกถึงปราสาทโซกุนของญี่ปุ่นเลย บนกำแพงก็มีคบเพลิงเป็นระยะ ๆ รวมทั้งทหารที่เป็นครึ่งคนครึ่งมายืนถือหอกประจำอยู่ทุกตำแหน่ง เมื่อทหารยามที่ยืนอยู่ประตูใหญ่พบเห็นผมกับเธอ พวกเขารีบก้มหัวแล้วก็เปิดประตูใหญ่ทันที และเมื่อประตูเปิด ผมก็ต้องอ้าปากอีกรอบ

    ข้างในเป็นปราสาทแบบญี่ปุ่นขนานแท้ มีทางเดินที่ปูด้วยกระเบื้องทอดยาวเข้าไปราวกับพรม ทางซ้ายมีบ่อนํ้าและเป็นสวนขนาดย่อม มีคนสวนที่เป็นครึ่งคนครึ่งจิ้งจอกยังทำงานกันอยู่ ทางขวามือเป็นรูปปั้นนํ้าพุที่แกะสลักเป็นรูปสุนัขจิ้งจอกขนาดใหญ่น่าเกรงขาม มีครึ่งคนครึ่งสุนัขที่ในชุดกิโมโน ใบหน้าของพวกเธอนั้นเป็นคนเพศหญิง หน้าตาสะสวยมาก

    " คุณหนูกลับมาแล้วเหรอเจ้าคะ "  สาวครึ่งหมาคนนั้นบอกกับสาวปริศนาข้าง ๆ ผม " นายใหญ่กำลังรออยู่เลยคะ "

    " นะ นายใหญ่เหรอ " ผมถามเธออย่างตกตะลึง

    " ใช่ " เธอหันหน้ามาหาผมด้วยใบหน้าเฉยเมย " ข้าเนี่ยแหละ บุตรตรีของตระกูลชนเผ่าจิ้งจอก "

    " วะ ว่าไงนะ 0_0 "

    " ไปสิ " เธอปล่อยมือจากผมแล้วก็ผลักผมไปข้างหน้า กลุ่มสาวใช้ชุดกิโมโน " จัดการเขาให้สะอาดผุดผ่องทีนะ "

    " ได้เจ้าคะ คุณหนู " สาวครึ่งหมารับปากเธอและทั้ง 2 คนก็เดินมาจับตัวผมที่หัวไหล่อย่างแน่นหนา

    " นะ นี่ จะทำอะไรผมนะ " ผมหันไปมองดู 2 คนนี้อย่างสงสัย " แล้วที่บอกสะอาดผุดผ่องนี่ ... "

    " จับไปชำระร่างกายนะสิ ท่านมนุษย์ " พวกเธอยิ้มให้ผมอย่างเจ้าเล่ห์  " ไปโรงอาบนํ้าซะดี "

    " วะ แว๊กกกกกกกก =[]= "

    ช่วยด้วยยยย ผมคิดในใจเมื่อโดนหญิงสาวครึ่งหมาทั้ง 2 คนลากผมไปข้างหลังนํ้าพุที่มีทางเข้าปราสาท และมีห้องอาบนํ้าอยู่ ช่วยด้วยยย ผมโดนผู้หญิงฉุด อ๊าากกกกกกกก

     

    ------------

     

    20 นาทีต่อผมหลังจากที่ผมโดนเปลื้องผ้าและโดนสาวใช้ครึ่งคนครึ่งจิ้งจอกจับอาบนํ้าซะจนตัวของผมสะอาดเกลี้ยงเกลา แต่ก็เป็นลมและหน้าแดงจนมืดเป็นระยะ ๆ ( ซึ่งพวกเธอก็จับบังคับผมอาบนํ้าด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลจนผมต้องตะลึง ยังดีที่ผมยังใส่กุงเกงลิงอยู่  - - /// ) ตอนนี้ผมถูกจับใส่ชุดยูกาตะ เอาไว้ยืนอยู่หน้าห้องแต่งตัวเพื่อรอ คุณหนู หรือสาวปริศนาครึ่งคนครึ่งจิ้งจอกอยู่

    ภายในปราสาทหลังนี้เท่าที่ผมเห็นในห้องอาบนํ้าและห้องอื่น ๆ ที่สาวใช้จับผมแต่งตัวราวกับตุ๊กตานั้น มันเป็นเหมือนสภาพของปราสาทญี่ปุ่นในการ์ตูนไม่มีผิด ผมหละสงสัยแล้วว่าตกลงนี่ผมมาอยู่ที่ไหนกันแน่

    ผมมองไปตรงสวนข้าง ๆ ปราสาท มีสระนํ้าขนาดใหญ่และมีใบบัวอยู่เต็มสระ บริเวณปราสาทที่ผมอยู่นั้นส่องสว่างมากราวกับเป็นตอนกลางวัน ส่วนนอกปราสาทก็เป็นตอนกลางคืนที่ส่องสว่างด้วยแสงไฟจากคบเพลิงแทน ทำให้ผมรู้สึกราวกับว่าที่นีมันไม่ได้อยู่ในโลกมนุษย์เลย

    " อย่างกับอีกโลก " ผมพึมพำและมองไปรอบ ๆ แล้วทำไมเราถึงสื่อสารกับคนเหล่านี้ได้หละ แล้วทางเข้า

    ภาพในหัวของผมนึกถึงตอนที่ผมมาที่นี่ครั้งแรก และสาวปริศนาก็ลงมาจูบปากผม

    หน้าของผมแดงฉ่าขึ้นมาอีกครั้ง

    โว้ยยย ผมเอามือกุมหัวและนั่งยอง ๆ ด้วยความตกใจปนอาย นี่เราคิดอะไรอยู่เนี่ย บ้า ๆ ๆ ๆ ๆ

    " ทำบ้าอะไรของเจ้าเนี่ย "

    เสียงหญิงปริศนาดังขึ้น เมื่อผมเงยหน้าขึ้น ก็ต้องตกตะลึงในความงามของเธอ

    เธออยู่ในชุดกิโมโนสีชมพูลายดอกไม้สวยสดใส เส้นผมของเธอที่มัดผมเป็นทรงหางม้าก็ปล่อยสยายยาว แต่เธอก็จับมัดผมของเธอขึ้นไปรวมกันบนศีรษะและใช้ปิ่นปักผมรวบผมเอาไว้ไม่ให้ปล่อยลงมา เธอมองผมราวกับเธอไม่เข้าใจปฏิกิริยาของผม

    และวินาทีนั้น เมื่อผมเผลอมองริมฝีปากของเธอ ทำให้ผมนึกถึงตอนที่ผมจูบกับเธออีกครั้ง ส่งผลให้ผมต้องหน้าแดงขึ้นมาอีกรอบ

    " ไปเถอะ อย่าเสียเวลาเลย " เธอมาจับมือของผม ( อีกแล้ว ) แล้วก็พาผมเดินไปตามระเบียงทางเดินปราสาท

    " นี่ ๆ " ผมบอกกับเธออย่างสงสัย " จะพาผมไปไหนครับนี่ "

    " เดี๋ยวก็รู้ " เธอบอกผมแล้วก็พาเข้าไปในห้องโถงทางเดินใหญ่ เดินเข้าไปสักพักข้างหน้าก็มีประตูสีแดงบานใหญ่สลักเป็นรูปไฟรายล้อมอยู่ เมื่อเธอเดินไปที่หน้าประตู ปรากฎว่าประตูดันเปิดเองโดยอัตโนมัติราวกับว่ามีคนเปิดให้ เมื่อผมชะเง้อมองไปก็พบว่าไม่มีใครเปิดประตูให้ มีแต่ความมืดมืดอยู่ภายใน

    ทันใดนั้น มีแสงจากคบเพลิงไฟลุกขึ้น จะมีฝั่งละ 2 เสาคบเพลิง โดยมีความสูงประมาณคอของผม เมื่อผมกับเธอเดินเข้าไป ( จริง ๆ แล้วเธอยังจูงมือพาผมเข้าไปเอง ) คบเพลิงทุก ๆ ระยะ 1 ครึ่งเมตรก็จะลุกขึ้นราวกับมีคนเปิดสวิตซ์ให้ไฟคบเพลิงเปิดให้ แสงสว่างจากคบเพลิงแต่ละต้นนั้นก็เปิดเผยให้เห็นถึงเส้นทางที่ผมเดินกับเธออยู่ด้วย บนพื้นของผมปูด้วยพรมสีแดงและข้าง ๆ ผมนั้น ผมเห็นครึ่งคนครึ่งจิ้งจอกคุกเข่าอยู่ และก้มหัวให้ผมกับเธอเมื่อผมเดินไปถึง

    นี่มันอะไรกันเนี่ย ? ผมคิดอย่างสงสัย

    เธอยังคงจูงมือพาผมเข้าไปข้างในตามทางเรื่อย ๆ จนกระทั่งพรมแดงสิ้นสุดลง เธอก็หยุดเดิน ผมมองไปข้างหน้าแต่ก็ไม่พบอะไรนอกจากความมืด ความเงียบปกคลุมห้องนี้ตั้งแต่ผมกับเธอย่างก้าวเข้ามาในห้องนี้ ลมในอากาศไม่ไหวติงทำให้ผมสัมผัสไอความเย็นทุกอณูของอากาศได้เลย ตอนนี้จึงมีแต่เสียงลมหายใจของผมและเสียงจากคบเพลิงเท่านั้นที่ลุกไหม้อยู่

    ทันใดนั้น เกิดเสียงตีกลองขึ้นจากที่ไหนสักแห่งที่ผมไม่รู้ และข้างหน้าก็ปรากฎร่างหนึ่งพร้อม ๆ กับคบเพลิงเปลวไฟสีเขียวลุกโซนแทนที่จะเป็นสีเหลืองแดง ผมตะลึงกับไฟสีประหลาดยังไม่พอ ผมก็ต้องอ้าปากด้วยความตกใจกับร่างที่อยู่ตรงหน้าผม

    จิ้งจอกยักษ์เก้าหาง

    เป็นร่างของสุนัขจิ้งจอกขนาดใหญ่ ลำตัวสีเงินน่าเกรงขามและน่าเคารพอย่างยิ่ง ลำตัวมีความสูงราว ๆ 3 - 4  เมตรได้ หางทั้ง 9 ห้างนิ่งราวกับหยุดนิ่งเพราะกาลเวลาที่หยุดนิ่ง เสียงตีกลองหยุดลงแล้ว ผมตัวสั่นอย่างที่ควบคุมไม่ได้

    นี่มัน เกิดอะไรขึ้นเนี่ย

    " เจ้า " เสียงของจิ้งจอกเก้าหางเอ่ยขึ้น นํ้าเสียงทรงพลังและยิ่งใหญ่มาก " จงบอกชื่อของเจ้ามา "

    แววตาของจิ้งจอกเก้าหางมองมาที่ผม ผมกลืนนํ้าลายอึกหนึ่งเพราะความกลัวและสับสนกับภาพที่ผมเห็น แวบนึงผมคิดว่าผมฝันไป แต่มือของสาวปริศนายังคงจับมือของผมอย่างอบอุ่น ผมเงยหน้าสบตากับจิ้งจอกเก้าห้างแล้วก็เริ่มเอ่ยพูดออกมา

    " ผม ป่านครับ " ผมพยายามบังคับไม่ให้นํ้าเสียงของผมสั่น " ป่านครับ "

    แววตาของจิ้งจอกเก้าหางมองดูผมอย่างวิเคราะห์

    " เจ้ารู้ตัวไหมว่าเจ้าได้ทำอะไร " จิ้งจอกเก้าหางตนนี้ถามผม นํ้าเสียงนั้นต้องการคำตอบอย่างมาก แต่ผมกลับส่ายหัว "

    " เจ้าจุมพิตกับบุตรสาวของข้าใช่ไหม "

    ผมหันไปมองหญิงสาวปริศนาข้าง ๆ ผมที่ตอนนี้มองผมด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก

    นี่ เธอ เป็นลูกสาวของจิ้งจอกยักษ์นี่นะเหรอ !

    " ผะ ผมไม่รู้เรื่องนะครับ " ผมพยายามพูดโต้แย้ง เมื่อผมรู้อีกว่าเธอยังจับมือผมอยู่ ผมเลยรีบแกะมือผมออกมาจากมือของเธออย่างรวดเร็ว แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรผม จิ้งจอกเก้าหางมองดูปฏิกิริยาผมทุกอย่าง

    " คือ ตอนนั้น แดดออก " ปากของผมสั่นระริกเพื่อพยายามพูดออกมา " แล้วจู่ ๆ ฝนก็ตกลงมา ผมไม่รู้ด้วยซํ้าว่าทำไมฝนถึงตกมาได้ทั้ง ๆ ที่แดดออกในตอนนี้ พอผมเงยหน้าขึ้นไปมอง ลูกสาวของคุณ เอ่อ ลูกสาวของท่านก็ลงมาจูบกับผมแล้ว "

    จิ้งจอกเก้าหางยังนิ่งและมองดูผมพูดแก้ตัวอยู่อย่างเงียบ ๆ

    " มันเป็นอุบัติเหตุนะครับ " ผมเริ่มเหงื่อแตกซิกด้วยความกลัว " ผมไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อผมรู้สึกตัว เธอก็ลากผมมาที่นี่แล้ว ที่นี่คือที่ไหนผมยังไม่รู้เรื่องเลย "

    ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อ หน้าอกของผมยังสั่นกระเพือมด้วยความกลัว ท่านจิ้งจอกเก้าหางมองดูผมและก็เริ่มตวัดสายตามองมาดูลูกสาวของเขา

    " ข้ามีนามว่า บาทามอส " จิ้งจอกเก้าหางเอ่ย " เจ้าเรียกชื่อข้าได้นะ "

    " คะ ครับ คุณ เอ่อ บาทามอส " ผมทวนชื่อเขาอย่างไม่เข้าใจ

    " เจ้าเป็นมนุษย์ เจ้าอาจไม่รู้พิธีกรรมของเผ่าปีศาจจิ้งจอกอย่างเรา ข้าจะอธิบายให้ฟัง "

    หะ หา ปีศาจเหรอ !

    " เผ่าจิ้งจอกอย่างพวกข้าจะดำเนินการทำพิธีแต่งงานกันในวันที่ฝนตกแดดออก " จิ้งจอกเก้าหางบาทามอสเอ่ย " แต่ถ้ามีคู่ใดได้สัมผัสริมฝีปากกันในวันที่ฝนตกแดดออก จะถือว่าเป็นการหมั้นกันทันทีโดยไม่ต้องสงสัย "

    " หมะ หมั้นเหรอครับ " ผมเสียงแหบเมื่อผมรู้ความหมายดังกล่าว

    " และฝ่ายหญิงจะต้องไปกินอยู่กับฝ่ายชายเป็นเวลาทั้งหมด 99 วัน เพื่อเป็นการลองใจและดูใจของอีกฝ่าย ดังนั้น ไม่ว่าเจ้าจะได้กระทำการนี้ด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม แต่เจ้าก็ได้กระทำไปแล้ว ป่าน นับแต่นี้ เจ้าต้องรับผิดชอบ รับเลี้ยงดูลูกสาวของข้าไปอยู่กับเจ้าที่โลกมนุษย์เป็นเวลา 99 วันนับจากนี้ "

    โลกมนุษย์อย่างนั้นเหรอ ผมหอบหายใจแรงขึ้นด้วยความตกใจ นี่ หมายความว่า ที่เราอยู่ที่นี่ ไม่ใช่โลกมนุษย์อย่างงั้นเหรอ

    " มะ มีทางถอนหมั้นไหมครับ " ผมพยายามถามด้วยความสุภาพ

    " มี " ท่านบาทามอสเอ่ยด้วยนํ้าเสียงที่เหี้ยมขึ้น " เจ้าต้อง ตาย "

    " มะ ไม่ดีกว่าครับ " ผมหน้าถอดสีเมื่อได้ยินคำตอบนั้น " คือ มันไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ คือ ผมยังไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของเธอเลย "

    " เจ้าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ แต่เจ้ากระทำไปแล้ว " ท่านบาทามอสเอ่ยเสียงเรียบอย่างน่ากลัว " เจ้าก็ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการเป็น ว่าที่คู่หมั้นของบุตรสาวข้า ไม่ต้องห่วงหรอก แค่อยู่กินกัน 99 วันเอง หมด 99 วันแล้วถ้าเจ้าไม่ชอบ จะขอแยกทางมาก็ได้ "

    หญิงสาวปริศนาลูกสาวจิ้งจอกเก้าหางไม่ได้มองผมเลย แต่มองไปที่พ่อของเธอด้วยแววตาที่ผมไม่เข้าใจ

    " ป่าน เจ้าจะรับปากข้าไหม ว่าเจ้าจะรับผิดชอบเรื่องนี้ " ท่านบาทามอสเอ่ยถามผม " ไม่ต้องห่วงหรอก บุตรสาวของข้าแข็งแกร่งกว่ามนุษย์อย่างเจ้ามาก เธอดูแลตนเองได้ "

    " มะ ไม่มีทางเลี่ยงเลยเหรอครับ " ผมพยายามต่อรองกับเขา " เช่น ให้เธอไม่ต้องมาอยู่กับผมงี้... "

    " ไม่ได้ " แววตาของจิ้งจอกเก้าหางดุดันขึ้นและนํ้าเสียงสั่นสะเทือนไปทั่วปราสาท " เจ้าจะรับปากรึไม่ ป่าน "

    " ระ รับก็ได้ครับ " ผมรีบตอบด้วยความหวาดกลัว " รับก็ได้ "

    " ดีมาก " ท่านบาทามอสเอ่ยด้วยนํ้าเสียงที่พึงพอใจ " นับแต่นี้ พิธีหมั้นเสร็จสมบูรณ์ "

    เกิดแสงสว่างสีขาวพุ่งเข้าตาของผม ผมมองเห็นแต่แสงสีขาวเต็มหน้าของผมเท่านั้น และผมก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย

     

    เมื่อผมรู้สึกตัวอีกครั้ง ผมลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอนของผมและเหงื่อแตกพลั่ก ผมอ้าปากหอบหายใจแรงขึ้นในขณะที่ผมมองไปรอบ ๆ เสียงนกร้องเจี้ยวจ้าวดังมาจากหน้าต่างทางซ้ายของผม ผมหันไปมองก็พบนกกระจอก 2 ตัวมาทักทายผมด้วยเสียงร้องจิ๊บ ๆ แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ทอดลำยาวลงมาผ่านหน้าต่างมุ้งลวดของผม มือของผมที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อยังจับผ้าห่มอยู่ ผมมองไปรอบห้อง ตู้เสื้อผ้า ทีวีรุ่นเก่าโต๊ะเขียนหนังสือ และปฏิทินดาราสาวเกาหลี ซอง เค เฮียว ยังแขวนเอาไว้อยู่ ผมก้มมองดูตัวผมที่ใส่ชุดนอนตัวประจำของผมอยู่อย่างสับสน

    " นี่มัน ความฝันเหรอ " ผมพึมพำออกมา และเริ่มเอามือมาเช็ดเหงื่อบนหน้าของผม " ฝันจริง ๆ ใช่ไหมเนี่ย "

    ผมเอามือตบหน้าเบา  ๆ เพราะกลัวเจ็บ แต่ผมก็รู้สึกแล้วว่าตัวเองฝันไปจริง ๆ

    " เฮ้อ ที่แท้ก็ฝันจริง ๆ ด้วย " ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ " ทั้งเรื่องคำทำนายบ้า ๆ นั่น ทั้งจูบกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ แล้วเธอก็กลายมาเป็นปีศาจ แถมยังมีสัญญาหมั้นอะไรอีก เป็นไปไม่ได้แล้ว "

    ผมเงยหน้ามองดูเพดานห้องตัวเองด้วยความโล่งใจ

    " เอาหละ เตรียมตัวไปเรียนดีกว่า " ผมยิ้มพลางเอามือจับผ้าห่มเพื่อเตรียมดึงออกมา

    " หือ นี่อะไร " ผมจับคลำของบางอย่างได้ มันทั้งนุ่ม อุ่นอย่างประหลาดเหมือนไม่ใช่หมอนข้างและกองผ้าห่ม เมื่อผมเลิกผ้าห่มขึ้นมา

    " เฮ้ย ! " ผมตะลึงสุดชีวิต เมื่อหญิงสาวปริศนาคนที่ว่านอนอยู่บนเตียงเดียวกับผม ! เธอใส่ชุดนอนสีชมพูธรรมดาแขนสั้น กางเกงขายาว และนอนขนตัวนอนข้างอยู่ข้าง ๆ ผมเมื่อกี้เนี้ย !

    " หือ " เธอลุกขึ้นมานั่งและทำท่างัวเงียเหมือนเด็กสาวไร้เดียงสาที่เพิ่งตื่นนอน " เช้าแล้วเหรอเนี่ย "

    " นะ นะ นี่เธอ " ผมยกมือชี้ไปทางเธออย่างตกใจ หน้าแดงจัด " นี่เธอมาได้ยังไงเนี่ย ! "

    " ถามได้ มาได้ยังไง " เธอบอกกับผมด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เหมือนเดิม แต่ดวงตายังปรี่ครึ่งหนึ่งเพราะเพิ่งตื่น " ก็มานอนเตียงเดียวกับเจ้านะสิ "

    " ไม่ใช่แบบนั้น เธอมาบ้านฉันได้ยังไง "

    " อ๋อ พอท่านบิดาทำสัญญาหมั้นแล้ว เจ้าก็เป็นลมหมดสติเลย ข้าเลยต้องหามเจ้ามาที่บ้านและจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เจ้าไง " เธอตอบผมหน้าตาเฉย

    " หะ หา เปลี่ยนเสื้อผ้า " ผมถามเธอไปหน้าเริ่มแดงแป้ดไป

    " ก็ใช่นะสิ ไม่เปลี่ยนแล้วจะให้เจ้านอนยังไงหละ "

    " นะ นี่ " ผมเริ่มเอาผ้าห่มมาคลุมกับตัวของผมจนเหลือแค่ส่วนคอขึ้นไปเท่านั้นที่โผล่มาเหนือผ้าห่ม " อยะ อย่าบอกนะว่าเธอ "

    " วางใจเถอะ " เธอค่อย ๆ เลิกผ้าห่มขึ้น คอเสื้อของเธอลู่ลงมาจนเห็นหัวไหล่ขาว ๆ ของเธอ ( ผมพยายามสุดขีดโดยไม่คิดมากไปกว่านั้น " ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอกหน่า "

    " มั่นใจนะ " ผมถามเธออย่างหวาดผวาและตกใจสุดขีดเมื่อเธอค่อย ๆ คลานเข้ามาใกล้ผม จนผมเริ่มสังเกตแล้วว่าเธอไม่ได้ใส่เสื้อในด้วย !

    " หรือว่าเจ้าอยากทำตอนนี้เลย " เธอค่อย ๆ คลานมาหาผม ใบหน้าของเธอยังทำสีหน้าไรอารมณ์เหมือนเดิม แต่ผมนี่สิ หน้าแดงและไม่รู้ผมคิดอะไรเตลิดเปิดเปิงไปหมดแล้ววววว !

    " มะ ไม่นะ " ผมพยายามถอยหลังออกมา ใบหน้าของเธอก็เข้ามาใกล้ผมแล้ว ไม่นะ ไม่ ม่ายยยยยยยยยย -[]- !!!

    " เอะอะอะไรเหรอลูก " เสียงพ่อของผมเคาะประตู " เช้าแล้วนะลูก เดี๋ยวก็ไปมหาลัยสายหรอก "

    " พะ พ่อ ! " ผมรีบมองไปทางประตูห้องนอนผมอย่างตกใจ " แย่แล้ว ขืนพ่อเดินเข้ามาหาเราในสภาพแบบนี้ละก็ "

    " พ่อเข้าไปนะ " ว่าแล้วพ่อของผมก็เปิดประตูเข้ามาในห้องทันที และมองดูผมกับสาวปริศนาอย่างสนใจ

    พ่อของผมนั้นมีอายุวัยกลางคน ใบหน้าของผมถอดแบบมาจากพ่อผมเด๊ะ ๆ แต่พ่อผมหน้าเข้มกว่าเท่านั้นเอง พ่ออยู่ในชุดเสื้อสีขาวและกางเกงขายาวสีดำ

    " ป่าน ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน " พ่อผมมองไปทางเธออย่างสงสัย เธอยังคงทำหน้าไร้อารมณ์เหมือนเดิม

    " พ่อครับ " ผมเหงื่อแตกซิกด้วยความกลัว " คือ พ่อ ฟังผมก่อน คือ ผมอธิบายได้ คือ เธอคนนี้ "

    " ป่าน " พ่อผมเดินเข้ามาหาผมแล้วก็เอามือจับที่หัวไหล่ของผมทั้ง 2 ข้าง ผมหลับตาแน่นด้วยความกลัว

    " พ่อครับ " ผมพึมพำออกมา " คือว่า "

    " เก่งมากลูก " พ่อผมมองผมด้วยสายตาชื่นชม " ที่พาผู้หญิงมาค้างที่บ้านได้ "

    หะ หาาาาา 0_0 !! ว่าไงนะ !

    " มีอะไรเหรอคะคุณ " แม่ของผมเดินเข้ามาตามสมทบกับพ่อของผม แม่ของผมไว้ผมยาวถึงกลางหลังและใส่ชุดผ้ากันเปื้อน " อุ้ย ตายจริง "

    " แม่ " ผมอ้าปากค้างเมื่อเห็นแม่เดินเข้ามา พ่ออาจไม่ว่า แต่แม่นี่สิ ตาย ๆ ๆ ๆ

    " ไปเถอะที่รัก " พ่อผมปล่อยมือจากหัวไหล่ของผม " ลูกเราโตแล้ว "

    " นั่นนะสิคะคุณ " แม่ของผมยิ้มอย่างดีใจเมื่อมองที่ผู้หญิงที่ยังนั่งคุกเข่าอยู่บนเตียงข้างหน้าผม " ในที่สุดเราก็เป็นลูกผู้ชายในสายตาแม่แล้ว "

    " แม่ค้าบบบ -[]- lll "

    " งั้น แม่จะเตรียมอาหารเช้าให้นะลูก " แม่ยิ้มให้ผมอย่างเจ้าเล่ห์ " อย่านานนักนะลูก "

    พ่อส่งยิ้มให้ผมสักพักแล้วก็เดินตามแม่ผมออกไปนอกห้องนอนผม แล้วก็ปิดประตูห้อง จนตอนนี้เหลือแค่ผมกับเธออยูกันสองต่อสอง

    " เฮ้อ นึกว่าจะตายแล้วซะอีก " ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วก็มองเธออีกครั้ง เธอมองดูผมอย่างสนใจ สักพักหูกับหางของเธอก็โผล่ออกมาจนมีสภาพเป็นครึ่งคนครึ่งจิ้งจอกเหมือนเดิม ผมต้องอ้าปากอย่างตกใจ

    " นี่ แล้ว สรุปเรื่องทั้งหมดนี่ " ผมถามเธออย่างกลัว ๆ กล้า ๆ " ไม่ใช่ความฝันใช่ไหม "

    เธอพยักหน้าตอบผม

    " ตกลง ฉัน หมั้น กับ เธอ แล้ว ขะ ใช่ไหม "

    เธอพยักหน้าตอบผมอีกครั้ง

    " ละ แล้ว เธอต้องมาอยู่กับฉันถึง 99 วัน ใช่ไหม " ผมถามเธอไปเหงื่อแตกซิกไป

    เธอก็พยักหน้าตอบผม

    ผมเอาหน้าซุบกับผ้าห่มอย่างลำบากใจ นี่ผมไม่มีเพื่อนหญิง เลยอาจไม่กล้าแม้กระทั่งจับตัวอะไรเลย แต่นี่ผมกับเธอต้องมานั่งกินนอนกับเธออีกเหรอเนี่ย !

    " แล้ว เธอ ไม่โกรธผมเลยเหรอครับ " ผมเงยหน้าถามเธอด้วยความรู้สึกผิดขึ้น

    " ข้าไม่ว่าอะไรหรอก มันเป็นอุบัติเหตุ " เธอยักไหล่แล้วก็กระโดดลงจากเตียงอย่างสง่างาม หางของเธอแกว่งไปมาอย่างน่ารักจนผมอยากจะไปจับมันเล่นซะจริง ๆ

    " แล้วเธอมีชื่อว่า อะไรนะ "

    " อะเมะ " เธอบอกผม " ข้ามีนามว่า อะเมะ "

    " อะเมะเหรอ " ผมทวนชื่อเธออีกครั้ง ชื่อประหลาดดีวุ้ย " งะ งั้น ยินดีที่ได้รู้จักนะ "

    ครั้งแรกที่ผมเห็นเธอยิ้มออกมา มันทำให้ผมหน้าแดงออกมาโดยที่ผมไม่รู้ตัว เพราะเธอยิ้มออกมาแล้วน่ารักมาก

    " เอ้า ไปซะสิ "

    " หะ หา ไปไหนเหรอ "

    " ก็ไปอาบนํ้าสิ เจ้าไปอาบก่อน เดี๋ยวข้าไปอาบตาม " เธอชี้ไปที่ห้องนํ้าข้างนอกห้องนอนผม

    " งะ งั้นเหรอ " ผมมองดูใบหน้าของเธออย่างกับต้องมนต์

    " ไม่รีบไป เดี๋ยวข้าช่วยถอดเสื้อผ้าให้เอาไหม "

    " วะ แว๊กกกก ไม่ต้องงง ผมไปเองได้คร้าบบบ "  ผมรีบพุ่งตัวออกไปที่ห้องนํ้าทันที เมื่อผมปิดประตูห้องนํ้าแล้ว ผมเอาหลังพิงกับประตูเอาไว้แล้วก็ถอนหายใจอีกครั้ง

    " นี่มันเรื่องอารายกานเนี่ยยยยยยยย ! ! "

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×