คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ตอนพิเศษ - เที่ยวตะลุยเหนือ อีสาน ตอนสาม : บุคคลที่มากับรถตู้โรงเรียนคือ....
" แล้วรถคันนั้นพาใครมากันแน่ " ฟ้าถามทุกคนในบ้านพักอย่างสงสัย หลังจากที่ทุกคนไปดูรถตู้ปริศนากันแล้ว ทุกคนต่างพร้อมใจกันย้อนกลับมานั่งรวมกันอยู่ในห้องนั่งเล่มรวม และต่างคนต่างก็เงียบและไม่พูดไม่จา จมปรักอยู่กับความคิดของตนเอง และในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว ขอร้องให้ชายไปสืบดูว่ารถคันนั้นพาใครมากันแน่ ซึ่งชายก็ตกลงและรีบออกไปอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นไม่นาน ฟ้าก็ถามขึ้น
" ไม่รู้เหมือนกัน " หัวหน้าห้องตอบ เขานั่งอยู่บนโซฟาและก็ใช้ข้อศอกท้าวกับขาหน้าของเขา กุมมือทั้ง 2 ข้างและก็ซบกับปากของเขาเอง
" จะใช่นักเรียนมาเข้าแคมป์รึเปล่า " ซาระถามขึ้น เพราะในคิงฟอร์ดจะมีชมรมออกจัดค่ายไปนอนค้างและทำกิจกรรมที่ต่างจังหวัด
" ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะว่าในสายมัธยมปลายไม่มีชมรมไหนออกมาจัดค่ายไกลถึงที่นี่ " หัวหน้าตอบ " เหนือสุดของประเทศไทย จังหวัดน่านเนี่ย "
" งั้นใครมากันนะ " จ๋ามองไปทางหน้าต่างที่เห็นกำแพงบ้านพักข้าง ๆ บ้านพักของพวกเรา บรรยากาศการมาเที่ยวของพวกเรานั้นเริ่มตรึงเครียดลงทุกขณะ เพราะพวกเราไม่มีใครรู้เลยว่าใครมากับรถโรงเรียนกันแน่
" นี่ " ปอกระซิบถามผม " พี่เฟิร์นมารึเปล่า "
" ก็เป็นไปได้ " ผมมองไปทางหน้าต่างเพื่อมองดูบ้านพักหลังนั้นบ้าง " เพราะพี่เฟิร์นสัญญากับพวกเราว่าถ้าพวกมันออกมาโจมตีพวกเรา พี่เขาจะมาช่วยทันที "
" งั้นก็แปลว่าพี่เฟิร์น ดอกเตอร์หรือทีมสายลับมาหมดเลยเหรอเนี่ย " ปลาถามผม " แล้วทำไมไม่บอกพวกเรากันเลยนะ "
" ไม่รู้เหมือนกัน " ผมตอบอย่างเห็นด้วย เพราะไม่ว่าพี่เฟิร์นจะทำอะไรก็ต้องบอกพวกเราก่อนเสมอ ถ้าพี่เฟิร์นจะตามพวกผมมาที่น่านได้ก็ไม่น่าใช่เรื่องแปลก เพราะปอกับปลายังมีเรดาร์ติดอยู่ที่วิกผมปลอม และผมก็ยังมีซิปเครื่องติดตามฝังอยู่ในชุดชั้นในที่ผมใส่อยู่ ( คิดเรื่องนี้ทีไรเสียววาบทุกที -*- )
ประตูห้องเปิดออก ส่งผลให้ทุกคนลุกขึ้นหันไปมองดูที่ประตู ชายเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
" ว่าไงชาย " ผมถามชายเมื่อเขาปิดประตู " สรุปแล้วใครมา "
" อาจารย์ " ชายตอบทุกคน " ฉันขอไปดูรายชื่อแขกที่มาพักบ้านข้าง ๆ พวกเราละ เขาบอกว่าเป็นครูจากโรงเรียนคิงฟอร์ด มาค้างที่นี่คืนเดียวนะ "
" ทำไวดีวะ " เทรนพึมพำออกมาอย่างลนลาน " รายงานยังไม่ได้ทำเล้ยยย "
ถูกอย่างที่เทรนมันบอก อาจารย์ได้สั่งให้พวกผมทำรายงานกันช่วงปิดเทอม แถมไม่ได้มีแค่วิชาเดียวด้วย มีกันเกือบทุกวิชา แถมเป็นรายงานเดี่ยวอีกต่างหาก ถึงจะบอกว่ากำหนดส่งจะเป็นตอนเปิดเทอมก็เหอะ แต่เราก็ยังไม่ได้ทำเลยวุ้ย -*-
" เอางี้ " ต้าพูดเสนอขึ้นมา " ซาระ เราต้องไปกินอาหารกันที่เรือนริมนํ้า ร้านอาหารของรีสอร์ทใช่ไหม ""
" ไฮ้ ! " เธอตอบ
" แต่มันต้องผ่านบ้านพักที่อาจารย์อยู่นะ " จ๋าบอก
" เราก็ต้องแอบซี่ " ต้าเดินออกไปทางหน้าต้าง แง้มผ้าม่านที่พวกผมปิดหน้าต่างเอาไว้ไม่ให้ใครมาเห็น " ตกกลางคืนที่นี่ก็น่าจะมืด ดังนั้นถ้าเรารอจนมืดแล้วเราก็แอบเดินผ่านบ้านพักไปยังเรือนริมน้ำเพื่อไปกินข้าวเย็นกัน จากนั้นก็รีบกลับ อย่าให้อาจารย์เห็นพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์คนไหนก็ตาม แค่นี้เอง ง่าย ๆ ใช่มะ "
" ตกลง " แมนตอบอย่างเห็นด้วย และดูเหมือนจะไม่มีใครคัดค้านความคิดของแมน ถึงผมจะฟังดูแล้วยังมึน ๆ งง ๆ อยู่ก็ตาม แต่ก็ต้องทำแหละนะ
" เป็นนักเรียนที่ดีจริง ๆ " หัวหน้าห้องยืนกอดอกแล้วก็มองดูพวกผมสุมหัววางแผนเรื่องชั่ว ๆ อยู่
" หนวกหูเฟร้ย " ต้าสวนกลับอย่างหงุดหงิด ชายมองดูพวกผมแล้วก็ส่ายหัวพลางยิ้มออกมาเล็กน้อย
เหอ ๆ แหงหละ 2 คนนี้ทำรายงานกันเสร็จแล้วนี่หว่า = = ^ ว่าแต่อาจารย์อะไรมาที่นี่หว่า ชักเสียว ๆ ยังไงไม่รู้วุ้ย
--------------------
เมื่อเริ่มมืด ดวงอาทิตย์ลับลงจากขอบฟ้า ความเงียบและความมืดมิดก็มาเยือนพวกผม เสียงจิ้งหรีดร้องดังระงมหู ข้างนอกมืดสนิทเอามาก ๆ ลมหนาวพัดเข้าในเยือนในบ้านพักของพวกเราผ่านทางหน้าต่างมุ่งลวดจนราวกับว่ามีใครเปิดแอร์ข้างนอกให้พวกผม ถึงผมจะไม่รู้สึกหนาวอะไรมากก็ตาม แต่ชายก็เตือนให้ทุกคนไปใส่เสื้อกันหนาว เนื่องจากผมขี้เกียจเอาอะไรมากมาก จึงใส่แค่เสื้อกันหนาวมาตัวเดียวเท่านั้น ต่างจากฝนที่เธอเอาหมวกไหมพรมแบบชาวดอยมาใส่ด้วย หมวกไหมพรมของเธอนั้นเป็นสีชมพูอ่อนน่ารัก และเมื่อผมมองดูเธอจากเสื้อกันหนาวสีชมพูอ่อนที่เธอใส่มาด้วยแล้ว บอกได้เลยว่าน่ารักเอามาก ๆ เลยครับ
" มองอะไรเหรอมิ้น " ฝนถามผมอย่างเขิน ๆ จนผมต้องรีบส่ายหัวเพื่อให้กลับมาอยู่ในโลกแห่งความจริง
" เปล่าจ้า ฝนน่ารักดีออก "
ฝนยิ้มอย่างดีใจ เมื่อผมชม ผมรีบแก้เขินโดยการรีบเปิดประตูออกจากห้องนอนของผมกับฝนแล้วทำทีไม่สนใจกับคำพูดเมื่อกี้ อ๊ายยยย เค้าเขิน
" มาแล้วสินะ " ต้าทักผมเมื่อผมกับฝนเดินลงมาเป็นห้องสุดท้าย เพราะทุกคนใส่เสื้อกันหนาวกันเสร็จแล้ว ทุกคนอยู่ในเสื้อกันหนาวกันหมดยกเว้นต้ากับหัวหน้าห้อง มีคนใส่หมวกไหมพรมอีก 2 คนนอกจากฝนก็คือ ซาระกับจ๋า โดยสาว ๆ จะใส่เสื้อกันหนาวสีอ่อนไม่ก็สีขาวกัน ยกเว้นฟ้าคนเดียวที่ใส่สีฟ้าสมกับชื่อของเธอ ส่วนแมนนั้นใส่เสื้อกันหนาวสีเขียวลายทหารโคตรเท่จนผมอยากใส่มั่ง เทรนนั้นเขาใส่เสื้อกันหนาวแบบชุดลุยเทือกเขาหิมาลัยแบบนั้นได้ นอกนั้นก็ใส่สีอ่อนเหมือนกัน จะมีก็หัวหน้าห้องกับต้าเนี่ยแหละที่ผมสงสันว่าทำไมมันไม่ใส่เสื้อกันหนาว ยิ่งต้าที่ใส่เสื้อแขนสั้นด้วยแล้ว
" ทำไมนะเหรอครับ " หัวหน้าห้องบอกเมื่อผมถามเขาเรื่องนี้ " ข้างในผมใส่เสื้ออีกชั้นครับ ไม่เป็นไรหรอก "
" ส่วนผมนะเหรอครับ ลูกผู้ชายอย่างผมไม่เคยกลัวหนาวหรอกครับ " ต้ายึดอกโชว์ให้ผมดูเมื่อเขาเฉลยให้ฟัง เหอ ๆ ตามใจมันแล้วกันวุ้ย
" ทุกคน " แมวเอ่ยออกมาเสียงเบา เธอมองดูบ้านพักข้าง ๆ ที่เป็นอาจารย์จากโรงเรียนผมพักกันอยู่ " ในบ้านไฟดับหมดแล้ว "
" ดีหละ " ต้าทำท่าเบ่งกล้ามด้วยมือขวาแล้วก็ใช้มือซ้ายจับที่กล้ามของเขา " เริ่มปฏิบัติภารกิจกันได้แล้วทุกคน "
ต้าค่อย ๆ เดินไปที่ประตูหน้าบ้าน จากนั้นก็แง้มประตูเปิดหน่อยนึง จากนั้นก็เริ่มออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็วโดยการเหยียบพื้นด้วยปลายเท้า จากนั้นต้าก็จะให้สัญญาณโดยการเคาะประตูห้องเบา ๆ แมวรีบออกไปต่อเป็นคนที่ 2 จากนั้นก็ทำแบบนี้กันทุกคนจนผมเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากบ้านพัก
อากาศเย็นเข้าใส่หน้าผมเต็ม ๆ ถึงลมจะนิ่งและยังไม่มีลมพัดเข้ามาก็ตาม แต่ความเย็นที่เข้ามาปะทะร่างของผมก็ทำให้ผมสั่นได้ ใบหน้าของผมเย็นเฉียบอย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสกับอากาศยามคํ่าคืนของเมืองเหนือ ผมรู้สึกได้ว่าจมูกของผมเย็นเมื่อสูดเอาลมเย็น ๆ เข้าไป ผมเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ใส่รองเท้าแตะและไม่ใส่ถุงเท้า ทำให้ฝ่าเท้าของผมเย็นมากเมื่อสัมผัสกับรองเท้าแตะเย็นเฉียบราวกับมีคนเอามันเข้าไปแช่ในตู้เย็น เสียงจิ้งหรีดดังขึ้นเมื่อผมออกไปข้างนอก บรรยากาศของรีสอร์ทในความมืดนั้นมืดเอามาก ๆ สวนดอกไม้เมืองหนาวฝั่งตรงข้ามบ้านพักของพวกผมนั้นมองไม่เห็นสีสันงดงามเลย มีแต่ความมืดและสีดอกไม้คลํ้า ๆ เท่านั้น จะมีแสงสว่างก็แสงไฟที่มาจากเสาไฟที่ทางรีสอร์ทตั้งเอาไว้เป็นจุด ๆ เท่านั้น หลอดไฟตั้งอยู่บนเสาของรั้วเป็นรูปทรงกลมและแสงส่องออกมาตัดฉากกับดอกไม้ที่ปลูกอยู่ข้าง ๆ หลอดไฟได้สวยงามมาก ลมพัดเข้าหาพวกผมระลอกหนึ่งทำให้ผมถึงกับต้องล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเพราะความเย็นที่เข้ามาหาพวกผม ตาของผมมองไปทางบ้านพักที่มีรถตู้ของโรงเรียนจอดอยู่อย่างรวดเร็วเพื่อมองดูว่ามีใครอยู่ไหม จะมีก็แค่แสงไฟจากระเบียงหน้าบ้านพักเท่านั้น
ต้าซึ่งยืนอยู่ตรงบริเวณสนามหญ้าสวนดอกไม้เมืองหนาวกวักมือเรียกผมในความมืด เมื่อผมหันไปมองก็พบว่าทุกคนยืนอยู่บนสนามหญ้ากันแล้วทุกคน ผมจึงรีบเดินก้าวขายาว ๆ เพื่อไปหาทุกคนบนพื้นสนามหญ้าโดยไวที่สุด
" ฟังนะ " ต้าบอกกับผมด้วยเสียงกระซิบ " เราจะเดินไปทางสนามหญ้าแทนเพราะว่าถนนจะปูด้วยหิน ถ้าเราเดินจะมีเสียงดัง ดังนั้นเดินบนสนามหญ้าเนี่ยแหละจะเงียบที่สุดแล้ว "
ทุกคน ( ยกเว้ยชายกับหัวหน้าห้อง ) พยักหน้าอย่างตั้งใจ
" ดีหละ ตามมา " ต้าเดินนำทุกคนด้วยเสียงเดินที่แผ่วเบา พวกเราเดินราวกับย่องอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้มีเสียงฝีเท้าดังออกมา ยกเว้นชายกับหัวหน้าห้องที่เดินตามสบายแบบปกติ
เอ่อนี่ ผมคิดในใจอย่างทะแม่ง ๆ ในแผนการของต้าขณะที่ย่องเดินเหมือนคนอื่น ๆ ทำอย่างกับเราจะไปปล้นบ้านเขาอย่างนั้นอะ
พวกผมเดินเลยบ้านพักไปอีกแค่ 2 - 3 หลังก็ถึงสถานที่หมายของพวกเราแล้ว ร้านอาหารของรีสอร์ท ' เรือนริมนํ้า ' นั้นดูจากความมืดแล้วดูเหมือนมันตั้งอยู่บนพื้นดินมากกว่าบนนํ้านะ มีทางเดินที่ต้องเดินเข้าไปอีกเล็กน้อย มีรั้วที่ทำจากไม้วางเรียงเป็นทางอยู่ 2 ข้างทาง และข้างในก็เปิดไฟเตรียมรอรับนักท่องเที่ยวอย่างพวกผมอยู่
" ฮ่าฮ่า สำเร็จ " ต้าพึมพำออกมาอย่างดีใจ " ในที่สุด เราก็ถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย "
ต้ารีบกึ่งเดินกึ่งกระโดดตัวปลิวอย่างเริงร่า แต่แล้วเมื่อเขายืนอยู่บนพื้นยกระดับของร้านอาหารที่สูงกว่าพื้นดินที่พวกผมเหยียบอยู่เท่าบันไดหนึ่งขั้น เขาก็หยุดกึกทันที และยืนตัวตรงนิ่งแถมแขนทั้ง 2 ข้างก็แนบติดกับลำตัวด้วยสิ
" มีอะไรเหรอต้า " แมนเดินไปถาม " ก็เราหลบอาจารย์มาได้สำเร็จแล้ว........... "
แมนหยุดพูดบ้าง ผมเดินเข้าไปดูข้างในด้วยความสงสัย แล้วผมก็ต้องคลายความสงสัยทันที
" ไม่ใช่เหรอ " แมนพึมพำต่อจนจบประโยค
ภายในร้านอาหารของรีสอร์ทนั้นมีโต๊ะที่ต่อเรียงยาวกัน พื้นของร้านอาหารทำจากไม้และเสาก็ทำด้วยปูน ทางขวาเป็นเค้าเตอร์ของพนักงานในรีสอร์ท ส่วนทางซ้ายนั้น เฮือก !
อาจารย์พวกผม ทุกกระบวนวิชาและทุกท่านในสายชั้น ม. 5 กำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ ทุกท่านใส่เสื้อกันหนาวลายสกรีนตราโรงเรียน และทุกท่านก็มองมาทางพวกผมด้วยความประหลาดใจ
อ๊ากกกก ! ไม่ได้มากันท่านเดียวหรือสองท่าน แต่มากันทุกคนเยยยยยยย !
" อ้าว ไม่นึกไม่ฝัน " อาจาย์ที่ปรึกษาห้องผมทักขึ้น
" มาได้ยังไงลูก " อาจารยผู้หญิงที่สอนวิชาเคมีทักขึ้นทั้งรอยยิ้ม
" มาเที่ยวกันเหรอ " อาจารย์ผู้ชายอีกคนที่สอนวิชาแบตมินตันให้พวกผมเอ่ยอย่างใจดี
พวกผมนั้นยืนกันนิ่งทุกคน และมองดูอาจารย์ด้วยความประหลาดใจ ทันใดนั้นผมก็นึกขึ้นได้ว่าในรีสอร์ทนี้มีร้านอาหารอยู่แค่ร้านเดียว นั่นหมายความว่าอาจารย์ก็ต้องมาทานข้าวกันที่นี่นะสิ ไอ้ต้าเอ้ยยยย พาพวกเรามาซวยแล้วไง
" หวะ หวัดดีครับ อาจารย์ " ต้าทำท่าไหว้เคารพนอบน้อมที่สุดเท่าที่ผมจำความได้ ผมแหล่มองดูตัวมันทางหางตาก็เห็นขาของมันสั่นด้วยวุ้ย งานเข้าแล้วไง
" การบ้านที่ครูสั่งไป ทำกันรึยัง " อาจารย์ที่สอนวิชาสังคมถามพวกผมด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง อาจารย์ค้าบบ จะมาถามทำม้ายตอนนี้
" ใช่ ๆ แล้วรายงานที่ครูสั่งหละ "อาจารย์ที่สอนวิชาเลขถามด้วย
" โครงการที่สั่งหละ ทำเสร็จรึยัง "
" ซีสที่ครูให้หละ "
กลายเป็นว่าอาจารย์ผมได้ปลุกชนวนให้อาจารย์ท่านอื่นถามพวกผมเรื่องการบ้านและรายงานที่สั่งกันในช่วงปิดเทอมเลย งานเข้ารอบสอง ฮือ ซวยแย้ววว
" เอ่อ คือ " แมวรีบตอบแทนพวกผมจนเสียงของเธอติดอ่าง " คือ คือว่าหนูนะ คือ พวกหนูนะคะ คือ "
พวกผมนั้นยืนก้มหน้านิ่งกันทุกคน ยกเว้นชายกับหัวหน้าห้องที่ทำหน้าตาโล่งใจเพราะพวกเขาทำงานกันเสร็จแล้ว แง้ ๆ งานยังไม่ได้แตะเลย
" โอ้ย ไม่ต้องห่วง " อาจารย์ที่ทักพวกผมคนแรกเอ่ยขึ้นอย่างใจดี " ตอนนี้ครูให้อิสระพวกเธอเต็มที่ เปิดเทอมแล้วเอามาส่งด้วยแล้วกัน "ฃ
" นั่นสิ " อาจารย์สอนแบตมินตันพูดเสริม " ตอนนี้พวกเธอเที่ยวกันให้เต็มที่นะ "
พวกผมเงยหน้ามองดูอาจารย์ด้วยความโล่งใจ โอ้ววว เป็นความจริงรึนี่ รอดตายแล้วเรา
" โอ้วว " ต้ารีบวิ่งเข้าไปหาอาจารย์ประจำชั้นพวกผม ก้มลงคุกเข่าแล้วก็เริ่มกราบที่เท้าของของอาจารย์ผมท่ามกลางสายตาของอาจารย์ท่านอื่นที่มองดูต้าด้วยความตกตะลึง " ขอบพระคุณมากคร้าบบบ "
" อีต้า ! " แมวแวดออกมาดังลั่นด้วยความตกใจ หาเรื่องให้พวกเรางานเข้ารอบสามรึยังไงฟะไอ้ต้า
" บอกแล้ว " อาจารย์สอนฟิสิกส์เดินเข้ามาหาพวกผมอย่างขบขัน " ให้ไหว้พระก่อนออกจากโรงเรียนก็ไม่เชื่อ ดูซิ มาเหนือสุดของประเทศยังมาเจอพวกครูเลย "
จากสถานการณ์ตรึงเครียดก็กลายเป็นสถานการณ์ความสนุกสนานและตลกกันแทน พวกผมยิ้มให้อาจารย์อย่างเขอะเขิน ไม่นึกไม่ฝันเหมือนกันว่าจะได้มาเจออาจารย์ที่นี่ด้วย แถมไม่ว่าพวกผมเรื่องที่ยังไม่ได้ทำการบ้านอะไรกันด้วย
จากนั้นพวกผมก็เข้าไปร่วมวงกินอาหารกับอาจารย์ เนื่องจากพวกผมและคณะทัวร์ของอาจารย์ได้สั่งอาหารชุดเดียวกัน ดังนั้นพนักงานของรีสอร์ทจึงได้นำมาเสิร์ฟให้ 2 ชุด ได้แก่อาหารพื้นฐานอย่างข้าวผัด , ทอดมันชิ้นเบ่อเร่อ , ไก่ทอดเกลือ , ต้มยำ และอาหารอื่น ๆ มากมาย และที่ผมชอบที่สุดก็คือเห็ดหอมสดผัดนํ้ามันหอย อาจารย์ประจำชั้นที่นั่งข้าง ๆ ผมบอกว่าเห็ดหอมสดต้องมากินที่เหนือถึงจะอร่อย
" เอามาแกล้มกับเบียร์นะ อร่อยสุด ๆ เลย " อาจารย์พูดไปพลางทำท่าเปรี้ยวปากไป เหอ ๆ แต่บนโต๊ะอาหารนั้นก็ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่อย่างใด เสิร์ฟแต่นํ้าเปล่าและนํ้าอัดลมกัน
ถัดจากบริเวณที่พวกผมนั่ง ชายถามอาจารย์สอนเลขอย่างกระตือรือร้นว่าพวกท่านมาทำอะไรที่นี่ฃ
" พวกครูมาดูงานกันที่นี่นะ " อาจารย์ตอบ " ไปดูเขาทำเกลือนํ้าจืดกัน เป็นเกลือที่จุดเจอจากดิน และไปต้มพูพูคากันนะ "
" อ๋อ พวกซาระก็จะไปดูกันคะ " ซาระตอบอาจารย์อย่างกระตือรือร้น " โปรแกรมพรุ่งนี้คือจะไปดูต้นชมพูพูคากัน "
" มันเป็นยังไงเหรอครับอาจารย์ " แมนถามอย่างสนอกสนใจ เพราะแมนชอบวิชาชีวะ
" น่าไปดูนะ มันหาดูได้จากที่นี่ที่เดียว " อาจารย์สอนวิชาชีวะบอกแมน
ฝั่งตรงข้ามที่พวกผมนั่งกินกัน อาจารย์อีกกลุ่มถามพวกต้าว่ามาได้ยังไง
" ขับมาถึงที่นี่เลยเหรอ " อาจารย์ประจำชั้นพวกผมถามต้าอย่างตกตะลึง เพราะอาจารย์ก็รู้ว่าต้ามีใบขับขี่แล้ว " เก่งจังวุ้ย ลูกศิษย์ฉัน "
" ไม่หรอกครับอาจารย์ " ต้าตอบอย่างเขิน ๆ
" นี่ ๆ มิ้น " ฝนที่นั่งข้าง ๆ ผมเอียงคอมากระซิบกับผม " คุยกับอาจารย์ก็สนุกดีเหมือนกันนะ "
" นั่นสิ " ผมยิ้มให้เธอ เพราะปกติในโรงเรียนก็มักเป็นการสอนกันซะส่วนมาก พวกผมเองก็ไม่ได้มาคุยเล่นกับอาจารย์แบบนี้ด้วย เป็นความอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
" นี่ กนกพร หัวปลากินไม่หมดเลย แทะให้หมดสิ เสียของ " อาจารย์ที่นั่งข้าง ๆ ติผมเพราะผมไม่ได้แทะหัวปลาและเอาไปวางบนจานใส่เศษอาหาร
แง้ อาจารย์ค้าบ ผมไม่ชอบกินง่า
-----------------------------------
หนึ่งชั่วโมงกว่าที่พวกผมนั่งกินและคุยกับอาจารย์อย่างสนุกสนาน และเมื่อของหวานบนจานว่างเปล่า ก็ถึงเวลาแยกย้ายกลับกัน ชาย หัวหน้าห้อง ฟ้าและซาระเดินคุยเล่นอยู่กับอาจารย์ข้างนอก ส่วนผมนั้นขี้เกียจอยู่ข้างนอกนาน ๆ เพราะอากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ ( และขี้เกียจ ) พวกผมที่เหลือจึงขอตัวกลับมาอาบนํ้าและมานั่งคุยเล่นกันในบ้านพัก เนื่องจากในห้องนอนมีห้องนํ้าส่วนตัว และผมบอกให้ฝนไปอาบนํ้าก่อน เพราะผมพอมองออกว่าฝนนั้นอยากอาบนํ้ามาตั้งแต่ขากลับแล้ว เพราะเห็นเธอมองดูตามร่างกายเธอแล้วก็ดม ๆ แขนของเธอบ่อย ๆ ผมกับคนอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้ไปอาบนํ้าเลยมานั่งคุยนั่งเม้าท์กันสนุกปาก ผมกำลังคุยกับแมนอยู่เรื่องของอาจารย์เพราะว่าอาจารย์มาค้างที่นี่แค่คืนเดียวแล้วพรุ่งนี้พวกท่านก็จะกลับเมืองหลวงกันแล้ว ผมรู้สึกว่านี่มันผ่านมาตั้งนานแล้ว ฝนน่าจะอาบนํ้าเสร็จแล้ว ผมเลยขอตัวคนอื่น ๆ ขึ้นไปห้องพักตัวเองเพื่ออาบนํ้าบ้าง
ประตูห้องไม่ได้ล็อค เมื่อผมเข้าไปก็พบผ้าเช็ดตัวของรีสอร์ทวางอยู่บนเตียงของฝนอยู่เลย ยังไม่ได้อาบนํ้าอีกเหรอเนี่ย
" มิ้น " เสียงฝนทักผมเมื่อผมปิดประตูดังออกมาจากห้องนํ้า " มิ้นใช่ไหม "
" ใช่ " ผมตอบเธอไป เธอแง้มประตูห้องนํ้าออกมาเล็กน้อยแล้วก็โผล่ให้เห็นแค่หัวของเธอที่เปียกนํ้าและบริเวณต้นคอของเธอ " มิ้นจังหยิบผ้าเช็ดตัวทีซิ ฉันลืมเอาเข้าไป "
ผมเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและส่งให้เธอโดยพยายามไม่มองไปที่ตัวของเธอ แขนขาว ๆ ของเธอยื่นออกมารับผ้าเช็ดตัวจากผมแล้วเธอก็ปิดประตูห้องนํ้า นี่ขนาดผมมองดูสัดส่วนผู้หญิงของผมจนเคยชินแล้วนะ ทำไมผมยังต้องรู้สึกเขิน ๆ อยู่น้า
" เสร็จแล้วจ้า มิ้น " ฝนเปิดประตูห้องออกมาเมื่อเธอพันผ้าเช็ดตัวกับร่างอันเปลือยเปล่าของเธอแล้ว " ใช้ต่อได้เลยจ๊ะ "
" ผมตอบเธอ พยายามเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบชุดนอนออกมาจากตู้โดยไม่หันไปมองเธอ ไม่หันไปมอง ไม่หัน ไม่หัน ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
แต่แล้วเนื่องจากตู้เสื้อผ้าก็มีอยู่ตู้เดียวในห้องพัก ฝนจึงมายืนรอผมหยิบเสื้อผ้าข้าง ๆ โดยที่ผมไม่รู้ตัว เมื่อผมหยิบชุดนอนแล้วก็หันออกมาเพื่อจะไปหยิบผ้าเช็ดตัวบนเตียงของผมต่อ ผมก็ประจันหน้ากับฝนในชุดผ้าขนหนูผืนเดียวพอดี
ผมองดูร่างของเธออย่างตกตะลึงในความงามของเธอ ไม่น่าเชื่อว่าฝนเมื่ออยู่ในชุดผ้าขนหนูผืนเดียวแล้วเธอจะน่ารักและ Sexy ปานนี้ ผิวกายของเธอขาวเนียนสะอาดถึงจะมีริ้วรอยตามตัวบ้าง แต่ก็ไม่ทำให้ความงามของเธอลดน้อยลงเลยแม้แต่นิดเดียว กลิ่นสบู่เหลวและกลิ่นแชมพูล่อยลอยออกมาจากร่างของเธอ มันช่างหอมหวานยังไงก็ไม่รู้
" นี่ มิ้นจะจ้องตัวเค้าอีกนานไหมอะ " ฝนถามผมอย่างสงสัย " หรือว่ามิ้นจังเป็นเลสเปี้ยน "
" มะ ไม่ใช่ " ผมรีบฟื้นสติของผมอย่างรวดเร็วแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและพุ่งไปที่ห้องนํ้าอย่างไว ใจของผมเต้นโครมคราวอย่างตกใจและตื่นเต้น ไม่นะ นี่ผมทำบ้าอะไรออกไปเนี่ย อยู่ ๆ ไปมองดูฝนในสภาพแบบนี้ได้ยังไงกัน ไม่สมกับเป็นลูกผู้ชายเลย
เมื่อผมเข้าไปในห้องน้าแล้วก็หันหน้าออกมาเพื่อปิดประตู ฝนใส่กางเกงชุดนอนเรียบร้อยแล้ว แล้วก็ปลดผ้าขนหนูที่เธอใส่จนเผยให้เห็นหลังเปลือยเปล่าของเธอ ผมรีบปิดประตูห้องอย่างรวดเร็ว
ไม่คิดมาก ผมคิดในใจพลางรีบถอดชุดเสื้อผ้าออกมาอย่างรวดเร็ว เนื่องจากฝนใช้เครื่องปรับนํ้าอุ่นอาบนํ้าทำให้กระจกเงาเหนืออ่างล้างหน้าเป็นฝ้า ผมจึงมองไม่เห็นหุ่นของตัวเอง ไม่คิดมาก ผมยังคิดอยู่อย่างร้อนรนเมื่อผมยื่นมือไปเปิดก๊อก ไม่คิดมาก ไม่คิดมาก ไม่คิดม๊ากกกก
มือของผมหมุนก๊อกฝักบัวทันทีโดยไม่ได้เปิดเครื่องทำนํ้าอุ่น ทำให้นํ้าเย็นราวกับนํ้าป่าไหลเข้าสู่ร่างของผมอย่างจัง
" ย๊ากกกกกกก เย็น ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ฯลฯ "
ผมร้องพึมพำออกมาไม่ได้ศัพท์เมื่อนํ้าเย็นราวกับนํ้าป่าโถมใส่ตัวผมโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ผมวิ่งวนไปวนในห้องนํ้าจนลืมไปเลยว่ามันต้องเปิดเครื่องทำนํ้าอุ่น ขณะเดียวกันนํ้าเย็น ๆ หนาว ๆ ก็สาดใส่ผมเรื่อย ๆ อ๊ากกกก หนาวววววววว
ฝนที่ตอนนี้แต่งตัวเสร็จแล้วเธอกำลังเอาไดรเป่าผมเป่าผมของเธอให้แห้งอยู่ เธอนั่งมองดูประตูห้องนํ้าโดยมีเสียงผมร้องลั่นออกมาอยู่ข้างใน
" แหม๋ มิ้นเนี่ย ตลกตลอดเวลาเลยนะ " ฝนยิ้มอย่างขบขันให้ผมในห้องนํ้า
--------------------------------
หลังจากที่ผมอาบนํ้าเสร็จ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ซุกตัวกับผ้าห่มบนเตียงจนตัวอุ่นแล้ว ( ก็นํ้ามันหนาว ) ผมก็ลงไปคุยกับทุกคนในห้องนั่งเล่นรวม ( ปรากฎว่าปอกับปลาไม่ได้ลงมาด้วย ) ปรากฎว่าชาย ฟ้าและซาระกลับและอาบนํ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกผมเลยมานั่งคุยเล่นกันต่ออย่างสนุกสนาน ยิ่งคุยยิ่งเพลิน ยิ่งเม้าท์ยิ่งมันส์ปากวุ้ย
ทันใดนั้นก็ได้มีแขกที่ไม่รับเชิญเกิดขึ้น ฝนเอามือปัด ๆ ที่หัวของเธอ
" มีอะไรเหรอ ฝน " ผมถามเธออย่างสงสัย
" อ๋อ ยุงนะ " เธอตอบอย่างไม่ใส่ใจ
ยุงตัวเจ้าปัญหาบินผ่านตัวฝนไป แล้วก็บินไปบริเวณที่แมวกับแมนนั่งติดกันอยู่ ยุงนั้นบินอยู่บริเวณใบหน้าของเธอ แต่มันหาได้มาเกาะหน้าของเธอเพื่อหวังดูดเลือดของเธอไม่ มันบินไปมารอบ ๆ หน้าของเธอเป็นวงกลม บินวนไปวนมาจากบนหน้าผากลงมาข้างล่างในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา เสียงบินของมันดังขึ้นทุกครั้งที่มันบินครบรอบจนแมวมองดูมันบินไปมาจนเธอรำคาญ
" โอ้ย รำคาญ " แมวมือปัดมันไปมา แต่ทว่าราวกับยุงมีวิทยายุทธ มันสามารถหลบมือของแมวได้อย่างแม่นยำ และเมื่อมันบินไปทางหน้าของแมน แมวก็ไม่ได้ยั้งมือและปัดมือไปตบโดนหน้าของแมนเต็ม ๆ ดัง เพี๊ยะ ! !
" มาตบฉันทำไมเนี่ย " แมนหลับตาพูดอย่างสงสัย รอยบนหน้าของเขาปรากฎออกมาเป็นรูปฝ่ามือของแมวเป็นสีแดงจาง ๆ
" อุ้ย โทษทีนะ " แมวยิ้มสำนึกผิด " ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ แหะ ๆ "
นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะ เกิดตั้งใจขึ้นมามันจะขนาดไหนเนี่ย ผมมองดูหน้าของแมนที่ยังมีรอยฝ่ามือของแมนแดง ๆ อยู่อย่างเสียววาบ ว่าแต่ ยุงเจ้าปัญหาไปไหนแล้วหละ
ขณะเดียวกัน ยุงตัวที่ว่ามันก็บินมาข้าง ๆ หูของผม แล้วก็มาเกาะบริเวณรูหูของผม ราวกับว่ามันจะเข้ามาสำรวจในถํ้ารูหูของผม
" แว๊กกกก แก๊ก ๆ " ผมร้องลั่นออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ " จักจั๋โว้ยยยยยย ! "
ผมดิ้นไปดิ้นมาโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ ผมสั่นหัวและมืออย่างรวดเร็วเพื่อพยายามไล่ยุงออกมาจากหูของผม ปรากฎว่าผมดิ้นเพราะจักจี๋มากจนเท้าของผมยกขึ้นไปถีบบนตัวของต้าที่นั่งข้าง ๆ ผมจนตัวของเขาตกจากเกาอี้และล้มไปนอนบนพื้นทันที
" โอ้ย อะไรเนี่ย " ต้าพึมพำออกมา " มันอะไรก๊านนน "
" โทษที ๆ " ผมรีบบอกขอโทษต้าเพราะผมหายจั๊กจี๋แล้ว " เมื่อกี้ยุงมันมาเกาะหูฉันอะ "
" แล้วยุงเจ้าปัญหามันไปไหนแล้วหละ " ต้ามองไปรอบ ๆ อย่างโมโหแค้นที่มันเป็นต้นเหตุให้ผมบ้าจี้จนถีบเขาตกเก้าอี้
" เหอะหน่า แต่ยุงตัวเดียว " หัวหน้าอ้าปากหาววอด ในขณะนั้นชายเห็นยุงมันบินเข้าไปในปากของหัวหน้าห้องพอดี เขายกมือพยายามเตือนหัวหน้า
" เฮ้ย ห้วหน้า " ชายรีบเตือนเขา แต่ทว่า เขาหุบปากแล้ว แถมยังกลืนนํ้าลายด้วย !
" มีอะไรเหรอชาย " หัวหน้าถามชายอย่างสงสัยท่ามกลางสายตาตะลึงของทุกคน
" แกเพิ่งกินยุงไปเมื่อกี้วะ " ชายชี้ไปที่ปากของเขา " มันเข้าไปในปากแกเมื่อกี้ตอนที่แกหาว "
" อุ แหวะ ! แค่ก แค่ก " หัวหน้าห้องอ้าปากสำลักไอออกมาทันทีอย่างรวดเร็วจนผมเห็นยุงตัวเดิมเจ้าปัญหาบินออกมาจากปากของหัวหน้า เฮ้ย ยังไม่ตายด้วยวุ้ย มันเก่งวุ้ย
ยุงเจ้าปัญหาตัวเดิมบินไปทางจ๋าแล้วก็เริ่มบินวนไปวนมารอบ ๆ ตัวของจ๋า ตั้งแต่บริเวณใบหน้าแล้วก็เลื่อนลงมาบริเวณลำตัวบนของเธอ ถึงจ๋าจะขยับตัวหนีและเอามือปัดยังไงแต่มันก็หลบมือมารของจ๋าได้พ้นทุกรอบ
" ทนไม่ไหวแล้ว " ต้าลุกขึ้นมาอย่างอาฆาตแค้น " จัดการมันเลย "
" เออ " หัวหน้าห้องลุกขึ้นบ้าง
บุคคลเหล่านี้ก็ลุกขึ้นบ้าง ตั้งแต่ จ๋า แมน ชาย แมว และก็ผม ทุกคนที่ยืนขึ้นมองไปรอบ ๆ ห้องเพื่อมองหายุงเจ้าตัวปัญหา
" งั้น พวกเราขอตัวก่อนนะ " ฟ้าบอกพวกผมอย่างเกรงใจ ฝน ซาระ และเทรนก็ลุกขึ้นบ้าง ทุกคนต่างหลบเลี่ยงพวกผมเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นแล้วก็ขึ้นบันไดเพื่อหนีออกจากสงครามระหว่างพวกผมกับยุง ซึ่งเมื่อพวกฝนไปแล้ว การตามล่าตบยุงก็ได้เริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่ท่าเบสิกในการตบยุงมือเปล่า ไปจนถึงท่าพิสดารของต้าที่หมุนตัวตบยุงไปรอบ ๆ ทั้ง ๆ ที่มียุงแค่ตัวเดียว
" ย๊ากกกกก "
" อ๊ากกกก "
" อะ จ๊าากกกกก "
" โอ้ยย เท้าตู ! ! "
" โทษที ๆ "
เสียงพวกผมพร้อมเสียงตบมือดังลั่นดังออกมาจากห้องนั่งเล่น แม้อยู่บนชั้น 2 แล้วก็ยังได้ยินเสียงชัดเจน ดังนั้นคนอื่น ๆ จึงเข้าไปในห้องนอนตนเองอย่างรวดเร็ว
" สงสัยไม่ได้นอนกันง่าย ๆ ละมั้งนั่น " เทรนพึมพำออกมาพลางซุกตัวไปกับถุงนอนตัวเอง
ระหว่างนั้นในห้องของปอกับปลา ซึ่งสาเหตุที่ทั้ง 2 คนไม่ได้ไปร่วมลงคุยกับพวกผมก็เพราะว่ายังกระโดดบนเตียงเล่นดึ๋งดั๋งกันอยู่ไม่เลิก
" นี่ " ปอเอ่ยออกมา " ได้ยินเสียงนพทำอะไรกันไหม "
" มีเสียงยุงด้วย " ปลาเงี่ยหูฟังกับประตูห้อง " ช่างเหอะ แค่ยุงตัวเดียว เดี๋ยวก็จับได้ละ มาแข่งกันต่อมา ปอ "
" ได้เลย " ปอรับทำท้าด้วยความยินดี จากนั้นทั้งคู่ก็กระโดดเล่นบนเตียงต่อโดยไม่สนใจนํ้าหนักของตัวเองเลย
" อึ้ยยยย อย่าหนีสิเฟร้ย ! "
" อยู่นิ่ง ๆ สิวะ ! "
" จะหนีไปหนายยยย ! "
ความคิดเห็น