คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : One Shot
"นั่นนะเหรอ คนที่ชื่อต้นนะ"
"เห็นว่าเป็นเด็กติดเกมด้วยนะเธอ"
"ยี้ เกมเนี่ยนะ"
"ใช่ เกมที่ว่าทำให้เด็กฆ่าตัวตายนะ"
"แล้วทำให้เด็กไปฆ่าแท็กซี่ด้วยใช่มะ"
"อันตรายจริงๆ เลยนะเธอ"
"ใช่ๆ อันตรายมาก"
เสียงรอบข้างที่ดังกึกก้องรอบข้างของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ที่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะตนเองในห้องเรียน เขาเอามือเกาหัวตัวเองที่ยุ่งแหลมเสียจนจัดทรงไม่ได้ พลางมองดูเนื้อหาในหนังสือเรียนที่อยู่ตรงหน้า หวังว่าการอ่านเนื้อหาบทเรียนจะทำให้เขาไม่โดนคนอื่นๆ ในห้องนินทาดูถูกเขาได้ แต่มันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เขาลุกขึ้นด้วยความไม่พอใจ ก่อนที่จะมองตาขวางไปรอบห้อง
เสียงของคนที่นินทาเขาถึงกับเงียบกริบ หลายคนไม่กล้าพูดหรือทำอะไร สายตาหลายคู่มองดูเขาราวกับเป็นอันฑพาลที่ไม่ควรเข้าไปยุ่ง แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก
เจ้าตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ หยิบกระเป๋านักเรียนแบบถือพาดเอาไว้บนบ่า ก่อนที่จะเดินออกนอกห้องเรียนไปโดยไม่มองใคร และต่างคนต่างก็หลีกทางให้เขาด้วย และเมื่อเขาจากไปแล้ว เสียงซุบซิบนินทาเกี่ยวกับตัวของเขานั้นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง จะมีเพียงแต่เด็กสาวผมทรงหางม้าคนหนึ่งที่ไม่ได้ร่วมวงนินทากับคนอื่นๆ เธอเอาแต่จ้องมองเขาจนกระทั่งเขาเดินออกจากห้องไป
เด็กหนุ่มเดินออกนอกโรงเรียน ทำตัวไม่สนใจเสียงซุบซิบรอบข้างที่มีคนวิจารณ์ถึงเขา เมื่อพ้นอาณาเขตของโรงเรียนมาแล้ว เขาถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่ายพลางมองดูเส้นทางที่เขาจะเดินทางกลับบ้าน
เขามีชื่อว่า ต้น ซึ่งเป็นเด็กหนุ่ม ม.ปลาย ธรรมดาๆ ปกติทั่วไป ที่มาเข้าเรียนตามปกติ ใช้ชีวิตประจำวันปกติ และก็ไม่ได้เที่ยวเตร่อะไรกับใครที่ไหน แต่สำคัญคือ เขามีผลการเรียนในระดับที่ดีเลิศ จนถึงขนาดทั้งโรงเรียนมีแต่คนชื่นชมเขาที่มีความสามารถการเรียนที่สูง
จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้พกสิ่งที่เขาไม่ควรจะเอามาที่โรงเรียนมาด้วย
(เมื่อสองอาทิตย์ก่อน)
"ต้น วันนี้ทำการบ้านมารึเปล่า สอนฉันหน่อยสิ" เพื่อนร่วมห้องสาวไว้ผมสั้นถามเขา
"ได้สิ ไม่มีปัญหา วิชาอะไรเหรอ" ต้นถามพลางลดหนังสือที่กำลังอ่านลงเพื่อมองดูคู่สนทนา
"ต้นกำลังอ่านหนังสืออะไรเหรอ" เด็กสาวถาม
"อ๋อ นิตรสารเกมนะ พอดีอ่านไม่จบ เลยเอามาอ่านที่โรงเรียนด้วย" ต้นตอบพลางชูชื่อหนังสือให้ดู ซึ่งมันเป็นนิตรสารเกมออนไลน์รายสัปดาห์ฉบับหนึ่ง
"นี่... ต้นเล่นเกมด้วยเหรอ" เธอถามด้วยนํ้าเสียงที่ไม่สดใสเหมือนเมื่อสักครู่นี้เลย
"ก็เล่นอยู่อะนะ แต่ก็ไม่ได้เล่นมากหรอก เพราะฉันต้องแบ่งเวลาอ่านหนังสือด้วย" ต้นตอบพลางวางนิตรสารเกมลงบนโต๊ะ ก่อนที่จะหยิบสมุดจดที่เขามักจะเอามาสอนเพื่อนร่วมชั้นขึ้นมาจากใต้เก๊ะโต๊ะของเขา
"เป็นอะไรไปเหรอ" ต้นถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นสีหน้าที่ขยะแขยงของเด็กสาวที่อยู่ตรงข้ามของเขา
"ต้นติดเกมเหรอเนี่ย" เธอพึมพำ
"อะไรนะ" เขาทวนคำนั้นอย่างสงสัย
"ขะ ขอโทษนะ ไม่ต้องสอนฉันแล้วหละ" เด็กสาวลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ที่เธอลากมานั่งด้วย ก่อนที่จะรีบหันหลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งจากเขา
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ข่าวที่ว่าเด็กที่เรียนเก่งที่สุดในสายชั้นเล่นเกมนั้นแพร่กระจายไปทั่วโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนที่ต้นเรียนอยู่นั้นเป็นโรงเรียนที่เน้นวิชาการสูง และที่นี่มีแต่คนที่ตั้งใจเรียนทั้งนั้น จึงทำให้ต่างคนต่างมีอคติเกี่ยวกับเกม ยิ่งช่วงเวลานั้นมีข่าวที่ไม่ดีเกี่ยวกับเกมออกมาถี่ด้วย จึงทำให้รังเกียจเขาที่เป็นคนติดเกมไปในทันที
"ไอ้พวกนี้ก็เชื่อข่าวที่นำเสนอซะได้ แหล่งข่าวบอกมาเองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ มันไม่เกี่ยวกับเกมเลย แต่สื่อดันเสนอข่าวมัดกับเกมซะได้ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับตูฟะเนี่ย!! กะอีแค่ตูเล่นเกม ถึงกับรังเกียจกันทั้งโรงเรียนเลยเหรอฟะ!!"
ต้นตะโกนเสียงดังออกมาอย่างบ้าคลั่งโดยไม่สนใจพ่อค้าแม่ค้าและชาวบ้านที่เดินอยู่แถวนั้น เขาหอบหายใจเพื่อคลายความเครียดและความเหน็ดเหนื่อยจากการตะโกนเมื่อกี้ ก่อนที่จะเดินต่อโดยไม่สนใจสายตาที่มองเขาหลายสิบคู่ด้วยความสงสัย
"ช่างพวกนั้นละกัน ฉันจะทำเกรดดีๆ เข้ามหาลัยดีๆ โดยให้มันรู้ไปว่าเด็กติดเกมอย่างฉันก็เก่งได้" เขาพึมพำเพื่อปลอบตัวเอง "เอาหละ ไปเปิดเว็บหางานพิเศษทำดีกว่า"
แต่แล้วเหมือนเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาหยิบมือถือตนเองขึ้นมาเพื่อดูข้อความที่เขาเมมเตือนความจำเอาไว้ในมือถือ ปรากฎว่ามีข้อความเขียนเอาไว้ว่า
'อย่าลืมจ่ายค่าเน็ตด้วย'
ต้นยืนมองดูมือถือของเขาพร้อมกับสีหน้าที่เรียบนิ่งราวกับตัวถูกแช่แข็งไปสองถึงสามนาที ก่อนที่จะรื้อฟื้นความจำของเขา
พ่อแม่ของเขานั้นทำงานตลอดเวลาโดยไม่มีเวลากลับมาหาเขาที่บ้าน จึงทำให้ต้นใช้ชีวิตอยู่คนเดียว เงินค่าใช้จ่ายประจำเดือนนั้นจะมีการโอนมาให้เขา และช่วงนี้ค่าใช้จ่ายเรื่องการเรียนก็เยอะทำให้เขาลืมจ่ายค่าเน็ตจนเข้าใช้งานไม่ได้แล้ว และเป็นเหตุผลที่ว่าเขาต้องหางานพิเศษทำเพื่อหารายได้เสริมนั่นเอง
"ลืมไปเลย" เขาพึมพำออกมา ก่อนที่จะปิดมือถือ และหันซ้ายหันขวามองดูรอบๆ ซึ่งเขาก็เห็นร้านอินเตอร์เน็ตร้านหนึ่งตั้งอยู่ข้างๆ เขานั่นเอง
เขาไม่เคยเข้าร้านอินเตอร์เน็ตมาก่อน เพราะเขาเองก็มีคอมพิวเตอร์ใช้อยู่กับบ้านแล้ว แต่สำคัญคือ หลังจากเกิดเหตุที่มีคนรู้ว่าเขาเล่นเกม ทำให้เขาไม่อยากเฉียดเข้าใกล้ร้านอินเตอร์เน็ตเลยแม้แต่น้อย เพราะถึงตอนนี้เขาจะโดนวิจารณ์เสียๆ หายๆ เขาก็ไม่อยากให้มีคนเอาเรื่องที่เขาเข้าไปในร้านอินเตอร์เน็ตมาวิจารณ์เขาให้หนักขึ้นไปอีก
แต่ด้วยความจำเป็นที่เขาอยากใช้อินเตอร์เน็ตในการหางานทำ จะให้เดินกลับเข้าไปห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนก็เสียเวลา เขาจึงมองซ้ายมองขวาเพื่อมองดูว่าไม่มีนักเรียนที่รู้จักกับเขาเดินอยู่แถวนี้
"เข้าไปแปบเดียวคงไม่มีปัญหามั้ง" เขาคิด พลางเดินผลักประตูกระจกของร้านเข้าไปข้างใน
"ขอเล่นเครื่องหนึ่งนะครับ...."
แต่แล้วต้นก็สะดุดคำพูดของตนเองเมื่อเขามองดูสภาพในร้าน ในร้านอินเตอร์เน็ตนี้เป็นร้านขนาดกลางที่มีคอมพิวเตอร์อยู่ราวๆ ยี่สิบเครื่อง และมีขนาดพื้นที่ร้านที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรนัก แต่ที่สะดุดตาก็คือ ภายในร้านที่มีบรรยากาศมืดสลัวเพราะเอาผ้าม่านหนาทึบเอามาปิดหน้าต่างเอาไว้เพื่อไม่ให้มีแสงเข้า ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่ทำให้บรรยากาศในร้านดูขนลุก แสงสว่างอย่างเดียวนอกจากนอกร้านแล้วก็คือเทียนไขที่อยู่ข้างในสุดของร้าน เป็นพื้นที่เค้าเตอร์ของทางร้าน แต่ประเด็นที่ทำให้เจ้าตัวแทบช็อคก็คือ มีคนสองคนยืนอยู่ เป็นผู้หญิงทั้งคู่ แต่กลับแต่งชุดไทยและกำลังยืนมองเขาอยู่ ยิ่งบรรยากาศมือสลัวและแสงไฟจากเทียนแค่เล่มเดียว ข้างหลังยังมีต้นกล้วยอยู่ด้วย มันทำให้เขาคิดในใจได้ว่า
นี่มันร้านเกมหรือว่าบ้านผีสิงกันแน่ฟะ เขาคิด
"ยินดีต้อนรับคร่า" เสียงผู้หญิงชุดไทยที่ตัวสูงเอ่ยออกมา ซึ่งนํ้าเสียงของเธอดูน่ารักและสมกับเป็นผู้ใหญ่ ผิดกับบรรยากาศในร้านและอิมเมจของเธอในตอนนี้เลย
"ทานโทษนะครับ นี่มันคืออะไรกันครับเนี่ย" ต้นถามผู้หญิงชุดไทยร่างสูงคนนั้นที่เขาคาดเดาว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้าน
"อ๋อ ไม่มีอะไรมากหรอกค่า พอดีแต่งตัวเป็นนางกวัก จะได้เรียกลูกค้ามายังไงหละค่ะ" เธอยิ้มตอบ
แต่ภาพที่เขาเห็นนั้นกลับไม่ได้ช่วยทำให้บรรยากาศมันน่าเข้าร้านซักนิดเลย
"นี่คุณกำลังเรียกลูกค้าหรือว่าไล่ลูกค้ากันแน่ครับเนี่ยยย!!" ต้นตะโกนออกมาเสียงดังลั่นด้วยความไม่เข้าใจเหตุผลของสองคนนี้เลย
"เอ๊ะ การทำธุรกิจมันต้องมีนางกวักไม่ใช่เหรอค่ะ" สาวร่างโตถามเขา
"แต่ไอ้แบบนี้มันไม่ใช่นางกวักแล้วครับ แต่มันเป็นผีตานีต่างหากไม่ใช่เหรอไงครับ!!" ต้นชี้ไปยังต้นกล้วยข้างหลังที่มันทำให้เธอดูเหมือนผีตานีเข้าไปอีก
"อ้าว นี่มันชุดผีตานีหรอกเหรอค่ะเนี่ย" เธอถามเขาด้วยนํ้าเสียงไร้เดียงสา
"นี่ไม่รู้จริงๆ เหรอฟะครับ!!" ต้นตะโกนออกมาด้วยนํ้าเสียงกึ่งประชด
เสียงประตูเปิดร้านดังขึ้น เมื่อเขาหันหลังกลับไปมอง ก็พบเห็นผู้ชายคนนึงที่ทำท่าจะเข้ามาใช้บริการ แต่แล้วเมื่อเขามองเห็นผีตานีทั้งสองคน (?) อยู่ เขาก็หน้าซีดแล้วก็รีบออกจากร้านทันที
"กะแล้วว่าวิธีมันไม่ได้ผล" เด็กสาวที่ยืนข้างๆ สาวร่างใหญ่ในชุดไทยเอ่ยขึ้นมา
มันไม่ได้ผลตั้งแต่ความคิดของพวกหล่อนแล้วฟะ ต้นคิดในใจ
"ต้องให้นายคนนั้นมาแต่งชุดไทยเรียกลูกค้าเหมือนพวกเราด้วยไง มาสิ" เธอหยิบชุดไทยมาโชว์ให้เขาดู
"เพื่ออะไรฟะครับ!! แล้วไอ้นั่นมันชุดผู้หญิงไม่ใช่รึไง!!" ต้นชี้ไปยังชุดไทยที่เจ้าตัวกำลังถืออยู่ ซึ่งมันก็เป็นชุดไทยสำหรับผู้หญิงเหมือนที่ทั้งสองสาวใส่อยู่จริงๆ
"เอ๋ ไม่ใส่เหรอ แนวดีออกนะเนี่ย" เธอเอียงคอถามเขา
"แนวกะผีสิ จะทำให้ผมฝันร้ายชั่วชีวิตรึยังไงครับ!!"
"ก็เห็นว่าช่วงนี้กระแสชายแต่งหญิงมาแรงนา..."
"ตูไม่ได้ชอบโว้ยยยยยยยย!!"
ต้นเอามือกุมขมับพร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย
"นี่ ฟังนะครับ การที่จะทำให้ร้านมันน่าเข้า มันไม่เกี่ยวกับนางกวักหรือผีตานีหรอกครับ..." ต้นเริ่มอธิบาย
"แล้วสาวดุ้นหละ" เด็กสาวที่ยังถือชุดไทยถาม
"ไม่เกี่ยวทั้งนั้นแหละ!! คุณต้องทำให้ร้านคุณน่าเข้า ดูสว่างไสว ปลอดภัยและสบายใจ..." ต้นเดินไปที่ผ้าม่านที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วเปิดออก ซึ่งทำให้แสงสว่างนอกร้านส่องเข้ามาในร้านทันที ทั้งสองสาวถึงกับหยีตาเพราะอยู่กับห้องมืดมานาน "แล้วก็ไม่ได้แต่งชุดที่น่ากลัวๆ แบบนี้รับแขกกันด้วย คุณแต่งตัวปกติๆ เนี่ยแหละครับ"
ต้นเดินไปเปิดไฟตรงบริเวณร้านที่แสงสว่างจากนอกร้านส่องมาไม่ถึง แล้วก็เดินไปดับไฟเทียนไขก่อนที่จะยืนประจันหน้ากับทั้งสองคน และนั่นทำให้เขามองเห็นทั้งสองคนชัดเจนเป็นครั้งแรก
สาวร่างใหญ่ที่คุยกับเขาเป็นคนแรกนั้นน่าจะมีความสูงร้อยเจ็บสิบกว่า ซึ่งน่าจะสูงกว่าเขานิดหน่อยด้วย ตาของเธอดูตี๋แบบคนจีนแต่เมื่อพิจารณาจากสีหน้าแล้วเหมือนลูกคุณหนูเสียมากกว่า เธอมีรูปร่างที่ผอมเพรียวพร้อมกับสัดส่วนที่โค้งสวยได้รูปราวกับหุ่นนางแบบเลยทีเดียว ซึ่งรูปร่างและหน้าตาของเธอถึงจะเข้ากับชุดไทยก็จริง แต่มันไม่เหมาะที่จะเป็นนางผีตานีเมื่อสักครู่นี้จริงๆ
ส่วนอีกคนที่ยืนข้างๆ นั้นมีความสูงราวๆ แค่ร้อยห้าสิบเท่านั้น ทำให้เธอดูเตี้ยกว่าเขาราวกับเป็นเด็กประถมอย่างไรอย่างนั้น แต่ดูจากหน้าตาแล้วเหมือนเธอจะอายุคราวเดียวกับเขา เธอไว้ผมจุกแบบเดียวกับที่นักแสดงสวมชุดไทยแต่งกัน จนเขาอดคิดไม่ได้ว่านี่กะย้อนยุคให้สมจริงเลยรึยังไง แต่ดูหน้าตาก็คุ้นๆ เหมือนกับเขาเคยเห็นเธอจากที่ไหนมาก่อน
"ขออภัยที่เสียมรรยาทนะครับ ผมขอใช้บริการชั่วโมงหนึ่งนะครับ" ต้นบอก
"อ๋อ ไอ้สิ เครื่องนี้ละกัน" เด็กสาวชี้ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆ เขา
"ขอบคุณครับ" ต้นตอบพร้อมกับวางกระเป๋านักเรียนที่ถืออยู่ลงข้างๆ เก้าอี้ก่อนที่จะเอานิ้วจิ้มเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้เครื่องทำงาน
เฮ้อ ทำแบบนี้ซะแต่แรก ลูกค้าก็เข้ามากันแล้ว เขาคิดในใจโดยที่หงุดหงิดเล็กน้อย
แต่แล้วเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์บูทเสร็จ ปรากฎว่าหน้าจอ Destop ที่อยู่ตรงหน้าของเขานั้นกลับมี Icon เต็มพรึ่บหน้าตาเสียจนเขาถึงกับเผลอกระพริบตาถี่ๆ เพราะความลายตา มันเต็มเสียจนอัดแน่นเต็มหน้าจอไปหมดจนแทบไม่มีที่ว่างให้มองเห็น Wallpaper เลยแม้แต่น้อย แถมขนาด Icon ก็เล็กมาก หนำซํ้า สิ่งที่ทำให้ต้นหงุดหงิดมากขึ้น ก็เพราะว่า Icon ที่เต็มพรึ่บบนหน้าจอนั้นมันไม่มี Icon เกมหรือบราวเซอร์เลยแม้แต่อันเดียว แต่กลับมี Icon Forder ต่างๆ ในคอมพิวเตอร์เต็มพรึ่บไปหมดราวกับโคลนนิ่งกันมาเลย
"นี่มันคืออะไรฟะครับเนี่ยยยย!!" เขาโวยลั่นออกมา
"อ๋อ มันคือ icon ไง แค่นี้ไม่รู้รึไง" เด็กสาวชุดไทยถามเขา
"ไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น จะกอปปี้ Icon มาแปะวางให้มันเต็มหน้าจอเพื่ออะไรครับ!!" ต้นชี้นิ้วไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์
"เผื่อว่าลูกค้าจะได้เข้าใช้เร็วขึ้นไง"
"นี่คุณเธอตั้งใจจะเรียกลูกค้าหรือไล่ลูกค้าว่ะเนี่ย เต็มแน่นหน้าจอขนาดนี้ใครมันจะไปหากันฟร้าาาาาา!!"
"เอ๋... ไม่ดีเหรอ..."
"เพื่ออออออ!!"
ต้นเอามือกุมขมับด้วยความเหนื่อยใจของการบริการร้านอินเตอร์เน็ตร้านนี้จริงๆ และเขาก็ได้ทำใจสิ่งที่้เขาไม่อาจทนต่อไปได้แล้ว
"ไม่ไหวแล้ว นี่ใช้ระบบโนฮาร์ตดิสใช่ไหมครับ ? ผมมองเห็น Logo โปรแกรมอยู่ เครื่อง Sever อยู่ไหนครับ" ต้นถามสาวร่างใหญ่อย่างรวดเร็ว
"นี่ค่ะ" เธอชี้ไปข้างๆ ของเธอซึ่งอยู่ข้างหลังเค้าเตอร์ของร้าน
ต้นสั่งปิดเครื่องที่อยู่ข้างหน้าเขาแล้วก็ลุกขึ้นเดินไปยังหลังเค้าเตอร์ของทางร้านทันที เขาเปิดคำสั่งของเครื่อง Sever เพื่อให้เขาสามารถดัดแปลงแก้ไขหน้าจอของเครื่องบริการในร้านได้ทั้งร้านโดยการทำแค่เครื่องเดียวเท่านั้น
"บนหน้าจอของเครื่องบริการถ้าเป็นไปได้ อย่าทำให้รกครับ เพราะมันทำให้ลูกค้าตาลาย ควรเอาที่จำเป็นวางไว้ก็พอ อย่างเช่นบราวเซอร์หรือโปรแกรมแชทต่างๆ..." ต้นอธิบายพร้อมกับลบโฟเดอร์ Iocn ทั้งหมดบนหน้าจอ Destop ทิ้งก่อนที่จะกอปปี้ Icon โปรแกรมที่เขาว่าเอามาวางไว้แทน "... แล้วพวกเกมหรือโปรแกรมต่างๆ เป็นไปได้ ทำโฟเดอร์แยกให้เป็นสัดเป็นส่วนเพื่อให้ลูกค้าสะดวกในการค้นหาด้วยนะครับ"
ต้นได้จัดการทุกอย่างที่เขาแนะนำ จัดวางเรียง Icon เป็นระเบียบและสวยงามก่อนที่จะใส่คำสั่งบนเครื่อง Sever เพื่อให้เครื่องบริการในร้านเป็นเหมือนกันหมดทุกเครื่อง พอต้นเปิดเครื่องบริการสักเครื่องให้พวกเขาดู ซึ่งหน้าจอก็ดูสวยขึ้นและน่าใช้มากขึ้นด้วย
"โอ้ สุดยอดจริงๆ" เด็กสาวร่างเล็กเอ่ยปากชื่นชม
และทั้งสองสาวที่ยังใส่ชุดไทยอยู่ก็พร้อมใจกับปรบมือ ซึ่งต้นเองก็เอามือเกาหัวข้างหลังแก้เขิน
"มะ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ" ต้นยิ้มกับผลงานของตนเอง
ถึงแม้ว่าก่อนที่ต้นจะถูกวิจารณ์เสียๆ หายๆ ต้นเองก็ชื่นชอบการให้คำแนะนำและสอนคนอื่นๆ อยู่แล้ว แต่เขาแทบไม่ได้รับคำชมหรือคำขอบคุณเลยแม้แต่น้อย จึงเป็นครั้งแรกที่ทำให้เขารู้สึกดีใจที่ตัวเขาเองนั้นก็มีประโยชน์กับคนอื่นๆ ด้วย
ไม่สิ เรามาแค่ต้องการเปิดเน็ตหางานพิเศษทำไม่ใช่เหรอ งั้นเรารีบทำดีกว่าจะได้รีบไป เขาคิด
"เก่งจังเลยนะ แสดงว่าต้องรู้เรื่องคอมพิวเตอร์เยอะแน่ๆ เลย" สาวร่างใหญ่เอ่ยคำชม
"มะ แหม๋ ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกคร้าบ" ต้นยิ้มแป้นเมื่อได้รับคำชมแบบนั้น ซึ่งตัวเขาเองก็บ้ายอใช่เล่น
"ทำทุกอย่างได้ไวด้วย เก่งจังเลยนะเนี่ย"
"ก็ ประมาณแบบนั้นหละครับ"
"ช่วยให้คำแนะนำพวกเราอีกได้ไหมค่ะ"
"ได้ครับ ไม่มีปัญหา"
"งั้นมาทำงานที่นี่เลยนะ"
"ได้ครับ ไม่มีปัญหา.... เฮ้ยย!!"
ต้นอ้าปากค้างเมื่อพบว่าตัวเองเผลอหลุดปากพูดอะไรออกไป
"มะ ไม่ดีมั้งครับ ถึงผมอยากได้งานพิเศษทำจริงๆ แต่ผมคงทำที่ร้านเกมไม่ได้หรอกครับ" ต้นรีบยกมือปฏิเสธทันที
"อ้าว ทำไมหละค่ะ" สาวร่างใหญ่ถาม
"ก็ ทุกคนกำลังมองว่าผมติดเกมอยู่ ที่โรงเรียนผม เด็กติดเกมคือคนไม่ดี แค่นี้ผมก็ถูกมองเสียๆ หายๆ อยู่แล้ว ถ้ามีคนรู้ว่าผมทำงานที่ร้านเกมด้วย ผมมีหวังแย่กว่าเดิมแน่ครับ" ต้นระบายสิ่งที่เขาคิดออกมาทั้งหมด
"อ๋อ ไม่ต้องห่วงหรอกจ๊ะ ร้านพี่นะ อยู่คนละเส้นทางหลักที่จะไปโรงเรียนเรา แถมอยู่ห่างมากด้วย ไม่ค่อยจะมีใครเข้ามากันอยู่แล้ว แถมเราสองคนก็ไม่ได้มองว่าเด็กติดเกมเป็นคนไม่ดีด้วยนะ"
เธอยิ้มกว้างออกมา และแน่นอนว่าสาวร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ยิ้มออกมาด้วยเช่นกัน
นั่นสินะ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เราพบกับคนที่ไม่ได้อคติอะไรกับเรา ต้นคิด
"แล้วก็ เราก็ตอบพี่แล้วด้วยว่าเราจะมาทำงานที่นี่ด้วยนะ" เธอเอ่ย
"เอ่อ ไอ้นั่นนะมัน..." ต้นพยายามรีบแย้ง
"พี่อัดเสียงเราเก็บไว้ด้วยนะ" เธอหยิบมือถือของเธอขึ้นมา แล้วกดปุ่มบนมือถือ
'ได้ครับ ไม่มีปัญหา...' เสียงของต้นดังออกมาจากมือถือของเธอ
แอบอัดเสียงตูไว้ตอนไหนฟะเนี่ย ต้นคิดพร้อมกับอ้าปากค้าง
"ถ้าเราผิดสัญญาละก็ พี่จะเอาเสียงเราอัพโหลดขึ้นเว็บยู..(ติ๊ด).. ซักเลยดีไหมน้า ฮี่ฮี่ฮี่" เธอยิ้มออกมาทั้งๆ ที่เธอกำลังขู่เขาอยู่
"หยุดเลยนะครับ อย่านะ" เขาตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมกับยกมือห้ามด้วยความวิตกกังวล
"ถ้าอยางนั้น มาทำงานพิเศษที่ร้านพี่นะจ๊ะ พี่กำลังมองหาเด็กคุมร้านพอดี และเราก็เหมาะสมที่สุดด้วยหละ" เธอยิ้มออกมา
ถึงทั้งสองคนจะดูสวยมาก แต่ดูจากการกระทำและคำพูดของเธอแล้ว มันราวกับเธอเป็นปีศาจร้ายไปเสียมากกว่า
และในเมื่อโดนขู่ออกมาแบบนี้ มีหรือที่ตัวเขาจะทำอะไรได้ นอกเสียจาก...
"ขะ เข้าใจแล้วครับ ขอความกรุณาด้วยนะครับ" เขาก้มหัวยอมจำนน
"ดีค่ะ เริ่มทำงานพรุ่งนี้ได้เลยนะค่ะ ถ้าไม่มา พี่จะอัพโหลดทันทีเลยนะค่ะ ฮี่ฮี่" เธอหัวเราะออกมาราวกับเสียงของแม่มดก็ไม่ปาน
"ขอต้อนรับสู่ร้าน ก๊วนรั่ว.Net นะ" เด็กสาวร่างเล็กเอ่ยต่อ
ฮะฮะ จะเรียกว่าโชคดีที่ได้งานทำ หรือว่าโชคร้ายดีฟะเนี่ยตู เขาคิดอย่างจนมุม
ความคิดเห็น