ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Miracle Love : หนุ่มเอ๋อกับจิ้งจอกสาวเจ้าเสน่ห์

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 7 มิ.ย. 52


     

    สวัสดีคร้าบ แนะนำตัวเองก่อนเลยนะครับ ผมมีชื่อว่า ป่าน ครับ อ๊ะ ๆ ผมไม่ใช่ทอมหรือเกย์นะครับ ผมผู้ชายแท้ ๆ ครับ -*- เพียงแต่มีชื่อป่าน นั่นเพราะว่าตอนพ่อผมยังหนุ่ม ๆ พ่อผมชอบนักร้องคนนึงชื่อป่าน ก็เลยเอาชื่อนี้มาตั้งให้ผมครับ บอกตามตรงเลยว่าเพราะชื่อเนี่ยเลย ผมเลยโดนหาว่าเป็นเกย์จ๋าอยู่ตลอด - -

    ปัจจุบันมีอายุ 20 ปีกับอีกไม่รู้กี่เดือนเนี่ยแหละ ผมเรียนอยู่มหาลัยแห่งหนึ่งในภาคเหนือ สัดส่วนผอมแห้ง ไม่หล่อ ไม่รวย ไม่เท่ ไม่เก่ง ไม่มีอะไรดีสักอย่าง สรุปก็คือ ผู้ชายห่วย ๆ คนหนั่งนั่นเอง T_T นั่นเพราะว่าผมไม่มีเพื่อนแม้แต่หญิงเลยสักคนครับ ต่อให้เป็นเพื่อนหญิงในคณะที่ผมเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันก็ยังไม่สนใจผมเลย ใช่ซี้ ผู้หญิงใครจะไปชอบผู้ชายแบบผมหละ ฮือ ๆ ซิก ๆ

    ตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่บนรถสองแถมเพื่อไปเรียนที่มหาวิทยาลัยตามปกติ ผมนั่งอ้าปากพะงาบ ๆ ริมหน้าต่างรถสองแถวตลอด เพราะว่าชีวิตผมที่ไม่มีเพื่อนหญิงสักคนเนี่ยแหละ เลยทำให้ชีวิตผมต้องขาดความสดชื่น โสตมาตลอด

    ข้างหน้าผมมีผู้หญิงที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันบน ข้างในรถมีที่นั่งเต็มหมดแล้ว สวยแฮะ เซ็กซี่ด้วย เอ้ย ไม่ใช่สิ >_< ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในสุดของรถ ข้าง ๆ ผมมีที่นั่งว่างพอดี ดีหละ

    เชิญนั่งครับ ผมผายมือไปเก้าอี้ข้าง ๆ แล้วก็เขยิบให้เพื่อให้เธอมานั่งข้าง ๆ ได้ เห็นเปล่า ผมสุภาพบุรุษออกจะตาย ไมได้หวังที่จะแต๊ะอั๋งซักกระนิด ^_^

    ทันใดนั้น เธอมองมาที่เก้าอี้ที่ว่าง ดวงตาแสดงออกว่าเธออยากนั่งมาก แต่เมื่อเธอกวาดสายตามองมาที่หน้าของผม เธอมองดูผมอย่างหยิ่ง ๆ สักพัก แล้วก็เดินไปเกาะเสาหลังรถสองแถวแทน

    ง่า ผมไม่ใช่พวกลามกน้า เดินหนีไปทำไม แง้

     

                    ผมเดินเข้าไปในรั้วของมหาวิทยาลัยด้วยสีหน้าหดหู่จากเหตุการณ์บนรถเมลล์เมื่อสักครู่นี้ รอบข้างผมเต็มไปด้วยนิสิตนักศึกษาที่เสื้อหลุดลุ่ยบ้างไม่หลุดลุ่ยบ้าง - - ^ เดินอยู่รอบ ๆ กายผม ต่างคนต่างมุ่งหน้าเข้าไปในมหาวิทยาลัยของผม ผมถอนหายใจกับเหตุการณ์บนรถเมลล์อีกครั้ง เฮ้อ ผมไม่มีดีอะไร ทำไมสาว ๆ ถึงไม่สนใจผมเลย TvT

                    ผมเงยหน้ามองทาง ก็เจอนักศึกษาผู้ชายผู้หญิงคู่หนึ่งเดินควงกัน ท่าทางกระหนุงกระหนิงจนผมมองด้วยความอิจฉาตาร้อน

                    คนนั้นก็เป็นแฟนกันละ ผมคิดในใจอย่างรำพึง อยากมีมั่งงะ

                    ผมรีบเดินออกจากคู่รักที่อี๋อ๋อกันโดยไม่อายฟ้ามัวดิน แต่เมื่อเดินเลย 2 คนนี้ไปก็ต้องเจอกับคู่ชายหญิงอีกคนที่อี๋อ๋อกันไม่ต่างไปจากคู่เมื่อกี้เลย

                    คนนี้ก็มีคู่ ผมรีบเร่งฝีเท้าให้เดินไปให้ห่างจากคู่นี้ไปอีก จากนั้นก็ต้องเจอกับผู้ชาย 2 คนที่เดินคู่กัน

                    เฮ้อ ก็ยังดีวุ้ย ผมคิดในใจพลางมองดูผู้ชาย 2 คนนี้ อย่างน้อยก็มีคนที่ไม่มีแฟนเหมือนเรา

                    เพื่อน กูรักมึงวะ นักศึกษาผู้ชายคนข้างซ้ายบอกกับผู้ชายคนข้าง ๆ ด้วยสีหน้าที่ลึกซึ้ง

                    หา ว่าไงนะ !

                    ผู้ชายคนทางขวาพยักหน้าและยิ้มให้อย่างเข้าอกเข้าใจ พลางเอามือสวมกอดเพื่อนชายตนเองทางซ้าย มือของเขาก็ลูบสะโพกผู้ชายที่ตนเองสวมกอดอย่างเบามือ

                    อึ๋ย... ผมอุทานอย่างเสียวไส้เมื่อ 2 คนนี้แสดงอาการสุดอุแหวะท่ามกลางสายตาของนักศึกษาที่เดินไปมาในเขตมหาวิทยาลัยโดยไม่เกรงใจใคร  อย่างน้อยพวกนี้ก็หาคู่กันเองได้แล้ว แต่ให้ผมไปเป็นแบบนั้นละก็ ไม่มีทาง !

                    สาว ๆ นักศึกษาที่เดินอยู่แถว ๆ นี้หันหน้ามามองดูคู่เกย์กอดกันอย่างสนอกสนใจ ไอ้พวกผู้หญิงก็เหมือนกัน สนใจกันจังเลยวุ้ยไอ้ชายรักชายเนี่ย แต่ผมขอตัวไปห้องเรียนก่อนดีกว่ามั้ง จะอ้วกกกก !

                   

                    ว่าไงวะ ไอ้ป่าน สบายดีเปล่าวะเพื่อน เดช เพื่อนสุดซี้ของผมทักอย่างอารมณ์ดีเหมือนผมเดินเข้าไปในห้องเรียน เขาเป็นชายร่างสูงและกำยำด้วยมัดกล้ามเพราะเป็นนักกีฬาบาสเก๊ตบอลมหาวิทยาลัย ด้วยเหตุนี้ทำให้สาว ๆ กรีดเขามากและมีแฟนเปลี่ยนทีอาทิตย์ละคนได้เลย เฮอะ ฮิจฉาเฟร้ย

                    เหมือนทุกที ผมยักไหล่ตอบเขาพลางหยิบกระเป๋าที่ผมสะพายมาด้วยวางบนโต๊ะ สบายกาย แต่ไม่สบายใจ

                    ว่าแล้วผมก็ไปนั่งบนโต๊ะประจำของผมในห้องเรียนและเอาหน้าวางบนโต๊ะ ทำสีหน้ามุ่ยออกมา เดชเดินมาข้าง ๆ ผมอย่างรู้ดีว่าผมหมายความว่ายังไง เพราะมีแต่เดชคนเดียวที่รู้ว่าผมเป็นคนเดียวที่ไม่มีเพื่อนหญิงคบด้วยนั่นเอง

                    เอาเหอะหน่า เดี๋ยวตูแนะนำน้องพลอยให้ เอาไหม หุ่นเธอนี่อะโจ๊ะจึม ๆ เลยนะ

                    ไม่อะ ผมตอบปฏิเสธเพื่อนอย่างรู้ดี คราวก่อนเขาก็เอาน้องจอยมาให้ผมรู้จัก ปรากฏว่าพอเธอเห็นหน้าผมนี่ เธอเดินหนีผมและหายไปใน 2 วินาทีเลย TvT

                    อย่าคิดมากสิวะป่าน สักวันเดี๋ยวก็มีแฟนเอง ของแบบนี้มันต้องมีเวลาวะ เดชตบไหล่ให้ผมอย่างเห็นใจ ผมยิ้มให้เขาอย่างขอบคุณ พลางมองไปรอบห้องเรียน

                    ห้องเรียนของมหาวิทยาลัยผมนั้นก็ไม่ได้หรูหราอะไรมาก ก็มีโต๊ะและเก้าอี้แบบติดกันเรียงเต็มห้อง มีกระดานไวท์บอร์ดอยู่หน้าห้องพร้อมเครื่องฉายไสลด์และลำโพงกับชุดไมโครโฟนเวลาอาจารย์มาสอน เพื่อน ๆ ในคณะของผมก็มากับ้างแล้วและก็จับกลุ่มคุยกัน  สาว ๆ ก็ไปรวมกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่ก็ไม่มีสาวคนไหนสนใจหรือแม้แต่จะหันมามองผมเลย โถ่ เศร้า ชีวิตช่างอาภัพ

                    งั้นเดี่ยวเราดูดวงความรักให้เอาไหม เดชเสนอผม และไม่ฟังคำตอบของผม เขาถือวิสาสะจับมือของผมแล้วก็อ่านลายมือองผมทันที เขาเอามือตนเองมาเทียบดูลายมือของผมด้วย ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่หรอก อยากให้สาว ๆ พวกนั้นหันมามองผมบ้างสักครั้งให้นานเกิน 30 วินาทีก็ยังดี

                    เฮ้ยไอ้ป่าน ยินดีด้วย เดชอุทานอย่างตะลึง นายจะเจอเนื้อคู่วันนี้

                    ตาของผมลุกวาวทันทีเมื่อเดชบอกว่า เนื้อคู่ผมเงยหน้ามองดูเดชอย่างสนใจ

                    จริงเหรอ

                    เออสิ จะโกหกแกไปทำไม

                    ฝีมือการดูดวงของเดชนั้นแม่นมาก เพราะแม่ของเดชเป็นหมอดูด้วย เลยทำให้เดชสนใจเรื่องของการดดูดวงนี้มาบ้าง ที่ผ่านมาเขาทำนายอะไรก็แม่นหมด

    ไหนดูซิ วันนี้หลังจากที่นายกลับบ้านแหละ ให้นายแหงนหน้ามองดูฟ้าไว้ แล้วจะพบเนื้อคู่
    ผมแทบกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ บ้าเปล่าเนี่ย เนื้อคู่อะไรจะเจอบนฟ้า

    ไอ้เดช ผมยิ้มและพยายามกลั้นต่อมหัวเราะเอาไว้ไม่ให้มันระเบิดออกมา ฉันอยากมีแฟนเป็นคน

    นะเว้ย ไม่ใช่นก
                    เฮ้ย แต่จริง ๆ นะเว้ย เดชบอกด้วยสีหน้าที่ชวนสงสัยเหมือนกัน เนี่ย ๆ ๆ มันยังบอกอีกว่าเนื้อคู่แกจะสวยมาก ๆ แต่แปลกนะ เดชช้ลายมือผมไปส่ายหัวไป ฉันกลับไม่รู้เลยว่าเนื้อคู่นายเป็นคนแบบไหนยังไง

                    เหอ ๆ รู้สึกว่านายจะทำนายไม่แม่นก็วันนี้หละวะ
                    เฮ้ย แต่ผลทำนายมันออกมาแบบนี้จริง ๆ นะเว้ย -0- “

                    มั่นใจเหรอ เพื่อนเอ้ยยย

     

                    ขากลับจากมหาวิทยาลัย ( บนรถสองแถม สาว ๆ ในรถพร้อมใจกับเขยิบออกห่างจากตัวผมหมดเลย ฮือ ๆ T_T ) ผมเดินเข้าไปในซอยเพื่อเดินทางกลับบ้าน จากรถสองแถมที่จอดส่งผมเข้ามาข้างในนี้นั้นก็เป็นซอยเปลี่ยวแล้ว โชคดีที่ยังเป็นตอนกลางวัน ไม่งั้นสยองตาย ข้างซ้ายนั้นเป็นพงหญ้าขึ้นรกและไม่มีใครสนใจจะไปยุ่ง เพราเจ้าของที่ดินนั้นซื้อเอาไว้แต่ไม่รู้จะเอามาทำอะไร ทางขวาก็เป็นบ้านคนพักอาศัยในสภาพของบ้านเดี่ยวและทาวเฮ้าท์ 2 ชั้นสลับกันไป มองไกล ๆ ก็จะเป็นภูเขาอยู่จนมองเห็นได้ชัดเจน ส่วนบ้านของผมนั้นอยู่ในสุดของซอยครับ

                    ผมเดินกลับบ้านตัวคนเดียว ไม่มีเสียงแม้กระทั่งคนหรือหมา เพราะเป็นเรื่องปกติที่ตอนกลางวันจะมีคนไปทำงานกัน ( ผมเรียนรอบเช้าครับ รอบบ่ายเลยว่าง –w- ) ขณะทีผมเดินกลับบ้าน ผมกลับนึกถึงคำพูดของเพื่อนผมตอนก่อนเรียน

                    แกจะเจอเนื้อคู่วันนี้ ให้แหงนหน้ามองดูฟ้าไว้

                    ไร้สาระจริง ๆ ผมพ่มลมออกจากจมูก แต่ มันก็น่าลองวุ้ย

                    ผมเงยหน้ามองดูบนท้องฟ้า ไม่มีอะไรเลยนอกจากแสงแดดและเมฆสีดำ ๆ ที่ส่องเปรี้ยงเข้าเต็มตาผม อ๊ากกก ตาจะบอดไหมเนี่ย -*-

                    ผมกระพริบตาเพื่อให่หายจากอาการลายตาเมื่อกี้ ให้ตายเด๊ะ ไร้สาระชะมัด

                    ยังไม่ทันที่เท้าผมจะก้าวเดินต่อไปเลย  ปรากฏว่าเม็ดฝนตกลงมา รูปร่างของเม็ดฝนก็ใหญ่ด้วย ไม่ใช่เล็ก ๆ พื้นถนนที่แสงแดดส่องจ้าลงมานั้นก็มีหยดน้ำฝนตกลงมาเป็นดวงหยดน้ำรูปวงกลม เสียงเปาะแปะดังระงมไปทั่ว ผมเงยหน้ามองดูบนท้องฟ้าอย่างสงสัย แดดก็ออกนี่หว่า แล้วทำไมฝนตก ?

                    ทันใดนั้น มีเงาสีดำ ๆ ปิดบังผมจากดวงอาทิตย์ และเมื่อผมเงยหน้ามองขึ้นไปอย่างสงสัย ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งร่วงลงมาจากฟ้า

                    จ๊วบบบบบบ !

                    ปากของผมประกบกับปากของผู้หญิงคนนี้ทันทีเมื่อร่างของเธอร่วงลงมาถึงตัวของผม ริมฝีปากของผมกับเธอประกบกันและเมื่อเธอลงมาทับตัวของผม ผมรับน้ำหนักไม่ไหวแล้วก็หงายหลังร่วงลงไปนอนกองกับพื้นถนน โอ้ย เจ็บ !

                    ผมหลับตาแน่นเพราะศีรษะของผมดานหลังกระแทกกับะพื้นปูนถนนเต็ม ๆ แถมยังรู้สึกหนัก ๆ เหมือนมีใครมานั่งทับผมด้วย เมื่อผมลืมตามอง ผมก็ต้องตกใจจนแทบร้องออกมา

                    ผู้หญิงนอนทับผม !

                    เธอมีผมยาวสีดำและผมทรงหางม้า ใบหน้ารูปไข่ของเธอขาวนวลดั่งไข่มุก ผิวกายของเธอเนียนนุ่มราวกับเด็ก เธอใส่ชุดประหลาดที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนสีดำ ไม่มั่นใจว่าเป็นชุดอะไร เธอนอนหลับตาอยู่และนอนทับบนตัวของผม

                    แว๊กกกก ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร มาจากหนายยยย

                    ใบหน้าของเธอซุบแนบอยู่กับอกของผม และเมื่อเธอลืมตาขึ้น ทำให้ผมเห็นดวงตาสีเขียวน่ารักสดใสของเธอ เธอมองผมอย่างตกใจแวบนึง แล้วก็แปรเปลี่ยนสีหน้าเป็นความโกรธเกรี้ยวทันที

                    เจ้า เธอเรียกผมพลางรีบกระโดดออกมาจากตัวผมอย่างรวดเร็ว เจ้าทำอะไรข้า !

                    ผมมองดูเธอที่กระโดดออกมาจากตัวของผมอย่างรวดเร็วอย่างตกตะลึง เมื่อผมมองดูตัวเธอทั้งตัวแล้ว พบว่าเธอสวยและน่ารักมากทีเดียว เธอน่าจะมีอายุน้อยกว่าผมราวๆ  สัก 1 2 ปี แต่เอ๊ะ เมื่อกี่เธอบอกว่าผมทำอะไรเธองั้นเหรอ

                    ความรู้สึกที่ปากของผมว่าเมื่อกี้ผมกับเธอจูบกันโดยบังเอิญก็แวบมาขึ้น

                    หา ! เมื่อกี้ผมจูบกับผู้หญิงงงงงงง !

                    เจ้า เธอเอามือมาจับริมฝีปากของเธอ เจ้าบังอาจ จุมพิตข้า ! “

                    ผะ ผมเปล่านะ ผมรีบดันตัวเองถอยหลังออกมาจากเธออย่างไวด้วยความตกใจสุดขีด หน้าของผมแดงขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่ผมควบคุมไม่ได้ ผะ ผมไม่ได้ตั้งใจ

                    มานี่ เธอเดินเข้ามาหาผมแล้วก็จับที่มือของผม จากนั้นก็ลากผมเข้าไปในพงหญ้ารกข้าง ๆ  ราวกับว่าตัวของผมนั้นไม่ได้หนักอะไรสำหรับเธอเลย มือนุ่มนิ่มของเธอลากผมเข้าไปในพงหญ้า

                    อ้า ช่วยด้วย ผมกำลังจะโดนผู้หญิงลากไปข่มขืน T_T

                    เมื่อเธอลากผมมาได้สักพัก เธอก็หันหน้ามามองผมทันที สีหน้าของเธอนั้นอ่านยากมาก ผมไม่รู้เลยว่าเธอมองผมด้วยอารมณ์อะไรกันแน่

                    อยู่นิ่ง ๆ เธอบอกกับผมพลางเอามือทั้ง 2 ข้างของเธอจับตรงชายเสื้อประหลาดของเธอ

                    อ๊า ไม่น้า เธอจะข่มขืนผมจริง ๆ ด้วย ผมยังบริสุทธิ์อยู่น้า... ไม่อ๊าววววว

                    ปรากฏว่าเธอไม่ได้ถอดเสื้ออย่างที่ผมคิดเอาไว้ แต่เธอล้วงเข้าไปเอาของที่อยู่ในเสื้อของเธอ แล้วก็หยิบลูกประคำขนาดใหญ่สีดำออกมา เธอเอามันมาคล้องคอผมเอาไว้ จะทำอะไรผมงะ

                    ผมมองดูเธออย่างไม่เข้าใจ เธอเอามือทั้ง 2 ข้างพนมมือ แล้วปากของเธอก็ขมุบขมิบพึมพำสวดอะไรสักอย่าง

                    ทันใดนั้น ท้องฟ้ารอบ ๆ บริเวณที่ผมอยู่ก็มืดลง มีเสียงประหลาดดังออกมาจากข้างหลังผม มีลมดูดดูดเศษใบหญ้าและอากาศเข้าไป เมื่อผมหันหน้าไปมอง ก็พบกับข่องว่างกลางอากาศสีดำที่หมุนเป็นวงกลม มีแสงแลบออกมาจากช่องว่างนั้น มองดูแล้วเหมือนหลุมดำไม่มีผิด นี่มันอะไรก๊านนนน

                    เข้าไป เธอจับไหล่ของผมทั้ง 2 ข้าง แล้วก็ดันตัวผมเข้าไปข้างในประตูมิตินี้ทันที

                    ผมแทบควบคุมตนเองไม่ได้ รอบกายผมมีแต่สีดำและแสงสีขาวแลบไปแลบมา ข้างหลังผมมีลมดูดมหาศาลราวกับพายุเฮอลิเคน ผู้หญิงปริศนาคนนี้ก็ยังแนบตัวเองติดกับผมอยู่ ผมกับเธอทั้งคู่หล่นเข้าไปในช่องว่างของมิติทั้งคู่

                    นี่มันเกิดอะไรขึ้นนนนนนนนน !!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×