My Life for you : ชั่วนิรันดร์ ฉันมอบให้เธอ - My Life for you : ชั่วนิรันดร์ ฉันมอบให้เธอ นิยาย My Life for you : ชั่วนิรันดร์ ฉันมอบให้เธอ : Dek-D.com - Writer

    My Life for you : ชั่วนิรันดร์ ฉันมอบให้เธอ

    เขาว่าความรัก คือการให้ และการเสียสละ นี่คือเรื่องสั้นที่เกี่ยวข้องกับความรัก แล้วดูซิว่า คุณเข้าใจความหมายของ ความรัก มากน้อยแค่ไหน

    ผู้เข้าชมรวม

    1,062

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    1.06K

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 ก.ค. 53 / 16:09 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    />My Life for you : ชั่วนิรันดร์ ฉันมอบให้เธอ

    พอดีเรื่องนี้เป็นนิยายที่ผมแต่งขึ้นขำๆ เพื่อเป็นรายงานส่งของมหาวิทยาลัย เห็นว่าเนื้อเรื่องมันก็ใช้ได้ ก็เลนเอามาโพสให้ชาว เด็กดี อ่านด้วย

    เป็นนิยายที่ทำเพื่อเขียนเป็นบทละครโทรทัศน์สั้น ความยาวแค่ 15 นาที ทำให้เนื้อเรื่องไปไวหน่อยนะครับ (แถมเพื่อนในกลุ่มดันเจือกไม่ทำ งานมันก็ส่งพรุ่งนี้ เรื่องก็เลยออกแมาแบบนี้ -*-)

    by ป่านคุง

    ปล. เปิดเพลง My Heart Will Go On ไปด้วย รับรอง ได้อารมณ์

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      My Life for you : ชั่วนิรันดร์ ฉันมอบให้เธอ

       

                      กลางสวนสาธารณะแห่งหนึ่งยามคํ่าคืน ในย่านชานเมือง รอบๆแห่งนี้ไม่มีใครคนไหนเดินผ่านไปมา แสงไฟจากหลอดไฟจากเสาไฟฟ้าส่องสว่างเพียงไม่กี่ต้น เบื้องหน้าของสวนสาธารณะก็คือเมืองที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่อง แสงไฟจากอาคารเหล่านั้นส่องสว่างออกมาราวกับกล่องขนาดใหญ่ที่ประดับประดาไปด้วยแสงไฟระยิบระยับ เสียงแมลงร้องยามคํ่าคืนร้องเซงแซ่

      ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินไปเดินมาในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เขาก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือตนเองเป็นระยะ พลางจับจ้องไปยังทางฝั่งตึกที่อยู่เบื้องหน้าเขา และก็มองไปยังทางเข้าออกสวนสาธารณะที่มีแต่ความมืดมิดปกคลุม เขาถอนหายใจไปแล้วก็มองดูนาฬิกาข้อมือตนเองอย่างกระวนกระวาย

                      เขาเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี ใบหน้าคมเรียวราวกับนักรบ ดวงตาที่เข้มและจริงจัง ไว้ทรงผมรองทรงธรรมดม สวมเสื้อไปรเวศสีขาวและกางเกงยีนส์สีนํ้าเงิน เขาสะบัดผมไปมาเพื่อเฝ้ารอสิ่งที่เขาอยากให้มาถึง

                      เสียงฝีเท้าดังขึ้น เขาหันหน้าไปมองดูต้นเสียงนั้น มีคนๆหนึ่งกำลังวิ่งเข้ามาหาเขา เขามองดูร่างนั้นด้วยใบหน้าที่โล่งใจและดีใจไปพร้อมกัน

                      เธอเป็นหญิงสาวน่ารัก เธอไว้ผมยาวลงมาจนถึงสะโพก ใบหน้าของขาวเนียนราวกับไข่มุก สลับกับแก้มสีชมพูระเรื่อ นัยน์ตาของเธอกลมโตน่าหลงไหล ริมฝีปากเรียวงามได้รูป เธอสวมเสื้อชุดไปรเวศสีเขียว สลับกับกระโปรงยาวเลยเข่าสีขาว เธอพยายามวิ่งเข้ามาหาโดยที่ไม่ให้สะดุดอะไรล้ม เธอหอบแฮ่กๆเล็กน้อย และมองดูชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ

                      "เคน ขอโทษนะ ที่เค้ามาสาย" เธอเอ่ยปากขอโทษกับเขา แต่เขานั้นกลับเอามือโอบไหล่ของเธออย่างอ่อนโยน

                      "ไม่เห็นต้องขอโทษเลยนิ เมย์" ผู้ชายที่ชื่อ 'เคน' ยิ้มตอบ "ฉันสิ ที่ต้องขอโทษ ที่เรียกเธอมากลางดึกแบบนี้"

                      "เคนนะ มักจะมีอะไรเซอร์ไพรส์ฉันเป็นประจำไม่ใช่เหรอ เรื่องแค่นี้ ฉันนะ รอให้เธอเซอร์ไพรส์อยู่นะ" เมย์เอ่ยด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

                      เคนก้มหน้าลงแล้วก็เอามือลูบไปตามแก้มของหญิงสาวเบาๆ เขาจ้องมองดูดวงตาที่ใสซื่อของเธอ ทำให้ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อขึ้นด้วยความเขินอาย

                      "เดี๋ยวเซอร์ไพรส์ก็มาแล้ว ไม่นานหรอก" เคนบอก พลางมองดูนาฬิกาข้อมือของเขา ได้เวลาแล้วหละ"

                      เคนยืนตัวตรงแล้วก็โอบไหล่เมย์ แล้วพาเขาเดินไปตรงข้างหน้า ทั้งสองคนหันหน้าเข้าไปมองตึกในตัวเมือง

                      "สาม...สอง...หนึ่ง" เคนประกาศ

                      ประกายไฟจำนวนมากปรากฎขึ้นบนฟ้า เมย์มองภาพที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตื่นเต้นและประทับใจ พลุจำนวนมากถูกจุดขึ้นไปบนท้องฟ้าหลากสี แต่ละสีก็มีขนาดวงที่ใหญ่และเล็กต่างกัน พลุจำนวนมากจุดขึ้นในตัวเมือง เสียงของมันดังกึกก้องราวกับเสียงดนตรีในฟากฟ้า พลุจำนวนมากแตกกระจายออกมาเป็นรูปทรงต่างๆสวยสดงดงาม เหมือนแสงไฟที่กำลังเต้นระบำอยู่เบื้องหน้าของทั้งสองคน แสงสว่างส่องเข้ามากระทบใบหน้าของทั้งสองเป็นหลากสี เสียงปรบมือดังออกมาเป็นระยะจากในตัวเมือง เคนเลื่อนมือกุมมือของเมย์ไว้ ซึ่งเธอเองก็จับมือตอบเขาด้วยเช่นกัน

                      "สวยใช่ไหมหละ" เคนยิ้มบอก "เทศกาลดอกไม้ไฟประจำเมืองยังไงหละ"

                      เมย์หันหน้ามองดูเด็กหนุ่ม ทำให้เธอเห็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนของเขา เธอก้มหน้าลงเล็กน้อย ใบหน้าของเธอแดงจัด

                      "ขอบคุณนะ เคน" เธอบอก "ที่มอบเวลาดีให้กับฉัน"

                      "ไม่ต้องห่วงนะ" เคนยื่นหน้าเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น "ฉันจะทำให้เธอมีความสุขแบบนี้ ตลอดไป ฉันขอสัญญา"

                      เคนยื่นมืออีกข้างชูมาทางเธอ แล้วชูนิ้วก้อยให้เธอ เด็กสาวเองก็ยื่นนิ้วก้อยของเธอ เกี้ยวก้อยสัญญาตอบด้วย

                      "จ๊ะ ฉันเชื่อเธอนะ" เมย์ยิ้ม "เพราะเธอคือ คนที่ฉันรักที่สุดในชีวิตของฉัน"

                      "ฉันเอง ก็เหมือนกัน" เคนบอก

                      เคนยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของหญิงสาว แล้วมอบความรักของเขามอบให้แก่หญิงสาวที่เขารัก ซึ่งเธอเองก็ไม่รังเกียจเลยที่จะมอบความรักของเธอต่อผู้ชายในหัวใจของเธอ ทั้งคู่มอบความรู้สึกให้แก่กันและกัน โดยที่มีพลุหลากสีกำลังเปร่งประกายอยู่บนท้องฟ้าที่มืดมิด

       

                      (สองวันต่อมา)

                      "รายงานสถานการณ์ค่ะ" เสียงของนักข่าวดังในทีวี "เกิดเหตุอุบัติเหตุรถชนกัน ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายคน หนึ่งในนั้น คือหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่สุด เราทราบชื่อของเธอแล้ว เธอมีชื่อเล่นว่า 'เมย์' ตอนนี้เธอได้ถูกนำส่งที่โรงพยาบาลแล้วค่ะ"

                      เสียงเปิดประตูดังลั่น เคนวิ่งเปิดประตูทางเข้าออกของโรงพยาบาลที่เชื่อมต่อห้องต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน เสียงโทรทัศน์ที่เปิดอยู่ในเค้าเตอร์โรงพยาบาลนั้นทำให้เขายิ่งวิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลมากขึ้น เขารีบวิ่งเข้าไปในทางเข้าห้องฉุกเฉิน และเบื้องหน้าของเขานั้นก็คือ หญิงสาวที่เขารัก กำลังอยู่บนเตียงพยาบาลเคลื่อนที่ โดยที่มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกำลังเข็นเข้าไปตามทางเดินอย่างเร่งรีบ เคนรีบวิ่งตามไปโดยไม่สนใจเสียงวีดว้ายของคนไข้ที่อยู่ตามทางเดิน

                      "เมย์" เขาตะโกนเรียกเธอ เมื่อเขาวิ่งไปถึงเตียงพยาบาลแล้ว "เมย์ ทำใจๆดีไว้นะ"

                      หญิงสาวนามเมย์นั้น บัดนี้ใบหน้าของเธอฟกซํ้าไปด้วยบาดแผล เลือดของเธอไหลทะลุออกมากลางอก นัยน์ตาของเธอหรี่ตาครึ่งหนึ่ง หน้าของเธอมีเครื่องช่วยหายใจช่วยเอาไว้อยู่ พร้อมกับสายที่เสียบตามแขนของเธอ เสียงปี๊บ ปี๊บ ดังออกมาจากเครื่องวัดคลื่นหัวใจของเธอ เธอเอียงหน้ามองดูเคนด้วยอาการที่อ่อนแรง

                      "เคน" เธอเอ่ยเสียงแผ่วเบา "ฉันไม่เป็นไรหรอก"

                      "เมย์" เคนเห็นดังนั้นยิ่งทำให้เขาเห็นห่วงเข้าไปใหญ่ "เมย์ อดทนไว้นะ ตอนนี้ถึงมือหมอแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะ เธอต้องหายดีนะเมย์"

                      เด็กสาวยิ้มให้เขาเล็กน้อย ราวกับว่าเธอไม่สามารถที่จะยิ้มได้เต็มที่

                      "จ๊ะ"

                      เคนถูกเจ้าหน้าที่พยาบาลห้ามไม่ให้ตามเข้าไปต่อเมื่อพวกเขาเข็นรถพยาบาลเข้าไปในห้องผ่าตัดฉุกเฉินแล้ว ประตูห้องปิดลง เด็กหนุ่มยืนมองดูประตูห้องผ่าตัดนั้นด้วยความเหน็ดเหนื่อยที่เขาวิ่งตามมาเมื่อกี้นี้ เจ้าหน้าที่พยาบาลปล่อยเขาแล้ว เขาเดินไปนั่งที่เก้าอี้นั่งรอหน้าห้องผ่าตัด เขาเอาหน้าตนเองซบลงกับมือของเขาทั้งสองข้าง พยายามกลั้นนํ้าตาของเขาเอาไว้

                      "สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โปรดช่วยเมย์ด้วย" เขาสะอึกสะอื้น "ได้โปรด ผมขอร้อง"

                      เขานั่งรอหน้าห้องอยู่อย่างนั้น เขาไม่รู้ด้วยว่าเวลาผ่านไปแล้วกี่ชั่วโมง ไม่รู้ด้วยว่ามีนางพยาบาลเดินมาถามว่าจะเอาข้าวอะไรไหมกี่คน เขานั่งจนแทบไม่รู้สึกความเหมื่อย เขานั่งเฝ้า รอคอยผลที่เขากำลังเฝ้ารอ สายตาของเขาจับจ้องมองดูประตูห้องผ่าตัดเป็นระยะ

                      ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง ประตูห้องผ่าตัดเปิดออก พร้อมกับหมอที่ใส่ชุดผ่าตัดสีเขียว เขาเปิดผ่าปิดปากออกและเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดเหงื่อบนหน้าของเขา เคนรีบลุกขึ้นเดินไปหาหมอทันที

                      "หมอครับ เมย์เป็นไงบ้างครับ" เคนรีบถาม

                      หมอคนนั้นมองดูเคนด้วยสีหน้าที่เขาอ่านไม่ออก

                      "เธอเป็นญาติของคนไข้สินะ" หมอคนนั้นถาม เคนพยักหน้า "ตามผมมาหน่อย"

                      หมอเดินนำพาเคนไปยังห้องทำงานของเขา เคนรีบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อประตูห้องปิดลง หมอเชิญให้เคนนั่ง ซึ่งเด็กหนุ่มยังไม่ยอมนั่ง เขาจึงนั่งลงบนเก้าอี้เองด้วยความเหนื่อยอ่อน

                      "คนไข้รายนี้หนักที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา" หมอบอก "ตอนเกิดอุบัติเหตุ เธอนั่งอยู่บนรถเมล์ใช่ไหม"

                      "ใช่ครับ" เคนตอบ

                      "นั่งอยู่หน้ารถซะด้วยสิ" หมอบอกต่อ "ตอนเกิดเหตุ มีรถคันหนึ่งกำลังเมา ขับรถมาชนข้างๆที่นั่งคนขับเข้าอย่างจัง ทำให้คนขับคุมรถไม่อยู่ รถจึงพุ่งเข้าไปชนกับเสาไฟฟ้าข้างทาง แต่เหล็กที่ยื่นออกมาจากเสาไฟฟ้าต้นนั้นพุ่งทะลุเสียบกลางอกของเธอไป"

                      หมอหยิบแผ่นเอกเซรย์ขึ้นมาเปิดที่ฉายให้เคนดู

                      "แผลทะลุถึงปอด แถมยังเจาะตรงเส้นเลือดที่เชื่อมระหว่างหัวใจกับปอดด้วย บอกตรงๆเลยนะ โอกาสแบบนี้รอดยากมาก" หมอบอกพลางปาดเหงื่ออีกครั้ง "ตอนนี้หัวใจของเธอก็เต้นอ่อนแรงลงทุกๆทีๆ เราพยายามยื้อชีวิตเธอสุดความสามารถแล้ว แต่อุปกรณ์ของเราก็มีไม่เพียงพอ"

                      "ต้องทำยังไงบ้างครับหมอ ที่จะช่วยชีวิตเมย์ไว้ได้" เคนรีบถาม

                      หมอคนนั้นเงยหน้ามองดูเคน

                      "เราต้องการหัวใจของคนที่บริจาด แต่มันจะทันรึเปล่าก็ไม่รู้ เพราะหัวใจของคนไข้เต้นอ่อนลงมา ไม่ช้า ถ้าเกิน 24 ชั่วโมง เธออาจจะเสียชีวิตลงก็ได้ ตอนนี่ทางโรงพยาบาลกำลังโทรไปสอบถามทางโรงพยาบาลใหญ่ในตัวเมืองอยู่ ว่ามีหัวใจคนตายพร้อมบริจาดไหม"

                      เสียงประตูเปิด นางพยาบาลเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่วิตกกังวล

                      "คุณหมอค่ะ ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าไม่มีหัวใจคนที่บริจาดที่พร้อมให้เลยค่ะ" นางพยาบาลแจ้ง

                      "ว่าไงนะ" หมอลุกขึ้นถามด้วยท่าทีที่วิตกกังวล แล้วเขาก็นั่งลงบนโต๊ะเหมือนเดิม

                      "งั้นเราคงต้องพึ่งปาฏิหารย์แล้วสิเนี่ย" หมอกุมมือทั้งสองข้างและวางไว้บนโต๊ะ เขาก้มลงมองดูโต๊ะของเขาด้วยความเครียด "ต้องภาวนาให้มีคนตายหรือเสียชีวิตในตอนนี้เท่านั้น"

      เคนก้มหน้าลงมองดูพื้น เขานึกถึงวันเวลาที่เขาอยู่ด้วยกับเมย์ ตั้งแต่วันที่เขาสารภาพรักกับเธอ คบกับเธอในฐานะของคนรัก และแม้แต่เมื่อสองวันก่อน ที่เขาพาเธอไปดูพลุ

       

                      'ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะทำให้เธอมีความสุขแบบนี้ ตลอดไป ฉันขอสัญญา'

       

                      'จ๊ะ ฉันเชื่อเธอนะ เพราะเธอคือ คนที่ฉันรักที่สุดในชีวิตของฉัน'

       

                      เสียงในความทรงจำดังก้องในหัวของเขา เขาเงยหน้ามองดูนาฬิกาที่แขวนไว้บนผนังห้อง มันเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว

                      เขากลืนนํ้าลายลงอึกใหญ่ เขาเริ่มลังเลที่จะต้องทำ แต่เมื่อนึกถึงเมย์ เขาเริ่มที่จะทำด้วยความเต็มใจ

                      "หมอครับ หัวใจที่จะเอามาเปลี่ยนนี่ ต้องเพิ่งตาย ถึงจะดีใช่ไหมครับ" เคนถาม

                      "ใช่" หมอตอบ

                      "งั้น ฆ่าผมเลยครับ" เคนยืนขึ้นแล้วบอก

                      "อะไรนะ" หมอถามด้วยความตกใจ ไม่เว้นแม้แต่นางพยาบาลที่ตกใจพอๆกัน

                      "แล้วช่วยนำ หัวใจของผมให้เมย์ด้วย" เคนบอกด้วยน้ำเสียงสั่นครือ

                      "เธอแน่ใจนะ" หมอถาม "เราไม่มีหัวใจเทียมเพื่อช่วยเธอด้วย ถ้าทำแบบนี้ เธอก็จะตายจริงๆ"

                      "ผมยอมครับ" เคนก้มหน้าบอก เขาพยายามสะกดนํ้าตาตนเองเอาไว้ "เพื่อให้เมย์อยู่รอด ผมจะยอมสละชีวิตตนเอง เพื่อเธอ"

                      หมอยืนมองดูใบหน้าของผม เราทั้งสองคนมองตากันของอีกฝ่าย  หมอหันหน้ามองดูพยาบาลแล้วก็พยักหน้า

                      "ตกลง"

       

                      ......

                      ..

                      .

       

       

                      (สิบเก้าชั่วโมง ต่อมา)

                      "คุณเมย์ คุณได้ยินผมไหมครับ"

                      "คุณหมอค่ะ ชีพจรปกติค่ะ"

                      "ร่างกายไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านค่ะ"

                      "คุณเมย์ครับ ได้ยินที่หมอพูดไหมครับ"

                      เด็กสาวค่อยๆลืมตาขึ้นมองดูเสียงที่เรียกเธออย่างอ่อนแรง

                      ตอนนี้เธอกำลังนอนอยู่บนเตียงคนไข้ รอบๆตัวของเธอนั้นเต็มไปด้วยหมอและพยาบาลในชุดกาวด์สีเขียว เสียงคลื่นหัวใจของเธอดังขึ้นจากทางข้างๆ ของเธอ กลิ่นยาตลบอบอวลไปทั่วห้อง มีถุงเลือดและถุงนํ้าเกลือห้อยระโยงระยาง เธอมองไปรอบๆด้วยความสงสัย

                      "นี่... ฉัน.... "

                      "คุณรอดชีวิตแล้วครับ" หมอเดินมาตอบ

                      เมย์หันหน้ามองไปรอบๆ เธอสังเกตเห็นสีหน้านางพยาบาลหลายคนมองเธอด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก

                      "เกิดอะไรขึ้นกับฉันค่ะ" เธอถาม "แล้ว เคนและ เคนอยู่ไหม"

                      หมอก้มหน้าลง เมย์รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่กดดันเช่นนี้

                      "หัวใจของคุณเมย์อ่อนแรงลงมา ถ้าไม่รีบผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ เธอก็คงเสียชีวิตแน่ๆ และคนที่ยอมบริจาดหัวใจให้เธอ ก็คือ..."

                      แม้แต่หมอเองก็ไม่อยากบอก เขาก็บอกไม่ได้ แต่เหมือนเมย์จะเข้าใจในทันที หัวใจที่อยู่ในกายของเธอเริ่มเต้นรัวด้วยความตกใจ

                      "อย่า อย่าบอกนะค่ะ ว่า..."

                      หมอพยักหน้า

                      "เคน เป็นคนบริจาดหัวใจของตนเอง ให้คุณครับ" หมอตอบ

                      "เคน" เมย์เริ่มนํ้าตาอาบแก้ม "ไม่นะ.... ไม่จริง.... ไม่จริงใช่ไหม ... หมอค่ะ บอกทีซิค่ะ ว่ามันไม่จริงๆ"

                      หมอหันหน้าไปทางอื่น เขาไม่ตอบอะไรทั้งนั้น เด็กสาวเริ่มก้มลงมองดูตำแหน่งหัวใจบนอกของตัวเอง

                      "เคนนน !!" เธอร้องไห้โฮ "ไม่นะเคน ไม่นะ มันไม่จริง มันไม่จริงใช่ไหม"

      ไม่มีใครตอบเธอ นางพยาบางคนถึงกับแอบร้องไห้ออกมา บรรยากาศในห้องชวนโศกเศร้าลงทันที

                      "เคน..." เธอพรํ่าชื่อเขาด้วยความเศร้าโศกเสียใจ "เคน... ทำไมกัน... ทำไมเธอถึงทำแบบนี้.... ฉัน... ฉันนะ.... ฉันนะ...."

                      "คุณเมย์ครับ" หมอพยักหน้าให้นางพยาบาล "คุณเคนเขาฝากสิ่งนี้ให้กับเธอเอาไว้ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต"

                      เมย์หันหน้าไปมองข้างหน้า ที่มีนางพยาบาลเปิดทีวีให้ ในภาพนั้น เป็นภาพที่เคนกำลังนั่งมองดูเธออยู่

                      "เคน..." เธอเรียกเขา

                      "เมย์ ถ้าเธอเห็นไอ้นี่ แสดงว่าเธอยังไม่ตายสินะ" เคนในทีวีบอกด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแต่เศร้าสร้อย "โล่งอกไปที ที่เธอรอดตายได้"

                      นํ้าตาของเธอไหลพรูลงมาอาบแก้มของเธอ

                      "ฉันมันอาจบ้า ที่คิดจะตายเพื่อเธอ แต่รู้อะไรไหมเมย์" เคนในทีวีเอ่ยด้วยเสียงที่นุ่มนวล "ฉันไม่เคยนึกเสียดายชีวิตตนเองเลย ฉันสิ ดีใจต่างหาก ที่ฉันได้เกิดมาแล้วก็เจอกับเธอ"

                      ตัวของเธอสั่นเทาขึ้น มือของเธอค่อยๆยกขึ้น ราวกับต้องการที่จะสัมผัสเคนในทีวี

                      "ไม่ต้องห่วงนะเมย์ ฉันไม่ได้จากไปไหนหรอก แต่ฉันจะอยู่ในใจของเธอเสมอ อยู่ในนี้ไง"           เคนในทีวีเอามือตนเองจับที่หน้าอกตนเอง เมย์เอามือตนเองจับที่อกตัวเองตามไปด้วย        "หัวใจของฉันจะเป็นของเธอ เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป"

                      มีเสียงนางพยาบาลในทีวีดังขึ้น เคนหันหน้ามองไปทางนั้น แล้วก็พยักหน้าด้วยสีหน้าที่เข้มขรึม

                      "ได้เวลาแล้ว" เคนในทีวีบอกกับเธอ น้ำตาของเคนเองก็ไหลลงมาเช่นเดียวกัน เขาส่งยิ้มให้กับเธอ เป็นยิ้ม ครั้งสุดท้าย

                       "ลาก่อนนะเมย์ ขอให้เธอมีความสุขนะ ฉันรักเธอ"

                      ทีวีดับลง เด็กสาวตัวสั่นเทามากขึ้น นํ้าตาของเธอไหลรินออกมาราวกับเธอไม่สามารถควบคุมนํ้าตาของเธอได้ มือของเธอที่จับสัมผัสหัวใจของเธอนั้นสั่นเทามากขึ้น

                      "เคนนนนนน !!" เธอร้องไห้โฮขึ้นมาอีกครั้ง "ฉัน ฉันก็รักเธอนะเคน ฉันก็รักเธอ"

                      ไม่มีใครห้ามเธอ ไม่มีใครเข้าไปใกล้เธอ ทุกคนปล่อยให้เธอตกอยู่ในความเศร้าของเธอ

       

                      .,...

                      ..

                      .

       

                      "เขาว่ากันว่า ความรักนั้น ยิ่งใหญ่ ดุจมหาสมุทร

      ความรัก ก็คือ การให้ การเข้าใจซึ่งกันและกัน และที่สำคัญก็คือ

      ความรัก คือการเสียสละ

      ไม่มีสิ่งใด ยิ่งใหญ่เท่าความรักอีกแล้ว...."

       

      Story By ป่านคุง

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×