ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC GOT7] ☼ ร้อยตะวัน ☼ l #JackJae

    ลำดับตอนที่ #5 : ☼ ร้อยตะวัน ☼ l Chapter 04

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.2K
      59
      19 มิ.ย. 59

    ร้อยตะวัน

    #ฟืคร้อยตะวัน


    CHAPTER 04

                   



    ผิวกายขาวละเอียดยามถูกปกคลุมไปด้วยฟองสบู่และกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำราคาแพงทำให้ชเวยองแจหยุดคิดนิดหน่อยว่าตัวเขาเองมาทำอะไรอยู่ที่นี่ เด็กหนุ่มชูแขนที่มีร่องรอยของปากกาเลือนรางขึ้นมามองนิ่งๆก่อนเอนตัวพิงแผ่นหลังเข้ากับอ่างอาบน้ำแล้วหลับตาลงหวนระลึกถึงบ่อน้ำพุร้อนกลางบ้านอากิระที่มีเจ้าสามก้อนมาคอยถูหลังและหยิบผ้าเช็ดตัวให้



    หรือว่าเขาไม่ควรมาที่นี่ตั้งแต่แรก...



    ปัง!!


                    นัยน์ตาเรียวรีเบิกกว้างเมื่อเสียงที่แทรกเข้ามาในความคิดของเขาคือเสียงของปืนและการต่อสู้จากด้านนอกอาคาร เด็กหนุ่มลุกพรวดขึ้นจากอ่างอาบน้ำแล้วคว้าหยิบชุดคลุมมาสวมก่อนเปิดประตูออกไป



                    “มากับฉัน”


                    แจ็คสันที่ทำท่าเหมือนกำลังจะพังประตูเข้าไปแต่ดันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่คนด้านในเปิดประตูออกมาพอดี มือหนาคว้าจับข้อมือเล็กเอาไว้และดึงเข้ามาประชิดตัวทันทีโดยไม่รีรอที่จะอธิบายอะไร



                    ร่างหนากึ่งลากกึ่งจูงยองแจที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์มายังห้องแต่งตัว เขาเปิดประตูตู้เสื้อผ้าแล้วเลื่อนเสื้อผ้าทั้งหมดไปชิดไว้ทางฝั่งซ้ายมือก่อนจะคลำๆแตะๆด้านในตู้เสื้อผ้าแล้วออกแรงเลื่อนมันไปทางซ้ายอีกครั้งเผยให้เห็นบันไดห้องลับที่ตระกูลหวังสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ลี้ภัยยามจำเป็น



                    “พี่ชายนายนี่เห็นหงิมๆเวลาเอาจริงขึ้นมาก็บ้าดีเดือดเอาเรื่องเหมือนกันแฮะ” แจ็คสันยกมือขึ้นมารองศีรษะยองแจเอาไว้ไม่ให้ชนกับบานประตูห้องลับในขณะที่มืออีกข้างก็คอยดันหลังคนตัวเล็กให้เดินลงไปตามทางเดินบนบันไดแล้วจึงแทรกตัวเองเข้าไปในนั้นตามก่อนปิดประตูตู้เสื้อผ้า เลื่อนเสื้อผ้ากลับมาและปิดประตูห้องลับเป็นลำดับสุดท้ายเพื่อความแนบเนียน



                    “มาร์คอยู่ข้างนอกเหรอ?” คนตัวเล็กเอ่ยถามขณะที่แจ็คสันเอื้อมมาจับมือเขาและบีบมันแน่นขึ้นเมื่อริมฝีปากบางเอ่ยชื่อนั้นออกมา รถยนต์แบรนด์หรูหลายคันจอดเรียงรายอยู่ภายในห้องโถงลับขนาดใหญ่ที่ยองแจมองแล้วดูเหมือนโกดังมากกว่า ร่างสันทัดจูงมือเล็กเดินไปหยุดที่รถคันแรกแล้วเปิดประตูให้ยองแจเข้าไปนั่งด้านในก่อนที่ตัวเองจะเดินอ้อมไปนั่งทางฝั่งคนขับและสตาร์ทรถ



                    “หนีเหรอ...บ้ารึเปล่า ทำไมถึงไม่สู้ล่ะ!?” ประตูเหล็กไฟฟ้าของโกดังค่อยๆเลื่อนขึ้นพร้อมกับคนตัวเล็กที่พ่นคำถามที่อยู่ในใจออกมาอย่างงุนงง เขาไม่อยากจะเชื่อว่าหวังแจ็คสันจะเป็นคนขี้ขลาดถึงขนาดยอมหนีเอาตัวรอดโดยปล่อยให้คนนอกเข้ามาบุกถึงในบ้านแล้วไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง


                    รอยยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นบนมุมปากหยักท่ามกลางแสงไฟริบหรี่ก่อนที่น้ำเสียงนุ่มทุ้มจะดังแว่วตอบกลับมาพร้อมกับรถยนต์แบรนด์ดังที่ขับพุ่งทะยานออกไป



                    “เพราะฉันเจอดวงตะวันที่ทำให้ฉันอยากมีชีวิตอยู่เพื่อวันพรุ่งนี้น่ะสิ”

     

                   








                    ใบหน้าหล่อคมคายขมวดคิ้วกำมือแน่นขณะนั่งรอฟังรายงานจากลูกน้องของเฟยหรงอยู่ในรถเป็นระยะๆ หวังแจ็คสันชิงตัวน้องชายของเขาไปจากสนามบินอย่างแมวขี้ขโมย แต่สำหรับเฟยหรงแล้วไม่เคยมีนิสัยลอบกัดใครก่อน ถ้ากล้าจะเหยียบจมูกราชสีห์แล้วก็ต้องสู้กันซึ่งๆหน้าให้รู้ดำรู้แดงกันไป



                    “คุณมาร์คครับ! สายรายงานมาว่ามีรถต้องสงสัยขับออกไปจากทางด้านหลังไม่แน่ว่า...”


                    “คุณมาร์คครับ! ในบ้านไม่พบเบาะแสของทั้งคุณยองแจแล้วก็คุณแจ็คสันเลยครับ”


                    “ตามรถคันที่ว่าไป ส่วนพวกนายก็ดูอยู่แถวนี้ แบ่งส่วนนึงไปดักที่สนามบินเอาไว้ อย่าให้แจ็คสันมันพายองแจหนีไปได้!” มาร์คออกคำสั่งเสร็จสรรพ คนขับรถพร้อมทั้งบอดี้การ์ดอีกสองคันรถจึงขับตามไปยังพิกัดที่เพิ่งได้รับแจ้งมา ร่างสูงโปร่งกัดฟันกรอดพลางกำมือแน่นเข้าหากัน กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้วที่เขาต้องเป็นฝ่ายเดินหมากทีหลังหวังแจ็คสันอยู่เสมอ และคราวนี้เขาจะไม่ยอมพลาดอีกเด็ดขาด



     



                    เด็กหนุ่มหน้าหวานในชุดคลุมอาบน้ำนั่งกุมมือตัวเองสลับกับเงยหน้ามองเสี้ยวหน้าของคนข้างตัวที่ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรทั้งที่ภัยกำลังจะมาถึงตัว



                    “ปล่อยผมทิ้งไว้ตรงนี้ แล้วคุณรีบหนีไปซะ”


                    ริมฝีปากเล็กเอ่ยออกมาก่อนจะรีบงับปากตัวเองลงเพราะไม่รู้ว่าที่ทำอยู่เป็นการชี้โพรงให้กระรอกหรือเปล่า ทั้งที่ความจริงแล้วเขาควรจะดีใจไม่ใช่หรือไงที่กำลังจะจัดการศัตรูตัวฉกาจคู่อริของเฟยหรงไปได้และเขาก็จะได้กลับญี่ปุ่นเสียที



                    “ป่านนี้มาร์คน่าจะรู้แล้วว่าเราออกมา ถ้าจากการคำนวณระยะทางและเวลาอีกไม่ถึงห้านาทีมาร์คจะต้องตามมาทันแน่” แจ็คสันหลุดขำออกมาในหลักการคิดวิเคราะห์ของชเวยองแจ คนตัวเล็กปรายตาไปทางเขาอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยังหัวเราะอยู่ได้ ร่างหนาชะลอความเร็วลงก่อนจะหยุดจอดรถริมข้างทาง ปลายนิ้วเรียวยื่นไปแตะริมฝีปากเล็กที่ถูกกัดจนเป็นรอยช้ำเวลาเครียดด้วยสายตาเอ็นดู



                    “บอกแล้วไงว่าถ้าเครียดให้มาลงกับริมฝีปากของฉัน อย่าทำให้ตัวเองเจ็บเด็ดขาด”



                    “ใกล้ตายเลยปลงตกหรือไง”



                    ยองแจเบี่ยงหน้าหนีพลางขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจที่หวังแจ็คสันทำท่าเหมือนกับจะยอมแพ้แต่เพียงแค่นี้ ใบหน้าหวานดูหงุดหงิดและกระฟัดกระเฟียดไปหมด มือเล็กเปิดประตูเดินออกไปจากรถเพื่อคิดหาทางหนีทีไล่ให้กับคนขี้ขลาด แจ็คสันเดินตามยองแจลงมาจากรถก่อนจะคว้าแขนคนตัวเล็กที่ทำท่าเหมือนจะเดินหนีเขาแล้วตัดสินใจพูดออกไป



                    “คดีกรงนก...ผู้ชายคนนั้นทำเรื่องต่ำทรามกับแม่ของฉัน”



                    “อ...อะไรนะ...”



                    “ฉันเจอไดอารี่ของแม่ฉันในตู้ที่ใช้เป็นทางลงไปห้องลับ ท่านเขียนเอาไว้...ว่าถูกย่ำยีโดยชายชั่วอย่างไม่เต็มใจ...” นัยน์ตาคมสะท้อนความเจ็บปวดออกมาทางแววตาขณะพูด นัยน์ตาเรียวรีเบิกกว้างอย่างตกใจเมื่อได้รับรู้ข้อมูลที่เขาไม่เคยได้ยินหรือว่าได้อ่านจากที่ไหนมาก่อน เด็กหนุ่มหน้าหวานยืนอึ้งอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ปลายนิ้วยาวยื่นออกไปเกลี่ยปอยผมนิ่มของคนตัวเล็กที่ปรกหน้าออกให้อย่างเบามือก่อนจะดึงเขาเข้ามากอดแนบอก



                    “จูบของนายอบอุ่นเหมือนดวงตะวันที่ฉันไม่เคยได้สัมผัส”


                    “...”



                    “ถ้าได้เจอกันอีก...จูบฉันสักครั้งได้ไหม”

     


    ปัง!


                    เสียงปืนดังก้องกังวานชัดเจนในโสตประสาทของทั้งสองคนที่ยืนอยู่ริมข้างทาง นัยน์ตาเรียวรีเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตากำลังจับจ้องไปที่ใบหน้าคมคายของคนหื่นกามทีเขาไม่ชอบหน้ามาตั้งแต่แรกเห็น นัยน์ตาคมคายที่ทำให้เขารู้สึกร้อนวูบวาบทุกครั้งยามที่มองมาบนเรือนร่างของเขา อีกทั้งริมฝีปากอุ่นๆที่ถือวิสาสะช่วงชิงลมหายใจของเขาไปโดยไม่รู้ตัวอยู่บ่อยครั้ง ชเวยองแจเกลียดทุกอย่าง เกลียดทุกอย่างที่เป็นหวังแจ็คสัน...



                    แขนเรียวเล็กยื่นไปโน้มคอคนตัวโตกว่าลงมาใกล้ ก่อนริมฝีปากอิ่มแดงจะทาบทับลงไปบนริมฝีปากหยักบางเบา กลีบปากเล็กละเลียดชิมสัมผัสนุ่มนวลอ่อนโยนที่ถูกส่งมาและถ่ายทอดความอบอุ่นกลับไปเพื่อแลกสัมผัสให้แก่กันและกัน

     



    ปัง!         


    มือหนาผลักคนตัวเล็กออกห่างจากตัวทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น เด็กหนุ่มเบิกตากว้างเมื่อเลือดสีแดงสดหลั่งไหลออกมาจากแขนของคนที่ผลักเขาออกมา ยองแจรีบวิ่งกลับเข้าไปหาแจ็คสันอีกรอบจนปืนนัดต่อมาพุ่งเข้ามาโดนที่สีข้างของคนที่เอาตัวเองมาเป็นเกราะกำบังให้คนตัวเล็กเพราะกลัวจะโดนลูกหลงไปด้วย


    “พอได้แล้ว!!!



    ยองแจหันกลับไปหาที่มาของลูกปืนพร้อมกับตวาดออกไปอย่างเหลืออด ร่างสมส่วนในชุดเสื้อเชิ้ตลำลองและกางเกงขายาวสีดำเดินลงมาจากรถด้วยท่าทีสบายๆ ใบหน้าหล่อคมคายปราศจากรอยยิ้มถอดแบบผู้ชายคนนั้นออกมาได้อย่างไม่มีผิดเพี้ยน...ผู้ชายคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของเขา



    “ถอยออกมายองแจ” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยสั่งน้องชายเสียงเรียบ มือเล็กกำเข้าหากันแน่นแต่ก็ยังไม่ยอมถอยห่างจากแจ็คสัน แววตานิ่งเรียบของผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายหันกลับไปหามือปืนประจำตัวพร้อมกับออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา


    “ยิงมัน”


    “พอแล้วมาร์ค!



    ยองแจเขยิบออกห่างจากแจ็คสันได้ทันเวลาก่อนที่มือปืนคนนั้นจะลั่นไกปืน ใบหน้าหล่อปรายตามองน้องชายที่ไม่เคยโกรธจัดจนขาดสติถึงขั้นตวาดออกมา ใบหน้าหวานดูสับสนและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่นั่นคงเป็นเพราะว่ายองแจยังไม่เคยสัมผัสกับความรุนแรงของโลกมาเฟียที่แท้จริงและเขาจะต้องเรียนรู้จักมัน...


    “อั่ก”


    “มาร์ค!


    รองเท้าหนังราคาแพงเตะซ้ำเข้าไปที่สีข้างของหวังแจ็คสันจนเลือดไหลซึมออกมามากกว่าปกติ สองแขนของชเวยองแจถูกลูกน้องสองคนของมาร์คจับเอาไว้ไม่ให้เข้าไปขัดขวางและบังคับให้เขายืนรอชมจุดจบของทายาทตระกูลหวังอย่างโหดร้าย


    “ชเวซามะ!” ยามาดะ โช ที่เพิ่งขับรถตามมาถึงตรงเข้ามากระชากแขนลูกน้องของมาร์คออกจากผู้เป็นนายและสำรวจดูอาการบาดเจ็บของนายน้อยที่ยืนตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว


    “พายองแจกลับไปก่อน” มาร์คพูดเสียงเรียบเพราะนึกสงสารน้องชายขึ้นมาหน่อยๆ ยองแจเติบโตมาในสังคมของอากิระที่ใช้เหตุผลและการเจรจาเหนือความรุนแรง การบีบบังคับให้เขาเข้าใจความรุนแรงภายในวันสองวันคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้



    ยามาดะรับเสื้อคลุมจากลูกน้องมาสวมทับให้ชเวซามะอีกหนึ่งชั้นแล้วจึงประคองผู้เป็นนายที่ยืนมองคู่อริคนสำคัญของเฟยหรงกำลังถูกพี่ชายของตัวเองทำร้ายอย่างทุกข์ทรมานก่อนจะรีบพาเขาไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ไม่ไกล



    “ฉันจะขับเอง” ยามาดะบอกกับคนขับรถประจำตัวของตน ชายคนนั้นจึงโค้งศีรษะให้ผู้เป็นนายทั้งสองคนก่อนจะเดินออกไปรวมกลุ่มกับลูกน้องของมาร์คคนอื่นๆ



    “โชซัง...”




    น้ำเสียงนุ่มไม่สั่นเครือและคงไว้ด้วยสติสัมปชัญญะครบถ้วนของนายน้อยแห่งอากิระถูกเรียกกลับคืนมาอีกครั้งหลังจากได้นั่งอยู่ในความเงียบมาสักพัก ริมฝีปากเรียวของเจ้าของชื่อคลี่ยิ้มบางเล็กน้อยราวกับล่วงรู้ว่าคำพูดต่อไปของนายน้อยคืออะไร



    “...ช่วยเขาได้ไหม?”

     

     





     




    ซู่มมมมม!


                    “ยิงไปเรื่อยๆจนกว่ากระสุนจะหมดแล้วค่อยกลับ!” ใบหน้าคมคายออกคำสั่งหลังจากที่หวังแจ็คสันเพิ่งพลัดตกลงไปในแม่น้ำข้างทาง ความมืดทำให้เขามองไม่เห็นเลยว่ากระแสน้ำได้พัดเอาร่างของหวังแจ็คสันไปในทิศทางไหน นัยน์ตาดุดันมีอำนาจปรายกลับไปมองลูกน้องคนที่อาสาเข้าไปหิ้วปีกแจ็คสันแต่ดันพลาดทำตกน้ำไปซะได้อย่างน่าหงุดหงิด



                    “เก็บกวาดให้หมดอย่าให้เรื่องสาวมาถึงเฟยหรงได้” มาร์คหันไปสั่งลูกน้องคนสนิทแล้วเดินกลับไปที่รถ ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมผู้ถือหุ้นทั้งหมดของเฟยหรงถ้าหากว่าชเวยองแจยังไม่กลับมาเข้าร่วมประชุมเขาจำเป็นต้องขายหุ้นในส่วนของยองแจให้กับคนที่จ้องจะฮุบตำแหน่งประธานบริษัทซึ่งมีหุ้นน้อยกว่าเขาแค่เพียงสิบเปอร์เซ็นต์ มาร์คจึงรอช้าอีกไม่ได้







                    ร่างสมส่วนในชุดลำลองภูมิฐานยืนมองสภาพลูกน้องของตัวเองที่โดนเล่นงานจนสะบักสะบอม บางส่วนก็ล้มหายตายจากมีเหลือรอดอยู่เพียงหยิบมือ ใบหน้ามีอายุเงยขึ้นมองไปบนบันไดที่ลูกน้องคนสนิทวิ่งลงมารายงาน



                    “คุณแจ็คสันไม่ได้อยู่ที่นี่ ชเวซามะน้องชายของมาร์คต้วนก็หายไปด้วยครับ”


                    มือใหญ่กำเข้าหากันแน่นอย่างหงุดหงิดที่หลานชายพลาดท่า เขารู้อยู่แล้วว่าหวังแจ็คสันอ่อนปวกเปียกกว่ามาร์คต้วนมากทั้งเรื่องฝีมือและประสบการณ์ ความฉลาดหลักแหลมของชเวซามะจะผลักดันแจ็คสันและส่งเสริมให้ตระกูลหวังกลับมาเรืองอำนาจอีกครั้งเขาจึงไม่คิดฆ่าชเวซามะตอนที่รู้ว่าแจ็คสันไปลักพาตัวมาจากสนามบิน

                   



                    ตั้งแต่เลี้ยงแกมา วันนี้แกทำถูกใจฉันที่สุดแจ็คสันมือใหญ่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นตามกาลเวลายื่นไปรับแก้วไวน์จากหลานชายแล้วยกแขนอีกข้างโอบไหล่เขาเอาไว้พลางนึกไปถึงเม็ดเงินมหาศาลที่ตระกูลหวังจะกอบโกยมาได้เพราะนายน้อยแห่งอากิระที่เขาร่ำลือกันว่าเก่งนักเก่งหนา แต่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเด็กอัจฉริยะคนนั้นจะเป็นน้องชายของมาร์คต้วน นี่คงเป็น...ไพ่ลับของเฟยหรง



    ทำให้ชเวซามะเป็นของแก มันสมองของอากิระทั้งหมดจะทำให้เรารุ่งเรืองคนอายุมากกว่าตบไหล่หลานชายอย่างมีความหวัง ถ้าหากชเวซามะทรยศต่อเฟยหรงและมาเป็นกำลังสำคัญของสกุลหวัง ไม่อยากจะคิดเลยว่าธุรกิจของพวกเขาจะไปได้ไกลขนาดไหน



    ไม่ล่ะ...มือหยาบใหญ่ของคนอายุมากกว่าถูกจับยกออกจากไหล่ด้วยท่าทีสุภาพ เด็กหนุ่มยกยิ้มให้ผู้เป็นลุงก่อนจะตอบออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ



    ไม่มีผู้นำคนไหนเกาะเมียกินหรอกลุง     

     

     




                    “เฮอะ ฉลาดคิดแต่อะไรโง่ๆ... หาให้เจอ ต่อให้เป็นศพก็ต้องเอาตัวมันกลับมา” หัวหน้าสกุลหวังคนปัจจุบันหันไปสั่งลูกน้องทุกคนเสียงเข้ม ใบหน้าดุดันดูหัวเสียเป็นอย่างมากที่หวังแจ็คสันพลาดท่าเสียทีให้กับพวกเฟยหรงจนได้



    ตลอดสัปดาห์นี้หวังปีแอร์ได้ส่งคนไปติดตามเฝ้าดูมาร์คต้วนอยู่ห่างๆแต่กลับไม่พบความเคลื่อนไหวอะไรผิดปกติ มาร์คยังคงไปทำงานแล้วตรงกลับบ้านทันทีเช่นทุกวัน ไม่ได้มีร่องรอยของการวางแผนอะไรที่บ่งบอกถึงการบุกชิงตัวชเวซามะมาก่อน ในตอนนี้จะเหลือก็เพียงแค่เหตุผลเดียวที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือธุรกิจของเฟยหรงจะไปต่อไม่ได้หากไม่มีชเวซามะ  



                   




                    ห้องนอนสไตล์โมเดิร์นห้องใหญ่สุดของบ้านเก่าท้ายสวนได้ถูกประยุกต์ปรับเปลี่ยนให้เป็นสไตล์ญี่ปุ่นโบราณ แม้ยองแจจะมองออกว่ามันเป็นการจำลองเหมือนกับการเซ็ตฉากขึ้นมาแต่ก็ยังรู้สึกดีหน่อยๆที่พี่ชายต่างมารดาของเขายังคงมีความใส่ใจเขาในเรื่องของที่พักอาศัยชั่วคราว


                    “อยู่ได้ไหม?”


                    ร่างเล็กพรูลมหายใจออกก่อนจะหันกลับไปมองเจ้าของบ้านที่อยู่ในชุดนอนสีพื้นซึ่งกำลังกอดอกยืนพิงเสามองไปยังน้องชายของตัวเองที่ไม่ได้เจอมานานเป็นสิบปี



                    “มารยาทของคนที่นี่คือไม่เคาะประตูเหรอ” ยองแจพูดเสียงเรียบพลางเดินไปนั่งตรงมุมน้ำชาเล็กๆโดยมีมาร์คเดินตามมานั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม



                    “แล้วแจ็คสันมันเคาะหรือเปล่าล่ะ” ยองแจรินน้ำชาใส่ถ้วยให้ผู้เป็นพี่ชายเพราะขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงด้วย มาร์คยกน้ำชาขึ้นดื่มในรวดเดียวก่อนจะใช้หลังมือเช็ดปากแล้วยื่นถ้วยไปให้ยองแจรินเพิ่ม


                    “เมื่อกี้ชาที่ดื่มมีรสชาติยังไง?”



                    คำถามที่ถูกส่งมาจากริมฝีปากบางทำเอาผู้มีศักดิ์เป็นพี่ขมวดคิ้วมุ่น เขาก็แค่ดื่มๆไปแก้กระหายไม่เห็นจำเป็นต้องใส่ใจเลยว่ารสชาติของมันจะเป็นยังไง ยองแจยังคงไม่รินชาเพิ่มให้มาร์ค เด็กหนุ่มทำเพียงแค่หันกลับไปหยิบถ้วยชาของตัวเองขึ้นมาวางบนฝ่ามือซ้าย มือเล็กหมุนถ้วยชาเข้าหาตัวเองด้วยมือขวาก่อนจะยกมันขึ้นดื่ม



                    “รสสัมผัสและกลิ่นทำให้ของที่เหมือนกันสองสิ่งแตกต่างกันออกไป บางคนสัมผัสได้ว่ามันคือชาแต่บางคนกลับสัมผัสอะไรไม่ได้เลย” ปลายนิ้วเรียวเลื่อนมาเช็ดขอบถ้วยที่ริมฝีปากสัมผัสเมื่อครู่ก่อนคนตัวขาวจะยื่นปลายนิ้วไปเช็ดกับกระดาษรองบนจานขนมของตัวเอง



               “นายตั้งใจจะสื่ออะไรกันแน่” มาร์คขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิมเพราะตีความในสิ่งที่ยองแจพูดไม่ออก



    “มาร์ค...ไม่มีใครเดินสะดุดหินก้อนใหญ่ ทุกคนต่างสะดุดเพราะหินก้อนเล็กกันทั้งนั้น ถ้ายังแก้จุดอ่อนของตัวเองตรงนี้ไม่ได้ก็จะเดินตามหลังหวังแจ็คสันหนึ่งก้าวอย่างนี้อยู่วันยันค่ำ” เด็กหนุ่มตัวขาวลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องและปล่อยให้พี่ชายของตนได้หยุดคิดอยู่กับคำพูดของเขา



    เพราะความอบอุ่นที่หวังแจ็คสันพูดถึง...ยองแจก็สัมผัสมันได้จากเขาเหมือนกัน 

















    100%

    TBC : ดูขยันแบบน่าอัศจรรย์ใจ... อ่ะ มาเฉลยกันเผื่อใคร งง แบบมะต้วนนะคะ

    มาร์คจะชนะหวังแจ็คสันเสมอทั้งเรื่องเรียนและเรื่องงานแต่สิ่งที่จะทำให้มาร์คพลาดก็คือการมองข้ามสิ่งเล็กๆไป

    อย่างเช่นที่ว่าทำไมแจ็คสันถึงจับยองแจไปได้นั่นเป็นเพราะว่าพี่มาร์คไม่ได้รู้สึกผิดสังเกตและกว่าจะรู้สึกตะจั๋นก็งาบน้องไปแล้ว

    ยองแจไม่ได้อยู่ฝั่งไหน 100% แจนวรรษมาเพื่อใช้หนี้มัคคึศนิยาและการที่จั๋นมิกามาดีด้วยมีผลต่อจิตใจ (อ่านไปเรื่อยๆจะค่อยๆคลี่คลายค่ะ) 

    ร้อยตะวันเป็นเรื่องที่พราวจะต้องเวิ่นเว้อยาวนิดนึงเพราะถ้าอ่านไม่ต่อเนื่องมันจะงง หรือถ้าอ่านไม่เก็ทก็จะงง พราวดองนานๆไม่มาต่อสักทีก็จะงง 

    ดังนั้น...โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ อดใจนิสสสนึงจิได้ไปญี่ปุ่นกันแล้ว ไปพบกับฮาเร็มคนหล่อทั้งจินเซ็นเซย์และยูกิโยมุ โงร้ยยยยย 


      #ฟิคร้อยตะวัน 

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×