ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC GOT7] ☼ ร้อยตะวัน ☼ l #JackJae

    ลำดับตอนที่ #7 : ☼ ร้อยตะวัน ☼ l Chapter 06

    • อัปเดตล่าสุด 11 ก.ค. 59


    ร้อยตะวัน

    #ฟืคร้อยตะวัน

    CHAPTER 06





     

                    “ถ้ายังไม่หายดีก็อยู่พักในบ้านไปเถอะ” เด็กหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งตะโกนบอกคนอายุมากกว่าที่ดันทุรังจะออกมาช่วยเขาสองพี่น้องหาปลาเพื่อนำไปประกอบอาหารสำหรับมื้อเย็นให้ได้ทั้งที่ตัวเองก็ยังเจ็บหนัก ท่าทางเงอะงะไม่ทะมัดทะแมงแถมยังสะดุดล้มก้นจ้ำเบ้าอยู่หลายครั้งหลายคราจนน้ำที่เคยใสขุ่นมัวไปหมดยิ่งทำให้แบมแบมเหนื่อยใจ



                    “อ๊ะ นี่ไง ได้มาละตัวนึง! เจโน่เอาถังมาเร็วๆ” เด็กผู้ชายตัวเล็กที่ยืนอยู่บนฝั่งรีบกุลีกุจอยกถังเปล่ามาให้กับมือใหม่หัดจับปลา แบมแบมเบิกตากว้างมองปลาที่ดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ในมือของแจ็คสันอย่างเหลือเชื่อ



                    “พี่แจ็คสันสุดยอดดดดดด” เจโน่มองปลาในถังตัวแรกแล้วกระโดดโลดเต้นไปมาอย่างอารมณ์ดี หวังแจ็คสันหันไปยักคิ้วให้กับเด็กหนุ่มผิวสีน้ำผึ้งก่อนจะก้มลงควานหาปลาตัวต่อไป



                    “ไม่เสียดายข้าวที่เสียไป ถ้างั้นจะยอมเรียกว่าพี่ให้ก็ได้” แบมแบมพูดออกมาแล้วรีบหันหลังกลับทำทีเป็นหาปลาต่อ แจ็คสันมองตามแผ่นหลังของเด็กหนุ่มตัวบางแล้วได้แต่แอบยิ้มในใจ พลันนึกไปถึงใบหน้าหวานสะอาดสะอ้านเจ้าของแววตาดื้อรั้นไม่ยอมใครลอยแวบเข้ามาในความคิดของเขาเพียงครู่หนึ่งก่อนจะหายไปพร้อมกับเสียงร้องโวยวายของเจโน่


                    “เฮ้ยยยย ปล่อยผมมมม พี่แบม พี่แจ็คสันช่วยผมด้วย!



                    ถังใส่ปลาที่เจโน่เคยถือไว้ด้วยความดีใจบัดนี้กลับตกลงไปกองอยู่กับพื้นทราย ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งจากริมแม่น้ำเพียงคนเดียวสามารถอุ้มตัวเจโน่ลอยขึ้นได้ แบมแบมทิ้งทุกอย่างและตรงกลับขึ้นไปบนชายฝั่งเพื่อจะช่วยน้องชาย แจ็คสันจึงรีบตามไปคว้าแขนของเขาเอาไว้และขอเป็นคนออกหน้าแทน



                    “ปล่อยเด็กซะ อย่ารังแกคนที่ไม่มีทางสู้” ร่างหนาตรงเข้ามาเจรจาต่อรองเพราะยังไม่เห็นว่าชายแปลกหน้าสามคนนี้จะเริ่มทำร้ายพวกเขาคนใดคนหนึ่ง ชายคนแรกที่ยืนใกล้แจ็คสันมากที่สุดหันไปพยักพเยิดกับอีกสองคนที่เหลือก่อนที่เป้าหมายของมันทั้งสามคนจะเปลี่ยนมาเป็นแจ็คสันแทน



                    “เฮ้ย! อย่าทำพี่แจ็คสันนะเว้ย” เจโน่รีบวิ่งเข้ามากัดแขนชายร่างใหญ่สุดที่เคยอุ้มเขาจนตัวลอย ชายคนนั้นจิ๊ปากอย่างขัดใจแล้วออกแรงสะบัดแค่เพียงนิดเดียวเจโน่ตัวน้อยก็แทบจะลอยเคว้งไปไกล


                    “เจโน่!


                    แจ็คสันพยายามสวนหมัดใส่ชายร่างใหญ่แต่ชายอีกสองคนก็เดินมาล็อคแขนแจ็คสันเอาไว้ไม่ให้เขาต่อสู้หรือขัดขืน แบมแบมคว้าท่อนไม้แถวนั้นขึ้นมาได้ก็กะจะฟาดศัตรูให้เต็มแรงแต่เพียงแค่เงื้อมือชายร่างใหญ่โตคนเดิมก็หันไปปัดและบิดข้อมือเล็กก่อนผลักเขาลงไปกองกับพื้นได้อย่างง่ายดาย


                    “ใครใช้ให้พวกแกมา!?


                    “เราไม่มีความจำเป็นจะต้องบอกคุณ”


    แจ็คสันกัดฟันกรอดอย่างโกรธจัดแต่เพราะสภาพร่างกายของเขาตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะสู้จึงทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากยืนมองเด็กสองคนที่ช่วยชีวิตเขาถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตา


    “ฆ่าฉันเลยสิ”


    “นายของเราจะเป็นคนตัดสินชีวิตคุณเอง”



    แจ็คสันถลึงตามองชายคนนั้นด้วยความโกรธ ใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์และความรู้สึกของชายร่างสูงใหญ่ไม่ได้บ่งบอกความรู้สึกใดออกมา เขาทำเพียงแค่หันไปพยักหน้าให้ลูกน้องอีกสองคนที่ล็อคแขนแจ็คสันเอาไว้ หนึ่งในสองคนนั้นคนใดคนหนึ่งล้วงหยิบเชือกขึ้นมาส่งให้เพื่อนเอาไปมัดมือแจ็คสันส่วนตัวเองก็เอาผ้าปิดตามาสวมไว้ไม่ให้แจ็คสันมองเห็น


    “ทำบ้าอะไรของพวกแก!?


    “จะพาพี่แจ็คสันไปไหน!?


    “ปล่อยพี่แจ็คสันนะไอ้พวกยักษ์”


    เสียงแบมแบมและเจโน่ดังไล่หลังกันมาไกลๆ แจ็คสันรู้สึกแค่ว่าตัวเองถูกกระชากขึ้นมานั่งบนรถโดยมีชายอีกสองคนคอยนั่งประกบอยู่ตลอดเวลา ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วตีหน้าเครียดอยู่ภายใต้ผ้าปิดตาที่มืดสนิทเพราะเขาไม่รู้เลยว่า นายที่พวกมันพูดถึงหมายถึงใคร

     

       








    ...ร้อยตะวัน...




         




                    “ถึงแล้วโทรมาหาด้วย” เจ้าของใบหน้าหล่อคมคายที่เบื้องหน้ามีตำแหน่งเป็นถึงประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ในเกาหลีใต้และเบื้องหลังเป็นผู้นำมาเฟียของเฟยหรงแห่งไต้หวันเอ่ยกับเด็กหนุ่มในชุดยูกาตะที่มีศักดิ์เป็นน้องชายของเขา


                    “จะให้ยามาดะติดต่อมา” ริมฝีปากบางตอบกลับผู้เป็นพี่ชายสั้นๆ ก่อนที่ศีรษะเล็กจะค้อมลงต่ำทำความเคารพผู้นำของเฟยหรงตามธรรมเนียมปฏิบัติในฐานะผู้น้อยโดยมีผู้ติดตามจากอากิระอีกสามคนก้มศีรษะปฏิบัติตามชเวซามะผู้เป็นนาย ฝ่ามือหนารั้งต้นแขนเล็กเข้ามาใกล้พร้อมโอบกอดน้องน้อยเอาไว้แนบอกอย่างที่เขาปรารถนาจะทำมาโดยตลอด



                    “แม้ว่านายจะปฏิเสธความเป็นเฟยหรงในวันนี้ก็ไม่เป็นไร” น้ำเสียงนุ่มเอ่ยกระซิบข้างหูแค่เพียงให้เขากับน้องชายได้ยิน ริมฝีปากบางของคนในอ้อมแขนเม้มเข้าหากันโดยไม่ตั้งใจแต่ก็ไม่ได้ผลักไสไล่ส่งอ้อมกอดแห่งความปรารถนาดีที่ผู้เป็นพี่หยิบยื่นมาให้เขาเป็นครั้งแรกจริงๆ



                    “ยองแจก็เป็นยองแจน้องชายของพี่เสมอ”



    ร่างสูงโปร่งผละออกจากคนตัวเล็กก่อนจะหันไปรับถุงของฝากจากลูกน้องตัวเองตามคำขอของยองแจส่งยื่นให้บอดี้การ์ดด้านหลัง เด็กหนุ่มก้มศีรษะน้อยๆให้ผู้เป็นพี่ชายอีกครั้งก่อนจะเดินนำทุกคนเข้าไปในเกทเพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศญี่ปุ่น



    หนึ่งบุรุษมุ่งมั่นแลผูกพัน อีกชายนั้นมีกำลังนำพาไป ตะวันใหม่ฉายชาดบนมือใคร ก็เสมือนชัยชนะที่งดงาม



    น้ำเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมาจากชายร่างสูงผอมวัยกลางคนที่คอยเดินตามหลังเด็กหนุ่มตัวขาวมาตั้งแต่ยังเล็ก ในเวลานี้ชเวซามะของเขาไม่ใช่เด็กน้อยไร้เดียงสาไม่รู้ความให้เขาต้องคอยประคับประคองจับจูงเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว และถ้าหากทุกอย่างเป็นการตัดสินใจของเด็กหนุ่มไม่ว่าจะซ้ายหรือขวาเขาก็พร้อมจะไปตามอย่างไม่มีเงื่อนไข

     


     

     

    ................





    ป๊อก...


                    “โอ๊ยยยย” สันดาบไม้ที่ฟาดลงบนศีรษะทุยของเด็กชายตัวน้อยจนเขาลงไปนั่งกุมศีรษะร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด บรรดาพี่เลี้ยงต่างพากันยืนมองคุณหนูตัวน้อยด้วยความสงสารแต่ก็ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ


                    “ลุกขึ้นมายองแจ”


                    ปลายดาบไม้วาดผ่านอากาศตรงไปชี้หน้าเด็กชายตัวน้อยเฉียดปลายจมูกรั้นไปแค่เพียงนิดเดียว นัยน์ตาคมกริบไม่สื่ออารมณ์จ้องมองบุตรชายคนเล็กนิ่งๆก่อนจะดึงดาบกลับแล้วโยนมันออกไปให้พวกลูกน้องตามเก็บ



                    “เอาดาบจริงมา”


                    เฮือก...


                    นัยน์ตาเรียวรีเงยหน้ามองผู้เป็นพ่อด้วยแววตาสั่นระริก เด็กน้อยตัวสั่นและทำอะไรไม่ถูกเมื่อดาบคาตานะเงาแวววาวถูกดึงออกมาจากปลอกสวมและโยนมันมาตรงหน้าเขาอีกหนึ่งเล่ม



                    “อย่าาาาาา!!



                    เด็กน้อยรีบยกดาบขึ้นตั้งรับการโจมตีจากผู้เป็นบิดาที่ฟาดปลายดาบลงมาอย่างไม่มีการออมแรงหรือว่าอ่อนข้อใดๆให้ มือเล็กที่แดงช้ำจากการจับดาบไม้ไผ่มาตลอดทั้งวันเริ่มอ่อนแรงและมีรอยแตกจนเจ็บไปหมด นัยน์ตาคมมองคนตัวเล็กที่เริ่มจะต้านกำลังของเขาไม่ไหวจนตัวสั่น ขาสั่นจึงยอมหยุดและเก็บดาบกลับไปไว้ในปลอกสวมตามเดิม




                    “จุดอ่อนของแกคือพละกำลัง ถ้ายังปวกเปียกอ่อนแออยู่แบบนี้อย่าว่าแต่เฟยหรงเลย แม้แต่อากิระที่แกรักนักรักหนาแกก็ไม่มีปัญญาจะดูแลและฉันจะคอยสมน้ำหน้าให้กับความเหยาะแหยะของแก”



                   

                    นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ชเวซามะได้พบและได้ประดาบกับผู้เป็นพ่อซึ่งหลังจากนั้นประธานแห่งเฟยหรงคนก่อนก็ไม่เคยมาเหยียบอากิระอีกเลยจวบจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต หนึ่งคำสั่งเสียที่เขาได้มอบไว้ให้กับชเวซามะก็คือ มาร์ค ซึ่งนั่นอาจจะหมายถึงการให้อากิระสนับสนุนเฟยหรงไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามและชเวซามะก็ยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอดจนกระทั่งตอนนี้












    ซ่าาาา!



    ร่างหนาสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกเหมือนกับกำลังโดนน้ำสาด ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบใบหน้าที่เปียกก่อนตบแก้มตัวเองเบาๆเรียกสติให้หายจากอาการมึนงง



    “อ๊ะ ตื่นแล้ว!



    ชายหนุ่มหรี่ตามองเด็กผู้ชายตัวเล็กประมาณห้าหกขวบในชุดยูกาตะสีกรมท่าที่มองหน้าเขาแล้วตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น นัยน์ตาคมเหลือบไปเห็นถังน้ำใบเล็กในมือของเจ้าเปี๊ยกก่อนจะก้มมองสภาพของตัวเองที่เปียกปอนไปหมดทั้งตัว...



    “วะ...เหวออออออ”



    “มานี่เลยไอ้เปี๊ยก” แจ็คสันเอื้อมมือไปคว้าคอเสื้อของเด็กชายตัวน้อยที่หันหลังเตรียมวิ่งหนีก่อนจะอุ้มเขาขึ้นพาดบ่า



     “ที่ฉันตัวเปียกแบบนี้ เป็นฝีมือนายใช่ไหม?”



    “ไม่ใช่นะ เรียวไม่ได้ทำ!” เด็กน้อยปฏิเสธเสียงหนักแน่นก่อนจะร้องไห้ออกมาเพราะความตกใจเมื่อแจ็คสันแกล้งจับเขาห้อยหัวจนเหมือนว่าเขาเกือบจะหล่นลงไปจริงๆ



    “ปล่อยพี่เรียวนะ!


    “ปล่อยพี่ชายของพวกเราลงมานะคนใจร้าย!


    เด็กก้อนหัวเห็ดอีกสองคนวิ่งมาจากทางไหนไม่รู้ ทั้งคู่ทิ้งถังน้ำใบน้อยในมือแล้วตรงเข้ามาเกาะแขนเกาะขาของแจ็คสัน พร้อมดึงทึ้งเพื่อให้เขาปล่อยตัวพี่ชายที่ห้อยต่องแต่งอยู่บนไหล่


    “เรียว เร็น เรย์!


    เสียงหวานนุ่มแต่ทว่าทรงอำนาจดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ เด็กสามผู้ใหญ่หนึ่งที่มะรุมมะตุ้มกันอยู่ต่างหยุดชะงักพร้อมกับหันไปมองยังเจ้าของเสียง


    “ชเวซามะ!!!


    เด็กสองคนที่เกาะขากางเกงของแจ็คสันอยู่ผละออกพร้อมกับวิ่งเข้าไปหาหนุ่มหน้าสวยหวาน มือบางโอบอุ้มเด็กน้อยตัวเล็กสุดขึ้นมาไว้บนอ้อมแขนส่วนมืออีกข้างก็เอื้อมไปจับจูงเด็กชายอีกคนหน้าตาท่าทางเอาเรื่องแล้วพากันเดินตรงมาหาแจ็คสันที่ยืนมองร่างแบบบางนั้นไม่วางตา


    “ที่นี่ใช้เหตุผลคุยกัน ถ้าจะมาใช้กำลังกับคนของผมก็เชิญออกไป” ริมฝีปากอิ่มแดงเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แววตาเด็ดเดี่ยวของชเวยองแจสะท้อนเงาของตัวเขาอยู่ในนั้น หวังแจ็คสันคลี่ยิ้มก่อนจะยอมปล่อยเด็กที่ชื่อเรียวลงยืนบนพื้นตามปกติ



    “ฮือออออออ ชเวซามะ” เด็กหนุ่มตัวบางปล่อยเด็กชายตัวเล็กสุดในอ้อมแขนลงบนพื้นบ้างก่อนจะย่อตัวลงนั่งให้ใบหน้าเสมอกันกับเด็กน้อยทั้งสามที่พากันร้องไห้ระงมเมื่อได้เจอชเวซามะของพวกเขา



    “เอาล่ะ ไม่มีใครทำอะไรได้แล้วนะ ทีนี้ก็เล่าให้เราฟังว่าเกิดอะไรขึ้น” มือเล็กยีผมเด็กชายตัวโตสุดปลอบขวัญ น้ำเสียงดูเหมือนจะเป็นกลางแต่สายตาของหนุ่มหน้าหวานที่จ้องมองหวังแจ็คสันก็เหมือนกับตัดสินว่าเขาเป็นคนผิดไปแล้วกลายๆ



    “เรียวกำลังจะเอาน้ำมาเติมใส่บ่อปลาคาร์ฟตามปกติแล้วผู้ชายคนนี้ที่นอนอยู่...ฮึก ก็ตื่นมาอาละวาด”



    แจ็คสันตรงเข้าไปจะหาเรื่องเด็กน้อยคนนั้นอีกรอบ แต่ยองแจดึงเรียวเข้ามากอดไว้แล้วดันอีกสองคนไปอยู่ด้านหลังเพราะเขารู้ดีว่าหวังแจ็คสันอารมณ์ร้อนขนาดไหน



    “ตัวฉันเปียกขนาดนี้แล้วไอ้เด็กนี่ก็ถือถังน้ำมาด้วย ถ้ามั...เรียว ถ้าเรียวไม่ได้เป็นคนทำแล้วใครจะทำ!?” แจ็คสันไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมตัวเขาเองต้องเปลี่ยนสรรพนามการเรียกไอ้เด็กนี่เพียงเพราะแค่ยองแจส่งสายตาไม่พอใจมา ใบหน้าหวานรับฟังทั้งคู่ก่อนจะมองเด็กน้อยในอ้อมกอดที่สบตากับเขาแล้วส่ายหน้ายืนยันหนักแน่นว่าเขาไม่ได้เป็นคนทำ


    “เรียวไม่เคยโกหกผม”


    “เฮอะ แล้วนายก็เข้าข้างเด็กจนได้”



    หนุ่มหน้าหวานพรูลมหายใจออกเบาๆเพื่อระงับอารมณ์หงุดหงิดที่มักจะเกิดขึ้นทุกทีเวลาอยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้ ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ยองแจลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะไล่สายตามองดูเด็กน้อยทั้งสามของตัวเองที่ยืนเรียงกันเป็นแถวหน้ากระดานพลางก้มหน้าก้มตารอรับคำตัดสินจากชเวซามะ ผู้ปกครองของพวกเขา



    “ถ้าทั้งสามคนมั่นใจว่าไม่ได้เป็นคนสาดน้ำใส่เขาก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองได้” เด็กทั้งสามคนเงยหน้าขึ้นอย่างมองชเวซามะด้วยความประหลาดใจ มีเพียงแจ็คสันที่ยืนขมวดคิ้วทำหน้าไม่พอใจในคำตัดสินที่ไม่ยุติธรรมกับเขาอยู่ข้างๆ



    “และในเมื่อจับมือใครดมไม่ได้ ผมขอเป็นคนรับผิดชอบโดยการให้คุณออกคำสั่งกับผมยังไงก็ได้หนึ่งข้อ”



    “ชเวซามะ!




    ไม่ใช่เพียงแค่เด็กสามคนเท่านั้นที่ตกใจแต่บริวารทั้งหมดในบ้านอากิระเองก็ตกใจไม่แพ้กัน



    “แบบนี้ค่อยดูยุติธรรมขึ้นมาหน่อย” แจ็คสันยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจในข้อเสนอของร่างบาง ท่อนแขนแกร่งโอบรั้งเอวบางเข้ามาแนบชิดแต่โดนยองแจศอกกลับซ้ำแผลเดิมทันทีอย่างไม่ไว้หน้า



    “ถ้ายังไม่ออกคำสั่งก็ไม่มีสิทธิ์” คนอายุน้อยกว่าเหยียดยิ้มมุมปากพลางยักคิ้วหนึ่งทีส่งไปให้ร่างหนาที่งอตัวกุมบาดแผลที่ยังไม่หายสนิทของตัวเองด้วยสีหน้าเจ็บปวด


    “ชเวซามะ ทำแบบนี้มัน...”


    “เพิ่มเป็นสองข้อ”


    ชายร่างสูงใหญ่ที่ตั้งใจจะเข้ามาขัดขวางหยุดชะงักไป นัยน์ตาคู่สวยจ้องมองชายคนนั้นสลับกับหวังแจ็คสันและเด็กๆสามคนก่อนจะเอ่ยต่อ



    “ถ้าเราได้ยินคำสั่งของยามาดะไม่ผิดพลาด เขาสั่งให้พาหวังแจ็คสันไปพักในห้อง แล้วทำไมเรียวถึงเจอแจ็คสันนอนอยู่ตรงชานระเบียง หรือทาเคดะจะบอกว่าเด็กสามคนนี่เป็นคนพาเขาออกมา?”



    ชายคนนั้นก้มหน้ายอมรับความผิดเพราะเขาไม่ได้ทำตามคำสั่งของยามาดะ โช อย่างที่ชเวซามะพูดจริงๆเพราะเขาไม่เห็นว่าผู้ชายคนนี้สมควรจะได้รับการต้อนรับและอยู่กินที่นี่ทั้งที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของเฟยหรงและยังเป็นคนจับตัวชเวซามะไปกักขังตอนอยู่ที่เกาหลีอีก



    “ถ้าคำสั่งของเรากับยามาดะไม่มีความหมาย อากิระก็คงไม่จำเป็นต้องมีผู้ปกครอง”


    “...”


    “กล้ายอมรับผิดในเรื่องที่ตัวเองทำก็เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่นักปราชญ์พึงมี”


    ยองแจปรายตามองไปที่เด็กๆสามคนโดยหนึ่งในสามนั้นมีคนหนึ่งเป็นคนที่ยองแจเพ่งเล็งมากที่สุด เด็กน้อยหลุบตาลงต่ำก้มลงมองเท้าตัวเองไม่กล้าสบตากับชเวซามะ ก่อนที่เสียงสั่นเครือจะตะกุกตะกักเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มบางของคนหน้าหวานที่ปรากฏขึ้นราวกับรอคอยได้ยินคำนี้อยู่


    “เร็น...เร็นเป็นคนทำเอง”


    “...”


    “เร็นได้ยินว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนจับตัวชเวซามะไป เร็นไม่ชอบหน้าเขาตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า วันนี้บังเอิญเป็นวันตักน้ำใส่บ่อปลาคาร์ฟพอดีแล้วผู้ชายคนนี้ก็นอนอยู่ เร็นเลย...”


    “เอาน้ำเทใส่ฉัน?”


    เด็กน้อยพยักหน้ารับคำก่อนจะลงนั่งคุกเข่ากับพื้นแล้วโค้งศีรษะขอโทษหวังแจ็คสัน ชายหนุ่มเองก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไรกับเด็กมากมายเขารีบจับแขนของเร็นให้ลุกขึ้นยืนแล้วหันไปขอความช่วยเหลือจากคนตัวบาง


    “ฮึก...คุณแจ็คสันอย่า...อย่าลงโทษชเวซามะเลยนะ เร็นยอมรับผิดแล้ว เร็นขอโดนลงโทษเอง” เร็นร้องไห้งอแงอ้อนวอนหวังแจ็คสันเพราะรู้สึกผิดกับชเวซามะที่ต้องมารับผิดชอบแทนเขาเพียงเพราะความเห็นแก่ตัวของเขาเองที่กลัวการถูกทำโทษ



    “เอาล่ะ...ทีนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าการที่เราไม่กล้ายอมรับความผิดในสิ่งที่ตัวเองทำ จะมีอีกกี่คนเดือดร้อนเพราะความเห็นแก่ตัวของเรา ทั้งแจ็คสันที่โดนกระทำ เรียวที่ถูกเข้าใจผิด และเราที่ต้องเป็นคนรับผิดชอบ”



    เด็กชายตัวน้อยพยักหน้าหงึกหงักรับฟังคำสั่งสอนของชเวซามะ ยองแจลูบผมนิ่มของเร็นเบาๆก่อนจะดึงเขาเข้ามากอดปลอบ แจ็คสันมองภาพนั้นพลางอมยิ้มน้อยๆ ทั้งทึ่งในการตัดสินปัญหาของยองแจและวิธีหาตัวคนทำผิดได้โดยแทบไม่ต้องลงมือทำอะไร แล้วไหนจะความอ่อนโยนภายใต้อ้อมกอดนั่นอีก




    ความอบอุ่นแบบนี้เองสินะ...ที่เป็นเสน่ห์ของดวงตะวัน 











    100%

    TBC: ตีสามครึ่ง...มาเช้าไปไหมน้อ พราวคึกอ่ะ นอนไม่หลับ   #ฟิคร้อยตะวัน  


                               
     
      B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×