คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ☼ ร้อยตะวัน ☼ l Chapter 03
ร้อยตะวัน
#ฟืคร้อยตะวัน
CHAPTER 03
“หานี่อยู่เหรอ?”
กุญแจดอกเล็กสีเงินถูกหมุนเล่นอยู่บนปลายนิ้วของคนตัวโตโดยที่ยองแจไม่ทันได้สังเกตด้วยซ้ำว่าเขาเดินเข้ามาตอนไหนหรือว่าซ่อนอยู่ในห้องนี้มาตั้งแต่แรก
“นายอยู่ญี่ปุ่นมานาน
ไม่แปลกใจหรอกที่จะอยากรู้”
“...”
เด็กหนุ่มได้แต่เงียบไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกไปเพราะหลักฐานที่ชี้ชัดมัดตัวให้ปฏิเสธไม่ได้ก็คือการที่เขามายืนอยู่ตรงนี้
“เล่าเรื่องของนายมาสิ
ครบห้านาทีเมื่อไรฉันจะให้กุญแจ ถือว่าแลกข้อมูลกัน”
แจ็คสันยื่นข้อเสนอให้คนตัวเล็ก
เด็กหนุ่มที่ได้รับข้อเสนอขมวดคิ้วเข้าหากันน้อยๆอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่หวังแจ็คสันกำลังทำอยู่
“ถ้ากลัวว่าฉันจะตุกติกเรามาจูบทำสัญญากันก่อนไหม?”
“ปัญญาอ่อน”
คำด่าเรียบๆจากริมฝีปากบางทำให้คนที่ทำปากจู๋ยื่นยาวหลุดยิ้มขำทั้งที่ตัวเองกำลังโดนด่า
คนตัวเล็กพรูลมหายใจออกเบาๆก่อนริมฝีปากเล็กสีแดงระเรื่อจะเริ่มเล่าเรื่องราวของตนเองเพื่อแลกกับข้อมูลลับภายใต้ลิ้นชักนั่น
“ผมชื่อชเวยองแจ อายุสิบแปดปี
ถูกโรงเรียนเชิญให้ออก...”
“แถวบ้านฉันเรียกไล่ออก
ฉันก็เคยเกือบโดนไล่ออกเหมือนกันแต่แค่ให้พ่อไปเคลียร์ทุกอย่างก็จบ” หวังแจ็คสันพูดขัดพลางกอดอกยกยิ้มอย่างภูมิใจ
เด็กหนุ่มหลุดยิ้มออกมาเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะกลับมาทำหน้านิ่งแล้วเล่าต่ออย่างสงบ
“ผมถูกเชิญให้ออกเพื่อไปศึกษาต่อที่สถาบันอัจฉริยะ
ไม่ได้...”
“นี่
ถ้าพูดคำว่าโง่ออกมาฉันจูบจริงๆด้วย”
คนตัวเล็กเม้มปากเข้าหากันโดยอัตโนมัติ
คิ้วเรียวขมวดแล้วขมวดอีกอยู่หลายรอบจนตีกันยุ่งเพราะจอมก่อกวนไม่ยอมฟังเขาเล่าเฉยๆสักทีเอาแต่พูดขัดอยู่ได้
แถมสายตาก็เอาแต่จ้องมองมาที่ปากของเขาจนยองแจนึกอยากจะจิ้มลูกตาทั้งสองข้างนั้นให้บอดไปเลย
“สถาบันอัจฉริยะต้องไปเรียนที่ต่างประเทศ
คุณ...พ่อไม่อยากให้ไป
โชซังเลยยกบ้านของตัวเองทำเป็นที่สอนหนังสือและจ้างคนเก่งๆมาสอนให้ผมแทน
เลยเป็นที่มาของอากิระ สถาบันฝึกอัจฉริยะของเอเชีย”
“เรื่องเบสิกแบบนี้ฉันไม่ได้อยากรู้สักหน่อย
ที่ฉันอยากรู้คือโทรศัพท์นายเบอร์อะไร แฟนคนแรกจนถึงแฟนคนล่าสุดเป็นใคร
มีจูบแรกตอนไหน ชอบกินอะไรไม่ชอบอะไรแบบนี้ต่างหาก”
หวังแจ็คสันโวยออกมาหลังจากที่ยองแจเล่าในสิ่งที่เขาสามารถสืบหาเองได้
คนตัวเล็กขมวดคิ้วยุ่งยิ่งกว่าเดิมอย่างคนเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาหน่อยๆ
“ผมไม่มีเวลาทำเรื่องไร้สาระแบบนั้นหรอก”
ยองแจเริ่มรู้สึกหงุดหงิดว่าตัวเองมาทำอะไรอยู่ที่นี่กับคนแบบหวังแจ็คสัน
นอกจากคดีกรงนกจะไม่มีความคืบหน้าแล้วยังต้องมาเสียอารมณ์ให้กับเรื่องอะไรก็ไม่รู้อีก
“แสดงว่าไม่เคยมีแฟน?”
คนตัวเล็กหลุบตาลงต่ำเมื่อแจ็คสันจี้จุดเข้าให้พอดี
ตั้งแต่เล็กจนโตเขาเรียนรู้ที่จะอยู่กับหนังสือและตำราเรียนในอากิระจนแทบไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นที่ไหนเหมือนเด็กคนอื่นๆ
อีกทั้งสถาบันอากิระส่วนใหญ่เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งหมด เรื่องความรักก็เลย...
“ถ้างั้นจูบแรกของนายก็...”
แจ็คสันแลบลิ้นออกมาเล็มเลียริมฝีปากตัวเองต่อหน้าคนตัวขาวที่ยืนกำหมัดแน่น
ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อเมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อวาน
“ขนาดครั้งแรก...ลิ้นไม่ประสีประสาของนายยังทำใจฉันเต้นจนเกือบหลุดออกมา”
“นี่! คุณ...”
“เสพติด หลงใหล อยากได้อีก”
“พูดมาก”
ใบหน้าหวานแดงก่ำจนถึงใบหูขาว
คำพูดตรงไปตรงมาของแจ็คสันทำให้คนตัวเล็กอยากจะเดินหนีออกไปจากตรงนี้ถ้าไม่ติดว่าเขายังไม่ได้รู้ในสิ่งที่เขาต้องการจะรู้
“รู้ตัวไหมว่านายมีหลายอารมณ์มากขึ้นตอนอยู่กับฉัน”
“ผมเปล่า...”
“นี่ไง กำลังเขินอยู่ อ๊ะ นี่โกรธละๆ”
คนตัวเล็กปัดมือที่ชี้หน้าเขาออกและเอื้อมมือไปคว้ากุญแจแต่แจ็คสันไวกว่า
คนตัวโตจับข้อมือเล็กทั้งสองข้างนั้นไว้ด้วยมือเดียวพลางยิ้มหวานให้คนตัวเล็กก่อนจะชูกุญแจขึ้นมาและทำในสิ่งที่ยองแจไม่คาดคิด
“ลามก!! เล่นบ้าอะไรของคุณ”
กุญแจดอกเล็กจิ๋วสีเงินที่เคยหมุนอยู่บนนิ้วเรียวของหวังแจ็คสันถูกหย่อนลงไปในขอบ Calvin Klein มือหนาปล่อยให้ข้อมือเล็กเป็นอิสระก่อนจะยิ้มบางๆอย่างถูกใจที่แกล้งให้คนตัวเล็กหงุดหงิดได้สำเร็จ
“ถ้านายเอามันออกมาได้
นายก็มีสิทธิ์ที่จะรู้ข้อมูลทุกอย่างภายใต้ลิ้นชักนั่น”
“...”
“และฉันจะไม่ขัดขืนนายแม้แต่นิดเดียว”
ยองแจมองหน้าหวังแจ็คสันสลับกับขอบกางเกงชั้นในที่มีลูกกุญแจอยู่ในนั้นอย่างหวาดหวั่น
ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยทำอะไรที่น่าอายขนาดนี้มาก่อนแต่ผู้ชายคนนี้กลับทำทุกอย่างเพื่อให้เขาอับอาย
คนตัวเล็กพรูลมหายใจออกเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินลัดจากโต๊ะเข้าไปหาแจ็คสัน
“ถ้าเล่นตุกติกกับผมล่ะก็...เป็นหมันแน่”
“ยังไงนายก็มีลูกไม่ได้อยู่แล้ว ฉันไม่แคร์หรอก”
แจ็คสันยักคิ้วให้คนตัวเล็ก
ยองแจเม้มริมฝีปากเถียงไม่ออก
มือเล็กค่อยๆแตะลงบนขอบกางเกงชั้นในของคนตัวโตกว่าพลางเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
นิ้วเล็กค่อยสอดลงไปตามสีข้างแต่เพราะว่ากางเกงที่แจ็คสันใส่เป็นกางเกงทำงานมันจึงฟิตพอดีตัวและไม่สามารถเลื่อนลงไปต่อได้
“มัน...ไหลลงไปอยู่ข้างล่างแล้ว”
เสียงนุ่มทุ้มคลอเคลียอยู่ข้างใบหูขาว คนตัวเล็กกลั้นหายใจหลับตาปี๋แล้วขยับมือไปตามขอบผ้านิ่มก่อนเลื่อนลงต่ำ
หน้าท้องแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อกระเพื่อมขึ้นลงน้อยๆยามที่ฝ่ามือเล็กแตะสัมผัสอยู่บริเวณท้องน้อย
ทันทีที่ปลายนิ้วเรียวสัมผัสเข้ากับอะไรบางอย่างที่กำลังขยายตัวคับแน่นอยู่ภายใต้ร่มผ้าที่น่าอึดอัด
คนตัวเล็กจึงดึงมือตัวเองกลับขึ้นมาแต่แจ็คสันกลับคว้าข้อมือของเขาไว้ไม่ยอมให้หยุดเพียงแค่นี้
“โอกาสที่นายจะได้อ่านข้อมูลลับแบบนี้จะไม่มีอีกเป็นครั้งที่สอง
ถ้าอยากจะหยุดแค่นี้ ฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้” นัยน์ตาคมสบกับดวงหน้าหวานอย่างจริงใจ
คนตัวเล็กปิดเปลือกตาลงพลางเลื่อนมือเล็กกลับลงไปอีกครั้ง
มือเล็กพยายามเลื่อนหนีหลีกเลี่ยงไม่ให้มือไปโดนสัมผัสนิ่มหยุ่นหรือให้โดนน้อยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ปลายนิ้วเรียวล้วงลึกลงไปอีกจนแจ็คสันหลุดเสียงครางออกมาก่อนจะเกี่ยวเอาพวงกุญแจด้านล่างขึ้นมาได้ในที่สุด
“อา...ยองแจ ทำได้ดีมาก”
ริมฝีปากอุ่นแนบลงบนขมับชื้นเหงื่อของคนตัวเล็กที่หลุดเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของคู่อริตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่มีใครทราบ
มือเล็กดันอกคนฉวยโอกาสให้ออกห่างจากตัว แจ็คสันจึงยื่นหน้าเข้าไปทาบทับริมฝีปากลงบนตำแหน่งเดียวกันโดยไม่ได้ลุกล้ำหรือทำอะไรเกินเลยมากไปกว่านั้น
“ปล่อยผมได้แล้ว!”
คนตัวเล็กทุบหมัดลงบนอกแกร่งของคนที่ถือวิสาสะโอบเอวเขาไว้ไม่ยอมปล่อย
แจ็คสันไม่ได้แสดงสีหน้าสะทกสะท้านอะไรออกมา
เขาทำเพียงแค่อมยิ้มน้อยๆอย่างมีความสุขที่ได้แกล้งคนคนนี้
ก๊อกๆๆ
(คุณแจ็คสันครับ...นายท่านมารอพบอยู่ด้านล่างครับ)
เสียงเคาะประตูขัดจังหวะมาพร้อมกับคำพูดที่บอกแจ็คสันเป็นนัยๆว่าเวลาแห่งความสุขได้หมดลงแล้ว
แขนแกร่งคลายอ้อมกอดจากคนตัวเล็กก่อนจะใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามผิวแก้มนุ่มนิ่ม
“บ้านหลังนี้นายจะเดินไปตรงไหนก็ได้เท่าที่นายอยากจะไป ยกเว้นไปจากฉันเพียงอย่างเดียว”
“...”
“ชุดยูกาตะ...ฉันรู้ว่านายชอบ
เลยให้คนเอาไปไว้ในห้องนอนเพราะห้องขังด้านล่างคงไม่ต้องใช้อีกแล้วล่ะ”
“ให้นอนกับคุณผมยอมนอนในห้องขังดีกว่า” คนตัวเล็กบ่นงุบงิบกับตัวเองเบาๆพลางมองค้อนคนตัวโตกว่าที่ไม่น่าไว้วางใจ
ขนาดเพิ่งเจอกันแค่ไม่กี่วันยัง...
“ห้องฉันเป็นห้องเดียวที่มีฮีทเตอร์
นายขี้ร้อนแต่ว่าแพ้อากาศหนาวไม่ใช่เหรอ?”
“...”
“ห้องนั้นมันอับเกินไปแล้วก็มีฝุ่นเยอะด้วย
ที่จมูกแดงก็คงเพราะจามทั้งคืน ห้องนอนฉันตอบโจทย์ชีวิตนายที่สุดแล้ว อย่าดื้อเลย”
ก๊อกๆๆ
(คุณแจ็คสันครับ คุณท่านมารออยู่...)
“ฉันต้องลงไปพบลุงก่อน เสร็จธุระแล้วจะรีบมา”
ยองแจพยักหน้ารับสั้นๆ
แจ็คสันคลี่ยิ้มบางให้คนตัวเล็กก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินออกไปจากห้องทำงาน
หนุ่มน้อยหน้าหวานกระพริบตาปริบๆสองสามทีเพื่อเรียกสติกลับคืนมาก่อนจะเดินเอากุญแจไปไขลิ้นชักเพื่อหยิบแฟ้มเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับคดีกรงนกในส่วนของตระกูลหวังออกมาอ่าน
พลางนึกไปถึงสิ่งที่ได้ยินมาเมื่อครู่
‘นายขี้ร้อนแต่ว่าแพ้อากาศหนาวไม่ใช่เหรอ?’
ถึงแม้อาการป่วยของเขาจะพอสืบทราบได้แต่ก็ไม่น่าใช่เรื่องสำคัญอะไรที่ควรจดจำหรือรู้ถึงขั้นวิธีการรักษา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นศัตรู....เช่นเขา
ก้อนกลมๆเล็กๆสามก้อนในชุดยูกาตะสีกรมท่าสำหรับเด็กพากันวิ่งดุ๊กๆมาหยุดแอบดูชายร่างเพรียวผู้ซึ่งนั่งจิบชาร้อนเงียบๆมาตั้งแต่บ่ายกว่าจนเวลาล่วงเลยไปเกือบเย็น
“พี่เรียวเป็นพี่ใหญ่ก็เข้าไปถามซี่...”
มืออวบของเด็กน้อยต่างช่วยกันดันหลังเด็กชายตัวโตที่ยืนอยู่หน้าสุดให้เป็นหน่วยกล้าตายเข้าไปด้านใน
“เร็นเป็นศิษย์โปรดของจินเซนเซย์ เร็นก็เข้าไปถามสิ”
“เรย์ไง เรย์เป็นน้องเล็กต้องเสียสละเพื่อพี่ๆ”
“ได้ไง เรย์อายุน้อยสุดยังทำประโยชน์ให้ชเวซามะได้อีกเยอะ
พี่สองคนแหละต้องไป”
เสียงพูดคุยกันงุ้งงิ้งหน้าบานประตูโชจิมีหรือที่จะเล็ดลอดประสาทสัมผัสของจินเซนเซย์เจ้าของฉายานักฆ่าแห่งอากิระไปได้ นัยน์ตาคมเฉียบปรายตาไปทางเงาตะคุ่มของเจ้าพวกก้อนกลมทั้งสามที่ชเวซามะเป็นผู้รับมาอุปการะตั้งแต่ยังแบเบาะ
“เข้ามาทั้งสามคนนั่นแหละ”
“ชะอุ้ย...”
ร่างเพรียวเดินมาเปิดประตูให้เจ้าสามแสบที่กำลังเกี่ยงกันเข้ามาในห้องพักของเขา เด็กน้อยทั้งสามเดินมานั่งเรียงกันอยู่ตรงหน้าของจินเซนเซย์พร้อมกับก้มหน้าก้มตาอมพะนำไม่ยอมปริปากถามในสิ่งที่สงสัย แถมยังเอาแต่เกี่ยงกันทางสายตาจนผู้เป็นอาจารย์ได้แต่ถอนหายใจ
“ชเวซามะยังไม่กลับมาเร็วๆนี้”
ใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กชายทั้งสามเงยขึ้นพร้อมกันพลางทำตะละห้อยราวกับจะร้องไห้ เรียวผู้เป็นพี่ใหญ่จึงหันไปกอดน้องๆทั้งสองคนที่เริ่มสะอึกสะอื้นร้องไห้เพราะคิดถึงชเวซามะ เด็กสามคนนี้ไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ แต่ละคนต่างมีโชคชะชะตาที่น่าเวทนา ในวันที่ชเวซามะอุ้มเรียวเข้ามาในบ้าน ห่อผ้าของเด็กคนนี้เต็มไปด้วยเลือดแต่กลับไม่มีร่องรอยของการบาดเจ็บเลยสักนิด มาทราบทีหลังว่าพ่อแม่ของเด็กคนนี้ถูกมาเฟียฆ่าตายและแม่เป็นผู้เอาเลือดตัวเองมาป้ายลูกน้อยไว้ทำเหมือนว่าตายเพื่อให้เขามีชีวิตรอด
คนที่สอง เด็กชายตัวเล็กจ้อยแต่ดันฉลาดเป็นกรด สามารถตีความทุกอย่างที่เขาสอนได้ในครั้งเดียว เด็กคนนี้เป็นบุตรชายของหญิงค้าประเวณีที่มารู้ทีหลังว่าตัวเองป่วยเป็นโรคร้ายและไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรได้จึงแอบเอามาทิ้งไว้ที่ถังขยะหน้าบ้านอากิระและเขาเป็นคนเห็นเหตุการณ์ในวันนั้นพอดี ชเวซามะตกลงรับเลี้ยงเด็กคนนี้อย่างไม่มีเงื่อนไขและตั้งชื่อให้เขาว่า เร็น
ส่วนเรย์ ทารกเพศชายอายุน้อยสุดถูกมารดาแท้ๆนำไปขายให้เศรษฐีที่ป่วยราวกับเป็นสิ่งของในวันที่ชเวซามะนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลและทราบจากแพทย์ผู้ดูแลว่าเด็กคนนี้ถูกขายเปลี่ยนอวัยวะจึงขอให้ยามาดะ
โชไปซื้อตัวเด็กคนนี้มาอีกที ตอนแรกเศรษฐีจะไม่ยอมแต่พอเห็นว่าคนจากอากิระมาขอจึงไม่กล้าปริปากแย้งอะไร
“ฮือออออออ ผมคิดถึงชเวซามะ”
...ชเวซามะจึงเปรียบเสมือนกับผู้ให้กำเนิดชีวิตใหม่ทั้งสามนี้ขึ้นมา
ไปทำอะไรอยู่ที่ไหนกันนะ ชเวซามะ...
เอกสารกองโตถูกรื้อขึ้นมาและจดบันทึกข้อความสำคัญลงบนต้นขาและต้นแขน ยองแจมานึกเสียดายที่ตนเองเป็นคนไม่พกโทรศัพท์ก็ตอนนี้เอง แม้แจ็คสันจะยอมให้อ่านหลักฐานสำคัญทั้งหมดแต่ก็ใช่ว่าเขาจะแอบลักลอบเอามันออกไปให้กับเฟยหรงได้
แกร๊ก...
บานประตูถูกเปิดออกเป็นวินาทีเดียวกันกับที่คนตัวเล็กรีบดึงชายยูกาตะมาปกปิดต้นขาที่ลายพร้อยไปด้วยตัวอักษรขนาดเล็กและทำทีเป็นอ่านข้อมูลบนเอกสารเฉยๆเพียงอย่างเดียว
“อาบน้ำแล้วเหรอ?” แจ็คสันถอดนาฬิกาข้อมือเรือนหรูวางลงบนโต๊ะข้างเตียงก่อนจะลงนั่งข้างคนตัวเล็ก ยองแจเขยิบออกห่างจากเขานิดหน่อยแล้วเลื่อนเอกสารเข้ามาใกล้ระดับสายตามากขึ้นเพราะไม่อยากจะเสวนากับเจ้าของห้องสักเท่าไร แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของห้องจะไม่คิดแบบเดียวกันกับเขานะ...
“อ๊ะ”
“หยุดเย็นชาเวลาอยู่กับฉันสักห้านาทีได้ไหม” แจ็คสันดึงเอกสารในมือของยองแจออกพลางปัดของระเกะระกะบนเตียงลงบนพื้นให้หมด
“คุณก็หยุดทำรุ่มร่ามกับผมก่อนสิ” คนตัวเล็กเถียงกลับพลางยกมือขึ้นดันอกคนตัวโตที่พยายามยื่นหน้าเข้ามาคลอเคลียกับพวงแก้มของเขา แจ็คสันหัวเราะเบาๆในลำคอ มือหนารวบสองมือเล็กที่ปัดป้องมาแนบอกแล้วไล่มองใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงระเรื่อ
“กลัวหวั่นไหวเหรอ?”
“หวั่นไหวบ้าอะไร!” คนตัวเล็กสวนกลับทันควัน แก้มขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มเมื่ออ้อมแขนแกร่งช้อนคนตัวบางขึ้นมานั่งอยู่บนตัก มือเล็กดึงออกจากการกอบกุมและดันอกแจ็คสันเอาไว้เพื่อรักษาระยะห่าง
“อ๊ะ!”
แจ็คสันจงใจขยับต้นขาหวังจะให้ยองแจที่นั่งอยู่บนตักเสียหลักลงมาซบกับอกของเขาที่อยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน มือเล็กรีบดันไหล่กว้างเอาไว้อย่างรู้ทันจนลืมระแวดระวังลำคอระหงคว้านลึกที่โผล่พ้นชุดยูกาตะในท่าก้ำกึ่งจะคร่อมเขาแบบนี้ช่างยั่วยวนแก่สายตาผู้ล่าจนอดไม่ได้ที่จะขอเชยชิมผิวขาวนวลเนียนของเหยื่อตัวน้อยบนหน้าตัก
“ถ้ารอดออกไปได้ผมจะฆ่าคุณ” ริมฝีปากบางกระซิบเสียงเย็นข้างใบหูของคนที่กำลังวอแวกับลาดไหล่ขาว ริมฝีปากหยักพรมจูบนุ่มนวลสลับดูดดึงเป็นระยะๆเวลาที่เจ้าตัวน้อยดิ้นขลุกขลักขัดขืนเขา
“คงอีกไม่นาน...วันนี้พี่ชายที่น่ารักของนายก็ส่งคนเข้ามาสอดแนม” แจ็คสันละริมฝีปากขึ้นมาตอบคนตัวขาวก่อนจะก้มลงไปทาบริมฝีปากบางเบาที่ใบหูนิ่ม
“...”
“แค่สั่งสอนนิดหน่อยไม่ถึงกับตายหรอกน่า” ยองแจหันขวับกลับมามองหน้าคนที่พูดเรื่องความรุนแรงด้วยสีหน้าปกติราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ แจ็คสันเลิกคิ้วมองคนตัวน้อยที่มักชอบกัดริมฝีปากระบายความเครียดของตัวเองออกมาโดยไม่รู้ตัว นิ้วโป้งของคนตัวหนาไล้ริมฝีปากล่างของคนตัวเล็กและเชยคางมนขึ้นอย่างทะนุถนอม
“ปากแตกหมดแล้ว ถ้าเป็นเด็กเล็กๆฉันจะตีนาย”
แจ็คสันกล่าวตำหนิคนตัวน้อยด้วยท่าทีใจเย็นแม้คิ้วเรียวจะแอบขมวดมุ่นเข้าหากันเล็กๆเพราะขัดใจในริมฝีปากช้ำๆของชเวยองแจ คนถูกดุเงยหน้ามองร่างหนาอย่างไม่สบอารมณ์
ต้นเหตุที่ทำให้เขาเครียดมันก็เพราะใครกันล่ะ
“ลองหาวิธีระบายความเครียดไปที่อื่นแทนดีไหม?” นิ้วโป้งเรียวลูบไล้ข้างแก้มนิ่มในขณะที่ใบหน้าคมก็ยังคงไม่ละออกจากใบหน้าหวานของคนตัวเล็ก นัยน์ตาเรียวรีเงยขึ้นไปสบกับนัยน์ตาคมเข้มเจ้าของรอยยิ้มอบอุ่นจนเผลอไผลลืมตัวเคลิบเคลิ้มตามเขาไปชั่วขณะราวกับถูกสะกด
“เช่นปากฉันเป็นไง...”
กว่าที่สติสัมปชัญญะจะกลับมารู้ตัวก็ตอนที่หวังแจ็คสันกลายเป็นฝ่ายพลิกตัวขึ้นคร่อมคนตัวบางเอาไว้ใต้ร่าง แขนแกร่งตระกองกอดร่างนิ่มอย่างหวงแหน ริมฝีปากอุ่นที่ทาบทับอยู่ในตำแหน่งเดียวกันทั้งเอาใจและตามใจคนตัวบางจนหัวสมองของยองแจขาวโพลนไปหมด อีกทั้งเรียวลิ้นอุ่นที่เกี่ยวกระหวัดปลายลิ้นน้อยๆยังนุ่มนวลและค่อยเป็นค่อยไปผิดกับครั้งแรกลิบลับจนคนที่ไม่เคยไม่รู้สึกหวาดกลัวหรือว่ารังเกียจในสัมผัสนี้ของเขา
‘ทำให้ชเวซามะเป็นของแก
มันสมองของอากิระทั้งหมดจะทำให้เรารุ่งเรือง’
ริมฝีปากหยักผละออกจากเม็ดบัวสีหวานตรงหน้าอย่างแสนเสียดายเป็นจังหวะเดียวกันกับที่นัยน์ตาคู่คมดันเหลือบไปเห็นรอยขีดเขียนใต้ท้องแขนเป็นทางยาวของคนหน้าหวานเข้าพอดี มือหนาคว้าจับต้นแขนเล็กและหันมองหน้าคนตัวขาวที่ดูเหมือนจะเรียกสติกลับมาจากเหตุการณ์เมื่อครู่ได้ครบถ้วนแล้ว
“สงสัยจะปล่อยให้นายอ่านหนังสือมากไปแล้วล่ะ”
“คือ...”
ยองแจลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เพราะปฏิเสธไม่ออกแถมเมื่อกี้เขาก็ยังปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลทำตัวน่าอับอายจนมองหน้าหวังแจ็คสันได้ไม่สะดวกใจ
“เลือกเอาว่าจะกลับไปอาบน้ำใหม่หรือจะให้ฉันลบรอยพวกนี้ให้...ในแบบของฉัน” ใบหน้าคมคายยื่นเข้าไปใกล้คนตัวบางพลางส่งสายตากรุ้มกริ่ม ยองแจมองค้อนคนที่ได้ทีข่มขู่ก่อนสองมือน้อยๆจะรวบชุดยูกาตะที่ทำท่าจะหลุดแหล่มิหลุดแหล่อยู่รอมร่อวิ่งเข้าห้องน้ำไป
‘ไม่ล่ะ...ไม่มีผู้นำคนไหนเกาะเมียกินหรอกลุง’
100%
TBC: แล้วจะคอยดูนะคะทั่นผู้นำคนดี (=w=) มาร์คมาช่วยน้องซักทีสิโฟร้ยยยยย #ฟิคร้อยตะวัน
ความคิดเห็น