คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ...Chapter XIII End...
...Chapter XIII ‘End’...
ภายในห้องเพนท์เฮ้าส์สุดหรูชั้นบนสุดของคอนโดแห่งหนึ่งใจกลางเมือง เด็กหนุ่มร่างบางเมื่อ 3 ปีก่อนได้เติบโตขึ้นอีกขั้นเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเด็กมัธยมปลายกลายเป็นเด็กมหาลัยอย่างเต็มรูปแบบ...
“นิ...นิ...ตื่นได้แล้วนา” เดินเข้ามาปลุกร่างสูงที่กำลังหลับตาพริ้มสบายบนเตียงนุ่ม ๆ ร่างบางอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวโปร่งตัวใหญ่หลวมโคร่งยาวถึงน่องสวยของขาเรียวทั้งสอง ดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ของเจ้าตัว
“อือ....อรุณสวัสดิ์” ค่อยลืมตาขึ้นมาก็เห็นหวานใจจอมวีนของตัวเองขึ้นมาบนเตียงแล้วเดินมานั่งบนอกกำยำของเขา กวาดสายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วมาสะดุดไหล่มนที่เผยออกมา “แอบขโมยเสื้อของฉันมาใส่อีกแล้วใช่มั้ย?” ยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะเลื่อนมือไปลูบไล้เรียวขาสวยชักอยากจะกินของหวานก่อนอาหารเช้าแล้วสิ
“พอฉันใส่ทีไรนิก็เป็นคนถอดมันออกตลอดนี่นา..” โน้มตัวลงซุกไซ้คอแกร่งแล้วจุ๊บแก้มต้อนรับยามเช้าไปฟอดนึง “ลุกขึ้นได้แล้วนา...”
“หึๆ แล้วฉันจะลุกได้ไงในเมื่อนินั่งทับฉันอยู่” ยิ้มมุมปาก
“ก็ได้ ๆ กำลังลุกอยู่นี่ไงแล้ว” ลุกออกจากร่างแกร่งแล้วย้ายมานั่งข้างเตียงแทน
“เดี๋ยวสิ...ยังไม่ได้ให้ไอ้นั้นกับฉันเลยนะ” คว้าร่างบางมานั่งตักแล้วประกบปากเบา ๆ ทีนึง “มอนิ่งคิสไงล่ะ...”
“เมื่อกี้ก็ให้ไปแล้วนี่นา...ไปอาบน้ำซะแล้ววันนี้มีเรียนรึเปล่าเนี่ย?” เดินมาจัดเตรียมเสื้อผ้าให้ร่างสูง
“วันนี้ไม่มีเรียนน่ะ...แต่ว่าไม่เห็นต้องปลุกกันแต่เช้าเลยนี่นาเมื่อวานก็จัดไปชุดใหญ่เลยไม่ใช่เหรอ?” ลุกขึ้นมาช่วยเก็บเตียง...ผ่านมา 2 ปีกว่าแล้วมั้งที่ทั้งคู่ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี้ถ้าจะเรียกที่นี้เป็นรังรักก็คงจะไม่แปลกอะไร... ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่เป็นนักศึกษามหาลัยปี 3 กันแล้วถึงจะคนละที่กันก็เถอะ โอนิเรียนอยู่มหาวิทยาลัยการกีฬาความฝันของเขาคือ เป็นนักเทนนิสอันดับ 1 ของประเทศเหมือนเดิม ส่วนเบียวโดอินเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนละแวกใกล้ ๆ กัน
“ช่วยเลิกพูดจาลามกสักทีจะได้มั้ย? - -+ วันนี้ไอ้เจ้าพวกนั้นจะมาที่นี้จำไม่ได้เหรอ....ให้ตายสิ!..” สงสัยจะหงุดหงิดที่ต้องตื่นมาทำความสะอาดแต่เช้าต้อนรับพวกเพื่อน
“แค่นิด ๆ หน่อย ๆ เองคงไม่เป็นไรไปมั้ง” พยายามพูดให้ร่างบางใจเย็นลงก่อนจะเดินไปเปลี่ยนชุดแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำ..
“อ่า~ บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้ใส่เสื้อลงตะกร้าดี ๆ ไง!!” ตามเก็บเสื้อที่วางกองบนพื้น ทีแบบนี้ดันโยนไม่เคยลงตะกร้าสักทีแต่ทีอยู่บนเตียงดันลงทุกรอบไม่เคยมีพลาด =////=)
“อา....โทษทีนะ” ตะโกนเสียงดังออกมาจากห้องน้ำ
“ก็เห็นพูดแบบนี้ตลอด (-*-+)” ยืนบ่นไปเก็บกวาดไป... เมื่อก่อนตัวเองเคยฝันว่า จะหาภรรยาดี ๆ สักคนมีลูกด้วยกันสักคน 2 คนแล้วก็อยู่ด้วยกันนั่งฟังเสียงดุ ๆ น่ารักของภรรยาที่รักแล้วก็คอยทำตามที่ภรรยาสั่งให้ทำนู่นทำนี่อย่างว่าง่ายแต่ที่ไหนได้ทุกอย่างกับเป็นเขาเองที่ต้องทำสิ่งที่คิดมาทั้งหมด
“อ่า...สบายจังเลย” เดินออกมาอย่างสบายเนื้อสบายตัวก่อนจะใส่เสื้อผ้าที่ว่าที่ภรรยาเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วเดินตามกลิ่นหอม ๆ ที่ลอยฟุ้งมาจากในครัว “น่ากินจัง...” เดินมาโอบกอดเอวบางจากข้างหลังเหลือบมองไข่ดาวกับเบคอนหอมน่ากินในกระทะ
“อาบน้ำเสร็จแล้วใช่มั้ย?...เดี๋ยวรออีกนิดนึงก็จะได้กินแล้ว” จัดของทุกอย่างใส่จานแล้วถือไปวางเสิร์ฟบนโต๊ะ “วันนี้อยากดื่มอะไรนม ชาหรือกาแฟล่ะ” เอาขนมปังปิ้งมาวางเสิร์ฟร่วมด้วยอีกเมนู
“ขอกาแฟแก่ ๆ เหมือนเดิมนะ” เอ่ยตอบพลางมองคนที่ชอบบ่นว่า ไม่ชอบทำงานแบบนี้มันดูเป็นผู้หญิงชัด ๆ เลยแต่ท้ายที่สุดก็ทำได้ดีเยี่ยมไม่มีขาดตกบกพร่องเลยสักนิดเดียวจนไม่มีช่องว่างให้เขาได้เข้าไปช่วยเลย
“มองอะไรรีบกินได้แล้วเดี๋ยวก็เย็นหมดหรอกน่า...” มานั่งร่วมโต๊ะด้วยอีกคน “แล้วพวกนั้นมันจะมากันกี่โมงเนี่ย?”
“สักประมาณบ่าย ๆ ล่ะมั้ง...แบบนี้ก็มีเวลาเก็บกวาดทันนะ” แต่ทว่าพูดยังไม่จบก็มีเสียงออดประตูดังขึ้น
“ใครกันนะมาหาแต่เช้าเชียว...ครับ ๆ มาแล้วครับ” เดินไปเปิดประตูปล่อยให้ร่างสูงนั่งกินข้าวเช้าไป
“โย่~ ^0^)” พูดไม่ทันขาดคำไอ้ตัวป่วนทาเนกาชิม่าก็มาถึงเป็นคนแรกพร้อมด้วยพวกโตโน่แล้วก็ดุ๊ค
ปัง!! (- -+++ เบียวโดอินรีบปิดประตูใส่หน้าทันทีเพราะยังนึกว่าเป็นแค่ฝันแล้วก็ตัวเองก็อยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยซะเท่าไร ชียังอยู่ในสภาพเสื้อตัวเดียวอยู่เลย -..-)
“ใครมาเหรอ...?” เห็นปิดประตูซะเสียงดังเลยเดินมาดู
“เฮ้ย!! เบียวโดอินรีบเปิดประตูให้พวกฉันเข้าไปน่ะเฟ้ยไม่งั้นฉันจะพังประตูห้องแก!! =[]=+” ไม่ต้องก็บอกรู้ว่า ใครเป็นพูด.. (- -;;
“หึ ๆ มากันแล้วเหรอ...” เหลือบมองคนที่พยายามยืนปิดท่องล่างอยู่ “นิไปอาบน้ำก่อนเถอะอยู่ในชุดนี้เดี๋ยวพวกนั้นจะรู้ว่า เมื่อคืนจัดหนัก...”
“บ้า!...(-////-“ รีบวิ่งไปอาบน้ำทันทีปล่อยให้ทางนี้เป็นหน้าที่ของโอนิแทน
“ไงพวกนายมาก่อนเวลานัดอีกนะ..” เปิดประตูต้อนรับให้เข้ามา
“ฮ่า ๆ นาน ๆ ทีจะได้มาเที่ยวรังรักของพวกนายก็ต้องรีบมาหน่อยอยู่แล้ว ^^)” เดินมาเข้าแล้วก็เขย่งเท้า?? กอดคอเพื่อนทันที “มีข่าวดีมาบ้างยัง? หลังจากที่พวกนายหมั้นกันแล้ว” พอย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อนทั้งค่ายแทบช็อคพอรู้ว่า 2 คนนี้หมั้นกันเรียบร้อยแล้วและต้องอ้าปากค้างอีกรอบเมื่อรู้ว่า ทั้งคู่ย้ายมาอยู่ด้วยกันเพราะห้องนี้พ่อแม่เบียวโดอินให้มาเป็นของขวัญที่กำจัดลูกชายตัวดีออกจากบ้านได้ (= =;;
“ยังไม่มีพอดีว่า คู่หมั้นฉันต้องการจะใช้นามสกุลเบียวโดอินจนถึงวันเรียนจบน่ะ” แฟนไม่อยู่เผาแฟนได้ (- -;;
“อ๋อเหรอ~ แล้วว่าที่คุณนายโอนิให้ไปไหนแล้วล่ะ?”
“จะเผาอะไรฉันอีกห่ะ!! (- -+” อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย (อาบหรือวิ่งผ่านน้ำเนี่ย (= =;) แล้วก็เดินมาแบบเสียงมาก่อนตัวอีกเช่นเคย “พอฉันไม่อยู่นี่แอบเผาอะไรฉันรึเปล่าเนี่ย?” เดินมาถามคนที่ยืนหยักไหล่เบา ๆ
“แล้วพวกที่เหลือล่ะ...”
“อ๋อ~ โมริกับโอชิจะมาตอนบ่าย ๆ น่ะพอดีโมริติดเรียนครึ่งวัน ริวจิพอดีฉันวานให้ช่วยซื้อของกินเข้ามาหน่อย ส่วนคาจิกับอิริเอะจะไปรับโทคุที่สนามบินน่ะ”
“ไอ้เจ้าโทคุงาวะเป็นแฟนนายแล้วทำไมนายไม่ไปรับเองฟะ (- -;;”
“พอดีฉันเป็นโรคแพ้สนามบินน่ะ (= =^” ผ่านไป 3 ปีอัพเกรดจากกลัวเครื่องบินเป็นสนามบินแล้วสุดยอดเลยจริง ๆ นะทาเนกาชิม่า
“ฉันอยากจะให้โทคุงาวะลากแกไปพบจิตแพทย์จริง ๆ เลยวะ (= =;;” ยืนเพลียเพื่อน
2 ชั่วโมงต่อมาทุกคนก็มากันครบทุกคนนั่งกินอาหารและของหวานอย่างสนุกสนาน (มั้งนะ) พอเสร็จแล้วพวกเมะ ๆ และตัวแถม (ริวจิ) ก็รวมกลุ่มกันไปเล่นโต๊ะพลู (เปิดบริการเฉพาะเวลาเพื่อนมาเท่านั้น) กันบนชั้น 2 ปล่อยให้พวกเคะ ๆ จับกลุ่มกันคุยเยี่ยงแม่บ้านทหารบก (- -;;; ไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครสปาร์คใส่กันเพราะ แก่แล้วสปาร์คไม่ค่อยออก เอิ่มมมมม (= =^
“นี่ ๆ ถามหน่อยสิว่า ในหมู่เมะของแต่ละคนคิดว่าใครอึดสุด” ไม่ต้องบอกว่าใครเป็นคนถาม (- - นั่งยิ้มกรอบแว่นสวยพอถามจบแล้วเป็นคนเปิดประเด็น โต ๆ กันพอแล้วไม่จำเป็นต้องอายที่จะพูดเรื่องพรรณนี้
“เอ่...ผมกับคุณสึกิทำกันไม่ค่อยบ่อยเพราะเวลาว่างไม่ค่อยตรงกันเท่าไร (. .;”
“ของฉันน่ะยกน้อยแต่ท่าเยอะบางครั้งก็ทำจนลุกไม่ขึ้นเลย (- -*” พูดเหมือนว่าเก็บกดมานานแล้ว
“5555+ ถ้างั้นก็เหมือนกับฉันเลยน่ะสิ”
“....ชูจิกับฉันนาน ๆ เจอกันไม่ค่อยได้ทำแถมยังน้อยด้วย” ตอบได้นิ่งสุด ๆ ขอรับ..ตอบไป 4 เหลือเจ้ใหญ่คนสุดท้ายที่นั่งนึกแล้วก็เงยขึ้นไปข้างบนพอได้ยินเสียงหัวเราะร่าของแฟนตัวเอง
“...โอนิน่ะเห็นนิ่ง ๆ ขรึม ๆ ดูจริงจังตลอดแต่ก็เอาเรื่องเหมือนกันนะ”
“หา~...” พากันทำหน้าสงสัย
“ก็แบบ...เข้ามากอดมาอ้อนนิด ๆ หน่อย ๆ พอหลังจากนั้น 3 นาทีก็ปลดเสื้ออุ้มขึ้นเตียงตลอด (-////-;;” ท้ายสุดแต่...ดูจะหนักกว่าใครเพื่อนเลย
“น่ากลัวจริง ๆ นะเนี่ย (= =;”
“ก็ใช่ไง...ถึงได้บอกว่าเอาเรื่อง..หื่นเอาเรื่องน่ะ!! (=///=^”
“แต่ถ้าวันไหนทำดีหน่อยก็มีทิปพิเศษเพิ่มยกให้ใช่มั้ยล่ะ ฮ่า ๆ”
“อิริเอะ!!” หัวเราะชอบใจที่แซวเจ้โหดได้ ย้ายมาที่ข้างบนกันบ้างที่กำลังเล่นและพูดคุยกันอย่างมันปาก...แฟนไม่อยู่เผาได้เต็มที่ (- -;;;
“ขอถามอะไรหน่อยสิว่า ในบรรดาแฟนของพวกเราเนี่ยมีใครมีแววเป็นเมะบ้าง?~” ไอ้ตัวป่วนประจำกลุ่มเป็นคนเปิดประเด็น
“ถ้างั้นก็ต้องยกให้เบียวโดอินเลย ฮ่าๆๆ” มาถึงก็เล่นเมีย??เจ้าของบ้านเลยเฮ้ย! (=[]=!!
“นั่นมันคู่หมั้นฉันน่ะเว้ย.. (-*- จะเมะได้ยังไงกัน?“ ทำหน้าประมาณแฟนข้าใครอย่ายุ่ง... “คนที่จะเมะน่าจะเป็นโทคุงาวะมากกว่าตัวสูงกว่าเมะตัวเองซะอีก หึๆ นายเคยโดนโทคุงาวะกดรึยัง?” โยนระเบิดไปหาคนอื่น
“ก็ครั้ง 2 ครั้งได้....จะบ้าเหรอ!! (>[]<! ฉันไม่มีทางให้โทคุกดฉันหรอกน่าเพราะฉันจะเป็นคนกดเอง โอชิ!! โมริน้อยของนายไม่ใช่ว่าแอบไปเมะใส่ใครรึเปล่า? เห็นทำออดอ้อนนายแต่ก็มีแววเมะเหมือนกันนะ เมะใส่คาจิไง!!!” ไอ้นี่เล่น 2 เลยเฮ้ย (=[]=!! เดี๋ยวกลับบ้านไม่ได้นะทาเนะ
“ไม่มีทาง...” ตอบแบบสั้น ๆ แต่เข้าใจกันทั่วถึง
“แล้วทำไมต้องเป็นฉันด้วย (- -+ ฉันน่ะไม่เคะใส่ใครทั้งนั้นสักหน่อย” เถียงหน้านิ่ง ๆ “มีแต่นายนั้นแหละจะไปเคะใส่คนอื่น...อย่างริวจินี่ไง”
“แน่นอนเนอะที่ร้ากก~ ^^” แกล้งกอดแขนเพื่อนซี้แล้วเอาหน้าถู ๆ ไถ ๆ จนอีกฝ่ายต้องรีบดันหัวเพื่อนออกไป (= =;; ขนลุกเฟ้ย!
“แล้วโตโน่ของนายล่ะคิมิจิม่า...” โอมางาริถามนานๆ ทีจะได้มาบทพูดบ้าง
“หึ ๆ คนของฉันไม่มีทางไปเมะใส่ใครแน่นอน ฉันคุมดีอยู่แล้ว...”
“งั้นคนที่น่าจะเมะมากสุดก็ต้องเป็นเบียวโดอินสินะ!!(>[]<)” ไอ้ตัวนี้ยังไม่เลยอีกนะ (= =; เดี๋ยวก็โดนจับโยนออกนอกหน้าต่างหรอกบ้านเขายิ่งอยู่ที่สูงด้วยสิ
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีทางเมะ...เพราะโดนฉันกดจนเมะไม่ออกแล้ว (-*-+” นึกถึงเมื่อคืนที่ร่างบางร้องครางเสียงหวาน ๆ น่าฟังอยู่ใต้ร่างตัวเอง (-////- แล้วแบบนี้จะเมะไปได้ยังไงล่ะ
“ทาเนกาชิม่า... (- -;; นายอย่าไปเสี่ยมโอนิมากเลยเดี๋ยวได้ตายก่อนแก่นะเว้ย” พวกเพื่อนต้องช่วยกันปิดปากไอ้ตัวแสบ
กว่าจะเลิกงานกันก็ค่ำมืดกันเรียบร้อยแล้วโอนินั่งเอนหลังพักเหนื่อยอยู่ที่โซฟาหลังจากเก็บกวาดห้องเรียบร้อยแล้วไม่นึกว่า พวกนั้นจะอยู่ดึกกันขนาดนี้ (= =; คราวหน้าจะไม่ให้พวกนั้นใช้เป็นที่จัดงานเลี้ยงแล้ว
“ขอบคุณนะ..” รับน้ำมาดื่มแก้กระหายก่อนจะเหลือบมองน้ำที่ร่างบางดื่ม “นิ? ...นั่นมันน้ำเกลือแร่ของฉันไม่ใช่เหรอปกตินิไม่ชอบดื่มมันนี่นา...”
“เอ๋!? ก็อยากดื่มบ้างไม่เห็นเป็นไรนี่นา” พูดแล้วก็ลุกขึ้นไปหาอะไรกินต่อหน้าตาเฉย (- -;;
“วันนี้นิกินเยอะไปแล้วนะเดี๋ยวก็อ้วนหรอก....” มองของกินที่ร่างบางเอามาวางกองบนโต๊ะผลไม้ ขนมปัง ไอศกรีมและของกินจุกจิกทั้งหลายดูไม่ค่อยเข้ากับคนที่รักษาหุ่นตัวเองยิ่งชีพของร่างบางมาก... อ้วนแน่งานนี้ลุงเบียววว (= =;
“อย่าบ่นสิ! แค่วันนี้วันเดียวเอง...(- -*”
“จะให้ไม่บ่นได้ยังไงกันล่ะ...ดูสิ อ้วนขึ้นตั้งเยอะโดยเฉพาะตรงพุงเนี่ย” พูดไม่พอมือจับด้วย (- -; สงสัยวันนี้จะกินเยอะไปมั้ง (- -;
“อย่าจับนะ!!” รีบปัดมือแกร่งทันที...สงสัยไม่ชอบให้จับพุงแน่ ๆ เลย “มะ มันน่าเกลียด (-////-)” ถ้ากลัวมันน่าเกลียดก็อย่ากินเยอะเส่!! =[]=!!
“ไม่น่าเกลียดหรอกน่า~ นิออกจะสวยขนาดนี้” เอามือทัดผมให้อีกฝ่าย ถ้าลุงสวยคนอื่นคงจะสวยม๊ากมากใช่มั้ยล่ะนิ?? (= =;; #โดนลุงโบกตกหน้าผา
“ไอ้บ้าโอนิ! (=///=)” เวลาเขินจัด ๆ แล้วชอบเผลอเรียกอีกฝ่ายเหมือนเมื่อก่อนตลอด...
“หึ ๆ แล้วนี่นิจะกินหมดเลย ของกินเยอะขนาดนี้” หันไปมองของกินเต็มโต๊ะเลย (- -;;
“ใครบอกว่า จะกินล่ะก็แค่ท็อปปิ้งประดับเท่านั้นเอง...” เดินไปหยิบชามกับที่ตักไอศกรีมมาแล้วตักไอศกรีมใส่ชามไป 5-6 ลูกแล้วบีบวิปปิ้งครีมต่อประดับด้วยผลไม้ ขนมปังกับช็อกโกแลตชิพและราดด้วยคาราเมลกับกับเนยถั่วอีกที??? ทุกคนฟังไม่ผิดหรอกลุงใส่เนยถั่วไปด้วยจริง ๆ
“เอ่อ... (- -;;; นิ...นิไม่ต้องใส่เนยถั่วไปด้วยก็ได้นะ” ปริมาณที่กินไม่เครียด...เครียดแต่ไอ้เนยถั่วเนี่ยแหละ
“ทำไมล่ะกินกับขนมปังอร่อยดีนะ นิจะกินด้วยรึเปล่า?” ตักให้กินช้อนพูน ๆ ระวังท้องเสียนะนิอย่ากินเลยจะดีกว่านะ (= =;;
“ไม่เป็นไร...นิกินให้อิ่มเลยนะแค่เห็นนิกินก็รู้สึกอิ่มไม่อยากกินไปหลายวันแล้ว ^^;;” กินขนาดนี้น้ำหนักคงจะขึ้นมหาศาลเลยล่ะ (- -;
“อืม....ก็ได้” ตักไอศกรีมเข้าปากแล้วนั่งตั้งหน้าตั้งตาอย่างเอร็ดอร่อย “อ้อ...นิฉันลืมบอกไปเรื่องนึงคือ เมื่อกี้ตอนที่นิส่งพวกทาเนะน่ะฉันอ้วกไป 2 รอบน่ะ เพราะงั้นวันนี้ของดทำวันนึงขอกินมื้อดึกอีกรอบได้มั้ย? (‘ ‘” พูดจบก็ตักอีกคำเข้าปาก
“ห่ะ!!! ...แล้วทำไมนิถึงเพิ่งมาบอกฉันล่ะ!! พอเลย...ไม่ต้องกินแล้วไปหาหมอเดี๋ยวนี้เลย!!” กลายเป็นยักษ์ตื่นตูมไปทันทีพอรู้ก็แทบจะรีบอุ้มร่างบางไปหาหมอทันทีเลย (- -;;
“ดะ เดี๋ยว!!? ขอกินให้เสร็จก่อนดิ!! (><)” นี่ก็ห่วงแต่จะกินอยากเดียว... (- -;; อะไรกันเนี่ยคุ่นี้
“ไม่ต้องกินแล้ว!! ต้องไปเดี๋ยวนี้เลย!!” แย่งช้อนมาแล้วจับใส่ปากกินทันทีแต่พอกินเข้าไปแล้ว...โอนิแทบอยากจะคายทิ้ง (= =ll ขนมปังแฉะ ๆ ไอศกรีมกับคาราเมลซอสหวาน ๆ และเนยถั่วมันวิ่งไปคนละทางจนพุ่งปรี๊ดขึ้นหัวโอนิทันที...เขาไม่เข้าใจจริง ๆ เลยร่างบางกินมันเข้าไปได้ยังไง (= =;;
“นิเป็นไรไปน่ะ? (‘ ‘?” ทำหน้างุนงงเมื่อเห็นร่างสูงนั่งทรุดลงข้าง ๆ หลังกินของหวานตัวเองเข้าไป
“มะ ไม่เป็นไร...ขอน้ำหน่อยสิ” มือควานหาน้ำดื่มทันที.. อารมณ์ที่กำลังพุ่งเมื่อกี้หายไปในบัดดล ช่างเป็นการโจมตีที่น่ากลัวอะไรแบบนี้นะ (= =;; ถึงขนาดทำให้คนอย่างโอนิทรุดลงได้
“อ่ะนี่...” ยื่นน้ำให้ “นิ...ไม่จำเป็นต้องหาฉันไปหาหมอก็ได้นะฉันสบายดี” ยังมีหน้ามาบอกว่าตัวเองสบายดีอีกลองมองอีของที่ตัวเองเข้าไปสิลุง!! มันใช่ปกติที่หน่ายยย!! =[]=;
“ไม่ได้! ครั้งนี้นิห้ามดื้อพรุ่งนี้ฉันจะพานิไปหาหมอ จะให้เขาตรวจอย่างละเอียดไปเลยว่า นิไม่สบายตรงไหนรึเปล่า? (= =+”
“อะ เอางั้นก็ได้ (-__-;;” ไม่กล้าขัดใจร่างสูง
“ขอโทษนะ แต่ฉันจำเป็นจริง ๆ ฉันอยากให้นิอยู่กับฉันไปนาน ๆ ไม่สิ...ต้องพูดว่า อยู่ไปตลอดชีวิตเลย" เอาจมูกซุกไซ้ลงที่ซอกคอขาวเนียนน่าหลงใหล
“ระ รู้แล้วน่า! (=///= ไม่เห็นต้องพูดกันตรงนี้เลยหนิ” ได้ยินที่โอนิพูดแล้วเขินจนลืมของหวานในมือเลย
“ก็บอกไงว่าไม่ได้...เพราะฉันรักนิคนเดียวนี่นา”
“จะเลิกพูดอะไรเน่า ๆ ได้ยังไงเนี่ย! มะ มันเขินนะเฟ้ย! =////=”
“ไม่ได้เพราะว่า ฉันเป็นแบบนี้เฉพาะกับนิคนเดียวเท่านั้น..คุณเบียวโดอิน โฮโอ...ไม่ใช่สิต้องเป็น โอนิ โฮโอใช่มั้ยนะ หึๆ”
“ไอ้บ้า! (-////-)”
“ครับ...ที่รัก” ยิ้มบางแล้วก็ประกบริมฝีปากอีกฝ่ายเบา ๆ และเนิ่นนาน
‘.....เราจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไปเลยนะ...’
ความคิดเห็น