ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศิขินทร์

    ลำดับตอนที่ #3 : 3

    • อัปเดตล่าสุด 29 เม.ย. 50


    ร่างเล็กของเด็กชายทั้งสามวิ่งมาหยุดกึกที่หน้าห้องประชาสัมพันธ์ ชัยยุทธ์ยืนสงบรออยู่
     
    ทางนี้กระหม่อมและนำไปขึ้นรถคันเดิมที่ออกรถทันที พร้อมด้วยรถอีกสามสี่คันที่ออกตัวพร้อมๆกันแต่ด้วยความที่ไม่ใช่รถชนิดเดียวกันจึงมองไม่ออกว่าเป็นรถคุ้มกัน
    อะไรกัน ชัยยุทธ์รับสั่งถามเมื่อรถออก พักตร์เรียบเฉยมีแววกังวล
    ฝ่าบาท ..มีรับสั่งจากพระบิดา
    ว่าไปศอแห้งผาก เนตรคมจ้องหน้าผู้พูดอย่างตั้งใจ เด็กชายที่เมื่อครู่รื่นเริงกับสหายเงียบลง
    รับสั่งว่า อย่าทรงลืม ว่าถวายสัตย์อะไรไว้
    เกิดอะไรขึ้นสุรเสียงดังแบบที่ไม่ค่อยจะทรงใช้ เพราะ พ่อสอนว่าอย่าใช้อำนาจด้วยเสียง จงใช้ด้วยคำ
    ทหาร, พระพี่เลี้ยง,และหัวหน้าองครักษ์ไม่สามารถกั้นน้ำตาได้อีกต่อไป เสียงสั่นเครือพยายามระงับอารมณ์
    องค์เจ้าหลวงถูกลอบปลงพระชนม์ สิ้นแล้วพระเจ้าค่ะน้ำไหลพรากเป็นทางอาบแก้มของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ในขณะที่เนตรเจ้าชายน้อยแห้งผากก่อนจะหลับลงช้าๆ มีน้ำไหลจากเนตรคู่นั้น แต่ปราศจากเสียงสะอื้น ปราศจากรับสั่งอันใด เสียงเครื่องยนต์เป็นเสียงเดียวที่ดังขึ้นทำลายความเงียบ เด็กชายอีกสองคนได้แต่ร้องไห้เงียบๆ ไม่กล้ารบกวน   ครู่เดียว….. ครู่เดียวเท่านั้น เจ้าชายแห่งโอเรียน่าจึงรับสั่ง พระศพ?”
    ให้ทหารถวายอารักขา ประทับที่วังพระเจ้าค่ะ
    เราต้องการให้พ่อได้บรรทมที่โอเรียน่า ในแผ่นดินของพระองค์ เคียงข้างพระชายาของพระองค์
    พระเจ้าค่ะ กระหม่อมจัดการเอง
    ความเงียบจึงครอบคลุมบรรยากาศอันแสนเศร้าอีกครั้ง  จากนี้ไม่มีพ่ออีกแล้ว แม่ครับ แม่มารับพ่อแล้วใช่มั้ย พ่อกับแม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วใช่มั้ย แล้วลูกล่ะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่อดีตรัชทายาทแห่งโอเรียน่ารู้สึกถึงความว้าเหว่ ไร้ทิศทางถึงเพียงนี้ ไร้มือให้เกาะกุม อ้อมกอดอันอบอุ่น เช้านี้เองที่เราลาพ่อมาโรงเรียน เช้านี้เองที่ทรงยิ้มอ่อนโยน เช้านี้เองที่เรายังกินข้าวด้วยกัน แต่นี้จะอยู่อย่างไร ไร้ญาติ.. ดีที่ยังไม่ขาดมิตร ..
    ศิขินทราพิพัฒน์ ..เจ้าถวายสัตย์อันใดไว้ สัตย์ที่แม้วาระสุดท้ายก็เป็นสิ่งเดียวที่พ่อของเจ้าระลึกถึง แม้วาระสุดท้ายสิ่งที่พ่อบอกกับเจ้าคือให้รักษาสัตย์ ไม่ใช่รักษาตัว ไม่ใช่คำว่ารักหรือเป็นห่วง แต่เป็น อย่าลืมว่าถวายสัตย์อะไรไว้ น้ำไหลอาบแก้มเด็กชายวัยสิบขวบที่บัดนี้ กำพร้าทั้งพ่อและแม่ มีคนตามเอาชีวิตและยังมีหน้าที่ยิ่งใหญ่ให้ทำ หน้าที่! สิ่งแรกที่ต้องทำคือตัดสินใจ ต้องไปจากที่นี่ ไม่ให้ท่านอาทั้งสองต้องลำบาก ถ้าทรงทราบเรื่อง ต้องทรงช่วยอย่างแน่นอน แต่การช่วยเราเท่ากับให้ธาลอสเป็นศัตรูกับโอเรียน่า แม้ท่านอาจะเป็นเพื่อนของพ่อ แต่มาอยู่ที่นี่ระยะหนึ่ง พ่อก็ไม่เคยได้บอกเลย ฉะนั้นไม่ควรทำให้ทรงเดือดร้อน ธาลอสต้องไม่เดือดร้อนเพราะเรา
    เราจะไปเรียนต่อที่อังกฤษสุรเสียงเด็ดขาดเป็นคำสั่งไม่ใช่คำบอกเล่า พระพี่เลี้ยงรับคำ ไม่ว่าอะไรที่เจ้าชายสั่ง เราจะทำ ไม่ว่าอะไร ไม่ว่าดีเลว ไม่ต้องมีเหตุผล ขอเพียงมีรับสั่ง ให้ต้องตายก็จะทำ เป็นความผิดใครเล่าที่ถวายอารักขาไม่ดี แต่นี้ไปจะไม่ยอมให้อ้ายอีคนไหนมาแตะต้องเลือดเนื้อชิ้นสุดท้ายนี้ได้อีก จนกว่าชีวิตจะหาไม่
    พระเจ้าค่ะคำรับจากหัวใจอันบอบช้ำของพระพี่เลี้ยง สองครั้งแล้วที่เราอยู่ในเหตุการณ์อันนำความสูญเสียมาสู่หัวใจดวงเล็กๆนี้ สองครั้งแล้วที่เราช่วยอะไรไม่ได้เลย
                   การเรียนต่อที่อังกฤษ มีอะไรต้องเตรียมการมาก แต่ไม่ใช่เรื่องลำบาก ทรัพย์สมบัติมากมายเป็นของส่วนพระองค์ ทหารอีกไม่น้อยที่พร้อมจะพลีชีพหากแต่ไม่ได้เข้าเฝ้า ณ ที่นี้เท่านั้น ทุกหย่อมหญ้าของโอเรียน่าไม่เคยลืมกษัตริย์ผู้เมตตาและเจ้าชายรัชทายาทที่เพียบพร้อม

    บ้านที่ชัยยุทธ์ให้คนเตรียมไว้ให้อยู่ในย่านผู้ดี เป็นบ้านสองชั้นมีบริเวณกว้างขวาง ขนาดใหญ่เรียกว่าคฤหาสน์ได้ แม่บ้านและคนงานล้วนเป็นชาวโอเรียน่า ระบบรักษาความปลอดภัยชั้นหนึ่ง พระพี่เลี้ยงพยายามทำทุกอย่างให้สบายพระทัย ห้องพรรทมตกแต่งอย่างงดงามไม่แพ้พระราชวังหลวงที่โอเรียน่า บางห้องถูกจัดให้เป็นที่สำราญพระทัยโดยเฉพาะ เครื่องมือเพื่อความบันเทิงครบครัน หากแต่ไม่มีห้องใดเป็นที่โปรดปรานเท่าห้องหนังสือ หนังสือทั้งของโอเรียน่าและของอังกฤษโดยเฉพาะ หนังสือของพระบิดา ที่รับสั่งให้ขนมาด้วยทุกเล่ม ..
    ระเบียงห้องบรรทมเป็นที่ที่เจ้าชายโปรดประทับทรงอักษร  อ่านหนังสือจากห้องหนังสือที่อยู่ไม่ไกล เสมอๆ         ศิขินทร์ กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเก้าอี้ยาว ในพระหัตถ์มีหนังสือเล่มหนาของพระบิดา หนังสือทุกเล่มของพระบิดาทรงคุณค่าที่สุด เหตุเพราะมักมีลายพระหัตถ์ขีดเขียน อธิบาย ยกตัวอย่างประกอบ ลายพระหัตถ์ที่คุ้นตาชวนให้ระลึกถึง คนสองคนที่ได้นอนเคียงกันอย่างสงบสุข ณ ที่แห่งหนึ่ง ห่างไกล แต่แน่ใจได้ว่าจะไม่มีผู้ใดมารบกวน ไม่มีผู้ใดกล้าล่วงละเมิดต่อเทือกสิงขร ที่แห่งเดียวที่อำนาจของ ผู้เป็นอาแท้ๆ เข้าไม่ถึง
    หัตถ์ค่อยพลิกหน้าหนังสือนั้นอย่างตั้งใจ แต่แล้ว ซองขาวหล่นลงมาบนพระเพลา ภายในเป็นกระดาษแผ่นเดียว หัวกระดาษมีตราประทับแบบที่จะไม่ทรงลืม ของ พ่อ! ลายมือนั้นดูปราดเดียวก็ชันองค์ขึ้นโดยเร็ว จนปรัชญ์ซึ่งเป็นเวรนั่งพีบเพียบอยู่ข้างเก้าอี้นั้นสะดุ้งหันมามอง เนตรดำจ้องทุกตัวอักษร ราวจะจารจำ
    ศิขินทร์
    พ่อเขียนจดหมายนี้เพราะกังลว่าวันหนึ่งพ่ออาจต้องจากไปโดยไม่ได้สั่งเสียกับลูก นี่จึงเป็นคำสั่งเสียสุดท้ายของพ่อ
    สัตย์ที่เจ้าให้ไว้กับพ่อนั้น พ่อเชือว่าลูกขอพ่อรักษามันได้ และรู้ว่าบางทีลูกอาจต้องลำบากกาย ใจ เพื่อรักษาหน้าที่ของตน เพราะการจะอุทิศตนเพื่ออะไรสักอย่างนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากตนแล้ว ยังมีอะไรหลายอย่างที่ตนรักและหวงแหน พ่อเลือกที่จะเป็นฝ่ายหลบมาธาลอสกับลูกแทนที่จะสู้ เพราะสิ่งที่พ่อจะอุทิศเพื่อ คือโอเรียน่าไม่ใช่บัลลังก์ พ่อจึงสามารถอุทิศแม้บัลลังก์ได้เพื่อโอเรียน่า รวมทั้งต้องยอมให้ลูกมาลำบากและอยู่ในอันตราย แทนที่จะได้เป็นรัชทายาทสูงศักดิ์อย่างเดิม พ่อคงเป็นพ่อที่ไม่ดีนักหรอก นอกจากจะเคี่ยวเข็ญลูกสารพัดแล้ว ไม่เคยได้ไปส่งลูกเข้าห้องนอน ห่มผ้าและกล่าวราตรีสวัสดิ์อย่างที่อยากจะทำ ไม่เคยไปตกปลา พาไปเที่ยวอย่างพ่อของคนอื่นๆ แต่วันนึงลูกจะเข้าใจ ..ถึงตอนนี้ พ่อต้องขอโทษจริงๆ การที่ลูกเกิดมาเป็นลูกของพ่อไม่ได้ส่งผลดีต่อตัวลูกเลย ไม่เลยนอกจากความทุกข์ความสูญเสียและความโหดร้ายมากมายที่ลูกต้องประสบ ทั้งที่อายุเท่านี้ ก็เพราะเหตุผลเดียวที่ว่า เป็นลูกขององค์เจ้าหลวงแห่งโอเรียน่า
    เนื้อความจบลงเพียงเท่านี้ แต่ก็มากพอที่จะทำให้น้ำพระเนตรไหลเป็นทางหัถต์ขาวค่อยๆเก็บกระดาษนั้นอย่างบรรจงสอดไว้ในหนังสือตามเดิม อาการค่อยๆเอนองค์ลงตามเดิมช้าๆอย่างอ่อนแรง เนตรหลับแต่น้ำนั้นยังไม่หยุดไหล ทำให้ปรัชญ์วิ่งพรวดเดียวถึงตัวพระพี่เลี้ยง ซึ่งในที่สุดแม้พระพี่เลี้ยงก็ไม่กล้าทำอะไรนอกจากสั่งว่า เฝ้าไว้เท่านั้น นานชั่วครู่ที่เหมือนนานแสนนานของเด็กชายสองคนและพระพี่เลี้ยง จนศิขินทร์ยกหัตถ์ขึ้นปาดปรางจนแห้ง รับสั่งตัดพระทัย เรื่องเรียนเรียบร้อยรึยัง ชัยยุทธ์
    พระเจ้าค่ะ..เอ่อ ครับผม           ต่อจากนี้เราเป็นเด็กชายศิขินทร์เท่านั้น
    ขอบใจ เราอยากอยู่คนเดียว
    ฝ่าบาท..”
    จริงๆ
    ทั้งสามยอมถอยออกไปโดยดีแต่ชัยยุทธ์หันมาสั่ง สองคนผลัดกันเฝ้าหน้าห้องนี่แหละเผื่อทรงเรียกหาแต่ก็ไม่มีการเรียกหาอีกเลย ประตูห้องยังคงปิดอยู่ จนเช้า
                  

    อากาศยามเย็นครึ้มสลัว ทหารในชุดพลเรือนเดินตรวจรอบบริเวณตามปกติ ไม่มีอาวุธหนักในมือเหมือนที่เคยมีในโอเรียน่า แต่เวรยามกลับแน่นหนาไม่แพ้เดิม วรองค์สูงย่างเข้าวัยหนุ่มของศิขินทราพิพัฒน์ ประทับที่โต๊ะไม้ใหญ่ในห้องหนังสือเช่นที่เคยเป็นประจำในเวลาช่วงนี้ ก่อนอาหารค่ำ ทรงงานงานทั้งจากสถานศึกษาในฐานะนักเรียนและงานจากอีกฐานะที่เป็น สมุดเล่มใหญ่ตรงหน้าเต็มไปด้วยตัวเลขลานตา ตารางรายรับรายจ่ายที่สำคัญจะได้รับการตรวจผ่านเนตรเพียงสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น เพราะเป็นหน้าที่ของปรัชญ์ไปแล้วนับตั้งแต่เขาเริ่มบวกลบคูณหารได้คล่องขึ้น เละทรงตรวจเพียงเพื่อรับรู้ รับรู้ว่าทรัพย์สินส่วนพระองค์นั้นยังมีอยู่มากมายเพียงใด นับวันยิ่งทวีคูณ เหมืองอัญมณีที่ใหญ่ที่สุดของโอเรียน่ายังอยู่ในพระหัตถ์เฉกเช่น สมัยที่พระบิดายังทรงพระชนม์อยู่ กับสมุดอีกเล่มที่เป็นหน้าที่ของชัยยุทธ์และณรงค์ เต็มไปด้วยตัวเลขไม่ต่างกันแต่ไม่ใช่แสดงจำนวนเงิน แต่เป็นจำนวนคน จริงอยู่อดีตเจ้าชายองค์นี้ไม่เคยคิดจะชิงบัลลังก์คืนแต่ก็จำเป็นต้องมีคนไว้ใช้บ้าง ด้านข้างที่ริมโต๊ะเป็นกองหนังสือทั้งสิ่งที่ต้องเรียนตามหลักสูตรทั่วไป และสิ่งที่ควรจะเรียนตามที่ทรงเห็นควร นานมาแล้วเมื่อยังทรงเป็นเจ้าชายน้อย ทรงถูกพระบิดาบังคับให้เรียนมากมาย ครั้งนึงที่ทรงอดไม่ไหว วิ่งหนีพระอาจารย์ที่เข้ามาถวายการสอนไปหาพระมารดาและกรรแสงใหญ่
    ลูกไม่อยากเรียน วันนี้วันเกิดลูก ท่านแม่..”
    พระมารดาทรงโอบร่างน้อยๆนั้นไว้ยกขึ้นวางให้ประทับบนพระเพลา ทนหน่อยนะลูก เรียนเสร็จเราค่อยมาตัดเค้กก็ได้นี่รอยแย้มโอษฐ์อ่อนโยน เนตรดำเมตตาขณะที่กอดพระโอรสองค์น้อยไว้แนบอุระ ศิขินทร์ไม่เคยลืม แม่เป็นฝ่ายเราเสมอหากแต่เมื่อใดที่พ่อมา
    ศิขินทร์วิ่งหนีครูมารับสั่งชัด ไม่ใช่การตวาดแต่เป็นการบอกเล่าต่อ แม่ของลูก
    ลูกไม่อยากเรียนเพคะ ทรงเว้นเสียสักวันเถิด
    องค์เจ้าหลวงแห่งโอเรียน่าสบเนตรงามคู่นั้นก็ลอบถอนพระทัย
    ศิขินทร์ ลุกขึ้นมาคุยกับพ่อก่อน
    เจ้าชายน้อยลุกขึ้น ประทับยืนตรงหน้าพระบิดา จริงอยู่พระบิดาไม่เคยลงอาญา กระทั่งดุก็น้อยมาก แต่อย่างไรก็ทรงกลัว
    ร้องไห้ทำไม
    ลูกไม่อยากเรียน
    ปีนี้ลูกอายุเท่าไรแล้ว
    “8 ขวบ พระเจ้าค่ะ วันนี้ทรงย้ำราวกลับจะกลัวว่าจะถูกลืม
    “ 8 ขวบ ไม่น้อยแล้วลูกเป็นผู้ชาย แค่เป็นผู้ชายก็ไม่ควรร้องไห้ง่ายๆแล้ว นี่ลูกยังเป็น..” ทรงหยุดเมื่อองค์รานีรับสั่งขึ้นเบาแต่ทรงอำนาจ
    เจ้าพี่เพคะองค์เจ้าหลวงถอนพระทัยครั้งหนึ่งก่อนจะหันมารับสั่งต่อ
    ศิขินทราพิพัฒน์ จงตัดสินใจเอง ถ้าจะไม่เรียนพ่อก็จะไม่ว่าอะไร แต่จะให้ครูรออยู่จนหมดเวลาเรียนรับสั่งเท่านั้นก็เสด็จไป และนับเป็นครั้งแรกที่ทรงรู้สึกผิดอย่างที่สุดที่ใช้เวลาทั้งวันต่อจากนั้นประทับอยู่กับพระมารดา ไม่มีรับสั่งตำหนิจากพระบิดาอีก นอกจาก วันหนึ่งลูกจะเข้าใจว่าการเรียนรู้สำคัญแค่ไหน
    วันนี้ทรงรู้แล้ว และกำลังพยายามทำให้ดีที่สุดด้วย
             ในอดีตเคยทรงถาม

    ทำไมลูกต้องเรียน ท่านแม่
    คนเราต้องมีความรู้ถึงจะทำงานได้
    ทำไมเราต้องทำงาน
    ลูกเกิดมาเพื่ออะไรศิขินทร์
    ลูกไม่รู้
    สักวันหนึ่งข้างหน้าลูกจะต้องทำงาน ทำหน้าที่ของตน คนทุกคนมีหน้าที่ของตัวเองและเราจะทำมันไม่ได้ถ้าไม่มีความรู้
    เพื่อนๆของลูกเรียนน้อยกว่าลูกมาก
    เพราะเขาไม่ใช่ลูกของพ่อสุรเสียงค่อนข้างเบาดังขัดขึ้นเมื่อวรองค์สูงสง่าก้าวเข้ามาประทับข้างๆพระชายา
    ลูกของพ่อต้องรู้มากกว่าเขา
    ทำไมครับ
    เพราะลูกของพ่อจะมีหน้าที่มากกว่าเขาเมื่อลูกเป็นอย่างพ่อ
    ท่านพ่อเก่ง ใครๆก็พูดอย่างนั้น แต่ลูกคงทำไม่ได้
    ทำได้ เพียงแค่ลงมือลูกก็ทำได้
    ลูก..จะพยายามน้อยต่อน้อยครั้งที่หัตถ์ใหญ่นั้นจะบรรจงลูบเศียรเล็กๆนี้อย่างทะนุถนอม โอษฐ์แย้มออกอ่อนโยนไม่แพ้พระมารดา องค์เจาหลวงแห่งโอเรียน่าอุ้มพระโอรสองค์เดียวมาวางบนพระเพลา
    ลูกทำได้ พ่อรู้พระโอรสองค์น้องโผเข้าสู่อุระกว้างดุจภูผานั้นอย่างไม่ลังเล พาหาเล็กๆโอบผู้เป็นพ่อแน่น ในพระทัยยังเรียกหา พ่อ..

                   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×