ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศิขินทร์

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอน 1

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 50


    แสงแดดสาดเข้าหน้าต่างในยามเช้า เด็กขายในชุดนอนขายาวเรียบร้อยค่อยขยับลุกขึ้น พอดีกับประตูที่เปิดออก ชายวัยกลางคนในชุดสากลสีดำก้าวเข้ามานอบน้อม
    อรุณสวัสดิ์ครับผมดังที่เคยทำเป็นกิจวัตรทุกวัน จากนั้นก็เข้ามาช่วยเด็กชายเก็บที่นอน รอจนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ตรวจความเรียบร้อยของเครื่องแบบนักเรียนนั้นและเปิดประตูให้ เชิญครับเด็กชายเดินนำไปอย่างว่าง่าย และกล่าวอรุณสวัสดิ์กับชายวัยกลางคนที่รออยู่ที่โต๊ะไม้สักตัวใหญ่อันใช้เป็นโต๊ะอาหาร
    อรุณสวัสดิ์ครับพ่อ
    ศิขินทร์ นั่งสิ
    หญิงสองสามคนในเครื่องแบบแม่บ้านจึงเริ่มต้นเสิร์ฟอาหารซึ่งดำเนินไปอย่างเงียบเชียบและระมัดระวังอย่างที่สุด
    ปรัชญ์กับณรงค์ไปเรียนด้วยนะลูก
    ครับ
    และนั่นคือทั้งหมดของบทสนทนายามเช้า
    หลังจากเสร็จจากโต๊ะอาหารแล้วศิขินทร์ลุกขึ้นคำนับผู้เป็นพ่อแล้วเดินออกประตูไป
    รถคันงามจอดรออยู่แล้วพร้อมคนขับรถ,พี่เลี้ยงที่เข้าไปปลุกตอนเช้า และเด็กชายวัยไล่เลี่ยกันอีกสองคนซึ่งคำนับลงนอบน้อมพร้อมๆกันก่อนที่จะออกเดินทาง


    โรงเรียนประถมมีชื่อเต็มไปด้วยนักเรียนรุ่นราวคราวเดียวกัน เสียงเด็กๆวิ่งเล่นบ้าง จับกลุ่มนั่งล้อมกันบ้างดังไปทั่ว ครูในเครื่องแบบหลายคนกระจายตัวอยู่รอบๆ  ทันทีที่ก้าวลง ศิขินทร์ หันมา สั่งเพื่อน
    ในที่นี้เราเป็นนักเรียนเสมอกันไม่มีนายกับบ่าว เข้าใจมั้ย
    ครับผม
    จากนั้นจึงหันไปพูดกับพี่เลี้ยง ชัยยุทธ์ ขอบคุณครับพี่เลี้ยงอมยิ้มเล็กน้อยกับคำพูดนั้น  โค้งศีรษะลงคำนับงดงามก่อนจะขึ้นรถคันเดิมนั้นจากไป  ถึงจะเป็นเพียง บ่าวหากนายน้อยผู้นี้ ไม่เคยถือตัวไม่เคยใช้อำนาจข่มตน ไม่เคยพยายามแสดงฐานะความเป็นนายของตัวเอง เมื่อครั้งเริ่มรู้ความ เขาเสียอีกเป็นคนกล่าวกับเด็กชายว่าเขาเป็นบ่าว เป็นพี่เลี้ยงเท่านั้นไม่สมควรที่จะต้องมาให้เกียรติกัน แต่เด็กชายตอบกลับด้วยความสุภาพเช่นเดิม “เราเคารพใครไม่ใช่ที่ฐานะ ท่านพ่อ สอนอย่างนั้นครับ”  เขาไม่เคยลืมรอยยิ้มน้อยๆ บนดวงหน้าเล็กๆ เปี่ยมด้วยชีวิตชีวานั้นเลย

    ห้องเรียนชั้นประถมเป็นห้องขนาดย่อม ป้ายนิเทศให้ความรู้มีสีสันงดงาม นักเรียนแต่ละคนประจำที่นั่งเรียบร้อยเมื่อครูสาวยืนอยู่หน้าห้อง
    วันนี้มีเพื่อนใหม่ 4 คนค่ะ ตอนนี้มาแล้ว 3 คน อีกคน เดี๋ยวจะมานะจ๊ะ เอาล่ะ คนแรกแนะนำตัวเลยจ้ะ
    ศิขินทร์ สวัสดีทุกคน คำพูดสั้น ชัดถ้อยชัดคำ ไม่มีคำลงท้าย แต่หางเสียงลากยาวไม่ห้วนจนเกินไป
    เอาล่ะจ้ะ คนนี้ชื่อศิขินทร์ นั่งตรงโน้นลูก ริมหน้าต่าง ครูสาวชี้ไปที่โต๊ะเล็กริมหน้าต่างห้อง
    ปรัชญ์ ครับ” “ณรงค์ครับอีกสองคนกล่าวสั้นๆเช่นกัน
    สองคนนี้นั่งฝั่งนี้เลยจ้ะ สองคนทำท่าอึกอักเล็กน้อยที่ไม้ได้นั่งกับนายของตัวเอง แต่เมื่อสบตาเล็กๆและนายน้อยที่หันมาพยักหน้าให้  คู่นั้นก็จำยอมเดินไปประจำที่ อย่างเสียไม่ได้
    การเรียนดำเนินไปครู่เดียว นักเรียนใหม่คนที่สี่ก็เข้ามา ครูสาวคนเดิมทำหน้าที่
    นักเรียนคะ เพื่อนใหม่มาอีกคนแล้วนะ แต่ก่อนอื่นครูขอบอกว่า เพื่อนของเราคนนี้จะมีพี่เลี้ยงมานั่งด้วยที่หลังห้องนะคะและเธอเป็นเจ้าหญิงจ้ะ เสียงฮือฮาดังขึ้นตามประสาเด็ก เด็กชายศิขินทร์ ขมวดคิ้วเล็กน้อย  เจ้าหญิงของประเทศนี้…ธารีรัตนยุพิน!’ เจ้าตัวระลึกได้ในเวลาไม่นาน

    ทำไมมาเรียนที่นี่ได้
    เด็กหญิงในเครื่องแบบนักเรียนเหมือนเด็กอื่นก็เดินเข้ามา เกศายาวดำสนิทถักเป็นเปียสองข้างยาง  โอษฐ์แย้มอย่างอารมณ์ดี  เสียงใสรับสั่งดังมั่นพระทัย
    สวัสดี เราชื่อ ธารีรีตนยุพินเสียงเด็กๆอุทานกันยกใหญ่ อื้อหือ ชื่อยาวจังแต่ก็เงียบลงเมื่อครูคนเดิมเอ่ย ประทับตรงนั้นนะเพคะ  เจ้าหญิงเสด็จผ่านเพื่อนร่วมชั้นที่ยังตื่นเต้นไม่หาย  พักตร์งามได้รูป ไม่มีทีท่าเก้อเขิน   การเรียนจึงดำเนินต่อไป
    สวัสดี เธอชื่ออะไรเสียงใสดังขึ้นทักทายคนข้างๆ
    ศิขินทร์คำตอบเรียบตรงคำถามจึงดูห้วนไปสำหรับเจ้าหญิงซึ่งเริ่มไม่พอพระทัย จึงไม่มีคำสนทนาใดๆอีกจนจบวิชาแรกของการเรียน
    จนครูชายสูงอายุเดินเข้ามาสอนวิชาที่สองของวัน คณิตศาสตร์
    ยากจังเจ้าหญิงน้อยทอดพระเนตรโจทย์บนกระดานและพยายามหลบตาครูผู้สอนที่กำลังตั้งใจสอดส่องหานักเรียนสักคนมาตอบคำถามและในที่สุดก็เจอ
    ศิขินทร์ เสียงครูเรียกชื่อนั้นทำให้เด็กหลายคนพลอยโล่งใจที่ตัวเองไม่โดนไปตามๆกัน
    ครับเด็กชายลุกขึ้นไม่มีทีท่าอิดออด  
    ทำได้มั้ย  ผู้สอนถามเบาๆ กลัวเด็กจะประหม่า ด้วยความที่เป็นเด็กใหม่ เขาจำต้องให้ความสนใจบ้างว่า พื้นฐานการเรียนเป็นอย่างไร หรือจะตามคนอื่นๆทันหรือไม่ ถึงแม้โรงเรียนนี้จะตั้งขึ้นสำหรับบุตรหลานข้าราชการ รวมทั้งคหบดี ซึ่งนักเรียนบางคนเข้ามาเพราะเงิน บางคนเพราะตำแหน่งของพ่อแม่ อีกบางคน เพราะความรู้จริงๆ แต่ในฐานะของครู   ไม่ว่าจะเข้ามาด้วยวิธีใดต่างกัน แต่ตอนออกไปต้องได้รับเท่าๆกัน

     ครับ เด็กชายตอบสั้น
    ลองตอบครูสักข้อสิ” “ครับคำลงท้ายคงเดิมอีกครั้งจนคู่อริข้างๆที่เริ่มจะอริกันคิด พูดเป็นแค่นี้รึไง ครับๆๆๆ เศียรน้อยๆ โคลงตามทำนองในพระทัย จนเด็กชายเหลือบตามอง แต่ไม่ได้กล่าวอะไรเพราะครูตัดสินใจเลือก
    ข้อ 3 เอ้าครูสุ่มเลือกให้  
    “ 28 ครับ
    ดี ขอบใจครูชราพยักหน้าพอใจ ฉะฉานดี
    เจ้าหญิงน้อยชำเลืองสายตาดูสมุดของคนที่ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกอริเสียแล้ว และก็อุทานในใจ เสร็จแล้ว ทำได้ไงเนี่ยเหมือนเจ้าตัวจะได้ยินกระนั้นเพราะอยู่ดีๆก็หันมายิ้ม ไม่ยากหรอก ลองดูพักตร์เล็กๆหันขวับกลับไปจับจ้องกับสมุดตรงหน้า ทำไม่รู้ไม่ชี้ และก็ทำไม่ได้สักทีจนเริ่มหงุดหงิดใจ แต่เสียงนุ่มเรียบดังขึ้น ลบผิดและเมื่อดูดีๆก็ร้องดัง จริงด้วยเด็กชายศิขินทร์ยิ้มขันในท่าทีนั้น
    เอาล่ะพอทำเสร็จเจ้าหญิงแห่งธาลอสก็เงยพักตร์ขึ้นทอดพระเนตรอีกฝ่ายจริงจัง เพื่อเป็นการตอบแทนที่แนะนำเรา กลางวันนี้เราจะเลี้ยงข้าวพยายามวางท่าเป็นผู้ใหญ่แล้วแต่กลับถูกขันให้อีก ขอบใจแต่ไม่เป็นไรหรอก เขายิ้มรับ
    ปฏิเสธเหรอ เด็กหญิงถามเสียงสูงขึ้น ทำไมล่ะไม่เคยมีใครปฏิเสธเลยนี่
    ครับ ปฏิเสธ
    ไม่ได้สุรเสียงเริ่มดังใช้อำนาจ
    ทำไมไม่ได้แต่อีกฝ่ายไม่ได้มีทีท่าว่าจะเกรงเลย
    ก็ ไม่ควรปฏิเสธน้ำใจคนอื่น ธารีรัตนยุพินพยายามหาเหตุผลดีๆของการไม่ควรปฏิเสธ เหตุผลที่ดีกว่าแค่ การขัดพระทัย
    เราเตรียมมาแล้ว
    งั้นกินทั้งสองเลย  คำตัดสินเรียบง่าย  สรวลจนเห็นทนต์ขาวเรียง ในที่สุดเด็กชายก็ถอนใจยอมรับ
                   ม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้มีนักเรียนนั่งกันเป็นกลุ่มๆ ทางนี้ ศิขินทร์พูดพลางชี้ชวน เจ้ามือ ที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามมาติดๆ
    นี่ปรัชญ์ กับ ณรงค์ เพื่อนเรา
    สวัสดีรับสั่งใสซื่อดังอย่างจริงใจระคนดีใจแต่อีกฝ่ายกลับค้อมตัวลงอย่างรู้พิธีการ ฝ่าบาททำให้พักตร์ระเรื่อแดง รอยยิ้มจางลง สุรเสียงเอื่อยๆ ก้มพระพักตร์ตรัส ไม่ต้องหรอก นั่งกินข้าวด้วยกันนะ
    ไม่ดีกว่าฝ่าบาทธารีรัตนยุพินหันไปมองหน้าเพื่อนใหม่ขอความช่วยเหลือ   เด็กชายหันมาเอ่ยปากเบาๆ   กินด้วยกัน   เพียงเท่านั้น เด็กชาย 2 คนกลับรับปากอย่างง่ายดาย แต่แม้จะยอมร่วมวง ก็ตั้งใจกินเหลือเกินจนไม่ได้พูดจาอะไรแม้สักคำทำให้บรรยากาศดูอึดอัดไปหมด จนเด็กหญิงเพียงคนเดียวเอ่ย ไปเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวมา   

    ทันทีที่เจ้าหญิงน้อยเสด็จห่างไป ศิขินทร์ก็พูดเสียงชัด   ไม่ได้ตะคอกหากชัดทุกคำหน้ามองตรงนั้นไม่ได้หันมามองคู่สนทนาอย่าทำอย่างนี้ เราบอกแล้วว่าเป็นนักเรียนด้วยกัน
    กระหม่อม แต่..ไม่สมควรปรัชญ์เป็นคนพูดแต่ก็ต้องชะงักเมื่อสบสายเนตรดำที่หันกลับมามองตรงๆ
    ถ้างั้นก็ไปซะ
    ฝ่าบาท
    ไปรับสั่งซ้ำ เน้นคำทำให้สองหนุ่มน้อยจำใจลุกขึ้นถอยไปโดยเร็ว

    ดังนั้นเมื่อเด็กหญิงกลับมาจึงทัก ไปไหนกันแล้วสองคนนั้น
    ไปเล่นละมั้ง
    เหรอพักตร์สงสัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร
    เขายิ้มตอบเฉยๆ
    บ้านเธออยู่ไหน
    แถวๆนี้แหละเป็นบทสนทนาพื้นฐานที่ทรงรู้องค์ว่าไม่รู้จะคุยอะไรดี และเด็กชายคงรู้ตัวเหมือนกันเพราะออกปากชวน ไปนั่งตรงโน้นมั้ยตรงโน้นคือหญ้าเขียวขจีใต้ต้นไม้ใหญ่ร่มเย็นริมรั้วโรงเรียน ไปสิ
    เวลาพักเที่ยงคงเหลืออีกนานพอดู สองเด็กน้อยนั่งเคียงกัน เงียบแต่สบายใจอย่างประหลาด

     นั่นอะไรเสียงใสดังขึ้นถามชี้ไปอีกฟากของถนนนอกรั้วที่เด็กกลุ่มใหญ่มุงดูอยู่รอบๆ
    ขายของ
    อะไรล่ะ
    น้ำตาลปั้น
    กินได้เหรอน้ำเสียงลากหางเสียงสูงขึ้นประกอบกับขนงดำเลิกสูงอย่างสนพระทัยเต็มที่  อย่างที่พระบิดารับสั่งเสมอ  เจ้าลูกคนนี้ช่างซัก  แต่กระนั้นก็ทรงตอบทุกอย่างที่พระธิดาองค์น้อยถามอย่างพระทัยเย็น
    ได้ศิขินทร์ขันในท่าทีของเพื่อนคนใหม่นัก จะตื่นเต้นอะไรนักหนานะแต่ก็ตอบใจเย็นอย่างน่าประหลาด
    กินกันเถอะ
    จะออกไปยังไง เขาเริ่มเห็นเค้าความวุ่นวายของเพื่อนใหม่ หากยังใขเย็นถามกลับ
    ไม่รู้สิ กินนะ ศิขินทร์รับสั่งเอาแต่พระทัย แต่น้ำเสียงอ่อนออดอ้อนพอให้อีกฝ่ายไม่หงุดหงิดนัก
    ไม่อิ่มข้าวรึไง
    อิ่ม แต่อยากกินนี่ นะ น๊าความที่ทรงเป็นพระธิดาองค์เดียวดังนั้นแม้จะได้รับการเลี้ยงดูอย่างเข้มงวดแต่เมื่อใดที่ทรงใช้ไม้ตาย ลูกอ้อนนี้ก็ใช้ได้กับพระมารดาเสมอ ดังนั้นทรงมั่นพระทัยเต็มเปี่ยมว่าครั้งนี้ก็ต้องใช้ได้เช่นกันแถมคราวนี้ไม่อ้อนเปล่า หัตถ์น้อยๆ จับตัวเพื่อนโยกไปมา อีกด้วย เพราะฉะนั้นต้องได้ผลแน่
    เอ้า เดี๋ยวออกไปซื้อ เฮ้อ รู้มั้ยถ้าครูรู้จะถูกลงโทษได้ผลจริงๆ แม้ศิขินทร์จะทำท่าอ่อนใจก็เถอะ แต่ก็รับปากแล้ว ลูกผู้ชายพูดแล้วห้ามคืนคำ เสด็จพ่อบอกอย่างนี้เสมอ
    ครูไม่รู้หรอกรับสั่งเจื้อยแจ้วปลอบใจทั้งตัวเองและเพื่อนร่วมชะตากรรม
    เฮ้อเด็กชายถอนหายใจเปิดเผย แต่ก็ลุกขึ้นปัดกางเกงแล้วตรงไปที่รั้ว ไม่สูงมาก แต่ก็ต้องปีนล่ะ มือเล็กๆหากสังเกตให้ดีจะพบว่าขาวสะอาดและนุ่มนวลไม่แพ้ของเด็กหญิงที่นั่งมองอย่างลุ้นอยู่ห่างๆเลย ค่อยๆจับตรงโน้นทีตรงนี้ที ครู่เดียวก็เริ่มต้นปีน เจ้าตัวตั้งอกตั้งใจอย่างดี แต่เมื่อลงถึงพื้นอีกด้านของรั้วก็พบว่าเพื่อนที่นั่งมองเมื่อกี๊นี้เอง กลับยืนกอดอกทำท่าเป็นผู้ใหญ่ นี่ถ้าเจ้าหญิงน้อยทรงยักคิ้วหลิ่วตาได้คงทำไปแล้วดีที่พระนมห้ามไว้ตั้งแต่จำความได้ กระนั้นรอยแย้มโอษฐ์อย่างผู้ชนะก็ปรากฎชัดอยู่ดี ศิขินทร์ขมวดคิ้วพลางสอดส่ายสายตาโดยรอบ ออกมายังไงนะ ไม่เชื่อหรอกกว่าจะปีนได้เก่งกว่าเราสุดท้ายคิ้วมุ่นก็คลายลง คราวนี้รอยยิ้มปรากฎขึ้นบ้าง เมื่อเห็นชัดว่ามีช่องใต้กำแพงที่คงมีเด็กคนอื่นมาขุดเอาไว้ อ๋อ มิน่า  ค่อยยังชั่ว ถ้าปีนออกมาได้เร็วกว่าก็เสียหน้าแย่สิ'
    มิน่า อะไรคำอุทานกลับทำให้อีกฝ่ายอารมณ์ขึ้น
    เปล่าคำพูดอ่อนลงไม่อยากให้ต้องโดนโกรธ แต่เด็กหญิงไม่ลดละ กลับประกาศกล้า
    คอยดูนะ เราจะปีนเข้าให้ดูพักตร์จริงจัง แต่ก็ถูกขัน  ยิ่งทำให้ทรงมุ่งมั่นมากขึ้น
    รถเข็นที่จอดขายน้ำตาลปั้นนั้นประกอบด้วยน้ำตาลปั้นหลากหลายสีสีนและรูปแบบ จนเลือกไม่ถูก เร็วหน่อยศิขินทร์ที่เลือกได้นานแล้วเริ่มเร่ง
    ไม่รู้จะเอาอันไหน สวยทั้งนั้นเลย
    กินเข้าไปก็เหมือนกันหมดนั่นแหละในที่สุด เจ้าฟ้าหญิงแห่งธาลอสก็ทรงหยิบขึ้นมาอันนึง

     ได้เวลาที่เด็กชายต้องกังวล
    เราจะปีนกลับ
    ลอดก็ได้
    ไม่...เราจะปีนถึงเป็นผู้หญิง แต่เราก็รักษาคำพูด   องค์เจ้าหลวงแห่งธาลอสทรงย้ำ เป็นคนต้องรักษาคำพูดของตัวเองให้ได้ เป็นผู้ชายต้องรักษาสัตย์ เป็นเจ้าหญิงต้องรักษาคำพูดด้วยทั้งหมดที่มี
    งั้นเราก่อนศิขินทร์ยื่นน้ำตาลปั้นฝากให้เจ้าหญิงน้อยถือไว้ขณะที่ตัวเองปีนกลับอย่างคล่องแคล่วกว่าเดิมมาก
    เอ้า ส่งมาน้ำตาลปั้นสองอันถูกปักไว้กับดินใต้ต้นไม้ในโรงเรียน เพื่อให้ได้ลุ้นคนจะปีนกลับได้เต็มที่
    ฝ่ายหญิงค่อยๆมองไปมองมาไม่รู้จะเริ่มตรงไหน
    ลอดเถอะ
    ไม่..จะปีน
    เมื่อถูกเร่ง ก็เริ่มก้าวทันที
    ระวังหน่อย เอาขาขวาขึ้นตรงนั้นก่อน อย่างนั้นแหละ เอาล่ะ โดดมาเลย
    หา โดด เหรอ
    ไม่สูงหรอกน่า
    คนอยู่ข้างล่างก็ไม่สูงสิเด็กชายเงียบ ดวงตาคมแม้เยาว์วัยมีแววยิ้มขันๆ แต่ปากคงหุบสนิท
    ทำไงดีล่ะศิขินทร์ ช่วยด้วยซี่
    บอกว่าโดดไง
    แต่ว่า..”
    เรารับเอง โดดเลยทั้งที่ตัวพอกันแต่คำพูดยืนยันและท่าทางที่กางมือออกเตรียมรับนั้นทำให้อุ่นใจขึ้นมาก
    โดดแล้วนะ
    อื้ม
    ทั้งสองจึงล้มกลิ้งไปด้วยกัน เสียงสรวลร่าของเด็กหญิงดังมากขึ้นในขณะที่เด็กชายเพียงยิ้มอย่างอ่อนใจ
    ไม่เห็นยากเลยนะรับสั่งเจื้อยแจ้วพลางปัดเครื่องแบบที่คลุกฝุ่น
    ใช่สิ ตัวอยู่ข้างบน จะไปยากอะไรเด็กชายสำรวจรอยถลอกทั่วขา
    เจ็บมากมั้ย
    ไม่หรอก แต่ลอดซะก็หมดเรื่องเสียงอ่อนลงเมื่อสบเนตรละห้อย เจ้าหญิงน้อยแย้มสรวลหวานประจบประแจงก่อนจะวิ่งไปหยิบน้ำตาลปั้นที่ลำบากลำบนออกไปซื้อกลับมายื่นส่งให้ กินสิ
    พรุ่งนี้มาอีกนะอีกฝ่ายเงียบ จึงต้องรีบเซ้าซี้ นะ นะ
    จ้า แต่เราไปคนเดียวพอนะ
    ไม่ จะไปด้วย
    งั้นห้ามปีนแล้ว ลอดเอา
    แต่ว่า..”
    งั้นไม่ไปละ ศิขินทร์เสมองทางอื่น
    เอ้า ก็ได้ๆธารีรัตนยุพินยอมตาม  รอยยิ้มอ่อนโยนจึงปรากฏบนใบหน้าที่มักจะเรียบเฉยนั้นเสียครั้งนึง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×