ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หวางเฟยของข้าเป็นเพียงภรรยาผู้อ่อนแอ

    ลำดับตอนที่ #4 : มนุษย์อ่อนแอ

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 64



    ตอนที่ 4 : มนุษย์อ่อนแอ

     

     

    "ข้ากำลังรอเจ้าอยู่"

    พรึบ!

    สิ้นเสียงภายในมุมมืดของห้องปรากฎร่างจิ้งจอกตัวอ้วนกลมตัวเดิมที่เขาเคยเจอ เป็นนางที่บุกเข้ามาเงียบเชียบไร้เงา หากเป็นศัตรูแม่ทัพเช่นเขาอาจจะสิ้นชีพไปแล้ว

    "เจ้ามนุษย์อ่อนแอ"

    ซือเซียนเซียนมองบุรุษหน้าตายที่กำลังเดินไปรินชาใส่จอกและส่งมอบให้นางในร่างจิ้งจอก ชายผู้นี้ไม่รู้หรือว่านางอยู่ในร่างสัตว์ร้าย

    "หึ!"

    ฉับพลันเจ้าจิ้งจอกก็กลายร่างเป็นหญิงสาวและรับจอกน้ำชามาถือไว้ ถึงนางจะเป็นปีศาจแต่เรื่องมารยาทมนุษย์นางก็พอรู้อยู่บ้าง หากไม่ทำตามอาจจะโดนตำหนิได้

    "นับเป็นโชคชะตาที่เราได้พบเจอกัน"

    "ผู้ใดอยากเจอเจ้า"

    มนุษย์ผู้นี้กล่าวออกมาได้ไม่ละอาย เหอะ! หน้าหนาเกินไปแล้ว

    "ไม่ใช่เจ้าหรือที่เข้ามาพบข้าในเรือนนี้"

    "ข้ามาสังหารเจ้า"

    "อ้อ!!"

    ผู้จะถูกสังหารเพียงพยักหน้ารับหนึ่งคราและหันไปสนใจกับกาน้ำชา ไม่เพียงแต่จะปรายตามาสนใจมือสังหาร

    "นี่เจ้า!!"

    "มนุษย์เราหากคิดจะสังหาร ไม่เสียเวลาพูดคุย"

    "เช่นนั้นหรือ"

    ซือเซียนเซียนจำได้ว่าในอดีตก่อนนั้นการต่อสู้กระทำกับแบบเปิดเผย ต้องมีการท้าประลองให้ถูกต้องตามกฎสวรรค์

    "แย่แล้วๆ ข้าหลับนานเกินไป" 

    เหตุใดสิ่งที่เคยกระทำผู้คนกลับไม่ทำเหมือนคราอดีต

    "ปีศาจจิ้งจอกหายสาบสูญไปจากพวกเรานานมากแล้ว"

    "พวกมนุษย์ไม่เคยเห็น ใช่ว่าพวกเราจะไม่มีอยู่จริง" หายสาบสูญแสนปีอะไรกัน นางเพียงแค่หลับไปหมื่นปี

    "ก็อาจจริง" ฉินไค่เฉิงพยักหน้ารับก่อนจะจิบชาในแก้วและปรายตาหันกลับมามองนาง

    "เจ้าในตอนนี้หากเปิดเผยให้มนุษย์รู้ว่าเป็นปีศาจ อาจจะกลายเป็นจิ้งจอกย่าง"

    "พวกเจ้ามีวิชาชั้นต่ำ"

    วิชาปราบปีศาจนั้นแม้ไม่เคยเจอนางก็เดาได้ว่าจะต้องร้ายกาจมากแน่นอน เพราะนับตั้งแต่ตื่นมานางไม่อาจะสัมผัสได้ถึงพลังของเหล้าพี่น้อง บางทีอาจจะสูญสิ้นไปหมดแล้วเพราะวิชาชั้นต่ำ

    "ผู้ที่ร่ำเรียนย่อมมีวิชา" ฉินไค่เฉิงไม่ปิดบัง แถมยังลุกขึ้นและก้าวมาหยุดตรงหน้านาง

    "มนุษย์มิได้อ่อนแออีกต่อไป"

    พรึบ!

    นางลงมือหมายจะสั่งสอนเด็กน้อยผู้หยิ่งยโส มือซ้ายพุ่งไปหมายจะกระแทกร่างใหญ่ให้กระดูกแหลกสลายแต่ช้ากว่าอีกฝ่ายที่ช่วงชิงโอกาสรวบแขนนางเอาไว้ก่อน

    "เจ้าเรียนรู้ความเป็นมนุษย์ได้เร็วนัก"

    คำชมไม่คล้ายยินดี ใยนางรู้สึกราวกับถูกเด็กผู้นี้ตำหนิอยู่

    "วิชาปีศาจเรียกผู้ปราบปีศาจได้ไวกว่าสิ่งใด"

    ขวับ!

    นัยน์ตาของนางจิ้งจอกหันไปมองสบดวงตาคม

    "เจ้าหมายความว่า..."

    "มันทำให้ข้านึกอยากจะปราบปีศาจขึ้นมา"

    "เหอะ! คิดจะจัดการข้ายังเร็วไปหมื่นปี" 

    นางหาใช่ปีศาจปลายแถว ซือเซียนเซียนไม่เพียงขยับตัวเพียงเล็กน้อยก็หลุดออกจากการเกาะกุมง่ายดาย ก่อนจะถอยหลังไปหลายก้าวนางยังกระแทกฝ่ามือส่งพลังกระแทกใส่ร่างแกร่งจนเขาซวนเซล่าถอยไป

    "มนุษย์ก็ยังคงเป็นมนุษย์ ถึงเจ้าอย่างไรก็ยังคงอ่อนแอ"

    ปีศาจสาวปรายตามองชายหนุ่มที่กุมท้องตัวเองเอาไว้ นางไม่ได้สนใจและผลุบหายไปในความมืดเช่นคราวที่เข้ามา การที่นางไปโดยไม่หันกลับมาทำให้นางไม่อาจเห็นว่าชายที่ทำท่าบาดเจ็บเมื่อสักครู่กลับมายืนตัวตรงไร้ร่องรอยความเจ็บปวด

    ฉินไค่เฉิงรั้งนำทัพอยู่ที่ชายแดนเป็นเวลานานกว่าสองปีแต่นับตั้งแต่ปีศาจตนนั้นจากไป เขาก็ไม่ได้เจอนางอีกไม่ว่าจะเข้าไปในป่าลึกสักเพียงใดก็ไร้เงา ปีศาจอวดดีเช่นนางไม่ใช่ถูกผู้อื่นจับย่างไปแล้วกระมัง!

    "นายท่านขอรับ รอบๆ ค่ายไม่มีสัตว์ดุร้ายขอรับ"

    นายกองผู้รับหน้าที่ลาดตระเวรกลับมารายงานเช่นเดิม เขาให้ทหารคอยดูแลเพราะชาวบ้านส่วนใหญ่กลับมาใช้ชีวิตหลังสงคราม มีชาวบ้านบางกลุ่มเข้าไปในป่าเพื่อเสาะหาสมุนไพรและอาหาร

    "ถอดป้ายออกได้"

    เขาหมายถึงป้ายประกาศห้ามที่เคยติดเอาไว้เมื่อสองปีก่อน

    "ขอรับ"

    นายกองรับคำก่อนจะถ่ายทอดคำสั่งยกเลิกป้ายเพื่ออนุญาติให้ชาวบ้านเข้าไปในป่า หลังจากที่ลาดตระเวรกันมาหลายเดือนไม่พบสัตว์ดุร้าย อีกไม่ถึงสามวันท่านแม่ทัพจะต้องถึงกำหนดกลับเมืองหลวงนี่ถือเป็นคำสั่งสุดท้ายของท่านแม่ทัพที่ค่ายนี้

    คืนสุดท้ายที่ค่ายก่อนออกเดินทางกลับได้เกิดลมพายุขนาดใหญ่พัดทำข้าวของเสียหาย เหล่าทหารในกองทัพต่างตื่นตระหนกเพราะไม่มีใครทราบว่าจะเกิดพายุในฤดูหนาว

    "แปลกจริงๆ"

    ทุกอย่างดูแปลกประหลาดเมื่อพายุนั้นพัดมาและทำลายข้าวของแต่ทว่าบรรยากาศรอบข้างกลับเงียบสงบ

    "สำรวจความเสียหาย"

    "ขอรับ"

    ทหารทุกนายรับคำสั่งพร้อมกับแยกย้ายไป ตัวท่านแม่ทัพเองก็เดินสำรวจค่ายโดยมีรองแม่ทัพติดตามไม่ห่าง แม้จะออกรบพบเจอสงครามและฆ่าฟันมานับไม่ถ้วนแต่ทว่าบรรยากาศคืนนี้ช่างน่าขนลุก

    "เจ้าไม่ต้องตามมา"

    คำสั่งของท่านแม่ทัพสร้างความแปลกใจให้กับลูกน้องเป็นอย่างมาก

    "ท่านจะออกไปนอกค่ายหรือขอรับ"

    รองแม่ทัพโม่ถึงกลับลอบกลืนน้ำลายหลังจากที่สายตาคมของท่านแม่ทัพตวัดกลับมามอง น่ากลัวว่าบรรยากาศคืนนี้ก็สายตาของท่านแม่ทัพนี่แหละ เขาไม่น่าเอ่ยปากถามออกไป

    รอบแม่ทัพโม่ลอบกลืนน้ำลายและถอยออกไปปล่อยให้ท่านแม่ทัพกระโดดหายไปในความมืด นับตั้งแต่พวกเราชนะสงครามเมื่องสองปีก่อน ท่านแม่ทัพก็มักจะชอบออกไปข้างนอกแบบไร้ผู้ติดตาม ไม่มีใครรู้ว่าท่านออกไปที่ใดไปพบใคร

    ฉินไค่เฉิงกระโจนขึ้นไปบนกำแพงค่ายและกวาดตามองความเสียหาย เขาเป็นเพียงคนเดียวที่สัมผัสได้ถึงเจ้าของพลังนี้ เดิมทีคิดว่านางถูกกำจัดไปแล้ว พายุนั่นมิใช่เรื่องธรรมชาติเขารับรู้ได้ถึงแรงปะทะของสองขุมพลังที่ยิ่งใหญ่และมันอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ฉินไค่เฉิงรีบไปยังจุดที่คาดว่าน่าจะเกิดเหตุ ภาพที่เห็นคือต้นไม้ที่ราบเป็นหน้ากลอง

    น่าจะเป็นนางไม่ผิดแน่!

    นัยน์ตาคมมองฝ่าความมืดไปรอบๆ ก่อนจะเห็นรอยเลือดบนหิมะสีขาวเป็นทางยาว เขาเดินตามรอยนั้นไปจนกระทั่งพบหมาป่าตัวอ้วนหายใจรวยรินอยู่ตรงลำธาร ไม่ได้เจอกันนานนางยังคงอวบอ้วนเช่นเดิม

    "เจ้าบาดเจ็บ"

    น้ำเสียงของผู้ที่เอ่ยออกมาทำให้หูของเจ้าจิ้งจอกกระดิก แต่ทว่ามันบาดเจ็บเกินกว่าจะมีแรงหันไปมองว่าเป็นผู้ใด เดิมทีปีศาจแช่งนางไม่มีแม้กระทั่งเลือดเขาเลยไม่แน่ใจว่าสีแดงฉานตรงหน้านี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร

    "ไปอวดเก่งกับใครเข้าล่ะ"

    ฉินไค่เฉิงเดินมาหยุดตรงหน้านางก่อนจะมองสำรวจขนสีขาวที่บัดนี้กลายเป็นสีแดงแต่แผลกลับค่อยๆ ผสานกันอย่างน่าอัศจรรย์

    "เจ้าน่ะ ยังจำข้าได้หรือไม่"

    ทุกอย่างเงียบเชียบมีเพียงเสียงหายใจหนักๆ ของนางและเจ้าของร่างก็หลับตาลง

    "เฮ่อออออ~"

    เห็นทีเขาคงต้องช่วยในฐานะชายหนุ่มผู้แสนดีแล้วกระมัง ฉินไค่เฉิงกระตุกยิ้มก่อนจะร่ายมนต์บางบทส่งผลให้ร่างจิ้งจอกตัวอ้วนร้องเสียงแหบด้วยความเจ็บปวดไปพักใหญ่กว่าทุกอย่างจะสงบและเหลือไว้เพียงร่างหญิงสาวผู้หนึ่ง

    "รอเจ้ามาสองปี นับว่าไม่เสียเวลา"

     

     

     

     

     

    .........

    *** น้องจิ้งจอกเหมือนมาจากอดีต ทุกอย่างเปลี่ยนไปน้องตั้งรับไม่ทัน น้องยังมึนอยู่

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×