ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หวางเฟยของข้าเป็นเพียงภรรยาผู้อ่อนแอ

    ลำดับตอนที่ #3 : เมื่อเวลาเปลี่ยนผ่าน สรรพสิ่งย่อมผันเปลี่ยน

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 64



    ตอนที่ 3 : เมื่อเวลาเปลี่ยนผ่าน สรรพสิ่งย่อมผันเปลี่ยน

     

     

    มนุษย์ผู้นี้เป็นตัวอันใด ซือเซียนเซียนไม่เข้าใจว่าเหตุใดเขาจึงไม่กลัวนาง กลับทั้งยังเล่นลิ้นกลับกลอกใส่นาง หรือเวลาหนึ่งหมื่นปีที่นางหลับผู้คนเลิกหวาดกลัวปีศาจแล้ว จิ้งจอกสาวไม่เข้าใจท่าทีที่มนุษย์ผู้นั้นแสดงออกมา เขาทำราวกับว่าขำขันและมองนางด้วยสายตาเอ็นดู ซือเซียนเซียนโมโหจึงตะปบอุ้มเท้าเข้ากับใบหน้าเขาแต่ช้าไปกว่าลูกธนูที่พุ่งเข้ามา

    จึก!

    ธนูแหลมคนที่แหวกผ่านอากาศด้วยความเร็วพุ่งเข้ามาปังกลางลำตัวของจิ้งจอกสาวก่อนที่ปลามแหลมของธนูจะหักงอและร่วงหล่น

    "ปีศาจ ปีศาจ!"

    นายทหารผู้ที่ยิงธนูดอดนั้นร้องตะโกนก้องป่าส่งผลให้มนุษย์หลายสิบคนกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ นางจึงรีบกระโจนเข้าไปในพุ่มไม้และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

    "ท่านแม่ทัพขอรับ"

    น้ำเสียงแตกตื่นของคนหมู่มากทำให้ฉินไค่เฉิงรู้สึกรำคาญไม่น้อย ตัวเขาลุกขึ้นยืนอย่างองค์อาจแม้ว่าเนื้อตัวจะเปรอะเปื้อนและเสื้อผ้าฉีกขาดไปบ้างแต่กลับไร้บาดแผล

    "ปีศาจตนนั้น"

    "นางไม่ได้ทำอะไรข้า"

    เจ้าปีศาจตนนั้นราวกับเพิ่งแรกเกิดทั้งที่ตัวมันอายุไม่น้อย เหตุใดจึงหลงลืมว่าปีศาจไม่อาจเปิดเผยตัวตนได้ในยามนี้เพราะบัดนี้มนุษย์ชื่นชอบการล่าปีศาจ หากนางยังเปิดเผยตัวง่ายดายเช่นที่เขาพบเจอนี้คงมีเรื่องร้ายแรงตามมา

    "ออกคำสั่ง หุบเขาหมื่นพิษเต็มไปด้วยอันตรายห้ามมิให้ใครก้าวล้ำเข้ามา"

    "ขอรับ"

    หลังจนพรางกายหยาบไม่ให้ผู้ใดเห็นนางก็ยืนมองกลุ่มคนที่ค่อยๆ พาหันออกไปจากป่า บุรุษที่รั้งท้ายนาม 'ฉินไค่เฉิง' ผู้นั้นหันกลับมามองตรงที่นางยืนอยู่ก่อนจะยกยิ้มมุมปาก

    เขาเห็นนางใช่หรือไม่!

    "แล้วพบกัน"

    เจ้านั่นเอ่ยก่อนจะหมุนตัวกลับออกไป ช่างท้าทายอำนาจของนางที่ตบะพลังแกร่งกล้าเหลือเกิน ปีศาจสาวขบเขี้ยวด้วยความไม่พอใจก่อนนางจะรีบรุดหน้ากลับไปยังทุ่งหญ้าเพื่อพบเจอคนผู้หนึ่ง

    "โอ้วว แม่นางข้านึกว่าท่านไปแล้ว"

    "เหตุใดจึงมีมนุษย์ที่ไม่เกรงกลัวข้า"

    "ท่านไปเจอมนุษย์มาหรือแม่นาง" เทพหนุ่มมีสีหน้าตกใจ

    "……"

    "แม่นางเหตุใดท่านจึงลืมเลือนเรื่องราวสำคัญเช่นนี้ไปเสียได้ แย่แล้วๆ" เสียงเทพหนุ่มผู้เฝ้าประตูโอดครวญหลังจากที่นางกลับมาสอบถามข้อข้องใจเกี่ยวกับมนุษย์ผู้นั้น

    "ข้าเพิ่งตื่นจากการหลับใหล จะลืมเรื่องพวกนี้ได้อย่างไร" คนงามในร่างจิ้งจอกขู่คำรามก่อนจะนั่งมองหลุมศพสหายรักที่ถูกทำลายไป ช่างเรื่องป้ายวิญญาณเรื่องเจ้าเด็กที่ท้าทายอำนาจข้านั้นสำคัญกว่า

    "ขออภัยขอรับ ข้าจะเล่าให้ท่านฟัง ห้าร้อยปีมานี้มนุษย์หมดสิ้นความนับถือเทพปีศาจพวกเขาล้วนไม่ใส่ใจ พวกเขานั้นใช้ชีวิตด้วยความละโมบและกระหายสงคราม พวกเขารู้จักเพียงการเข่นฆ่า หากเจอปีศาจก็จะฆ่าให้ตาย หากเจอเทพก็จะจับไปทรมาน"

    "ใยถึงทำเรื่องเช่นนั้นได้"

    เทพและปีศาจมากไปด้วยพลัง เหตุใดมนุษย์ตัวน้อยถึงจะทำร้ายพวกเราได้ เมื่อก่อนนางเพียงดีดนิ้วหนึางทีกองทัพมนุษย์กว่าแสนนายก็สิ้นชีพได้ หรือเพราะไม่มีนางกองทัพปีศาจจึงอ่อนแอปวกเปียก

    "พวกเขาบางคนร่ำเรียนวิชาปราบปีศาจขอรับ วิชาแกร่งกล้าและสามารถสะกดพลังของพวกเราเอาไว้ได้"

    "วิชาปราบปีศาจ"

    "ขอรับเป็นวิชาที่ไร้ที่มาที่ไป แต่ผู้ได้ร่ำเรียนจะมีร่างกายแข็งอกร่วดั่งเหล็กปีศาจไม่อาจแตะต้องให้ระคาย และหากเขาผู้นั้นแข็งแกร่งก็จะสามารถควบคุมปีศาจได้"

    "เจ้านั่นกล้าใช้วิชาชั้นต่ำกับข้า"

    นางจิ้งจอกสาวนึกย้อนไปถึงชายหนุ่มที่ทำให้นางกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าขบขัน

    "แม่นางท่าน…"

    "หึ! ฉินไค่เฉิง เจ้าคนสมควรตาย"

    เสียงจิ้งจอกคำรามดังก้องป่าส่งผลให้ใบไม้ต้นหญ้าปลิวว่อนด้วยแรงพลัง เทพหนุ่มรู้สึกหวาดกลัวแต่ก็ระทึกกับนามที่นางปีศาจเอ่ยมา หรือนั่นจะเป็นนามบุรุษที่เทพจันทราผู้ด้ายแดงให้นางปีศาจจิ้งจอก

    ต้องใช่แล้ว ใช่แล้ว เป็นเรื่องน่ายินดีที่นางจะตัดใจจากท่านหวังเหล่ยได้เสียที!

     

    ค่ายวิหคเวหา,

    "อ๊ากกกกกก~"

    เสียงนักโทษที่โดนทารุณร้องคำรามลั่นคุกทหารอันเหี้ยมโหดภายในค่ายวิหคเวหา หลังจากกลับมาที่ค่ายรองแม่ทัพและแม่ทัพหนุ่มก็เป็นผู้คาดคั้นเอาคำตอบจากปากพวกมันด้วยตนเอง

    "พวกมันสิ้นใจแล้วขอรับ"

    นายทหารผู้ทำหน้าที่ทรมานตามคำสั่นเจ้านายรายงาน

    "หึ!"

    ร่างแกร่งในชุดเกราะที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดมนุษย์ยืนขึ้นเต็มตัวก่อนจะหันหลังกลับ ชินอ๋องคือชายหนุ่มผู้ที่นั่งมองการทรมานนักโทษโดยไม่กระพริบตา ไม่ว่ามันจะน่ากลัวหรือโหดร้ายเพียงใดเขาก็ทำเพียงนิ่งเฉย

    "ท่านแม่ทัพจากอาวุธพบว่ามีส่วนผสมทางแร่เหล็กทางตอนเหนือของหนิงหยาง"

    "ส่งคนไปตรวจสอบ ทำแบบเงียบๆ"

    เขาต้องการทราบว่ามันผู้ใดเป็นที่แอบเลี้ยงงูพิษพวกนี้เอาไว้ โทษสนับสนุนพวกกบฏคงไม่อาจละเว้นแต่เขาต้องการถอนรากถอนโคนพวกมัน ทุกอย่างต้องทำแบบเงียบที่สุด

    ฉินไค่เฉินกลับเข้ามายังที่พักในค่ายทหาร ชายหนุ่มไม่ชื่นชอบให้มีหญิงสาวเข้ามาวุ่นวาย ภานในเรือนที่พักของท่านแม่ทัพจึงไม่มีสาวใช้ ร่างสูงถอดชุดเกราะเหล็กกล้าและตามด้วยเสื้อผ้าเผยให้เห็นกล้ามเนื้อแน่นสมชายชาติบุรุษ

    แม่ทัพหนุ่มก้าวเข้าไปยังอ่างไม้ขนาดใหญ่และแช่กายชำระร่างกายพลางหวนคิดไปถึงวันที่เขาได้พบเจอกับนางจิ้งจอกตนนั้น

    ช่างงดงามและเย้ายวน

    เขาเกิดในราชวงค์ย่อมพบเจอหญิงงามมากมายแต่ชินอ๋องเช่นเขาไม่เคยสนใจผู้ใด ที่วังบูรพามีเพียงสาวใช้อุ่นเตียงและอนุรวมสองคน เขาไม่ใช่คนที่ยึดติดกับของสวยงาม ดอกไม้ยิ่งงดงามยิ่งมากไปด้วยพิษสง

    หลังจากอาบน้ำแช่กายไปหลายจิบชาเขาก็ลุกขึ้นมาสวมชุดนอนผ้าเนื้อดีและก้าวไปยังห้องนอนหมายจะพักผ่อนแต่ต้องชะงักกับหญิงสาวที่นอนเอนกายอยู่บนเตียง

    "ออกไป"

    ประโยคนั้นดังกึกก้องเสียจนสาวงามที่ถูกส่งมาปรนนิบัติตกใจแทบสิ้นสติ แต่นางกลับพยายามรวบรวมความกล้าและยั่วยวนชินอ๋อง เพื่อเป้าหมายเดียวกับหญิงงามทั้งแคว้น เพื่อตำแหน่งหวางเฟยที่ยังว่างเว้นเอาไว้ สตรีใดก็หวังจะครอบครอง!

    "ท่านอ๋องเพคะ"

    "เจ้าไม่ได้ยินที่เปิ่นหวางสั่ง"

    อ๋องหนุ่มรูปงามเอ่ยถามและก้าวเดินเข้าไปหาสาวสวยจนหญิงสาวรู้สึกเขินอายกับความหล่อเหลาของชิงอ๋อง แม้จะเลยวัยหนุ่มแต่ท่านอ๋องยังทรงพลานามัยแข็งแรง

    "หม่อมฉันลู่จิงเพคะ ให้หม่อมฉันได้รับใช้ประองค์" สาวใช้นามลู่จิงยังคงเว้าวอนส่งสายตายั่วยวนให้เขา

    "ลู่จิง"

    "เพคะ"

    เจ้าของนามแย้มยิ้มด้วยความเอียงอายก่อนจะช้อนตามองสบดวงตาสีแดงก่ำของท่านอ๋อง

    "ทหาร เปิ่นหวางยกแม่นางลู่จิงให้พวกเจ้า"

    "ไม่นะเพคะ ท่านอ๋องโปรดเมตตาหม่อมฉันด้วยเพคะ"

    ร่างบางรีบลนลานคุกเข่าอ้อนวอนชายตรงหน้าร้องขอความเมตตา ในใจไม่คาดคิดว่าท่านอ๋องจะส่งนางให้พวกทหาร นับกันเรื่องความงามในเขตชายแดนแห่งนี้นางงดงามเป็นที่หนึ่งไม่มีสอง สาวงามจะคู่ควรกับทหารชั้นผู้น้อยได้อย่างไร

    "นำตัวนางออกไป"

    นายทหารสองนายที่เข้ามารีบพาหญิงสาวออกไปท่ามกลางการขัดขืน พวกเขาชินเสียแล้วกับการที่มีหญิงงามลักลอบปีนเตียงท่านอ๋อง ช่างเป็นเรื่องปกติเสียจนน่าใจหาย

    หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยนัยน์ตาคมเข้มที่ฉายแววเบื่อหน่ายกลับแวววาวราวกับเจอเรื่องสนุก ก่อนจะหันไปทางโคมไฟที่ตรงมุมห้องและเอ่ยออกมาว่า…

    "ข้ากำลังรอเจ้าอยู่"

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×