ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    bad love รักร้ายๆคุณหนูปีศาจ HanChul yaoi

    ลำดับตอนที่ #4 : bad love::Chapter 4

    • อัปเดตล่าสุด 24 ม.ค. 53




     

    "ก๊อกๆๆๆๆๆ"

     

     

    "คังอินพอได้แล้ว มีคนมาไม่ได้ยินหรือไง" ลีทึกส่งเสียงดุคนที่มืออยู่ไม่สุขกำลังสาละวนอยู่กับเรือนร่างของตัวเองพร้อมกับริมฝีปากหนาที่พยายามจะยื่นเข้ามาใกล้ ดูเหมือนตอนนี้คนที่โดนว่าจะไม่สนใจเสียงที่ดังอยู่ภายนอกสักนิด

     

     

    "บอกให้พองั้ยเล่า ไอ้หมีบ้ากาม"  ด้วยความรำคาญบวกกับเสียงเคาะประตูที่ดังไม่หยุดทำให้ลีทึกถีบคังอินอย่างแรกจนตกโซฟา

     

     

     

    "ทึกอ่ะ ผมเจ็บหน่า~~~~~~ทำไมต้องรุนแรงกับผมด้วย" คังอินลุกขึ้นจับก้นปอยๆหลังจากที่โดยถีบก้นกบกระแทก

     

     

     

    "แล้วฉันพูดนายเคยฟังมั้ยหา.....ในหัวคิดแต่เรื่องลามกคอยแต่จะปล้ำฉันอยู่เรื่อย"

     

     

     

    "ไม่ให้ปล้ำเมียแล้วจะให้ผมไปปล้ำคนอื่นหรืองั้ย"

     

     

    "กล้าก็ลองดูฉันไม่เก็บของแกไว้ทำพันธุ์แน่  ไปดูได้แล้วว่าใครมาเคาะประตู" ลีทึกสั่งอย่างผู้ถืออำนาจ

     

     

    "สั่งได้สั่งไปเห็นว่าเป็นเมียหรอกนะ......ใครมาขัดจังหวะฟระถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญนะพ่อจะไล่ออกให้ดู" คังอินพูดอย่างอารมณ์เสีย

     

     

    "มีอะไรเคาะอยู่ได้"

     

     

    "คือ.....คุณฮีชอลมาแล้วครับนั่งรอคุณลีทึกอยู่ที่ห้องVIP" พนักงานที่มาเรียกร่างบางบอกอย่างกล้าๆกลัวๆ

     

     

    "รู้แล้วเดี๋ยวฉันไปบอกคุณลีทึกเองนายไปได้แล้ว"

     

     

     

     

    ชายหนุ่มร่างหนาปิดประตูห้องแล้วเดินกลับไปหาคนรักที่นั่งอ่านหนังสืออยู่

     

     

    "ว่างั้ยมีเรื่องอะไรหรือเปล่า" ลีทึกเงยหน้าถามคนที่นั่งลงข้างๆ

     

     

     

    "เปล่าเด็กมันขึ้นมาบอกว่าฮีชอลนั่งรอนายอยู่ที่ห้องVIP"

     

     

     

    "แล้วทำไมไม่รีบบอกเล่าฉันไปล่ะป่านนี้ฮีชอลนั่งงอนฉันแล้วมั้ง"

     

     

    "เดี๋ยวค่อยไปหน่าอยู่กับผมก่อนนะ นะ ทึกนะ" คังอินทำเสียงออดอ้อนพร้อมกับเข้ามากอดคนที่กำลังจะลุกไว้

     

     

    "ไม่เอาฉันจะรีบไปหาเพื่อนฉันส่วนนายก็รีบลงไปดูข้างล่างเลยป่านนี้แขกเริ่มเยอะแล้ว"

     

     

    คังอินยังทำเฉยไม่ยอมปล่อยคนรักง่ายๆ

     

     

    "ไอ้หมีแกจะปล่อยฉันไหมถ้าแกไม่ปล่อยคืนนี้อด" ลีทึกว่าพร้อมส่งสายตาอาฆาต

     

     

     

    "จ้าๆปล่อยก็ได้ กอดนิดกอดหน่อยทำเป็นหวงตัว"

     

    "แกว่าอะไรนะ........ "

     

     

    "เปล่าจ้าไม่ได้ว่า เปล่าเลย ทึกรีบไปเถอะนะเดี๋ยวฮีชอลรอ" คังอินรีบไล่คนรักก่อนที่ชะตาจะขาด

     

     

     

    "ลืมไปเลย ฉันไปนะแล้วรีบลงไปทำงานล่ะ จุ๊บบบ"

     

     

     

     

    ตายแน่เลยผมกว่าที่ผมจะหลุดเป็นเยื่อของไอ้หมีจอมตะละได้เวลาก็ล่วงเลยมานานพอควรป่านนี้เพื่อนสนิทคนสวยของผมคงกำลังนั่งสาปแช่งผมอยู่แน่ๆ ผมรีบเดินมายังห้องVIP โดยไม่สนใจคำทักทายของแขกหรือกับลูกจ้างในร้านของแฟนหนุ่ม  ผมดันประตูเข้ามาในห้องทันทีที่มาถึง แต่แทนที่ผมจะได้คำบ่นคำด่าจากเพื่อนรักแต่เขากลับเฉยโดยไม่สนใจผมแม้แต่นิดเดียว ผมมองตามสายตาของฮีชอลที่มองลงไปเคาท์เตอร์บาร์ข้างล่างผ่านบานกระจกใสในห้อง ผมจึงเข้าใจทุกอย่างว่าเพราะอะไรเพื่อนผมถึงเป็นแบบนี้

     

     

    "อย่าไปมองมันเลยถ้าสิ่งที่แกกำลังดูอยู่มันทำให้แกแย่" ลีทึกว่าพรางเดินเข้ามานั่งข้างฮีชอล

     

     

     

    "ทึกแกเห็นสายตานั้นหรือเปล่า  เห็นรอยยิ้มนั้นหรือเปล่า รอยยิ้มที่ฉันไม่เคยได้"

     

     

     

     

    ตั้งแต่ที่ผมเข้ามานั่งรอลีทึก สายตาผมก็มองแต่เขาผมว่าผมไล่ฮันคยองกลับไปแล้วนะผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขายังอยู่ที่นี่ เขาอาจจะมานั่งรอรับผมกลับ หรือเข้ามานั่งเล่นตามประสาชายหนุ่มเพราะผับนี้ก็เป็นของเพื่อนเขา จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามมันไม่ใช่สิ่งที่ผมจะสนใจ แต่ที่ผมสนใจก็คือเด็กหนุ่มน่าตาน่ารักที่ยืนชงเหล้าอยู่หลังเคาท์เตอร์บาร์ต่างหาก ผมมองทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เขานั่งฟังเด็กนั้นพูดอะไรบางแล้วก็หัวเราะออกมา ผมอิจฉาที่เด็กคนนั้นทำให้ฮันคยองยิ้มและหัวเราะได้ ผมไม่สามารถจะทำได้เลยมีแต่จะทำให้เขาเบื่อหน่ายจนไม่อยากเข้าใกล้ซึ่งอันนั้นผมรู้ดี

     

     

     

    "แล้วนั้นมาด้วยกันหรือเปล่า แล้วทำไมไม่เรียกขึ้นมานั่งในนี้ละ"

     

     

     

    "มาด้วยกันเขาก็แค่มาส่งแต่ฉันไล่กลับไปแล้วนะไม่คิดว่าจะยังอยู่แถมยังคุยกันน่าระรื่นอีกต่างหาก" คนสวยพูดพร้อมกับตาที่ยังมองอยู่

     

     

    "แกรู้จักเด็กคนนั้นหรือเปล่า..... " ผมถามลีทึกโดยที่ไม่ต้องบอกลีทึกก็รู้ว่าผมหมายถึงใคร

     

     

     

    "อืม ฮยอกแจนะหรอนั้นนะน้องชายคังอินแต่ไม่ใช่น้องแท้ๆหรอลูกชายน้องสาวแม่ ว่างๆเลยมาช่วยงาน สองคนนั้นเขาก็พอจะสนิทกันก็เพื่อนพี่ชายนี่หน่า คุยกันตามประสาพี่ๆน้องๆ คงไม่มีอะไรมั้ง" ผมก็ไม่รู้หรอกว่าทั้งสองคนคิดกันเกินพี่น้องหรือเปล่าแต่ที่ผมพูดก็เพื่อให้ฮีชอลสบายใจ

     

     

     

     

    "นี่ว่าแต่ดื่มเยอะเหมือนกันนะแกอะ เดี๋ยวก็เมาแย่หรอกจะกลับไม่ไหวเอานะ" เขาถามเพราะเห็นขวดไวท์หมดไปกว่าครึ่งเป็นเพราะเพื่อนเขาไม่ชอบดื่มเหล้าหรือเบียร์  มีก็แต่ไวท์เท่านั้นที่เป็นเครื่องดื่มสุดโปรด จึงไม่แปลกที่เขาจะมีติดไว้ที่ร้านเตรียมไว้สำหรับฮีชอลโดยเฉพาะ

     

     

     

    "นิดหน่อยเอง  กลับไม่ไหวแกก็ไปส่งสิชวนฉันมาไม่ใช่หรอ"

     

     

    "คนที่จะไปส่งแกคือคนนั้นต่างหาก... " ลีทึกพยักหน้าไปข้างล่างที่ฮันคยองนั่งอยู่

     

     

    "ฮันคยองนะหรอ ไม่มีทางฉันบอกเขาแล้วว่าจะกลับเอง" คนสวยทำหน้าตาอย่างไม่สบอารมณ์

     

     

    "ไม่ใช่คนนั้นต่างหาก ที่ยืนอยู่กับคังอินนะเห็นหรือเปล่าดูดีสิ"

     

     

     

    "เฮ้ยนั้นมันซีวอนนี่ แกโทรบอกเขาใช่ไหมว่าฉันจะมาที่นี่"

     
    "ก็จะเป็นอะไรไปเล่ามีซีวอนอยู่ด้วย ยังงั้ยซีวอนมันก็ได้ชื่อว่าเป็นแฟนแกฉันจะได้ไม่ต้องห่วงมาก" คงจะมีแต่ผมเท่านั้นที่รู้ว่าฮีชอลกับซีวอนคบกันแบบไหน ถึงทั้งสองคนจะป่าวประกาศว่าเป็นแฟนกันตั้งแต่สมัยเรียน แต่ผมรู้ว่าคนที่ฮีชอลรักไม่ใช่ซีวอน

     

     

    "นั้นไงพากันขึ้นมานั้นแล้ว..... " ห้องVIP สำหรับที่นี่จะอยู่ที่ชั้นสองของผับภายในจะเป็นกระจกใสที่สามารถมองทั่วพับได้โดยรอบ แต่คังอินจะเปิดให้สำหรับแขกคนสำคัญเท่านั้น ซึ่งแขกส่วนใหญ่ที่จะได้เข้าห้องนี้ จะมีเพื่อนสนิท ดารานักร้องดังๆ หรือพวกนักการเมืองทั้งนั้น

     

     

     

    "ว่าไงคนสวย....จะมาที่นี่ไม่มีชวนกันเลยนะ" ชายหนุ่มตัดเพ้อคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนนั่งลงข้างๆคนสวยโดยที่ลีทึกลุกขึ้นไปนั่งข้างแฟนตัวเองเป็นที่เรียบร้อย

     

     

    เขากับฮีชอลตัดสินใจคบกันตั้งแต่อยู่มหาลัยปี4 หลังจากที่เขาได้เล่นละครด้วยกันเนื่องจากเขากับฮีชอลเป็นดาวเดือนของมหาลัยเลยได้เล่นเป็นพระเอก-นางเอก เป็นการส่งท้ายอำลาตำแหน่ง

    ฮีชอล อีทึก เรียนคณะบัญชี  ส่วน เขา ฮันคยอง กับคังอินเรียนการตลาด เขากับฮีชอลตกลงคบกันอย่างไม่จริงจังนักตอนนั้นด้วยความที่ต้องเจอกันเกือบทุกวันเพราะตอนเย็นต้องซ้อมละครกันเกือบทุกวันทำให้สนิทกันมากขึ้นและนั้นเป็นจุดเริ่มต้นให้ผมตัดสินใจคบเขาเป็นแฟน ตอนนั้นเขากับฮีชอลยังไม่มีใครก็เลยตัดสินใจคบกันแต่ถ้าหากใครเจอคนที่รักแล้วจริงๆก็สามารถเลิกกันได้ ความที่เขาเจ้าชู้นิดๆและเขาก็รู้ว่าฮีชอลไม่ได้ชอบเขาอะไรมากมาย คงต้องเลิกกันสักวัน แต่ถ้าหากต้องเลิกรากันจริงๆมันก็ทำให้เขาใจหายเพราะเขานั้นก็รักฮีชอลไม่ใช่น้อยแต่ในเมื่อฮีชอลนั้นไม่รักเขา เขาก็ไม่คิดจะรั้งตัวคนสวยให้อยู่กับเขาได้

     

     

    "ถ้าฉันไม่ชวนก็เจอนายที่นี่อยู่ดีได้ข่าวว่ามาทำเจ้าชู้แถวนี่บ่อยๆไม่ใช่หรือไง"

     

     

    "แหม..ที่รักก็ ผมก็แค่มาคลายเครียดเท่านั้นเองฮีชอลก็รู้ว่าช่วงนี้ผมงานยุ่งแค่ไหน" สรรพนามที่ชายหนุ่มเรียกร่างบางถือว่าเป็นการยอกล้อโดยที่คนฟังก็ไม่ได้สนใจมากนัก

     

     

     

    "ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่  นายจะมาบ่อยแค่ไหนก็ตามใจสิว่าแต่ทำไมไม่ชวนเพื่อนนายขึ้นมาด้วยหล่ะ"คำพูดขอฮีชอลทำให้ซีวอนหน้าเจื่อนนิดๆ แต่ก็พยายามฝืนยิ้มเมื่อคังอินเห็นสีหน้าของพื่อนเลยชิงตอบซะก่อน

     

     

    "ฮันคยองน่ะหรอมันอยากนั่งอยู่ข้างล่างฉันชวนมันแล้ว จะให้มันขึ้นมาหรือเปล่าเดี๋ยวฉันไปเรียกให้ก็ได้นะ"

     

     

    "ไม่ต้องหรอกถ้าเขาไม่อยากขึ้นมาก็ตามใจ เออนี่พรุ่งนี้นายสองคนไปงานเลี้ยงฉันด้วยนะ นายด้วยนะซีวอนไปนะ ฉันไม่รู้จักใครเลยไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะฉันไม่รู้จะทำตัวยังไง" ด้วยความที่ผมเข้ากับผู้ใหญ่ไม่เก่งและไม่ใช่พวกที่ชอบออกงานสังคมทั้งๆที่ป๋าก็ชอบชวนออกอยู่บ่อยๆโดยให้เหตุผลว่าจะได้เจอคนมากหน้าหลายตาเราจะได้ทำธุรกิจอย่างสบายแต่ผมก็พยายามปฏิเสธอยู่บ่อยครั้ง

     

     

    "ฉันกับคังอินไปอยู่แล้ว งานเปิดตัวท่านรองประธานแห่ง คิม คอร์เปอร์เรชั่น งานยักษ์อย่างนั้นเราไม่มีทางพลาดอยู่แล้วใช่ไหมเจ้าหมี" ลีทึกหันไปถามความเห็นคนข้างกาย

     

     

    "อืมหืม...ฉันกับทึกไปแน่นอนงานเพื่อนนี่หน่า"

     

     

    "สัญญาแล้วนะไม่ไปโกรธด้วย แล้วนายหล่ะซีวอนจะไปหรือเปล่าอย่างบอกนะว่าจะไม่ไป"

     

     

    "พรุ่งนี้เย็นฉันติดประชุมผู้ถือหุ้นด้วยสิ  แต่ไม่เป็นไรฉันจะไปดึกหน่อยแล้วกัน"

     

     

    "รักซีวอนจัง....ต้องมานะ" ร่างบางพูดพรางทำหน้าตาน่ารักผสมกับไวท์ที่กินเข้าไปตอนนี้พวงแก้มของฮีชอลแต้มสีแดงระเรื่อเพิ่มความมีเสน่ห์ให้กับคนพูดมากขึ้นจนทำให้ซีวอนอดมองในความน่ารักของฮีชอลไม่ได้

     

     

    "นี่ฉันกับลีทึกลงไปข้างล่างก่อนนะนายสองคนนั่งกันไปก่อนไม่อยากเป็นก้างว่ะ"

     

     

    "ซีวอนอยากดื่มอะไรหรือเปล่าเดี๋ยวให้เด็กเอาขึ้นมาให้" ลีทึกถามก่อนจะออกไป

     

     

    "ฉันเอาChamboard(เหล้าฝรั่งเศส)เหมือนเดิมแล้วกัน"

     

     

    "โอเคฉันไปนะนั่งกันตามสบาย แกอย่าดื่มให้มากนักล่ะฮีชอล"

     

     

     

     

    "อืมรู้แล้วหน่า ชิ...ขี้บ่นจริง"

     

     

     

     "ซีวอน~~~~~~ลงไปเต้นข้างล่างกันเถอะฉันอยากเต้นนะ" หลังจากที่ทั้งสองคนนั่งเติมกันสักพักฮีชอลเริ่มมึนเลยนึกอยากจะเต้นขึ้นมาแต่อีกใจก็อยากจะลงไปยั่วคนที่นั่งอยู่ข้างล่างนิดๆ

    ฮีชอลมักจะส่งสายตาจ้องมองคนที่อยู่ด้านล่างเป็นพักๆทำให้เห็นชายหนุ่มนั้นมีหญิงสาววนเวียนมาพูดคุยด้วยไม่ขาด มันสร้างความไม่พอใจให้กับร่างบางแต่เพราะความเกรงใจคนที่นั่งด้วยจึงไม่อยากจะแสดงอาการออกมา

     

     

    "ไปสิฉันก็เริ่มเบื่ออยู่เหมือนกัน"

     

     

     

    สองร่างเต้นคลอเคลียกันอยู่กลางฟอร์  ซีวอนมีคนสวยเต้นยั่วยวนอยู่ไม่ห่างสร้างความอิจฉาให้กับผู้ชายหลายคนส่วนฮีชอลได้ใกล้ชิดชายหนุ่มที่สาวๆหลายคนในผับอยากจะเข้าใกล้เพราะซีวอนเป็นที่รู้จักอย่างดีในหมู่สาวๆที่มาเที่ยวที่นี่  รวมทั้งคนคนหนึ่งด้วยที่จ้องมองทั้งสองคนอยู่ตลอดเวลา

     

     

     

    "ให้มันได้อย่างนี้สิเริ่มเมาแล้วจนได้ ฮันคยองนั่งไม่ติดเป็นที่รู้กันว่าท่าฮีชอลเมาจะเป็นเรื่องมากแค่ไหน"

     

     

     

     

     

    สิ่งที่ชายหนุ่มคิดเริ่มเกิดขึ้นเมื่อฮีชอลเริ่มคลอเคลียซีวอนมากขึ้น มือของร่างบางฉีกเสื้อของตัวเองด้วยความร้อนลุ่มของอุณหภูมิในร่างกายผสมความเมา เรืองร่างขาวของร่างบางสะท้อนกับแสงไฟในผับสร้างความหือฮาให้กับทุกคนไม่ใช่น้อย

     

     

    "ก่อเรื่องจนได้" ฮันคยองรีบเดินไปหาคนที่กำลังสนุกอยู่กับดึงร่างบางให้ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด

     

     

    "โอ๊ย....ใครว่ะคนกำลังสนุก" ฮีชอลร้องออกมาด้วยความเจ็บข้อมือจากแรงบีบ

     

     

    "ใส่ซะแล้วก็กลับกันได้แล้ว" ฮันคยองไม่สนใจเสียงร้องแต่กลับโยนเสื้อคลุมของเขาไปให้ฮีชอลใส่แทน

     

     

    "นึกว่าคราย ฮันคยองบอดี้กาดของฉานหนานเอง ปล่อยยฉานได้แล้วฉานยังไม่กลับฉานจะเต้นต่อ เต้นๆ ซีวอนอยู่ไหนมาเต็นกาน"

     

     

    "แกปล่อยให้ฮีชอลดื่มหนักขนาดนี้ได้ยังไงว่ะซีวอน" ฮันคยองหันมาต่อว่าเพื่อนตัวเอง

     

     

    "โทษว่ะ ฉันจะรู้ไหมว่าเขาจะเป็นแบบนี้"

     

     

    "เออ แกกลับเหอะว่ะเดี๋ยวฉันจะพาตัวยุ่งกลับบ้านเอง ไปฮีชอลกลับ"

     

     

    "ไม่อาวฉันไม่กลับมายุ่งกาบฉานทำไมฉันจะเต้น ฉันจะดื่มนายไปอยู่กับเด็กนายนู่นไม่ต้องมาสนใจฉาน"  เด็กที่ไหนว่ะสิ่งที่ร่างบางพูดเขาไม่เข้าใจสักนิด

     

     

    "เสียงเอะอะอะไรกัน" ลีทึกกับคังอินเดินมาดูเมื่อเห็นกลุ่มคนกลุ่มใหญ่

     

     

    "อ้าวไอ้ฮัน มีเรื่องอะไรกันว่ะ"

     

     

    "ตัวแสบนี่สิเมาแล้วก่อเรื่อง"

     

     

    "ฉันเตือนแล้วนะว่าอย่าให้เมา นายพากลับบ้านไปเหอะเดี๋ยวเกิดอาละวาดขึ้นมาอีก" อีทึกบอกเมื่อเห็นว่าฮีชอลเริ่มนิ่งลงบ้างเนื่องจากหลับไปแล้ว (เจ้เมาจนยืนหลับไปเลย)

     

     

     

    "อืม..ฉันไปล่ะนะขอโทษด้วยที่ก่อความวุ่นวาย" ตอนมาฉันแบกนายมา ตอนกลับฉันต้องมาแบกนายอีกหรอเนี๊ยะ เหมือนนายจะแกล้งฉันนะฮีชอล

     

     

     

     

    ชายหนุ่มขับรถออกมาจากผับสักพักร่างบางที่นอนอยู่ก็เริ่มขยับตัวจากความหนาวจากเครื่องปรับอากาศ

     

    "อืม หนาว~~~"     ฮันคยองเบาแอร์ลงเมื่อได้ยินเสียงบ่นจากคนที่นอนอยู่

     

     

    "ทำมาบ่นที่ตอนทำไม่รู้จักคิด ทำไมไม่รู้จักระวังตัวเลยนะฮีชอลแล้วอย่างนี้จะทิ้งนายได้ยังไง"

     

     

     

    ......................................................................................................................

     

     

    "อุ๊ยตาย   คุณฮันคุณหนูเป็นอะไรไปค่ะ" แม่บ้านตกใจที่เห็นชายหนุ่มอุ้มร่างบางเข้ามาในบ้าน

     

    "เมานะป้า ผมจะพาขึ้นไปนอนเองป้าไปนอนเถอะ อ้อป้าอย่าบอกเรื่องนี้ให้นายท่านรู้นะฮะ" ฮันคยองหันมาเตือนถ้านายใหญ่ของบ้านรู้คงเป็นเรื่องไม่ใช่น้อย

     

     

     

     

    ชายหนุ่มอุ้มร่างบางเข้ามาในห้องเดินไปที่เตียงพร้อมกับวางร่างบางลง

     

     

    "เล่นเอาหลังยอกเลยนะเนี๊ยะ ตัวหนักไม่ใช่เล่นวันนี้นายทำฉันเหนื่อยมาทั้งวันเลยนะฮีชอลฉันต้องทำยังไงกับนายดี ฉันต้องทำยังไงเพื่อให้นายพอใจฉันไม่รู้เลยจริงๆ" ฮันคยองใช้มือหนาปัดผมข้างหน้าของฮีชอลออกเพื่อที่จะได้ให้เห็นหน้าชัดๆสายตาที่เขาใช้มองร่างบางตอนนี้มันช่างอ่อนโยนต่างจากทุกครั้งน่าเสียดายคนที่กำลังหลับอยู่ไม่มีโอกาสได้เห็นมัน

     

     

    ฮันคยองลุกขึ้นเพื่อที่จะกลับไปห้องของตัวเองแต่ยังไม่ทันจะลุกก็มีมือหนึ่งกอดรั้งเอวเขาไว้

     

    "อย่าไปเลยนะคืนนี้นอนเป็นเพื่อนฉันนะฮัน" ฮีชอลกอดชายหนุ่มจากด้านหลังพร้อมฝังใบหน้าไว้กับแผ่นหลังกว้าง

     

     

    "นายเมาแล้วนอนเถอะฮีชอลมันดึกมากแล้ว" ฮันคยองพยายามจะแกะมือฮีชอลออก

     

     

    "ก็นายบอกเองไม่ใช่หรอว่าอยากให้ฉันพอใจ ฉันอยากให้นายนอนกับฉันคืนนี้นอนที่นี่กับฉันนะฮัน" 


    "นายแกล้งหลับให้ฉันอุ้มนายขึ้นมาหรอ แสบนักนะ
     


    "
    ปล่อยเถอะฮีชอลฉันไปนอนห้องฉันดีกว่า ตอนเช้าใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดี" เขาไม่รู่ว่าฮีชอลกำลังคิดอะไรอยู่ถึงอยากจะให้เขานอนด้วย ถึงแม้ว่าขาจะมานั่งเล่นนอนเล่นที่ห้องฮีชอลบ่อยแต่นั้นมันก็เป็นแค่ช่วงกลางวัน แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืนมันไม่ดีแน่ถ้าจะมีใครมารู้มาเห็นว่าเขาเข้ามานอนกับฮีชอลในห้องนี้

     

     

    "นายออกไปก่อนจะสว่างก็ได้นี่ นอนกับฉันนะ" เมื่อเห็นว่าร่างบางไม่ปล่อยเขาง่ายๆฮันคยองก็เริ่มใจอ่อนเขาไม่อยากจะขัดใจฮีชอลอีก ก็วันนี้ฮีชอลงอนเขาแทบทั้งวัน

     

     

     

    "ก็ได้งั้นนอนกันได้แล้วฉันง่วงเต็มที "

     

    ฮีชอลซุกตัวเข้ากับอกกว้างเพื่อหาความอบอุ่นแล้วหลับไปพร้อมกับรอยยิ้มที่วันนี้ฮันคยองยอมตามใจเขาช่างต่างจากอีกคนที่กว่าจะข่มตานอนได้ไม่ใช่ง่ายๆเลยทั้งๆที่ร่างกายเนื่อยเต็มทน

     

     

     

    ......................................................................................................................

     

    โฮก~~~~~ กว่าแต่ง กว่าจะพิมพ์เสร็จตั้งแต่บ่าย3จนถึงตอนนี้ก็4ทุ่มแล้ว

     เมื่อยคอมากมาย ช่วยเม้นกันเยอะๆนะ ประมาณว่าเรื่องนี้คงไม่สนุกเท่าเรื่อง เมียผมเป็นเด็ก.....  หรืออย่างไรคนเม้นน้อยจัง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×