ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MBLAQ FICTION:: 「It's Only Love」 87line.yaoi

    ลำดับตอนที่ #6 : ♥ EPISODE5

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 54


    Title :: It’s Only Love
    Author :: pastel
    Couple ::87-line (Jung Byunghee x Yang Seungho, G.O. X Seungho), etc.
    Rate :: PG



    EP 5 ครบแล้วนะคะ ^^


    “ชอลยงไปไหนแล้วล่ะ?
    !” พี่หมีผู้จัดการถามอย่างร้อนรน เมื่อครู่เขาเพิ่งจะหันไปทักทายคนขับรถที่เพิ่งจะมาถึง แต่หันมาอีกทีเจ้ามักเน่ตัวดีก็หายลับไปจากสายตาเสียแล้ว..

    “เห็นบอกว่าจะไปเอาถุงเท้าน่ะพี่ ตอนแรกจะเอามาใส่ในรถ” หัวหน้าวงที่นั่งขยับอยู่เบาะหลังสุดเอ่ยตอบในฐานะเพื่อนร่วมห้องพลางสาละวนจัดการขยับผ้าพันแผลให้สบายนิ้ว(ทีน)เล็กน้อย.. ถึงความเซ่อเมื่อวานของเขาจะไม่ได้ทำให้เกิดอะไรร้ายแรง..แต่ข้อนิ้วที่ม่วงเป็นจ้ำนั้นก็ปวดเอาการอยู่

    สารรูปเขาตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างกับลูกวงคนอื่นๆเท่าไหร่.. เริ่มจากไอ้คู่พี่น้องอีจุนชอนดุง หลังจากเมื่อวานที่สัญญาไว้ว่ามันจะไปเที่ยวกลางวัน แต่ไปทำอิท่าไหนก็ไม่รู้ พ่อเจ้าประคุณทั้งคู่ดันตามไอ้คนกร้านโลกไปเที่ยวกลางคืนเสียได้..ตอนนี้ต่างคนต่างนั่งสับปะหงก หัวเอนไปกันคนล่ะทาง ต่างกับคนต้นเรื่องที่ไม่มีท่าทีเหน็ดเหนื่อย กลับนั่งพลิกนิตยสารในมือกลับไปกลับมาจนเขาเองเห็นแล้วยังคันปากอยากจะแขวะสักประโยคสองประโยค..แบบที่ไม่เคยทำมาก่อน

    “อ่านรู้เรื่องหรอวะ” พูดเปรยๆเหมือนไม่ได้เจาะจงถึงใคร แต่หางตาเหลือบมองไปด้านซ้าย

    จองบยองฮีเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆอย่างประหลาดใจ กับความกวนอย่างไร้ที่มาและสาเหตุของลีดเดอร์

    “ก็นิดหน่อย~~~” น้ำเสียงเรียบเรื่อยอย่างจงใจกวนประสาทคนแก่เดือนกว่า

    “หึ!” รู้ทั้งรู้ว่ามันต้องกวนกลับแล้วยังจะไปยุ่งกะมันทำไมนะยางซึงโฮ?

    สะบัดหน้าพรืดหันมาหนวดปลายนิ้วบวมๆของตัวเองต่อ ก่อนจะสะดุ้ง เมื่อนิ้วเรียวๆขนๆของไอ้บ้าที่คุณก็รู้ว่าใครจิ้มมาถูกจุดพอดี

    “เจ็บมากไหมเนี่ย?”

    ไม่เจ็บมั้งไอ้ห่าน!!

    คนแก่(กว่า) สบถเพียงแค่ในใจแต่สายตาเชือดเฉือนอันเป็นเอกลักษณ์ที่ส่งไปดูจะได้ผลกว่าเยอะ เมื่ออีกฝ่ายถอยกลับไปตั้งหลักทำหน้าสงบเสงี่ยมแต่นัยน์ตายังพราวระยับอย่างขำขัน

    ท่องไว้ยางซึงโฮ ... พองหนอ ...ยุบหนอ...พองหนอ..ยุบหนอ..

    “อุ๊ยตาย น่ากลัวจัง” น้ำเสียงดัดจริตถูกส่งมาให้อย่างวอนมือวอนเท้าเหลือเกินชักจะทำให้เขายุบไม่ลง

    ก่อนเขาจะได้ประเคนหมัดสนองความรักและห่วงใยแบบทำลายสุขภาพจิตตนเองยามเช้า ต้นตอตัวปัญหาที่ทำให้รถทั้งคันไม่ได้ขยับไปไหนก็โผล่กลับมาขึ้นรถทำหน้าเอ๋อแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวตามประสา

    “มาแล้วๆ ขอโทษทีขอรับท่าน”

    “ไม่ต้องพูดมาก รีบๆขึ้นรถได้แล้ว”

    ประโยคที่ควรจะเป็นของหัวหน้าวงกลับหลุดออกมาจากปากคิมฮยองซอบ..ผู้จัดการพ่อหมีที่สุดแสนจะใจดีที่ตอนนี้จัดแจงคาดเข็มขัดนั่งบนเบาะหน้าเรียบร้อยไปแล้วเล่นเอาบังมีร์ชะงักกึกไปนิดหน่อย ไม่ต่างอะไรกับฮยองไลน์ทั้งสองคนที่เลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจ...

    “ไหนว่ามันไม่ไกลไงพี่ รถก็ไม่ติดซะหน่อย” นักร้องนำให้ความเห็น

    “ไม่ไกลก็จริง รถไม่ติดก็ใช่ แต่ท่านประธานไปนั่งรอนานแล้วเฟ่ย!

    “อ่าว...ไหงบอกว่านัดสิบโมงไง นี่เพิ่งจะเก้าโมงเองนะ” ลีดเดอร์แย้ง

    “ก็แล้วจะเปลี่ยนใจไม่ได้หรอ ..ยังมายืนเอ๋ออยู่อีก รีบๆขึ้นรถได้แล้วชอลยง จะได้รีบไป”

    ได้ยินเสียงห้าวๆของพี่หมีเดอะเกรท เจ้าเด็กนั่นถึงหลุดออกจากภวังค์เอ๋อแล้วก้าวขึ้นรถไปอย่างว่านอนสอนง่าย แล้วล้อรถก็หมุน..

    “รู้สึกเหมือนกำลังจะไปสัมภาษณ์งานเลยเนาะ”น้องเล็กชวนคุยแจ้วๆอย่างไม่มีวี่แววความเหนื่อยล้าในน้ำเสียง ต่างกับเขาที่เป็นซากศพนั่งๆเอนๆอยู่ตรงนี้

    เป็นเด็กมันก็ดีอย่างนี้ล่ะวะ กินๆ เล่นๆ นอนๆ ไปวันๆ ไม่มีปัญหาหนักอกหนักใจแบบเขานี่

    ขวางหูขวางตาไอ้หน้าแป้นๆที่ลอยไปลอยมาอยู่เสียจนอดบลัฟกลับไม่ได้

    “ยังกะแกเคยสัมภาษณ์งั้นอะ งานแรกแกยังไม่ต้องทำเลย”

    “โหยย ไรอะ ถึงผมจะไม่ได้สัมภาษณ์งานแต่..” มีรือว่าพลางทำหน้ามุ่ยอย่างขัดอกขัดใจ..น่ารักน่าถีบเต็มทีในสายตาเขา

    “แต่ไร?”

    “แต่....แต่ผมก็น่ารักนะ!”เจ้าน้องเล็กว่าพลางหันมาสบตาทำหน้าบ้องแบ๊วใส่เขาอย่างจริงจัง..แม้จะเห็นด้วยว่ามันเป็นน้องรักที่เซนทิซีฟและแสนรู้ว่าเขาหงุดหงิดตอนไหน และเขามาทำตัวไร้สาระเอนเตอร์เทนพี่ใหญ่ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา ก็ยังอดหมั่นไส้กับความมั่นใจเกินขนาดของเด็กบ้านนอกลืมต้นแอปเปิ้ล?ไม่ได้ เอื้อมมือไปขยี้หัวที่จัดทรงมาอย่างพยายามจะเรียบร้อยไม่ต้องพึ่งสไตลลิสจนยุ่งเหยิงไปหมดอย่างหมั่นเขี้ยว..แต่เจ้าตัวดีก็ไม่ได้ว่าอะไรมีเพียงหลับตาทำหน้าเคลิ้ม แต่ไม่นานก็ต้องร้องจ๊าก..เมื่อรู้สึกถึงแรงทีนใครบางคนถีบมาจากด้านหลังจนร่วงไปกองกับพื้น

    “ผมทำไรผิดอะเนี่ย” ชอลยงเบ้ปากหันไปโอดครวญกับพี่ชายคนรองที่นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้หลบสายตาที่จ้องมองมาไม่กระพริบ...ไม่ใช่สายตาผู้เสียหาย แต่เป็นสายตาหัวหน้าวงมากกว่า

    ไม่ได้มองอย่างสงสัย แต่มองอย่างละเหี่ย..ละเหี่ยว่ามุกแกล้งคนแต่ละมุกมันชักจะเข้าข่ายมุกควายเข้าไปมากขึ้นๆทุกวัน...

    “ผิดที่แกน่าแกล้งเฉยๆไง” พี่หนวดหันมายิ้มกริ่มทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป เด็กบ้านนอกมองหน้าคนพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร ขยับก้นดุกดิกเข้าไปชิดเบาะด้านในจัดแจงวางหมอนเสร็จสรรพกะจะของีบบ้างซะหน่อย

    แม้ตาจะปิดลงครึ่งแล้ว แต่ปากงอนๆนั้นก็ขยับมุบมิบ..

    .
    .
    .

    “...คนแก่นี่เข้าใจยากจังวะ..”

     

    .
    .
    บุคคลที่ถูกอ้างถึงทั้งคู่หันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย..และเป็นครั้งแรก ที่หัวหน้าวงอยากจะกอดเมนโวคอลแน่นๆ....

     

    ........แล้วประสานร่าง กระโดดถีบขาคู่ ส่งน้องเล็กและลูกสมุนในปากไปเกิดใหม่ซะ!!

    ซึงโฮยิ้มเหี้ยม(?) ด้วยความเอ็นดู(?) สุดหัวใจ

    “ถึงจะงั้นก็เหอะ.. หูฉันยังไม่ตึงเท่าไหร่เลย”

    หัวกลมๆที่พิงกับกระจกด้านข้างรถผงกขึ้นมาราวทำเอาเขานึกถึงอาการรีเฟลกซ์ที่เรียนในคาบชีวะสมัยมัธยมเมื่อสักพัก(ใหญ่ๆ)มาแล้ว

    พลับสบสายตากับแววตาโหดๆบนใบหน้าที่ยังยิ้มละไมอยู่ชอลยงก็รู้สึกหนาวซู่ขึ้นมาไม่ได้..พอหันเยื้องไปด้านหลัง ก็คลับคล้ายคลับคลาจะเห็นนิ้วเรียวๆขนๆของคนที่รู้ว่าใคร...

    มองๆไปเหมือนเขากำลังเผชิญหน้ากับโวลเดอร์มอร์โดยมีนากินีประกบหลังไม่มีผิด..ไม่เป็นมักเน่ไม่รู้หรอก...โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีฮยองไลน์ที่หาเรื่องแกล้งได้ตลอดเวลา!

    เสียงโหวกเหวกโวยวายลั่นไปทั้งรถแบบไม่ใช่เรื่องไม่ปกติ ? อีชางซอนที่นอนอยู่ข้างหลังเพียงหรี่ตามองแบบสะลึมสะลือ ..ส่วนพ่อน้องรักนั้นไม่ต้องพูดถึง..ถ้าไม่หายใจคงได้คิดว่าตายไปแล้ว

    เหตุการณ์ดำเนินต่อไปแบบผิดแผนบังชอลยง..แต่เข้าทางพี่ๆเสียหมด..

    ซึงโฮเองก็ไม่รู้ตัวว่า..เขาหันไปหัวเราะกับเพื่อนสนิทตัวเองแบบไร้สิ่งรบกวนใจเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน..

    .
    .

    ซึงโฮเดินตามหลังเหล่าแบลคกี้เดินลงจากรถไปข้าตัวอาคารด้วยท่าทางร่าเริงสดใส แม้แต่ไอ้เจ้าสองพี่น้องที่นอนหลับคอพับคออ่อนกันมาในรถก็เดินคุยไปหัวเราะไปเสียงดังลั่นกันกระหนุงกระหนิงหยั่งกะเด็กมัธยม ไม่ได้มีร่องรอยของชายโสด(โฉด) ขี้เมาแฮงโอเวอร์เมื่อครู่เลยแม้แต่น้อย.. ถึงเจ้าตัวจะพร้อมเพรียงกันหาแว่นดำมาใส่ปกปิดรอยคล้ำใต้ตาที่โผล่ขึ้นมาแข่งกับของเขา ไม่ได้ต่างอะไรมากกับเจ้าชาวนาบังที่สัญชาตญาณเก่าๆยังโผล่ออกมาให้เห็น สายตานั้นสอดส่ายสำรวจไปทั่วทุกมุมของห้องโถงอาคารขนาดใหญ่ ต่างกับไอ้ขี้เก๊กบยองฮีที่เดินเริ่ดหน้าเชิดราวกับเห็นของพวกนี้เป็นเรื่องปกติ.. หรือมันจะเห็นของพวกนี้ปกติจริงๆเสียก็ไม่รู้ เพราะถ้าจะว่ากันตามจริง มันเป็นรุ่นพี่พวกเขาอีกสี่คนในวงการ

    “โอฮาโยโกะไซมัสส~~”

    ผู้จัดการร่างใหญ่โค้งทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่น ก่อนจะทำตาโตแล้วเริ่มคุยจ้อกับตัวแทนบริษัทที่เดินมาต้อนรับ ตอนแรกซึงโฮยังตกใจว่าทำไมพี่หมีของพวกเขาเป็นผู้จัดการมือโปรขนาดพูดภาษาญี่ปุ่นได้เยอะขนาดนี้ แต่เมื่อสาวเท้าเข้าไปใกล้ก็พอจะจับใจความได้เป็นภาษาเกาหลีที่เรียบรื่นเหมือนเจ้าของภาษาตัวจริงมาพูด..

    เจ้าของภาษางั้นหรอ..

    แล้วพอเงยหน้ามองให้ชัด ๆ...

    ไม่ผิด ไม่ผิดแน่ ชายหนุ่มคนเมื่อวานที่เห็นพฤติกรรมอันน่าอับอายของเขากำลังยืนยิ้มหวานจนดวงตาเรียวใต้กรอบแว่นนั้นเล็กเหลือเป็นขีดมาให้อย่างอารมณ์ดี.. เช่นเคย..

     

    เวรแล้วไหมล่ะ!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×