ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MBLAQ FICTION:: 「It's Only Love」 87line.yaoi

    ลำดับตอนที่ #5 : ♥ EPISODE4

    • อัปเดตล่าสุด 21 ส.ค. 54


    Title :: It’s Only Love
    Author :: pastel
    Couple ::87line, still undecided!
    Rate :: PG (average-คำหยาบเล็กน้อยถึงปานกลาง)

    Ep4

    ลม หนาวต้นเดือนพฤศจิกายนของกรุงโตเกียวราวกับจะทักทายเขาด้วยการพัดเอาความ เย็นเข้ามาเฉียดผิวแก้ม..ชายหนุ่มกระชับเสื้อโค้ตสีดำสนิทที่ใส่อยู่เข้ามา อีกนิด ก่อนจะก้าวท้าวยาวๆเดินไปตามถนนที่ตัดผ่านหน้าโรงแรมที่เพิ่งเดินออกมาเมื่อ ครู่มีรถยนต์น้อยคัน เนื่องด้วยชาวกรุงส่วนใหญ่เลือกใช้บริการรถไฟฟ้าแทน

    ยาง ซึงโฮเดินทอดน่องไปตามทางช้าๆ กับบรรยากาศแสนจะน่าผ่อนคลาย .. ท้องฟ้าสีขาวโพลนราวกับจะส่งสัญญาณว่าพื้นดินข้างล่างก็จะกลายเป็นสีเดียว กันเมื่อหิมะแรกโปรยปรายลงมาในอีกไม่ช้าไม่นาน ตึกรามบ้านช่องดูเป็นระเบียบเรียบร้อยสมคำล่ำลือ และที่สำคัญ ผู้คนที่เดินสวนกันไปมาที่นี่ไม่มีท่าทีว่าจะรู้จักเขาสักคน.........มันคง เป็นวันที่ดีสำหรับเขามากๆถ้าไม่มีเรื่องอื่นๆมารบกวนใจ

    ชายหนุ่ม หยุดยืนอยู่ครู่หนึ่งอย่างลังเลใจด้วยไม่รู้จะว่ามุ่งหน้าไปที่ไหนดี ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นสวนสาธารณะเล็กๆอยู่ห่างออกไปไม่มาก มองเห็นได้ชัดเจนจากทางเข้าโรงแรมโดยเยื้องออกไปทางซ้าย...เขายิ้มอย่าง ดีใจ..

    ...ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเวลาว่างๆ ยางซึงโฮชอบไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะอยู่แล้ว คราวนี้จะได้มาลองสวนสาธารณะญี่ปุ่นดูบ้าง..

    เดิน หน้าต่อพลางถอนหายใจราวกับจะสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปก่อนจะควักโทรศัพท์คู่ กายและคู่ใจที่เปิดโรมมิ่งเอาไว้เรียบร้อยขึ้นมากดๆอย่างคล่องแคล่วสมกับ เป็นเจ้าพ่อเทคโนโลยี

    ---ถึงญี่ปุ่น เช็คอินเรียบร้อยแล้วครับ---

    นิ้ว ที่กำลังจะกดส่งข้อความไปให้แม่ และพี่จีฮุนชะงักไปครู่ เขาตัดสินใจส่งข้อความไปให้ท่านประธาน แล้วพิมพ์ข้อความต่อไปอีกหน่อย.....

    ---แม่ทำอะไรอยู่?---

    ไม่ทันจะครบเดินพ้นช่วงมุมตึก มือถือเขาก็ดังขึ้นมาเนื่องด้วยมีเมสเสจที่เรียกเก็บเงินปลายทาง(?)เข้ามา

    ---เป็นอะไรหรือเปล่าซึงโฮ อยู่ๆมาถามว่าแม่ทำอะไร กลุ้มใจเรื่องอะไรหรอ---

    รู้ดีสมกับคนเป็นแม่จริงๆ...

    ---เปล่า...ผมแค่เบื่อๆ—

    ....

    ---เรื่องเพื่อนหรือเปล่า?---

    ถ้าไม่แม่เขาเดาแม่นเหลือเชื่อก็คงมีตาทิพย์...ให้ตายสิ คุณนายบ้านนี้...

    ---แม่รู้ได้ไงเนี่ย....

    ไม่สิ ถ้าเขียนไปอย่างนั้นแสดงว่ายอมรับกลายๆ ...

    ---ทำไมแม่ว่างั้นล่ะ?---

    ..

    ---ก็ถ้าเป็นเรื่องอื่นแกก็ไปปรึกษาเพื่อนแล้วน่ะสิ!---

    จริงของแม่.. ข้อความที่ทำให้เขาอยากขำและกุมขมับไปในเวลาเดียวกัน

    ใบ หน้าที่เมื่อครู่หมองเหมือนมีเมฆดำลอยอยู่บนหัวยิ้มออกมาน้อยๆอยู่คนเดียว มือก็จิ้มมือถือจึกๆโดยไม่ได้ดูทางข้างหน้าอย่างที่ควรจะเป็น...เพราะถ้าดู คงจะรู้ว่ามีหัวดับเพลิงสีแดงจ้าตั้งอยู่อย่างถ้าไม่เรียกเด่นก็ไม่รุ้ว่า ต้องเรียกอะไรอีก..แล้วก่อนที่หัวหน้าวงเอ็มแบลคจะรู้ตัวว่าอะไรเป็นอะไรและ ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างที่เขาทำมาตลอด...

    “เชรี่ยย…!” สบถออกมาเป็นภาษาเกาหลีแบบเอาให้แน่ใจว่าสุภาพต่อหูคนญี่ปุ่นที่เดินผ่านไป ผ่านมาพลางกระโดดเหย็งๆด้วยความเจ็บปวดหัวแม่เท้าที่ถลาเข้าไปจูบน้องหัวดับ เพลิงเมื่อกี้แบบเต็ม ๆ..

    ให้ตายเถอะ.. เท้ามาเหยียบบนหมู่เกาะสวรรค์บ้านเกิดของเทคโนโลยีต่างๆได้ไม่เท่าไหร่ก็ถึง คราวซวยเจ็บตัวไปแล้วสองรอบถ้วน หรือเขาจะต้องสาปก็ไม่รู้แฮะ!!

    เหลือบ สายแลขวาให้แน่ใจว่าไม่มีแมวที่ไหนมาเห็นเรื่องที่เขาทำเสล่อเอาไว้ ..ก่อนจะแอบถอนหายใจอย่างโล่งเมื่อพี่น้องแดนปลาดิบที่เดินผ่านไปผ่านมา อย่างรวดเร็วเป็นปกติ..สมกับที่พี่จีฮุนบอกเอาไว้ว่าคนญี่ปุ่นไม่สนใจเรื่อง ชาวบ้าน..จะมีก็แต่..

    “หึๆ..” เสียงทุ้มดังมาจากที่ใกล้ๆกำลังหัวเราะ.. ซึ่งถ้าหูเขาฟังไม่ผิด ไอ้ใกล้ๆที่ว่านั่นน่าจะอยู่แค่ข้างหลังเขานี่เอง..

    “คนเกาหลีหรอครับ?” ประโยคคำถามสั้นๆถูกส่งมาให้พร้อมกับรอยยิ้มเป็นมิตร..แฝงความเอ็นดู..แน่นอนว่าในภาษาเกาหลี..

    ชาย หนุ่มตรงหน้าดูท่าทางจะแก่กว่าเขาไม่เกินสามปี ซึ่งอีกฝ่ายก็น่าจะคิดแบบเขา ดูจากแล้วเหมือนพี่ชายกำลังมองน้องอย่างเอ็นดูไม่มีผิด แต่ไม่น่าใช่แบบคู่เขากับซึงฮุน.. รายนั้นถูกพี่ชายอย่างเขาเลี้ยงมาด้วยลำแข้ง....ใบหน้าที่กำลังยิ้มจนตาที่ ล้อมด้วยกรอบแว่นหยีเล็กเป็นรูปสระอิแบบที่น่าจะทำเป็นประจำนั้นดูออกว่า เป็นคนอัธยาศัยดี....มาก.....ดูๆไปก็ไม่เข้ากับริมฝีปากบางเฉียบที่เสริมให้ เครื่องหน้านั้นดูเข้มงวดขึ้นมาหน่อย..ร่างสูงอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตทับด้วย เสื้อนอก ดูเผินๆแล้วก็ไม่ต่างกับพนักงานบริษัทที่เดินไปเดินมาแถวนี้... แต่โดยรวมแล้วเขาเป็นคนดูดีใช้ได้..

    .....และที่สำคัญ..ท่าทางจะไม่รู้จักวงเอ็มแบลคเลยแม้แต่นิดเดียว..แววตาจริงใจบอกอย่างนั้น..

    “ใช่ แล้วครับ..สวัสดีครับ” พอเก็บรายละเอียดของคนตรงหน้าใส่สมองพร้อมประมวลผลเสร็จสรพพราวกับเป็น โปรเซสเซอร์อัจฉริยะของโน้ตบุ๊คเครื่องโปรดในครอบครองแล้ว ซึงโฮก็โค้งทักทายน้อยๆอย่างมีมารยาทสมกับเป็นคุณชายยางโชแปง..

    “เมื่อกี้ ไม่เป็นไรนะ?” อีกฝ่ายถามอย่างมีน้ำใจ พลางส่งสายตาไปทางรองเท้ากีฬาแบรนด์ดังที่เพิ่งสัมผัสเหล็กหนักๆไปเมื่อกี้ ด้วยความเป็นห่วง

    “ไม่เป็นอะไรมากหรอกฮะ ผมคงซุ่มซ่ามเอง” ซึงโฮยิ้มแหยๆกลับ

    “ไม่ เป็นอะไรก็ดีแล้ว..งั้นผมขอตัวก่อนนะ ไม่งั้นต้องได้ไปทำงานสายแน่” ชายหนุ่มตรงหน้าพูดติดตลก..ก่อนจะยิ้มแล้วผงกหัวให้เป็นเชิงลา..ซึงโฮก็ได้ แต่ทำอย่างเดียวกัน แล้วมองตามร่างสูงที่เดินจากไปแบบงงๆ กับชีวิตเล็กน้อย....เมื่อกี้เขาเพิ่งเจอคนเกาหลีในญี่ปุ่น.. แถมยังเป็นตอนที่เขากำลังดูสภาพย่ำแย่อีกต่างหาก..

    โชคดียิ่งกว่าอะไรที่เขาคนนั้นไม่รู้จักเอ็มแบลคล่ะนะ!

    เท้า ที่เจ็บเมื่อกี้อยู่ก็ค่อยยังชั่วลงแล้ว..แต่ตอนกลับโรงแรมอาจจะต้องไปดูอีก ทีว่ามันมีห้อเลือดอะไรตรงไหนหรือเปล่า หวังว่าคงไม่มีอะไรไปกระทบกระเทือนตอนเต้นซะละนะ..

    ที่แน่ๆยางซึงโฮ ให้สัญญากับตัวเองไปแล้วว่าวันหน้าวันหลังเขาจะไม่เสล่อเดินไปจิ้มมือถือไป อย่างที่ทำเมื่อกี้อีกแล้ว.. ถ้ามีครั้งหน้าอาจจะมีอับอายกว่านี้พันเท่าก็เป็นได้ใครจะไปรู้?

    ก้าว ยาวๆอีกไม่กี่ก้าวก็มาถึงที่หมาย...สวนสาธารณะขนาดเล็กที่ดูเงียบสงบไร้ผู้ คนดูแห้งแล้วด้วยใบไม้เพิ่งจะผลัดใบ รอวันจะผลิบานขึ้นมาใหม่.. ซึงโฮค่อยๆนั่งลงบนม้านั่งที่ทำจากเหล็กแถวนั้น..สัมผัสเย็นเฉียบแล่นขึ้นมา อย่างที่คาดเอาไว้.. มือเรียวหยิบโทรศัพท์ที่เพิ่งจะพาเขาซวยเมื่อกี๊กะว่าจะส่งเมสเสจที่กำลัง เขียนหาแม่อยู่เมื่อครู่ให้จบ หากแต่เสียงริงโทนเรียบง่ายดังขึ้นพร้อมๆกับที่หน้าแสดงรูปใครบางคน คนที่เขาเพิ่งเดินหนีมาเมื่อกี๊นั้นแหละ..

    ซึงโฮถอนหายใจเฮือกสมกับฉายาคุณปู่ยางก่อนจะกดปุ่มรับ

    “ว่า?”

    “นายไปอยู่ไหนเนี่ย รีบๆกลับมาได้แล้ว” ยังไม่ทันจะสิ้นเสียงตอบรับ ปลายสายก็พ่นออกมาอย่างรวดเร็วไม่ได้มีเกรงใจ.. หัวหน้าวงทำ

    หน้าบู้ใส่โทรศัพท์ก่อนจะกรอกเสียงลงไปเนือยๆ

    “ฉันเพิ่งออกมาไม่ถึงชั่วโมง ก็ไหนว่าวันนี้ไม่มีอะไรทำไม่ใช่หรอ อยากทำอะไรก็ทำไปดิ”

    “ก็ พี่ฮยองซอบอะดิ พอรู้ว่านายออกไปข้างนอกคนเดียวก็โวยวายใหญ่เลย กลัวนายจะโดนใครลากไปนะสิ” จองบยองฮีพูดเชิงเย้าแหย่เต็มที่หากแต่อีกคนกลับรู้สึกหงุดหงิดแบบแปลกๆ

    “ไม่เห็นต้องเดือดร้อนอะไรเลย ฉันรู้น่าว่าอะไรควรอะไรไม่ควรทำ ใครจะเหมือนนายอะ ตะลอนๆไปทั่วไอ้ย่านเที่ยวกลางคืนเนี่ย เหอะ”

    เสียง หัวเราะอย่างอารมณ์ดีกับคำประชดประชันของเขาฟังดูน่าหมั่นไส้กว่าเดิมในเวลา นี้..ซึงโฮตั้งท่าจะกดตัดสายแต่ราวกับอีกคนจะรู้ รีบชิงพูดขึ้นมาก่อน

    “แล้วนายอยู่ที่ไหนอะ”

    “เดินออกมาหน้าโรงแรมแล้วจะเห็น”

    ชั่ว อึดใจเดียวเขาก็เห็นร่างสูงที่ตัวก้าวออกจากประตูโรงแรมมายืนมองซ้ายมอง ขวา...ก่อนจะหันมาเจอเขา..ใช้เวลาน้อยกว่าที่คิด....เจ้าตัวโบกมือพลางยิ้ม กวนให้เหมือนทุกครั้ง

    หยั่งกับมันมีเรดาร์ติดตามตัวเขาอย่างไงอย่าง งั้น..ซึงโฮไม่แปลกใจเท่าไหร่..เพราะเวลามีงานนอกสถานที่ ก็เป็นนิสัยเขาที่ชอบออกมาเดินเล่นคนเดียวบ่อยๆ แล้วก็มีเจ้านี่ตามมาเจอเสียทุกครั้งไป..มันรู้หมดทุกอย่างว่าที่แบบไหนที่ เขาชอบไป และไปทำอะไรต่างๆนาๆ มันน่ะแสนรู้ยิ่งกว่าสุนัขตำรวจเสียอีก...


    ดวงตากลมโตวูบไหวเล็กน้อยเมื่อคิดถึงเรื่องนี้..


    ....ยางซึงโฮกับจองบยองฮีสนิทกันมากจริงๆนั่นแหละ..


    และ เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าความรู้สึกแปลกๆที่เกิดกับเขาในระยะหลังๆนี่คือ อะไร.. แต่เขาไม่อยากให้เรื่องแบบนี้มาทำลายความสัมพันธ์ที่มีกันมาอย่างยาวนาน...


    เขาควรจะเก็บมันไปก่อน..ตัดมันไปก่อน..

    หวังแค่ว่ามันจะให้ความร่วมมือ ไม่มากวนป้วนเปี้ยนให้วุ่นวายใจอย่างที่มักจะทำอยู่ตอนนี้!..



    แต่จะทำอย่างไรได้ล่ะ..แค่มองรอยยิ้มอันแสนคุ้นเคยนั่นเขาก็รู้สึกยอมแพ้เสียแล้ว..



    TBC
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×