ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :: SECRET :: [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #3 : Secret N°2: Sweet Intoxication

    • อัปเดตล่าสุด 12 ต.ค. 54


    Secret N°2: Sweet Intoxication

    เขามายืนอยู่หน้าคลับที่ชื่อลา ซิต้าจนได้..ด้วยเหตุผลที่บอกกับตัวเองว่าอย่างไรเสียเขาก็คงไม่มีอะไรดีกว่านี่ทำอยู่แล้ว..แม้ลึกๆจะรู้ดีว่าไม่ใช่ เขาก็แค่อยากจะมาเห็นใครบางคนเท่านั้นแหละ

    Kara’s Flower

    เบลคอ่านป้ายโปสเตอร์รูปวงของอดัมที่แปะอยู่หน้าคลับที่คนเยอะกว่าที่เขาคิด..และยิ่งส่วนมากเป็นผู้หญิง หมอนั่นคงจะเสน่ห์แรงไม่เบา..

    ร่างสูงยื่นบัตรที่ได้มาเมื่อกลางวันให้บาวน์เซอร์ผิวดำหนึ่งในสองคนที่ตัวใหญ่พอๆกับเขา แล้วแทรกตัวเข้าไปก่อนฝูงคนที่ยืนต่อแถวยาวออกไปเมื่อถูกเปิดทางให้..

    แสงไฟสลัวฉายให้เห็นภายในร้าน สีส้มของผนังก่ออิฐอย่างเก๋ให้ความรู้สึกรุ่มร้อน แต่สัมผัสของมันกลับให้ความเยือกเย็น..โต๊ะเก้าอี้เหลืออยู่ไม่กี่ตัวคาดว่าถูกเก็บออกไปเผื่อเพิ่มพื้นที่ยืน บวกกับเก้าอี้เคาน์เตอร์ที่บาร์ทำให้มีที่นั่งดื่มเพียงไม่กี่ที่ พื้นทีอีกมุมหนึ่งที่เริ่มมีคนเข้าไปจับจองบริเวณเป็นเวทีกึ่งเล็กกึ่งใหญ่ ระเกะระกะไปด้วยสายไฟ ลำโพง แอมป์และอีกสารพัดเครื่องดนตรีอย่างกีตาร์ คีย์บอร์ด เบส กลองชุด และขาตั้งไมค์ที่อยู่หน้าสุด..

    นั่นสินะ..เขาไม่ได้ถามเสียด้วยว่าอดัมทำหน้าที่อะไรในวง..

    ชายหนุ่มหันหลังกลับไปที่บาร์..ไปหาของโปรดของบ้านนอกคอทองแดงของเขาอย่างวิสกี้มาจิบก่อนที่โชว์จะเริ่ม

    “เมคเกอร์”

    “สเตรท?” บาร์เทนเดอร์ถาม

    ร่างสูงพยักหน้า .. ก่อนจะนั่งมองเวทีจากเคาน์เตอร์ ไม่นานนักก็มีผู้หญิงสาวผมบลอนด์อีกคนเข้ามาสั่งเครื่องดื่ม..เธอยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร

    “มาที่นี่ครั้งแรกหรอคะ?” เธอถาม หลังจากสั่งมาการิต้า

    “ครับ.. คนเยอะนะ” เขาแกล้งเปรย

    “จริงๆแล้วคนไม่เยอะมากขนาดนี้หรอกคุณ ที่เยอะเนี่ยก็คนมาฟังเพลงส่วนหนึ่งน่ะ”

    “แสดงว่าคงเล่นดีสินะ”

    “แหม ถ้าพูดว่าดีก็อาจจะเป็นการชมแฟนตัวเอง..” เจ้าหล่อนที่เขามารู้ทีหลังว่าชื่อเจนหัวเราะเสียงใส หรือแฟนที่เธอว่าคืออดัม?

    “แฟนฉันเป็นมือกีตาร์ของวงนี้เองแหละค่ะ อ๊ะ นั่นไง ออกมาแล้ว” หญิงสาวโบกไม้โบกมือให้หนุ่มผมยาวสีทองสว่างไม่แพ้แฟนสาวที่เพิ่งเดินออกมาจากหลังเวที..แม้จะไม่ทันเห็นหน้า แต่แน่นอนว่าไม่ใช่อีกคนที่เขารู้จัก

    และไม่กี่อึดใจ..สมาชิกที่เหลือก็เดินตามกันออกมา ฝูงชนเริ่มส่งเสียงจ้อกแจ้กด้วยความตื่นเต้น..

    คนที่เขาเพิ่งจะเจอเมื่อกลางวันตอนนี้อยู่ในเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์สีเข้ม กอปรกับเส้นผมตัดสั้นยุ่งๆโทนเดียวกันทำให้ผิวที่ดูขาวนั้นเกือบจะซีด แต่ดวงตาสีน้ำตาลทองที่ดูลึกลับนั้นทำให้ชายหนุ่มดูมีเสน่ห์ท่ามกลางแสงไฟ.. ไม่สิ น่าจะใช้คำว่าพลังมากกว่า.. พลังที่สะกดคนดูได้

    ทั้งห้าคนเริ่มซาวด์เช็คกันอีกเล็กน้อย ก่อนที่นักร้องนำ... ซึ่งเขาเพิ่งจะรู้เดี๋ยวนั้นเองว่าเป็นอดัม จะกล่าวเปิดโชว์เล็กน้อย

    “ว่าไงทุกคน?” เพียงเสียงนั้นส่งผ่านไมค์ออกไปดังที่ลำโพง...เสียงพูดคุยเมื่อครู่กลับเงียบหายไป..

    ..ทุกคนกำลังตั้งใจฟัง.. หากแต่ศาสดา(?)ของพวกเขาไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรอีก .. ดวงตาสีเข้มลึกวาววับเหมือนลูกปัดนั้นกวาดมองไปทั้งบริเวณผู้ชม สบตากับทุกคน ไล่มาถึงแถวหลัง..มาหยุดลงที่เขา..

    ประกายวิบวับในดวงตานั่นอีกแล้ว.. เบลคยิ้มมุมปากให้เป็นเชิงทักทาย... อายคอนแทคท์ที่มีเพียงสองคนรับรู้..

    แล้วนักร้องนำบนเวลาเพียงยิ้มกริ่มจนเห็นลักยิ้มที่สองข้างแก้ม.. มันไม่ได้ดูน่ารักแม้แต่น้อย แต่มันดู..ชั่วร้าย เหมือนรอยยิ้มของแม่มดหมอผีที่กำลังจะร่ายคำสาป.. ก่อนจะดีดนิ้ว แล้วเสียงเพลงก็เริ่มบรรเลง หลั่งไหลราวกับสายน้ำ..

    จังหวะกลองกึ่มๆแทรกกับเมโลดี้คีย์บอร์ดที่ทำให้เขายิ้มกว้างขึ้นไปอีกด้วยความโล่งใจ.. แม้จะคาดคะเนจากการแต่งกายของผู้คนที่มาร่วมในวันนี้ว่าคงไม่ใช่พวกอีโมที่มาฟังเพลงสกรีมโมถึงความเจ็บปวดทรมาน..เพราะใช่.. มันจะทรมานถึงหูเขามากกว่าน่ะสิ

    เครื่องดนตรีทุกชิ้นที่ส่งเสียงสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกันออกมาเป็นจังหวะป๊อบร็อกพอให้โยกได้ จนกระทั่งน้ำเสียงหวานแหลมนั่นขับขานออกมาตามท่วงทำนอง..มือหนาที่กำลังหมุนแก้ววิสกี้อุ่นๆสะดุด ก่อนจะหยุดลง...พ่อมดนั่นกำลังสะกดเขาด้วยเสียงเพลงสินะ..

    โทนเสียงออกสูงนั้นเป็นหนึ่งในเสียงที่มีเอกลักษณ์มากที่สุดเท่าที่เขาเคยฟังมา..น้ำเสียงที่ไร้อารมณ์พอๆกับหน้าตาไม่ได้ฟังดูน่าเบื่อน่ารำคาญ เพราะมันเต็มไปด้วยการหยอกเย้าและล้อเลียน.. เหมือนราชสีห์กำลังแกล้งตะปบเหยื่อเพียงเบาๆ เจ็บนิดหน่อย แต่ไม่ถึงกับตาย..แต่แม้จะได้โอกาส ลูกกวางน้อยทั้งหลายก็ไม่ได้วิ่งหนี กลับนอนรอรับการขย้ำอย่างเต็มใจ..

    และเบลคก็เข้าใจเหตุผลทั้งหมดแล้วว่าทำไม..

    เพียงแค่เขาอาจจะไม่รู้ตัว..ว่าตัวเองก็กลายเป็นหนึ่งในลูกกวางเหล่านั้นด้วย..ดวงตาสีฟ้าจับจ้องมองไปแค่นักร้องนำที่เคลื่อนไหวไปมาบนเวที  บางเพลงก็ไปหยิบกีตาร์ไฟฟ้าสีแดงที่วางอยู่ใกล้ๆมาลีด เล่นกับคนดู กับเพื่อนร่วมวง.. บางครั้งดวงตาคู่นั้นก็หันมามองเขา... ไม่สิ..ตรึงเขาเอาไว้..สมาธิทั้งหมดของชายหนุ่มไปอยู่ที่เวที ราวกับถูกสะกดจิต แม้แก้วบรรจุของเหลวสีทองอำพันที่วางอยู่ตรงหน้าก็ไม่ได้พร่องลงไปแม้เพียงนิด

    ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่ แต่เขาเดาว่านานพอสมควร..จนเสียงดนตรีเว้นช่วงลง แล้วเขาก็ได้ยินเสียงอดัมทักทายคนดูผ่านลำโพงอีกครั้ง

    “สนุกกันไหมทุกคน?”

    แน่นอนว่าฝูงชนร้องเชียร์ ชายหนุ่มบนเวทียิ้มรับ ก่อนจะกล่าวต่อ..

    “เพลงสุดท้ายนี้ผมขอมอบให้เพื่อนใหม่จากแดนไกลของผม..”

    เบลคยิ้มขำกับลักษณะการพูดอันล่องลอยของอีกคน..ที่ไม่แม้แต่จะหันมามองทางนี้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังมั่นใจว่าเพื่อนคนนั้นคงไม่ใช่ใครไปได้อีก

    คำว่าเพื่อนจากแดนไกลของอดัมก็แปลก..มันฟังดูเหมือนมาจากคนละฟากของมหาสมุทรชอบกล.. แต่จะว่าไปก็ไม่ผิด เมื่อที่ๆเขาจากมาเวลาเร็วกว่าที่แอลเอตั้งสองชั่วโมง!

    เปลือกตาบางหลุบต่ำ ราวกับจะให้สัญญาณเพื่อนร่วมวง ...เสียงคีย์บอร์ดบรรเลงตัวโน้ตแผ่วเบาเหมือนหยดน้ำตกกระทบพื้นตามมาด้วยกีตาร์ในโน้ตไมเนอร์เปลี่ยนบรรยากาศสนุกสนานคึกคักเมื่อครู่ให้เยือกเย็นลง เสียงกลองให้จังหวะประคองทำนองอันเรียบเรื่อย..ก่อนเนื้อเพลงจะถูกขับขาน

    Watch the sunrise

    Say your goodbyes

    Off we go

    Some conversation

    No contemplation

    Hit the road

    ชายหนุ่มเจ้าของตำแหน่งนักร้องนำโยกตัวไปมาน้อยๆตามทำนอง มือเรียวกระชับขาตั้งไมค์สีเงินวาววับเข้ามาใกล้ตัวกว่าเดิม..ผู้ชมเงียบเสียงลงกว่าเคย..

    Car overheats

    Jump out of my seat

    On the side of the highway baby

    Our road is long

    Your hold is strong

    Please don't ever let go oh no

    น้ำเสียงสูงแหลมขึ้นแตะโน้ตทุกตัวได้อย่างไร้ที่ติ สลับกับเสียงหอบหายใจหนัก ๆ.. แปลก..ที่เมื่อเห็นใบหน้าที่หลับตาพริ้มใต้แสงสีส้มจัดของสปอตไลท์บนเวที เบลคพูดได้เต็มปากความปั่นป่วนบางอย่างกำลังก่อมวลขึ้นในตัว..

    ใช่.. เขากำลังเกิดอารมณ์..มากเสียด้วย..มากเสียจนเห็นภาพ จินตนาการว่าน้ำเสียงหวานแหลมกระชั้นด้วยอากาศหอบหายใจหนักนั้นเกิดขึ้นเพราะร่างที่กำลังเคลื่อนไหวนั้นเสียดสีกับตัวเขาแทนที่จะเป็นแท่งเหล็กแข็งทื่อและเย็นเฉียบที่ทำหน้าที่ขยายเสียงนั่น

    I know I don’t know you

    But I want you so bad

    Everyone has a secret

    But can they keep it

    Oh no they can’t

    เสียงเอื้อนอ่อนอ่อยลงอย่างจงใจเมื่อร้องท่อนนี้ ดวงตาที่ปิดสนิทเมื่อครู่หันกลับมาจ้องเขาโดยไม่ละไปไหน..และถ้าแสงสลัวนั่นไม่ได้หลอกตา..คราวนี้มันร้อนแรงเปี่ยมไปด้วยอารมณ์และความปราถนา...ร่างสูงพอจะเข้าใจความคิดของอีกฝ่าย..ว่าคนแปลกหน้าในเนื้อเพลงน่ะ.. ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากเขา

    Driving fast now

    Don't think I know how to go slow

    Where you at now

    I feel around

    There you are

    Cool these engines

    Calm these jets

    I ask you how hot can it get

    And as you wipe off beads of sweat

    Slowly you say "I'm not there yet"

    เนื้อเพลงอันวาบหวามนั้นราวกับบทบรรยายฉากเซ็กส์ร้อนแรงในหัวเขาก็ไม่ปาน แก้วในมือถูกยกขึ้นแนบริมฝีปาก..หวังจะให้ของเหลวในนั้นช่วยดับความร้อนรุ่มในใจ ..แต่ฤทธิ์สุราร้อนที่ไว้แก้หนาวยิ่งเหมือนน้ำมันที่ราดลงกองไฟที่อดัมเป็นคนจุดเอาไว้ มอมเมา ชวนให้ลุ่มหลง ไม่ต่างกันแม้เพียงน้อย

    วินาทีหนึ่งร่างเพรียวเป็นราชสีห์ที่หยอกเย้าเล่นกับคนดู ..แต่ตอนนี้กลับกลายมาเป็นแมวตัวน้อยที่บิดกายออดอ้อนอย่างยั่วยวนจนเจ้าของอย่างเขาอยากจะไปกระชากร่างนั้นลงมากอบกุมไว้ด้วยสองมือแล้วละลายเจ้าชายน้ำแข็งนั่นให้ปวกเปียกด้วยไฟรักจากกายเขาจนต้องร้องครวญครางขอความเมตตาอยู่ใต้ร่าง!

    ชายหนุ่มร่างใหญ่พยายามสลัดจินตนาการบ้าๆ.. โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ชายออกจากหัว ก่อนจะลุกพรวดพาร่างเกือบสองเมตรดุ่มไปทางห้องน้ำ เรียกสายตามองอย่างสงสัยของหญิงสาวข้างๆที่กำลังตบมือไปกับคนอื่นๆให้กับการแสดงที่เพิ่งจบลง โดยไม่พ้นสายตาของคนที่มองอยู่บนเวทีไปแม้แต่น้อย..

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×