ราชันสะบั้นสวรรค์

ท่ามกลางเหมันต์ฤดูที่ความหนาวเหน็บเย็นยะเยือกแทรกซึมเข้าถึงกระดูก บุรุษผู้หนึ่งยืนหยัดประจัญหน้ากับกำแพงหมอกดำทมิฬขนาดมหึมาที่ตั้งตระหง่านมาตั้งแต่เขาจำความได้ เขาคนนี้คือผู้อยู่บนจุดสูงสุดของผู้ฝึกตนทั้งเจ็ดทวีป ชายผู้บรรลุระดับทะลวงสววรค์ขั้นที่เก้า กระบี่ในมือของหลิวช่ายกงมิเพียงตัดผ่านผืนพิภพยังสามารถผ่าแยกมหาสมุทรออกเป็นสอง ความร้ายกาจของเคล็ดกระบี่สยบเทวะต่างเป็นที่ครั่นคร้ามของปรามาจารย์ทั้งเจ็ด มีเพียงคู่ปรับอย่างเซียนพิษสังหารเทวะตู้กงเท่านั้นที่เขาพอจะยอมรับอยู่บ้าง แต่มันผู้นั้นลึกลับเกินไป ตลอดร้อยปีที่ผ่านมันมิเคยย่างกายเข้าสู่ยุทธแม้เพียงครึ่งก้าว

บัดนี้เขาไม่สามารถทนรออีกต่อไป ประตูดำนี้จะต้องถูกเปิดออกด้วยกระบี่ในมือของเขา เหล่ามนุษชาติจักได้รู้กันเสียทีว่าหลังม่านหมอกดำทมิฬที่มีมาแต่โบราณนั่นมีสิ่งน่าสะพรึงใดซ่อนอยู่

เหล่าปรมาจารย์ทั้งเจ็ดมิมีผู้ใดอาจหาญเทียมหลิวช่ายกง บ้างว่าการเปิดประดูบานนั้นจะนำหายนะมาสู่มวลมนุษย์ บ้างก็รอดูความล้มเหลวของเขา มีเพียงเทพโอสถปี่เสียเท่านั้นที่ร่วมเดินทางไปเป็นประจักษ์พยานในครั้งนี้ หากแม้นบุรุษอันดับหนึ่งเพลี่ยงพล้ำอันใด เทพโอสถผู้นี้อาจเป็นตัวแปรสำคัญในการพลิกสถานการณ์ก็เป็นได้ เขามีแนวคิดคล้ายหลิวช่ายกงอยู่หลายส่วน หากสามารถเปิดประตูบานนั้นมิใช่คือความก้าวหน้าของมวลมนุษย์หรอกหรือ