ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [yaoi]รักนะ ไอเตี้ย!!

    ลำดับตอนที่ #3 : บทที่2บุคคลอันตราย&เข้าโรงเรียน

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 57


    เฮ้อ ในที่สุดพวกเขาก็ออกไป ผมก็ได้พักผ่อนซะที เอ๊ะจะว่าไปข้างล่างมีสวนอยู่นี่นา ลงไปเดินเล่นดีกว่าอยู่ในห้องอุดอู้ชะมัด พอลงมาก็เดินเล่นที่สวนน้ำมันไม่ใช่สวนน้ำแบบที่เอาไว้เล่นน้ำแต่มันมีทางให้เดินแล้วก็มีน้ำทั่วไปหมดแล้วทางเดินก็ทำจากกระจกใสซะด้วยทำให้มองเห็นได้แบบโล่งสุดๆพอเดินมาเรื่อยๆตรงบริเวณส่วนกลางของสวนจะเป็นน้ำพุใหญ่ที่สวยงามและอลังการมากผมเดินเข้าไปนั่งที่น้ำพุแล้วก็ก้มมองลงไป

    “ว้าว น้ำใสจังแฮะ”ผมพูดแล้วใช้มือจุ่มลงไปในน้ำ เย็นสบายด้วยมองไปเห็นเงาตัวเองเลยแฮะ และเพราะน้ำใสจนสามารถสะท้อนเงาผมได้ผมก็เลยสังเกตเห็นสร้อยคอของตัวเองที่หลุดออกมาตอนก้ม เออ ลืมไปเลยแฮะ ยังไม่ได้บอกลาพวกวินเลยนี่นา อาริยะก็เจอไม่เท่าไหร่ต้องจากกันอีกแล้ว รู้สึกแย่ชะมัดเลยแฮะ เหงาจริงๆนะตอนทีไม่มีพวกนั้นอยู่น่ะ มันทั้งเงียบแล้วก็ไม่มีใครให้เล่นด้วย อาริยะจะเคยรู้สึกแบบนี้บ้างมั้ยเนี่ย และในขณะที่ผมกำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้นก็มีเสียงเพลงที่คุ้นหูลอยมาเป็นเสียงกีตาร์มันเป็นอินโทรของเพลงที่ผมกับพวกเพื่อนๆชอบเล่นด้วยกันเสมอ ใครเขามาเล่นกันนะ ผมเดินตามเสียงเพลงไปแล้วก็ไปโป๊ะเช๊ะกับกลุ่มบุคคลที่คุ้นเคย...

    “อ้าวไงเซีย มาร้องเพลงดิถ้าไม่ใช่นายร้องแล้วมันไม่เหมือนเดิมว่ะ ไอวินเสียงเฮี้ยชิพหายเลย”พีทตะโกนเรียกผมที่ยืนอึ้งอยู่ พวกนี้มาได้ยังไงเนี่ย

    “เฮ้ยๆแล้วใครมันขอให้ฉันร้องล่ะวะ”วินบ่น

    “อย่ามัวแต่ยืนอึ้งสิพี่เซีย มาเร็วเข้า”อาริยะเรียกผมทำให้ผมรีบวิ่งไปร้องเพลงสังสรรค์ด้วย ถึงจะยังงงๆอยู่ก็เถอะว่าพวกนี้มาได้ยังไงแต่ไหนๆก็ได้เจอกันแล้วขอให้เรามีความสุขอย่างงี้ไปอีกนานๆแล้วกัน

    “เออนี่แล้วพวกนายมาที่นี่ได้ไงเนี่ย”ผมตัดสินใจถามขึ้น

    “อ๋อ ก็พี่ไอซ์เขาพาเรามาอ่ะอยู่ดีๆเขาก็ไปตามพวกเรามาแล้วก็พาไปออกกำลังกายแบบโคตรโหด บ่องตงเหนื่อยชิพหายเลยแล้วแม่งก็พามานี่กว่าจะเข้ามาได้ ชิพหาย เหนื่อยเฮี้ยๆ”พีทเล่าไปบ่นไป

    “พวกเราเข้ามาในฐานะองครักษ์ของอานิน่ะครับ ต้องอยู่กับอานิตลอดพี่ไอซ์เขาบอกมาอย่างงี้”วินบอก

    “องครักษ์? ฉันต้องมีด้วยหรอ”ผมถามขึ้น

    “จริงๆแล้วพี่ไอซ์เขาก็คงหาข้ออ้างไปอย่างงั้นแหละครับ ความจริงแล้วเขาคงจะเป็นห่วงพี่เซียมากกว่า ก็ถ้าพี่เซียไม่มีพวกผมพี่เซียก็คงอยู่ได้หรือไม่ก็อาจจะเป็นโรคซึมเศร้าตายไปเลยก็ได้ ฉะนั้นพี่ไอซ์ก็เลยพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เราเข้ามาอยู่กับพี่เซียให้ได้มั้ง”อาริยะบอก อือ เพราะพี่ไอซ์งั้นหรอเนี่ยเดี๋ยวต้องไปขอบคุณซะแล้วอุตส่าห์ทำให้ขนาดนี้เชียว

    “ผมว่าเราไปเตรียมแต่งตัวเข้างานดีกว่านะ เย็นนี้มีงานต้อนรับพี่เซียไม่ใช่หรอ”อาริยะทักแล้วพวกเราก็เห็นดีเห็นงามด้วยแล้วก็ไปแต่งตัวกัน สิ่งที่ผมรู้สึกแย่ในชุดของผมก็คือมันไม่ใช่สูทธรรมดาที่เขาใส่กันแต่มันคือชุดเจ้าชายสีดำขลิบทองที่มีผ้าคลุมสีดำเช่นกันแถมเวลาแต่งตัวก็ต้องมีสักรอยที่ต้นคอด้วย เพื่ออะไรผมก็ไม่รู้แต่มันไม่ได้ทำให้ดูดีขึ้นเลยในสายตาผมมันจะเจ็บซะมากกว่า พอเดินเข้ามาในงานผมก็นั่งอยู่เฉยๆกับพวกเพื่อนๆแล้วพ่อ(ราชา)ก็พาผมขึ้นไปบนเวทีแล้วก็พูดอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมดแล้วก็แนะนำผม ผมก็ได้แต่ก้มหัวรับแล้วก็เดินออกมาจากนั้นก็มีคนเดินเข้ามาคุยด้วยเยอะไปหมดพวกอาริยะก็เลยเข้ามาไม่ได้ซะที พอคุยไปคุยมาพ่อก็มาเรียกผม

    “ขอโทษนะครับ ผมขอตัวลูกชายแป้บนึงนะครับ”จากนั้นพ่อก็ลากผมออกมาจากวงสนทนานั้น

    “จะพาผมไปไหนหรอครับพ่อ”ผมถามขึ้นอย่างสงสัย

    “ก็พาไปหาแขกพิเศษของเราไงล่ะ เขาอุตส่าห์แคนเซิลงานทุกอย่างแล้วมางานของเราเชียวนะ ต้องไปต้อนรับเขาหน่อยสิลูก”พ่อบอกแล้วลากผมไป

    “แล้วเขาเป็นใครหรอครับ”ผมถาม

    “เขาเป็นกษัตริย์ที่มีการบริหารประเทศยอดเยี่ยม เศรษฐกิจของประเทศของเขาดีมากๆเลยล่ะเป็นคนที่เก่งจริงๆ”พ่อบอกแล้วพ่อก็พาผมมาที่ห้องรับแขกวีไอพี

    “เนี่ยเดินเข้าไปแล้วก็ไปคุยผูกมิตรกับเขาหน่อย รับรองถ้าสนิทนะเขาช่วยเราได้เยอะแน่ๆ”พ่อบอกแล้วก็ดันผมเข้าไปในห้องนั้นทันที แหมช่างเป็นพ่อที่รักลูกอะไรเช่นนี้หนอ พอเข้าไปก็พบกับห้องที่ถูกตกแต่งอย่างหรูหราสไตล์โมเดิร์นสีขาว-ดำน่าค้นหา

    “ไงหนุ่มน้อย”เสียงทักทายของชายหนุ่มทำให้ผมต้องหันไปหาต้นเสียงที่นั่งอยู่ที่โซฟา เป็นผู้ชายผมสีดำสนิทสไลด์แดง ผิวขาวเนียลละเอียด ดวงตาคมกริบสีกรมท่าฉายแววเจ้าชู้เพลย์บอยอย่างเห็นได้ชัด เขาเป็นผู้ชายที่หล่อมากทีเดียวถ้าเกิดว่าผู้หญิงคงละลายไปแล้วนะเนี่ย สายตาแบบนั้น...น่ากลัวชะมัด อึ่ย ขยะแขยง

    “หวัดดีครับ”ผมทักตอบตามมารยาท

    “มานั่งนี่สิ ไม่เห็นต้องเกรงใจเลย”เขาพูดแล้วผายไปที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับที่เขานั่งอยู่ ผมก็เดินไปนั่งตามที่บอก บอกตรงๆนะผู้ชายคนนี้ทำให้ผมรู้สึกกลัวแปลกๆ

    “ผมชื่อ ลูลูส อันเตอร์เบล เรียกลูลูสก็ได้”เขาแนะนำตัวแล้วยื่นมือมาข้างหน้าเหมือนต้องการจะจับมือทักทาย

    “เอ่อ..ครับ ผมชื่อ เอ่อ เฌอลันครับ”ผมยื่นมือไปจับตอบแล้วแนะนำตัว

    “ยินดีที่ได้รู้จักและก็ฝากตัวด้วยนะ”เขาพูดแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ

    “เช่นกันครับ”ผมพูดตามมารยาทแล้วผมก็พยายามจะดึงมืออกแบบเนียลๆแต่เขาก็จับมันแน่นขึ้นแล้วพลิกไปพลักมาจ้องมองมือผมก่อนจะลูบที่หลังมือเบาๆแล้วค่อยปล่อยให้มือผมเป็นอิสระ โอย กว่าจะปล่อยได้ เสียววาบเลย

    “มือนุ่มดีนะ ไม่เคยทำงานหนักเลยล่ะสิ”เขาพูดแล้วยิ้มบางๆให้

    “ครับ”ผมพยักหน้าตอบ

    “คุยไม่เก่งเลยนะ ไม่เหมือนพี่ชายของเธอเลย”

    “คนไหนหรอครับ”

    “ก็คนที่ชื่อวัตสันไง คุณวัตสันน่ะก็คุยเก่งนะส่วนใหญ่จะพูดเรื่องการบริหารปกครองเคยเจอกันไม่กี่ครั้งเองคนอื่นก็ไม่ค่อยพูด คุณเชอร์ล็อกก็ยิ้มอย่างเดียวส่วนคุณไววัลย์นี่ยิ่งใหญ่เลยไม่พูดสักคำแถมยังไม่ยอมยิ้มอีกต่างหาก”เอิ่ม พี่ไอซ์เนี่ยนะไม่ยิ้มไม่พูดผมเห็นเค้ายิ้มร่าทั้งวันแถมพูดมากอีกต่างหาก

    “เหรอครับ”

    “เธออายุเท่าไหร่เหรอ”

    “ตอนนี้16แล้วครับ”

    “โอโห อายุน้อยจังเลยนะถึงว่าทำไมหน้าเด็กจัง”

    “แล้วคุณอายุเท่าไหร่เหรอครับ”

    “ถามผมเหรอ อือ..ลองทายดูสิ ถ้าทายถูกผมมีรางวัลให้”แล้วเขาก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ จะเล่นด้วยดีมั้ยเนี่ย อะ เล่นก็เล่นวะ

    “น่าจะ19ได้แล้วมั้งครับ”ผมตอบ

    “ยอดเยี่ยม การคาดคะเนยอดเยี่ยมจริงๆรู้ได้ยังไงล่ะ”

    “ผมเดาเอาน่ะครับ”

    “อยากได้รางวัลรึยังล่ะ เตรียมตัวรับไว้ดีๆล่ะ”เขาพูดก่อนจะลุกมานั่งข้างๆผมแล้วค่อยๆยื่นหน้าเข้ามาใกล้

    “จะทำอะไรน่ะ”ผมเขยิบหนีจนสุดโซฟา

    “อยากรู้ก็อย่าหนีสิเด็กน้อย”เขาพูดก่อนจะเขยิบตามมาแล้วใช้มือข้างนึงล็อกผมไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้อีก เขาค่อยๆยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วมันก็ใกล้ขึ้นเรื่อยๆจนรู้สึกเหมือนสัมผัสถึงลมหายใจของอีกฝ่ายได้ อ้าก ใครก็ได้ช่วยด้วยยยยยย

    ก๊อกๆๆในที่สุดสวรรค์ก็ทรงโปรดส่งใครก็ไม่รู้มาช่วยผม อ้า ขอบคุณพระเจ้า ซึ้งใจจริงๆ

    “ชิ ใครมันมาขัดจังหวะกันวะ”เขาสบถเล็กน้อยด้วยความอารมณ์เสียแล้วจึงลงจากตัวผมไปเปิดประตู

    “ขอโทษครับท่านลูลูส กระผมมาตามท่านเฌอลันไปหานายท่านน่ะครับ”ชายหนุ่มพูด

    “ชิ”เขาจิ๊ปากเล็กน้อยด้วยความอารมณ์เสียก่อนจะหันหลังกลับเดินมาหาผม

    “มีคนมาตามเธอแล้วล่ะ น่าเสียดายจริงๆเลยนะ แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวยังมีคราวหน้าที่จะได้เจอกันอีก เนอะ”เขาพูดยิ้มๆให้ผมหลายคนอาจมองว่าไม่มีอะไรแต่ความจริงในสายตาผมมันช่างน่ากลัวแบบสุดๆ จากนั้นผมก็ลุกจากโซฟาโค้งให้ทีนึงแล้วรีบสาวเท้าออกมาจากห้องทันที พอออกมาก็พบกับชายหนุ่มใส่ชุดสูทคนนึงหน้าตาหล่อเหลาใช่เล่นยืนรอผมอยู่

    “ไปเถอะครับ ท่านชาล็อตรอนานแล้ว”จากนั้นผมก็เดินตามเขาไปไม่รู้ว่ามีมนต์สะกดอะไรถ้าเป็นปกติผมก็รีบแจ้นไปไหนต่อไหนแล้วแต่คนนี้ไม่เหมือนคนอื่นเขาดูน่าเชื่อถือมาก มากซะจนพูดอะไรใครๆก็ทำตามเลยล่ะมั้ง

    “เชิญทางนี้เลยครับ”จากนั้นเขาก็มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องห้องนึงจากนั้นก็เปิดประตูให้ผมเข้าไป แต่ว่าถ้าเกิดว่าผมเข้าไปแล้วมันจะเป็นเหมือนในห้องของไอลูลูสนั่นอีกมั้ยเนี่ย

    “ไม่ต้องห่วงครับ นายท่านไม่มีทางทำอย่างท่านลูลูสแน่นอน อย่ากลัวไปเลยครับ”เขาบอก เฮ้ย ทำไมเขาถึงรู้ได้วะว่าเราคิดอะไรอยู่

    “หยุดสงสัยแล้วเข้ามาก่อนดีกว่านะครับ”จากนั้นผมก็เดินเข้ามาในห้องนั้น ห้องนี้ก็แต่สไตล์คล้ายๆห้องนั้นเลยแต่ดูน่ารักมีเสน่ห์แบบเด็กๆมากกว่านิดนึง พอผมหันไปมองคนที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ปรากฏว่าเขากำลังหลับอยู่ครับ หลับอยู่บนโซฟาแบบว่าก้มหน้าหลับประมาณนั้น ผมสีดำสนิทยาวปรกหน้า ผิวขาวเนียลละเอียด ร่างสูงหุ่นดีอย่างกับนายแบบ หน้าตาหล่อเหลาขนาดว่าผู้หญิงทุกคนละลายได้เลยทีเดียว ผมไปนั่งที่โซฟาตรงหน้าเขาแล้วนั่งจ้องมองหน้าเขา ดูแล้วผู้ชายคนนี้ดูน่ารักดีนะเหมือนเด็กเลยตอนนอนหลับเนี่ย

    “นี่นายจ้องฉันนานไปแล้วนะ”เสียงของผู้ชายคนนั้นดังขึ้นทำให้ผมรู้สึกตกใจนิดหน่อยแล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นมา ตาของเขาสีประหลาดมากเป็นสีเขียวมรกตซึ่งมันดูดีมากเวลาอยู่กับตาคมคู่นั้น

    “ขอโทษครับ”ผมพูดแล้วก้มหัวเล็กน้อย

    “ช่างมันเถอะ ว่าแต่นายชื่ออะไรนะ เฌอลันใช่มั้ย”เขาถามขึ้น

    “ใช่ครับ”ผมตอบ แล้วเราก็เงียบกันไปสักพักจากนั้นผมก็ถามขึ้น

    “แล้วคุณชื่ออะไรครับ”

    “ฉันเหรอ ฉันชื่อชาล็อต”เขาตอบ

    “แล้วคุณอายุเท่าไหร่หรอครับ”

    18แล้วล่ะ นายน่ะยังเด็กอยู่ใช่มั้ยล่ะ”เด็กเหรอ 16เนี่ยนะ

    “ผม 16 แล้วนะครับ”

    “ถึงอายุนายจะห่างจากฉันแค่ไม่กี่ปีแค่นิสัยนายก็ยังเด็กอยู่ดี จริงมั้ยล่ะ”เขารู้ได้ยังไงเนี่ย

    “ผมไม่ได้เด็กนะครับ ผมโตแล้ว แล้วนิสัยผมก็โตเหมือนกันด้วย”

    “เด็ก แถมเป็นเด็กดื้ออีกต่างหาก ทั้งดื้อทั้งซนเลย”ชิ เขาพูดแบบนั้นทำเอาผมเถียงไม่ออกเลย อะไรกันไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นซะหน่อย มาหาว่าเด็กได้ยังไงกัน

    “หึๆๆ นายนี่มัน..”เขาขำเล็กๆเหมือนหยอกล้อผม

    “ผมอะไร ผมมันมีอะไรรึเปล่าครับ”ผมถามแล้วมองค้อน

    “เด็กจริงๆ”เขาพูดแล้วก็เอามือมายีหัวผมเล่น

    “โอ้ย อะไรเนี่ย ผมของผมยุ่งหมดแล้ว”ผมปัดมือของเขาออกแล้วก็ทำหน้างอใส่

    “เดี๋ยวนายก็ต้องไปโรงเรียนแล้วใช่ไหมล่ะ”เขาถามขึ้น

    “รู้ได้ยังไงครับ”

    “ก็นายยังเด็กนี่ก็ต้องเรียนอยู่แล้วแถมยังไม่มีประสบการณ์อะไรเลย ขืนไปปกครองภาพแบบนี้มีหวังเมืองถล่มแน่ๆ”แหมๆมันก็จริงแฮะ

    “เดี๋ยวนายก็คงเจอหมอนั่นล่ะมั้ง”หมอนั่น?

    “ใครหรอครับ”

    “เดี๋ยวนายก็รู้เองน่ะแหละ”เขาตอบแล้วยิ้มหวานให้ผม

    ก๊อกๆๆเสียงเคาะประตูดังขึ้นรัว

    “สงสัยมีคนมาตามแล้วล่ะ ฉันว่านายออกไปหาพวกเขาเถอะเดี๋ยวเขาจะเป็นห่วงกัน”ผมพยักหน้าก่อนจะเดินออกไปเปิดประตูพบกับพวกอาริยะที่ทำหน้าร้อนใจอยู่ที่หน้าห้อง

    “เกิดอะไรขึ้นหรออาริยะ”ผมถามขึ้น

    “อ้าวพี่เซียปลอดภัยดีใช่มั้ยครับไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”อาริยะถามผมด้วยความเป็นห่วง

    “ทำไมหรอ”

    “ก็พวกผมได้ยินมาว่าไอแขกพิเศษลูลูสอะไรนั่นน่ะอันตรายพวกผมเป็นห่วงก็เลยมาดูสักหน่อย อานิไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ”วินถาม

    “ไม่เป็นไรหรอก”

    “โชคดีนะที่นายยังปลอดภัย แต่ว่าหมอนั่นอันตรายยังไงนายรู้มั้ยพี่ไอซ์ไม่ยอมบอกพวกฉันเลย”พีทถาม

    “เอ่อ ยังไงหรอ”จะให้พูดไปมันก็คงไม่ดีอ่ะนะที่หมอนั่นจะอันตรายด้านการหื่นกาม

    “ฉันว่าหมอนั่นคงจะอันตรายด้านการมีอิทธิพลทางเศรษฐกิจแน่ๆ น่ากลัวจริงๆ”อาริยะพูดขึ้น

    “เศรษฐกิจมันทำให้คนมีอิทธิพลได้ด้วยหรอ”วินถาม

    “แน่นอน ดูสิถ้าอย่างบริษัทไหนผลิตสินค้าแล้วได้รับความนิยมสูงก็จะมีอิทธิพลสามารถกดดันบริษัทคู่แข่งได้มากกว่าเพราะได้รับความนิยมมากกว่านั่นเอง”อาริยะอธิบายส่วนวินก็พยักหน้ารับอย่าเข้าใจ ผมชอบจริงๆนะตอนที่อาริยะกับวินคุยกันดูเหมือนพี่น้องกันเลย เวลาที่วินสงสัยจะดูเหมือนเด็กไร้เดียงสาไม่มีพิษภัยเหมือนกับเวลาปกติที่เป็นนักเลง ส่วนอาริยะเวลาอธิบายให้วินฟังก็จะเหมือนรุ่นพี่ผู้มีความรู้ที่น่าคบหาไม่เหมือนตอนปกติที่เป็นคุณชายสุดหยิ่งในสายตาคนอื่น ผมชอบจริงๆคู่นี้ มันน่าจิ้นมากๆเลยล่ะ

    “เฮ้ย รัสเซีย”พีทเรียกผม

    “หือ?”

    “นายมองอะไรน่ะ กำลังจับจิ้นไอวินกับไออาริยะรึไง”

    “ห้ะ?ปะ เปล่านะ”ผมส่ายหน้ารัว

    “เหรอ”พีทลากเสียงยาวส่วนผมก็พยักหน้ารัว

    “ไอเด็กนักกจิ้นเอ้ย”พีทบ่นแล้วพลักหน้าผากผมด้วยความสนุกสนาน แล้วผมก็ทำหน้ามุ่ยตอบ หมอนี่หัวเราะอีกแล้ว ชอบหัวเราะตอนที่ผมทำหน้าตาแบบนี้ทุกทีเลย

    “ไอเกรียนเอ้ย”ผมพึมพำเบาๆไม่ว่ายังไงเราก็เป็นเพื่อนกันเนอะ

    ณ ฝั่งชาล็อต

    “ทำไมถึงบอกชื่อจริงไปล่ะครับท่านชาล็อต”พ่อบ้านหนุ่มถามขึ้น

    “ทำไมหรอ ไม่รู้สินะ”ชายหนุ่มตอบ

    “ผมรู้ว่าท่านรู้ครับ”

    “หึๆ”ชายหนุ่มขำเล็กน้อยก่อนจะบอกเหตุผลของตน

    “ก็เด็กคนนั้นน่ะ ผมรู้สึกถูกชะตายังไงก็ไม่รู้ รู้สึกได้ว่าเขาจริงใจดีและเดี๋ยวเค้าก็คงต้องเป็นเพื่อนซี้ที่ฟิลิปส์ไว้ใจแน่ๆ”

    เช้าวันต่อมา ในที่สุดก็ถึงวันที่ผมจะต้องไปโรงเรียนซะที ผมตื่นแต่เช้าลุกมาอาบน้ำแต่งตัว แหมๆวันเปิดเทอมวันแรกก็ตองเช้าหน่อยสิครับ ด้วยเหตุว่าที่โรงเรียนเขาให้ใส่ชุดอะไรก็ได้ไปเรียนผมก็เลยใส่ชุดนักศึกษามหาลัยซึ่งประกอบไปด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาว เน็กไทด์สีเทาและกางเกงขายาวสีดำ ซึ่งมันเป็นชุดนักเรียนเดิมของผมด้วยแหละ ผมชินที่จะใส่ผมก็เลยใส่ อาริยะ วินกับพีทก็ใส่เหมือนผมแต่เน็กไทด์คนละสีกันตามที่ชอบ และโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนประจำผมก็เลยต้องขึ้นรถไปเพราะอยู่ค่อนข้างไกลและต้องขนของอีกตั้งเยอะให้เดินไปก็คงไม่ไหว พอไปถึงก็ไปเช็ครายชื่อหอพบว่ามันเป็นห้องเดี่ยวและผมกับพีทอยู่หอเดียวกันเพราะเรียนอยู่ห้องเดียวกัน อาริยะกับวินอยู่ห้องเดียวกันหอเดียวกันแต่คนละห้องกับผม ผมก็คิดนะว่าคนจัดนี่จัดได้ลงตัวดีจังเลย ให้วินกับอาริยะอยู่ด้วยกันเผื่อมันจะเกิดความสัมพันธ์ดีๆต่อกันขึ้นตามที่ผมจิ้นไว้บ้าง

    “นี่นายดูแลพี่เซียดีๆนะ ถ้าพี่เซียเป็นอะไรไปล่ะก็นายเละแน่”อาริยะพูดกับพีท

    “แน่นอนอยู่แล้ว ไอเซียคนเดียวไม่คนามือฉันหรอก”พีทพูดขำๆแล้วเอาแขนมาพาดไหล่ผมประมาณว่าดูแลได้ชัวร์

    “นายก็ต้องดูแลวินดีๆนะอาริยะ”ผมพูดขึ้น

    “เอ๊ะ? ไม่ต้องดูหรอกครับผมเองก็ดูแลตัวเองได้ไม่อย่างงั้นจะไปดูแลอานิได้ยังไงกัน”วินพูด

    “งั้นพวกเราไปก่อนนะ”จากนั้นอาริยะกับวินก็แยกย้ายไปหอ พวกผมก็แยกไปเช่นกัน พอขึ้นหอมาห้องของผมก็พีทอยู่ข้างๆกันก็เลยไปมาหากันง่ายๆห้องของผมเป็นคล้ายๆห้องที่วังเลย มันเลยเป็นอะไรที่ปลื้มสุดๆแต่มันดูไฮเทคกว่าแค่นั้นเองแล้วระเบียงก็แต่เป็นสไตล์ที่โมเดิร์นมากกว่าด้วย แต่ก็ไม่เป็นไร ยังไงก็อยู่ได้อยู่แล้ว ผมจัดการเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อยจากนั้นก็กระโดดลงบนเตียงที่แสนนุ่มนิ่ม แหมเหมือนที่วังเป๊ะเลยแฮะ ตอนนี้ก็10โมงกว่าแล้ว วินบอกว่าเดี๋ยวเที่ยงๆมาเรียกมันคงจะอยากนอนมันล่ะมั้ง ผมเองก็อยากได้เวลาส่วนตัวบ้างเหมือนกันอีกตั้งสองชั่วโมงกว่าจะกินข้าวทำอะไรได้ตั้งหลายอย่างผมเลยตัดสินใจลงไปเดินเล่นที่สวนเพราะมันร่มรื่นดีแล้วก็ไม่ร้อนเลยสักนิด เย็นสบายมากๆที่สวนไม่ค่อยมีใครมาเพราะยังมีอีกตั้งหลายคนที่ยังไม่เข้าโรงเรียนเลย ส่วนใหญ่เขาจะเข้ากันตอนบ่ายๆที่พวกผมเข้ากันเช้าเพราะรีบนี่เองไม่ใช่อะไร ผมเดินถือกีตาร์ลงมาด้วยเพราะกะจะร้องเพลงเล่นให้สบายอารมณ์คนเดียวซะหน่อย และผมก็เจอมุมเหมาะพอดีเลยแต่ว่ามันมีคนนั่งอยู่นี่สิ ทำไงดีเนี่ย

    “ขอโทษนะครับ


    ช่วงนี้ไรต์เริ่มขยันแล้วค่ะ อัพนิยายบ่อยขึ้น(นิสนึง)แต่เรื่องงานไม่เคยจะขยันตาม555 ยังไงก็ช่วยลุ้นต่อด้วยนะคะแล้วก็เมนต์เป็นกำลังใจให้ไรต์บ้างนะคะ ขอบคุณมากคร้า^ ^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×