ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [yaoi]รักนะ ไอเตี้ย!!

    ลำดับตอนที่ #1 : Intro

    • อัปเดตล่าสุด 25 ม.ค. 57


    “เอาล่ะเดี๋ยวพี่ให้เพื่อนแจกชีสแล้วเอามาส่งพี่นะครับ”ผมที่ตอนนี้กำลังยืนอยู่หน้าชั้นเรียนเพื่อสอน แน่นอนมันหมายความว่าผมเป็นครูนั่นเองและตอนนี้ผมกำลังสอนพิเศษนักเรียนม.ต้นอยู่

    “ชีสพอมั้ยครับ”ผมถามขึ้น

    “พอค่ะ”น้องผู้หญิงคนนึงตอบ จากนั้นผมก็เดินไปนั่งที่โต๊ะที่อยู่ริมสุดฝั่งซ้ายของห้องติดประตู ซึ่งเป็นโต๊ะประจำของครูที่สอนห้องนี้และนี่คือห้องเรียนของนักเรียนม.3ที่มีจำนวนประมาณยี่สิบกว่าคน หลายคนคงสงสัย เป็นครูแท้ๆทำไมใช้สรรพนามว่าพี่ล่ะ ไม่ใช่ว่าผมอยากเด็กหรืออะไรแต่ผมอายุแค่16เอง พึ่งอยู่ม.5เท่านั้น ตอนแรกผมก็แทนตัวเองว่าครูแหละแต่มีน้องคนนึงเขาบอกว่า

    “พี่แทนตัวเองว่าพี่เหอะค่ะ หนูว่าพี่หน้าเด็กกว่าพวกหนูด้วยซ้ำ มันทำให้พวกหนูดูเหมือนต้องให้เด็กมาสอนยังไงก็ไม่รู้”ผมก็เลยใช้สรรพนามว่าพี่มาเรื่อยไป ในใจก็แอบปลื้มนะ มีคนบอกว่าราหน้าเด็กกว่าเด็กม.3ทั้งๆที่ตัวเองอยู่ม.5จะไม่ปลื้มได้ไง เนอะ^///^ แต่ไอเพื่อนสุดชั่วของผมมันก็บอกว่า

    “น้องเค้าอาจจะหมายความว่านายเตี้ยก็ได้นะ เลยดูเด็กกว่าไง”อ้ากกกกกกกกกกกกก ไอชั่ว เออใช่ฉันมันไม่สูง ฉันมันเตี้ย เชอะไอเลว สูงตายล่ะ(มันสูง180กว่าๆผมสูง165เศษๆครับ)ติ้ง เสียงไลน์ดังขึ้นทำให้ผมที่นั่งเล่นโน้ตบุ๊คอยู่หันกลับมาสนใจไอโฟนข้างๆตัว มันส่งจากวิน เพื่อนสนิทของผมที่ชอบเรียกผมว่าอานิ(ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่าพี่ชาย)

    (ว่างป่ะครับ)นั่นคือสิ่งที่วินส่งมา

    “สอนอยู่”

    (อานิสอนเสร็จตอน4โมงปะครับ)

    “อื้อ ใช่ๆ ไมหรอ”

    (เปล่าครับ ผมแค่จะบอกว่าวันนี้ไม่ไปรับนะครับ)อ้าว กุก็ต้องกลับรถเมล์อ่ะดิ

    “อ้อๆได้ๆวันนี้ไม่ว่างใช่ปะล่ะ”

    (ครับ ธุระสำคัญมากเลยครับ)

    “อือๆแค่นี้นะเดี๋ยวฉันสอนก่อน”

    (ครับ^^ขอให้กลับบ้านปลอดภัยนะครับ) เอ๊ะแปลกๆแฮะ ไม่น่าเชื่อว่าวินจะมีธุระที่สำคัญแบบสุดๆจริงๆ ทุกทีที่วินบอกว่ามีธุระสุดท้ายเขาก็มารับผมกลับบ้านอย่างปลอดภัยและตรงเวลาทุกที ถึงเขาจะมีประชุมใหญ่ของตระกูล (เพราะวินเป็นลูกชายของมาเฟียใหญ่ผู้สืบทอดตระกูลต่อไป) หรือมีคอนเสิร์ต (เขาเป็นนักดนตรีชื่อดัง มีตำแหน่งเป็นมือกีตาร์) ซึ่งเรื่องเหล่านี้แน่นอนว่ามันต้องเป็นงานใหญ่ที่ขาดตัวเองไปไม่ได้แน่นอน แต่สุดท้ายพอเข็มยาวชี้เลข12เข็มสั้นชี้เลข4ปุ๊บ เขาก็จะโผล่มาด้วยคำพูดเดิมๆพร้อมรอยยิ้มว่า

    “มารับแล้วครับ อานิ ผมมาสายไปรึเปล่า”เสมอเลย แต่ไม่เป็นไรหรอก แค่ไม่มารับวันเดียวไม่เป็นไรหรอกน่า

    “วันนี้แฟนพี่รัสเซียไม่มารับหรอคะ”น้องนักเรียนหญิงที่ยืนรอรถเมล์อยู่ข้างๆผมถามขึ้น

    “แฟน?”ผมถามอย่างงงๆ

    “ก็พี่คนที่สูงๆหน้าตาหาเรื่องๆหน่อยอ่ะค่ะที่มารับพี่รัสเซียทุกวันน่ะค่ะ”อ้อ ผมเข้าใจแล้วเธอหมายถึงใคร วินนี่เอง

    “บ้า มันเป็นผู้ชายนะ พี่ก็ผู้ชาย เราเป็นแค่เพื่อนกันไม่ได้เป็นแฟนกันซะหน่อย”ผมตอบ

    “เหรอคะ”สาวน้อยยิ้มด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

    “ไมยิ้มอย่างงั้นล่ะ พี่พูดเรื่องจริงนะเนี่ย”

    “ก็ไม่มีอะไรนี่คะ”สาวน้อยหันหน้าหนีแต่ยังมองผมด้วยสายตาเดิมไม่เลิก

    “กลับรถเมล์อย่างงี้ทุกวันเลยหรอเราน่ะ”ผมถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

    “ใช่ค่ะ พี่ของหนูเค้าไม่ค่อยว่างมารับหนูก็เลยกลับเองทุกวัน”

    “เหรอ”ผมพยักหน้าตอบ พูดถึงพี่แล้วนึกถึงพี่เลยแฮะ พี่ไอซ์หรือชื่อเต็มๆคือไอซ์แลนด์ พี่ชายแท้ๆของผมที่อายุห่างกันถึง 4ปีแต่ไร้สาระยิ่งกว่าผมร้อยเท่า ตอนนี้พี่เขาต้องไปสืบทอดตำแหน่งประธานบริษัทเครือโซชิ ซึ่งสำนักงานใหญ่อยู่ที่เยอรมันนู่น นานๆทีจะกลับมาหาแต่เรื่องโทรมาหานี่ขอบอก ไม่เคยเว้นสักวันโทรทุกครึ่งชั่วโมง จนสุดท้ายผมรำคาญเลยตั้งกฎขึ้นมาว่าโทรแค่เช้าตอน 8โมง กลางวันตอนเที่ยงเป๊ะและเย็นตอนสามทุ่มกว่าๆ ตอนแรกเขาก็จะไม่ยอมแต่ผมยื่นข้อเสนอว่าถ้าไม่ยอมผมจะโกรธและจะไม่รับโทรศัพท์พี่ไอซ์เป็นเวลา1อาทิตย์เต็มๆถ้าเป็นผมไม่ได้คุยกับพี่ก็คงไม่เป็นอะไรอย่างมากก็แค่คิดถึงบ้างไรบ้างแต่ถ้าเป็นพี่เขาน่ะเหรอ เหอะๆอย่าให้พูดเลยผมไปสังเกตการณ์มาแล้ว ผมไม่ได้โทรหาพี่เค้าแค่วันเดียวเนื่องจากผมลืม คุณกรณ์ซึ่งเป็นเลขาของพี่เขาบอกว่าพี่แกทำงานไม่ได้เลยกินก็ไม่กินแถมไม่ยอมนอนอีกตะหากไม่ยอมทำอะไรเลยผมก็เลยเข้าใจว่าตอนนั้นผมทำผิดร้ายแรงก็เลยโทรไปขอโทษนิดหน่อย ดังนั้นผมจึงใช้ข้อตกลงนี้กับพี่ไอซ์และพี่แกก็ตอบตกลงอย่างง่ายดาย

    “พี่รัสเซียกลับรถเมล์เองครั้งแรกหรอคะ”น้องผู้หญิงที่นั่งข้างๆผมเปิดประเด็น

    “อือใช่ๆ”ผมตอบ

    “แล้วนี่ขึ้นรถเมล์เป็นปะคะเนี่ย”น้องใช้น้ำเสียงแซวเล่นๆกับผม

    “เป็นสิ พี่เคยขึ้นกับเพื่อนอยู่2-3ครั้ง “

    “อ้อหรอๆนึกว่าขึ้นไม่เป็น”

    “นี่ๆหน้าตาพี่ไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้นซะหน่อย”ผมว่า

    “แหมๆไม่ไร้เดียงสาเลยนะ หน้าตาอย่างกับเด็กม.1 แล้วดูสิหน้าตาผิวพรรณคุณหนูจะตาย ไม่แปลกเลยที่จะคิดว่ามีคนคิดว่าพี่จะทำอะไรไม่เป็นเลย”โอโห ขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย แต่จะบอกว่าผมก็ทำอาหารเป็นนะมีแต่คนบอกว่าผมทำอร่อย น่าดีใจจัง

    “กว่ารถสายนี้จะมาก็อีกนานหนูว่าพี่รัสเซียไปหาซื้ออะไรกินก่อนดีมั้ยคะ แถวนี้มีร้านสะดวกซื้ออยู่ ไปซื้อของกินแถวนั้นก่อนดีกว่านะคะเดี๋ยวก็หิวหรอก พี่ยิ่งหิวง่ายๆอยู่ไม่ใช่รึไง”น้องผู้หญิงบอกผม แล้วผมก็พยักหน้าตอบแล้วเดินไปตามทางหาร้านสะดวกซื้อ จะว่าไปตอนนี้ก็หิวแล้วด้วย และระหว่างผมเดินมาตามทางก็ผ่านโรงเรียนประถมที่ผมเคยเรียนอยู่ตอนเด็กๆและผมก็เผลอมองเข้าในโรงเรียนก็เห็นแก๊งเด็กผู้ชาย4คน สองคนหน้าตาเกรียนๆดูหาเรื่อง คนนึงตัวเล็กๆน่ารักน่าชังอีกคนก็ตัวสูงๆดูเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในกลุ่มกำลังเดินหยอกล้อกันออกมาจากโรงเรียนด้วยความสนุกสนาน เห็นภาพนั้นแล้วนึกถึงตัวเองตอนเด็กๆเลยแฮะ พวกผมอยู่กันเป็นแก๊ง แก๊งของผมเป็นแก๊งเล็กแยกย่อยจะอยู่กัน4คนคือผม พีทหรือก็คือไอเกรียนที่สุดในกลุ่มชอบทำอะไรพิเลนไปเรื่อยแล้วก็วินคู่ขากับพีทที่เล่นพิเลนไปพร้อมกันแต่จะเชื่อฟังมากกว่า และคนสุดท้ายคนนี้หายไปตั้งแต่จบป.6เพราะเขาต้องไปเรียนต่อที่อเมริกาซึ่งก็คืออาริยะ อาริยะเป็นคนที่หน้าตาดีและดูเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในกลุ่มในขณะเดียวกันก็อายุน้อยที่สุดเช่นกัน เขาก็เป็นคล้ายๆวินที่จะเรียกผมว่าพี่ และก็จะเชื่อฟังและเป็นห่วงผมมากกว่าใครๆ ใครๆเห็นก็บอกว่าอาริยะน่ากลัวเป็นเพื่อนกันไปได้ยังไง แต่ในความจริงแล้วเขาเป็นคนน่ารักและค่อนข้างใจดีอยู่นะ แถมยังชอบเล่นมุกอีกถึงแม้มุกนั้นจะแป้กหรือไม่ก็ตามแต่ ถึงยังไงทุกคนก็ขำเพราะหน้าตาที่แสนจะจริงจังของเขากลับมาทำอะไรน่ารักๆอย่างงี้ เป็นใครๆก็ขำ

    พอดีไม่รู้จะตัดอินโทรตรงไหนดีก็เลยเอามั่วๆเลยT^Tต้องขอโทษด้วยน้า เค้าไม่มีประสบการณ์อ่า ไม่รู้อะไรเลย อ่านไปอ่านมาชอบเลยแต่งแมร่งT^T บางทีส่วนประกอบต่างๆของตัวละครอาจไม่ตรงกับรูปภาพบ้างช่วยบอกด้วยนะคะ ไรต์พยายามแก้ให้นะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×