คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Generation Gap 1
นี่ก็เป็นอีกวันที่อี้ฟานย้ายที่ทำงานตัวเองมาเป็นร้านกาแฟเล็กๆแถวหน้าบริษัทแทนที่จะนั่งสบายๆอยู่ในห้องประธานสุดหรู นี่แหละที่เขาบอกว่า คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก เจอหน้าอี้ชิงที ใจอี้ฟานพองออกมาจนจะทะลุออกจากตัวแล้วเนี่ย คนตัวเล็กก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่อีกคนมาทุกวันนี่เพราะอะไร แค่ดูสายตาของร่างสูงที่จับจ้องเขาทุกๆห้านาที รอยยิ้มที่เริ่มกว้างขึ้นทุกวันจนเห็นเงิง แถมเวลาไม่มีลูกค้าก็เรียกเค้าไปนั่งด้วย บอกว่าเป็นกำลังใจ อี้ชิงก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรออกจะชอบด้วยซ้ำ เวลาที่เห็นอีกคนทำงานเอาเป็นเอาตาย แต่ก็ยังอุตส่าห์จะเงยหน้ามามองเขา
“อ้าว คุณอี้ฟานมาอีกแล้วเหรอคะ ไปๆอี้ชิง เอาขนมที่แม่เพิ่งอบเสร็จมาให้พี่เขาลองทานหน่อยลูก”
และนี่เป็นอีกอย่างที่เขาได้จากการมาหาอี้ชิง เขามาทุกวันๆจนคุณแม่ของอี้ชิงจำได้และเริ่มเข้ามาคุยจนถึงขั้นสนิทกัน เอาขนมนู่นนี่มาให้ลองกินเป็นครั้งคราว แถมบางครั้งถึงกับไม่คิดค่ากาแฟก็มี แต่มีหรือที่คนอย่างเขาจะยอม มานั่งทั้งวันเกือบทุกวันแถมยังกินกาแฟและขนมไปหลายอยู่ จะให้กินฟรีได้อย่างไรกัน
ตั้งแต่วันนั้นที่เจอกันครั้งแรก เขาก็มาทุกวันจนอี้ชิงเข้ามาทักเข้ามาคุยเอง กลายเป็นสนิท จนเขาขอใจแลกเบอร์โทร เอ่อ ไม่ใช่ๆ แลกเบอร์กับน้องเฉยๆ เอาไว้คุยเล่นตอนตื่น ตอนไปทำงานที่อื่น ตอนติดต่อลูกค้า ตอนอยู่บ้าน ตอนนอน หรือเอาง่ายๆก็ตอนที่เขาไม่ได้เจอเจ้าตัวเล็กนี่แหละ คิดไปคิดมาก็ถือว่าประหลาด เพราะเขาเป็นคนคุยกับใครไม่เก่ง แต่กับอี้ชิงเขาสามารถคุยได้ไม่มีเบื่อหรือให้แค่ฟังร่างเล็กสาธยายเขาก็ฟังได้ เขายอมรับว่ารู้สึกดีกับน้อง และรู้ว่าน้องก็คงรู้ มันอาจจะดูแปลกๆที่ประธานบริษัทวัยยี่สิบเก้ามาสนิทกับเด็กอายุสิบเจ็ดปีภายในเวลาไม่กี่วัน แต่เขาก็ไม่ได้แคร์ เพราะการรู้จักคนตัวเล็กถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาเคยได้ทำแล้ว
“นี่ๆๆๆๆ พี่อี้ฟานนน” คนตัวเล็กลากเสียงยาวจนเขาต้องเงยหน้าออกจากงานมามองอีกคนอย่างขำๆ เป็นวิธิการเรียกร้องความสนใจจากเขาที่น่ารักชะมัด
“เรียกคริสก็ได้ บอกกี่ครั้งแล้ว หืม” ไม่วายเอื้อมมือไปขยี้กลุ่มผมอีกคนเบาๆ อี้ฟานไม่เคยลวนลามน้องเลยนะครับ แค่เอ็นดูน่ะ แหะๆ
“ไม่เบื่อบ้างเหรอฮะ วันๆมีแต่งาน อี้เห็นเวลาพี่อี้ฟานมาทีนะ หอบงานมาเท่านี่แน่ะ แถมยังจดๆจ่อๆ ก้มๆเงยๆ จนอี้นะมึนแทนเลย” พูดไปก็ทำท่าตามไปให้อีกคนรู้ว่างานมันเยอะจริงๆนะ พร้อมจ้องอี้ฟานด้วยสายตาจริงจังประมาณจะบอกว่า นี่อี้ถามจริงจังนะ ขำทำไม
“ก็เบื่อนะครับ แต่ทำไงได้ พี่เลือกทางนี้แล้ว จะเปลี่ยนก็ไม่ได้ แต่มันก็สนุกดีนะเราจะลองมาทำดูบ้างไหมล่ะ”
“งื้ออ ไม่เอาหรอก อี้ไม่อยากเครียด อี้นะ อยากทำขนมทั้งวันเหมือนแม่ อยากอยู่กับกลิ่นกาแฟทั้งวันอย่างนี้เลย ให้ทำแบบพี่อี้ฟาน อี้ตายพอดีอ่า” คนตัวเล็กเอ่ยพร้อมใบหน้าง้ำงอที่บอกว่าไม่เอาจริงๆ เห็นแล้วน่าจับมาฟัดสักทีสองทีให้หายหมั่นเขี้ยว
“พี่อี้ฟานไม่เบื่อบ้างเหรอฮะ มาแต่ร้านอี้ไม่ไปไหนเลย” โอ้ยย ไม่เบื่อครับ ให้พี่อยู่ทั้งวันทั้งคืนแค่มีน้องอี้ชิง พี่อี้ฟานอยู่ไหนก็ได้จริงๆนะ
“ไม่เลยครับ ดีกว่าอยู่บนห้องพี่ซะอีกอุดอู้ หรือว่าอี้ชิงเบื่อ ? พี่ไม่มาก็ได้นะครับ” ถึงปากจะพูดอย่างนั้นแต่อี้ฟานกับมีแววตาเจ้าเล่ห์อยู่ภายใน แต่คนตัวเล็กก็ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกหลอกเข้าซะแล้ว รีบโบกมือกันพัลวันกลัวอีกฝ่ายจะเข้าใจผิด
“มะ..ไมใช่นะฮะ อี้ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะ อี้…”
ตื๊ด ตื๊ด..
ก่อนที่อี้ชิงจะพูดจบ เครื่องมือสื่อสารของคนตรงหน้ากลับดังขึ้นซะก่อนจนอี้ชิงต้องรีบเงียบทันทีกลัวจะรบกวน ร่างเล็กจ้องมองอีกคนที่กำลังทำหน้าจริงจังต่างจากเวลาคุยกับเขา อี้ชิงชอบมอง ชอบมองอี้ฟานในกิริยาบถต่างๆ ชอบเวลาที่ร่างสูงสามารถเปลี่ยนอารมณ์ได้ภายในพริบตา จากเล่นเป็นจริงจัง จนเขาแทบตามไม่ทัน มันดูมีเสน่ห์ น่าดึงดูดอย่างบอกไม่ถูก
“อี้ชิงครับ พี่ขอโทษนะ พอดีมีประชุมด่วนต้องรีบไปจริงๆ ” อี้ฟานพูดพร้อมเก็บงานที่วางระเกะระกะอยู่บนโต๊ะ โดยมีอี้ชิงช่วยหยิบอีกแรง
เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ร่างสูงก็เดินออกจากร้านโดยมีลูกเจ้าของโบกมือลาหยอยๆอย่างน่ารัก คนตัวเล็กชะเง้อมองร่างของอีกคนที่ตอนนี้ได้หายลับเข้าไปในตึก ก่อนจะกลับเข้าไปในร้านที่มีคนบางตา เพราะตอนนี้ก็เป็นเวลาบ่ายสองเข้าไปแล้ว อี้ชิงเลือกที่จะนั่งโต๊ะริมหน้าต่างที่สามารถเห็นตึกระฟ้าของบริษัทอู๋ได้ มือที่เท้าคางลดระดับจนแนบลงกับโต๊ะ ศรีษะเล็กก็ลงมาตามอย่างบังคับไม่ได้ จากนั้นก็ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจออกมาจากร่าง
…………………………………………………………………………………
แรงสะกิดที่หัวไหล่ทำเอาคนที่กำลังอยู่ในฝันดีนึกรำคาญเบาๆ ปัดก็แล้ว เขยิบหนีก็แล้ว ยิ่งทำอะไรยิ่งหนักกว่าเดิม จนอี้ชิงไม่อาจต้านทานมันได้
“ฮื่ออออ พี่อี้ฟานอ่า อย่าแกล้งอี้สิ ไม่อ๊าววว” ลืมตาขึ้นมาเอ็ดสักทีสองทีก่อนจะล้มตัวไปนอนต่อ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคงจะหยุดแล้ว ก็เผยรอยยิ้มออกมา เตรียมจะกลับเข้าสู้ฝันอีกรอบ
“อ๊า… ไม่เอา งื้อออ พะพอแล้วฮะ ตื่นแล้วๆๆๆ” ร่างเล็กร้องลั่นเมื่ออี้ฟานคนขี้แกล้งเป่าลมใส่คอเขาเต็มๆ และเมื่อเห็นว่านี่คือจุดอ่อนเขาก็มีหรือที่จะหยุด จนอี้ชิงดิ้นพล่านแทบจะตกเก้าอี้
“ฮ่าๆๆ พี่ขอโทษครับ อ่ะโอ๋ๆ เด็กดีไม่งอนนะครับ” อี้ฟานพูดพร้อมดึงแก้มคนตรงหน้าจนยืดยาว เมื่อเห็นหน้าคนน่ารักกำลังบูดบึ้งได้ที่
“อี้โกรธ ไม่คุยแล้วแล้ว!” ว่าแล้วก็ลุกเดินจากไปโดยไม่สนใจอี้ฟานที่อ้าปากค้างมองตามอย่างงงๆ ก่อนจะยิ้มขึ้นมาอย่างนึกอะไรได้
“เอ.. ถ้าอี้ชิงโกรธแล้วใครจะไปดูหนังกับพี่ล่ะเนี่ย บริษัทให้มาสองใบพอดีด้วย ชวนใครไปดีล่ะครับทีนี้”
เมื่อได้ยินคำว่าดูหนังเท่านั้น อี้ชิงก็แทบจะวิ่งกลับมาดูตั๋วในมือคนตัวโตกว่า เมื่อเห็นเป็นหนังใหม่ที่เพิ่งเข้า แถมเรื่องนี้เขาอยากดูสุดๆ ก็มองตามตาละห้อย จนอี้ฟานหัวเราะออกมาดังๆ ให้หน้าง้ำงออีกรอบ
“อี้ชิงจะยอมเป็นคนใจดี หายโกรธแล้วไปดูหนังกับพี่ไหมครับ” เมื่อเห็นท่าทางลังเลใจของคนตัวเล็กเขาก็ยิ่งสนุก พยายามพึมพัมออกไปว่าอยากดูมาก แต่ไม่มีใครไปดูเป็นเพื่อนบ้างล่ะ บอกว่าคนอื่นว่าเรื่องนี้สนุกบ้างล่ะ จนคนตัวเล็กขมวดคิ้วคิดหนัก
“อี้ชิงครับ อี้ชิงอยากดูไหมครับ” คนตัวเล็กพยักหน้าโดยไม่แม้แต่จะคิดสักนิดเดียว
“ไปดูด้วยกันนะครับ พี่ชวนเราเดทแล้วนะ อย่าปฏิเสธนะเด็กดี” อี้ฟานพูดพร้อมรอยยิ้ม โดยมีอี้ชิงที่เงยหน้ามองอีกคนตาปริบๆ
...เดทงั้นเหรอ... เมื่อนึกได้ ร่างเล็กก็หน้าขึ้นสี ก้มหน้าไม่ยอมมองหน้าอีกคน หากแต่ใบหน้าหวานก็พยักหน้าให้อีกคนได้รับรู้ว่านี่คือการตกลง โดยมีอี้ฟานยืนยิ้มหน้าบาน เป็นกระด้งเมื่อได้รับคำตอบที่ตนพอใจ เอาจริงๆนะ พอใจมากด้วยซ้ำ
ทั้งสองร่างกำลังยืนอยู่หน้าโรงหนัง พร้อมตั๋วหนังสองใบในมือของอี้ฟาน อี้ชิงที่แต่งตัวด้วยเสื้อสีน้ำเงินตัวโคร่งที่ขับสีผิวของร่างเล็กให้ดูขาวเด่น พร้อมกับกางเกงยีนสกินนี่ เห็นแล้วอี้ฟานแทบจะไม่อยากให้ออกมาข้างนอกเลยทีเดียว
......................ก็เขาหวงของเขาน่า.....................
“อี้ชิงหิวไหมครับ ?” ร่างสูงหันหน้าถามคนตัวเล็กที่ดูตื่นเต้นเหมือนกับไม่เคยออกจากบ้านอย่างนั้นแหละ
“นิดดเดียวฮะ อี้ชิงไม่ชอบกินเยอะ เดี๋ยวกินป๊อปคอร์นไม่ได้..”
“กินแต่ป๊อปคอร์น เดี๋ยวก็อ้วนนะ” พูดแล้วก็ถือโอกาสไปจับหน้าท้องบางของร่างเล็กเบาๆเป็นการเตือน แค่เตือนจริงๆนะครับ !
สุดท้ายร่างสูงของอี้ฟานก็ใจอ่อนยอมพาคนตัวเล็กไปซื้อป๊อปคอร์นถังใหญ่ตามที่อีกคนต้องการ แถมยังมีน้ำอัดลมแก้วบึ๊กที่อี้ชิงลงทุนกอดแขนเขาพร้อมสบตาปิ๊งๆ ให้ใจใส่จนเผลอพยักหน้าไปอีกด้วย แต่เมื่อเห็นอีกคนยิ้มอย่างมีความสุข ก็พอใจเบาๆ อย่างน้อยอี้ชิงก็คงจะเพิ่มคะแนนความชื่นชอบให้เขาบ้างไม่มากก็น้อย อี้ชิงที่แขนทั้งสองข้างโอบอยู่กับถังป๊อปคอร์น ส่วนน้ำก็คงไม่พ้นใครที่ไหน อู๋สุดหล่อคนนี้นี่เองครับ ก่อนที่ตัวเล็กจะเดินนำเข้าโรงหนังไปอย่างไม่สนใจเขาสักเท่าไหร่ จนเขาต้องรีบวิ่งแล้วดึงเอวอี้ชิงเข้าหาตัวเองกลัวอีกคนจะหลง
“จะเริ่มแล้วๆๆๆ ..”
พอถึงที่นั่งเท่านั้นแหละ คนตัวเล็กก็วางป๊อปคอร์นไว้ที่ตักโดยมือตัวเองกอบโกยเข้าปากอย่างเต็มที่ ถ้าอี้ชิงหันมาสักนิด ก็คงเห็นรอยยิ้มกว้างบนรอยยิ้มอี้ฟานคนนี้
....ก็คนที่ชอบมีความสุข เขาจะไม่มีความสุขได้ยังไงล่ะเนอะ.....
ทั้งๆที่เขาอยากดูเรื่องนี้พอสมควร แต่สายตาของอี้ฟานกลับละออกจะใบหน้าขาวไม่ได้แม้แต่น้อย นานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่เขามัวแต่มองร่างข้างๆ ใบหน้าที่เปลี่ยนไปตามฉากของเรื่อง ยิ่งทำให้อี้ชิงน่าสนใจมากขึ้น เขาไม่รู้ว่าเขาถลำลึกไปแค่ไหน แต่ตอนนี้เขากลับขาดคนตรงหน้าไม่ได้ เวลาที่ห่างกันเขาก็มัวแต่คิดถึงอีกคนจนเหม่อลอยไปหลายครั้ง เวลาเพียงแค่ไม่กี่วัน ทำเขาเป็นไปขนาดนี้ อี้ชิงนี่ อันตรายจริงๆ
..................................................................
เป็นยังไงเม้นด้วยนะๆ อิอิ
เดี๋ยวตอบเย็นๆจะลงอีกเรื่องนะคะ เป็นตอนเดียวจบ อิงแฟนไซต์เมื่อวานนิดๆ
<3
PR
ความคิดเห็น