คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : G27 กรง
"รุ่นที่สิบ!~"
เสียงร่าเริงสดใสของ โกคุเดระ ฮายาโตะ
รั้งจังหวะการเดินของชายหนุ่มเรือนผมสีน้ำตาลเข้ม เขาวิ่งหอบแฮ่กด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขหาคนที่หยุดยืนรอระหว่างทาง
"กลับบ้านด้วยกันนะครับ"
"อ้าว
บังเอิญจังพวกนาย ฉันกลับด้วยคนสิ" ราวกับมีมารผจญมาขัดเวลาแห่งความสุข
โกคุเดระหน้าบูด โวยวายใส่คนมาใหม่เฉกเช่นกิจวัตรประจำวัน
"แกต้องเข้าชมรมไม่ใช่รึไง
ไอ้บ้าเบสบอล" ไม่ว่าเปล่ายังโบกมือไล่ส่งเสียงชิ่วๆ
ใส่ ยามาโมโตะ ทาเคชิ เพื่อนสนิทอีกคนที่ยืนเกาแก้มหัวเราะแหะๆ "อ๊ะ! รุ่นที่สิบรอด้วยครับ" รีบเร่งตามอีกฝ่าย บ้าจริง
ดันมามัวเสียเวลากับเจ้าบ้าเบสบอลซะได้
"ขอโทษนะ
ฉันอยากกลับคนเดียวน่ะ" ใบหน้าเอียงกลับมากล่าวถ้อยคำปฏิเสธ
แสงจากดวงอาทิตย์ที่ลับฟ้าก่อเป็นเงาสะท้อนปิดบังแววตามีเพียงรอยยิ้มจางๆ ส่งมาเด่นชัด
"พอดีมีเรื่องต้องคิด"
"จะดีเหรอครับ.."
โกคุเดระรู้สึกห่วงผู้เป็นบอสขึ้นมาตะหงิด
แต่ยังไม่มีโอกาสได้ถามไถ่
ท่อนแขนหนาของนักกีฬาประจำโรงเรียนก็พาดผ่านเกี่ยวรั้งร่างเขาดึงเข้าหาตัว
"ไม่มีปัญหาสึนะ
ถ้ามีเรื่องอะไรก็โทรหาพวกฉันได้เสมอล่ะ" ยามาโมโตะพูดตัดบทพร้อมๆ กับที่พาคนในอ้อมแขนดึงกึ่งลากเดินแยกไปตามเส้นทางกลับบ้านของพวกเขาโดยมีเสียงโวยวายของโกคุเดระดังไปตลอดทาง
เมื่อทั้งสองไม่อยู่แล้วใบหน้าแต้มรอยยิ้มก็คลายลง
เขาถอนหายใจเงยหน้ามองท้องนภาสีส้ม สี.. ที่ทำนึกถึงใครบางคนในส่วนลึกของจิตใจ
"กลับมาแล้วครับ"
"ยินดีต้อนรับกลับนะซือคุง
เอ๋..?" ซาวาดะ
นานะ ที่ชะโงกหน้าส่งเสียงทักทายออกมาจากห้องครัวครางเสียงสูงด้วยความประหลาดใจ
"มีอะไรเหรอครับ?"
"ปะ..เปล่าจ้ะ
แค่รู้สึกว่าพักหลังมานี้เราดูเรียบร้อยดีจังเลยน้า" เธอเล่าความรู้สึก
เอียงใบหน้าซบมือด้วยรอยยิ้มภูมิอกภูมิใจตามประสาคนเป็นแม่
สงสัยจะโตขึ้นอีกแล้วสิท่า...
"เหรอครับ.."
มือเคลื่อนปลดเนคไทคลายความอึดอัด
"จริงสิน้องแมวน่ะ
วันนี้เล่นซนน่าดูเสียงดังลงมาถึงข้างล่างแน่ะ"
จังหวะเดินขึ้นบันไดชะงักลง
จุดยิ้มมุมปากก่อนแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้มแย้มจนตาหยี "น่ารักใช่ไหมล่ะครับ"
ก่อนจะรีบรุดขึ้นห้องไปทันที
ภาพเด็กหนุ่มเร่งรีบจนไม่เก็บอาการทำเอานานะลอบถอนหายใจ
"จริงๆ
ไม่เห็นต้องล็อคห้องไว้ตลอดเลย" บ่นกับตัวเองเบาๆ
ภายในห้องสีสะอาดที่เคยรกระเกะระกะบัดนี้โล่งเปล่าเหลือของใช้น้อยนิดจนแปลกตา
ชายหนุ่มวางกระเป๋าลงกับโต๊ะก่อนเหลือบมองถาดนมที่ยังไม่พร่องลงตั้งแต่เช้า
"กลับมาแล้ว.."
ย่อกายลงนั่งพื้นเกยคางกับแขนบนเตียง
ใช้สายตาจับจ้องไปที่กองผ้าห่มหนาเป็นก้อนกลมๆ ที่มีแมวสีขาวตัวเล็กนอนซุกอยู่
มือลูบขนนุ่มนิ่มตามลำตัวผุดรอยยิ้มบางๆ นึกเอ็นดู "วันนี้ที่โรงเรียนก็น่าเบื่อเหมือนเคย"
ทุกค่ำคืนสึนะโยชิมักครางสะอื้นไห้กับฝันร้ายที่ตามหลอกหลอน
ร่างเล็กของเด็กน้อยวัยห้าขวบยืนร้องไห้ท่ามกลางเหตุการณ์อันแสนหดหู่ กลิ่นคาวเลือดชวนอาเจียน เสียงปืนและเสียงกรีดร้องตามด้วยร่างที่นอนเรียงรายไร้ลมหายใจ ใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนคราบโลหิต ลำตัวเปื้อนฝุ่นมีบาดแผลอยู่ทั่วร่างเกินกว่าเด็กตัวเล็กๆ จะรับไหว กังหันพังๆ ในมือที่คุณปู่แปลกหน้าผู้ใจดีมอบให้ยามพลัดหลงกับแม่นิ่งสนิทแม้จะมีลมพัดโบก
'ฮือ..ไม่เอาแล้ว ผมกลัว'
ยามร้องไห้เสียใจก็ไร้ซึ่งคนปลอบประโลม ความหวาดกลัวกรีดลึกดวงใจน้อยๆ จนแหลกละเอียด ร่างกายผอมบางสั่นเทิ้มท่ามกลางกองซากศพ ดุจฉากในนรกขุมอเวจี ไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาขึ้นมอง ทำได้เพียงยืนร้องไห้จ้าอยู่อย่างนั้น...หวังเพียงให้ฝันร้ายยุติลงเสียที
ทันใดนั้นภาพทิวทัศน์แดงฉานก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นท้องฟ้าสีครามสวย ร่างกายอันหนักอึ้งตอนนี้กลับแผ่วเบาราวกับตัวของเขาลอยล่องอยู่ในอากาศ สึนะโยชิในวัยมัธยมลืมตาขึ้นมองหยาดน้ำตาคลอหน่วงไหลลงช้าๆ ยามสัมผัสกับเปลวไฟอบอุ่นที่ล้อมรอบกาย
ยามเปลวไฟจางลงปรากฏร่างบุคคลทั้งเก้าในชุดสูทสวมหน้ากากเพลิงสีส้มสว่างไสว พวกเขาทั้งน่าเกรงขามและสง่างามยามจ้องมองมาที่เขาที่ยังสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นร่างของชายชราผู้ถือไม้เท้าก็โน้มตัวลงโอบกอดเด็กน้อยอย่างนุ่มนวล
'คุณปู่ อึก..ฮือ'
กลิ่นกายหอมเย็นอ่อนช่วยให้ผ่อนคลายทุกครั้งที่สัมผัสจมูก คุณปู่ใจดีผู้มอบกังหันลมอันนี้ให้ตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย สึนะโยชิร้องไห้เสียงดังอย่างลืมวัยเพียงแค่สัมผัสอ้อมกอดอ่อนโยนนี้เหมือนกับความหวาดกลัวที่อัดแน่นตีบตันอยู่ในอกได้มลายหายไป มือเล็กๆ กำชายเสื้อแน่นหวั่นเกรงว่าหากปล่อยมืออีกฝ่ายจะหายจาก
'ฮึก..วองโกเล่น่ะ..ผมไม่ต้องการ'
เสียงขาดห้วงปนสะอื้นเบาบางกระนั้นกลับชัดเจนในโสตประสาทของผู้ยืนอยู่จุดสุดสูง วองโกเล่พรีโม่ทอดสายตามองร่างเล็กเรียบนิ่งทว่าภายใต้หน้ากากนั้น ดวงตาสีส้มทองกลับหม่นแสงจนมืดมิด...
"อะ.."
ขณะที่ปล่อยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็ดันถูกข่วนมือจนเลือดไหลเป็นทางยาว
"ตื่นแล้วเหรอ" ลูกแมวน้อยขู่ฟ่อขนลุกขนพองด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร
เขาพยายามเข้าหาแต่มันยิ่งระแวงข่วนซ้ำมือข้างเดิม
ทั้งที่ตอนนอนก็ดูน่ารักไร้พิษภัยแท้ๆ
บางทีไม่ตื่นขึ้นอีกเลยมาอาจจะดีกว่า
มือกางงองุ้มยื่นหาสิ่งมีชีวิตขนปุยที่แยกเขี้ยวสู้ทั้งที่ตัวน้อยนิด
จะจับหักคอ ฟาดแรงๆ หรือเพียงแค่บดขยี้ด้วยปลายเท้า การทำลายชีวิตตรงหน้านี้ช่างแสนง่ายดาย...
...
เสียงพื้นเตียงขย่มดังกุกกักชายหนุ่มชะงักมือพลางกวาดสายตาทั่วห้องไปมา
เจ้าแมววิ่งหนีไปอยู่มุมห้องแล้ว น่าเสียดาย..
เผลอคิดชั่วครู่เสียงที่ไม่ทราบที่มาก็ดังขึ้นอีกครั้ง
จากแผ่วเบาคล้ายหูแว่วเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ จนพื้นเตียงสั่นสะเทือน เขาเดาะลิ้นอย่างหงุดหงิดก้มลงมองใต้เตียงเพื่อหาสาเหตุของเสียงประหลาดพวกนี้
อา..
แย่จัง ดันลืมแมวอีกตัวไปซะได้
จากสีหน้าเคร่งเรียดกลายเป็นรอยยิ้มหวาน
ชายหนุ่มเรือนผมสีน้ำตาลหรี่ตามองสิ่งที่อยู่ใต้เตียงด้วยใบหน้าหวานหยดย้อย
แมวน้อยอีกตัวที่ว่าถูกมัดแขนขานอนคุดคู้อยู่ในมุมมืด
ดวงตากลมโตเบิกโพลงทั่วทั้งใบหน้ายังคงมีคราบน้ำตาและบาดแผลไม่จางหาย
แม้อยากร้องเรียกให้ใครมาช่วยปลดปล่อยก็มีเพียงเสียงอู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์
ก่อนจะได้คิดอะไรลำตัวของ
คน ที่ถูกพันธนาการก็ถูกกระชากออกมาอย่างรุนแรง
เจ้าแมวขาวส่งเสียงขู่อีกครั้งหากแต่มันก็เป็นเพียงเสียงเล็กๆ ไร้คนสนใจ
ประคองกอดหอมร่างกายสั่นเทาในอ้อมแขนที่จับจ้องมาอย่างตื่นตระหนก
ใบหน้าที่เหมือนกันราวภาพสะท้อนเผยยิ้มวิปลาสจนอุณหภูมิห้องเย็นเฉียบ
"คิดถึงข้าไหม
เดชิโม่"
'เช่นนั้นเจ้าก็ไม่สมควรเป็นผู้สืบทอด'
สุรเสียงทุ้มหูก้องกังวานดังแทรกเสียงร้องไห้
เหล่าผู้ได้รับเลือกไม่เว้นแม้แต่รุ่นที่เก้าล้วนแหวกทางให้เห็นร่างสูงสง่าของเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ภายใต้เสื้อคลุมสีดำสนิทที่ยืนมองอยู่ไม่ห่าง
สึนะโยชิเงยหน้ามองสบใบหน้าคมฉายแววเย็นชา
ปาดน้ำตาบนใบหน้ากลืนก้อนแข็งๆ ที่จุกอยู่ในลำคอ เขากลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง
ภาพชะตากรรมที่ผู้เป็นบอสต้องแบกรับแล่นวนซ้ำในความคิด
'วองโกเล่ที่เป็นแบบนี้น่ะ..'
กำมือแน่นดวงตาฉายแววกร้าวยามมองไปยังผู้ก่อตั้ง
'ผมขอทำลายทิ้งจะดีกว่า!!'
!
เหล่าผู้สืบทอดล้วนหายใจเฮือกกับคำตอบที่แสนบ้าบิ่นของสึนะโยชิ
ความกังวลฉายชัดบนใบหน้าของชายชราผู้รู้จักเขามาตั้งแต่เล็ก และเหนือสิ่งอื่นใด
'กล้าดีนักนะ'
พรีโม่พูดเสียงเย็น
ดวงตาใต้หน้ากากเบิกโพลงสั่นระริกทอประกายมืดดำกว่าครั้งไหนๆ
มันบังอาจละทิ้งหน้าที่อันทรงเกียรติ...
มันบังอาจคิดทำลายวองโกเล่ที่จีอ็อตโต้ผู้นี้สร้าง!!
ฝีเท้าย่ำตรงมายังคนที่เชิดหน้าท้าทาย
ฝ่ามือสวมทับถุงมือเหล็กกำรอบลำคอจนสึนะโยชิส่งเสียงร้องอึดอัด
โนโน่พยายามเดินเข้ามาปกป้องหลานแต่ร่างกายเขากลับแข็งทื่อขยับไม่ได้แม้เพียงนิ้วเดียวและวองโกเล่รุ่นอื่นก็เช่นกัน
สึนะโยชิตาพร่ามัวร่างกายไร้เรี่ยวแรงจนยืนไม่อยู่
ความกลัวเกาะกุมหัวใจยามสัมผัสกับความเยือกเย็นของผู้ก่อตั้ง ใบหูอื้ออึง
ลมหายใจขาดห้วง ทันใดนั้นสติของร่างบางก็ดับวูบลง
'ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่'
และดวงตาวาวโรจน์คือสิ่งสุดท้ายที่สึนะโยชิจำได้อย่างชัดเจน
"อื้อ!
อ่ะ ฮื่อ.."
เสียงหวานครวญครางลอดผ้าปิดปากตามจังหวะขึ้นลงของคนทั้งสอง
ใบหน้าหวานหลับตาพริ้มหยาดเหงื่อผุดพราย
เชือกที่ขาถูกปล่อยเป็นอิสระเหลือส่วนแขนที่ยังถูกไพล่หลังไว้ ลมหายใจหอบกระเส่า
ภายในร่างกายร้อนวูบวาบคล้ายดั่งเปลวไฟลุกลามทั่วร่างก่อเกินความเสียวกระสัน
บทรักเร่าร้อนที่ถูกปลุกปั่นทำเอาสมองขาวโพลนไปหมด
สึนะโยชิสูดหายใจเข้าปอดอย่างยากเย็น
แผ่นหลังเปลือยเปล่าถูกดันแนบชิดอกกว้างใต้ชุดสูท
แก่นกายที่ค้างในตัวยังคงแผ่อุณหภูมิสูงจนแทบหลอมละลาย
ใบหน้าเล็กถูกเชิดขึ้นด้วยเรียวนิ้วสวยก่อนที่เจ้าของรอยยิ้มเคลือบยาพิษจะโน้มลงประกบจูบโลมเลียอย่างหื่นกระหายผ่านผ้าเปียกชุ่มน้ำลายที่เป็นตัวขวางกั้น
"อ๊ะ!
ไม่.."
เมื่อปลดผ้าปล่อยริมฝีปากบางให้เป็นอิสระ
น้ำเสียงกระเส่ายิ่งดังชัดเจนจนชายหนุ่มกลั้นความอยากไม่อยู่
เอวบางถูกยกขึ้นแล้วสวนกระแทกแรงๆ ตามปรารถนา
ก่อนจะขยำฟ้อนเฟ้นกายบางจนเนื้อตัวแดงเถือก แพขนตาเปียกชุ่มกระพริบถี่
ความสุขสมแล่นทั่วร่างจนเข้าใกล้จุดปลายแห่งฝั่งฝัน
ซุกใบหน้าเข้าหาไหล่กว้างพลางกัดปลายผมสีทองสว่างความหวาบหวามเกินทานทน
"ผมไม่ไหวแล้ว..อื้อ
จะเสร็จ"
จังหวะหัวใจเต้นถี่ระรัว
ผู้ก่อตั้งวองโกเล่เร่งจังหวะหนักหน่วงเพื่อคนบนตักที่เข้าใกล้ประตูชัยทุกขณะ
"ซือคุง...เป็นอะไรหรือเปล่า?"
"อุ้ก!?"
ไม่ทันส่งร่างเล็กถึงจุดหมาย
เสียงหวานเจือความห่วงใยของหญิงผู้เป็นมารดาก็แทรกขึ้นมา
จังหวะสอดประสานกายหยุดชะงัก มือหนาตะครุบปากอีกคนด้วยสีหน้าโกรธแค้น
ดวงตาสีนภาสวยจ้องมองประตูฉายแววโรจน์จนคนบนร่างสั่นเทิ้มด้วยความกลัว
ยุ่งไม่เข้าเรื่อง...
"ไม่มีอะไรครับ
พอดีแมวมันไม่ยอมกินอาหารเลยบังคับนิดหน่อย" จากเสียงทุ้มต่ำกลายเป็นเสียงเล็กของเด็กชายวัยมัธยมต้น
ขยับเอวบนตักอีกครั้งขณะที่อีกคนพยายามกลั้นเสียงแทบขาดใจ
นานะเป็นห่วงลูกชายตัวเองเหลือคณาเพราะตั้งแต่กลับมาก็เอาแต่คลุกอยู่ในจนผิดวิสัย
เธอหมุนลูกบิดประตูทันใดนั้นเสียงหวีดร้องลั่นจนน่าตกใจของแมวในห้องก็ดังมาจนคนได้ยินหวาดผวา
นานะสะดุ้งละมือออกทันควันราวกับโดนน้ำลวก "อันตรายนะครับแม่ อย่าเข้ามาดีกว่า"
นั่นไม่ใช่คำเตือนแต่เป็นคำขู่
"...อย่าบังคับเค้ามากนะซือคุง"
แม้จะไม่เชื่อสนิทใจแต่ก็ยอมถอยออกมา
นานะยกมือทาบอก ใบหน้าหวานขาวซีด
น้ำเสียงของลูกชายที่ได้ยินเมื่อกี้ช่างน่าหวาดหวั่นเหลือเกิน
สึนะโยชิหัวใจกระตุบวาบ หยาดน้ำตาที่แห้งเหือดหลั่งไหลลงมาอีกระลอกยามมองเจ้าแมวน้อยที่นอนหายใจรวยรินถูกบีบคอจนเจียนตาย
"อึก!"
พรีโม่โน้มลงกัดข้างลำคอจนเลือดไหลซึม
ลิ้นยาวกวาดเลียปากแผลเกิดความรู้สึกแปลกๆ สึนะโยชิครางฮือรับก่อนที่ริมฝีปากจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระอีกครั้ง
และเขากำลังถูกอีกฝ่ายชักนำให้สานต่อกิจกรรมที่ยังค้างคาให้จบ
ทุกๆ
วันเป็นเช่นนั้นซ้ำไปซ้ำมา...
สึนะโยชิถูกแย่งตัวตนของตัวเองก่อนจากถูกผลักให้อยู่ในส่วนลึกสุดของความจริง
ไม่มีใครตามหา...
ไม่มีใครสงสัย... ไม่มีกระทั่งคำถามว่า ซาวาดะ สึนะโยชิ หายไปไหน?
ใบหน้าคมเหยียดยิ้มกว้างลูบไล้เส้นผมอ่อนนุ่มพลางทอดสายตามองลำคอขาวที่ถูกคล้องล่ามโซ่กับขาเตียง
วองโกเล่จะยังคงอยู่....
หยัดกายขึ้นยืนเปลวไฟนภาปกคลุมทั่วร่าง
ยามเมื่อมันหายไปก็ปรากฏร่างของเด็กหนุ่มเรือนผมสีน้ำตาลแทนที่ ดวงตาสีน้ำตาลมองคนที่นอนหลับใหลเรียบนิ่งแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่ลืมลงกลอนล็อคประตู
"อรุณสวัสดิ์ครับรุ่นที่สิบ"
"โย่ว
สึนะ"
เสียงสดใสของผู้พิทักษ์ทั้งสองร้องทักในยามเช้าวันใหม่
"อรุณสวัสดิ์โกคุเดระคุง
ยามาโมโตะ" ฉีกยิ้มเย็นระหว่างเดินไปโรงเรียนเฉกเช่นทุกวัน...
Talk with (FONG)Writer
ปู่จะร้ายไม่ได้นะคะ *กอดขาปู่*
ตามจริงแล้วที่วางแผนไว้คือหลังจากจบตอนของ
6927 ก็จะตามด้วย 10027 ....
แต่ทุกวันนี้ก็ดันคิดพล็อตได้แต่คู่อื่นแหละค่ะ ฮ่า
เมื่อเย็นนี้ได้มีโอกาสดูรีบอร์นผ่านช่อง
cartoonclub ความรู้สึกหนึ่งที่แล่นมาในหัวฉันคือ ให้ตายเถอะ
ฉันไม่ชินเสียงพากย์เอาซะเลย มานึกๆดูฉันก็ติดตามรีบอร์นมาหลายปีเหมือนกันนะคะ
พอเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ก็ชวนให้คิดถึงจริงๆ
อะ.. แต่เสียงพรีโม่ช่องนี้พากย์ได้หล่อดีนะคะ
ความคิดเห็น