คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : 1827 เสพติด
ค่ำคืนที่คลาคล่ำด้วยผู้คนในสถานที่อโคจรร่ำสุรานารี
ผู้คนใช้ชีวิตหลงระเริงกับความสุขเพียงชั่วข้ามคืน ยามรุ่งสางทุกคนก็กลับไปเป็นตัวตนที่สรรสร้างขึ้น
หวังเพียงค่ำคืนจะช่วยปลดปล่อยความต้องการและตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาทั้งหลาย ทั้งคนที่ไร้ซึ่งความหมายและหมดหวังในการใช้ชีวิตหรือจะคนที่หาความสนุกกับโลกใบนี้ก็ดี...คนเหล่านั้นล้วนมีเหตุให้โคจรมาพบเจอกันอย่างน่าประหลาด
สำหรับคนเหล่านั้นแล้วการพบเจอที่ไม่คาดฝันจะเรียกว่าโชคชะตา....ได้หรือเปล่านะ?
"อ๊ะ!
อื้ม.."
เสียงครางหวานอู้อี้ดังเคล้าคลอกับเสียงเพลงจังหวะหนักด้านนอก
สะท้อนก้องทั่วกำแพงแคบของห้องน้ำ เป็นทำนองเพลงแปลกหูแต่กลับบรรเลงสอดประสานเข้ากันจนน่าประหลาดใจ
มือบางที่ทาบอกแกร่งเคลื่อนมาคล้องคอพลางดึงลำตัวให้แนบชิดกันยิ่งขึ้น
ชายหนุ่มละจูบ ปล่อยให้อีกฝ่ายหอบหายใจเพียงครู่ก็ประกบปากอีกครั้ง.. อีกครั้ง... และอีกครั้ง...
"ร้อน.."
หลุดเสียงคำรามหลังขบเม้มริมฝีปากบางแรงๆเป็นครั้งสุดท้าย
ชายหนุ่มเสยผมอย่างนึกรำคาญ
มืออีกข้างปลดเนคไทค์และกระดุมหวังบรรเทาความร้อนที่พุ่งสูงจนเหมือนโดนแผดเผา แต่ดูท่ามันจะไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย...
ชายหนุ่มเบนสายตากลับมาเมื่อรู้สึกถึงความเปียกลื่นที่สัมผัสริมฝีปาก
มุมปากยกยิ้ม ยอมอ้าปากให้เรียวลิ้นเล็กเข้ามาเกี่ยวกระหวัดอย่างไม่รู้ประสีประสา
ก่อนจะกลับมาเป็นผู้คุมเกมอีกครั้ง
มือสากสอดใต้สาบเสื้อสัมผัสผิวกายขาวเนียนที่ร้อนผ่าวไม่ต่างจากตน
เขารู้ดีว่าทำอย่างไรถึงจะดับความร้อนนี้ได้..
"ทำไมนานจัง
ไม่สบายรึเปล่า" หนุ่มอิตาลีผมทองเจ้าเสน่ห์เอ่ยถามพลางดึงร่างคนที่เพิ่งกลับจากการเข้าห้องน้ำมานั่งซ้อนตัก "หืม..สึนะ?" ส่งเสียงสูงเป็นคำถามในขณะที่กดจูบซอกคอขาวแสดงความเป็นเจ้าของ โดยไม่คิดเกรงใจเพื่อนร่วมโต๊ะที่นั่งส่งเสียงจิ๊จ๊ะอยู่เป็นระยะ
"รู้สึกมึนหัวนิดหน่อยแต่ตอนนี้หายแล้วล่ะครับ"
ว่าพร้อมพรมจูบใบหน้าอย่างรักใคร่
"มีไข้รึเปล่า
หน้ายังแดงอยู่เลย" แขนสองข้างโอบกระชับเอวเล็กแล้วโน้มหน้าลงมาแนบหน้าผากเพื่อวัดไข้
ก่อนจะถูกมือบางผลักออกช้าๆ
"คงเพราะเหล้าน่ะ..
ขอนอนก่อนได้ไหมครับ?"
"อื้ม
เอาสิ"
สิ้นประโยคตอบรับสึนะโยชิก็เอนใบหน้าซบบ่ากว้างของอีกฝ่ายและหลับไหลไปทันทีด้วยความอ่อนเพลีย
"จะว่าไป..ตกลงเรียกพวกฉันมามีเรื่องอะไรกันแน่
คงไม่ได้มาเพื่อคุยเล่นไร้สาระหรอกใช่ไหม"
สควอโล่เพื่อนร่วมโต๊ะที่อยู่ในบรรยากาศพลอดรักกันอย่างไม่อายฟ้าอายดินเมื่อครู่
ถามขึ้นหลังจากแน่ใจว่าร่างเล็กหลับสนิทแล้ว
"ใจร้ายจังเลยนะ
ฉันก็แค่คิดถึงช่วงที่พวกเรามานั่งดื่มกันแบบนี้ประจำ ผิดเหรอ?"
"อย่ามากวนตีนดีโน่"
พยายามข่มอารมณ์กัดฟันพูดเสียงต่ำ
อุตส่าห์ยอมเบี้ยวนัดลูกค้าเพราะอีกฝ่ายบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยแท้ๆ
"โมโหบ่อย
เดี๋ยวแก่ไวนะ" ฝ่ายคนกวนประสาทกลับทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้พลางโอบรัดตุ๊กตานุ่มนิ่มบนตักอย่างชื่นบาน
สควอโล่หงุดหงิด
แต่ก่อนที่จะได้โวยวายมากกว่านี้ หางตาก็เหลือบไปเห็นชายเรือนผมปีกกาเดินตรงมาที่โต๊ะพอดี
"เฮ้ย ฮิบาริ
อยู่ๆหายหัวไปไหนมา" เผลอร้องทักเสียงดังตามนิสัยจนดีโน่รีบสะกิดเรียกให้ลดความดังเสียงเพราะเกรงใจคนที่หลับอยู่
"ไปสูบบุหรี่" ตอบสั้นๆในขณะที่รับแก้วเหล้ามาดื่ม
"คนครบแล้ว งั้นจะพูดประเด็นหลักเลยนะ" ดีโน่กระแอมเรียกความสนใจเพื่อนทั้งสอง
ก่อนปรับน้ำเสียงจริงจังให้รู้ว่าบทสนทนาต่อไปจะเริ่มเข้าสู่ความตึงเครียด "เบียคุรัน..
เจ้านั่นเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว" เพียงแค่เอ่ยชื่อนั้นบรรยากาศในโต๊ะก็อึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก
สควอโล่เดาะลิ้น
"ตั้งแต่เมื่อไหร่"
"สามวันก่อน"
มือลูบกลุ่มผมน้ำตาลสลวยเบามือทั้งสีหน้าเคร่งเครียด
"มีหนอนพยายามล้วงข้อมูลลับแต่ถูกคนของฉันจับได้
น่าเสียดายเหมือนมันจะเตรียมการมาดีถึงได้กัดยาพิษในปากฆ่าตัวตาย"
"ระบบในองค์กรเข้มงวด
ไม่น่ามีหนอนเข้ามาง่ายๆ" ฮิบาริแย้ง
"ใช่.."
ดีโน่ตอบเสียงแผ่ว "เจ็ดปี.. คนของมันแฝงตัวมาอยู่ข้างกายฉันนานจนได้รับความไว้ใจให้เคลื่อนไหวอิสระ"
เขายังจำได้ดี
วินาทีที่เขาลั่นไกปืนใส่อดีตคนสนิทที่เปรียบดั่งครอบครัว
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำทอประกายไหววูบ
"คำสุดท้ายก่อนตายมีแค่ชื่อ เบียคุรัน"
ซึ่งเรื่องราวทั้งหลายมันก็เป็นเรื่องปกติในวงการธุรกิจมืดย่อมมีศัตรูและคู่แข่งเป็นธรรมดา
ปัญหาคือ เบียคุรัน ตัวอันตรายที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับพวกเขาสามคนมานานนับสิบปีหรือจะพูดให้ถูกคือศัตรูของดีโน่
ที่ดึงเขากับสควอโล่ผู้เป็นสหายการทำธุรกิจไปเอี่ยวด้วยจนกลายเป็นปัญหาวนลูปไม่จบสิ้น
เบียคุรันเป็นพี่ชายต่างมารดาของดีโน่
แต่เพราะคนที่ได้รับสืบทอดธุรกิจขนส่งอาวุธแหล่งทำเงินและชื่อเสียงของตระกูลกลับเป็นน้องชายจอมเหลาะแหละ
เบียคุรันโกรธแค้นและไม่ยอมรับการตัดสินของพ่อ เขาหันมาสร้างธุรกิจของตนเองและคอยขัดขวางน้องชายผู้แย่งชิงทุกสิ่งจากเขาไปทุกวิถีทาง
หวังทำลายอีกฝ่ายให้ตายหรือหายนะย่อยยับกันไปข้าง
ฮิบาริพรูลมหายใจ
สำหรับเขามันก็เป็นแค่การทะเลาะกันของพี่น้องโรคจิต
ที่มาขัดขวางธุรกิจของเขาให้วุ่นวายจนเขาต้องมาร่วมการทะเลาะนี้ด้วย หึ
เขาเองคงบ้าบอไม่แพ้กัน
ไม่นานดีโน่กับสควอโล่ก็กลับมาคุยเฮฮาตามปกติหลังได้ผลสรุปของบทสนทนาตึงเครียด
ชายหนุ่มเรือนผมดำสนิทเบนสายตาแก้เบื่อไปทั่วจนมาสะดุดร่างเล็กที่นอนซบอกคนรักของเจ้าตัวอยู่
"อ้อ.. เคียวยะคงยังไม่เคยเจอสินะ นี่สึนะมายฮันนี่ของฉันเอง" ใบหน้าหล่อเหลาเอียงซบหัวคนที่นอนซุกอกเมื่อรับรู้ถึงสายตาเพื่อนที่มองร่างเล็กอยู่
"ปกติไม่เห็นยกใครเป็นแฟน
จริงจัง?" ฮิบาริพูดโดยไม่ปิดบังความสงสัย
นิ้วเรียวสวยยกแก้วเหล้าใบเดิมที่เพื่อนผมเงินยาวสลวยรินเติมให้กระดกดื่มหมดแก้ว "หรือฟันยาก"
"มัวแต่สนใจธุรกิจตัวเอง
จนไม่รู้เรื่องเลยรึไงแก" สควอโล่ถอนหายใจ
นึกหงุดหงิดแทนเจ้าคนอารมณ์ดีจนน่ารำคาญ ที่ยังคงแย้มยิ้มกว้างหัวเราะในลำคอราวกับคำพูดถากถางไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร
"สึนะเป็นคู่หมั้นฉันน่ะ"
ฮิบาริเลิกคิ้ว "คลุมถุงชน..?"
"เปล่า"
ดีโน่ลูบหัวคนในอ้อมกอดช้าๆ
สายตาทอประกายเปี่ยมไปด้วยความรัก "ฉันขอเขาแต่งงาน"
"เหรอ.."
ครางรับเบาๆอย่างเรียบง่าย ดวงตาสีนิลทอดมองคนที่ถูกพูดถึงด้วยความรู้สึกหลากหลาย
"เป็นคู่ที่ดีนะ"
และใช่..
ฮิบาริหมายความอย่างนั้นจริงๆ
หลังจากนั้นบทสนทนาของเพื่อนสนิทก็ไม่ได้เข้าหูฮิบาริดีนัก
ชายหนุ่มนั่งฟังเพียงผ่านๆพลางเออออตอบรับบางจังหวะ ในใจคุกกรุ่นจนแทบนั่งไม่ติดทุกครั้งที่เจ้าของฉายาม้าพยศหันมาคลอเคลียคนในอ้อมแขน เครื่องดื่มมึนเมาแก้วแล้วแก้วเล่าหมดไปอย่างรวดเร็วตามความหงุดหงิดของร่างสูง
จวบจนเวลาล่วงเลยถึงคราวลาจาก เหล่าแอลกอฮอล์ก็เริ่มแผลงฤทธิ์
"เฮ้ย
ขับรถไหวเปล่า" สควอโล่ถามในขณะที่รับหน้าที่ช่วยพยุงเพื่อนตัวสูงโปร่งแทนอีกคนที่กำลังอุ้มคนรักขึ้นรถแล้วจัดที่นอนให้สบายอยู่
ฮิบาริส่ายหน้าช้าๆ "กุญแจอยู่ในกระเป๋ากางเกง" นึกขำตัวเองไม่ได้ดื่มจนเมาเละหมดท่ามานานแค่ไหนแล้วกันนะ
"ไม่ต้องหรอก
ทางผ่านพอดีเดี๋ยวฉันไปส่งก็ได้" ดีโน่พูดเบรกหลังสตารท์รถเปิดแอร์ให้สึนะโยชินอนเรียบร้อย
"แล้วรถเจ้านี่ล่ะ" ถามพร้อมควงกุญแจในมือ
ส่วนคนฟังก็ทำสีหน้าครุ่นคิดเพียงชั่วครู่
"นายก็ขับกลับไปก่อนแล้วกัน บอกซันซัสว่าไม่ต้องมารับแล้ว" ไม่รอให้เสียเวลารีบพาคนเมาขึ้นรถแล้วขับออกไปก่อนคนขี้โวยวายจะรู้สึกตัวทันที
"เดี๋ยวดีโน่
ไอ้เวร! มันรู้ได้ไงวะ!!"
สึนะโยชิลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากการปิดประตูรถ
ดวงตาที่ยังปรับโฟกัสได้ไม่เต็มที่หรี่ลงพยายามมองรอบตัวด้วยความสงสัยเห็นเพียงร่างสูงเรือนผมสีดำเดินลงจากรถโดยมีบรรดาลูกน้องช่วยพยุงไปลางๆ
"ตื่นแล้วเหรอ
ยังไม่ถึงบ้านเลยนอนต่อก็ได้นะ" ดีโน่พูดเสียงละมุนข้างหูหวังกล่อมคนตัวเล็กที่ยังดูล้าให้พักผ่อน
"ไม่เป็นไรครับ" สึนะโยชิลูบมือเกลี่ยใบหน้าคม "คุณเองก็เหนื่อยเหมือนกัน
ให้ผมนั่งเป็นเพื่อนดีกว่า"
"โธ่!"
ดีโน่โผกอดร่างเล็กด้วยความสุขล้น
ทำไมคนรักของเขาถึงน่ารักขนาดนี้กัน พระเจ้าช่างเมตตาเขาคนนี้ยิ่งนัก หนุ่มอิตาลีฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี หวังเหลือเกินให้ความสุขนี้คงอยู่กับเขาตลอดไป...
+++++++++++++++++++++++++++++
ยามเที่ยงของวันต่อมาสึนะโยชิงัวเงียตื่นขึ้นจากเตียง
ดีโน่ออกไปแต่เช้าตรู่ทิ้งโน้ตข้างหัวเตียงไว้ว่ามีงานด่วนกลับมะรืน
พร้อมทิ้งข้อความหยอดหวานๆ ว่าหากกลับมาจะชดเชยที่ปล่อยให้เหงาอย่างเต็มที่ ร่างบางแย้มยิ้มเมื่ออ่านจบ
ยกกระดาษแผ่นเล็กจูบเบาๆ เสมือนเครื่องแทนตัวคนที่ทำงานอยู่
ไม่ใช่..
สึนะโยชิชะงัก ในใจรู้สึกสับสนเมื่อสัมผัสนั้นมีแต่ความเย็นไร้ชีวิตแตะลงมา
อะไรกันที่เขารู้สึกขาดไป.. ไม่ใช่จูบที่เย็นชืดแบบนี้ ใบหน้าของคนรักผุดขึ้นมาในความคิด
ไม่ใช่เขา.. ไม่ใช่จูบที่อ่อนหวาน..
อะไรบางอย่าง.. มันเป็นความต้องการที่มากกว่านั้น
มือเล็กลูบไล้ริมฝีปากตนที่แห้งผาก
"คิดถึงงั้นเหรอ..?"
"..!.."
สึนะโยชิสะดุ้งตกใจจนกระดาษโน้ตในมือร่วงปลิวไปอยู่ปลายเท้าอีกฝ่าย
ใบหน้าเล็กค่อยๆ ไล่สายตาขึ้นมองอย่างใจหายเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในบ้านนี้เพียงลำพังอย่างที่ควรจะเป็น
"คุณฮิบาริ..
ทำไม"
"จูบน่ะ"
ฮิบาริพูดขัด
นั่นยิ่งทำให้ผู้เป็นเจ้าของบ้านสับสน
"ผมไม่เข้าใจ..
อุ๊บ!"
ปากเล็กถูกคนตัวโตโฉบชิงอย่างรวดเร็ว
ทั้งที่ยังพูดไม่จบ ลิ้นร้อนควานหาความหวานในโพลงปากพลางหยอกล้อปลายลิ้นที่กำลังถดหนี
สึนะโยชิหลับตาปี๋
มือปัดป่ายพยายามผลักกายร่างสูงให้ออกห่าง
แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ.. ฮิบาริดันตัวให้แนบชิดคนตัวเล็กมากยิ่งขึ้น
ในขณะที่คนถูกคุกคามก็ขยับถอยออกขาเล็กถอยชนขอบเตียงไร้ทางหนี ฮิบาริได้จังหวะรวบร่างบางผลักลงเตียงแล้วขึ้นคล่อมทันที
"แฮ่กๆ
หยุดเถอะครั.. อื้อ"
สองมือถูกรวบกำไว้เหนือหัวด้วยมือข้างเดียวของอีกฝ่าย ฮิบาริไม่ปล่อยโอกาสให้คนใต้ร่างได้หายใจ กดจูบรุนแรงที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์อย่างไม่ลดละ มือข้างที่ว่างสอดใต้เสื้อไปสะกิดหยอกล้อยอดอกสีหวานจนตั้งชูชัน
สึนะโยชิหัวตื้อตาพร่ามัวไร้ซึ่งแรงต่อต้าน
เขาคิดอะไรไม่ออกหลังจากได้รับจูบรุนแรงและการสัมผัสของอีกฝ่าย
มันเต็มไปด้วยความปรารถนาและไร้ซึ่งความปราณี
ชายหนุ่มรู้สึกถึงรสเลือดบริเวณริมฝีปาก ดวงตาสีเปลือกไม้จ้องมองคนเหนือร่างเคลื่อนริมฝีปากมากดจูบสร้างรอยที่ซอกคอ
ทับรอยเดิมของอีกคน..
น่าแปลก..
ทั้งที่เขาควรจะปฏิเสธสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นแท้ๆ
มือทั้งสองข้างดึงออกจากการเกาะกุมของร่างสูงซึ่งยอมปล่อยราวล่วงรู้ความคิด
ประคองใบหน้าคมมาสบตาของตน . ผิวขาวซีดแบบลูกผู้ดี จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วเข้มรับดวงตาเรียวสีดำสนิท เขาช่างหน้าตาดี.. ราวรูปหล่อปูนปั้นที่ถูกสร้างสรรค์อย่างประณีต เหนือสิ่งอื่นใด...
สึนะโยชิหยุดสายตาที่จุดสุดท้าย ริมฝีปากระเรื่อที่เพิ่งมอบจูบร้อนแรงให้เขาเมื่อครู่
แลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แตกเพราะจูบรุนแรงของอีกฝ่าย
สึนะโยชิมอบจูบแลกลิ้นกับคนตัวสูงที่ยอมโอนเอนให้เขาทำตามใจชอบ
ปากของฮิบาริมีรสชาติเฉพาะที่พิเศษกว่าคนอื่น ซึ่งเขาชื่นชอบ
มาก... จนถึงขั้นรักมันเลยล่ะ ฝ่ามือที่ประคองใบหน้าคมค่อยๆ ลูบไล้ไปพาดบ่ากว้าง ความหวานร้อนเหมือนไวน์องุ่นที่บ่มเพาะแรมปี แรกเริ่มก็หวานละมุน.. แต่ยิ่งดื่มมันมากขึ้น มากขึ้น
เขาก็ยิ่งมัวเมาไปกับรสนั้น มากเสียจนถอนตัวไม่ขึ้น
สึนะโยชิผละริมฝีปากออกเพื่อสูดอากาศเข้าปอด ใบหน้าหวานแดงก่ำราวผลตำลึงสุก รู้สึกถึงลมหายใจของอีกฝ่ายที่เป่ารดหน้าจนแทบทำเขาละลายกองตรงนั้น
หยาดน้ำลายสีใสเชื่อมต่อปากพวกเขาเป็นภาพกระตุ้นอารมณ์ยิ่งนัก
แขนสองข้างเกี่ยวกระหวัดดึงรั้งคอร่างสูงให้โน้มลงมาประกบจูบอีกครั้ง แต่สึนะโยชิก็ต้องผิดหวัง.. เพราะไม่ว่าจะทำอย่างไร ฮิบาริก็ไม่มีท่าทีจะยอมเปิดปากให้เรียวลิ้นเล็กรุกล้ำมาควานหารสชาติอันหอมหวนดังที่ใจต้องการ
หยาดน้ำตาคลอหน่วยความต้องการพุ่งสูงจนส่วนล่างคับตึงไปหมด
สึนะโยชิอ้าปากคอแห้งผากดั่งคนขาดน้ำ
ใบหน้าแดงจัดร้อนผ่าวหายใจรัวแรงจนได้ยินเสียงหอบระรัว
สึนะโยชิแลบลิ้นชุ่มน้ำลายสีใสโลมเลียปากหยักที่ปิดสนิท
ฮิบาริส่งเสียงหัวเราะในลำคอ ดวงตารัตติกาลทอประกายภิรมย์ โน้มใบหน้ามากระซิบเสียงพร่าด้วยแรงอารมณ์ข้างหู
"บอกฉันสิที่รัก เธออยากให้ฉันทำอะไร"
ฟันเขี้ยวคมกัดปลายหูหยอกล้อให้คนตัวเล็กสะดุ้งครางเสียงหวาน คำพูดของชายหนุ่มเหมือนดั่งน้ำหล่อเลี้ยงตัวเขาที่แห้งแล้งให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง สึนะโยชิลืมตาขึ้น แพขนตางอนที่น้ำตาเปียกชุ่มกระพริบถี่ๆ เพื่อปรับสายตา
เหลือบไปเห็นโต๊ะปลายเตียงมีกรอบรูปเล็กลายฉลุสีทองงามตั้งไว้อยู่...
ภาพที่เห็นนั้นช่างชัดเจน... ภาพของตนกับคนรักที่โอบกอดกันอย่างมีความสุข
สึนะโยชิหลับตาลงอีกครั้ง ไม่รู้เพราะเหตุใด เวลานี้...
สมองกลับโล่งโปร่งจนคิดอะไรไม่ถูก ลืมแม้กระทั่งความผิดชอบชั่วดีสิ้น...
สำหรับสึนะโยชิแล้ว
ฮิบาริ เคียวยะ เปรียบเสมือนยาเสพติด...
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขามัวเมากับรสจูบอันบ้าคลั่งนี้...
ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ชีวิตเขาขาดมันไม่ได้...
"จูบผม
ได้โปรด...ผมคิดถึงจูบคุณจนจะบ้าแล้ว"
อสูรร้ายรัตติกาลเผยรอยยิ้มกว้างอย่างแยบยล มอบพรมจูบและสัมผัสร้อนแรงที่ทั้งคู่ต่างประวิงหามาเนิ่นนาน อย่างไม่มีวันเบื่อหน่าย
และฮิบาริเองก็ขาด ซาวาดะ สึนะโยชิ ไม่ได้เช่นกัน....
ทว่าคำพูดนั้นกลับทำให้ใจคนฟังแทบแหลกสลาย..
ร่างกายสูงโปร่งทรุดลงนั่งพิงประตูด้วยความอ่อนล้า
ฟันขบเม้มริมฝีปากอดกลั้นเสียงคร่ำครวญจนเลือดซิบ หยาดน้ำตาลูกผู้ชายหลั่งไหลออกมาเกินฝืนทน
มือหนาขยุ้มอกตัวเองที่ปวดร้าวเจียนขาดใจ
ดีโน่
คาบัคโลเน่ คงคิดว่าตัวเองทำงานเหนื่อยจนละเมอเพ้อไป หากไม่ใช่เพราะนี่เป็นอีกครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่เขาต้องมารับรู้มันกับตนเอง
ความสัมพันธ์นานนับห้าปีที่เขามี
มันเทียบไม่ได้กับสามเดือนที่ร่างบางได้พบเพื่อนรักเขาเลย..
ดีโน่รู้ดี..
นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งสองพบกัน แต่เขาก็ยังคิดจะแกล้งปิดหูปิดตาไม่รับรู้เรื่องใดๆ
ต่อไป หากทั้งคู่ยังคงอยู่กับเขาเสมอ.. บางทีมันคงเป็น
ความคิดที่ไร้เดียงสาจนน่าหัวเราะ
แฟ้มเอกสารกระจายข้างกายชายหนุ่ม
ข้อมูลสำคัญ ที่เขาเพิ่งพบเจอ สุดท้ายแล้วเบียคุรันก็ทำสำเร็จ.. ฮิบาริ เคียวยะ คนสนิทฝีมือดีที่สุดผู้แฝงตัวมาอยู่ข้างกาย คอยช่วยเหลือห่วงใย มอบความหมายของคำว่าเพื่อน และตลบหลังเขาได้ทรมาณสาหัสมากที่สุด
"ฉันแพ้แล้วพี่ชาย"
หยิบปืนพกในกระเป๋าข้างกายมาพิจารณา ความมันวาวสะท้อนต้องแสงไฟจนดวงตาพร่ามัว เขาแค่นหัวเราะกับตัวเอง พลางบรรจุกระสุนหนึ่งนัดที่มีใส่ลงไป
จะโทษใครได้เล่า..
นอกจากใจเขาที่ไม่อาจขาดร่างบางได้...
ปัง!
ฟง(คนแต่ง) : แต่ง 1827 ทีไร วนเข้าดาร์กไซด์ทุกทีเลยค่ะ
นักอ่าน : นั่นแหละ ของโคตรดี *ซู้ด*
นักอ่าน : ทำไมแต่งช้าจัง
ฟง(คนแต่ง) : ก็ไม่คิดว่าจะมีคนมาอ่าน เลยไม่ได้แต่งสำรองไว้ค่ะ
ต้องปั่นเพิ่มทุกครั้งที่มีคอมเม้นกับเฟบ *หลบตา*
นักอ่าน : *จ้อง*
ฟง(คนแต่ง) : อันที่จริงคือติดเกมจีบหนุ่มค่ะ
Talk
with (Fong)Writer
ยอมรับค่ะว่าแชปนี้สั้นมาก
เนื่องเพราะแต่งตามอารมณ์ล้วนๆไม่มีการวางแผนแบบร่างโครงเรื่องใดๆ
เหมือนแชปอื่นๆ แต่เรื่องสั้นทั่วไปความยาวเท่านี้กำลังพอดีสินะคะ..? *กระแอม* อีกอย่างคือแต่งในโทรศัพท์มือถือค่ะ ยังไม่ได้ผ่านการตรวจทานมาก
อาจมีบางจุดติดขัดทักได้นะคะ
ยังไม่เคยมาพูดคุยกับผู้อ่านจริงๆจังเลย
สวัสดีค่ะชื่อฟงค่ะ ส่วนตัวชอบให้เรียกชื่อมากกว่าคำว่าไรต์
ขอบคุณที่ชื่นชอบในผลงานของนักแต่งเอาแต่ใจอย่างฉันนะคะ ถึงแม้จะลงช้ามากก็ตามที (ฮา)
หวังว่าทุกท่านจะมีความสุขกับงานของฉันเช่นเดียวกับฉันที่มีความสุขที่ได้เห็นคอมเม้นของทุกท่านนะคะ รัก
ฟง จิ้งจอกสีชาด
ความคิดเห็น