ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ KHR reborn ] short fic 1827 5927 6927 2718 X27 G27 10027 127 8027 R27 0027 All27

    ลำดับตอนที่ #4 : 6927 คำลวง [END]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.4K
      96
      1 พ.ค. 62

    T
    B

              


      Chapter THREE คำลวง



               สึนะขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ดวงตาสีเปลือกไม้ลอกแล่กมองเหล่าผู้พิทักษ์ของตนเองด้วยความไม่คุ้นเคย กลัว..  เขาไม่เคยเห็นสีหน้าเช่นนี้ของทุกคนมาก่อน..

     

     

               ยามาโมโตะที่มีรอยยิ้มน่าหวาดหวั่น...

     

     

               คุณพี่ที่เกรี้ยวกราดกว่าครั้งไหนๆ...

     

     

              แรมโบ้น้องน้อยที่ไม่ส่งเสียงพูดกับใคร..

     

     

               โคลมที่ดูหวาดกลัวจนเกินไป...

     

     

               และ...

               .

               .

     

               ดวงตาเรียบนิ่งของโกคุเดระที่มองทะลุตรงมายังเขา นิ่งสนิทดั่งความสงบก่อนพายุลูกใหญ่...

     

     

     

     

     

     

     

     

               เพล้ง!

     

     

     

     

     

               ภาพตัดเปลี่ยนอีกครั้งเป็นเหตุการณ์ในพิธีสืบทอดตำแหน่ง เสียงกระจกที่แตกเป็นดังระฆังลั่นให้สัญญาณ ทัดใดนั้นปลายกระบอกปืนนับร้อยพลันถูกยื่นตรงมาอย่างพร้อมเพียงที่บริเวณใจกลางลานพิธี

     

               ที่ซึ่งผู้เป็นนภารุ่นที่สิบยืนอยู่..

     

               คราวนี้จากทิวทัศน์ห่างไกลกลายเป็นภาพชัดเจนขึ้น ราวกับตัวเขาได้กลับมาอยู่ในเหตุการณ์เดิมอีกครั้ง

     

               เพื่อมองดูความจริงผ่านทางสายตาตนเอง..

     

     

               ชายหนุ่มที่ยังคงมีอาการสับสนเหลียวหลังมองผู้พิทักษ์ตนอย่างช้าๆ

     

     

     

     

               พลั่ก!

     

     

               “อึ่ก! กะ.. โกคุเดระคุง

     

               สึนะส่งเสียงครางอย่างเจ็บปวดเมื่อถูกผลักให้ล้มลงไปกองกับพื้นโดยมีอีกฝ่ายกดแขนเขาไว้จากด้านบนเป็นพันธนาการ ทั้งสับสน.. และหวาดระแวง..

     

               “ไม่ใช่..

     

               โกคุเดระบ่นพึมพำกับตัวเอง

     

               “นี่มันเรื่องอะไรกัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่.. ยามาโมโตะ เกิดเรื่องอะไรไยไม่บอก.. ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด  ตนทำผิดอันใดมิเข้าใจ.. เรียกหาหวังไขข้อข้องใจกลับไร้คำตอบจากพิรุณ...  

     

                เขากวาดสายตาพลางเรียกเหล่าผู้พิทักษ์ของเขาทีละคน.. ทีละคน..

     

                แต่สิ่งที่ได้รับล้วนไม่แตกต่างกัน

     

                ไม่ทันได้เรียบเรียงความคิดแขนที่ถูกกดไว้ก็ถูกเพิ่มแรงมากยิ่งขึ้นจนเจ้าตัวหลุดเสียงร้องครางด้วยความเจ็บปวด สึนะตวัดสายตากลับไปหาอีกฝ่ายอีกครั้ง พริบตานั้นเขารู้สึกเหมือนถูกทุบหัวด้วยค้อนหนัก ร่างกายชะงักค้างลืมความเจ็บปวด สมองตื้อจนคิดอะไรไม่ออก เมื่อสบตากับดวงตาสีเขียวมรกต

     

     

     

               ทว่า..อีกข้างนั้นแปรเปลี่ยนเป็นสีแดง

     

     

     

                “รุ่นที่สิบน่ะ ไม่ใช่แก

     

               สึนะหลือบมองเหล่าผู้พิทักษ์คนอื่นด้วยความร้อนรน ไม่นะ.. สิ่งที่ปรากฏแก่สายตายิ่งทำให้ชายหนุ่มตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ดวงตาสีแดงสัญลักษณ์การควบคุมร่างของสายหมอก

     

                กระบอกปืนสีดำสนิทจ่อแนบหลังศีรษะ เสียงปลดห้ามไกดังเบาๆ เหมือนนาฬิกานับถอยหลังสู่ความตาย สึนะหลับตาลง.. บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่มุคุโร่ตั้งใจจะบอก.. ถ้าไม่ใช่ร่างรุ่นที่สิบ ก็ยึดร่างพวกพ้องทุกคนแทน..

     

     

     

     

               เปรี้ยง!

     

     

     

               เสียงปืนดังลั่นท่ามกลางความสับสนวุ่นวายสึนะมองเห็นรอยเขม่าจากลูกกระสุนที่ฝันอยู่กับพื้นข้างหัวเขา สัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อนของเลือด..

     

               โกคุเดระผละออกจากการจับกุมบอสรุ่นที่สิบมากุมบาดแผลลึกบนหัวไหล่ ชายหนุ่มกัดฟันแน่นข่มความเจ็บปวดก่อนจะตวัดสายตาไปยังผู้มาใหม่ ทำไมแกถึงอยู่นี่ ฮิบาริ

     

                เสียงเย่อหยิ่งหลุดครางหัวเราะในลำคอ ชั่วขณะนั้นความเจ็บปวดแล่นริ้วขึ้นขมับบอสหนุ่มจนปวดไปหมด สึนะเสียการทรงตัว ความเจ็บปวดที่เหมือนกับเมื่อตอนนั้น.. ศึกชิงแหวนที่สายหมอกปรากฏตัวออกมา.. ทำให้เสียงบทสนทนาของทั้งสองฝ่ายไม่เข้าหูเจ้าตัวเลยสักนิด ฮิบาริโยนปืนที่ถูกลั่นไกเมื่อครู่นี้ทิ้งราวกับมันไม่มีค่าอะไร ก่อนจะหยิบทอนฟาซึ่งเป็นอาวุธประจำกายตนออกมา คิดว่าฆ่าผมได้แล้วงั้นสิ

     

               “งั้นเหรอ..โกคุเดระตอบรับ อดีตผู้พิทักษ์เมฆาทรยศ ฆ่ามันไปพร้อมกับซาวาดะ สึนะโยชิเลย!”

     

     

     

     

     

     

     

     

               “แฮ่กๆสึนะนั่งหอบหายใจหนักหลังจากพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะกับคนนับร้อย แฟมิลี่ที่เขารักกลับหันปืนใส่กัน..

     

               ฮิบารินั่งอยู่ไม่ห่างจากเขา อีกฝ่ายดูเหนื่อยล้าเกินกว่าจะสนใจเรื่องการเว้นระยะห่างกับเขาตามนิสัยคนเกลียดการสุมหัว มือเรียวปาดเลือดที่กระเซ็นติดหน้าตนเองออกลวกๆ ด้วยท่าทีหงุดหงิดปนรำคาญ คุซะ ข้างนอกเป็นอย่างไรบ้าง..”  ชายหนุ่มพยายามติดต่อลูกน้องคนสนิทผ่านทางวิทยุที่ติดอยู่ข้างหู แต่เสียงที่ตอบมามีเพียงเสียงคลื่นที่ดังจนน่ารำคาญเท่านั้น

     

               สึนะจมอยู่กับความคิดตัวเองเนิ่นนาน ก่อนจะได้สติเมื่อสัมผัสโลหะหนักเย็นเยียบบนฝ่ามือตน อาวุธสีดำสนิทมัจจุราชคร่าชีวิตที่เขาคุ้นเคยดี

     

               “ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการดวงตาสีรัตติกาลสบมองดวงตาของอีกฝ่าย

     

               สึนะเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะพยักหน้ารับอย่างช้าๆ ดวงตาสีเปลือกไม้หม่นแสงอย่างไม่มั่นใจตัวเอง ถึงอย่างนั้นก็ยังมีประกายความมุ่งมั่น เขารู้ดีอยู่แล้ว.. เส้นทางนี้มันเต็มไปด้วยความโหดร้ายและการเข่นฆ่า

     

               ฮิบาริลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ผมจะไปจัดการทุกอย่างให้จบ อยู่ที่นี่ล็อคประตู อย่าให้ใครเจอเด็ดขาด

     

               เจ้าตัวไม่รอฟังคำตอบผุดลุกออกไปทันทีอย่างเร่งรีบ เมื่อสิ้นเสียงล็อคประตู สึนะจึงผ่อนคลายอาการเกร็งลง เขาเงยหน้ามองเพดานสลับกับปืนในมืออย่างใช้ความคิด ไม่ได้จับอาวุธต่อสู้เองแบบนี้มานานกี่ปีแล้วนะ..?  ถุงมือก็ไม่มี ต่อสู้ก็ไม่ถนัด ขืนครูพิเศษเขารู้มีหวังโดนฆ่าเป็นแน่แท้..

     

               ยามต้องการที่พึ่งพิงก็นึกถึงแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่าย ความรู้สึกมากมายก่อรวมกันจนไม่อาจกั้นทำนบน้ำตาไว้ได้ เวลานี้นายอยู่ที่ไหนกัน.. รีบอร์น...

     

     

     

     

     

                ก๊อก ก๊อก..

     

     

                เสียงเคาะประตูดังขึ้นท่ามกลางความคิดของชายหนุ่ม สึนะปาดน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างเร่งรีบก่อนจะรีบลุกไปเปิดประตูให้คนที่รออยู่อีกฟาก คุณฮิบาริกลับมาเร็วจัง..

     

     

     

     

                แต่ชายหนุ่มคงหลงลืมไป...

     

     

     

     

                แอ๊ด..

     

     

     

     

                ว่าผู้พิทักษ์เมฆาเพิ่งออกไปไม่ถึงห้านาที

     

     

     

     

                หมับ!

     

     

     

     

                สึนะส่งเสียงครางอย่างเจ็บปวดเมื่อถูกอีกฝ่ายกระชากคว้าลำคออย่างรุนแรง แล้วผลักไปกระแทกขอบระเบียงเพื่อกันทางหนี ชายหนุ่มเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด สองมือปัดป่ายพยายามดิ้นรนแต่มิอาจสู้แรงของชายผมเงินแม้แต่น้อย สึนะมองอีกฝ่ายอย่างสับสน ใบหน้าฉายแววเว้าวอนให้หยุดการกระทำเสีย ยิ่งมองเห็นเลือดที่ไหลไม่หยุดจากปากแผลของคนสนิทที่มีสีหน้าราวกับไม่รู้สึกถึงบาดแผลนั้นยิ่งทำให้นภาเศร้าหมอง เจ็บหรือเปล่าโกคุเดระคุง.. นายทำแบบนี้ได้อย่างไร มุคุโร่..

     

                บอสรุ่นที่สิบละมือข้างหนึ่งมากระชับปืนในเสื้อ แต่ภาพรอยยิ้มของวายุที่โผล่ขึ้นมาทำให้เจ้าตัวขาดความเด็ดขาด สุดท้ายก็กลับมาจับแขนที่บีบคอตนอยู่ ไม่คิดจะนำมันออกมาใช้ ขอโทษครับ คุณฮิบาริ ผมมันห่วยจริงๆ...

     

                ชั่วขณะที่สติของเขาเริ่มพร่าเลือน ลมหายใจขาดห้วง สายหมอกพลันปกคลุมทั่วร่างอีกฝ่าย แว่วเสียงหัวเราะน่าขนลุกดังผ่านมา ลางสังหรณ์ชายหนุ่มไหวตัวจนเริ่มปวดหัวอีกครั้ง กำลังมา.. หมอนั่นกำลังมา... ทันใดนั้นราวกับมีกระแสลมที่มองไม่เห็นโหมกระหน่ำเข้ามา สุดท้ายโกคุเดระก็ปล่อยมือจนร่างของเขาลอยปลิวร่วงลงตกสู่พื้นเบื้องล่าง

              

     

     

     

     

     

     

                ตึก.. ตึก..

     

     

     

     

     

                เสียงฝีเท้าดังก้องแทรกเข้ามาในโสตประสาท สึนะกลับกลายมาเป็นผู้ชมอีกครั้งชายหนุ่มยังคงสับสนกับภาพเหตุที่ถูกตัดไปมา แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็เลือกที่จะเมินมันและกลับมาตั้งสติอีกครั้ง เขาเห็นผู้ชายสองคนกำลังเดินตรงมาที่ที่เขายืนอยู่ แต่ชั่วพริบตาก็ถูกเจ้าของนัยน์ตารัตติกาลใช้ทอนฟาฟาดสลบโดยไม่ทันรู้ตัว ฮิบาริเดินข้ามคนเหล่านั้นไปอย่างไม่แยแส ทะลุผ่านผู้เป็นนภาที่เป็นเพียงอากาศธาตุ มุ่งตรงสู่เบื้องหน้า สุดทางเดินนั้น.. คือประตูห้องที่ซึ่งเป็นเขตหวงห้ามเฉพาะคนระดับสูง ห้องของผู้เป็นบอสรุ่นที่สิบ...

     

                ไงฮิบาริ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ถึงจะเพิ่งเจอกันไปก็เถอะ..เสียงร่าเริงของยามาโมโตะร้องทัก ท่ามกลางห้องที่มืดสนิทจนมองไม่เห็นสิ่งใด ใบหน้ายิ้มร่าหาได้รู้สึกรู้สากับคราบเลือดและจิตสังหารที่แผ่มาไม่

     

                แหวนอยู่ไหน

     

                นายนี่พูดจาตลกจัง แหวนก็ต้องอยู่กับรุ่นที่สิบสิชายหนุ่มเอ่ยตอบพร้อมกับดึงผ้าม่านทึบออก แสงที่สาดเข้ามาจ้าจนฮิบาริต้องยกแขนมากัน เมื่อสายตาชินกับแสงภาพที่ปรากฏก็คือเหล่าผู้พิทักษ์ที่ยืนห้อมล้อมพร้อมทั้งอาวุธประจำตัว เซอร์ไพรส์!” ผายมือราวกับศิลปินที่กำลังเสนอผลงานชิ้นเอก

     

                กล้าดียังไง..ฮิบาริเค้นเสียงชายหนุ่มโกรธเลือดขึ้นหน้าจนแทบจะอาละวาดเสียให้รู้แล้วรู้รอด มือกำทอนฟาแน่นจนมือขึ้นข้อขาว

     

     

     

     

     

     

                    ที่ตรงนั้นเป็นที่นั่งของซาวาดะ สึนะโยชิ! ของสึนะโยชิเท่านั้น!!

     

     

     

     

     

     

                ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? ก็ฉันเป็นผู้ถือครองแหวนนี่โกคุเดระถามกลับพลางยกมือแสดงแหวนนภาให้อีกคนที่พยายามข่มอารมณ์

     

                ฮิบาริพ่นลมหายใจราวกับรำคาญเต็มทน หนีมาไวเสียจริงนะเพียงเท่านั้นก็ทำให้อีกฝ่ายชะงัก

     

                พูดอะไรของแกน่ะซาซางาวะ เรียวเฮพูดขัด สองมือยกขึ้นกำหมัดตั้งท่าพร้อมต่อสู้ ในขณะที่โคลมเริ่มเกิดอาการวิตกหัวใจเธอเต้นรัวแรงยามจับจ้องมองดวงตาสีดำสนิทของอีกฝ่าย แต่เมื่อรู้สึกถึงกระแสความไม่พอใจจากผู้สวมแหวนนภาหญิงสาวจึงข่มตารวบรวมสมาธิ แม้ความจริงอาจเป็นการหลบนัยน์ตารัตติกาลคู่นั้น

     

                 และเมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง ฉับพลันดวงตาของเหล่าผู้พิทักษ์ก็แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงสด ตัวอักขระกลางนัยน์ตาสำหรับเมฆาแล้วมันช่างน่าขยะแขยงสิ้นดี

     

                หึ  เข้าใจคิดดีนี่ ฮิบาริแสยะยิ้ม ทอนฟาในมือที่คราบเลือดเกรอะกรังถูกกระชับเตรียมพร้อมรับรสเลือดอีกครั้ง จะฆ่าให้หมด

     

     

     

     

     

     

     

     

                สึนะลืมตาตื่นกลับมาในโลกแห่งความเป็นจริง สัมผัสเปียกชื้นมากมายที่หางตาทำให้รู้สึกหวั่นใจ อา.. นี่เขาร้องไห้ไปมากมายแค่ไหนกัน พยายามข่มตากัดปากอดกลั้น ฝืนกลืนก้อนสะอื้นที่มาอีกระลอกอย่างยากลำบาก

     

     

     

                       แม้จะไม่มีใครก็ยังอดกลั้น ไม่อยากให้ตัวเองรับรู้ ไม่อยากให้คนที่เฝ้ามองตนอยู่ต้องได้ยิน ในยามนี้ตัวเขาช่างอ่อนแอเหลือเกิน...

     

     

     

                สัมผัสบางเบาราวปุยนุ่นทั่วใบหน้าเรียกชายหนุ่มให้ลืมตาอีกครั้ง ไม่เป็นไรนะครับ..ว่าพลางจูบซับน้ำตาพรมทั่วใบหน้าแผ่วเบา ราวกับหวาดกลัวว่าร่างเรือนผมสีน้ำตาลจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ ดวงตาต่างสีสั่นเครือพยายามอดกลั้นน้ำตาที่ใกล้เอ่อล้นเต็มที

     

                เงานัยน์เนตรและเรือนผมรัตติกาลซ้อนทับร่างของเจ้าของดวงตาต่างสี เพียงเท่านั้น ทำนบน้ำตาที่สึนะพยายามอดกลั้นไว้ก็พังทลายลงอย่างง่ายดาย สึนะเอื้อมคว้ากอดชายแน่นราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะจากตนไปตลอดกาลเหมือนทุกคน ฝ่ายร่างสูงก็กอดตอบพลางลูบหัวปลอบประโลมไม่ห่าง

     

                เป็นนายจริงๆ สินะ คนที่อยู่ข้างฉันมาตลอด สึนะพูดเสียงสั่นเครือ ขอบคุณที่รักษาสัญญา

                

                เพราะคุณเป็นคนสำคัญของผม ดวงใจของผมมุคุโร่ตอบพลางพรมจูบใบหน้าบางอย่างรักใคร่

     

                สึนะหลับตาลง รับจุมพิตหวานที่ทวีคูณความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ อกร้อนผ่าวราวกับมีไฟสุม ร่างบางเอนกายลงทาบทับด้วยกายใหญ่ เสื้อผ้าอาภรณ์หลุดหายไปเสียตอนไหนไม่อาจรู้ได้ รับรู้เพียงหมอกหนาที่ปกคลุมรอบกาย เสียงลมหายใจที่ดังข้างหูและดวงตาต่างสีที่สะกดไม่ให้เขาสะลายตาไปทางอื่น..

     

                หอกสามง่ามถูกเรียกมาในมือเจ้าของ กรีดลงมือบางที่แบรับอย่างเต็มใจ หยาดเลือดสีชาดหยดลงแผ่กระจายบนเตียงขาวสะอาดเป็นวงกว้าง เสียงร้องครางของอดีตผู้เป็นนภา จังหวะรักอ่อนหวานแต่แฝงไปด้วยความต้องการอันท่วมท้น ร่างกายทั้งสองที่รวมเป็นหนึ่ง จากนี้จะไม่มีใครพรากพวกเขาออกจากกันอีก

     

     

     

     

     

    พันธสัญญามอบร่าง เสร็จสมบูรณ์

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Talk  with writer

     

     

    *ความในใจของโกคุเดระ*  ตอนที่แล้วก็ตาย ตอนนี้ตายไม่พอเป็นตัวร้ายอีก จะไม่มีบทดีๆให้เลยใช่ไหม...

     

            ในมังงะหรืออนิเมะช่วงแรกๆที่โกคุเดระปรากฏตัวเราจะเห็นอยู่นะคะว่าเขามีความต้องการจะเป็นผู้สืบทอดวองโกเล่และคิดจะฆ่าสึนะจริงๆ ถ้าไม่ดันบ๊องทำระเบิดร่วงเสียก่อนจนได้สึนะเป็นผู้มีพระคุณแทน

     

          ฮิบาริตัวประกอบเกรดเอ—

     

    ปล. ให้ทายค่ะว่ามุคุโร่ตุ้งแช่มาช่วยสึนะแบบไหนกันแน่

     

     

    ScarletFoxxz

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×