ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ KHR reborn ] short fic 1827 5927 6927 2718 X27 G27 10027 127 8027 R27 0027 All27

    ลำดับตอนที่ #12 : R27 บทเรียน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.03K
      133
      2 พ.ค. 62

    B
    E
    R
    L
    I
    N



     

     

    Chapter NINE บทเรียน

     

     

                

    หลงไหลวังวนความลุ่มหลง ดำดิ่งในโคลนตมยากลึกเกินถอนตัว

     

     

     

     

                อิตาลียามค่ำคืนเป็นสถานที่สวยงามเหมือนฝัน หากในเบื้องลึกย่อมรู้แก่ใจว่าซุกซ่อนความเลวร้ายไว้มากเพียงใด ไร้ซึ่งมิตรแท้ กระหายซึ่งอำนาจและพร้อมกดขี่ผู้อ่อนแอ นั่นคือสิ่งที่อิตาลียามค่ำคืนแท้จริงเป็น

     

                ประตูบาร์เปิดออกกระดิ่งร้านส่งเสียง ความวุ่นวายหยุดชะงักทุกสายตาล้วนจับจ้องผู้มาใหม่

     

                ตึก ตึก...

     

                จังหวะเดินเชื่องช้าเป็นท่วงทำนองสม่ำเสมอ ร่างสูงภายใต้สูทสีดำสนิททรุดกายลงนั่งบนโซฟาตัวหนึ่งในมุมอับสายตา กาแฟที่เจ้าตัวสั่งช่างขัดแย้งกับกลิ่นแอลกอฮอล์คละคลุ้งภายในร้าน ความเงียบสงบเกิดขึ้นอย่างน่าประหลาด คนในโลกมืดย่อมรู้ความเหี้ยมโหดของบุคคลชุดดำที่ซึ่งไม่ควรข้องเกี่ยวเป็นอย่างดี

     

                โซฟาด้านหลังมีใครบางคนนั่งไม่ห่าง มือเหี่ยวย่นยกแก้วเตกิล่าสีอำพันขึ้นเชยชมกลิ่นดื่มชิมอย่างละเมียดละไม

     

                สมกับเป็นเหล้าผิดกฎหมาย รสชาติแรงบาดคอจริงๆ”

     

                แก้วกระทบโต๊ะก้องกังวาน เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นลอยๆคล้ายบ่นเพียงลำพัง หากแต่บุคคลที่นั่งหันหลังประชิดรู้ดีว่าเอ่ยกับตน บรรยากาศผ่อนคลายที่แผ่มาจากชายสูงวัยช่วยปัดเป่าความกดดันจากชายชุดดำให้คนในร้านพอมีโอกาสหายใจหายคอ

     

                สนใจลองหน่อยไหม วา..”

     

                ฉันทิ้งชื่อนั้นไปแล้ว”

     

                เสียงทุ้มสวนขึ้นทันควัน

     

                โอ้... อย่าถือสาฉันเลย รีบอร์น คนแก่มักหลงลืม”

     

                ที่เรียกมามีธุระอะไรกันแน่”

     

                ชายหนุ่มก้มมองแก้วกาแฟในมือ ไม่ใส่ใจคู่สนทนา ดวงตาคู่คมฉายแววกร้าว

     

                อยากให้ฉันไปเป่าหัวใครบางคนงั้นหรือรุ่นที่เก้า”

     

                มากกว่านั้น”

     

                ชายชราส่งเสียงหัวเราะเบาๆ ทิ้งคำพูดสุดท้ายก่อนเดินจากไป

     

     

                ไม่ลองละมือจากการเข่นฆ่า มาเฝ้ามองการเติบโตดูบ้างล่ะ”

     

     

                ชายหนุ่มไม่อาจเข้าใจความนัย และไม่คิดจะเก็บคำพูดนั้นมาใส่ใจสักนิดเดียว....

     

     

     

     

     

                เสียงหมัดกระทบเนื้อรุนแรงสลับกับเสียงครางเจ็บปวด ชายหนุ่มอ้าปากหอบ กระบังลมปวดเกร็งจนหายใจลำบากจากการถูกอัดมาเต็มรัก อาการบาดเจ็บและแผลปริแตกทั่วร่างพาลให้ร่างกายอ่อนล้าเต็มที

     

                ได้โปรดครับคุณรีบอร์น ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ”

     

                เขาส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อขาถูกเท้าของอีกฝ่ายเหยียบขยี้ซ้ำรอยกระสุน

     

                เลยตอบแทนวองโกเล่ที่เลี้ยงดูอุ้มชูแกมาตลอดด้วยการเป็นสายให้ศัตรูงั้นสิ”

     

                เมื่อไม่มีเสียงตอบรับเหล่าลูกน้องจึงเตะอัดใบหน้าเรียกสติอีกครั้ง

     

                ว่ายังไง”

     

                นักฆ่าแห่งวองโกเล่ถามย้ำ เขาเป็นคนไม่ชอบการลีลาดังนั้นปืนที่ปลดห้ามไกจึงจ่อแนบหัวอีกฝ่ายพร้อมลั่นได้ทุกเวลา

     

                มะ มันจะทำร้ายคนในครอบครัวผมถ้าหากผมไม่ทำ ขอโทษครับ! ผมขอโทษ...”

     

                รีบอร์นค่อยๆหลับตา ปืนในมือถูกลดลง

     

                ฉันเข้าใจ”

     

                คำพูดนั้นราวกับเป็นเสียงสวรรค์ต่อผู้สดับฟัง ชายหนุ่มแย้มยิ้มยินดีเอ่ยขอบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่เลย....ดุจมัจจุราชเขาเผยรอยยิ้มกว้างเมื่อสดับฟัง

     

                พาลูกเมียมันเข้ามา”

     

                อะไรนะ? ไม่!! ผมขอร้อง!”

     

                พยายามดิ้นสุดแรงที่มีแต่ก็ไม่อาจขัดขืนแรงชายฉกรรจ์ที่กดทับตัว

     

                พ่อฮะ!..”

     

     

                ปัง! ปัง! ปัง!

     

     

                เสียงกระสุนปืนดังกระหน่ำ ปลิดชีวิตครอบครัวผู้หลงผิดให้ดับสิ้นอย่างอเนจอนาถ ชายหนุ่มขยับปีกหมวกกระชับเสื้อสูทให้เข้าที่ ก่อนจะเดินข้ามผ่านซากไร้วิญญาณนั้นโดยไม่ไยดี

     

     

     

                ยามเมื่อก้าวมาในโลกยามค่ำคืนก็อย่าหวังว่าจะออกไปได้ง่ายดาย เพราะอิสระต้องจ่ายด้วยชีวิต

     

     

                เหนือสิ่งอื่นใดหากนำภัยมาสู่วองโกเล่ไซร้ สิ่งแลกเปลี่ยนนั้นเท่าทวีคูณ...

     

     

     

                หิมะแรกของฤดูตกแล้ว ชายหนุ่มทอดสายตามองผ่านกระจกรถ มันค่อยๆหล่นลงมาราวกับจะปิดทับมลทินของประเทศนี้ให้ขาวสะอาด ทว่า...แม้ภายนอกงดงามเพียงใดใต้เนื้อในยังคงเน่าเฟะ เมื่อหมดเวลาหิมะคงจางไปเผยความต่ำตมที่ซุกซ่อนเอาไว้ เปรียบดั่งจิตใจของมนุษย์

     

                คุณรีบอร์นครับ มีการติดต่อจากปราสาทวองโกเล่ รุ่นที่เก้าต้องการให้คุณไปพบเดี๋ยวนี้ครับ”

     

                ชายหนุ่มหลุบตาต่ำ เป็นตาแก่ที่เอาแต่ใจซะจริง คิดบ่นไปมาแต่ก็ไม่ได้โกรธเคืองจริงจังนัก

     

                เปลี่ยนเส้นทาง ไปปราสาทวองโกเล่”

     

                ที่แห่งนี้เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง รีบอร์นรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณอย่างล้นหลาม ทุกสิ่งที่สถานที่นี้มอบให้คือที่ชีวิตใหม่ เขาอุทิศทุกสิ่งเพื่อความรุ่งเรืองของวองโกเล่ ยินยอมมือเปื้อนเลือดเพื่อกำจัดผู้ที่คิดทำลายแฟมิลี่ที่รักของตน

     

                แต่ในบางครั้งเขาก็ตระหนักได้ว่า..

     

                ชีวิตที่เริ่มต้นใหม่โดยไร้ซึ่งทุกสิ่งนั้น มันกลับรู้สึกว่างเปล่าทุกครั้งที่ถลำลึกลงไป ราวกับชีวิตไม่ใช่ชีวิต

     

     

                เขาไม่แน่ใจแล้วว่าบ้านหลังนี้ยังเป็นที่พักพิงใจตนได้อยู่หรือไม่ ในมือดวงใจเขาไร้ซึ่งความสุข...

     

     

                ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”

                

                ถ้าความจำฉันสมบูรณ์ดี นายเพิ่งเรียกฉันไปคุยเรื่องไร้สาระเมื่อสัปดาห์ก่อน”

     

                เขาหมายถึงตอนที่พบกันในบาร์คราวนั้น

     

                สำหรับฉัน นั่นก็นานแล้ว”

     

                รุ่นที่เก้าหัวเราะชอบใจ ไม่ลืมผายมือเชื้อเชิญอีกฝ่ายให้นั่งโซฟาตรงข้ามตน ขณะที่เหล่าผู้พิทักษ์และลูกน้องคนสนิทออกไปทำหน้าที่อารักขาด้านนอกเพื่อให้ทั้งสองมีพื้นที่ส่วนตัว

     

                ทำตัวเป็นคนแก่ต้องการลูกหลานมาเอาใจไปได้”

     

                ก็ใช่..บางทีฉันก็อยากให้พวกลูกชายมาอ้อนบ้าง”

     

                สายตาของรีบอร์นลอบเห็นบางอย่างเล็กๆเคลื่อนไหวอยู่ด้านหลังโซฟาอีกฝ่าย

     

                นั่นอะไร”

     

                ผู้ถูกถามเลิกคิ้วสงสัยก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มจนน่าประหลาด

     

                เกือบลืมแน่ะ สึนะโยชิคุงมานี่เดี๋ยวสิ”

     

                ร่างนั้นสะดุ้งเมื่อถูกเรียกก่อนจะโผล่เสี้ยวหน้ามามองเล็กน้อยด้วยความหวาดหวั่น ใช้เวลาครู่ใหญ่จึงยอมเดินเตาะแตะมานั่งตักชายสูงวัย

     

                รีบอร์นมองตามเด็กชายอย่างพิจารณา เส้นผมชี้ฟูสีน้ำตาลเข้มกับดวงตากลมโตสั่นๆคล้ายจะร้องไห้อยู่รอมร่อ โครงหน้าทางตะวันออกผิวขาวนวลตัดกับพวงแก้มสีเลือดฝาด อาการตื่นกลัวทุกครั้งที่เผลอสบตาทำเอาชายหนุ่มถอนหายใจอย่างหน่ายๆ อ่อนแอจนดูไม่น่ามีชีวิตได้เพียงลำพัง

     

                ขอแนะนำ นี่คือซาวาดะ สึนะโยชิคุง ผู้สืบทอดวองโกเล่ลำดับที่สี่”

     

     

                ดวงตาเขาเบิกกว้างเมื่อได้ฟัง

     

     

                อย่ามาเล่นตลก”

     

                ฉันพูดจริง”

     

                ฉันไม่ยอมรับเด็ดขาด”

     

                ชายหนุ่มตวาดกร้าวจนเด็กชายสะดุ้งโหยงพลางซุกหน้ากับอกกว้างใหญ่ มือเหี่ยวย่นลูบศีรษะเล็กเบาๆเพื่อปลอบประโลม

     

                ไม่เป็นไร..ปู่อยู่นี่”

     

                ทอดสายตามองอย่างเอ็นดูขณะเอ่ยคำถาม

     

                เคยได้ยินนามสกุลซาวาดะใช่ไหม”

     

                นามสกุลเจ้าอิเอมิสึ”

     

                ลูกชายเขาน่ะ”

     

                 รุ่นที่เก้าฮัมเพลงกล่อมเด็กน้อยเบาๆ เมื่อคลายหวาดกลัวความง่วงก็เข้ามาแทนที่ ไม่นานก็ผล็อยหลับง่ายดายตามประสาเด็ก

     

                แล้วทำไมเจ้านั่นไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยลูกมาวิ่งเล่นถึงในปราสาทวองโกเล่”

     

                 บ่นอุบอิบถึงอดีตคู่หูผู้มีศักดิ์เป็นผู้ดูแลนอกแก๊ง เจ้าบ้าอิเอมิสึกลับมาต้องโดนปืนฟาดหน้าสักที

     

                 ใบหน้าผ่อนคลายของโนโน่แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม แววตาแสดงความหนักใจเห็นได้ชัดจนคนถามสัมผัสได้

     

                นั่นคือเหตุผลที่ฉันเรียกนายกลับมา”

     

                เกิดอะไรขึ้น?”

     

                 ชายชราขมวดคิ้ว พูดเสียงเบาคล้ายเกรงว่าร่างในอ้อมอกจะได้ยิน

     

     

                เป็นข้อมูลลับ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนคนของตระกูลซาวาดะถูกลอบสังหาร” เว้นจังหวะสูดลมหายใจ “มีเพียงเด็กคนนี้ที่รอด”

     

     

                 ความจริงที่ได้ยินทำเอาบรรยากาศรอบห้องหม่นหมองไปหมด รีบอร์นสบตาอีกฝ่ายอย่างต้องการคำยืนยันที่แน่ชัด แต่ดวงตาที่ส่งกลับมาก็ตอกย้ำความจริงจนสมองตื้อไปหมด

     

                 มันเป็นเรื่องธรรมดาในโลกกลางคืน แต่พอเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัวก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแย่ มนุษย์ช่างลำเอียงเสียจริง

     

                แล้วคิดจะลากเด็กแค่นี้มาอีกฝั่งแถมวางตำแหน่งใหญ่โต ต้องการจะให้ตายอีกคนหรือไง”

     

                 มือหนาลูบใบหน้าตัวเองพลางทอดถอนหายใจแรงขณะตั้งคำถาม

     

                พ่อแม่ก็ตายจะไปทำอะไรได้ มีชีวิตเองจะรอดหรือเปล่ายังไม่รู้เลย”

     

                ดังนั้นฉันถึงอยากให้นายเป็นคนจัดการไงล่ะ”

     

                 รีบอร์นขมวดคิ้วมุ่น ส่งเสียงครางอย่างไม่พอใจ

     

                อะไรนะ”

     

                นี่เป็นคำสั่งจากนี้ไปนายต้องกลับมาประจำที่ปราสาทวองโกเล่ในฐานะครูสอนพิเศษของผู้สืบทอดตำแหน่งรุ่นที่สิบ

     

                 ชายชราเว้นจังหวะดูท่าทีอีกฝ่าย

     

                ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น สึนะโยชิต้องเป็นหนึ่ง จงสาบานจะปกป้องด้วยชีวิต!

     

                 เป็นจังหวะประจวบเหมาะสิ้นเสียงนั้นเด็กน้อยก็ลืมตาตื่น

     

     

                 โครม! เพล้ง!?

     

     

                 โต๊ะถูกถีบล้มลงกับพื้น แก้วกาแฟและแจกันดอกไม้ร่วงแตกส่งเสียงดังจนคนเพิ่งตื่นสะดุ้งโหยง สึนะโยชิเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยความหวาดกลัว ดวงตาสีดำสนิทกับชุดสูทมองเหยียดหยาม บรรยากาศกดดันราวกับลำคอถูกบีบด้วยดวงตาคู่นั้น กลัว.. เด็กน้อยร้องไห้เสียงดังพยายามซุกอ้อมกอดอุ่นที่คอยลูบปลอบ

     

                รุ่นที่เก้า! คุณรีบอร์น! เป็นอะไรหรือเปล่าครับ!?”

     

                 เหล่าผู้พิทักษ์และบอดี้การ์ดกรูเข้ามาทันทีที่ได้ยินเสียงดังเมื่อครู่ รีบอร์นเดาะลิ้นเดินฝ่าฝูงคนออกไป

     

                ถึงเวลาคิดคำตอบของคำถามฉันได้แล้วล่ะ”

     

                 พูดทิ้งท้ายเตือนความจำอีกฝ่าย เขารู้ดีว่านักฆ่าหนุ่มต้องการเวลาแต่เด็กน้อยในอ้อมกอดไม่มีเวลาให้เขามากนัก

     

     

                ไม่ลองละมือจากการเข่นฆ่า มาเฝ้ามองการเติบโตดูบ้างล่ะ’

     

     

                 เพียงคนเดียวที่ไว้ใจ...

     

     

     

     

     

                บ้าบอสิ้นดี”

     

                 ลมหายใจพ่นออกเป็นไอควันจางๆ อากาศกลางคืนหนาวเหน็บจนอุณหภูมิกายเย็นเฉียบ รีบอร์นทอดสายตามองหยาดหิมะโปรยปล่อยความคิดให้เป็นอิสระ ภายใต้ปราสาทวองโกเล่ยามราตรี

     

     

                 ตึก..

     

     

                 เสียงเดินแผ่วเบาปลุกประสาทนักฆ่าให้ไหวตัว เขาปลดห้ามไกจ่อปืนตรงไปยังตำแหน่งเสียง ดวงตาฉายแววกร้าว

     

                ออกมา..ก่อนที่ฉันจะยิง”

     

                 ไม่กี่อึดใจร่างเล็กเรือนผมฟูฟ่องก็เผยตัว ก่อนจะหลุบตามองพื้นแล้วเดินเข้ามาหาช้าๆ

     

                 “....”

     

                 สำเนียงญี่ปุ่นพูดสั่นๆเสียงกระซิบ รีบอร์นขมวดคิ้วเขาไม่ได้มีปัญหากับภาษาญี่ปุ่นแต่เป็นระดับเสียงที่เบาจนฟังไม่ได้ศัพท์นั่นต่างหาก

     

                อะไร”

     

                 ตอบกลับเสียงแข็งด้วยภาษาเดียวกัน จนสึนะโยชิแหงนมองด้วยความแปลกใจก่อนจะก้มหน้างุดอีกครั้งเมื่อเผลอสบตาสีดำสนิท

     

                ขะ ขอโทษครับ...”

     

                 เขาไม่ตอบเพียงจับจ้องทุกการกระทำของเด็กตรงหน้าคล้ายจะประเมิณท่าที

     

                คุณปู่บอกว่า... จะหาคนมาอยู่เป็นเพื่อนให้ ตะ แต่ว่าคุณดูโกรธมาก ผมเลย..มา มาขอโทษ”

     

                 สึนะโยชิกัดฟันแน่นขอบตาร้อนผ่าว รู้สึก้หมือนตัวเองเป็นเหยื่อที่ถูกสัตว์ร้ายจ้องมอง เด็กน้อยรวบรวมความกล้าทั้งหมดเงยหน้าสบตาชายหนุ่มพูดสารภาพความในใจ

     

                ขอร้องอย่าโกรธคุณปู่เลยนะครับ.. คนที่ผิด ฮึก คนที่ผิดคือผมเอง...”

     

                 รีบอร์นมองร่างสั่นสู้ของสึนะโยชิด้วยความรู้สึกหลากหลาย ใบหน้านองน้ำตาแต่ดวงตาสีเปลือกไม้ยังประกายสดใสท่ามกลางความมืด

     

     

                 อา...ใช่ เขาเคยเห็นดวงตาแบบนั้นมาก่อน

     

     

     

                 ‘....’

     

     

                 เค้าโครงหน้าอันคุ้นเคยทว่านึกเท่าไรก็นึกไม่ออก

     

     

                 ‘....’

     

     

                 ใบหน้านั้นช่างแสนเลือนลางแต่บางครั้งกลับแจ่มชัดในความทรงจำ

     

     

                 ทำไมถึงไม่ได้ยิน กำลังพูดอะไรอยู่กัน

     

     

                 ‘....’

     

     

                 อีกแล้ว

     

     

                 ใครกัน กำลังเรียกชื่อเขาอยู่งั้นหรือ....

     

     

                 ‘....’

     

     

                 ทำไมถึงมีสีหน้าเศร้าสร้อยแบบนั้นกัน เพราะชื่อของเขาหรือ?

     

     

                 แล้วชื่อของเขา

     

     

                 ‘....’

     

     

                 คืออะไร?

     

     

     

     

                ลูเช่...”

     

     

                 สายลมพัดผ่าน หิมะหยุดตกแล้ว

     

     

                คุณร้องไห้..”

     

                ฉันไม่ได้ร้อง”

     

                แต่คุณตัวสั่น”

     

                 สึนะโยชิท้วง แขนเล็กๆเอื้อมไปโอบกอดรอบต้นขาชายหนุ่ม

     

                แม่บอกว่าการที่ใครบางคนยืนตัวสั่นท่ามกลางหิมะเพียงลำพัง คนๆนั้นไม่ได้หนาว แต่เขากำลังปกปิดความเศร้าของตัวเองอยู่ ดังนั้นการกอดจึงไม่ใช่แค่การมอบความอบอุ่น แต่เป็นการสื่อให้เขารับรู้ว่ายังมีเราคอยช่วยแบ่งเบาความเศร้าของเขาอยู่”

     

                 ทั้งที่ก่อนหน้ายังกลัวเขาแทบเป็นแทบตาย ตอนนี้กลับมากอดขาแถมพูดอะไรยาวเหยียดอีก พิลึกคนนัก รีบอร์นเพียงเหลือบมองเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปมองทิวทัศน์ยามค่ำคืน โดยมีสิ่งมีชีวิตเล็กๆพ่วงเกาะมา

     

                 เอาเถอะ เขาก็ไม่ได้รังเกียจนักหรอก

     

                 กลับกันเขารู้สึกอบอุ่น...

     

     

                 ราวกับใครบางคนที่จากไปนานได้ย้อนกลับมาหาอีกครั้ง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ฮึก.. อะ อื้อ!”

     

                 ชายหนุ่มกัดฟันแน่นมือกดรั้งต้นคออีกฝ่ายขณะปลดปล่อยความปรารถณา ปลายลิ้นไล่เลียทั่วแก่นกายกวาดกินหยาดน้ำขาวขุ่นราวกับเด็กน้อยที่อยากของหวาน

     

                 ผ่านไปชั่วอึดใจใบหน้าเล็กก็เป็นอิสระ เสียงสูดลมหายใจเข้าปอดดังสลับกับเสียงครางหวานด้วยแรงอารมณ์

     

                อ้าปากสิ”

     

                 มือหนาเชยคางอีกฝ่ายเอ่ยประโยคสั่งด้วยน้ำเสียงตวาดกร้าวแต่การกระทำช่างนุ่มลึกจนเผอลไผล อ้าปากแลบลิ้นที่กลืนกินจนไร้ซึ่งคราบคาวตามสั่งแต่โดยดี

     

                ดีมากสึนะ ดีมาก...”

     

                 เผยรอยยิ้มกว้างลูบหัวปลอบประโลม

     

     

                 ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ความสัมพันธ์ดำเนินมาจนถึงจุดนี้

     

     

                รีบอร์น ผม... ฮึก อยากไป”

     

     

     

                 ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สิ่งผิดบาปเหล่านี้กลายเป็นเรื่องสามัญ

     

     

                เธอไม่ควรทำแค่การอ้อนวอนนะ... รู้ไหมฉันหมายถึงอะไร”

     

                 ใบหน้าคมเล้าโลมปลายติ่งหูร่างเล็ก ลมหายใจร้อนเป่ารดจุดเร้าอารมณ์กระซิบเสียงแหบพร่าทลายสติหมดสิ้น

     

                ทำตามที่ฉันเคยสอน แล้วเธอจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ”

     

                 ดวงตาสีทมิฬลึกล้ำเกินคาดเดา รอยยิ้มเยาะมุมปาก ขณะมองร่างเล็กหย่อนกายรับความร้อนรุ่มอย่างใจเย็น....

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                สึนะโยชิคุงจะถูกถอดจากตำแหน่งผู้สืบทอดวองโกเล่”

     

                คิดจะกลับคำหรือไง”

     

                 รีบอร์นตอกกลับเสียงแข็งพลางขยับปีกหมวกบดบังใบหน้า

     

                ซันซัสกำลังตามล่าเขา โลกฝั่งนี้อันตรายเกินไป”

     

                 รุ่นเก้าเอ่ยด้วยความเหนื่อยล้าเต็มทน เขาเสียลูกชายทั้งสามไปหมดสิ้นแล้ว ครานี้จะไม่ยอมเสียสึนะโยชิไปอีก

     

                พาเขาหนีไป หนีให้ไกลจากวองโกเล่”

     

     

                 แกร่ก...

     

     

                คงไม่ได้หรอกครับคุณปู่...”

     

                 ปลายกระบอกปืนจ่อแนบขมับชายสูงวัย โนโน่เบิกตากว้างมองหลานชายตนด้วยความสับสน

     

                สึนะโยชิคุงคิดจะทำอะไรกันแน่”

     

                 เสียงฝีเท้ากระทบพื้นเป็นจังหวะเนิบนาบ ผ่านนักฆ่าหนุ่มที่กระชับอาวุธจับตาดูท่าที

     

                สืบทอดวองโกเล่ขึ้นเป็นรุ่นที่สิบ มั้งครับ?”

     

                คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะทำแบบนี้ ล้มเลิกเสียเถอะ มันอันตรายเกินไป”

     

                 สึนะโยชิยิ้มกว้างจ่อปืนยังใบหน้าอีกฝ่าย เสียงปลดลั่นไกดังขึ้นราวกับเป็นเสียงกระซิบของมัจจุราช

     

              ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ พวกลูกชายของคุณผมยังฆ่าได้ง่ายๆเลย”

     

     

                 พลั่ก!

     

     

                 ปืนพกถูกเตะปลิวออกจากมือ สึนะโยชิกัดฟันกรอดเอี้ยวตัวไปโจมตีร่างสูงในชุดสูทหากแต่เขาช้าเกินไป เข่าโดนถีบจนเสียการทรงตัวทรุดลงข้อมือทั้งสองถูกจับไขว้หลังขณะที่กายสูงใหญ่โถมตัวกดทับจนหลุดเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด

     

                ระ รีบอร์น อึก!”

     

                ช้าไป ฉันสอนแล้วไงว่าอย่าประมาทศัตรู”

     

                 เสียงราบเรียบไร้อารมณ์พูดกึ่งดุเหมือนอาจารย์ที่กำลังสั่งสอนลูกศิษย์เฉกเช่นปกติ

     

                ช่างน่าเสียดาย....”

     

                 ชายสูงวัยผุดลุกจากเก้าอี้ โน้มลงเก็บปืนที่กระเด็นมาปลายเท้า ลูกชายที่ฟูมฟักมาทั้งสามถูกเด็กชายที่รักเหมือนหลานแท้ๆทำลาย ความเจ็บปวดคับแค้นใจยากเกินจะเอ่ย เขาสูดลมหายใจเก็บซ่อนความรู้สึกขณะหันปลายปืนใส่คนเบื้องล่าง ดวงตาของสึนะโยชิฉายแววโรจน์

     

                การหักหลังเป็นสิ่งที่ฉันรับไม่ได้ที่สุด”

     

     

                 ปัง!

     

     

                 เสียงปืนดั่งสนั่น กลิ่นเขม่าปืนอบอวล ควันจางๆลอยฟุ้งจากปลายกระบอกปืน

     

                อั่ก! ทะ.. ทำไม”

     

                 กระสุนเจาะทะลุหัวไหล่ ความปวดร้าวและความร้อนแผ่ทั่วแขนจนไม่อาจขยับ เขาทรุดตัวลงมือกุมบาดแผลที่หยาดเลือดไหลไม่ยอมหยุด

     

                 สึนะโยชิหัวเราะในลำคอ ค่อยๆยันกายขึ้นยืนด้วยการประคองจากร่างสูงในชุดสูทผู้เหนี่ยวไกใส่อีกฝ่าย ดวงตาสีน้ำตาลเปลือกไม้มองเหยียดต่ำเต็มไปด้วยความแค้น

     

                ไม่ใช่คุณปู่หรือครับ ที่ทำให้ทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้”

     

     

                สึนะ ทักทายรุ่นที่เก้าสิ’

     

     

                เรียกฉันว่าปู่เถอะ สึนะโยชิคุงยินดีที่ได้รู้จัก’

     

     

                 ‘...สวัสดีครับ’

     

     

                 เปลวไฟที่ส่องสว่างอยู่ในกายเด็กน้อยทำให้ดวงตาของชายชราเบิกกว้าง

     

     

                อิเอมิสึ เด็กคนนี้ช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง’

     

     

                ใช่ครับ พวกเราถึงย้ายมาที่ญี่ปุ่น สึนะไม่ควรข้องเกี่ยวกับมาเฟีย’

     

     

                ไม่.. เด็กคนนี้จะนำความรุ่งเรืองมาให้วองโกเล่ เขาต้องได้รับการฝึกฝนที่สมควร’

     

     

                ท่านครับ ไม่เด็ดขาด ผมไม่ต้องการให้สึนะรับรู้โลกฝั่งนั้น!’

     

     

                ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าครอบครัวเธอเป็นตัวขัดขวางอำนาจวองโกเล่’

     

     

                 เปลวไฟบนปลายนิ้วสัมผัสแผ่วเบาบนหน้าผาก ชั่วพริบตาสติของเด็กน้อยก็ดับวูบ

     

     

     

     

                  รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

     

                ไม่ใช่ผมหรอกครับ”

     

                สึนะโยชิคลี่ยิ้มหวานเกี่ยวกระหวัดแขนโอบรั้งรอบลำคอของร่างสูง

     

                “ทรยศฉันงั้นหรือรีบอร์น

     

                เปลวไฟบนยอดคฑาเรืองโรจน์ เกล็ดน้ำแข็งปกคลุมทั่วอาณาเขตห้อง เดือดทะลุจุดศูนย์ที่รุ่นแรกคิดค้น อาวุธสุดท้ายที่โนโน่จะใช้จัดการคนทั้งสอง...

     

                “ไม่ได้นะครับ

     

                ชั่วพริบตาน้ำแข็งที่เป็นนิจนิรันดร์กลับถูกละลายหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่มาก่อน สึนะโยชิยิ้มกว้างเผยแหวนนภาที่ส่องประกายบนข้อนิ้วของตน

     

                “ทรยศงั้นหรือ? ไม่ใช่หรอก ฉันทำตามที่นายขออย่างไม่มีบกพร่องเลยต่างหาก

     

                ปืนกระบอกเดิมที่ร่วงข้างกายชายชรากลับสู่มือเจ้าของอีกครั้ง สึนะโยชิย่อกายจนระดับสายตาตรงกับอีกฝ่าย แย้มยิ้มภาคภูมิใจราวกับต้องการคำชื่นชมจากปากคนเป็นครู วินาทีนั้นเขาก็ตระหนักได้..

     

     

                เด็กคนนี้ใสซื่อเกินไปจนถูกแต่งแต้มป้ายสีให้ดำมืดได้ง่ายดาย แต่ถึงอย่างนั้นแม้จะโสมมก็ยังบริสุทธิ์

     

     

                “ทำไมต้องดึงสึนะโยชิคุงมาข้องเกี่ยวความทะเยอทะยานของนายด้วย

     

                ทว่าคนตอบคำถามกลับเป็นเด็กชายตรงหน้า

     

                “คนที่ดึงผมมาพัวพันกับโลกมาเฟียคือคุณปู่ไม่ใช่หรือครับ?”

                

                คำพูดของผู้เปรียบดั่งหลานชายทำโนโน่สะอึก เขาหน้ามืดตามัวอยากให้แฟมิลี่รุ่งเรืองโดยไม่สนใจว่าจะทำลายชีวิตของสึนะโยชิไปมากน้อยเพียงใด สำนึกอะไรได้ตอนนี้ก็สายเกินแก้แล้ว...

     

                “จริงสิ คำถามที่นายชอบถามฉันบ่อยๆนั่นน่ะ

     

                รุ่นที่เก้าขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัยแต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ขยายความให้กระจ่างแต่อย่างใด

     

     

                “ฉันเลือกไม่ได้หรอก

     

     

                ไม่ลองละมือจากการเข่นฆ่า มาเฝ้ามองการเติบโตดูบ้างล่ะ’

     

     

                “แต่พอได้เจอสึนะ ฉันก็เลยฉุกคิดขึ้นมาได้

     

                ฝ่ามือหนาลูบศีรษะฟูฟ่องของร่างเล็กด้วยแววตาหลากหลายอารมณ์

     

                “ว่าการเข่นฆ่าและเฝ้ามองการเติบโตไปด้วยมันดีกว่าเป็นไหนๆ

     

                ปลายกระบอกปืนแนบชิดศีรษะ ชายชราเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนกไม่นานก็เรียบเฉยและศิโรราบลง

     

                “คุณปู่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะสานต่อวองโกเล่ในแบบที่คุณต้องการให้เอง

     

     

                ปัง!

     

     

                วองโกเล่ได้เข้าสู่ยุคมืดอันรุ่งเรืองแล้ว....

     

     

     

     

     

     

     

              

     

     

     

     

     

    Talk with (FONG)Writer    

     

              สวัสดีวันแรงงานค่ะ จริงๆในมุมของนักศึกษาอย่างฉันวันนี้ก็แค่วันธรรมดาทั่วไป แต่ในฐานะนักเขียนมันเป็นวันพักผ่อนที่ดีที่สุดจนบางครั้งก็อยากให้หนึ่งมีวันแรงงานสัก 365 วันเลยค่ะ อ่ะ แต่ถ้ามากไปมันคงไม่ใช่วันพิเศษสินะคะ น่าเสียดายจริงๆ

     

              ไฟล์งานที่หายไปไม่สามารถกู้ได้จริงๆค่ะ บางทีฉันคงต้องหาแหล่งเก็บข้อมูลพร้อมกันหลายๆที่เพื่อความปลอดภัยคงจะดีกว่า

     

              วันก่อนกลับไปนั่งฟังเพลงเปิดของรีบอร์นทุกเพลงมา พอได้เห็นสึนะโยชิที่ค่อยๆเติบโตขึ้นมารู้ตัวอีกทีก็เผลอร้องไห้เสียแล้ว เหมือนว่าพวกเราต่างคนต่างเติบโตไปพร้อมกัน คิดถึงสมัยนั้นจังเลยค่ะ


               จะว่าไปรีบอร์นนี่เข้าข่ายพรากผู้เยาว์นะคะ....

     

     

    ด้วยรัก

    ฟง จิ้งจอกสีชาด

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×