ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ KHR reborn ] short fic 1827 5927 6927 2718 X27 G27 10027 127 8027 R27 0027 All27

    ลำดับตอนที่ #8 : G27 กรง

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 62


    T
    B








    Chapter SIX กรง



                "รุ่นที่สิบ!~"  เสียงร่าเริงสดใสของ โกคุเดระ ฮายาโตะ รั้งจังหวะการเดินของชายหนุ่มเรือนผมสีน้ำตาลเข้ม เขาวิ่งหอบแฮ่กด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขหาคนที่หยุดยืนรอระหว่างทาง  "กลับบ้านด้วยกันนะครับ"

     

                "อ้าว บังเอิญจังพวกนาย ฉันกลับด้วยคนสิ"  ราวกับมีมารผจญมาขัดเวลาแห่งความสุข โกคุเดระหน้าบูด โวยวายใส่คนมาใหม่เฉกเช่นกิจวัตรประจำวัน

     

                "แกต้องเข้าชมรมไม่ใช่รึไง ไอ้บ้าเบสบอล"  ไม่ว่าเปล่ายังโบกมือไล่ส่งเสียงชิ่วๆ ใส่ ยามาโมโตะ ทาเคชิ เพื่อนสนิทอีกคนที่ยืนเกาแก้มหัวเราะแหะๆ  "อ๊ะ! รุ่นที่สิบรอด้วยครับ"  รีบเร่งตามอีกฝ่าย บ้าจริง ดันมามัวเสียเวลากับเจ้าบ้าเบสบอลซะได้

     

                "ขอโทษนะ ฉันอยากกลับคนเดียวน่ะ"  ใบหน้าเอียงกลับมากล่าวถ้อยคำปฏิเสธ แสงจากดวงอาทิตย์ที่ลับฟ้าก่อเป็นเงาสะท้อนปิดบังแววตามีเพียงรอยยิ้มจางๆ ส่งมาเด่นชัด  "พอดีมีเรื่องต้องคิด"

     

                "จะดีเหรอครับ.."  โกคุเดระรู้สึกห่วงผู้เป็นบอสขึ้นมาตะหงิด แต่ยังไม่มีโอกาสได้ถามไถ่ ท่อนแขนหนาของนักกีฬาประจำโรงเรียนก็พาดผ่านเกี่ยวรั้งร่างเขาดึงเข้าหาตัว

     

                "ไม่มีปัญหาสึนะ ถ้ามีเรื่องอะไรก็โทรหาพวกฉันได้เสมอล่ะ"  ยามาโมโตะพูดตัดบทพร้อมๆ กับที่พาคนในอ้อมแขนดึงกึ่งลากเดินแยกไปตามเส้นทางกลับบ้านของพวกเขาโดยมีเสียงโวยวายของโกคุเดระดังไปตลอดทาง

     

                เมื่อทั้งสองไม่อยู่แล้วใบหน้าแต้มรอยยิ้มก็คลายลง เขาถอนหายใจเงยหน้ามองท้องนภาสีส้ม สี.. ที่ทำนึกถึงใครบางคนในส่วนลึกของจิตใจ

     

     

     

                "กลับมาแล้วครับ"

     

                "ยินดีต้อนรับกลับนะซือคุง เอ๋..?"  ซาวาดะ นานะ ที่ชะโงกหน้าส่งเสียงทักทายออกมาจากห้องครัวครางเสียงสูงด้วยความประหลาดใจ

     

                "มีอะไรเหรอครับ?"

     

                "ปะ..เปล่าจ้ะ แค่รู้สึกว่าพักหลังมานี้เราดูเรียบร้อยดีจังเลยน้า"  เธอเล่าความรู้สึก เอียงใบหน้าซบมือด้วยรอยยิ้มภูมิอกภูมิใจตามประสาคนเป็นแม่ สงสัยจะโตขึ้นอีกแล้วสิท่า...

     

                "เหรอครับ.."  มือเคลื่อนปลดเนคไทคลายความอึดอัด

     

                "จริงสิน้องแมวน่ะ วันนี้เล่นซนน่าดูเสียงดังลงมาถึงข้างล่างแน่ะ"

     

                จังหวะเดินขึ้นบันไดชะงักลง จุดยิ้มมุมปากก่อนแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้มแย้มจนตาหยี  "น่ารักใช่ไหมล่ะครับ" ก่อนจะรีบรุดขึ้นห้องไปทันที

     

                ภาพเด็กหนุ่มเร่งรีบจนไม่เก็บอาการทำเอานานะลอบถอนหายใจ  "จริงๆ ไม่เห็นต้องล็อคห้องไว้ตลอดเลย"  บ่นกับตัวเองเบาๆ

     

     

     

                ภายในห้องสีสะอาดที่เคยรกระเกะระกะบัดนี้โล่งเปล่าเหลือของใช้น้อยนิดจนแปลกตา ชายหนุ่มวางกระเป๋าลงกับโต๊ะก่อนเหลือบมองถาดนมที่ยังไม่พร่องลงตั้งแต่เช้า

     

                "กลับมาแล้ว.."

     

                ย่อกายลงนั่งพื้นเกยคางกับแขนบนเตียง ใช้สายตาจับจ้องไปที่กองผ้าห่มหนาเป็นก้อนกลมๆ ที่มีแมวสีขาวตัวเล็กนอนซุกอยู่ มือลูบขนนุ่มนิ่มตามลำตัวผุดรอยยิ้มบางๆ นึกเอ็นดู  "วันนี้ที่โรงเรียนก็น่าเบื่อเหมือนเคย"

     




                ทุกค่ำคืนสึนะโยชิมักครางสะอื้นไห้กับฝันร้ายที่ตามหลอกหลอน

     

                ร่างเล็กของเด็กน้อยวัยห้าขวบยืนร้องไห้ท่ามกลางเหตุการณ์อันแสนหดหู่ กลิ่นคาวเลือดชวนอาเจียน เสียงปืนและเสียงกรีดร้องตามด้วยร่างที่นอนเรียงรายไร้ลมหายใจ ใบหน้าหวานเปรอะเปื้อนคราบโลหิต ลำตัวเปื้อนฝุ่นมีบาดแผลอยู่ทั่วร่างเกินกว่าเด็กตัวเล็กๆ จะรับไหว กังหันพังๆ ในมือที่คุณปู่แปลกหน้าผู้ใจดีมอบให้ยามพลัดหลงกับแม่นิ่งสนิทแม้จะมีลมพัดโบก

     

                'ฮือ..ไม่เอาแล้ว ผมกลัว'

     

                ยามร้องไห้เสียใจก็ไร้ซึ่งคนปลอบประโลม ความหวาดกลัวกรีดลึกดวงใจน้อยๆ จนแหลกละเอียด ร่างกายผอมบางสั่นเทิ้มท่ามกลางกองซากศพ ดุจฉากในนรกขุมอเวจี ไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาขึ้นมอง ทำได้เพียงยืนร้องไห้จ้าอยู่อย่างนั้น...หวังเพียงให้ฝันร้ายยุติลงเสียที

     

                ทันใดนั้นภาพทิวทัศน์แดงฉานก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นท้องฟ้าสีครามสวย ร่างกายอันหนักอึ้งตอนนี้กลับแผ่วเบาราวกับตัวของเขาลอยล่องอยู่ในอากาศ สึนะโยชิในวัยมัธยมลืมตาขึ้นมองหยาดน้ำตาคลอหน่วงไหลลงช้าๆ ยามสัมผัสกับเปลวไฟอบอุ่นที่ล้อมรอบกาย

     

                ยามเปลวไฟจางลงปรากฏร่างบุคคลทั้งเก้าในชุดสูทสวมหน้ากากเพลิงสีส้มสว่างไสว พวกเขาทั้งน่าเกรงขามและสง่างามยามจ้องมองมาที่เขาที่ยังสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นร่างของชายชราผู้ถือไม้เท้าก็โน้มตัวลงโอบกอดเด็กน้อยอย่างนุ่มนวล

     

                'คุณปู่ อึก..ฮือ'

     

                กลิ่นกายหอมเย็นอ่อนช่วยให้ผ่อนคลายทุกครั้งที่สัมผัสจมูก คุณปู่ใจดีผู้มอบกังหันลมอันนี้ให้ตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย สึนะโยชิร้องไห้เสียงดังอย่างลืมวัยเพียงแค่สัมผัสอ้อมกอดอ่อนโยนนี้เหมือนกับความหวาดกลัวที่อัดแน่นตีบตันอยู่ในอกได้มลายหายไป มือเล็กๆ กำชายเสื้อแน่นหวั่นเกรงว่าหากปล่อยมืออีกฝ่ายจะหายจาก

     

                'ฮึก..วองโกเล่น่ะ..ผมไม่ต้องการ'

     

                เสียงขาดห้วงปนสะอื้นเบาบางกระนั้นกลับชัดเจนในโสตประสาทของผู้ยืนอยู่จุดสุดสูง วองโกเล่พรีโม่ทอดสายตามองร่างเล็กเรียบนิ่งทว่าภายใต้หน้ากากนั้น ดวงตาสีส้มทองกลับหม่นแสงจนมืดมิด...

     




                "อะ.."  ขณะที่ปล่อยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวก็ดันถูกข่วนมือจนเลือดไหลเป็นทางยาว  "ตื่นแล้วเหรอ"  ลูกแมวน้อยขู่ฟ่อขนลุกขนพองด้วยท่าทางไม่เป็นมิตร เขาพยายามเข้าหาแต่มันยิ่งระแวงข่วนซ้ำมือข้างเดิม ทั้งที่ตอนนอนก็ดูน่ารักไร้พิษภัยแท้ๆ

     

     

                บางทีไม่ตื่นขึ้นอีกเลยมาอาจจะดีกว่า

     

     

                มือกางงองุ้มยื่นหาสิ่งมีชีวิตขนปุยที่แยกเขี้ยวสู้ทั้งที่ตัวน้อยนิด จะจับหักคอ ฟาดแรงๆ หรือเพียงแค่บดขยี้ด้วยปลายเท้า การทำลายชีวิตตรงหน้านี้ช่างแสนง่ายดาย...

     

     

                ...

     

     

                เสียงพื้นเตียงขย่มดังกุกกักชายหนุ่มชะงักมือพลางกวาดสายตาทั่วห้องไปมา เจ้าแมววิ่งหนีไปอยู่มุมห้องแล้ว น่าเสียดาย.. เผลอคิดชั่วครู่เสียงที่ไม่ทราบที่มาก็ดังขึ้นอีกครั้ง จากแผ่วเบาคล้ายหูแว่วเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ จนพื้นเตียงสั่นสะเทือน เขาเดาะลิ้นอย่างหงุดหงิดก้มลงมองใต้เตียงเพื่อหาสาเหตุของเสียงประหลาดพวกนี้

     

     

                อา.. แย่จัง ดันลืมแมวอีกตัวไปซะได้

     

     

                จากสีหน้าเคร่งเรียดกลายเป็นรอยยิ้มหวาน ชายหนุ่มเรือนผมสีน้ำตาลหรี่ตามองสิ่งที่อยู่ใต้เตียงด้วยใบหน้าหวานหยดย้อย

     

                แมวน้อยอีกตัวที่ว่าถูกมัดแขนขานอนคุดคู้อยู่ในมุมมืด ดวงตากลมโตเบิกโพลงทั่วทั้งใบหน้ายังคงมีคราบน้ำตาและบาดแผลไม่จางหาย แม้อยากร้องเรียกให้ใครมาช่วยปลดปล่อยก็มีเพียงเสียงอู้อี้ฟังไม่ได้ศัพท์

     

                ก่อนจะได้คิดอะไรลำตัวของ คน ที่ถูกพันธนาการก็ถูกกระชากออกมาอย่างรุนแรง เจ้าแมวขาวส่งเสียงขู่อีกครั้งหากแต่มันก็เป็นเพียงเสียงเล็กๆ ไร้คนสนใจ ประคองกอดหอมร่างกายสั่นเทาในอ้อมแขนที่จับจ้องมาอย่างตื่นตระหนก ใบหน้าที่เหมือนกันราวภาพสะท้อนเผยยิ้มวิปลาสจนอุณหภูมิห้องเย็นเฉียบ

     

                "คิดถึงข้าไหม เดชิโม่"

     


     

               

     

                'เช่นนั้นเจ้าก็ไม่สมควรเป็นผู้สืบทอด'

     

     

                สุรเสียงทุ้มหูก้องกังวานดังแทรกเสียงร้องไห้ เหล่าผู้ได้รับเลือกไม่เว้นแม้แต่รุ่นที่เก้าล้วนแหวกทางให้เห็นร่างสูงสง่าของเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ภายใต้เสื้อคลุมสีดำสนิทที่ยืนมองอยู่ไม่ห่าง

     

                สึนะโยชิเงยหน้ามองสบใบหน้าคมฉายแววเย็นชา ปาดน้ำตาบนใบหน้ากลืนก้อนแข็งๆ ที่จุกอยู่ในลำคอ เขากลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้ง ภาพชะตากรรมที่ผู้เป็นบอสต้องแบกรับแล่นวนซ้ำในความคิด

     

                'วองโกเล่ที่เป็นแบบนี้น่ะ..'

     

                กำมือแน่นดวงตาฉายแววกร้าวยามมองไปยังผู้ก่อตั้ง

     

                'ผมขอทำลายทิ้งจะดีกว่า!!'

     

     

                !

     

     

                เหล่าผู้สืบทอดล้วนหายใจเฮือกกับคำตอบที่แสนบ้าบิ่นของสึนะโยชิ ความกังวลฉายชัดบนใบหน้าของชายชราผู้รู้จักเขามาตั้งแต่เล็ก และเหนือสิ่งอื่นใด

     

                'กล้าดีนักนะ'

     

                พรีโม่พูดเสียงเย็น ดวงตาใต้หน้ากากเบิกโพลงสั่นระริกทอประกายมืดดำกว่าครั้งไหนๆ

     

     

     

                มันบังอาจละทิ้งหน้าที่อันทรงเกียรติ...

     

                มันบังอาจคิดทำลายวองโกเล่ที่จีอ็อตโต้ผู้นี้สร้าง!!

     

     

     

                ฝีเท้าย่ำตรงมายังคนที่เชิดหน้าท้าทาย ฝ่ามือสวมทับถุงมือเหล็กกำรอบลำคอจนสึนะโยชิส่งเสียงร้องอึดอัด โนโน่พยายามเดินเข้ามาปกป้องหลานแต่ร่างกายเขากลับแข็งทื่อขยับไม่ได้แม้เพียงนิ้วเดียวและวองโกเล่รุ่นอื่นก็เช่นกัน

     

                สึนะโยชิตาพร่ามัวร่างกายไร้เรี่ยวแรงจนยืนไม่อยู่ ความกลัวเกาะกุมหัวใจยามสัมผัสกับความเยือกเย็นของผู้ก่อตั้ง ใบหูอื้ออึง ลมหายใจขาดห้วง ทันใดนั้นสติของร่างบางก็ดับวูบลง

     

     

                'ข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่'

     

     

                และดวงตาวาวโรจน์คือสิ่งสุดท้ายที่สึนะโยชิจำได้อย่างชัดเจน

     

     


     

     

                "อื้อ! อ่ะ ฮื่อ.."

     

                เสียงหวานครวญครางลอดผ้าปิดปากตามจังหวะขึ้นลงของคนทั้งสอง ใบหน้าหวานหลับตาพริ้มหยาดเหงื่อผุดพราย เชือกที่ขาถูกปล่อยเป็นอิสระเหลือส่วนแขนที่ยังถูกไพล่หลังไว้ ลมหายใจหอบกระเส่า ภายในร่างกายร้อนวูบวาบคล้ายดั่งเปลวไฟลุกลามทั่วร่างก่อเกินความเสียวกระสัน บทรักเร่าร้อนที่ถูกปลุกปั่นทำเอาสมองขาวโพลนไปหมด

     

                สึนะโยชิสูดหายใจเข้าปอดอย่างยากเย็น แผ่นหลังเปลือยเปล่าถูกดันแนบชิดอกกว้างใต้ชุดสูท แก่นกายที่ค้างในตัวยังคงแผ่อุณหภูมิสูงจนแทบหลอมละลาย ใบหน้าเล็กถูกเชิดขึ้นด้วยเรียวนิ้วสวยก่อนที่เจ้าของรอยยิ้มเคลือบยาพิษจะโน้มลงประกบจูบโลมเลียอย่างหื่นกระหายผ่านผ้าเปียกชุ่มน้ำลายที่เป็นตัวขวางกั้น

     

                "อ๊ะ! ไม่.."

     

                เมื่อปลดผ้าปล่อยริมฝีปากบางให้เป็นอิสระ น้ำเสียงกระเส่ายิ่งดังชัดเจนจนชายหนุ่มกลั้นความอยากไม่อยู่ เอวบางถูกยกขึ้นแล้วสวนกระแทกแรงๆ ตามปรารถนา ก่อนจะขยำฟ้อนเฟ้นกายบางจนเนื้อตัวแดงเถือก แพขนตาเปียกชุ่มกระพริบถี่ ความสุขสมแล่นทั่วร่างจนเข้าใกล้จุดปลายแห่งฝั่งฝัน ซุกใบหน้าเข้าหาไหล่กว้างพลางกัดปลายผมสีทองสว่างความหวาบหวามเกินทานทน

     

                "ผมไม่ไหวแล้ว..อื้อ จะเสร็จ"

     

                จังหวะหัวใจเต้นถี่ระรัว ผู้ก่อตั้งวองโกเล่เร่งจังหวะหนักหน่วงเพื่อคนบนตักที่เข้าใกล้ประตูชัยทุกขณะ

     

     

                "ซือคุง...เป็นอะไรหรือเปล่า?"

     

     

                "อุ้ก!?"

     

     

                ไม่ทันส่งร่างเล็กถึงจุดหมาย เสียงหวานเจือความห่วงใยของหญิงผู้เป็นมารดาก็แทรกขึ้นมา จังหวะสอดประสานกายหยุดชะงัก มือหนาตะครุบปากอีกคนด้วยสีหน้าโกรธแค้น ดวงตาสีนภาสวยจ้องมองประตูฉายแววโรจน์จนคนบนร่างสั่นเทิ้มด้วยความกลัว

     

     

                ยุ่งไม่เข้าเรื่อง...

     

     

                "ไม่มีอะไรครับ พอดีแมวมันไม่ยอมกินอาหารเลยบังคับนิดหน่อย"  จากเสียงทุ้มต่ำกลายเป็นเสียงเล็กของเด็กชายวัยมัธยมต้น ขยับเอวบนตักอีกครั้งขณะที่อีกคนพยายามกลั้นเสียงแทบขาดใจ นานะเป็นห่วงลูกชายตัวเองเหลือคณาเพราะตั้งแต่กลับมาก็เอาแต่คลุกอยู่ในจนผิดวิสัย เธอหมุนลูกบิดประตูทันใดนั้นเสียงหวีดร้องลั่นจนน่าตกใจของแมวในห้องก็ดังมาจนคนได้ยินหวาดผวา นานะสะดุ้งละมือออกทันควันราวกับโดนน้ำลวก  "อันตรายนะครับแม่ อย่าเข้ามาดีกว่า"

     

     

                นั่นไม่ใช่คำเตือนแต่เป็นคำขู่

     

     

                "...อย่าบังคับเค้ามากนะซือคุง"  แม้จะไม่เชื่อสนิทใจแต่ก็ยอมถอยออกมา นานะยกมือทาบอก ใบหน้าหวานขาวซีด น้ำเสียงของลูกชายที่ได้ยินเมื่อกี้ช่างน่าหวาดหวั่นเหลือเกิน

     

     

                สึนะโยชิหัวใจกระตุบวาบ หยาดน้ำตาที่แห้งเหือดหลั่งไหลลงมาอีกระลอกยามมองเจ้าแมวน้อยที่นอนหายใจรวยรินถูกบีบคอจนเจียนตาย

     

                "อึก!"

     

                พรีโม่โน้มลงกัดข้างลำคอจนเลือดไหลซึม ลิ้นยาวกวาดเลียปากแผลเกิดความรู้สึกแปลกๆ  สึนะโยชิครางฮือรับก่อนที่ริมฝีปากจะถูกปล่อยให้เป็นอิสระอีกครั้ง และเขากำลังถูกอีกฝ่ายชักนำให้สานต่อกิจกรรมที่ยังค้างคาให้จบ

     

     

     

     

                ทุกๆ วันเป็นเช่นนั้นซ้ำไปซ้ำมา...

     

     

                สึนะโยชิถูกแย่งตัวตนของตัวเองก่อนจากถูกผลักให้อยู่ในส่วนลึกสุดของความจริง

     

     

                ไม่มีใครตามหา... ไม่มีใครสงสัย... ไม่มีกระทั่งคำถามว่า ซาวาดะ สึนะโยชิ หายไปไหน?

     

     

     

     

                ใบหน้าคมเหยียดยิ้มกว้างลูบไล้เส้นผมอ่อนนุ่มพลางทอดสายตามองลำคอขาวที่ถูกคล้องล่ามโซ่กับขาเตียง

     

     

     

     

                วองโกเล่จะยังคงอยู่....

     

     

     

     

                หยัดกายขึ้นยืนเปลวไฟนภาปกคลุมทั่วร่าง ยามเมื่อมันหายไปก็ปรากฏร่างของเด็กหนุ่มเรือนผมสีน้ำตาลแทนที่  ดวงตาสีน้ำตาลมองคนที่นอนหลับใหลเรียบนิ่งแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่ลืมลงกลอนล็อคประตู

     

                "อรุณสวัสดิ์ครับรุ่นที่สิบ"

     

                "โย่ว สึนะ"

     

                เสียงสดใสของผู้พิทักษ์ทั้งสองร้องทักในยามเช้าวันใหม่

     

                "อรุณสวัสดิ์โกคุเดระคุง ยามาโมโตะ"  ฉีกยิ้มเย็นระหว่างเดินไปโรงเรียนเฉกเช่นทุกวัน...

     

     

     

     

     

     

     

     

    Talk with (FONG)Writer    

     

        ปู่จะร้ายไม่ได้นะคะ *กอดขาปู่*

     

        ตามจริงแล้วที่วางแผนไว้คือหลังจากจบตอนของ 6927 ก็จะตามด้วย 10027 .... แต่ทุกวันนี้ก็ดันคิดพล็อตได้แต่คู่อื่นแหละค่ะ ฮ่า

     

        เมื่อเย็นนี้ได้มีโอกาสดูรีบอร์นผ่านช่อง cartoonclub ความรู้สึกหนึ่งที่แล่นมาในหัวฉันคือ ให้ตายเถอะ ฉันไม่ชินเสียงพากย์เอาซะเลย มานึกๆดูฉันก็ติดตามรีบอร์นมาหลายปีเหมือนกันนะคะ พอเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ก็ชวนให้คิดถึงจริงๆ

     

        อะ.. แต่เสียงพรีโม่ช่องนี้พากย์ได้หล่อดีนะคะ




    ด้วยรัก
    ฟง จิ้งจอกสีชาด
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×