ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ KHR reborn ] short fic 1827 5927 6927 2718 X27 G27 10027 127 8027 R27 0027 All27

    ลำดับตอนที่ #5 : 1827 เสพติด

    • อัปเดตล่าสุด 1 พ.ค. 62


    T
    B








      Chapter FOUR เสพติด

     

     

                ค่ำคืนที่คลาคล่ำด้วยผู้คนในสถานที่อโคจรร่ำสุรานารี ผู้คนใช้ชีวิตหลงระเริงกับความสุขเพียงชั่วข้ามคืน   ยามรุ่งสางทุกคนก็กลับไปเป็นตัวตนที่สรรสร้างขึ้น   หวังเพียงค่ำคืนจะช่วยปลดปล่อยความต้องการและตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาทั้งหลาย    ทั้งคนที่ไร้ซึ่งความหมายและหมดหวังในการใช้ชีวิตหรือจะคนที่หาความสนุกกับโลกใบนี้ก็ดี...คนเหล่านั้นล้วนมีเหตุให้โคจรมาพบเจอกันอย่างน่าประหลาด สำหรับคนเหล่านั้นแล้วการพบเจอที่ไม่คาดฝันจะเรียกว่าโชคชะตา....ได้หรือเปล่านะ?

     

                "อ๊ะ! อื้ม.."

     

                เสียงครางหวานอู้อี้ดังเคล้าคลอกับเสียงเพลงจังหวะหนักด้านนอก สะท้อนก้องทั่วกำแพงแคบของห้องน้ำ   เป็นทำนองเพลงแปลกหูแต่กลับบรรเลงสอดประสานเข้ากันจนน่าประหลาดใจ  มือบางที่ทาบอกแกร่งเคลื่อนมาคล้องคอพลางดึงลำตัวให้แนบชิดกันยิ่งขึ้น

     

                ชายหนุ่มละจูบ   ปล่อยให้อีกฝ่ายหอบหายใจเพียงครู่ก็ประกบปากอีกครั้ง..    อีกครั้ง...    และอีกครั้ง...

     

                "ร้อน.."

     

                หลุดเสียงคำรามหลังขบเม้มริมฝีปากบางแรงๆเป็นครั้งสุดท้าย ชายหนุ่มเสยผมอย่างนึกรำคาญ มืออีกข้างปลดเนคไทค์และกระดุมหวังบรรเทาความร้อนที่พุ่งสูงจนเหมือนโดนแผดเผา   แต่ดูท่ามันจะไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย...

     

                ชายหนุ่มเบนสายตากลับมาเมื่อรู้สึกถึงความเปียกลื่นที่สัมผัสริมฝีปาก มุมปากยกยิ้ม ยอมอ้าปากให้เรียวลิ้นเล็กเข้ามาเกี่ยวกระหวัดอย่างไม่รู้ประสีประสา ก่อนจะกลับมาเป็นผู้คุมเกมอีกครั้ง มือสากสอดใต้สาบเสื้อสัมผัสผิวกายขาวเนียนที่ร้อนผ่าวไม่ต่างจากตน


     

    เขารู้ดีว่าทำอย่างไรถึงจะดับความร้อนนี้ได้..

     


                "ทำไมนานจัง ไม่สบายรึเปล่า"   หนุ่มอิตาลีผมทองเจ้าเสน่ห์เอ่ยถามพลางดึงร่างคนที่เพิ่งกลับจากการเข้าห้องน้ำมานั่งซ้อนตัก  "หืม..สึนะ?"  ส่งเสียงสูงเป็นคำถามในขณะที่กดจูบซอกคอขาวแสดงความเป็นเจ้าของ   โดยไม่คิดเกรงใจเพื่อนร่วมโต๊ะที่นั่งส่งเสียงจิ๊จ๊ะอยู่เป็นระยะ

     

                "รู้สึกมึนหัวนิดหน่อยแต่ตอนนี้หายแล้วล่ะครับ"  ว่าพร้อมพรมจูบใบหน้าอย่างรักใคร่

     

                "มีไข้รึเปล่า หน้ายังแดงอยู่เลย"   แขนสองข้างโอบกระชับเอวเล็กแล้วโน้มหน้าลงมาแนบหน้าผากเพื่อวัดไข้ ก่อนจะถูกมือบางผลักออกช้าๆ

     

                "คงเพราะเหล้าน่ะ.. ขอนอนก่อนได้ไหมครับ?"

     

                "อื้ม เอาสิ" สิ้นประโยคตอบรับสึนะโยชิก็เอนใบหน้าซบบ่ากว้างของอีกฝ่ายและหลับไหลไปทันทีด้วยความอ่อนเพลีย

     

                "จะว่าไป..ตกลงเรียกพวกฉันมามีเรื่องอะไรกันแน่ คงไม่ได้มาเพื่อคุยเล่นไร้สาระหรอกใช่ไหม"   สควอโล่เพื่อนร่วมโต๊ะที่อยู่ในบรรยากาศพลอดรักกันอย่างไม่อายฟ้าอายดินเมื่อครู่ ถามขึ้นหลังจากแน่ใจว่าร่างเล็กหลับสนิทแล้ว

     

                "ใจร้ายจังเลยนะ ฉันก็แค่คิดถึงช่วงที่พวกเรามานั่งดื่มกันแบบนี้ประจำ ผิดเหรอ?"

     

                "อย่ามากวนตีนดีโน่"   พยายามข่มอารมณ์กัดฟันพูดเสียงต่ำ อุตส่าห์ยอมเบี้ยวนัดลูกค้าเพราะอีกฝ่ายบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยแท้ๆ

     

                "โมโหบ่อย เดี๋ยวแก่ไวนะ"   ฝ่ายคนกวนประสาทกลับทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้พลางโอบรัดตุ๊กตานุ่มนิ่มบนตักอย่างชื่นบาน

     

                สควอโล่หงุดหงิด แต่ก่อนที่จะได้โวยวายมากกว่านี้ หางตาก็เหลือบไปเห็นชายเรือนผมปีกกาเดินตรงมาที่โต๊ะพอดี   "เฮ้ย ฮิบาริ อยู่ๆหายหัวไปไหนมา"   เผลอร้องทักเสียงดังตามนิสัยจนดีโน่รีบสะกิดเรียกให้ลดความดังเสียงเพราะเกรงใจคนที่หลับอยู่

     

                "ไปสูบบุหรี่"   ตอบสั้นๆในขณะที่รับแก้วเหล้ามาดื่ม

     

                "คนครบแล้ว  งั้นจะพูดประเด็นหลักเลยนะ"   ดีโน่กระแอมเรียกความสนใจเพื่อนทั้งสอง ก่อนปรับน้ำเสียงจริงจังให้รู้ว่าบทสนทนาต่อไปจะเริ่มเข้าสู่ความตึงเครียด  "เบียคุรัน.. เจ้านั่นเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว" เพียงแค่เอ่ยชื่อนั้นบรรยากาศในโต๊ะก็อึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก

     

                สควอโล่เดาะลิ้น   "ตั้งแต่เมื่อไหร่"

     

                "สามวันก่อน"   มือลูบกลุ่มผมน้ำตาลสลวยเบามือทั้งสีหน้าเคร่งเครียด   "มีหนอนพยายามล้วงข้อมูลลับแต่ถูกคนของฉันจับได้ น่าเสียดายเหมือนมันจะเตรียมการมาดีถึงได้กัดยาพิษในปากฆ่าตัวตาย"

     

                "ระบบในองค์กรเข้มงวด ไม่น่ามีหนอนเข้ามาง่ายๆ"   ฮิบาริแย้ง

     

                "ใช่.."   ดีโน่ตอบเสียงแผ่ว   "เจ็ดปี.. คนของมันแฝงตัวมาอยู่ข้างกายฉันนานจนได้รับความไว้ใจให้เคลื่อนไหวอิสระ"   เขายังจำได้ดี วินาทีที่เขาลั่นไกปืนใส่อดีตคนสนิทที่เปรียบดั่งครอบครัว ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำทอประกายไหววูบ

     

                "คำสุดท้ายก่อนตายมีแค่ชื่อ เบียคุรัน"

     

     

     

                ซึ่งเรื่องราวทั้งหลายมันก็เป็นเรื่องปกติในวงการธุรกิจมืดย่อมมีศัตรูและคู่แข่งเป็นธรรมดา ปัญหาคือ เบียคุรัน ตัวอันตรายที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับพวกเขาสามคนมานานนับสิบปีหรือจะพูดให้ถูกคือศัตรูของดีโน่ ที่ดึงเขากับสควอโล่ผู้เป็นสหายการทำธุรกิจไปเอี่ยวด้วยจนกลายเป็นปัญหาวนลูปไม่จบสิ้น

     

                เบียคุรันเป็นพี่ชายต่างมารดาของดีโน่ แต่เพราะคนที่ได้รับสืบทอดธุรกิจขนส่งอาวุธแหล่งทำเงินและชื่อเสียงของตระกูลกลับเป็นน้องชายจอมเหลาะแหละ เบียคุรันโกรธแค้นและไม่ยอมรับการตัดสินของพ่อ เขาหันมาสร้างธุรกิจของตนเองและคอยขัดขวางน้องชายผู้แย่งชิงทุกสิ่งจากเขาไปทุกวิถีทาง หวังทำลายอีกฝ่ายให้ตายหรือหายนะย่อยยับกันไปข้าง

     

                ฮิบาริพรูลมหายใจ สำหรับเขามันก็เป็นแค่การทะเลาะกันของพี่น้องโรคจิต ที่มาขัดขวางธุรกิจของเขาให้วุ่นวายจนเขาต้องมาร่วมการทะเลาะนี้ด้วย หึ เขาเองคงบ้าบอไม่แพ้กัน

     

                ไม่นานดีโน่กับสควอโล่ก็กลับมาคุยเฮฮาตามปกติหลังได้ผลสรุปของบทสนทนาตึงเครียด   ชายหนุ่มเรือนผมดำสนิทเบนสายตาแก้เบื่อไปทั่วจนมาสะดุดร่างเล็กที่นอนซบอกคนรักของเจ้าตัวอยู่

     

                "อ้อ.. เคียวยะคงยังไม่เคยเจอสินะ นี่สึนะมายฮันนี่ของฉันเอง"   ใบหน้าหล่อเหลาเอียงซบหัวคนที่นอนซุกอกเมื่อรับรู้ถึงสายตาเพื่อนที่มองร่างเล็กอยู่

     

                "ปกติไม่เห็นยกใครเป็นแฟน จริงจัง?"   ฮิบาริพูดโดยไม่ปิดบังความสงสัย นิ้วเรียวสวยยกแก้วเหล้าใบเดิมที่เพื่อนผมเงินยาวสลวยรินเติมให้กระดกดื่มหมดแก้ว   "หรือฟันยาก"

     

                "มัวแต่สนใจธุรกิจตัวเอง จนไม่รู้เรื่องเลยรึไงแก"   สควอโล่ถอนหายใจ นึกหงุดหงิดแทนเจ้าคนอารมณ์ดีจนน่ารำคาญ ที่ยังคงแย้มยิ้มกว้างหัวเราะในลำคอราวกับคำพูดถากถางไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร

     

                "สึนะเป็นคู่หมั้นฉันน่ะ"

     

                ฮิบาริเลิกคิ้ว   "คลุมถุงชน..?"

     

                "เปล่า"   ดีโน่ลูบหัวคนในอ้อมกอดช้าๆ สายตาทอประกายเปี่ยมไปด้วยความรัก   "ฉันขอเขาแต่งงาน"

     

                "เหรอ.."   ครางรับเบาๆอย่างเรียบง่าย ดวงตาสีนิลทอดมองคนที่ถูกพูดถึงด้วยความรู้สึกหลากหลาย

     

                "เป็นคู่ที่ดีนะ"

     

     

                และใช่.. ฮิบาริหมายความอย่างนั้นจริงๆ

     

     

     

     

                หลังจากนั้นบทสนทนาของเพื่อนสนิทก็ไม่ได้เข้าหูฮิบาริดีนัก ชายหนุ่มนั่งฟังเพียงผ่านๆพลางเออออตอบรับบางจังหวะ ในใจคุกกรุ่นจนแทบนั่งไม่ติดทุกครั้งที่เจ้าของฉายาม้าพยศหันมาคลอเคลียคนในอ้อมแขน   เครื่องดื่มมึนเมาแก้วแล้วแก้วเล่าหมดไปอย่างรวดเร็วตามความหงุดหงิดของร่างสูง   จวบจนเวลาล่วงเลยถึงคราวลาจาก   เหล่าแอลกอฮอล์ก็เริ่มแผลงฤทธิ์

     

                "เฮ้ย ขับรถไหวเปล่า"   สควอโล่ถามในขณะที่รับหน้าที่ช่วยพยุงเพื่อนตัวสูงโปร่งแทนอีกคนที่กำลังอุ้มคนรักขึ้นรถแล้วจัดที่นอนให้สบายอยู่

     

                ฮิบาริส่ายหน้าช้าๆ   "กุญแจอยู่ในกระเป๋ากางเกง"   นึกขำตัวเองไม่ได้ดื่มจนเมาเละหมดท่ามานานแค่ไหนแล้วกันนะ

     

                "ไม่ต้องหรอก ทางผ่านพอดีเดี๋ยวฉันไปส่งก็ได้"   ดีโน่พูดเบรกหลังสตารท์รถเปิดแอร์ให้สึนะโยชินอนเรียบร้อย

     

                "แล้วรถเจ้านี่ล่ะ"   ถามพร้อมควงกุญแจในมือ ส่วนคนฟังก็ทำสีหน้าครุ่นคิดเพียงชั่วครู่

     

                "นายก็ขับกลับไปก่อนแล้วกัน บอกซันซัสว่าไม่ต้องมารับแล้ว"   ไม่รอให้เสียเวลารีบพาคนเมาขึ้นรถแล้วขับออกไปก่อนคนขี้โวยวายจะรู้สึกตัวทันที

     

                "เดี๋ยวดีโน่ ไอ้เวร! มันรู้ได้ไงวะ!!"


                สุดท้ายคนที่ต้องขับรถเพื่อนกลับเองก็โทรไปยกเลิกแฟนที่กำลังจะมารับอย่างช่วยไม่ได้...

     

     

     

     

     

                สึนะโยชิลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากการปิดประตูรถ ดวงตาที่ยังปรับโฟกัสได้ไม่เต็มที่หรี่ลงพยายามมองรอบตัวด้วยความสงสัยเห็นเพียงร่างสูงเรือนผมสีดำเดินลงจากรถโดยมีบรรดาลูกน้องช่วยพยุงไปลางๆ

     

                "ตื่นแล้วเหรอ ยังไม่ถึงบ้านเลยนอนต่อก็ได้นะ"   ดีโน่พูดเสียงละมุนข้างหูหวังกล่อมคนตัวเล็กที่ยังดูล้าให้พักผ่อน

     

                "ไม่เป็นไรครับ"   สึนะโยชิลูบมือเกลี่ยใบหน้าคม   "คุณเองก็เหนื่อยเหมือนกัน ให้ผมนั่งเป็นเพื่อนดีกว่า"

     

                "โธ่!"   ดีโน่โผกอดร่างเล็กด้วยความสุขล้น ทำไมคนรักของเขาถึงน่ารักขนาดนี้กัน พระเจ้าช่างเมตตาเขาคนนี้ยิ่งนัก  หนุ่มอิตาลีฉีกยิ้มกว้างจนตาหยี   หวังเหลือเกินให้ความสุขนี้คงอยู่กับเขาตลอดไป...

     

     

     

     

     

    +++++++++++++++++++++++++++++

     

     

     

     

     

     

                ยามเที่ยงของวันต่อมาสึนะโยชิงัวเงียตื่นขึ้นจากเตียง  ดีโน่ออกไปแต่เช้าตรู่ทิ้งโน้ตข้างหัวเตียงไว้ว่ามีงานด่วนกลับมะรืน พร้อมทิ้งข้อความหยอดหวานๆ ว่าหากกลับมาจะชดเชยที่ปล่อยให้เหงาอย่างเต็มที่  ร่างบางแย้มยิ้มเมื่ออ่านจบ ยกกระดาษแผ่นเล็กจูบเบาๆ เสมือนเครื่องแทนตัวคนที่ทำงานอยู่

     

                ไม่ใช่..

     

                สึนะโยชิชะงัก  ในใจรู้สึกสับสนเมื่อสัมผัสนั้นมีแต่ความเย็นไร้ชีวิตแตะลงมา อะไรกันที่เขารู้สึกขาดไป..  ไม่ใช่จูบที่เย็นชืดแบบนี้   ใบหน้าของคนรักผุดขึ้นมาในความคิด   ไม่ใช่เขา.. ไม่ใช่จูบที่อ่อนหวาน.. อะไรบางอย่าง.. มันเป็นความต้องการที่มากกว่านั้น

     

                มือเล็กลูบไล้ริมฝีปากตนที่แห้งผาก

     

                "คิดถึงงั้นเหรอ..?"

     

                "..!.."

     

                สึนะโยชิสะดุ้งตกใจจนกระดาษโน้ตในมือร่วงปลิวไปอยู่ปลายเท้าอีกฝ่าย   ใบหน้าเล็กค่อยๆ ไล่สายตาขึ้นมองอย่างใจหายเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในบ้านนี้เพียงลำพังอย่างที่ควรจะเป็น

     

                "คุณฮิบาริ.. ทำไม"

     

                "จูบน่ะ"    ฮิบาริพูดขัด นั่นยิ่งทำให้ผู้เป็นเจ้าของบ้านสับสน

     

                "ผมไม่เข้าใจ.. อุ๊บ!"

     

                ปากเล็กถูกคนตัวโตโฉบชิงอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ยังพูดไม่จบ  ลิ้นร้อนควานหาความหวานในโพลงปากพลางหยอกล้อปลายลิ้นที่กำลังถดหนี

     

                สึนะโยชิหลับตาปี๋ มือปัดป่ายพยายามผลักกายร่างสูงให้ออกห่าง   แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ..   ฮิบาริดันตัวให้แนบชิดคนตัวเล็กมากยิ่งขึ้น ในขณะที่คนถูกคุกคามก็ขยับถอยออกขาเล็กถอยชนขอบเตียงไร้ทางหนี ฮิบาริได้จังหวะรวบร่างบางผลักลงเตียงแล้วขึ้นคล่อมทันที

     

                "แฮ่กๆ หยุดเถอะครั.. อื้อ"

     

                สองมือถูกรวบกำไว้เหนือหัวด้วยมือข้างเดียวของอีกฝ่าย   ฮิบาริไม่ปล่อยโอกาสให้คนใต้ร่างได้หายใจ   กดจูบรุนแรงที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์อย่างไม่ลดละ   มือข้างที่ว่างสอดใต้เสื้อไปสะกิดหยอกล้อยอดอกสีหวานจนตั้งชูชัน

     

                สึนะโยชิหัวตื้อตาพร่ามัวไร้ซึ่งแรงต่อต้าน   เขาคิดอะไรไม่ออกหลังจากได้รับจูบรุนแรงและการสัมผัสของอีกฝ่าย   มันเต็มไปด้วยความปรารถนาและไร้ซึ่งความปราณี   ชายหนุ่มรู้สึกถึงรสเลือดบริเวณริมฝีปาก   ดวงตาสีเปลือกไม้จ้องมองคนเหนือร่างเคลื่อนริมฝีปากมากดจูบสร้างรอยที่ซอกคอ   ทับรอยเดิมของอีกคน..

     

                น่าแปลก.. ทั้งที่เขาควรจะปฏิเสธสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นแท้ๆ 

     

                 มือทั้งสองข้างดึงออกจากการเกาะกุมของร่างสูงซึ่งยอมปล่อยราวล่วงรู้ความคิด   ประคองใบหน้าคมมาสบตาของตน .  ผิวขาวซีดแบบลูกผู้ดี  จมูกโด่งเป็นสัน   คิ้วเข้มรับดวงตาเรียวสีดำสนิท  เขาช่างหน้าตาดี..   ราวรูปหล่อปูนปั้นที่ถูกสร้างสรรค์อย่างประณีต   เหนือสิ่งอื่นใด... สึนะโยชิหยุดสายตาที่จุดสุดท้าย   ริมฝีปากระเรื่อที่เพิ่งมอบจูบร้อนแรงให้เขาเมื่อครู่

     

                แลบลิ้นเลียริมฝีปากที่แตกเพราะจูบรุนแรงของอีกฝ่าย


                เขาต้องการมากกว่านี้ จูบที่ช่วยเติมเต็มตัวเขา... จูบที่เขาโหยหา...

     

                สึนะโยชิมอบจูบแลกลิ้นกับคนตัวสูงที่ยอมโอนเอนให้เขาทำตามใจชอบ   ปากของฮิบาริมีรสชาติเฉพาะที่พิเศษกว่าคนอื่น   ซึ่งเขาชื่นชอบ   มาก...   จนถึงขั้นรักมันเลยล่ะ   ฝ่ามือที่ประคองใบหน้าคมค่อยๆ ลูบไล้ไปพาดบ่ากว้าง   ความหวานร้อนเหมือนไวน์องุ่นที่บ่มเพาะแรมปี   แรกเริ่มก็หวานละมุน..   แต่ยิ่งดื่มมันมากขึ้น    มากขึ้น    เขาก็ยิ่งมัวเมาไปกับรสนั้น   มากเสียจนถอนตัวไม่ขึ้น

     

                สึนะโยชิผละริมฝีปากออกเพื่อสูดอากาศเข้าปอด   ใบหน้าหวานแดงก่ำราวผลตำลึงสุก   รู้สึกถึงลมหายใจของอีกฝ่ายที่เป่ารดหน้าจนแทบทำเขาละลายกองตรงนั้น   หยาดน้ำลายสีใสเชื่อมต่อปากพวกเขาเป็นภาพกระตุ้นอารมณ์ยิ่งนัก แขนสองข้างเกี่ยวกระหวัดดึงรั้งคอร่างสูงให้โน้มลงมาประกบจูบอีกครั้ง   แต่สึนะโยชิก็ต้องผิดหวัง..    เพราะไม่ว่าจะทำอย่างไร   ฮิบาริก็ไม่มีท่าทีจะยอมเปิดปากให้เรียวลิ้นเล็กรุกล้ำมาควานหารสชาติอันหอมหวนดังที่ใจต้องการ

     

                หยาดน้ำตาคลอหน่วยความต้องการพุ่งสูงจนส่วนล่างคับตึงไปหมด   สึนะโยชิอ้าปากคอแห้งผากดั่งคนขาดน้ำ ใบหน้าแดงจัดร้อนผ่าวหายใจรัวแรงจนได้ยินเสียงหอบระรัว


                ภาพตรงหน้าทำให้ร่างสูงพึงพอใจอย่างยิ่ง   ฮิบาริกระตุกยิ้มเกี่ยวรัดร่างเล็กที่นอนอยู่ขึ้นมานั่งซ้อนตัก   มือหนาปลดกระดุมของคนตัวเล็กทีละเม็ดอย่างไม่เร่งรีบทั้งที่ส่วนนั้นของตนก็ดันกางเกงจนปวดหนึบ   เขาลากปากผ่านริมฝีปากที่เปิดอ้าเลยไปจูบที่มุมปากอย่างนึกหมั่นเขี้ยว   กระนั้นใบหน้าคมก็ถูกคนโดนแกล้งคว้าไว้อย่างรวดเร็วราวกับกลัวเขาจะหนี   

     

                สึนะโยชิแลบลิ้นชุ่มน้ำลายสีใสโลมเลียปากหยักที่ปิดสนิท   ฮิบาริส่งเสียงหัวเราะในลำคอ   ดวงตารัตติกาลทอประกายภิรมย์   โน้มใบหน้ามากระซิบเสียงพร่าด้วยแรงอารมณ์ข้างหู

     

                "บอกฉันสิที่รัก เธออยากให้ฉันทำอะไร"

     

                ฟันเขี้ยวคมกัดปลายหูหยอกล้อให้คนตัวเล็กสะดุ้งครางเสียงหวาน    คำพูดของชายหนุ่มเหมือนดั่งน้ำหล่อเลี้ยงตัวเขาที่แห้งแล้งให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง   สึนะโยชิลืมตาขึ้น   แพขนตางอนที่น้ำตาเปียกชุ่มกระพริบถี่ๆ เพื่อปรับสายตา เหลือบไปเห็นโต๊ะปลายเตียงมีกรอบรูปเล็กลายฉลุสีทองงามตั้งไว้อยู่...  

     

                ภาพที่เห็นนั้นช่างชัดเจน...    ภาพของตนกับคนรักที่โอบกอดกันอย่างมีความสุข 

     

                 สึนะโยชิหลับตาลงอีกครั้ง   ไม่รู้เพราะเหตุใด   เวลานี้...   สมองกลับโล่งโปร่งจนคิดอะไรไม่ถูก   ลืมแม้กระทั่งความผิดชอบชั่วดีสิ้น...

     

     

    สำหรับสึนะโยชิแล้ว ฮิบาริ เคียวยะ เปรียบเสมือนยาเสพติด...

    ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขามัวเมากับรสจูบอันบ้าคลั่งนี้...

    ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ชีวิตเขาขาดมันไม่ได้...

     


     

                "จูบผม ได้โปรด...ผมคิดถึงจูบคุณจนจะบ้าแล้ว"

     

     

                อสูรร้ายรัตติกาลเผยรอยยิ้มกว้างอย่างแยบยล   มอบพรมจูบและสัมผัสร้อนแรงที่ทั้งคู่ต่างประวิงหามาเนิ่นนาน   อย่างไม่มีวันเบื่อหน่าย

     

     

    และฮิบาริเองก็ขาด ซาวาดะ สึนะโยชิ ไม่ได้เช่นกัน....

     

     

     

     

     

     


                ทว่าคำพูดนั้นกลับทำให้ใจคนฟังแทบแหลกสลาย..    ร่างกายสูงโปร่งทรุดลงนั่งพิงประตูด้วยความอ่อนล้า   ฟันขบเม้มริมฝีปากอดกลั้นเสียงคร่ำครวญจนเลือดซิบ   หยาดน้ำตาลูกผู้ชายหลั่งไหลออกมาเกินฝืนทน    มือหนาขยุ้มอกตัวเองที่ปวดร้าวเจียนขาดใจ

     

                ดีโน่ คาบัคโลเน่   คงคิดว่าตัวเองทำงานเหนื่อยจนละเมอเพ้อไป   หากไม่ใช่เพราะนี่เป็นอีกครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่เขาต้องมารับรู้มันกับตนเอง

     

                ความสัมพันธ์นานนับห้าปีที่เขามี มันเทียบไม่ได้กับสามเดือนที่ร่างบางได้พบเพื่อนรักเขาเลย..

     

                ดีโน่รู้ดี..    นั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งสองพบกัน    แต่เขาก็ยังคิดจะแกล้งปิดหูปิดตาไม่รับรู้เรื่องใดๆ ต่อไป    หากทั้งคู่ยังคงอยู่กับเขาเสมอ..    บางทีมันคงเป็น ความคิดที่ไร้เดียงสาจนน่าหัวเราะ

     

                แฟ้มเอกสารกระจายข้างกายชายหนุ่ม   ข้อมูลสำคัญ   ที่เขาเพิ่งพบเจอ  สุดท้ายแล้วเบียคุรันก็ทำสำเร็จ..    ฮิบาริ เคียวยะ    คนสนิทฝีมือดีที่สุดผู้แฝงตัวมาอยู่ข้างกาย   คอยช่วยเหลือห่วงใย   มอบความหมายของคำว่าเพื่อน    และตลบหลังเขาได้ทรมาณสาหัสมากที่สุด

     

                "ฉันแพ้แล้วพี่ชาย"

     

                หยิบปืนพกในกระเป๋าข้างกายมาพิจารณา    ความมันวาวสะท้อนต้องแสงไฟจนดวงตาพร่ามัว    เขาแค่นหัวเราะกับตัวเอง   พลางบรรจุกระสุนหนึ่งนัดที่มีใส่ลงไป

     

     

    จะโทษใครได้เล่า..

    นอกจากใจเขาที่ไม่อาจขาดร่างบางได้...

     

     

                ปัง!

     




     

     


     

    ฟง(คนแต่ง) : คิดว่าดีโน่ยิงอะไรจ๊ะ ยิงเสาไฟชิมิ
    นักอ่าน : ยิงคนแต่งจ้า
    ฟง(คนแต่ง) : อ่ะ..

     

    ฟง(คนแต่ง) : แต่ง 1827 ทีไร วนเข้าดาร์กไซด์ทุกทีเลยค่ะ
    นักอ่าน : นั่นแหละ ของโคตรดี *ซู้ด*

     

    นักอ่าน : ทำไมแต่งช้าจัง
    ฟง(คนแต่ง) : ก็ไม่คิดว่าจะมีคนมาอ่าน เลยไม่ได้แต่งสำรองไว้ค่ะ ต้องปั่นเพิ่มทุกครั้งที่มีคอมเม้นกับเฟบ *หลบตา*
    นักอ่าน : *จ้อง*
    ฟง(คนแต่ง) : อันที่จริงคือติดเกมจีบหนุ่มค่ะ

     

     

    Talk  with (Fong)Writer

     

                ยอมรับค่ะว่าแชปนี้สั้นมาก เนื่องเพราะแต่งตามอารมณ์ล้วนๆไม่มีการวางแผนแบบร่างโครงเรื่องใดๆ เหมือนแชปอื่นๆ  แต่เรื่องสั้นทั่วไปความยาวเท่านี้กำลังพอดีสินะคะ..? *กระแอม*  อีกอย่างคือแต่งในโทรศัพท์มือถือค่ะ  ยังไม่ได้ผ่านการตรวจทานมาก อาจมีบางจุดติดขัดทักได้นะคะ

     

                ยังไม่เคยมาพูดคุยกับผู้อ่านจริงๆจังเลย สวัสดีค่ะชื่อฟงค่ะ ส่วนตัวชอบให้เรียกชื่อมากกว่าคำว่าไรต์  ขอบคุณที่ชื่นชอบในผลงานของนักแต่งเอาแต่ใจอย่างฉันนะคะ  ถึงแม้จะลงช้ามากก็ตามที (ฮา) หวังว่าทุกท่านจะมีความสุขกับงานของฉันเช่นเดียวกับฉันที่มีความสุขที่ได้เห็นคอมเม้นของทุกท่านนะคะ  รัก

     

    ฟง  จิ้งจอกสีชาด


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×