Cresent Sun [DoubleB] - Cresent Sun [DoubleB] นิยาย Cresent Sun [DoubleB] : Dek-D.com - Writer

    Cresent Sun [DoubleB]

    "ได้โปรดเถอะคุณหมอ คุณก็รู้ว่าเขาสำคัญกับผมแค่ไหน ผมมีเงิน ผมพร้อมรับผิดชอบ เอาเอกสารมาให้ผม ให้ผมได้เซ็นให้เขาเถอะนะ"

    ผู้เข้าชมรวม

    439

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    439

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    6
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 ก.พ. 58 / 19:12 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น


    Title: Cresent Sun
    Parring: kim jiwon x kim hanbin
    Rate: PG
    Description: ก็ว่างๆไปตามเรื่อง ไม่มีอะไรทำก็ทำร้ายเมน สนุกดี5555
    ควรตามไปอ่านอันนี้ด้วย เค้ามาคู่กัน
    จิ้มๆ http://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1304832

    Author's : twit me @parrepattp เราไม่กัดนะเธอ







    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ














      ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก!


      เสียงวิ่งสุดแรงดังไปตามโถงทางเดินสีขาวของโรงพยาบาล ผู้คนที่เดินสวนไปต่างเหลียวหลังกลับไปมองชายหนุ่มที่วิ่งสุดฝีเท้าผ่านพวกเขาไป เหล่าผู้ป่วยมีท่าทางตกใจ หากแต่เหล่าพยาบาลมองตามหลังไวๆนั่นด้วยสายตาปกติ เพราะโถงตรงนี้เป็นทางผ่านไปยังปีกซ้ายของโรงพยาบาล มักจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยจนพวกเธอชาชิน



      ทางไปห้องฉุกเฉิน...







      ฮันบินไม่คิดว่าตัวเองจะวิ่งได้เร็วกว่าที่เขากำลังวิ่งอยู่อีกแล้ว กล้ามเนื้อปวดร้าวจนแทบล้มทั้งยืนหากแต่เขาก็ยังกัดฟันวิ่งต่อไป หัวใจเต้นระรัวในอก ไม่ใช่เพราะเหนื่อย แต่เพราะความรู้สึกร้อยพันที่อัดแน่นอยู่ภายใน จวนจะอดกลั้น ฮันบินนำ้ตารื้นขึ้นเมื่อนึกถึงคำพูดของโรงพยาบาลที่ดังก้องจากโทรศัพท์ของเขา เมื่อไม่ประมาณสองชั่วโมงก่อนหน้านี้ ก่อนที่ฮันบินจะทิ้งทุกอย่างแล้ววิ่งเท้าเปล่ามาที่นี่อย่างไม่คิดชีวิต



      'คุณคิมฮันบินญาติของคุณคิมจีวอนหรือเปล่าคะ? ตอนนี้คุณจีวอนประสบอุบัติเหตุรถควํ่า อยู่โรงพยาบาล....'



      ไม่รู้เหมือนกันว่าต่อจากนั้นพยาบาลสาวคนนั้นพูดอะไรบ้าง เพราะทันทีที่ประโยคที่สองหลุดออกมาจากปากของเธอ ฮันบินก็ทิ้งโทรศัพท์ลงพื้นและผลุกผลันวิ่งออกไปเสียแล้ว ในใจของเขาตอนนี้มีอยู่เพียงสิ่งเดียว



      จีวอนฮยอง....



      ร่างโปร่งวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูกระจกบานใหญ่ที่ติดฟิล์มขุ่นเอาไว้ ป้ายด้านบนเขียนด้วยตัวอักษรสีแดงขนาดใหญ่ไว้ว่า'ห้องฉุกเฉิน' ฮันบินยืนหอบหายใจอยู่ตรงนั้น มองไฟสีแดงที่เปิดค้างแสดงว่ามีคนอยู่ข้างในนั่นด้วยอารมณ์หลากหลาย มือข้างหนึ่งยกขึ้นยันผนังไว้อย่างเหนื่อยล้า ขาสองข้างสั่นระริก ปลายเท้าเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ฮันบินก็ไม่ได้สนใจ เขายืนนิ่งอยู่กับที่ สายตาจับจ้องไปที่บานประตูที่ปิดสนิท ความรู้สึกบางอย่างทับถมลงในใจ



      เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่อาจทราบได้ ฮันบินยังคงยืนนิ่ง ลมหายใจกลับมาสมำ่เสมอ แต่หัวใจยังคงเต้นระรัวเร็ว
      อย่างคาดหวัง เขาเหลือบมองนาฬิกาตรงผนัง









      03:05AM




      ผ่านไปห้าชั่วโมงแล้วหลังจากที่ฮันบินได้รับโทรศัพท์ว่าจีวอนประสบอุบัติเหตุ เขายกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองและสูดหายใจเข้าลึก ขอร้องให้ใครซักคนเดินออกมาแล้วบอกกับเขาว่าคิมจีวอนปลอดภัย ก่อนที่เขาจะเป็นบ้าไปซะก่อน


      และเหมือนคำขอของเขาจะเป็นผล...


      ร่างสูงของนายแพทย์หนุ่มในชุดผ่าตัดสีเขียวเดินออกมา ฮันบินพุ่งตัวเข้าไปหาอีกฝ่ายทันที นำ้เสียงของเขาแห้งผาก แต่ดวงตาที่จ้องอีกฝ่ายกลับเปี่ยมไปด้วยความหวัง


      "ขะ เขาไปยังไงบ้างครับ?"


      "
      คุณเป็นอะไรกับคนไข้ครับ?"



      ฮันบินนิ่งไปเมื่อได้ยินคำถามนี้ ริมฝีปากถูกเม้มเข้าหากัน เอ่ยออกไปเสียงสั่น ถึงสถานะทางกฏหมายของพวกเขา



      "...เพื่อนครับ"



      กฏหมายระบุไว้ว่าพวกเขาเป็นแค่เพื่อนกัน


      ฮันบินรู้ดีว่าต่อให้พูดความจริงไปก็คงช่วยอะไรไม่ได้ เขามองเข้าไปในดวงตาของแพทย์หนุ่ม รู้ดี ว่าอีกคนทราบว่าแท้จริงเขากับคนป่วยเป็นอะไรกัน


      "ผมต้องการญาติผู้ป่วยครับ"


      "ผมได้ครับ"


      "ไม่ครับ ผู้ป่วยบาดเจ็บร้ายแรง ต้องการการผ่าตัด"


      หมอหนุ่มส่ายหน้าให้เขา คำพูดที่ออกมาทำให้ฮันบินแทบจะล้มทั้งยืน คำว่าบาดเจ็บร้ายแรงกรีดลึกลงในใจคนฟัง แต่ฮันบินก็ยังไม่ยอมแพ้ เขายืนยันที่จะอยู่จัดการทุกอย่างให้จีวอน


      "ต้องการกรอกประวัติคนไข้ครับ"

      "ผมกรอกได้"


      "ต้องมีญาติมาติดต่อการเงินครับ"

      "ผมจะจ่ายให้"


      "ต้องเซ็นยินยอมครับ"

      "ผมจะเซ็..."


      "ไม่ได้ครับ"


      นายแพทย์คนดังกล่าวจับไหล่ฮันบินไว้ทั้งสองข้าง จ้องลึกเข้าไปในดวงตาสั่นระริกของชายหนุ่ม ก่อนจะเอ่ยยํ้าช้าๆชัดๆให้ฮันบินฟัง


      "ต้องใช้คนที่กฏหมายรับรองได้เท่านั้นครับ คุณทำอะไรไม่ได้ คุณควรโทรตามญาติคนไข้มา"


      "...."


      "
      ซักครู่ผมจะออกมาใหม่นะครับ"


      กล่าวทิ้งท้ายไว้แต่นั้น ก่อนจะขอตัวเข้าไปเช็คอาการผู้บาดเจ็บต่อ ทิ้งให้ฮันบินยืนนิ่งค้าง มือทั้งสองตกลงข้างลำตัว นำ้ตาสีใสค่อยๆไหลออกมา


      ทำไมเขาจะตัดสินใจให้คนที่อยู่ด้วยกันมาครึ่งชีวิตไม่ได้กัน 


      ทำไมเขาจะเซ็นอนุมัติให้ผู้ชายที่เป็นส่วนหนึ่งของเขาไม่ได้กัน


      ทำไมเขาจะเซ็นโอนเงินที่พวกเขาทั้งคู่ช่วยกันหามาให้ช่วยชีวิตอีกฝ่ายไม่ได้กัน 


      เพราะว่ากฏหมายระบุว่าฮันบินเป็นแค่เพื่อนอย่างนั้นหรือ?


      เพราะว่าต่อให้อยู่ด้วยกันมานานแค่ไหน รักกันมานานแค่ไหน ถ้าไม่ใช่ชายหญิงแต่งงานกัน ก็ช่วยอะไรไม่ได้แม้แต่นิดเดียวงั้นเหรอ?


      จะให้เขาโทรหาญาติที่ไหน? ญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่คือคิมจีอา มารดาของคิมจีวอน แต่วันนี้เธอนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลสำหรับคนชราที่อยู่ไกลออกไป ต้องใช้เวลากว่าสามชั่วโมงในการเดินทาง 



      ฮันบินกำกระเป๋าสตางค์แน่น ภายในมีบัตรเครดิตสีเหลืองใบหนึ่ง ใบที่ลงชื่อไว้ในบัญชีด้วยนามของเขากับจีวอน ใบที่จีวอนเคยบอกไว้ ว่าสำหรับเหตุฉุกเฉิน ฮันบินกัดปากจนเลือดซิบ ยกหลังมือขึ้นปาดนำ้ตา

      นี่ยังไง เหตุการณ์ฉุกเฉิน

      คิมจีวอนกำลังจะจากเขาไป

      ทำไมถึงทำอะไรไม่ได้ซักอย่างเลย...




      ยืนอยู่ตรงนั้นไม่นาน คุณหมอคนเดิมก็เดินออกมาอีกครั้ง หนนี้เขาดูร้อนรนกว่าเก่า นั่นยิ่งทำให้หัวใจของฮันบินไหววูบ นึกเป็นห่วงคนในห้องฉุกเฉินยิ่งกว่าเดิม นายแพทย์หนุ่มเดินเข้ามาหาเขา เอ่ยถามคำพูดเดิมอีกครั้ง


      "ผมต้องการญาติคนไข้ครับ"


      แต่คราวนี้ฮันบินไม่อาจโวยวายอะไรอีกต่อไป เสียงวุ่นวายภายในห้องผ่าตัดนั่นดังลอดออกมา เขารู้สึกหมดสิ้นเรี่ยวแรง วางลงซึ่งศักดิ์ศรีทุกอย่าง ฮันบินทรุดตัวลงนั่งแทบเท้าอีกคน หมอหนุ่มตกใจจนสะดุ้ง ดวงตาหลังกรอบแว่นเบิกกว้างมองฮันบินอย่างตกตะลึง ฮันบินคุกเข่าอยู่ตรงนั้น ดวงตาที่ฉำ่นำ้เงยขึ้นมองอีกคนอย่างอ้อนวอน เสียงที่เปล่งออกมารวดร้าวปานขาดใจ



      "ได้โปรดเถอะคุณหมอ คุณก็รู้ว่าเขาสำคัญกับผมแค่ไหน ผมมีเงิน ผมพร้อมรับผิดชอบ เอาเอกสารมาให้ผม ให้ผมได้เซ็นให้เขาเถอะนะ"



      นำ้ตาที่หลั่งไหลลงมาราวกับไม่มีทางหยุด นำ้เสียงร้าวรานบีบคั้นหัวใจคนฟังจนหมอหนุ่มเองรู้สึกผิดล้นในใจ เขาทรุดตัวลงนั่นข้างๆอีกคน มือหนายกขึ้นลูบไหล่ที่สั่นสะท้านอย่างให้กำลังใจ ฮันบินสะอื้นไห้ เสียงสะอื้นดังออกมาจากปากเล็กไม่ขาดหาย ใบหน้าเจ็บปวดของอีกคนพาให้นายแพทย์หนุ่มใจอ่อนยวบ หากแต่กฏหมายไม่อาจปรานีใคร

      ร่างสูงในชุดผ่าตัดลุกขึ้นยืน เขาแกะมือฮันบินออกจากขากางเกงของตัว โค้งเบาๆให้อีกคนก่อนจะเดินหายกลับไป


      "ผมขอโทษ ถ้าคนไข้ไม่มีญาติทางโรงพยาบาลจะเป็นผู้จัดการเอง"


      ฮันบินเอื้อมมือขึ้นไปทางประตู ภาพตรงหน้าพร่าพรายไปด้วยหยาดนำ้ตา เขาสะอื้นเฮือกแล้วเฮือกเล่า ยกมือสองข้างขึ้นปิดใบหน้า ไม่ได้ฟูมฟาย แต่กลับทุรนทุรายอยู่ภายใน


      เขาไง คือคนที่จีวอนไว้ใจ

      เขาไง คือคนที่เป็นเหมือนญาติที่ดีที่สุด

      เขาไง คือคนที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยจีวอน


      แล้วทำไมถึงไม่ให้เขาทำ...


      เพราะกฏหมาย...


      กฏหมายที่โหดร้ายนั่น กำลังจะพรากคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาไป





      ฮันบินทรุดตัวร้องไห้อยู่ที่เดิม พื้นเย็นเฉียบจนปลายเท้าชาดิก แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงที่จะขยับไปไหน เสียงอื้ออึงยังดังอยู่ในหู ความรู้สึกคลื่นไส้ตีวนอยู่ในช่องท้อง ทรมานจนแทบอาเจียน หากแต่นำ้ตาก็ยังคงไม่หยุดไหล เขาแสบไปทั้งคอ และทั้งโพรงจมูก ดวงตาชำ้แดงจนแทบลืมไม่ไหว หากแต่ภายในใจยังคงอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้า ร้องขอให้คิมจีวอนปลอดภัย


      แต่เหมือนสวรรค์จะไม่เข้าข้างเขาอีกต่อไป


      เสียงตี้ดยาวดังลอดออกมาจากอีกฝั่งของบานประตูกระจกขุ่น มันแสนเบาจนแทบไม่ได้ยินหากแต่แผดลั่นอยู่ในใจของเขา ฮันบินนั่งตัวแข็งทื่อ ดวงตาบวมชำ้จ้องไปที่บานประตูที่ปิดสนิท เขาได้ยินเสียงฝีเท้ากระทบพื้นอ่อนที่ไม่นานประตูตรงหน้าจะถูดเปิดออก นายแพทย์คนเดิมเดินออกมาด้วยใบหน้าอ่อนล้า ฮันบินจ้องตาอีกฝ่าย ใบหน้าสิ้นหวังนั้นทำเอานำ้ตาที่เกือบจะแห้งเหือดหลั่งริน


      เขามองใบหน้าหลังหน้ากากอนามัยที่ส่ายหน้าให้เขาเบาๆ โค้งตัวขอโทษ ก่อนจะเดินออกไปจากหน้าห้องฉุกเฉิน ทิ้งฮันบินให้นั่งนิ่ง มองเศษเสี้ยวสุดท้ายของความหวังถูกขยี้ลง เหมือนกับก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายที่แหลกสลายลงในเวลาเดียวกัน






      ชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าผ่านไปจนดวงอาทิตย์โผ่ลพ้นขอบฟ้าขอบฟ้า ฮันบินนั่งนิ่งอยู่บนพื้นหินอ่อนเย็นยะเยือก แสงแดดสีส้มทอผ่านหน้าต่างบานใหญ่เข้ามากระทบตัว ได้ยินเสียงนกร้องเรียกกันและกันอยู่ไกลออกไป


      ฮันบินเบนสายตาออกไปมองนอกหน้าต่าง เห็นดวงอาทิตย์กำลังโผล่พ้นขอบฟ้า ความอุ่นวาบไล้วนไปตามผิวดุจอ้อมกอดอันอบอุ่นของใครบางคน เขาลุกขึ้นยืน เรียวขาทั้งสองข้างยังคงสั่นสะท้าน ใจที่เหลืออยู่เพียงครึ่งหนึ่งยังคงเต้นต่อไปอย่างปวดร้าว ฮันบินยังคงนิ่งเงียบ เรื่องเดียวที่พอจะทำใจให้เชื่อไปได้คือจีวอนยังอยู่ข้างในบานประตูนั้น


      แต่สุดท้ายก็หลอกตัวเองไปต่อไม่ได้...


      บานประตูของห้องฉุกเฉินเปิดออก ก่อนจะมีบุรุษพยาบาลสองคนเดินเข็นเตียงผู้ป่วยออกมา บนเตียงนั้นมี่ร่างของคนคนหนึ่งนอนกลับไหล ผ้าคลุมสีขาวคลุมตั้งแต่ศีรษะลงไปจรดเท้า สายตาของบุรุษพยาบาลทั้งสองคนมองฮันบินอย่างเห็นใจ ฮันบินไม่ได้เหลียวไปมองอีกฝ่าย เขาปล่อยให้บุรุษพยาบาลช่วยกันเข็นร่างๆนั้นออกไปราวกับไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญ เหมือนร่างที่ถูกเข็นผ่านไปไม่ใช่ร่างที่เป็นเจ้าของหัวใจ เสียงล้อหมุนไปตามพื้นโรงพยาบาลค่อยๆเบาลงไป เหมือนดึงเอาเสี้ยวสุดท้ายที่บอบชำ้ของฮันบินให้หลุดลอยตามไป นัยตาว่างเปล่าจ้องมองดวงไฟที่อยู่เหนือประตูห้องผ่าตัด


      มันดับลงตอกยํ้าชัดเจน ว่าไม่มีใครเหลือแล้วจริงๅ



      ฮันบินหันหลังกลับ เดินย้อนไปตามทางที่เขาใช้วิ่งเข้ามา เท่าทั้งสองข้างก้าวไปกับพื้นเป็นจังหวะเท่าเดิมหากแต่เบาหวิว ฮันบินไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่บาดแผลตรงเท้าอีกต่อไป เมื่อความเจ็บปวดจากภายในเหวอะหวะจนด้านชา เรียวขาก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูทางออกของโรงพยาบาล เวลาเช้าตรู่ทำให้โถงขนาดใหญ่นี้ร้างไร้ผู้คน เก้าอี้ที่เรียงรายต้างว่างเปล่า มีเพียงแสงอาทิตย์อ่อนๆเท่านั้นที่สาดส่องมอบแสงสว่างให้ ฮันบินยืนนิ่งมองทางข้างนอก หัวสมองค่อยเรียบเรียงเรื่องราวทั้งหมดให้เข้าที่เข้าทาง สลักลึกทุกอย่างลงในใจ


      จะไม่มีคิมจีวอนอีกต่อไป


      แต่คิมฮันบินยังยืนอยู่ตรงนี้


      แม้หัวใจจะแตกสลาย หากแต่ก็ยังต้องใช้ชีวิตอยู่ต่อไป


      ฮันบินสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะก้าวเดินออกจากโรงพยาบาลใหญ่ แสงแดดอ่อนๆตกกระทบลงบนเรือนผมสีดำสนิท ส่งมอบความอบอุ่นให้ด้วยหวังจะช่วยเยียวยาร่างกายอันบอบชำ้












      ลับหลังเล็กที่เดินจากไป มีร่างสูงของใครคนหนึ่งยืนนิ่งอยู่ในจุดที่ฮันบินเคยยืน มองส่งร่างเล็กนั้นจนลับสายตา รอยยิ้มอบอุ่นดั่งแสงตะวันถูกระบายออก แล้วเมื่อสายลมพัดผ่าน ร่างๆนั้นก็หายวับจากคลองสายตา






      ทิ้งไว้เพียงไอแดดเล็กๆที่ล่องละลอยขึ้นฟ้าไป...












      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×