Bed and Breakfast [BJIN]
happy birthday kimjinhwan :)
ผู้เข้าชมรวม
721
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ยามเช้าตรู่แบบนี้ในโซลอากาศค่อนข้างหนาว แม้จะพ้นช่วงฤดูหนาวมาเกือบสัปดาห์แล้วแต่คนส่วนมากก็ยังสวมโค้ทเดินกันขวักไขว่อยู่ดี
จินฮวานมองผู้คนที่เดินไปมาผ่านกระจกใส กระจกใสบานใหญ่สั้นเย็นเฉียบจนจินฮวานเบ้หน้า เขาไขกุญแจประตูร้านให้เปิดออก พลิกป้ายที่ห้อยบนบานประตูให้เป็นคำว่ายินดีต้อนรับ ก่อนจะเดินกลับไปหลังเคาท์เตอร์แล้วใส่ผ้ากันเปื้อนสีนำ้ตาล เขาสูดกลิ่นเมล็ดกาแฟคั่วที่ลอยอยู่จางๆรอบตัว พร้อมสำหรับการทำงานเหมือนทุกวัน
ผู้คนต่างพากันแวะเข้ามาในร้าน เสียงกระดิ่งตรงหัวประตูดังกรุ๊งกริ๊งอยู่ไม่ขาด ภายในตัวร้านคึกคักเต็มไปด้วยชายหญิงมากมายเสมอ บ้างก็มาจิบกาแฟ บ้างก็มาหาอาหารเช้ากิน นักท่องเที่ยวบางคนก็เข้ามาติดต่อขอค้างคืนที่ชั้นบน โรงแรมที่จินฮวานทำงานอยู่เป็นที่พักชั่วคราวสำหรับนักท่องเที่ยว ลูกค้าของเขาจึงมีทั้งคนต่างชาติ คนเกาหลี ลูกค้าที่เดินเข้ามาทางหน้าร้านและลูกค้าที่เดินลงมาจากชั้นบน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคนเดียวจะทำงานยุ่งแค่ไหน แต่จินฮวานก็มีความสุขที่จะทำมัน
7.00 น.
ร่างเล็กที่ยืนอยู่หลังเครื่องชงกาแฟชะเง้อมองไปทางบันไดโรงแรมที่นักท่องเที่ยวทยอยเดินลงมากันแล้ว
ทำไมยังไม่มาอีก...
มือขาวส่งกาแฟถ้วยเล็กหอมกรุ่นให้กับลูกค้าสาวตรงหน้า โค้งตัวเล็กน้อยรักคำขอบคุณจากเธอ ก่อนจะหันหน้ากลับไปที่บันได นัยตาสีดำขลับจดจ้องไปที่นั่น พยายามมองหาคนที่ควรจะเดินลงมาได้แล้วในเวลานี้ของทุกๆวัน
จินฮวานชะเง้อมองบันไดอยู่อีกสองสามนาน ตอนที่เขาเกือบจะถอดใจแล้วนั่นเอง ร่างคุ้นตาก็ก้าวลงบันไดมา ส่วนสูงโดดเด่นของอีกฝ่ายกับขายาวๆนั่นยังทำให้จินฮวานใจเต้นเสมอ คนตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้ ยกยิ้มให้เขาทีหนึ่งอย่างที่ทำประจำก่อนจะสั่งเมนูเดิมๆเหมือนทุกวัน
"สวัสดีตอนเช้าครับ ผมขออเมริกาโน่ร้อนหนึ่งแก้วครับ"
รอยยิ้มของอีกฝ่ายและสายตาที่คอยจ้องอยู่ตลอดทำเอาจินฮวานหน้าขึ้นสี มือเล็กสั่นน้อยๆอย่างเขินอายแต่ก็ขยับชงกาแฟตามออเดอร์ที่ได้มาอย่างชำนาญ เขาลอบมองอีกคนเป็นพักๆ แต่ก็พบรอยยิ้มแบบเดิมและดวงตาประกายที่สื่อความหมายชัดเจนยังคงจ้องมาอย่างไม่ปิดบัง แก้มของเขาเห่อร้อนจนอีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ จินฮวานเม้มปาก เขาหลบสายตาวิบวับนั่น แก้มแดงกว่าเดิมอย่างเขินอาย
"อ่ะ นี่"
มือเล็กส่งแก้วกาแฟร้อนผ่านเคาท์เตอร์ไปให้ มือของอีกคนยื่นมารับแก้วไว้ ปลายนิ้วของพวกเขาสัมผัสกันเบาๆ จินฮวานสะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะหลบรอยยิ้มพรายที่ถูกส่งมา
"จินฮวานฮยอง เมื่อคืนหลับสบายไหมครับ"
"ก็โอเค นายล่ะ?"
"อากาศหนาวไปหน่อย ผมอยากให้ถึงหน้าร้อนเร็วๆจัง"
"พอถึงหน้าร้อนก็มาบ่นร้อนอยู่ดี"
"ฮะฮะ ช่วยไม่ได้นี่ ผมมันไม่ค่อยพอใจอะไรง่ายๆหรอก"
"...."
"แต่ถ้าผมพอใจอะไรแล้ว ผมก็จะชอบจริงๆนะ"
"กินกาแฟไปเงียบๆเลย"
จินฮวานหันหลังให้ใบหน้าหล่อเหลาที่ยิ้มกริ่ม หันไปรับออเดอร์จากลูกค้าคนใหม่ที่เดินเข้ามาแทน เขาได้ยินเสียงฮันบินหัวเราะเบาๆแต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ
...พูดอะไรไม่รู้ เขาเขินนะ....
คิมฮันบินอายุอ่อนกว่าเขาหนึ่งปี จินฮวานเจออีกคนครั้งแรกเมื่อประมาณสามเดือนก่อน ร่างสูงสะดุดตากับสายตาดึงดูดนั้นทำให้เขาสนใจ อีกคนก็ดูจะสนใจเขาอย่างไม่คิดจะปิดบัง ฮันบินเริ่มมาที่ร้านถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด ทุกๆวันตอนเจ็ดโมงเช้า ก็จะมีอีกคนมานั่งกินกาแฟอยู่ข้างๆ และกว่าจะรู้ตัว เขาก็เฝ้ารอการมาของคิมฮันบินในทุกๆเช้าเสียแล้ว
พวกเขาคุยกันไร้สาระอีกนิดหน่อย ก่อนที่ร่างสูงจะยกกาแฟขึ้นกระดกจนหมดอย่างที่เขาชอบด่าว่ามันดูกุ๊ย ฮันบินยิ้มให้เขาอีกหนึ่งที วางเงินค่ากาแฟลงบนเคาท์เตอร์ แล้วก็ลุกเดินออกไป
จินฮวานเคยสงสัยอยู่บ่อยครั้งว่าอีกคนออกไปไหน แล้วกลับมาเมื่อไหร่ถึงได้โผล่ลงมาจากชั้นบนได้ทุกเช้า ทั้งๆที่เขาก็ไม่เคยเห็นตอนอีกคนเดินกลับเข้ามา เขาเคยถามฮันบินอยู่รอบหนึ่งแล้วคำตอบที่ได้ก็เป็นเพียงเสียงหัวเราะกับคำพูดเสี่ยวๆว่า'เพราะผมกลับมาตามความรู้สึกในใจ' จำได้ว่าวันนั้นเขกหัวอีกคนไปหนึ่งทีแล้วไล่อีกคนออกไปแทบไม่ทัน แค่นึกถึงหน้ายังร้อนวูบๆเลย
.
.
.
จินฮวานกำลังปิดร้าน ลูกค้าประจำบางคนที่นั่งอยู่พากันสงสัยว่าทำไมวันนี้เขาปิดร้านเร็วกว่าหกโมงเย็น พวกเขามองไปยังคนตัวเล็กที่เดินปิดหน้าต่างจนครบ หันมายกเก้าอี้ที่ไม่มีคนนั่งแล้วขึ้นควํ่าบนโต๊ะ เดินไปปิดไฟตู้เค้กกับเครื่องทำกาแฟ แม้จะไม่มีเสียงเร่งรัดแต่พวกเขาก็มีมารยาทมากพอที่จะรีบจัดการเครื่องดื่มของตนและทยอยลุกออกจากร้านไป
จินฮวานยิ้มแห้งๆขณะค้อมหัวให้สุภาพสตรีสูงอายุคนหนึ่งที่กำลังจะเดินเข้าร้านทั้งๆที่เขาขึ้นป้ายแล้วว่าปิดบริการ เขาเดินไปตามถนนใหญ่ เลี้ยวเข้าออกซอยนู้นนี้อย่างชำนาญ สุดท้ายก็มาถึงถนนสายเล็กๆที่คนไม่พลุกพล่านเท่าไหร่นัก เขากระชับเสื้อโค้ทเข้ากับตัวเมื่อลมเย็นพัดผ่านตัว เส้นผมสีดำถูกพัดจนปลิว ถูจมูกไปมาก่อนจะสาวเท้าเร็วขึ้นเพื่อให้ไปถึงที่หมายก่อนจะหวัดกิน
ร้านเค้ก.....
ร่างเล็กยืนเกาะอยู่หน้ากระจกร้านเค้กเล็กๆแห่งหนึ่ง มันไม่ได้ใหญ่มาก และตั้งอยู่ในมุมเล็กๆมุมหนึ่งของถนน แต่เค้กหลากหลายชนิดที่วางเรียงรายอยู่ในตู้ก็ดูน่าสนใจเพียงพอแล้วสำหรับจินฮวาน
นี่คือสาเหตุที่ทำให้จินฮวานปิดร้านเร็วกว่าปกติล่ะ พรุ่งนี้จะเป็นวันเกิดครบรอบยี่สิบสองปีของเขา จินฮวานผ่านร้านเค้กนี่ทุกวันระหว่างกลับบ้าน เขาเล็งเค้กช็อกโกแลตเคลือบนำ้ตาลก้อนหนึ่งไว้มาซักพักแล้ว กำลังหาข้ออ้างซื้อมากินอยู่พอดี ดวงตาเรียวสวยจ้องเค้กช็อกโกแลตชิ้นโตที่นอนนิ่งอยู่เป็นประกาย เนื้อครีมช็อกโกแลตหวานฉำ่กับนำ้ตาบไอซิ่งที่เคลือบเป็นเกล็ดจนขาวแวววาวทำให้จินฮวานลอบกลืนนำ้ลาย ยิ่งจินตนาการถึงเนื้อเค้กนุ่มนิ่มกับรสสัมผัสหวานหอมของช็อกโกแลตจินฮวานก็แทบจะเก็บยิ้มไม่อยู่ เขาไม่รอช้าส่งเสียงเรียกพนักงานออกมา แล้วขอซื้อเจ้าเค้กน่ากินนี่ทันที
"ขออภัยค่ะ เค้กชิ้นนี้มีคนจองไว้แล้วค่ะ"
.....
จินฮวานยืนเก้ออยู่ตรงนั้น มือเล็กยังยกค้างจิ้มตู้เค้กไว้ไม่ได้เอาลง สายตาเหลือบกลับไปมองเค้กชิ้นโต เกล็ดนำ้ตาลสะท้อนแสงไฟราวกับเยาะเย้ยเขา จินฮวานเบะหน้า ก้มหน้าก้มตาขอบคุณพนักงานคนนั้นแล้วเดินจำ้ออกมา
ใจร้ายที่สุด ใครกันมาซื้อเค้กนี่ตัดหน้าเขาไป เขาเล็งไว้ตั้งนานแล้วนะ วันเกิดของเขาทั้งที เขาต้องได้กินของที่ตัวเองอยากกินสิ จินฮวานยู่หน้าใส่อากาศ เดินกระทืบเท้าตึงๆไปตามทางกลับบ้านไปอย่างไม่พอใจ คนที่เดินผ่านก็ได้แต่มองเขางงๆ
.
.
.
คิมจินฮวานกำลังหงุดหงิด!!
หงุดหงิดมากด้วย
ตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่งกว่าๆใกล้จะแปดโมงแล้ว เขาเปิดร้านตามเวลาปกติ ต้อนรับลูกค้าเหมือนปกติ ตอนเจ็ดโมงตรงก็ชะเง้อคอมองหาฮันบินเหมือนปกติ แต่รอแล้วรอเล่าคิมฮันบินก็ยังไม่ยอมโผล่หัวมาเสียที อเมริกาโน่ที่เขาชงรอมันเย็นชืดจนต้องเททิ้งไปหมดแล้ว
จินฮวานกัดปาก ความรู้สึกน้อยใจหล่นทับจนรู้สึกถึงความร้อนแล่นไปที่กระบอกตา เขากระแทกเหยือกนมในมือลงบนเคาท์เตอร์เสียงดัง ก่อนจะเงยหน้าควบคุมอารมณ์
วันนี้เป็นวันเกิดของเขา...
เขาแน่ใจว่าฮันบินรู้ พวกเขาเคยคุยกันเรื่องนี้เมื่อนานมาแล้วและฮันบินก็เคยรับปากว่าจะหาของขวัญเจ๋งๆมาให้ แต่นี่อย่าว่าแต่ของขวัญเลย แค่มาปรากฏตัวเหมือนทุกวันยังมาไม่ได้ มาหายไปทำไมในวันเกิดของเขา ปีนี้เขาจะได้อะไรสมใจซักอย่างมั้ยเนี่ย จินฮวานคิดพลางหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียว
ลูกค้าคนที่เดินมาสั่งเบเกอรี่ก็ได้แต่ยืนอึกอักอยู่ตรงนั้น เขาสะดุ้งตั้งแต่ตอนที่บาริสต้าคนสวยกระแทกเหยือกนมลงเสียงดังนั่นแล้ว สายตามองใบหน้าน่ารักที่ดูไม่พอใจมากๆอยู่ เขาส่งเสียงทักออกไปอย่าหวาดๆ พอได้ยินเสียงเรียก จินฮวานก็ได้สติหันมาตักพายแอปเปิ้ลให้คนตรงหน้าพลางขอโทษขอโพยที่ไม่ตั้งใจทำงาน
จินฮวานถอนหายใจกับความสับเพร่าของตัวเอง โค้งหัวอีกสองสามทีให้คุณลูกค้าที่มายืนรอเขาตั้งนาน อีกฝ่ายบอกไม่เป็นไรแล้วเดินจากไป ใบหน้ายิ้มแย้มแสดงให้เห็นว่าจะไม่ได้คิดมาก แต่จินฮวานก็ยังรู้สึกผิดอยู่ดี เพราะคิมฮันบินคนเดียวเลย ตัวไม่มาก็ยังอุตส่าห์มาก่อปัญหาอีก อย่าให้เจอนะ เขาจะด่าเสียให้เข็ด ขณะที่คิดชั่วร้ายใส่ฮันบินอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์บนเค้าท์เตอร์ก็ดังขึ้น จินฮวานเอื้อมมือไปรับและกรอกเสียงสุภาพลงไปโดยอัตโนมัติ เขารู้ดีว่าสายจากโทรศัพท์เครื่องนี้ส่วนมากก็คือลูกค้าที่ต่องการสั่งอาหารไปกินบนห้องนั่นแหล่ะ
"สวัสดีตอนเช้าครับ จินฮวานฮยอง"
ปึก!!
จินฮวานกระแทกหูโทรศัพท์กลับลงไปที่เดิมอย่างแรง แทบจะเรียกว่าโยนลงไปเลยมากกว่า
โอเค เขารู้ว่ามันไม่สมควรเท่าไหร่ แต่เสียงเมื่อกี้ มันเป็นของคิมฮันบินชัดๆเลยไม่ใช่รึไง?!
เสียงโทรศัพท์ดังถี่ๆเรียกร้องให้เขารับ เด็กสามขวบยังรู้เลยว่ามันต้องเป็นฮันบินที่ระดมโทรลงมาหลังจากที่เขาวางสายใส่
ไอ่ทุเรศ ไอ่บ้า ไอ่หน้าโง่ ไอ่คิมฮันบิน
จินฮวานอยากจะเอามีดหั่นเค้กบนชั้นวางข้างๆเขาจ้วงไปในโทรศัพท์ให้ปลายสายตายๆไปซะเลย เขาปล่อยลมหายใจพรืดอย่างหงุดหงิดก่อนจะยกหูขึ้นรับสายอีกคนอย่างเสียไม่ได้เมื่อเสียงโทรศัพท์เริ่มรบกวนลูกค้ารอบๆ
"อยากตายใช่มั้ย คิมฮันบิน"
"โอ๋เอ๋ ฮยองอย่าเพิ่งโกรธสิ นี่รอผมเก้อล่ะสิ คิดถึงกันมั่งป่ะ"
"ย๊าาาา!! นี่อยากตายจริงๆใช่มั้ย!"
จินฮวานจะบ้าตาย คิมฮันบินมันผู้ชายโง่เง่า ไม่รู้จักสำนึกผิด ยังจะมีหน้าโทรมายียวนเขาอีก แก้มนี่ก็จะแดงทำไมวะ!
"ฮ่าฮ่าฮ่า โอเคๆ ผมล้อเล่น ผมจะโทรมาสั่งอาหารเฉยๆ"
"เล่นอะไรเนี่ย ฉันไม่ตลก"
"ผมก็ไม่ตลก สั่งอาหารเช้าครับ เอาขึ้นมาส่งที่ห้องสองสองแปดนะครับ"
".....จะสั่งอะไรล่ะ"
เขาถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นว่าอีกคนจะสั่งอาหารจริงๆ แม้จะยังโกรธอยู่แต่ฮันบินก็เป็นลูกค้า ยังไงเขาก็ต้องทำให้อยู่ดี แต่เสียงทะเล้นของปลายสายที่ส่งมาแทบจะทำเขาเปลี่ยนความคิดไม่ทัน
"ผมเอาคิมจินฮวานที่นึงครับ"
ไอ่เด็กระ*ยำาาาาาาา!!!!!!!!
.
.
.
แล้วนี่เขามาทำอะไรตรงนี้วะเนี่ย!?
คิมจินฮวานยืนลุกลี้ลุกลนอยู่หน้าประตูห้องสองสองแปด ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะบ้าจี้เดินขึ้นมาจริงๆทำไม แต่ก็เดินมาถึงแล้ว มือบางตัดสินใจยกเคาะประตูสองสามครั้งแล้วเปิดเข้ามา แอบลุ้นอยู่น้อยๆว่าสภาพห้องของอีกคนจะเป็นอย่างไร
ห้องสีสว่างกับการจัดแต่งสไตล์โรงแรมธรรมดาปรากฏอยู่ตรงหน้า ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยผิดกับนิสัยเจ้าของห้อง จินฮวานมองหาร่างสูงที่นั่งอยู่บนเตียง เห็นอีกคนยกยิ้มกว้างแบบเดิมมาให้เขา ในมือถือเค้กเจ้าปัญหาที่จินฮวานอยากกินเอาไว้ มีเทียนหมายเลขสองสองอันปักอยู่ คิมจินฮวานเบิกตาขึ้น เดินตรงไปหาชายหนุ่มอย่างตกตะลึง
"เซอิลชุคคาเฮ" คิมฮันบินยิ้มกว้างให้เขา ร่างสูงในเส้นผมสีประกายแดงแปลกตาทำให้อีกคนดูมีเสน่ห์กว่าเดิมจนเขาใจเต้น
"ผมไม่ลืมวันเกิดพี่หรอก ไม่มีทางลืมแน่ ไม่ลืมด้วยว่าพี่ชอบช็อกโกแลต ไม่ลืมด้วยว่าพี่ชอบสีแดง แล้วก็ไม่ลืมด้วย ว่าพี่ ชอบ ผม"
ฮันบินวางเค้กลงบนโต๊ะข้างเตียงก่อนจะเอื้อมมือมาคว้าร่างเล็กๆของอีกคนเข้ามาใกล้ "ขอโทษที่วันนี้ไม่ได้ลงไปหาเหมือนทุกวัน ผมไปทำย้อมผมน่ะ แต่ผมรวบรวมความกล้ามาตั้งหลายเดือนเพื่อวันนี้เลยนะ" ฮันบินสูดหายใจเข้าลึกๆ มือขาวยกขึ้นขยี้หัวตัวเอง เหมือนกำลังเรียบเรียงคำพูดอยู่ สายตาคมจ้องเข้ามาในดวงตาของเขา จินฮวานรู้สึกเหมือนโดนขโมยลมหายใจ
"ผมหลงรักพี่ตั้งแต่แวะเข้ามากินกาแฟเมื่อสามเดือนก่อน รักมาตลอดไม่เคยเปลี่ยนใจ ผมจีบพี่นานจนตัวเองยังตกใจด้วยซำ้"
ฮันบินเกาแก้มเขินๆ เงยหน้าขึ้นแล้วจ้องลึกลงไปในดวงตาของเขา จินฮวานรู้สึกถึงความรู้สึกอัดแน่นในนั้นที่ถูกส่งมา กลายเป็นเขาเสียเองที่ทนไม่ไหวต้องหลบสายตาอีกฝ่าย
"พี่คือคนที่ผมไม่อยากให้เป็นแค่พนักงานชงกาแฟที่ผมคุยด้วยแค่ตอนเช้าอีกต่อไป อยากอยู่ข้างๆ หัวเราะไปด้วยกัน คอยช่วยเหลือกันและกัน ให้ผมได้ปกป้องพี่ ทำให้พี่มีความสุข"
"..."
"พี่จินฮวาน คบกับผมนะ"
คิมฮันบินกลั้นหายใจ ถามไปแล้วเว้ย... ร่างสูงจ้องคนตัวเล็กที่ยืนก้มหน้างุดแยู่อย่างใจจดใจจ่อ เหงื่อไหลซึมออกมาตามไรผมอย่างกดดัน
จินฮวานยังคงก้มหน้าอยู่ ไม่มีความกล้ามากพอที่จะเงยหน้าขึ้นไปหาคนที่เขามั่นใจว่ากำลังใช้นัยตาคมๆนั่นจ้องเขาอยู่แน่ๆ เขาหายใจเข้าลึกๆ คำพูดของอีกคนยังคงก้องอยู่ในหัว
เกือบสี่เดือนที่ผ่านมา เด็กคนนี้ยังคงจ้องมองเขาด้วยสายตาแบบเดิม ความรู้สึกที่อีกคนไม่เคยปิดบังถูกส่งมาให้เขาผ่านแววตาอบอุ่น คิมฮันบินไม่ใช่คนเลวร้าย แม้พวกเขาจะไม่ได้รู้จักกันลึกซึ้ง แต่ความรู้สึกของจินฮวานก็ตัดสินใจให้เขาไปเรียบร้อยแล้ว
"ฮันบิน..."
"ครับ?"
"อย่าทำพี่เสียใจล่ะ..."
ความรักมันเกิดขึ้นได้ง่ายจะตายไป...
.
.
.
"อือ..."
คิมจินฮวานครางแผ่ว เมื่อริมฝีปากอุ่นร้อนของอีกคนลากผ่านผิวเนื้อ ทิ้งร่องรอยไว้ตั้งแต่ลำคอขาวลงไปเป็นทาง ฮันบินยกร่างของเขาขึ้นมาบนตัก สองมือใหญ่ปลดผ้ากันเปื้อนของคนตัวเล็กออก ลากมือปัดผ่านแผ่นอกของเขาจนสะท้านไหว
ต่อด้วยเสื้อ
เข็มขัด
กางเกงที่ค่อยๆถูกโยนออกไป
จินฮวานสะดุ้งเฮือกเมื่ออีกคนดันหลังเขาเข้าไปติดพนังเย็นๆตรงหัวเตียง ศีรษะของฮันบินเลื่อนตำ่ลงเรื่อยๆ จินฮวานเชิดหน้าขึ้นสูงเมื่อถูกอีกคนกอบกุม ปากของฮันบินบีบรัด ลิ้นร้อนเค้นหนักหน่วง ร้อนรุ่มจนเขาแทบหายใจไม่ออก ปากบางอ้าออกกอบโกยอากาศเข้าปอด มือทั้งสองข้างขยุ้มอยู่ในกลุ่มผมสีแดงของอีกคน
"ฮะ...ฮันบิน ฮันบิน..."
จินฮวานตาพร่าไปหมด รู้สึกร้อนจะแทบละลาย เอียงหน้ากดเข้ากับแขนตนเองอย่างอับอายในรสสัมผัสที่ได้รับ ความต้องการอัดแน่นจวนเจียนจะระเบิด เขาเกร็งร่างจนลำตัวแอ่นสะท้านเมื่อฮันบินไล้เลียลงจนสุด เล็บทั้งหมดจิกเข้าหากันอย่างสุดจะต้านทาน รู้สึกเหมือนร่วงดิ่งลงไปในนรกอันร้อนแรงก่อนจะถูกฉุดขึ้นกลับขึ้นมาอีกครั้ง อารมณ์ทั้งหมดหลากล้นออกมาเมื่อสิ้นสุดความอดทน เขาได้ยินเสียงตัวเองร้องชื่ออีกคนก้องในหู ปลดปล่อยตัวเองให้ฮันบินได้เชยชม
คิมฮันบินยกยิ้ม รอให้คนที่หอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนได้พักเสียหน่อย
เขาเคลื่อนตัวกลับขึ้นไปทาบทับอีกฝ่าย จ้องเข้าไปในดวงตาหวานฉำ่ เลื่อนริมฝีปากขึ้นกบจูบลงไปบนปากนิ่ม นัยตาเลื่อนลอยเบนกลับมาสบสายตาเขา หยาดเยิ้มและยั่วยวน ร่างกายขาวเนียนที่หอบถี่อยู่ในอ้อมกอดของเขากระตุ้นอารมณ์ให้พุ่งลิ่วขึ้นไปจนฮันบินปวดหนึบ เขาดันต้นขาขาวออก จ้องมองกับใบหน้าแดงกำ่ของจินฮวาน
ให้ตาย...ชักจะไม่ไหวแล้วสิ...
นิ้วของฮันบินเย็นชุ่มและลื่นจัด จินฮวานกัดปากแน่นกลั้นเสียงครางของตัวเอง แขนทั้งสองข้างยกขึ้นโอบรอบคออีกคนเอาไว้ เขาบิดเร่าเมื่อนิ้วนั่นขยับคว้างไปทั่ว ความรู้สึกแปลกใหม่เพิ่มพูนอุณหภูมิในร่างกาย ในหัวของเขาขาวโพลน
จินฮวานรู้สึกโล่งได้ซักครู่ ความร้อนวาบของฮันบินก็กดทับลงมา เขาสะดุ้งสุดตัวกับความเจ็บเสียดที่แฝงมากับความสะท้านหวิวที่อีกคนมอบให้ เล็บเผลอจิกลงบนแผ่นหลังขาวของฮันบินจนเป็นรอยแดง จินฮวานเชิดหน้าขึ้นเมื่ออีกคนใส่แรงเข้ามา ในหูอื้ออึงกับเสียงเสียดสีจนไม่ได้ยินสิ่งใด ทำได้เพียงส่งเสียงเรียกอีกคนออกไปซำ๊ๆ เพื่อร้องขอความอ่อนโยน
"ฮันบิน อะ...ฮันบิน...."
"อือ...."
ฮันบินซุกหน้าลงไปกับลาดไหล่ของคนอายุมากกว่า ส่งเสียงครางตำ่รับในลำคอ จังหวะหนักหน่วงถูกลดลงราวกับรู้ดี เมื่อความเจ็บปวดซาลง คลื่นความวาบหวามก็เซทะลักเข้ามาแทนที่จนจินฮวานแทบสำลัก เมื่อฮันบินขยับตัวอีกครั้ง เขาก็เชิดหน้าขึ้นอย่างไม่อาจต้านทาน ฮันบินเงยหน้าขึ้นมาแนบริมฝีกปากของพวกเขาเข้าด้วยกัน ผละออกแล้วแนบลงมาใหม่ซำ้แล้วซำ้เล่าอย่างเอาแต่ใจ แต่จินฮวานก็ยินยอมให้ลิ้นร้อนกวาดเข้ามาตักตวงทุกอย่างโดยไม่ขัดขืน เสียงครางดังลอดออกมาจากริมฝีปากแดงชำ้นั้นทุกครั้งที่เป็นอิสระ แต่มันก็ขาดห้วงลงเมื่อถูกประกบลงมาอีกครั้ง
จูบของพวกเขาร้อนแรง แนบลึก แทบจะหลอมละลาย ปลายลิ้นที่เกี่ยวกระหวัดเข้าหากันและกัน ไม่ต่างกับร่างกายที่ประสานลึก กรุ่นคับไปด้วยอารมณ์ที่พร้อมระเบิด ฮันบินหลับตาแน่น ใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่โหมกายลงกลืนกินร่างกายหอมหวานนี่ไปเสียเดี๋ยวนี้ มือข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นมากดต้นคอขาวให้รับจูบจากเขามากขึ้น มือข้างที่ว่างก็เอื้อมมาช่วยเหลือเนื้อแข็งที่สั่นระริกอยู่ระหว่างหน้าท้องของพวกเขา กดเค้นลงจนอีกคนร้องระทวย รูดรั้งและกลั่นแกล้งจนร่างเล็กไม่อาจทนทาน สีหน้าเปี่ยมอารมณ์และนำ้ตาที่ชุ่มผิวแก้มใส ปากบางกรีดร้องชื่อฮันบินในวินาทีที่ปลดปล่อยออกมา
ความรัดแน่นที่อีกคนมอบให้ยามถึงฝั่งฝันพัดพาสติของฮันบินให้ปลิวหายไป ฮันบินคำรามตำ่ในลำคอ กระแทกร่างแทรกลึกเข้าไปก่อนจะปลดปล่อยตัวเองเข้าหาตัวตนที่แท้จริงของคิมจินฮวาน ร่างเล็กๆกระตุกเกร็งอย่างไม่คุ้นชินในความร้อนผะผ่าวที่เขามอบให้ ก่อนจะหมดแรงเอนหงายลงไปบนเตียง
ฮันบินทิ้งตัวลงนอนข้างๆอีกคน แขนยาวยกขึ้นพาดกอดคนตัวเล็กไว้ ทั้งคู่นอนเงียบๆอยู่ตรงนั้น แลกเปลี่ยนลมหายใจที่ยังคงหอบกระชั้น จินฮวานรวบรวมลมหายใจให้เป็นปกติก่อนจะหันมามองอีกคน หัวคิ้วขมวดมุ่นลง แต่ฮันบินก็ยังฉีกยิ้มไม่รู้เรื่องให้คนเป็นพี่อยู่ดี
"ฮันบิน...อึดอัด"
"ครับ แล้ว?"
"เอาออกไป..."
ฮันบินตอบรับคำพูดนั้นด้วยการดันกายเบาๆเข้าหาอีกคน จินฮวานสะดุ้งเฮือก มือบางตีไหล่อีกคนดังเผี๊ยะ
"ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวก็ได้ใช้อีกรอบแล้ว"
ไอ้ทุเรศคิมฮันบิน...
จินฮวาน อยากจะอ้าปากด่าไอ้เด็กไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยตรงหน้านี่เหลือเกิน แต่เมื่อริมฝีปากร้อนนั่นแนบลงมาอีกครั้ง เจ้าก็ได้แต่ฮึดฮัดแล้วปล่อยเลยตามเลย
จะว่ายังไงดี...
ไม่ใช่แค่ฮันบินหรอกนะที่ชอบมันน่ะ....
คิมฮันบิน เป็นของขวัญวันเกิดที่เยี่ยมมากเลย :)
ผลงานอื่นๆ ของ parephetai ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ parephetai
ความคิดเห็น