ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic got7 : bus - markbam

    ลำดับตอนที่ #1 : Prologue ◑ω◐

    • อัปเดตล่าสุด 4 ส.ค. 57





    INTRO

     

     

     

              ท่ามกลางถนนของกรุงโซลที่ประดับไปด้วยแสงสีของรถยนต์และตึกต่างๆมากมายยามค่ำคืน ผู้คนเดินขวักไขว่สวนกันไปมา รถเมล์สีเขียวสายหนึ่งกำลังแล่นไปเรื่อยๆเหมือนไร้จุดหมายปลายทาง 

              ร่างบางนั่งหลับตาเอาหัวพิงกระจกและฟังเพลงผ่านหูฟังสีขาวกับไอพอดทัชสีแดงเหมือนกับทุกๆวันที่ผ่านมาอย่างไม่รีบร้อน

     

               เขาไม่ได้มีป้ายที่จะลง

      

               เขาไม่ได้มีจุดหมายปลางทางเหมือนกับคนส่วนใหญ่ 

     

                เขาก็แค่เบื่อ…

     

              มันเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้วที่เขานั่งรถเมลคันนี้โดยไร้จุดหมายปลายทาง นั่งไปเรื่อยๆจนรถเมล์คันนี้วนมายังป้ายเริ่มต้นของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั่งไปเรื่อยๆเหมือนคนเห็นแก่ตัวที่ไม่ได้สนใจว่าคุณลุงคนขับรถอยากจะกลับบ้านไปกอดเมียใจจะขาดแค่ไหน นั่งไปเรื่อยๆไม่ได้สนใจเลยว่าน้ำมันของรถเมล์ที่เขานั่งประจำจะมีพอขับถึงสถานีใหญ่รึเปล่า

     

              เขาก็แค่นั่งไปเรื่อยๆ…

     

              ร่างบางที่นั่งหลับเอาหัวพิงกระจกเหมือนทุกๆวันไม่รู้หรอกว่าตัวเขาเองจะเลิกนั่งรถเมล์คันนี้เมื่อไหร่ บางทีเขาอาจจะเลิกนั่งพรุ่งนี้ มะรืนนี้ สิ้นเดือนนี้ ปีนี้ หรือปีหน้า เขารู้แค่ว่าเขาเริ่มนั่งรถเมล์คันนี้เมื่อปลายเดือนก่อนจนถึงช่วงปลายเดือนนี้เพราะความเบื่อ 

     

              เบื่อกับการหลับแบบเดิมๆ

     

              อาจจะดูตลกที่จะบอกว่าเขาขึ้นมานั่งรถเมล์คันนี้เพื่อมาหลับ ใช่ เพื่อมาหลับ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่เขาเริ่มมีความรู้สึกเบื่อกับการล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆแล้วปิดเปลือกตาลง ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่เขานึกอยากลองหลับในรถที่แล่นไปมา มันอาจจะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังท่องล่องลอยไปในอวกาศหรือรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมากล่อมแล้วทำให้เขาฝันดี

     

         มันดูเพ้อเจ้อดีนะว่ามั้ย?

     

         แต่นั่นแหละ ตัวเขาล่ะ 

     

              ตัวของ ‘แบมแบม กันต์พิมุก ภูวกุล’

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

         

     

     

     

         “ไปล่ะ ขอให้ดูหนังให้สนุกนะมึง”

     

         ผมโบกมือลาแจ็คสันหวังเพื่อนสนิทที่จะแยกไปดูหนังกับแฟนที่ห้างไม่ไกลจากโรงเรียนมากนักก่อนจะเดินออกจากโรงเรียนเพื่อไปยังป้ายรถเมล์  ผมรูดซิปกระเป๋าหยิบเฮดโฟนอันโปรดสีดำขึ้นมาก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงนักเรียนหยิบไอพอดทัชสีแดงที่กว่าจะได้มันมานี่แทบจะทะเลาะกับน้องสาวที่อยู่ไทยจนบ้านแทบแตกขึ้นมาแล้วเดินไปยังป้ายรถเมล์นั่งรอรถเหมือนทุกๆวัน 

     

         รอบๆตัวผมก็เป็นเหล่านักเรียนที่เตรียมตัวกลับบ้านหรือเตรียมตัวไปเที่ยวต่อ หรืออาจจะเตรียมตัวไปทำงานพิเศษต่อ พูดถึงงานพิเศษแล้วผมก็เคยทำนะ ทำอยู่สองสามเดือนก็เลิกเพราะเบื่อ ที่เริ่มทำก็เพราะเบื่อเหมือนกันแหละครับ ผมเป็นคนเบื่อง่ายและไม่มีงานอดิเรกตายตัว ผมมักจะเปลี่ยนงานอดิเรกไปเรื่อย มันรู้สึกว่างๆหลังจากเลิกเรียนน่ะครับ ถ้าถามว่าทำไมไม่เอาเวลาไปอ่านหนังสือ? ขอปฏิเสธแล้วกัน ผมไม่อยากมีเวลานอนเยอะเกินไป ถ้าถามอีกว่าทำไมไม่เที่ยว? ผมก็เที่ยวแต่ไม่เที่ยวทุกวันเพราะมันเปลืองและผมก็ไม่ชอบเดินบ่อยๆซะด้วยสิ โดยเฉพาะเดินกับแจ็คสันนี่เป็นอะไรที่ต้องใช้ความอดทนมาก มากจริงๆเพราะแค่มันเดินผ่านที่ตรงสเป็กมันนิดหน่อยมันก็ร้องงอแงอยากได้เบอร์จนน่ารำคาญ  คือผมก็เข้าใจนะว่าอยากได้แต่แค่ไม่เข้าใจว่าจะมาร้องโวยวายกับผมทำไม ทำไมไม่ไปขอเลยล่ะหน้าตามันก็ไม่ได้แย่ออกจะดีมากซะด้วยซ้ำเสียอย่างเดียว 

     

     

         ตัวมันสั้น...

     

     

         แต่มันก็ไม่เคยเครียดนะครับ มันบอกว่าตัวสั้นแต่คารมดีสาวๆชอบ ผมก็ได้แต่เออๆออๆตามมันไป จะว่าไปผมก็ลืมไปเลยว่าต้องเตือนมันเรื่องภาพวาดที่มันดันติดกลับไปด้วย แต่ไว้ตอนดึกๆผมจะเตือนมันไปก็แล้วกันนะถ้าผมไม่ลืม 

     

     

    บรื้นนนน

     

     

         ตอนนี้รถประจำของผมมาแล้ว ผมลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปข้างในและเลือกที่นั่งที่มักจะนั่งเป็นประจำ ที่นั่งติดหน้าต่าง ผมชอบที่นั่งติดหน้าต่างนะเพราะมันทำให้ผมได้มองวิวข้างนอกและอีกอย่างมันทำให้ผมได้พิงหลับได้

     

     

        ผมก็ลืมบอกไปเลยว่างานอดิเรกใหม่ของผมก็คือสิ่งนี้แหละครับ

     

        

        นั่งหลับบนรถเมล์

     

     

         ผมทำอย่างนี้มาเดือนกว่าๆแล้วครับหลังจากที่เลิกทำงานพิเศษไป  เคยหลับบนรถมั้ยครับ? ถ้าเคยคงเข้าใจความรู้สึกของผม เวลาที่หลับในรถมันให้ความรู้สึกเหมือนผมกำลังลอยอยู่ในกาแล็คซี่ มันเหมือนการขับกล่อมที่ทำให้ผมรู้สึกสบาย แต่ก็อาจจะไม่สบายบ้างเวลาที่รถกระตุกเพราะหัวผมมักจะกระแทกกับกระจกหน้าต่างประจำ  

     

     

         นึกแล้วก็ลูบหัวตัวเองสองสามทีเห็นจะดี

     

     

         เสียงเพลงที่ไหลผ่านหูบิ้วอารมณ์ของผมได้ดีเลยล่ะแต่ผมยังไม่หลับตอนนี้หรอก หลับในตอนที่คนเยอะๆมันอันตราย บางทีอาจจะมีคนแอบขโมยกระเป๋านักเรียนของผมก็ได้ ถ้าขโมยกระเป๋านักเรียนของผมนี่ร้องไห้เลยนะครับ เพราะนอกจากหนังสือเรียนที่แพงแสนแพงแล้วยังมีกระเป๋าสตางค์ที่ผมหวงมากๆอยู่ สมมุติว่ากระเป๋าสตางค์ผมถูกขโมยนี่ผมจะขอร้องโจรให้เอามาคืน คือเงินน่ะเอาไปได้เลยไม่หวงแต่ขอบัตรและการ์ดคืนได้มั้ย? คือมันมีการ์ดและบัตรทีมฟุตบอลประเทศสเปนแบบลิมิเต็ดเอ็ดดิชั่นอยู่ 

     

     

         กว่าจะหามาได้นี่เลือดตาแทบกระเด็นเลยนะครับขอบอก

     

     

          รถเมล์หยุดจอดอยู่ที่ป้ายรถเมล์ป้ายหนึ่ง มันคือป้ายของโรงเรียนฝั่งตรงข้ามโรงเรียนผมนั่นแหละ เหล่านักเรียนก้าวขึ้นมาบนรถ นักเรียนหญิงบางคนขึ้นมาพอเห็นผมก็ทักทายตามประสาคนรู้จัก เอาตรงๆมั้ย พวกเธอรู้จักผมแต่ผมไม่รู้จักพวกเธออ่ะ

     

       

         “สวัสดีค่ะพี่แบมแบม”  

     

     

    อย่างน้องผมสั้นหน้าตาดีคนนี้

     

      

        “อ่า ครับ”

     

     

         ผมฉีกยิ้มให้เธอตามมารยาทก่อนที่น้องเขาจะทำท่าเขินนิดๆแล้วเดินไปนั่งข้างหลังกับเพื่อน ผมหันมาสนใจเพลงของตัวเองต่อ รถทำท่าจะเคลื่อนแต่ก็หยุดเพราะดูเหมือนจะมีใครบางคนต้องการขึ้น ประตูรถเปิดพร้อมกับร่างร่างหนึ่งเดินขึ้นมา 

     

     

    ผมสีแดง

     

     

    เฮดโฟนสีดำเหมือนผมที่ดูท่าจะเปิดเพลงเสียงดัง

     

     

    รองเท้าผ้าใบที่ดูเหมือนจะเพ้นท์เอง

     

     

    เสื้อสูทสีแดงที่บ่งบอกถึงการเป็นนักเรียนฝั่งตรงข้าม

     

     

     

    และ…

     

     

     

     

     

     

     

    เข็มกลัดที่ติดชื่อว่า ‘มาร์ค ต้วน’










     












    สวัสดี


    #ฟิคบัส








     

     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×