ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงใจวายุ| Love 💗 scenario

    ลำดับตอนที่ #4 : อย่าขยับ

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.ค. 66


    ในสวนสาธารณะอันเปลี่ยวเปล่าไร้ผู้คนแก้วระวีนั่งลงบนเก้าอี้นั่งสีหน้าซีดเซียวไม่สู้ดีนัก หล่อนหนีพ้นสองคนนั้นมาจนได้ หญิงสาวคิดก่อนจะมองไปยังถนนว่ามีรถแท๊กซี่บ้างหรือไม่แต่ที่นี่ดูดึกสงัดเหลือเกิน

    ดึกสงัดเกินไปจนไม่น่าไว้วางใจหญิงสาวเดินไปยังถนนที่มีรถสัญจรไปมาเพียงบางเบา ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก

    แท็กซี่!

    "อะไรว่ะ มึงปล่อยไปได้ไงว่ะ" คนที่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วทำหน้าโกรธเกรี้ยวอย่างไม่พอใจ

    ธีรเทพกับชายชุดดำอีกสองคนก้มหน้านิ่ง เขาไม่เคยเห็นเจ้านายจะหัวเสียมากขนาดนี้มาก่อน

    "ไปเตรียมรถ!" วายุภัคว่าเสียงก้อง เขาคงไม่มีอารมณ์จะนอนอีกต่อไปแล้ว

    "วายุผมทราบที่อยู่และที่ทำงานของเธอแล้วนะครับ" เมื่อสองคนนั้นเดินออกไป ธีรเทพจึงเปิดปากบอก เขารู้สึกได้ว่าเจ้านายคนนี้ดูจะสนใจแม่สาวคนนั้นเหลือเกิน

    ฝ่ายวายุเมื่อได้ยินดังนั้นเขาก็ผ่อนคลายลงมีรอยยิ้มที่มุมปากหนา ซึ่งบอร์ดนี้การ์ดหนุ่มทราบดีว่ารอยยิ้มนี้มัน 'รอยยิ้มปิศาจชัดๆ' คิดแล้วจึงยื่นมือถือของแก้วระวีที่อยู่ในมือให้แก่ชายหนุ่ม

    "เห็นในรถ"

    "ขอบใจว่ะ" ชายหนุ่มว่าอย่างสนิทสนมก็เขากับธีรเทพเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก แม้ธีรเทพจะเป็นเพียงเด็กที่พ่อของเขาเก็บมาเลี้ยงแต่เขาก็ถูกเลี้ยงมาแบบลูกอีกคนของพ่อของวายุ

    ธีรเทพ บดินทรารักษ์

    "ผมรู้จักคุณดี" เขาว่าเสียงนิ่งแต่แววตากรุ่มกริ่มอย่างที่ต่างฝ่ายต่างรู้กัน

    "นายจะไปไหนครับ"

    "ไปจัดการคนทรยศก่อน" เขาว่าพลางมองนาฬิกา ตีสามกว่า ปล่อยให้เธอพักสักวันหนึ่งก็แล้วกัน เขามีเวลาอีกนานที่จะไปพบหล่อน แต่ถ้าจะให้ปล่อยแก้วระวีไปละก็ ไม่มีทาง เขาลงทุนไปเยอะกับเธอ ยังไม่ได้กินจะทิ้งไปได้อย่างไร

    แก้วระวีตื่นขึ้นมาในห้องพักของตัวเอง ด้วยสภาพเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง พลางหันไปมองนาฬิกาเรือนเก่าที่ผนังห้อง ปรากฏเวลาเที่ยงกว่า

    "รอดแล้วเรา" บอกกับตัวเองด้วยใจที่ลิงโลด พลางทิ้งตัวเองนอนอีกครั้งอย่างสบายใจกับวันหยุดพักผ่อนของสัปดาห์

    หญิงสาวมองไปยังเพดานซึ่งความมืดได้ปกคลุมที่พักของเธอเรียบร้อยแล้ว มีแต่แสงไฟจากภายนอกที่สาดส่องเข้ามาบ้างเพราะแก้วระวีลืมปิดประตูตรงระเบียงห้อง สายตาสวยหันไปมองนาฬิกาบอกเวลา 23.00 น.

    "หลับนานขนาดนี้เลยเหรอ" บ่นกับตัวเองก่อนจะปิดประตูระเบียงและเปิดไฟทันที

    "มือถือก็หาย เบื่อจริง" คนตัวเล็กบ่นอย่างเบื่อหน่ายตั้งแต่เจอวายุภัคอะไรก็เหมือนกับจะแย่ลงไปทุกที ทั้งที่จริงแล้วก็ไม่ใช่เสียทั้งหมด หากเธอไม่ยอมไปตามคำขอของนิตาเรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้ คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจก่อนจะคว้าผ้าขนหนูตรงหน้าไปยังห้องน้ำทันที

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจนลั่นห้องหญิงสาวรีบกดรับทันที

    "ฮัลโหล ซันนี่" แก้วระวีรีบรับสายทันทีที่เห็นว่าหน้าจอแสดงชื่อเพื่อนรักอย่างปรีชาก่อนจะถูกโวยวายใส่อย่างหนักด้วยเรื่องการหายตัวไปของเจ้าหล่อนเอง หญิงสาวเพียรอธิบายแล้วขอโทษขอโพยอยู่นานอีกฝ่ายจึงยอมลงให้

    (ตกลงจะบอกได้รึยังว่าหายไปไหน) อีกฝ่ายคาดคั้นจนทำให้แก้วระวีขมวดคิ้ว

    'ใครอยากจะบอกว่าหายไปกับอีกคนล่ะ' โดยเฉพาะคนที่ยังไม่รู้สถานะที่แน่นอนอย่างวายุภัคแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่

    "เอ่อ...ออกไปกินเลี้ยงกับพวกพริตตี้นะ ดื่มหนักไปหน่อย โทษทีนะ" หญิงสาวจำใจปด อีกฝ่ายเงียบไปสักพักแล้วก่อนจะกำชับเรื่องงานแล้วจึงวางสายไปทันที

    "เฮ้อ.."

    ร่างเล็กนั่งจ้องโทรศัพท์สักพักก่อนจะฉุกคิดบางอย่างได้

    'มือถือหายไปนี่นา'

    'แล้วนี่อะไร' หญิงสาวงงงวยก่อนจะคิดทบทวนอีกครั้งก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเฟอะฟะ หรือขี้หลงขี้ลืมขนาดนั้น พลางนึกถึงคำพูดของเพื่อน

    โทรหาไปกี่สายก็ไม่รับ

    แก้วระวีมองหมายเลขที่ไม่รับล่าสุดเมื่อ หนึ่งชั่วโมงก่อน

    หล่อนไม่ได้ปิดเสียง

    และไม่หลับลึกพอจะไม่ตื่นในตอนที่ปรีชาโทรมาเกือบสิบสาย คิดได้ดังนั้นหัวใจดวงเล็กกระตุกวูบ ดวงตาหวานที่ฉายความหวาดหวั่นมองออกไปทั่วห้อง

    ไม่มีใครหรืออะไรที่ผิดปกติ?

    มือเล็กกำผ้าขนหนูแน่นเสียง กริก! ดังขึ้นที่ด้านหลังหญิงสาวไวพอที่จะหันไปมองแต่ก็ช้าพอที่จะถูกมือหนาใหญ่โอบรอบเอวอย่างแน่นหนาดันทั้งตัวเองและคนตัวเล็กล้มลงไปบนที่นอน

    เขามาทางระเบียง!

    กริ๊ด!

    หญิงสาวกรีดร้องหลับตาปี๋ ก่อนจะถูกมือของชายผู้นั้นปิดปากแน่น

    "ลืมตา" เสียงนั่นช่างคุ้นหูนักสุดท้ายจึงลืมตาตามคำสั่งนั่น

    "นาย!"

    "ไง คิดว่าจะหนีรอดเหรอ" สิ้นคำแก้วระวีก็แสดงสีหน้าแห่งความหวาดหวั่นออกมาจนชายหนุ่มนึกขัน

    นี่นะหรือผู้หญิงที่กล้าขายตัวเองให้กับ พาทิศเพื่อนของเขา ท่าทางของเธอช่างตรงข้าม

    'อัพค่าตัว' เขาคิดก่อนที่รอยยิ้มที่มุมปากจะหยักขึ้นเล็กน้อยอย่างเจ้าเล่ห์ ดูสิว่ามีดีอะไรถึงมาเล่นตัวกับเขา

    "หาฉันเจอได้ยังไง" ถามไปก็อยากจะตบตัวเองนัก เขาคนนี้มีอิทธิพลมากจริงๆ ไม่อย่างนั้นก็คงหาเธอไม่พบ อีกทั้งการล่วงล้ำที่พักผู้อื่นในยามวิกาลเช่นนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เขาไม่ได้หวาดกลัวอะไรเลย แก้วระวีจึงมั่นใจแล้วว่าเขาคงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ดีไม่ดีหากเขาจะฆ่าก็คงไม่กลัวอะไร

    "หาเธอนะ...ง่ายจะตาย"

    "ปล่อยฉันไปเถอะ"

    "ปล่อยเหรอ! ...ฉันเสียเงินไปตั้งเท่าไหร่ในการพาเธอออกมาจากผับนั่นนะ"

    "ได้ๆฉันจะชดใช้คืนให้"ว่าไปแบบนั้นแต่แก้วระวีก็ยังคิดหาหนทางหาเงินมาไม่ได้เลย

    "หึ"

    แค่เสียงเดียวทำเอาเสียวสันหลังวาบ หวาดกลัวอย่างอธิบายไม่ถูก

    "แม่พริตตี้สาว อย่างเธอจะหาจากไหนมา ฮืม" เขาว่าสายตาลามเลียไปทั่วร่างของหญิงสาว

    "อย่าทำอะไรฉันเลยนะ" แก้วระวีว่าสีหน้าไม่สู้ดีนัก

    "เฮ้อ...วันนี้ฉันเหนื่อย" จู่ๆเขาก็พูดแบบนั้นพลางทำสีหน้าเหนื่อยหน่าย และทิ้งตัวนอนข้างๆหญิงสาวแต่มือหนาก็ยังโอบกอดเอวบางแน่นไม่ปล่อย แก้วระวีเริ่มไม่เข้าใจในการกระทำของเขาเมื่อตอนแรกที่เขาจู่โจมเข้ามาเธอคิดว่าชายหนุ่มคงไม่ปล่อยเธอไปแน่ แต่ใครจะไปคิดว่าไม่เพียงแต่จะไม่ทำอะไรเขายังนอนนิ่งอยู่ข้างๆเธอในสภาพที่ล่อแหลมเกินไป

    "อย่าขยับ ไม่งั้นเธอจะไม่ได้นอนเฉยๆแน่" คำพูดนั้นทำให้หญิงสาวชะงัก ผ่านไปนานหลายนาทีแก้วระวีก็ผ่อนคลายลง ก่อนจะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย

    "ไอ้บ้าเอ๊ย ฉันยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า"

    แก้วระวีบ่นออกมาเบาๆ แต่ก็ไม่กล้าขยับไปไหน คนตัวโตที่นอนอยู่ข้างๆก็แอบยิ้มอย่างนึกสนุกเพียงลำพัง จึงกระชับอ้อมกอดให้แน่นยิ่งกว่าเดิม คนตัวเล็กจับปมผ้าขนหนูแน่น คืนนี้คงไม่หลับไม่นอนกันพอดี

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×