คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : อย่าขยับ
ในสวนสาธารณะอันเปลี่ยวเปล่าไร้ผู้คนแก้วระวีนั่งลงบนเก้าอี้นั่งสีหน้าซีดเซียวไม่สู้ดีนัก หล่อนหนีพ้นสองคนนั้นมาจนได้ หญิงสาวคิดก่อนจะมองไปยังถนนว่ามีรถแท๊กซี่บ้างหรือไม่แต่ที่นี่ดูดึกสงัดเหลือเกิน
ดึกสงัดเกินไปจนไม่น่าไว้วางใจหญิงสาวเดินไปยังถนนที่มีรถสัญจรไปมาเพียงบางเบา ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก
แท็กซี่!
"อะไรว่ะ มึงปล่อยไปได้ไงว่ะ" คนที่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วทำหน้าโกรธเกรี้ยวอย่างไม่พอใจ
ธีรเทพกับชายชุดดำอีกสองคนก้มหน้านิ่ง เขาไม่เคยเห็นเจ้านายจะหัวเสียมากขนาดนี้มาก่อน
"ไปเตรียมรถ!" วายุภัคว่าเสียงก้อง เขาคงไม่มีอารมณ์จะนอนอีกต่อไปแล้ว
"วายุผมทราบที่อยู่และที่ทำงานของเธอแล้วนะครับ" เมื่อสองคนนั้นเดินออกไป ธีรเทพจึงเปิดปากบอก เขารู้สึกได้ว่าเจ้านายคนนี้ดูจะสนใจแม่สาวคนนั้นเหลือเกิน
ฝ่ายวายุเมื่อได้ยินดังนั้นเขาก็ผ่อนคลายลงมีรอยยิ้มที่มุมปากหนา ซึ่งบอร์ดนี้การ์ดหนุ่มทราบดีว่ารอยยิ้มนี้มัน 'รอยยิ้มปิศาจชัดๆ' คิดแล้วจึงยื่นมือถือของแก้วระวีที่อยู่ในมือให้แก่ชายหนุ่ม
"เห็นในรถ"
"ขอบใจว่ะ" ชายหนุ่มว่าอย่างสนิทสนมก็เขากับธีรเทพเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก แม้ธีรเทพจะเป็นเพียงเด็กที่พ่อของเขาเก็บมาเลี้ยงแต่เขาก็ถูกเลี้ยงมาแบบลูกอีกคนของพ่อของวายุ
ธีรเทพ บดินทรารักษ์
"ผมรู้จักคุณดี" เขาว่าเสียงนิ่งแต่แววตากรุ่มกริ่มอย่างที่ต่างฝ่ายต่างรู้กัน
"นายจะไปไหนครับ"
"ไปจัดการคนทรยศก่อน" เขาว่าพลางมองนาฬิกา ตีสามกว่า ปล่อยให้เธอพักสักวันหนึ่งก็แล้วกัน เขามีเวลาอีกนานที่จะไปพบหล่อน แต่ถ้าจะให้ปล่อยแก้วระวีไปละก็ ไม่มีทาง เขาลงทุนไปเยอะกับเธอ ยังไม่ได้กินจะทิ้งไปได้อย่างไร
แก้วระวีตื่นขึ้นมาในห้องพักของตัวเอง ด้วยสภาพเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง พลางหันไปมองนาฬิกาเรือนเก่าที่ผนังห้อง ปรากฏเวลาเที่ยงกว่า
"รอดแล้วเรา" บอกกับตัวเองด้วยใจที่ลิงโลด พลางทิ้งตัวเองนอนอีกครั้งอย่างสบายใจกับวันหยุดพักผ่อนของสัปดาห์
หญิงสาวมองไปยังเพดานซึ่งความมืดได้ปกคลุมที่พักของเธอเรียบร้อยแล้ว มีแต่แสงไฟจากภายนอกที่สาดส่องเข้ามาบ้างเพราะแก้วระวีลืมปิดประตูตรงระเบียงห้อง สายตาสวยหันไปมองนาฬิกาบอกเวลา 23.00 น.
"หลับนานขนาดนี้เลยเหรอ" บ่นกับตัวเองก่อนจะปิดประตูระเบียงและเปิดไฟทันที
"มือถือก็หาย เบื่อจริง" คนตัวเล็กบ่นอย่างเบื่อหน่ายตั้งแต่เจอวายุภัคอะไรก็เหมือนกับจะแย่ลงไปทุกที ทั้งที่จริงแล้วก็ไม่ใช่เสียทั้งหมด หากเธอไม่ยอมไปตามคำขอของนิตาเรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้ คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจก่อนจะคว้าผ้าขนหนูตรงหน้าไปยังห้องน้ำทันที
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจนลั่นห้องหญิงสาวรีบกดรับทันที
"ฮัลโหล ซันนี่" แก้วระวีรีบรับสายทันทีที่เห็นว่าหน้าจอแสดงชื่อเพื่อนรักอย่างปรีชาก่อนจะถูกโวยวายใส่อย่างหนักด้วยเรื่องการหายตัวไปของเจ้าหล่อนเอง หญิงสาวเพียรอธิบายแล้วขอโทษขอโพยอยู่นานอีกฝ่ายจึงยอมลงให้
(ตกลงจะบอกได้รึยังว่าหายไปไหน) อีกฝ่ายคาดคั้นจนทำให้แก้วระวีขมวดคิ้ว
'ใครอยากจะบอกว่าหายไปกับอีกคนล่ะ' โดยเฉพาะคนที่ยังไม่รู้สถานะที่แน่นอนอย่างวายุภัคแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่
"เอ่อ...ออกไปกินเลี้ยงกับพวกพริตตี้นะ ดื่มหนักไปหน่อย โทษทีนะ" หญิงสาวจำใจปด อีกฝ่ายเงียบไปสักพักแล้วก่อนจะกำชับเรื่องงานแล้วจึงวางสายไปทันที
"เฮ้อ.."
ร่างเล็กนั่งจ้องโทรศัพท์สักพักก่อนจะฉุกคิดบางอย่างได้
'มือถือหายไปนี่นา'
'แล้วนี่อะไร' หญิงสาวงงงวยก่อนจะคิดทบทวนอีกครั้งก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเฟอะฟะ หรือขี้หลงขี้ลืมขนาดนั้น พลางนึกถึงคำพูดของเพื่อน
โทรหาไปกี่สายก็ไม่รับ
แก้วระวีมองหมายเลขที่ไม่รับล่าสุดเมื่อ หนึ่งชั่วโมงก่อน
หล่อนไม่ได้ปิดเสียง
และไม่หลับลึกพอจะไม่ตื่นในตอนที่ปรีชาโทรมาเกือบสิบสาย คิดได้ดังนั้นหัวใจดวงเล็กกระตุกวูบ ดวงตาหวานที่ฉายความหวาดหวั่นมองออกไปทั่วห้อง
ไม่มีใครหรืออะไรที่ผิดปกติ?
มือเล็กกำผ้าขนหนูแน่นเสียง กริก! ดังขึ้นที่ด้านหลังหญิงสาวไวพอที่จะหันไปมองแต่ก็ช้าพอที่จะถูกมือหนาใหญ่โอบรอบเอวอย่างแน่นหนาดันทั้งตัวเองและคนตัวเล็กล้มลงไปบนที่นอน
เขามาทางระเบียง!
กริ๊ด!
หญิงสาวกรีดร้องหลับตาปี๋ ก่อนจะถูกมือของชายผู้นั้นปิดปากแน่น
"ลืมตา" เสียงนั่นช่างคุ้นหูนักสุดท้ายจึงลืมตาตามคำสั่งนั่น
"นาย!"
"ไง คิดว่าจะหนีรอดเหรอ" สิ้นคำแก้วระวีก็แสดงสีหน้าแห่งความหวาดหวั่นออกมาจนชายหนุ่มนึกขัน
นี่นะหรือผู้หญิงที่กล้าขายตัวเองให้กับ พาทิศเพื่อนของเขา ท่าทางของเธอช่างตรงข้าม
'อัพค่าตัว' เขาคิดก่อนที่รอยยิ้มที่มุมปากจะหยักขึ้นเล็กน้อยอย่างเจ้าเล่ห์ ดูสิว่ามีดีอะไรถึงมาเล่นตัวกับเขา
"หาฉันเจอได้ยังไง" ถามไปก็อยากจะตบตัวเองนัก เขาคนนี้มีอิทธิพลมากจริงๆ ไม่อย่างนั้นก็คงหาเธอไม่พบ อีกทั้งการล่วงล้ำที่พักผู้อื่นในยามวิกาลเช่นนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เขาไม่ได้หวาดกลัวอะไรเลย แก้วระวีจึงมั่นใจแล้วว่าเขาคงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ดีไม่ดีหากเขาจะฆ่าก็คงไม่กลัวอะไร
"หาเธอนะ...ง่ายจะตาย"
"ปล่อยฉันไปเถอะ"
"ปล่อยเหรอ! ...ฉันเสียเงินไปตั้งเท่าไหร่ในการพาเธอออกมาจากผับนั่นนะ"
"ได้ๆฉันจะชดใช้คืนให้"ว่าไปแบบนั้นแต่แก้วระวีก็ยังคิดหาหนทางหาเงินมาไม่ได้เลย
"หึ"
แค่เสียงเดียวทำเอาเสียวสันหลังวาบ หวาดกลัวอย่างอธิบายไม่ถูก
"แม่พริตตี้สาว อย่างเธอจะหาจากไหนมา ฮืม" เขาว่าสายตาลามเลียไปทั่วร่างของหญิงสาว
"อย่าทำอะไรฉันเลยนะ" แก้วระวีว่าสีหน้าไม่สู้ดีนัก
"เฮ้อ...วันนี้ฉันเหนื่อย" จู่ๆเขาก็พูดแบบนั้นพลางทำสีหน้าเหนื่อยหน่าย และทิ้งตัวนอนข้างๆหญิงสาวแต่มือหนาก็ยังโอบกอดเอวบางแน่นไม่ปล่อย แก้วระวีเริ่มไม่เข้าใจในการกระทำของเขาเมื่อตอนแรกที่เขาจู่โจมเข้ามาเธอคิดว่าชายหนุ่มคงไม่ปล่อยเธอไปแน่ แต่ใครจะไปคิดว่าไม่เพียงแต่จะไม่ทำอะไรเขายังนอนนิ่งอยู่ข้างๆเธอในสภาพที่ล่อแหลมเกินไป
"อย่าขยับ ไม่งั้นเธอจะไม่ได้นอนเฉยๆแน่" คำพูดนั้นทำให้หญิงสาวชะงัก ผ่านไปนานหลายนาทีแก้วระวีก็ผ่อนคลายลง ก่อนจะถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
"ไอ้บ้าเอ๊ย ฉันยังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า"
แก้วระวีบ่นออกมาเบาๆ แต่ก็ไม่กล้าขยับไปไหน คนตัวโตที่นอนอยู่ข้างๆก็แอบยิ้มอย่างนึกสนุกเพียงลำพัง จึงกระชับอ้อมกอดให้แน่นยิ่งกว่าเดิม คนตัวเล็กจับปมผ้าขนหนูแน่น คืนนี้คงไม่หลับไม่นอนกันพอดี
ความคิดเห็น