ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOT7 | KissMark ตราไว้ในใจนายคือของฉัน![END]

    ลำดับตอนที่ #48 : :: KISSMARK :: EP.48

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.75K
      67
      12 ม.ค. 58

     

    มาร์คกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปบนท้องถนนเรียบชายหาด ดวงตาคมพยายามเพ่งมองหาร่างบางของแบมแบมทั้งฝั่งซ้ายและขวา แต่ก็ไม่เจอซักที จากจุดที่เขาจากกับแจ็คสันมามันก็ไกลพอสมควรแล้ว แบมแบมที่เพิ่งถอดเฝือกออกก็ไม่น่าจะวิ่งไปไหนได้ไกล แค่ระยะทางที่เขาเดินมานี่ก็เหนื่อยไม่ใช่เล่นแล้วนะ





    นอกจากระยะทางมันจะไกลเกินสมควรแล้ว บริเวรนี้มันยังเงียบสงบไร้ผู้คนอีกต่างหาก แต่เพราะเป็นทะเลที่มีรีสอร์ทมีโรงแรมเสียงของงานปาร์ตี้สังสรรค์มันก็ดังออกมาทำให้ไม่เงียบจนมีแต่เสียงลมมากเกินไป มาร์คเดินต่อไปเรื่อยๆเมื่อหันซ้ายหันขวาแล้วก็ไม่พบใคร สองขาก็ก้าวยาวๆอย่างนึกเป็นห่วงอีกคน อีกอย่างแสงไฟบริเวณนี้มันก็น้อยเสียด้วยสิ ถ้าไม่มีแสงจากดวงไฟสาธารณะที่ติดดวง ดับดวง กระพริบดวง บริเวณนี้ก็คงจะมืดสนิท





    “หายไปไหนของเขาเนี่ย?” มาร์คพึมพำกับตัวเองก่อนจะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นอีกครั้ง ยิ่งวิ่งออกไปไกลจากโรงแรมเท่าไหร่ ก็เหมือนว่าทางมันจะยิ่งมืดมากขึ้นเท่านั้น เสียงงานปาร์ตี้สังสรรค์มากมายมันก็เริ่มที่จะเบาลง





    ในเมื่อยังไม่เห็นแบมแบม เขาก็ต้องเดินต่อไปเรื่อยๆ ถ้าทางมันยังไม่ตันยังไงเขาก็ต้องเจอแบมแบม





    แบมแบมไม่ชอบความมืด





    อยู่ๆข้อความที่แบมแบมเคยบอกเขาก็ผุดขึ้นมาในหัว ทันทีที่สายตากระทบเข้ากับความมืดสลัวบนถนนตรงหน้า ดวงไฟริมทางที่ดีบ้างเสียบ้าง กลับเสียไปทั้งหมด เหมือนเป็นถนนที่ไม่ค่อยมีคนได้ใช้ เลยไม่มีการซ่อมแซมให้เปลืองงบประมาณ ถึงแม้ว่ามันจะมืด แต่ก็ยังคงมีแสงสว่างที่ลอดออกมาจากบ้านของชาวประมง และโรงแรมที่อยู่ไกลๆ มันก็เลยทำให้พอมองเห็นบ้างแต่ก็ยังมืดอยู่ดี ถ้าทางมืดขนาดนี้แบมแบมไม่มีทางเดินมาหรอก แต่ตั้งแต่ที่เดินมาเขาก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของแบมแบมเลยด้วยซ้ำ





    แบมแบมไม่ชอบความเงียบ




    แบมแบมบอกว่าเวลารอบๆตัวมันเงียบ เขาจะเหงาโดยอัตโนมัติ เพราะฉะนั้นตอนนอนแบมแบมเลยต้องฟังเพลงถึงจะนอนหลับ เป็นเพราะตอนเด็กที่ไม่ได้เติบโตมากับพ่อแม่ แล้วยังมีคุณป้าที่เป็นผู้จัดการบริษัทอีก โตมาคนเดียวกับความเงียบ เวลาจะนอนก็เลยต้องหาอะไรที่มันมีเสียงมาอยู่เป็นเพื่อน นั่นก็คือเพลง แต่ที่มาร์คเดินอยู่ตอนนี้  อย่าว่าแต่เสียงเพลงเลย เสียงคนคุยกันยังไม่มี มีแต่เสียงลมที่ดังหวิวๆอยู่ข้างหู





    ยิ่งเดินก็ยิ่งมืด ยิ่งเดินก็ยิ่งเงียบ





    แล้วแบมแบมจะเดินมาที่ๆทั้งมืดทั้งเงียบแบบนี้ทำไม ทั้งๆที่ขาก็เพิ่งจะหายดี





    เมื่อคิดได้ดังนั้นมาร์คก็เลือกที่จะหมุนตัวกลับไปในทางเดิมที่เดินมา แม้ว่าทางข้างหน้ามันจะมีให้เดินต่อก็ตาม แต่ทางที่ทั้งมืดทั้งเงียบแบบนี้แบมแบมไม่มีทางเดินมาแน่ๆ จิตใต้สำนึกมันบอกเขาแบบนั้น





    เมื่อเดินกลับมาเขาก็พยายามมองหาให้มากกว่าเดิม เปลี่ยนจากวิ่งเป็นเดินแล้วค่อยๆมองๆที่ละจุด จากเก้าอี้ทีละตัว หน้าบ้านที่ละหลัง ตรอกซอยตันเล็กๆ ใต้ดวงไฟสาธารณะที่ริบหรี่ จนจะกลับไปยังจุดที่เขาเจอกับแจ็คสัน เขายังไม่เจอแบมแบม






    มือหนาล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบมือถือเครื่องหรูขึ้นมากดหาเบอร์ที่ตั้งเป็นเบอร์ฉุกเฉินไว้เบอร์แรก





    -แบมแบม-





    (“มึงยังไม่เจอแบมอีกหรอวะ?”) รอฟังเสียงสัญญาณอยู่ไม่นานเสียคุ้นหูจากปลายสายก็ดังตอบกลับมา





    “จ แจ็คสันหรอ ทำไมโทรศัพท์แบมอยู่กับมึง” คิ้วเรียวทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันด้วยความงุนงง





    (“กูก็เพิ่งรู้เนี่ยว่า โทรศัพท์แบมอยู่บนรถ-”)





    มาร์คกดตัดสายไปทันทีที่รู้ว่าฟังไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา ตอนแรกก็ว่าจะหาเอง แต่พอไม่เจอก็โทรหา พอโทรไปโทรศัพท์ก็ดันไปอยู่กับแจ็คสันอีก แล้วเขาจะหาแบมแบมเจอมั้ยเนี่ย วันนี้จะได้เจอกันมั้ย จะได้คุยกันได้มั้ย จะได้ปรับความเข้าใจกันรึเปล่า





    จากตอนแรกที่เป็นห่วงอยู่แล้วก็ยิ่งเป็นห่วงมากขึ้นไปอีก ตอนนี้มันทั้งดึก ทั้งมืด ทั้งเงียบ ทั้งเปลี่ยว บรรยากาศรวมๆแล้วก็ไม่น่าอยู่คนเดียวซักเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าป่านนี้แบมแบมจะป็นยังไงบ้าง ไปอยู่ที่ไหน ร้องไห้อยู่รึเปล่าก็ไม่รู้ หรือว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับแบมแบมแต่ก็คงไม่มั้ง





    คิดในแง่ดีเอาไว้มาร์ค ต้วน





    แต่ว่า





    ในวันฟ้าปิด เวลาห้าทุ้มเกือบๆเที่ยงคืน ที่มองไปทางไหนก็มีแต่ความมืด มีเพียงความเงียบที่เขาปกคลุม มันก็ทำให้เขาเริ่มคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆนานา แล้วแต่ละอย่างที่คิดมันก็เริ่มทำให้เส้นเลือดในสมองเขาเต้นตุ้บๆ ดวงตาคมเพ่งมองรอบๆบริเวณ ขาสองข้างเริ่มออกเดินอีกครั้ง





    คนที่ทำให้แบมแบมต้องวิ่งนีออกมากคือเขาเอง ถ้ามาร์คไม่กอดกับจินยอง ถ้ามาร์คทำตามที่แบมแบมขอเอาไว้ตั้งแต่แรกเรื่องแบบนี้มันก็คงจะไม่เกิดขึ้น แบมแบมไม่ต้องวิ่งหนีมาร์คจนหายไปไหนก็ไม่รู้ แล้วถ้าเขาตามมาตั้งแต่แรกแบมแบมก็จะไม่หายไปแบบนี้ แล้วมาร์คก็ไม่ต้องวิ่งตามหาจนขาลากเหมือตอนนี้ ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องเป็นห่วง จนเส้นเลือดในสมองเต้น ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่านถึงสิ่งไม่ดีที่อาจจะเกิดขึ้นจนเริ่มที่จะหงุดหงิด





    ถ้าแบมแบมเป็นอะไรไปเขาคงไม่มีวันให้อภัยตัวเองแน่





    ถ้าเขาตามออกมาทันทีแบบที่แจ็คสันบอก ก็คงไม่ต้องมาเดินเป็นห่วงจนจะเป็นบ้าแบบตอนนี้หรอก





    ปัง!!





    กล่องยาพลาสติกใสถูกกระแทกลงกับเก้าอี้ไม้อย่าหงุดหงิดก่อนที่มาร์คจะยกฝ่ามือขึ้นมาขยี้เรือนผมสีน้ำตาลแดงจนมันยุงเหยิงเล็กน้อย ริมฝีปากหยักพ่นลมออกมาแรงๆอย่างลืมตัวจนรู้สึเจ็บแปล๊บๆที่บาดแผล





    “เชี่ยมาร์ค” เสียงทุ้มพึมพำก่อนจะปรายสายตาไปยังบริเวณชายหาดเพื่อมองหาแบมแบมอีกครั้ง แต่แบมแบมจะลงไปทำอะไรที่ชายหาดซึ่งมืดกว่าบนถนนนี่ล่ะ เมื่อกำลังจะเบนสายตากลับมายังท้องถนนตงหน้า ดวงตาคมก็สะดุดเข้ากับเงาลางๆที่อยู่บริเวณชายหาดไกลออกไปพอสมควร สองขาเรียวก้าวสลับกันอย่างรวดเร็ววิ่งเตะพื้นทรายจนฝุ่นคลุ้งเข้าไปหาร่างเล็กที่ยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งคุ้นตา





     “แบมแบม” มาร์คเรียกร่างเล็กที่อยู่ห่างออกไปสามสี่เมตรอย่างแผ่วเบา หากแต่ตอนนี้มันค่อนข้างที่จะเงียบเสียงที่ว่าเบาแล้ว มันก็กลับดังขึ้นมาเสียอย่างนั้น





    แบมแบมหันกลับมามองตามต้นเสียงดวงตาแดงก่ำเบิกกว้างขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะหมุนตัวกลับไป และออกเดินอย่างไม่ถนัดมากนัก เป็นเพราะเมื่อกี้แบมแบมวิ่งมาไกลมาก ทั้งหกล้ม ทั้งเป็นแผล แบมแบมเจ็บแต่ก็ต้องทน พอมานั่งพักรู้สึกดีขึ้นหายเหนื่อย หายเมื่อย แต่ไอ้แผลที่เลือดมันแห้งแล้วกลับทำให้เขาเดินลำบากกว่าตอนแรกเสียอีก





    “จะไปไหนอีก?!” เสียงทุ้มตะโกนดัง ทำให้แบมแบมรีบเดินให้เร็วกว่าเดิม แต่ผลก็คือ





    “โอ้ยยยยยยย!” แบมแบมล้มถลาลงไปกับพื้นทรายอย่างแรง ขาสองข้างที่มีแผลจมลงไปกับทรายสีขาว เนื้อตัวเปรอะเปื้อนฝุ่นทรายเต็มไปหมด





    “แบม!!” มาร์คตะโกนลั่นก่อนวิ่งเข้ามาย่อตัวลงช่วยคนที่กำลังพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน ฝ่ามือหนาที่เอื้อมไปจับแขนแบมแบมก็ถูกมือเล็กปัดออกอย่างรวดเร็ว





    “อย่ามายุ่ง!” เสียงหวานตวาดพร้อมตวัดสายตาแดงก่ำมามอง





    “แบมแบม!!”  มาร์คเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงดังก่อนจะลุกขึ้นยืนมองคนที่กำลังปัดทรายออกจากตัวลวกๆ





    “ไม่ต้องมาเรียกแบม! จะไปไหนก็ไป จะกอดกับใครก็เชิญ จะไปทำอะไรก็ไปเลย ไปให้ให้พ้นเลย!!!” แบมแบมตะโกนอย่างเกี้ยวกราดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในตอนนี้เขาแทบจะไม่เหลือความเป็นแบมแบมเด็กที่สุภาพอ่อนโยนเลยซักนิด





    “แบม...หยุดประชด แล้วฟังกันก่อนได้มั้ย?” มาร์คพยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้ตัวเองตวาดแบมแบมกลับ เพราะถ้าเป็นปกติแล้วถ้าแบมแบมมาตะโกนประชดประชันใส่เขาแบบนี้เขาคงไม่ยอมแน่





    “ไม่ได้ประชด!!  แล้วก็ไม่อยากฟังด้วย!!





    ใช่ไม่อยากฟังแล้ว แบมแบมไม่อยากฟัง ไม่อยากได้ยินอะไรจากมาร์คต้วนทั้งนั้น เพราะอะไรที่ออกมาจากปากผู้ชายตรงหน้านี้มันก็จะมีแต่คำโกหก คำพูดหลอกลวง คำแก้ตัวต่างๆนานาที่ฟังแล้วก็ต้องยอมใจอ่อนให้ ฟังแล้วก็ต้องให้อภัยอีกฝ่ายอย่างง่ายดาย แบมแบมไม่อยากถูกหลอก ไม่อยากเจ็บอีกแล้ว ไอ้สิ่งที่เห็นเมื่อกี้มันก็มากเกินพอแล้ว จะมาหลอกให้แบมแบมเชื่ออะไรอีก จะสัญญาอะไรแล้วไม่ทำตามอีก จะต้องให้แบมแบมผิดหวังไปถึงไหนกัน!!





    “จะไม่ไปใช่มั้ย? ได้!! งั้นแบมไปเอง!!





    แบมแบมรู้ว่าตัวเองไม่ได้เข้มแข็งมากขนาดที่จะยืนจ้องหน้ามาร์คต้วนได้นานๆ แม้ว่าอยากจะมองมากแค่ไหนก็ตาม สายตาจากร่างสูงที่มองมาอย่างเป็นห่วงมันทำให้หัวใจของแบมแบมเต้นถี่รัวขึ้น รอบๆดวงตากลมโตเริ่มร้อนผ่าว และก่อนที่น้ำตาหยดใสจะไหลออกมา แบมแบมก็หมุนตัวหันหลังให้อีกคนแล้วค่อยๆก้าวเดินออกมา บาดแผลที่ขาเรียวเริ่มเจ็บแปล๊บขึ้นอีกครั้ง แต่ถึงจะเจ็บแค่ไหนมันก็ยังไม่เท่ากับบาดแผลในหัวใจที่กำลังบอบช้ำอยู่ตอนนี้





    “แบม” เสียงทุ้มเรียกแผ่วเบาพร้อมกับยื่นมือไปจับเรียวแขนเล็กไว้หวังจะให้อีกคนกลับมา





    “อย่ามาแตะตัวแบม!” แบมแบมกัดฟันพูดอย่างฝืนใจ ก่อนสะบัดแขนตัวเองให้หลุดออกจากฝ่ามืออุ่นนั่น แม้ว่าใจจริงแล้วอยากจะหันกลับเข้าไปสวมกอดร่างสูงมากก็ตาม...





     

    เจ็บ




    มันเจ็บเกินไป




    แบมแบมทนไม่ไหวหรอก




    “ปล่อย!!” แบมแบมตวาดเสียงดังอีกครั้งเมื่อมือที่เพิ่งหลุดไปกลับเข้ามาจับต้นแขนตัวเองไว้แน่นกว่าเดิม




    “คุยกันให้รู้เรื่องก่อนได้มั้ย” เสียงทุ้มพูดอย่างพยายามสะกัดกลั้นอารมณ์ของตัวเองที่ค่อยๆพุ่งสูงขึ้น




    ปกติแล้วแบมแบมที่เป็นเด็กสุภาพอ่อนโยนนั่นไม่เคยทำให้เขาต้องโมโหเลยซักครั้ง จะมีก็แต่ที่ตัวเองเข้าไปกวนอีกฝ่ายก่อนแล้วแบมแบมก็หงุดหงิดใส่กลับมา มาร์คที่เป็นคนเริ่มแกล้งก่อนเลยพาลหงุดหงิดตามไปด้วย แต่ถึงอย่างไรการที่แบมแบมโกรธเขาแบบที่ผ่านมานั่นมันก็คงเอามาเทียบอะไรไม่ได้กับครั้งนี้




    แบมแบมเด็กที่สุภาพก็ไม่มีแล้ว ตอนนี้เหลือแต่เพียงเด็กหัวรั้นอายุสิบเจ็ดที่พูดอะไรก็ไม่ยอมฟัง เอาแต่ใจตัวเอง และไม่ยอมเชื่ออะไรทั้งนั้น ทุกครั้งที่แบมแบมพูดเสียงดัง และตวาดมาร์คออกมาด้วยน้ำเสียงแข็ง ก้าวร้าว อารมณ์ที่ไม่ค่อยคงที่มันก็ยิ่งสั่นคลอน ด้วยความที่เป็นคนโมโหง่ายอยู่แล้วมันเลยกลับกลายเป็นว่าเขาต้องพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองอย่างมาก มากกว่าที่แบมแบมต้องพยายามฝืนใจเดินจากมาเสียอีก




    มาร์คไม่เคยคุมอารมณ์ตัวเองซักครั้งเมื่อมีอะไรอยู่ในใจ เขาก็จะระเบิดมันออกมาแบบที่ไม่เคยคิดถึงอนาคต ไม่เคยคิดถึงจิตใจคนที่ต้องเป็นที่รองรับของสิ่งที่เขาทำ ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละครั้งมันไม่เคยมีผลดีหรอก แต่เขาพยายามแล้วพยายามควบคุมมันแล้ว และครั้งนี้เขาก็จะต้องพยายามให้มากกว่าครั้งก่อนๆ เพราะคนที่ต้องรองรับมันไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นแบมแบม




    “ไม่คุย! ต้องคุยอะไรอีก ก็เห็นๆกันอยู่ว่าพี่มาร์คไม่รักแบมแล้ว พี่มาร์คไม่เคยรักแบม!!” ร่างเล็กตะโกนลั่นน้ำเสียงสั่นเครือในประโยคท้ายน้ำหยดใสที่ไหลอาบอยู่ข้างแก้มเริ่มเปียกชื้นมากกว่าเดิม แต่ถึงอย่างนั้นแบมแบมก็ไม่ยอมหันกลับไปหาอีกคนอยู่ดี




    เพราะกลัวว่าจะต้องให้อภัย กลัวว่าตัวเองจะเผลอเข้าไปกอด กลัวว่าจะต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลัวว่าจะหลงรักคนที่เขารักคนอื่น




    “ทำไมจะไม่รัก ถ้าไม่รักจะตามมาง้ออยู่แบบนี้หรอ แค่หันกลับมาพูดด้วยดีๆมันคงยากมากเลยสินะแบมแบม!




    “เออยาก!! แล้วมันก็ยากกว่าการที่จะต้องไปกอดกับคนอื่นด้วย”




    “แบมแบม!! บอกว่าอย่าประชดไง”




    “ไม่ได้ประชด!!




    “ไม่ได้ประชดก็หันมาพูดดีๆ หยุดตวาด หยุดตะโกนได้แล้ว”




    “ดีแต่ห้ามนั่น ห้ามนี่คนอื่น ไอ้ที่คนอื่นเขาห้ามอะเคยทำได้บ้างมั้ย?!!!




    “ก็บอกให้ฟังไง ฟังก่อนได้มั้ย มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะ หันมาคุยกันดีๆไม่ได้รึไง!” เสียงทุ้มพูดแม้ภายในใจจะรู้สึกผิด แต่เขาก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้แบมแบมมาตวาดใส่ได้นะ




    ตอนเจอกันครั้งแรกๆ ตอนที่แบมแบมย้ายมาอยู่คอนโดของเขากฎข้อที่สำคัญที่สุดก็คือ ห้ามเสียงดังมาร์คไม่ชอบเสียงอะไรก็ตามที่มันดังจนเกินเหตุ นอกเสียจากเสียงเวลาเล่นคอนเสิร์ตหรือเวลาร้องเพลง แต่นั่นเป็นข้อยกเว้น เพราะยังไงเขาก็จะได้ยินแค่เสียงตัวเอง ที่มันยังอยู่ในโทนที่เรียกว่า ทุ้มแต่เสียงของคนอื่นมันไม่ใช่ เวลาตะโกน หรือตวาดมันจะดัง จนเขาเริ่มรำคาญ พอรำคาญมันก็จะหงุดหงิด พอหงุดหงิดมันก็ต้องคุ้มอารมณ์ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เขาถนัดเลยซักนิด




    เปลือกตาสีเข้มค่อยๆหลับลงและผ่อนลมออกมาช้าๆทางปากเพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังเดือดเตรียมพร้อมที่จะระเบิดออกมา แม้ว่าการเป็นนักร้องมันจะเป็นงานบันเทิงที่ต้องเอนเตอร์เทรนคนดู แต่มาร์คก็ยังเป็นคนที่มีความเครียดอยู่ดี แล้วไอ้ที่เครียดนี่ก็ไม่ใช่อะไร ก็เป็นผลมาจากการที่เขาไม่ชอบเสียงดังนี่แหละ เพราะเวลาที่โมโหหงุดหงิดแล้วไม่ได้ระบายหรือทำอะไรไม่ได้ เขาจะเกิดอาการเครียดได้ง่าย เหมือนที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้




    “เข้าใจผิดหรอ แบมเองแหละเข้าใจผิด”




    “แบม




    “เข้าใจผิดว่าพี่มาร์คเป็นคนรักษาสัญญาแล้วก็รักแบมมาตลอดไง!! เฮอะ!  โง่เนอะ” แบมแบมพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันมากกว่าเดิมก่อนจะแค่นหัวเราะอย่างสมเพชตัวเอง




    “แบมแบมมันไม่ใช่แบบนั้น ฉันรักนายนะรักมาตลอด”




    “เรียกชื่อผิดรึเปล่าไม่ใช่จินยองหรอกหรอ?”




    แค่นั้นยังไม่พอหรอแบมแบม ถึงต้องตอกย้ำด้วยตัวเอง




    ทุกครั้งที่ริมฝิปากอิ่มขยับพูด หัวใจของแบมแบมมันก็ยิ่งบอบช้ำ บอกช้ำจากคนที่กำลังจับแขนเขาไว้แน่น แล้วก็ต้องเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับคำพูดของตัวเอง แต่ที่แบมแบมพูดออกไปนั้นก็เพื่อย้ำให้ตัวเองไม่ลืมว่าเขากำลังพูดอยู่กับคนที่ไม่ได้รักตัวเองแล้ว พูดเพื่อให้ตัวเองเจ็บแล้วเดินหนีไปไกลๆแต่ยิ่งพูดมันก็ยิ่งหมดแรงแบมแบมแทบจะไม่เหลือแรงหายใจด้วยซ้ำ มันเจ็บ มันปวด มันท้อ




    “แบมแบม!! ทำไมชอบประชดแบบนี้?!




    มาร์คไม่ชอบการที่มีคนมาประชดประชันใส่เพราะนอกจากจะไม่ได้เคลียร์ดีๆแล้ว มันยิ่งจะทำให้มีปัญหามากไปกว่าเดิมอีก แล้วตอนนี้สิ่งที่มาร์คไม่ชอบมันก็กำลังมาอยู่รวมกัน ทั้งประชดทั้งเสียงดัง เมื่อเริ่มรู้ตัวว่าความโกรธมันกำลังพุ่งขึ้นมาฝ่ามืออุ่นที่จับแขนแบมแบมไว้ก็เริ่มคลายออก เพราะกลัวว่าแบมแบมจะเจ็บเวลาเขาเผลอบีบมันแรงๆ แต่พอปล่อยแขนแบมแบมก็ทำท่าจะเดินหนีไปเขาเลยต้องรีบเดินไปดักทางข้างหน้าไว้




     ทันทีที่เห็นใบหน้าขาวใสเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา หัวใจของเขามันก็แทบจะสลายลง ดวงตาแดงก่ำแข็งกร้าวที่แฝงไปด้วยความจ็บปวดมันกำลังทำให้เส้นเลือดในสมองของเขาเต้นตุ้บๆ ทั้งๆที่เคยสัญญาเอาไว้แล้วว่าจะไม่ทำให้ร้องไห้ ไม่ทำให้เสียใจ แต่เขาก็ยังคงทำมัน ทำให้แบมแบมต้องเจ็บต้องเสียน้ำตา




    ทำไมเขาถึงได้แย่แบบนี้วะ




    “ขอโทษ” เสียงทุ้มพูดแผ่วเบาก่อนที่ปลายนิ้วเรียวจะยื่นออกไปหวังจะเช็ดน้ำตาบนใบหน้าหวานตรงหน้าแต่ก็โดนฝ่ามือเล็กปัดมันลงอย่างไม่ไยดี




    “ไม่ต้องการ” แบมแบมกัดฟันพูดเสียงแข็ง




    “ขอโทษจริงๆ แต่ฉันกับจินยองมันไม่มีอะไรเลยนะ มันก็แค่น้องคนหนึ่งที่นายเห็นฉันก็แค่ปลอบมันเฉยๆ ให้กำลังใจมันก็เท่านั้น”




    “ถ้าพี่จินยองมาได้ยินคงจะเสียใจนะครับ”




    “ต้องทำยังไงถึงจะเชื่อ ต้องทำยังไงถึงจะฟังกันบ้าง”




    “ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เพราะแบมจะไม่เชื่อพี่มาร์คแล้ว!




    “แบมแบม!!




    “อยากเรียกก็เรียกให้พอ!! อยากมองก็มองให้พอ!! เพราะมันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เห็นแบม!! อ๋อ! แต่มองจากด้านหลังนะ เพราะแบมไม่อยากเห็นหน้าพี่มาร์ค” ร่างเล็กพูดก่อนจะหันหลังกลับไปอีกทาง ทั้งๆที่อยากจะมองใบหน้าของคนที่รักให้มากที่สุด ให้นานที่สุดแต่แบมแบมเจ็บเกินกว่าจะทำแบบนั้นได้ ทุกครั้งที่น้ำเสียงทุ้มลอยเข้าหูมาแบมแบมก็อยากจะเชื่อ อยากจะยกโทษให้ แต่มันไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าแบมแบมจะไม่เจ็บอีก จะไม่เสียใจอีก




    ตั้งแต่เกิดมาแบมแบมก็ไม่เคยอยู่กับคนที่รักได้เลย ขนาดพ่อกับแม่ก็ยังหย่ากันตั้งแต่แบมแบมยังจำความไม่ได้ด้วยซ้ำ พอโตมาคุณป้าที่เลี้ยงแบมแบมมาอย่างดีก็เสียไปโดยทิ้งให้แบมแบมต้องเผชิญกกับโลกอันโหดร้ายนี่คนเดียว พี่มาร์คที่เคยบอกว่ารักแบมแบมยังไม่รักแบมแบมเลยอยู่ไปมีแต่เจ็บ




    “ถ้ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายก็ฟังกันก่อน แล้วจะไปไหนก็ค่อยไป!!!




    เหนื่อยมาร์คต้วนเหนื่อยแล้ว ไม่ใช่ไม่รัก ไม่ใช่ว่าไม่อยากง้อ อยากง้อจะตาย รักจนจะคลั่ง แต่ในเมื่อแบมแบมไม่ฟังกัน ไม่ยอมคุยดีๆ เอาแต่ประชดกัน เอาแต่ตวาดเสียงดังใส่ เขาก็เหนื่อยนะ มาร์คยังไม่อยากช็อกตายเพราะต้องทนเก็บอารมณ์แล้วก็ฟังเสียงดังๆนี่อีก จะมองว่ามาร์คต้วนเห็นแก่ตัวก็ได้ จะมองว่าเขาไม่ดีก็ได้ แต่ในเมื่อแบมแบมไม่ยอมฟังเขาก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ไม่รั้งแล้ว ไม่ห้ามแล้ว




    รักแต่ไม่ไหวแล้วถึงเวลาจะผ่านมาไม่เท่าไหร่ แต่เขารู้สึกเหนื่อยแล้วก็หมดแรงไปมาก




    “แบมไปแน่พี่มาร์คอย่าตามมาแล้วกัน!! แบมแบมโคตรเกลียดพี่มาร์คเลย เกลียด!! ไม่ชอบ!! ไม่รักแล้ว!!




    “ที่พูดน่ะจริงหรอ?”




    “เออ!!




    “เกลียดใช่มั้ย?”




    “โคตรเกลียด” เกลียดที่ชอบทำให้รักมากขึ้นทุกครั้งเวลาคุยกัน




    “ไม่ชอบใช่มั้ย?”




    “ไม่ชอบ” ไม่ชอบที่ทำแบมแบมต้องใจเต้นทุกครั้งเวลาเข้ามาใกล้ๆ



     

    “ไม่รักด้วยหรอ?”




    “ไม่รัก” ไม่รักหรอก ถ้าไม่ใช่พี่มาร์ค




     “แต่ฉันรักนายนะรักมากด้วย”




    “แบมไม่อยากได้ยิน!!




    “ขอโทษ”




    “บอกว่าไม่อยากฟัง!!




    “เดี๋ยวก็จะไม่ได้ฟังแล้วล่ะ ฉันจะไม่ไหวแล้ว” ประโยคหลังมาร์คพูดแผ่วเบาพร้อมกับฝ่ามือหนาที่เลื่อนขึ้นมาลูบใบหน้าตัวเองก่อนจะยกขึ้นไปจับขมับแล้วคลึงเบาๆขับไล่ความปวดที่ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นจนลามมาที่รอบดวงตาและลงไปที่ท้ายทอย นอกจากเสียงเส้นเลือดเต้นตุ้บๆดังก้องอยู่ในหัวแล้วเขาก็แทบจะไม่ได้ยินเสียงอื่นเลย




    “แบมก็ไม่อยากฟังแล้ว!!” แบมแบมยกมือปิดหูตัวเองแล้วตะโกนเสียงดัง




    “ทำไมชอบพูดเสียงดังจังเคยห้ามแล้วนี่ เคยบอกแล้วนี่ว่าไม่ชอบเสียงดัง




    “พี่มาร์คก็ไม่เคยชอบอะไรซักอย่างแหละ เพราะเป็นแบมไงเลยไม่ชอบ ใช่มั้ยล่ะ?!




    “ไม่ใช่ ขอโทษ แต่นายกำลังเข้าใจผิดฉันกับจินยองไม่มีอะไรมากไปกว่าพี่น้องจริงๆ ที่นายเห็นฉันก็แค่ปลอบมัน ให้กำลังใจมัน แล้วที่ฉันไม่ตามมาก็เพราะว่ากลัวนายจะไม่ฟังกลัวจะทะเลาะกันมากกว่าเดิมแล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ”




    “แล้วมันไม่ใช่เพราะพี่มาร์คหรอ!!” แบมแบมตวาดลั่นก่อนหันกลับมามองร่างสูงที่สีหน้าผิดไปจากเดิม จากใบหน้าหล่อคมกึ่งหงุดหงิด ตอนนี้มันแทบจะไม่มีแววของความหงุดหงิดอยู่เลย มันเป็นความเหนื่อยเข้ามาแทนที่  




    การมาขอโทษแบมแบมนี่มันคงเหนื่อยแล้วก็น่ารำคาญมากเลยสินะ




    “อย่าเสียงดังขอร้อง  ไม่ไหวแล้ว




    “งั้นก็ไม่ต้องฟัง!!” ตะโกนก่อนจะถอยหลังออกมา คิดว่าแบมแบมไหวหรอ คิดว่าแบมแบมไม่เหนื่อยใช่มั้ย “แบมแบมโคตรเกลียดพี่มาร์คเลย!!




    “แบม” และก่อนที่ร่างสูงจะได้ตอบอะไรเสียงที่ดังเกินจำเป็นมันก็ถูกส่งเข้ามาในโสตประสาทที่ก้อนความเครียดกำลังก่อตัว เส้นเลือดในสมองที่เต้นอยู่ก็เต้นแรงมากกว่าเดิม หัวใจที่กำลังบอบสลายไม่แพ้แบมแบมก็เต้นถี่รัวขึ้น อาการปวดจากรอบดวงตาที่ลามไปถึงท้ายทอยก็ปวดมากขึ้นกว่าเดิม ดวงตาคมเริ่มพร่ามัวมองภาพตรงหน้าบิดเบี้ยวหากแต่เสียงของแบมแบมที่ตะโกนมาว่าเกลียดมันก็ยังดังก้องอยู่ในหัว ขาสองขาพยายามจะก้าวเดินตามร่างเล็กตรงหน้าแต่มันก็อ่อนแรงก่อนที่พาร่างของเขาล้มจมลงไปบนพื้นทรายละเอียด




    แบมแบม ฉันรักนายนะ


    ---------------------------------------

    #fickissmark

    ---------------------------------------



    :: บอทฟิค ::

    พี่่มาร์ค  @MarkKM_

    แจ็คสัน  @JacksonKM_

    แบมแบม  @bambibamFKM

    ประธานนักเรียนจินยอง  @jinyoungFKM

    เด็กชายชเว  @youngjaeFKM

    เบบี้บี  @jaebumFKM

    รองประธานนักเรียนยูคยอม @yuggyfkm
     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×