ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOT7 | KissMark ตราไว้ในใจนายคือของฉัน![END]

    ลำดับตอนที่ #34 : :: KISSMARK :: EP.34

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.9K
      68
      12 ม.ค. 58





              -JINYOUNG PART-



    เป็นประธานนักเรียนนั่นหมายถึงว่า เป็นผู้นำนักเรียนทั้งโรงเรียน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นทาสของครูทั้งโรงเรียนเหมือนกัน






    เมื่อวานผมตื่นสายกว่าปกติ แต่วันนี้ผมกลับต้องตื่นเช้ากว่าปกติถึงสองชั่วโมงเพื่ออาบน้ำแต่งตัวและโทรไปปลุกยองแจและแจบอม ตามหน้าที่ที่ผมได้รับมาเมื่อวาน เมื่อก่อนถึงเขาจะมาโรงเรียนสายหรือว่าไม่มาเรียนเลย มันไม่ได้เดือดร้อนอะไรผม แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ ในเมื่อหน้าที่การควบคุมเวลาการไปโรงเรียนมันมาอยู่ที่ผมแล้ว ผมก็ต้องรับผิดชอบมัน






    ตอนนี้ก็ประมาณเกือบจะหกโมงแล้ว ผมเลือกที่จะโทรไปปลุกยองแจก่อนเพราะเขาน่าจะปลุกง่ายกว่า แต่มันกลับผิดคาด ผมโทรไปประมาณสิบกว่าสายได้เขาถึงจะรับ และต่อมาอีกครึ่งชั่วโมงยองแจก็โทรกลับมาว่ากำลังจะแต่งตัว





    ทำไมมันถึงได้ชักช้าแบบนี้วะ






    หลังจากปลุกยองแจทางโทรศัพท์เรียบร้อยผมก็ต่อสายหาแจบอมทันที ว่าปลุกยองแจยากแล้วปลุกแจบอมยากกว่าอีก เขาไม่ยอมแม้แต่รับสายผมหรือกดตัดสายเลย เมื่อหมดหนทางกับโทรศัพท์ผมก็เลยต้องถ่อสังขารไปถึงหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ที่อยู่กลางหมู่บ้านไกลจากโรงเรียนพอสมควร






    ถ้าบ้านอยู่ไกลก็น่าจะตื่นเช้าๆสิ






    ผมกดกริ๊งที่หน้าบ้านรอประมาณสามวินาทีก็มีเสียงตอบกลับมาทางจอว่าให้เข้ามาได้เลย ผมก็ออกจะงงๆนะ แต่ก็เดินเข้าไปตามที่เขาบอกนี่เป็นครั้งแรกและมันจะเป็นครั้งเดียวที่ผมเดินเข้าบ้านนักธุรกิจระดับประเทศคนนี้






    บ้านนี่ก็จะกว้างไปไหน






    ระหว่างที่เดินอยู่ทางหินอ่อน ซึ่งตัดกลางสนามหญ้า ก็มีแม่บ้านวัยกลางคนเดินออกจากตัวคฤหาสน์และตรงมาหาผม และพาเดินนำเข้าไปนคฤหาสน์






    “คุณหนูแจ้งไว้แล้วว่าอาจจะมีเพื่อนมาหาน่ะค่ะ” แกหันมาบอกเมื่อเห็นว่าผมทำหน้างงๆ “คุณเป็นเพื่อนกับคุณหนูมานานรึยังคะ ปกติที่คุณหนูพามาที่บ้านก็มีแต่คุณยองแจ”






    “ก็ซักพักน่ะครับ พอดีผมเป็นประธานนักเรียนแล้วครูเขาให้ผมมาพาแจบอมไปโรงเรียนให้ทันคาบแรกอะครับ”




    “แจบอมหรือคะปกติคุณหนูชอบให้เรียกว่าเจบีมากกว่านะคะ”




    “ผมคงยังไม่สนิทกับเขามั้งครับ”




    “ไม่หรอกคะ ถ้าคนไม่สนิทกันคุณหนูคงไม่ให้มาที่บ้านหรอกค่ะ หรือคงไม่ให้เข้าบ้านหรอกค่ะ”




    “หรอครับ” ผมตอบก่อนที่เท้าจะหยุดกึกตามป้าแกที่หน้าบานประตูสีขาวกรอบทองสลักลวดลายงดงาม




    “นี่เป็นห้องคุณหนูนะคะ คุณลองเรียกคุณหนูว่าเจบีสิคะ ป้าว่าแกน่าจะชอบมากกว่าเรียกว่าแจบอมนะคะ”




    “ขอบคุณครับ” ผมโค้งให้แกก่อนยกมือเคาะประตู




    “คุณหนูไม่เดินมาเปิดหรอกค่ะ ถ้าไม่ได้ล็อกก็เข้าไปได้เลยนะคะ” แกคลี่ยิ้มอ่อนโยนก่อนหันหลังกลับทิ้งให้ผมลังเลอยู่หน้าประตู ก่อนตัดสินใจหมุนลูกบิดสีทองเข้าไปด้านใน




    อย่างกับคนละโลก




    เวลาของตอนนี้คือหกนาฬิกาสี่สิบเก้านาที ท้องฟ้าก็สว่างแล้ว แต่บรรยากาศในห้องนี้มันเหมือนกับผมย้อนไปตอนกลางคืน ในห้องนี้ไม่มีแสงอาทิตย์ลอดผ่านเข้ามาเลย ผมสัมผัสได้แต่ความมืด และอากาศที่เย็นกว่าอุณหภูมิปกติ




    สวิตซ์ไฟอยู่ไหนวะ




    “แจบอม” เมื่อเข้ามาในห้องที่มืดสนิทผมก็ใช้มือคล้ำๆไปตามผนังเผื่อจะเจอสวิตซ์ไฟบ้าง แต่ก็จับได้แต่อากาศและผนังโล่งๆ




    “แจบอม ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย” ผมเรียกเขาและหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อเปิดไฟฉายจากแสงแฟลช




    “แจบอม!” ผมตะโกนเสียงดังเมื่อแสงไฟไปกระทบเข้ากับเตียง




    เดินไปก็ระแวงไปกลัวจะไปเหยียบไปชนอะไรเข้าเมื่อมาถึงปลายเตียงอย่างปลอดภัยผมก็สาดไฟใส่ร่างที่นอนอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหน้า ใบหน้าที่เรียบนิ่งยามที่เขานอนหลับนี่มันเหมือนคนละคนกับตอนตื่นเลย ดูนิ่งสงบ ไม่หยิ่ง ไม่อวดดี และไม่มีสายตาที่คอยจิกกัดตลอดเวลา ดวงตาคมกริบที่น่าเกรงกลัว




    “อื้อ~” เมื่อเจอแสงไฟนานเข้าแจบอมก็ครางออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองไว้




    “ไม่ได้นะ นายจะหลับต่อตอนนี้ไม่ได้นะ” ผมรีบพูดและปีนขึ้นไปบนเตียง มือหนึ่งถือโทรศัพท์คอยให้ความสว่างอีกมือหนึ่งก็แกะมือเขาอออกจาหน้าตัวเอง




    “แจบอมตื่นเถอะนะ อย่าทำตัวแบบนี้สิ!” ผมเริ่มหัวเสียเมื่อเขาหันหลังหนี




    “แจบอม แจบอม แจบอม แจบอม” เรียกไปก็เขย่าตัวเขาไป




    “ปิดไฟโง่ๆนั้นซะ” เขาพูดเสียงงัวเงียแล้วใช้มือปิดแสงแฟลชจากโทรศัพท์ไว้




    “งั้นก็ตื่นซักทีสิ!” ผมกระแทกเสียงขณะปิดแสงให้ห้องนี้กลับสู่ความมืดอีกครั้ง




    ติ๊ด!




    มืดอยู่ได้ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงพร้อมกับห้องที่มืดๆที่มีแสงไฟเป็นจุดประกายสีขาวๆเต็มผนังกับเพดานห้อง รวมถึงผ้าม่านสีดำนั้นด้วย มันเหมือนท้องฟ้าตอนกลางคืน




    สวยชะมัด




    ผมเผลอยิ้มออกมาเพราะความตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศที่เหมือนนั่งดูท้องฟ้าตอนกลางคืน ก่อนที่แสงสว่างเหล่านั้นจะค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นและจางหายไป พร้อมกับแสงไฟที่สว่างจ้าขึ้นมาจนผมต้องหรี่ตาเพื่อปรับโฟกัส




    ห้องนี้กว้างมากจนผมประมาณไม่ได้ว่ามันมีขนาดเท่าไหร่รู้แต่ว่าใหญ่มาก!! ทุกอย่างเป็นโทนสีขาวทอง บ่งบอกถึงความร่ำรวยของตระกูลได้เป็นอย่างดี เป็นห้องโล่งๆ มีทีวีจอแบนใหญ่ติดผนังพร้อมเครื่องเล่นเสตอริโอ และโซฟายาวหนึ่งตัว เบาะนิ่มสำหรับนั่งเล่นสองเบาะ โต๊ะทำงานที่มีแต่คอมพิวเตอร์อยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง รอบๆห้องเป็นกำแพงสีขาวสะอาด มีชั้นวางหนังสือและอุปกรณ์ต่างๆอยู่ฝั่งเดียวกับโต๊ะทำงาน และดูเหมือนจะมีห้องน้ำในตัวด้วย




    “อื้อ~” เสียงครางในลำคอของคนที่ยังนอนหลับตาในมือถือรีโมทสีดำก่อนจะโยนมันลงบนโต๊ะข้างหัวเตียงและพลิกตัวกลับมาหาผม




    “แจบอม ไม่เอาน่าตื่นได้แล้ว” ผมเขย่าตัวเขาด้วยแรงที่มีจนเขาทำหน้ามุ่ยซุกหน้าตัวเองลงกับเตียงสีขาวสะอาดไร้ลวดลาย




    “นี่มันเวลานอนของฉันนะ” เขาพูดเสียงอู้อี้




    “แต่วันนี้นายต้องตื่นนะ แจบอม!!” ผมกระแทกเสียงแล้วใช้ฝ่ามือตีลงบนแผ่นหลังเขาที่อยู่ใต้ผ้าห่ม




    “มันเจ็บนะ




    “เจ็บก็ตื่นสิโว้ยยยยย แจบอม!! เจบี!!!




    “อะไรนะ?”




    ดูเหมือนว่าที่ผมเรียกเขาว่า เจบี จะทำให้เขาตาสว่างทันทีถึงได้พลิกตัวกลับมานอนลืมตามองผมแบบนี้




    “ตื่นแล้วก็ดี ไปอาบน้ำแต่งตัวซะ จะได้ไปโรงเรียนซักที”




    “นายเรียกฉันว่าอะไร?”




    “แจบอม




    “ไม่ใช่สิ”




    “เจ-บี” ผมพูดทีละประโยคก่อนเบะปาก “ถึงเราจะไม่ได้สนิทกันขนาดเรียกชื่อเล่น แต่ตอนนี้ตื่นแล้วไปอาบน้ำก่อน เรื่องเรียกชื่อค่อยมาเคลียร์กันทีหลัง”




    “ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ เรียกเจบีก็ดี ฉันชอบมากกว่าที่นายเรียกชื่อเต็ม”




    “ไป!-อาบ!-น้ำ!” ผมพูดเน้นทีละประโยค




    “พูดเบาๆไม่เป็นรึไง ฉันเพิ่งตื่นนะ”




    เขาขมวดคิ้วก่อนลุกขึ้นนั่งหาววอดใหญ่และเดินเซๆไปยังประตูที่ดูเหมือนจะเป็นห้องน้ำ ผมก็อยากจะออกจากทีนี้แล้วไปโรงเรียนเลยนะ แต่ก็ไม่ไว้ใจถ้าเกิดว่าเขาออกมาแล้วไม่เจอผมอาจจะนอนต่อก็ได้




    TRRRRRRRRR!!




    ผมล้วงกระเป๋ากางเกงไปหยิบมือถือที่สั่นเป็นจังหวะสั้นๆมาดูก็พบว่าเป็นข้อความจากยองแจที่ถ่ายรูปตัวเองคู่กับโรงเรียนส่งมาให้ดู ผมกระตุกยิ้มก่อนเก็บมันลงที่เดิมและเอนตัวลงนอนพักสายตาบนเตียงขนาดใหญ่นี่ เมื่อนอนลงไปแล้วก็รู้ได้ทันทีเลยว่าทำไมเขาถึงไม่อยากจะตื่น






    ผมนอนรอไม่นานแจบอมก็เดินออกมาในชุดยูนิฟอร์มของโรงเรียน แสดงว่าหลังประตูบานนั้นไม่ได้มีแค่ห้องน้ำ ยังมีห้องแต่งตัวอีกต่างหาก เขาเดินนำผมลงมาข้างล่างเมื่อเห็นว่าเวลายังมีเหลือเขาก็พาเดินไปยังห้องรับประทานอาหารที่มีโต๊ะขนาดยาวนั่งได้ราวๆยี่สิบคนตั้งอยู่ตรงกลาง ห้องนี้ถูกตกแต่งด้วยลายดอกไม้นานาชนิด บนโต๊ะอาหารมีจานวางอยู่สามจานและกับข้าวอีกหลายอย่างซึ่งมันน่าจะเกินไปสำหรับคนสามคน






    “เชิญนั่งค่ะคุณ” เมื่อแจบอมนั่งลงที่เก้าอี้ป้าแม่บ้านคนเดิมก็ผายมือให้ผมนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเขา




    “รีบกินรีบไปเรียนนะ” ผมพูดเบาๆ แต่เขาก็ยกมือขึ้นจุปากแล้วส่ายหัว




    “นายตื่นเช้านี่ ยังไม่ได้ทานข้าวเช้าก็ทานซะ ไม่ต้องรีบหรอกจากบ้านไปโรงเรียนแปปเดียวเอง” เขาพูดเสียงเรียบก่อนจะมีชายวัยกลางคนท่าทางดูภูมิฐานเดินเข้ามาทางด้านหลัง และแม่บ้านทุกคนก็หันไปโค้งให้




    นี่สินะประธานอิมที่เป็นนักธุรกิจระดับประเทศน่ะ





    “สวัสดีตอนเช้าครับ” แจบอมพูดโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าสบตากับผู้เป็นพ่อ




    “สวัสดีครับ ผมปาร์ค จินยองครับ” เมื่อเขาเดินมาถึงหัวโต๊ะผมก็ยื่นขึ้นโค้งและแนะนำตัวตามมารยาท “เป็นประธานนักเรียนของแจบอมครับ




    “เจบี” เขากัดฟันพูด




    “สวัสดีๆ” เขาคลี่ยิ้มเป็นอ่อนโยนให้ขณะนั่งลงที่เก้าอี้จากนั้นข้าวสีขาวนวลก็ถูกตักลงในจานของเราสามคน




    “ไม่เคยเห็นหน้าเลยนะ” เขาหันมาพูดกับผมโดยมีสายตาคมกริบของแจบอมจ้องมองอยู่ตลอด




    “เอ่อคือ” ผมอึกอัก




    “เขามารับผมไปเรียนน่ะ” แจบอมตอบแทน




    “ก็แกไม่หัดตื่นเช้าไปบ้างละจะได้ไม่ต้องให้เพื่อนมารับ” เขาทำเสียงดุใส่ลูกชายจนแจบอมคิ้วขมวดเข้าหากัน “ถ้าเพื่อนแกไม่มาก็คงไม่มีปัญญาตื่นมากินข้าวเช้าสินะ ทำตัวแบบนี้อีกหน่อยธุรกิจของฉันมันจะเป็นยังไง”





    “พ่อก็ห่วงแต่ธุรกิจ คำก็ธุรกิจ สองคำก็ธุรกิจ พ่อสนใจมันมากกว่าผมอีกนะ” เจบีขึ้นเสียง




    “แกโตแล้วน่าจะคิดเองได้นะ ธุรกิจมันคิดเองไม่ได้ ฉันเลยต้องคิดมันไง”




    “ก็ดีครับ คิดดีๆล่ะผมจะได้สานต่ออย่างง่ายๆได้” แจบอมพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น




    “เฮอะ!! อย่าหวังว่าแกจะได้อะไรจากฉันเลยถ้ายังทำตัวแบบนี้อยู่” ชายชราแค่นเสียงก่อนหันหน้ามาทางผมที่เริ่มทำตัวไม่ถูก “ฝากมันด้วยนะ ดูแลให้มันเป็นผู้เป็นขึ้นมาหน่อย”




    “ครับ” ผมได้แต่พยักหน้ารับ ส่วนแจบอมก็เบ้ปากใส่






    ประธานอิมหรือพ่อของแจบอม ชวนผมคุยมากขึ้นเมื่อเห็นว่าผมทำท่าเกร็งๆ เขาก็ชวนคุยเรื่องนั่นนี่ โดยมีแจบอมนั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ฝั่งตรงข้าม ความจริงประธานอิมก็ไม่ได้ดุอะไรมากมาย แต่ดุตามประสาพ่อมากกว่า เขาก็คุยกับผมปกติ และเริ่มจะคุยกันถูกคอซะด้วยสิ คงเพราะธุรกิจที่ต้องเจรจาตลอดเวลาและผมที่เป็นประธานนักเรียนก็ต้องติดต่องานอยู่ตลอดเหมือนกัน พอทานข้าวเสร็จประธานอิมก็ออกมาส่งที่หน้าประตูให้ผมขึ้นรถไปกับแจบอมและบอกทิ้งทายว่า






    “เย็นนี้มาทานข้าวที่นี่ด้วยกันนะ เรายังมีเรื่องต้องคุยด้วยกันอีกเยอะ






    ผมก็ได้แต่โค้งรับไปตามมารยาท เพราะไม่กล้าปฏิเสธน้ำใจผู้ใหญ่ ทั้งๆที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะมาที่นี่แค่ครั้งแต่ แต่มันก็คงต้องเป็นสองครั้งแล้วมั้งครับ


     


    -----------------------------------

    #fickissmark

    -----------------------------------

     


    สำหรับคุณ  pingki 

    เพลงหน้าฟิคชื่อเพลงว่า  I'm in love ของ  2LSON 

    -----------------------------

    ใครมีอะไรก็ถามได้น้าาา ถ้าไม่ลืมจะตอบ ถ้าลืมก็ติดแท็ก  ตามดานบนในทวิต แล้วถามได้น้าเดี๋ยวเมนชั่นไปตอบเนอะ

    ขอบคุณรีดเดอร์ทุกคนมากคะ รักนะเลิฟๆ

     



     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×