ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOT7 | KissMark ตราไว้ในใจนายคือของฉัน![END]

    ลำดับตอนที่ #11 : :: KISSMARK :: EP.11

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.58K
      115
      12 ม.ค. 58



               -MARK PART-


               “พี่มาร์ค…สรุปแล้วเมื่อวานใครมา?”



     

    หลังจากที่ดื่มน้ำแก้วใหญ่ตามเข้าไปดับความขมของยา แบมแบมก็หันมาถามผมอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย



     

    นี่เข้าถามผมมาสิบกว่ารอบแล้วนะ ตั้งแต่เมื่อวาน!!!



    “บอกว่าเพื่อนไง” ผมตอบนิ่งๆ



    “เพื่อนชื่ออะไรเล่า?!” เริ่มทำตัวน่ารำคาญใส่ผมอีกแล้ว “ก่อนจะหลับไปเมื่อวาน ผมได้ยินเสียงคุ้นมากเลยอะ”เขา ยังคงพูดต่อไป



    “หรอแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันละ” ผมพูดหน้ากวนก่อนจะลุกหนีเจ้าเด็กจอมตื๊อไปนั่งที่โซฟา



    “พี่มาร์ค!!!” เขาตะโกนตามมา



    “ก็บอกแล้วว่าเพื่อน หยุดเซ้าซี้ซักทีแล้วก็ไปแต่งตัวได้แล้ว รำคาญ!



    “แต่งตัวไปไหนอะ”



    “ไปตัดชุดนักเรียน”



    “เขาไม่ได้มียูนิฟอร์มอยู่แล้วหรอ แบบว่าซื้อแล้วมาใส่เลยอะ”



    “มีสิ แต่ขนาดตัวแต่ละคนมันไม่เท่ากัน มันก็แค่ค่าประมาณใส่ไปก็ไม่สบายตัว ไปตัดใหม่เลยง่ายกว่า แล้วก็สั่งตัดกางเกงแบบสั้นพิเศษให้นายด้วยไง เฝือกขนาดนั้นยัดไม่ลงกางเกงแสลคหรอกนะ”




    ผมพูดพลางนึกถึงครั้งแรกที่ลองสวมชุดยูนิฟอร์มแบบที่สำเร็จรูปมาแล้ว มันรู้สึกว่าจะหลวมก็ไม่หลวมจำคับก็ไม่คับ จะสบายก็ไม่สบายออกจะอึดอัดด้วยซ้ำ พอลองเปลี่ยนไซส์คราวนี้เลยหลวมแบบจริงจังเลย แถมเนื้อผ้ายังแข็งอีกต่างหาก สั่งตัดใหม่ไปเลยสิ้นเรื่อง





    ในโรงเรียนจะมีอยู่สองคนเท่านั้นที่สั่งตัดคือผมกับแจ็คสัน




    ไม่รู้ว่ามีคนอื่นอีกรึเปล่าแต่ว่าเท่าที่สังเกตได้เมื่อตอนนั้นมีแค่ผมกับแจ็คสันที่เนื้อผ้าสีสดต่างจากคนอื่นจนเราเป็นจุดเด่นอยู่บ่อยๆ และแน่นอนการเป็นจุดเด่น ผมชอบแต่แจ็คสันไม่ชอบ







    “อ่าว มาร์ค!!



    ทันทีที่เดินเข้าไปในร้าน ช่างตัดเสื้อประจำที่ผมเคยมาตัดเมื่อสองปีก่อนจนสนิทและคุ้นเคยกัน ก็เอ่ยทักผมทันที




    “ชุดนายผู้จัดการมาเอาไปแล้วนี่ แล้วมาทำไมอีก”




    “วันนี้ผมไม่ได้มาตัดชุด แต่เป็นเด็กนี่ต่างหาก” ผมตอบพลางมองไปยังแบมแบมที่ตื่นตาตื่นใจกับชุดนักเรียนหลายตัวที่แขวนอยู่บนราวรอบร้าน




    “ตัดกางเกงแบบสั้นเสมอเข่าด้วยนะ ขาหักอะแบบปกติคงยังใส่ไม่ได้” ผมบอกเพิ่มขณะที่แบมแบมโดนสั่งให้ลุกขึ้นไปวัดสัดส่วนต่างๆ




    “แล้วแบบยาวจะให้ตัดไปให้ด้วยเลยมั้ย หรือเอาแต่สั้น” เธอหันมาถามผม




    “เอาสิ เอามาให้ครบเซตเลยนะ”




    “เออ!! เมื่อวันก่อนเพื่อนนายก็เพิ่งมาตัดชุดน่ะ” เธอตะโกนจนผมตกใจ




    “เพื่อนผมหรอ




    “ที่เคยมาด้วยกันเมื่อก่อนไง พวกนายหล่อขึ้นเยอะเลย ฉันจำแทบไม่ได้ เปลี่ยนทรงผมกันหมดแล้วนี่ ชื่ออะไรนะ” เธอพูดขณะที่กำลังวัดตัวแบมแบมที่กำลังหันซ้ายหันขวาตามคำสั่ง




    “ที่แข่งกีฬาไง” พนักงานผู้หญิงอีกคนที่เพิ่งเดินออกมาจากหลังร้านพูดเสริม “ตัดผมแล้วก็ดูหล่อขึ้นเลย จากน่ารักๆเป็นแบบเข้มสุขุม”




    “แข่งกีฬาหรอ?” แบมแบมพูดขึ้นและหันมามองที่ผม




    “ฉันจำชื่อเขาไม่เคยได้เลยอะ น่าหงุดหงิดจริงๆ”




    “เอ่อ” เหมือนแบมแบมจะพูดอะไรออกมาผมเลยพูดขัดไป




    “จะเสร็จรึยัง ผมรีบกลับ”




    “เสร็จแล้วนี่แหละ ไม่เห็นต้องรีบเลย เดี๋ยวเพื่อนนายก็จะมาเอาชุดแล้วอีกซักชั่วโมงกว่าๆนี่แหละ”




    “ช่างมันเถอะพี่ ผมเพิ่งเจอมันเมื่อวานเอง แล้วก็ชุดนี่เอามาส่งที่คอนโดผมนะ”




    “ว่าแต่เธอเป็นใคร? น่าตาน่ารักจัง” เธอพูดกับแบมแบมพลางเอามือลูกหัวเขาอย่างเอ็นดู




    “อย่ากินเด็กน่า” ผมแซว




    “ฉันก็อยากเป็นอมตะนะ”



    “ไป แบมแบมกลับบ้าน อยู่นานเดี๋ยวถูกกินจริงๆแน่” ผมทนกับสายตาหยดเยิ้มนั่นไม่เคยได้ซักที มันเหมือนกับครั้งแรกที่ผมและแจ็คสันเจอเธอเลย สายตาแบบเดียวกันเป๊ะ ผมยังจำติดตาไม่เคยลืม








     

    “เพื่อนพี่มาร์คเป็นใครอะ?”แบมแบมเริ่มถามผมอีกเมื่อเรามาถึงที่คอนโด



    ความจริงเขาก็ถามผมตอนอยู่บนรถจนผมเผลอเสียสมาธิกับการขับรถและตะโกนว่าเขาไปทีหนึ่งจนนั่งเงียบกันมาตลอดทาง




    “ทำไมถึงอยากรู้อะไรมากมายขนาดนี้”




    “ก็แบมว่าเสียงพี่เขาคุ้นๆอะ”




    “แล้ว




    “แล้วก็เลยอยากรู้ว่าเป็นใครไง”




    “แล้ว




    “แล้วพี่มาร์คไม่ยอมบอกแบมอะ”




    “แล้ว




    “แล้วทำไมไม่ยอมบอกเล่าคนอยากรู้จะตายอยู่แล้วเนี่ย”




    “แล้ว




    ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองจะกวนประสาทเด็กมันมากเกินไปแล้ว ก็ใครใช้ให้อยากรู้จนเซ้าซี้ผมขนาดนี้ละ




    น่ารำคาญชะมัด!!




    “แล้วจะเดินหนีไปไหน? มาบอกก่อนสิ”




    “ไม่บอกโว้ย!! รำคาญ!! เบื่อ!! หนวกหู!!” ผมตะโกน




    “เออ!! ไม่บอกก็ไม่ต้องบอกเลยนะ ตอนแรกว่าจะให้หมอนข้าง ไม่ต้องเลยนะ ไม่ต้องแล้ว ไม่ต้องเอา แบมจะยึดตลอดไปเลย วันหลังถ้าพี่มาร์คเข้าห้องน้ำก็จะไม่ปิดประตูให้ด้วย ใครมันจะเข้ามาในห้องแล้วเห็นอะไรก็ให้มันเห็นไปเลย”




    หมอนข้างหรอ?




    จะเอาแล้วบอกหรือจะกอดแบมแบมแล้วไม่บอกดีนะ



    แกล้งเด็กมันเล่นต่ออีกหน่อยก็คงสนุกดี แล้วก็คงไม่มีใครบ้าชะโงกหัวเข้ามาในห้องน้ำหรอกมั้ง




    “หรองั้นนายก็มาเป็นหมอนข้างให้ฉันสิ”




    “พี่มาร์คเป็นเกย์ป่ะเนี่ย?!!” แบมแบมเหวใส่ผมทันทีที่จบประโยค




    กระตุกต่อมลูกผู้ชายจริงๆ




    น่าจะเอาตะกร้อครอบปาก เด็กอะไร พูดจาแบบนี้




    แต่ถึงยังไง เวลาเห็นเด็กนี่เริ่มโมโหผมก็รู้สึกสนุก อาจจะเป็นเพราะว่าผมไม่มีพี่น้องเลยก็ได้ ไปไหนมาไหนก็กับแจ็คสันตลอด




    “ไม่รู้เว้ยไม่เคยลอง” ผมตอบแบบขำๆก่อนจะหันไปกวนแบมแบมต่อ “ฉันไม่รู้แต่นายอะไม่แน่ เห็นอะไรก็พี่แจ็คสันๆ”



    “พี่มาร์ค!!” พูดเสียงดังพร้อมถลึงตาใส่




    ผมหัวเราะก๊ากทีหนึ่งก่อนจะเดินไปโทรสั่งอาหารขึ้นมาและเข้าไปอาบน้ำ รู้สึกว่าผมจะพูดอะไรจี้จุดแบมแบมอีกแล้วถึงได้ทำหน้ามุ่ย ถามคำตอบคำ ชวนเล่นเกมส์ก็ไม่เล่น ไม่เอาอะไรซักอย่างเอาแต่อ่านหนังสือท่าเดียว




    นอนอ่านบนเตียงซึ่งผมก็เล่นเกมส์แบบไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่ไม่สงสัยอะไรเลยหรอ ไม่ถามอะไรเลยหรอทีเมื่อวานละถามทุกๆห้านาทีเลย




    “จะนอนยังสามทุ่มกว่าแล้วนะ”




    “ผมไม่ง่วงพี่มาร์คนอนเถอะ เดี๋ยวเปิดโคมไฟเอาก็ได้”




    ผมหรอ?




    สรุปแล้วจะแทนว่า แบม หรือจะแทนว่า ผม



    “นี่โกรธอะไรพี่ป่ะเนี่ย?”




    แล้วทำไมผมต้องแทนตัวเองด้วยพี่ไปแบบนั้นวะ?!



    “เปล่าครับ” ตอบเสียงเรียบพร้อมกับเดินไปปิดไฟ ซึ่งผมก็ใช้จังหวะที่เขาลุกไปเก็บหนังสือลงตากเตียงจนหมด




    “เก็บทำไมอะ?”




    “อ่านหนังสือแบบนั้นไฟมันน้อย เดี๋ยวสายตาเสียนะ นอนเถอะ” ผมพูดขณะพยักเพยิดไปยังโคมไฟ




    “แล้วเล่นเกมส์บ่อยๆสายตานี่ไม่เสียเลยนะ” แบมแบมกลอกตาพร้อมกับดึงหมอนข้างไปกอดไว้ก่อนจะหันกลับไปอีกฝั่ง




    “จะไม่ให้จริงๆใช่มั้ย เดี๋ยวพี่ให้หูฟังอันใหม่ก็ได้”




    “ไม่เป็นไรครับ ผมว่าจะเลิกนิสัยนอนฟังเพลงซักที รู้สึกว่ามีนักร้องที่ปากมันไม่ค่อยจะดีอยู่คนหนึ่ง”




    “เคยฟังเพลงที่ฉันร้องรึไง?” ถามอย่างเคืองๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ไอ้นักร้องนั่นน่ะผมเอง!!




    “สรุปแล้วพี่มาร์คจะใช้ฉันหรือจะใช้พี่ครับ”




    “แล้วนายจะใช้ผมหรือจะใช้แบมล่ะ แล้วนี่พูดกับฉันก็หันหน้ามาสิหันหลังให้ทำไม?”




    “ผมไม่อยากเห็นหน้าคนนิสัยไม่ดี




    “เออ!! ใครมันจะไปดีเหมือนพี่แจ็คสันคนหล่อละ” ผมกระแทกเสียงในใจนึกโกรธที่พูดออกไปแบบนั้น





    “ผมนึกว่าพี่มาร์คจะมองไม่ออกเสียอีก ว่าพี่แจ็คสันหล่อ”




    โกรธ!!



    จะโกรธตัวเองหรือโกรธไอ้เด็กเวรนี่ดีวะ?!!!



    “พี่มาร์คเลิกชวนผมทะเลาะได้มั้ยครับ ไม่อย่างนั้นผมจะเปิดไฟอ่านหนังสือต่อ”




    “นี่โกรธฉันจริงรึเปล่าเนี่ย?”




    ” ไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมา




    ร้องไห้รึเปล่า?




    ไม่นะ??!!!




    “แบมแบมไม่ได้ร้องไห้ใช่มั้ย?”




    “ผมร้องอยู่ในใจ พี่มาร์คไม่ได้ยินหรอกครับ”




    นี่ผมทำอะไรผิด??



    ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย!!!




    “พี่มาร์คจะเลิกชวนผมคุยได้มั้ยครับ เป็นคนบอกจะนอนเองแท้ๆ”




    ผมไม่ตอบอะไรเพียงแต่มองคนที่นอนหันหลังให้กระชับหมอนข้างเข้าหาตัวเอง ผมก็เลยขยับตัวเข้าไปใกล้ปล่อยให้เตียงฝั่งตัวเองว่างเปล่าเหลืองเพียงแสงจากโคมไฟหัวเตียง




    ผมค่อยๆเอื้อมมือผ่านตัวบางแล้วกอดเขาจากทางด้านหลัง ใช้ใบหน้าซุกอยู่บริเวณซอกคอหายใจรดไหล่มนที่โผล่ออกมาจากเสื้อกล้ามตัวบาง ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมให้




    “ฝันดีนะแบมแบม”


     


    #fickissmark

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×