คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Y o u & I ? ..... ( chanbaek )
TITLE : Y o u & I ?
COULE : CHANYEOL x BAEKHYUN
AUTHOR : parkpare
RATE : NC18
* ไม่มีปุ่มปิดเพลงนะคะ ฟังเถอะค่ะเพื่อความอินนะ ! ^^ *
ท่ามกลางตึกสูงเสียดฟ้าในเมืองใหญ่เมืองนี้ ใครจะรู้ว่ายังมีบ้านหลังเล็กกะทัดรัดหลังนี้สร้างอยู่ ตัวบ้านถูกฉาบด้วยสีครีมหวานแลดูอบอุ่น กระเบื้องหลังคาเป็นสีเขียวเข้ม รอบตัวบ้านล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ขนาดเล็กและดอกไม้มากมาย บ่งบอกถึงนิสัยและความชอบของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี
“ ชานยอลอา .. ตื่นได้แล้วนะ ” เสียงหวานใสดังขึ้นภายในบ้านหลังนั้น มือเรียวพยายามดึงผ้าห่มผืนหนาที่ห่อคลุมร่างสูงร่างหนึ่งเอาไว้ออกอย่างสุดกำลัง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ร่างสูงตื่นขึ้นจากฝันแต่อย่างใด
“ ชานยอลอา ! นายได้ยินไหม สายแล้วนะ ! ” ขึ้นเสียงด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย ร่างสูงตรงหน้านี่จะนอนขี้เกียจไปถึงไหน .. มันสายมากแล้ว
“ อื้อ .. เสียงดังจัง แบคฮยอน ”
“ นายว่าไงนะ ? อ๊ะ .. ! ” ร่างเล็กของแบคฮยอนเซลงไปกับเตียงกว้างตามแรงรั้งของร่างสูงที่นอนอยู่ ทาบทับลงไปบนลำตัวแข็งแรง มือหนาเลื่อนโอบเอวคอดไว้ทันที พร้อมสัมผัสแผ่วเบาตรงริมฝีปากที่ทำให้ร่างเล็กค่อยๆ หยุดดิ้นด้วยความคุ้นเคย
“ มอร์นิ่งคิสครับ .. แบคฮยอน ” ร่างสูงที่ชื่อว่าชานยอล เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเป็นเอกลักษณ์พร้อมรอยยิ้มขี้เล่นเล็กๆ ที่ถูกจุดขึ้น
รอยยิ้มที่ทำให้คนอย่างแบคฮยอนหลงรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
“ อะ ไอ้คนขี้เซา .. รีบอาบน้ำแล้วตามลงมากินข้าวได้แล้ว ! ” ร่างเล็กยันตัวขึ้นจากอ้อมแขนอุ่น ก่อนจะเดินสะบัดก้นออกจากห้องนอนไปด้วยความเขินอายที่ปิดไว้ไม่มิด เรียกเสียงหัวเราะจากคนเพิ่งตื่นที่ยังคงนั่งแหมะอยู่บนเตียงกว้างได้เป็นอย่างดี
ทุกอย่างลงตัว บ้านหลังนี้อบอุ่นอย่างที่ใครหลายคนยังอิจฉา
บยอน แบคฮยอนมีความสุขในทุกๆ วัน
ขอเพียงแค่ข้างกายมี ปาร์ค ชานยอล
.
.
.
.
.
.
“ ชานยอลอา มานี่ .. เดี๋ยวฉันผูกเนกไทให้ ” มือเล็กกวักเรียกร่างสูงให้เดินมาหน้ากระจกบานใหญ่ ก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นเพราะความสูงของคนตรงหน้า นิ้วเรียวบรรจงผูกเนกไทสีเข้มอย่างตั้งใจ พับทบไปทบมาอย่างชำนาญ เมื่อผูกเสร็จก็ท้าวเอวมองผลงานตัวเองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ เสร็จแล้ว ! .. แฟนใครนะ หล่อจังเลย ”
“ แฟนนายไง แบคฮยอนอา .. ” มือหนาวางลงบนกลุ่มผมนุ่มแล้วยีเบาๆ ด้วยความเอ็นดู
“ วันนี้เดี๋ยวฉันทำอาหารเย็นรอนะ นายอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม ? ”
“ อะไรก็ได้ตามใจนายเลย แล้วฉันจะรีบกลับนะ ” รอยยิ้มเล็กๆ ถูกจุดขึ้นที่มุมปากร่างสูงอย่างทุกครั้งก่อนจะก้มลงกดปลายจมูกโด่งเข้ากับหน้าผากเล็กด้วยความรักใคร่
“ ฉันไปก่อนนะ ”
“ แล้วฉันจะรอนะ ชานยอล ” แบคฮยอนพูดขึ้นก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบริมฝีปากอิ่มของคนตรงหน้าแผ่วเบา พร้อมส่งรอยยิ้มหวานละมุนไปหวังให้มันเป็นกำลังใจที่สำคัญ ตากลมมองร่างสูงเดินออกจากเขตรั้วสีอ่อนไปจนลับสายตา
วันนี้ต้องดูรายการทำอาหารแล้วล่ะ มีแค่ซุปกิมจิที่ทำเป็นประจำคงเบื่อแย่
ชานยอลต้องดีใจแน่ๆ ที่ได้กินอาหารฝีมือเขา ... ไม่ได้ทำกันบ่อยๆหรอกนะ
.
.
.
.
.
.
ชานยอลยังไม่กลับมา ..
ทั้งๆ ที่เมื่อเช้าเขาก็บอกว่าจะทำอาหารเย็นไว้รอ
และร่างสูงก็รับปากว่าจะรีบกลับ
ใบหน้าเรียวฟุบลงกับท่อนแขนตัวเองอย่างอ่อนแรง ตรงหน้าเขาคืออาหารที่ตั้งใจทำเพื่อร่างสูงที่รับปากว่าจะรีบกลับมา แต่ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว .. ทุกอย่างเย็นชืด
ความน้อยใจเริ่มเกาะกุมหัวใจของแบคฮยอน จะกลับช้าทำไมไม่บอกเขาสักคำ ถ้าติดธุระด่วน ก็น่าจะโทรมาบอกกันก่อนบ้าง ...ไม่ก็ข้อความสักอันก็ยังดี
แอ๊ด ...
ร่างเล็กผงกหัวขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู สองเท้าเร่งก้าวไปเพื่อให้ถึงร่างของอีกคนที่เขากำลังนึกถึงอยู่ทันที
“ นายไปไหนมา ? ”
“ ฉัน .. ติดธุระน่ะ แบตฯมือถือก็หมดเลยไม่ได้โทรบอกนาย ขอโทษนะ” เจ้าของเสียงทุ้มตอบอย่างใจเย็น พร้อมมือหนาที่เลื่อนลงไปกุมมือเล็กไว้เบาๆ
“ เฮ้อ ... นายไปอาบน้ำเถอะ ฉันจะอุ่นกับข้าวรอ ” มือเล็กดึงออกจากการเกาะกุมของอีกคน ก่อนจะหันหลังกลับเข้าครัวไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย แต่สองหูก็ยังรับรู้เสียงฝีเท้าที่ก้าวขึ้นบันไดไปได้อย่างชัดเจน
เขาไม่อยากจะยอมรับเลย ว่าในน้ำเสียงของชานยอลนั้น
มันสั่นไหวเล็กน้อยจนเขาหวั่นใจ ...
.
.
.
.
.
.
“ เป็นไง ? ซุปกิมจิอร่อยไหม ? ” ใบหน้าเรียวเล็กของแบคฮยอนยื่นเข้าไปถามร่างสูงที่นั่งตรงข้ามตัวเองด้วยความตื่นเต้น
“ ใช้ได้เลย .. ” ร่างสูงของชานยอลที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามยกนิ้วโป้งพร้อมส่งรอยยิ้มกว้างให้แบคฮยอนชื่นใจ มือเล็กเอื้อมคีบชิจิมิแผ่นบางที่เขาตั้งใจทำวางลงในจานร่างสูงอย่างเอาใจ
“ ถ้าใช้ได้ งั้นก็กินเยอะๆ นะ ฉันตั้งใจทำเต็มที่เลย ”
“ ขอบคุณนะ แบคฮยอน .. ” เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ ก่อนจะคีบชิจิมิเข้าปาก แขนเรียวท้าวคางมองร่างสูงตรงหน้าด้วยความสุขใจที่ขจัดเรื่องคาใจในตอนแรกไปจนหมด
เพียงแค่ชานยอลชอบอาหารที่เขาทำ
.
.
.
.
.
.
เวลาล่วงเลยมาจนขึ้นวันใหม่ คนทั้งคู่นอนเคียงคู่กันอยู่บนเตียงกว้าง ร่างเล็กขยับตัวซุกเข้าหาอกอุ่นอย่างหวังจะให้ร่างสูงโอบกอดเช่นทุกวัน แต่วันนี้มันกลับต่างออกไป
“ ชานยอลอา .. ”
“ หืม ... ”
“ กอดฉันหน่อยสิ ” เสียงหวานพูดขึ้นพร้อมตากลมที่มองสบกับดวงตาของร่างสูง แต่อ้อมแขนหนาทำเพียงแค่เลื่อนโอบกอดเอวของเขาไว้หลวมๆ เท่านั้น
“ วันนี้นายทำธุระอะไรเหรอ ? ”
“ มีงานด่วนต้องแก้น่ะ ฉันกำลังกลับบ้านแต่เจ้านายโทรมาตามให้กลับเข้าบริษัท .. เลยเป็นอย่างที่เห็น ”
“ อ่อ แล้ว .. ”
“ นอนกันเถอะนะ แบคฮยอน .. ฉันเหนื่อย ” เสียงทุ้มเอ่ยขัดขึ้น น้ำเสียงฟังดูเหนื่อยอ่อนจนน่าใจหาย
แล้วทุกสิ่งก็เงียบลง ยกเว้นเสียงลมหายใจแผ่วเบาของเจ้าของเสียงทุ้มที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอ มีเพียงแบคฮยอนเท่านั้นที่ยังลืมตาตื่นอยู่ท่ามกลางความมืดรอบตัว ใบหน้าเรียวก้มลงมองอ้อมแขนหนาของร่างสูงที่โอบกอดเอวเขาอยู่หลวมๆ
“ ฉันไม่เข้าใจเลย .. ”
.
.
.
.
.
กึก ...
มือเล็กวางแก้วกาแฟใบสวยลงบนโต๊ะทำงานของร่างสูงอย่างระวัง ดวงตากลมทอดมองคนตรงหน้าที่ก้มทำงานอย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเดินเข้ามาในห้อง
ไม่สิ ... ไม่แม้แต่จะสนใจเลยล่ะมั้ง
ผ่านมาหลายอาทิตย์แล้วหลังจากวันนั้นที่ชานยอลกลับบ้านช้า เขาไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดไป ร่างสูงถึงได้ค่อยๆ ทำตัวห่างเหิน เขายังคงเป็นคนรักที่ดีอย่างทุกวันที่ผ่านมา ยังคอยดูแล คอยเอาใจใส่ เขาคิดทบทวนดีแล้วว่าตัวเองทำอะไรผิดไปรึเปล่า
แต่ก็ไม่มีสักอย่าง ... ไม่มีเลยจริงๆ
“ ชานยอล ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบภายในห้องทำงานของร่างสูง
“ ..... ” แต่คนถูกเรียกก็ยังคงก้มหน้าก้มตาเขียนตัวหนังสือลงบนเอกสารเหมือนไม่ได้ยินเสียงเรียกตรงหน้า
“ ปาร์ค ชานยอล !! ”
“ แบคฮยอน นายไม่เห็นเหรอว่าฉันทำอะไรอยู่ ? ” คิ้วหนาขมวดแน่นพร้อมตวัดสายตาขึ้นมองร่างเล็กตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์
“ ฉันเรียกนายตั้งหลายครั้ง นายไม่ได้ยินรึไง ? ”
“ ไม่ได้ยิน ”
“ นายไม่ได้ยินหรือนายทำเป็นไม่สนใจกันแน่ ! ” เสียงหวานเอ่ยกระแทกอย่างหมดความอดทน สองมือเล็กตบลงบนโต๊ะไม้เนื้อแข็งโดยไม่กลัวที่จะเจ็บตัว ตากลมมองสบกับดวงตาของร่างสูงอย่างต้องการคำตอบ
วินาทีนี้ ความอดทนของเขาได้หมดลงแล้ว
“ นายเป็นอะไรของนาย อย่ามาหาเรื่องกันได้ไหม ? ” มือหนากวาดรวบเอกสารที่วางเกะกะอยู่บนโต๊ะขึ้นมาถือไว้ ยันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวใหญ่ก่อนจะเดินผ่านร่างเล็กของแบคฮยอนออกจากห้องทำงานไปทันที
“ นายจะหนีไปไหน ชานยอล ! มาคุยกันให้รู้เรื่องนะ ” สองขาเรียวก้าวตามร่างสูงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมมือเล็กที่ยื่นไปหวังจะคว้าชายเสื้อสีเข้มเอาไว้ ... แต่กลับคว้าได้เพียงแค่อากาศ
“ ฉันจะไปทำธุระ กลับดึก .. ไม่ต้องรอ ” ร่างสูงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเปิดประตูก้าวเท้าออกนอกบ้านไปอย่างรวดเร็ว ไม่แม้แต่จะหันกลับมาเพื่อรอฟังคำตอบจากร่างเล็ก
แบคฮยอนทำได้เพียงมองเจ้าของแผ่นหลังกว้างที่เดินห่างออกไปจนหายลับไปจากสายตา ตากลมที่เคยสดใส ในตอนนี้มันหม่นแสงลงจนน่าใจหาย ...
.
.
.
.
.
.
ในย่านแฟชั่นที่แออัดไปด้วยเหล่าวัยรุ่น ยังมีร่างเล็กๆ ของแบคฮยอนเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มคนเหล่านั้น ร่างเล็กหวังว่าการออกมาเดินเล่นเปิดหูเปิดตาครั้งนี้ อาจทำให้ความรู้สึกแย่ๆ ในจิตใจลดลงบ้างไม่มากก็น้อย
“ อ๊ะ .. เสื้อตัวนั้นสวยจัง ” ขาเรียวรีบก้าวเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าตรงหน้าเพื่อดูสิ่งที่ตัวเองสนใจทันที มือเล็กจับไล้ไปตามผ้าเนื้อดี เสื้อโค้ทสีน้ำตาลเข้มตัวนี้ดูดีมากในสายตาของเขา
“ เอาตัวนี้แล้วกัน ... ไม่ได้ซื้อกันบ่อยๆ นี่นะ ” ร่างเล็กเอ่ยกับตัวเองเบาๆ พร้อมแย้มยิ้มบาง มือเล็กหยิบเสื้อโค้ทตัวที่ถูกใจ ตากลมมองไปรอบตัวอีกครั้งจนสะดุดตากับสิ่งที่แขวนอยู่บนราวไม่ใกล้ไม่ไกล
เสื้อโค้ทตัวยาวสีดำสนิท เนื้อผ้าขนสัตว์ที่น่าจะให้ความอบอุ่นเป็นอย่างดี แผงกระดุมเม็ดโตบนช่วงอกที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ .. ทุกอย่างเรียบง่ายแต่ลงตัว
มันทำให้เขานึกถึงชานยอล เขามักจะเป็นคนซื้อเสื้อผ้าให้คนร่างสูงเสมอ ด้วยความที่เป็นคนช่างเอาใจใส่ของตัวเอง
“ เหอะ .. ” ร่างเล็กทำเสียงขึ้นจมูกนิดหน่อย ก่อนจะเมินหน้าหนีเสื้อโค้ทที่แขวนอยู่ทันที
“ ขอบคุณครับ ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นเมื่อจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย พร้อมหันตัวกลับไปเพื่อที่จะเดินออกจากร้าน แต่ภาพตรงหน้าทำให้เขารู้สึกราวกับว่าตัวเองโดนผลักลงเหว
“ โอ๊ะ โค้ทตัวนี้สวยจัง ! ” มือเล็กของหญิงสาวเอื้อมหยิบเสื้อโค้ทตัวยาวสีดำสนิทมาทาบไปกับลำตัวสูงของชายหนุ่มที่มากับเธอ
“ ดูสิ เหมาะกับนายมากเลยนะ ” เสียงแหลมเล็กแบบหญิงสาวทั่วไปเอ่ยชมพร้อมรอยยิ้มกว้างที่ส่งให้ชายหนุ่มข้างตัว
ซึ่งไม่ว่าจะมองยังไงก็เป็นคนคุ้นเคยของแบคฮยอนคนนี้
ตากลมมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลายที่โจมตีเข้ามาในใจเหมือนเข็มนับร้อย เสียใจ เจ็บใจ และ ผิดหวัง ทุกอย่างที่เขาเห็นมันคือคำตอบที่เขาต้องการมาตลอดหลายอาทิตย์นี้ไม่ใช่เหรอ ..แล้วทำไมถึงต้องเจ็บ
“ แบคฮยอน .. ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาเบาๆ เมื่อเห็นร่างเล็กที่ตัวเองคุ้นเคย ตกใจจนรู้สึกชาราวกับโดนไม้หน้าสามตีแสกหน้า
แบคฮยอนมองใบหน้าคมของชานยอลอย่างปราศจากคำพูดใดๆ รวบรวมความกล้าแล้วตัดสินใจเดินชนไหล่กว้างออกไปจากร้านทันที ทำให้ร่างสูงที่ไม่ทันตั้งตัวเซไปตามแรงกระแทก แม้แต่เสียงถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงของหญิงสาวข้างกายก็ไม่เข้าหูของเขา
แต่ในทางกลับกัน ... มันดังชัดเจนอยู่ภายในหัวของแบคฮยอน
.
.
.
.
.
.
แอ๊ด ... ปึ้ง !!
มือเล็กปิดกระแทกบานประตูอย่างแรงเมื่อถึงบ้าน พร้อมทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างไม่มีทางออก ดวงตาคู่กลมมองเหม่อไปทั่วบ้านที่พวกเขาสองคนใช้อาศัยร่วมกันมาเกือบสองปี ... ทุกอย่างที่เขากับชานยอลร่วมสร้างกันมาในอดีต ปัจจุบันมันกำลังสั่นคลอนอย่างน่ากลัว
ภาพยังคงติดตา ภาพที่ยืนยันทุกอย่าง ... ว่าคนรักของเขาไม่ใช่คนที่ซื่อสัตย์อีกต่อไป
แอ๊ด .....
เสียงเปิดประตูเบาๆ ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อร่างสูงของชานยอลก้าวเข้ามา แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เข้าหูหรืออยู่ในสายตาของแบคฮยอนเลยแม้แต่น้อย
“ แบคฮยอน ”
“ อ๊ะ .. ! ” ร่างเล็กสะดุ้งด้วยความตกใจ แต่เมื่อรู้ว่าต้นเสียงนั้นเกิดขึ้นมาจากใคร ดวงตากลมคู่สวยที่เคยสดใสก็แข็งกร้าวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ นายคิดว่านายกำลังทำอะไรอยู่เหรอ ? ปาร์ค ชานยอล ”
“ ... ”
“ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ? ” แบคฮยอนกลั้นใจหยัดตัวลุกขึ้นเผชิญหน้ากับชานยอล ดวงตาคมของร่างสูงตรงหน้าเขาสั่นไหว มือหนากำแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน
“ แฟนนายเหรอ ? ” มุมปากเล็กแย้มยิ้มออกมาด้วยความสมเพชในคำถามของตัวเอง
“ เขาเป็น ... ”
“ เป็นอะไรก็พูดมาสิ ! ทุกอย่างมันชัดเจนขนาดนี้แล้ว นายยังจะลังเลอะไรอีก ! ” เสียงหวานตวาดลั่นอย่างหมดความอดทนเมื่อร่างสูงตรงหน้าเอาแต่อ้ำอึ้ง ฝ่ามือเล็กทุบลงบนอกกว้างด้วยแรงทั้งหมดที่มี
“ นายเอาฉันไปไว้ที่ไหน ... ฮึก ทำไมนายทำแบบนี้ ” ความเจ็บปวดที่ได้รับในครั้งนี้ ถูกกลั่นตัวออกมาเป็นหยดน้ำตาสีใสที่ไหลอาบแก้มนวล ความแข็งกร้าวในตอนแรกที่สร้างมันขึ้นมาพังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี
“ แบคฮยอน ... เรื่องของฉันกับนายมันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว ” ฝ่ามือหนาเลื่อนขึ้นเสยผมอย่างหมดหนทาง เสียงทุ้มที่แบคฮยอนเคยคิดว่ามันน่าฟังเสมอตอนนี้มันกลับทำร้ายเขาได้อย่างเลือดเย็น ... ไม่อยากฟัง
“ แล้วที่ผ่านมาเป็นปีมันคืออะไรงั้นเหรอ ? .. นายแสดงละครอยู่รึไง ! ”
“ ฟังฉันก่อน ... ”
“ นายก็แค่กำลังหลอกฉันเหมือนอย่างที่นายเคยทำ .. ฮึก ” เสียงหวานเอ่ยตัดพ้อแผ่วเบา พร้อมแรงสะอื้นที่ทำให้ร่างเล็กๆ สั่นเทาอย่างน่าสงสาร
“ นายก็ดูเหมือนจะรู้อยู่แล้วนิ ! แล้วจะถามฉันให้มันได้อะไรขึ้นมาอีกงั้นเหรอ ! ” เสียงทุ้มตวาดดังลั่นอย่างหมดความอดทน จนร่างเล็กสะดุ้งตกใจด้วยความผวา มือหนาที่เคยอบอุ่น ยื่นมายึดหัวไหล่เล็กเอาไว้แน่นพร้อมออกแรงบีบจนร่างเล็กรู้สึกปวดจนชา
“ ฉันต้องทำงาน ฉันต้องเข้าสังคม การที่คบนายที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน มันเหมือนฉันปิดโอกาสของตัวเอง ... ” มือเล็กยกขึ้นปิดหูอย่างไม่ต้องการจะได้ยินถ้อยคำร้ายกาจที่ออกมาจากริมฝีปากของคนที่ขึ้นชื่อว่าคนรัก
“ แล้วอีกอย่าง ... ฉันกับฮานึล เราสองคนกำลังจะแต่งงานกัน ” เมื่อเสียงทุ้มต่ำจบลง ราวกับโลกทั้งใบของบยอน แบคฮยอนพังทลายลงต่อหน้าต่อตา ร่างเล็กทรุดลงกับพื้นเย็นเฉียบอย่างหมดแรง
“ เราเลิกกันเถอะ ”
ชานยอลเดินออกจากบ้านไปแล้ว ... เหลือเพียงร่างเล็กที่ทรุดอยู่กลางห้องเพียงลำพัง เสียงสะอื้นที่ดังไม่ขาดสายราวกับเจ้าของเสียงกำลังจะขาดใจ มือเล็กเลื่อนขึ้นโอบกอดตัวเองไว้ด้วยความหดหู่
มันจะต้องไม่จบแบบนี้ .. ทำไมเขาต้องมารับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ
.
.
.
.
.
.
ปลายปีที่อุณหภูมิรอบตัวเริ่มลดต่ำลง เหล่าใบไม้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีที่แปลกตา ... งานสมรสถูกจัดขึ้นอย่างสมฐานะของคู่บ่าวสาวในต้นฤดูหนาว เจ้าบ่าวร่างสูงอยู่ในชุดสูททักซิโด้สีขาวขลิบทองที่เสริมให้เจ้าตัวดูน่าเกรงขาม ข้างกายคือเจ้าสาวที่แต่งกายด้วยชุดสุ่มฟูฟ่องสีขาวนวล มงกุฎอันเล็กๆ บนศีรษะของเธอทำให้ดูน่ารักอ่อนหวานขึ้นเป็นเท่าตัว ทุกคนในงานล้วนแต่งกายด้วยโทนสีขาวตามคำขอของเจ้าสาวที่อยากให้วันสำคัญของตนเองสะอาดบริสุทธิ์และน่าจดจำ เสียงเปียโนทำนองหวานหูขับกล่อมให้ทุกอย่างดูลงตัว
“ ขอสัญญากับพระองค์ ว่าจะรับฮานึลเป็นภรรยาของข้าพเจ้า ไม่ว่าจะมั่งมีหรือยากจน สุขหรือทุกข์ เจ็บป่วยหรือสุขสบาย จะขอซื่อสัตย์ต่อเธอผู้เป็นภรรยาตลอดไป .. “ เสียงทุ้มที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสุขเอ่ยขึ้นท่ามกลางแขกนับร้อยที่เป็นพยานรักของตนเอง
“ ขอสัญญากับพระองค์ ว่าจะรับชานยอลเป็นสามีของข้าพเจ้า ไม่ว่าจะมั่งมีหรือยากจน สุขหรือ ...... ทุกข์ ” เสียงหวานของหญิงสาวที่กำลังเอ่ยประโยคเดียวกับร่างสูงจำต้องสะดุดเพราะบางสิ่งที่กำลังก้าวเข้ามาภายในโบสถ์แห่งนี้
“ ขอให้มีแต่ความทุกข์ ... ”
เสียงหวานเอ่ยขึ้นท่ามกลางเสียงคุยจอแจที่เริ่มดังขึ้นเมื่อเขาก้าวเข้ามาภายในงานจนหยุดลงอยู่ตรงหน้าคู่บ่าวสาวที่แท่นพิธี มือเรียวภายใต้ถุงมือหนังสีดำสนิทหยิบแก้วแชมเปญขึ้นจิบช้าๆ ก่อนจะชูขึ้นเหนือหัว ราวกับกำลังขอให้สิ่งที่ตนเองพูดเป็นจริงขึ้นมา
“ แบคฮยอน ... ” เสียงทุ้มของเจ้าบ่าวร่างสูงเอ่ยขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง
แบคฮยอนกลับมา ... แต่แปลกไปจนเขาแทบจำไม่ได้
เขารู้ว่าแบคฮยอนไม่ใช่คนที่ชอบสีดำแต่ในวันนี้ ร่างเล็กกลับอยู่ภายใต้เสื้อ โค้ทตัวยาวสีดำสนิท สองขาเรียวสวมทับด้วยรองเท้าบูทสีเดียวกันที่ยาวปิดถึงครึ่งแข้ง แต่สิ่งที่สร้างความแปลกใจให้ชานยอลมากที่สุดกลับไม่ใช่การแต่งตัว ...
เส้นผมนุ่มที่เคยมีสีน้ำตาลเข้มถูกย้อมให้กลายเป็นสีดำสนิท ดวงตากลมที่เคยสะท้อนความอ่อนหวานและสดใสตลอดเวลา บัดนี้ถูกกรีดทับด้วยอายไลน์เนอร์สีเข้มจนคมกริบ รับกับจมูกโด่งสวย ริมฝีปากอิ่มขึ้นสีแดงเรื่อเพราะความเย็นของอากาศ
แบคฮยอนในตอนนี้ให้ความรู้สึกน่าหวาดผวาอย่างประหลาด
ดวงตาคมกริบที่แข็งกร้าวเหมือนกำลังต้องการจะฉีกเขาให้เป็นชิ้นๆ ...
“ ไม่เจอฉันแค่ไม่กี่เดือนถึงกับอึ้งไปเลยเหรอ ? ... นายนี่รสนิยมยังดีไม่เปลี่ยนเลยนะ ” ดอกกุหลาบสีขาวบริสุทธิ์ถูกดึงออกจากแจกันทรงสูงมาชื่นชมแค่เพียงไม่นานก็ถูก เขวี้ยงลงบนพื้นหินเย็นเฉียบอย่างไม่ใยดี
“ นี่คุณเป็นใคร ? มีสิทธิ์มาทำอะไรอย่างนี้ในงานของเรา ! ” เสียงแหลมเล็กของเจ้าสาวเอ่ยตวาดขึ้นพร้อมใบหน้าหวานที่บูดบึ้งอย่างไม่สบอารมณ์ จนเสียงจอแจรอบตัวเริ่มเงียบลง
“ เธอมีสิทธิ์พูดอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ ? ” ทันทีที่จบประโยค มือเรียวของแบค ฮยอนก็ล้วงหยิบบางอย่างในเสื้อโค้ทออกมา สิ่งนั้นเรียกเสียงกรีดร้องและโวยวายจากแขกในงานได้เป็นอย่างดีเมื่อเขาจ่อปลายกระบอกของมันไปที่ร่างของหญิงสาวอย่างไม่ลังเล
“ แบคฮยอน นายใจเย็นๆ สิ ! มีอะไรก็ค่อยๆ พูดกันเถอะนะ ” คนร่างสูงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรน พร้อมก้าวขาลงจากแท่นพิธีเข้าไปใกล้ร่างเล็กที่ถือปืนกระบอกเล็กอยู่
“ อย่าเข้ามานะ ! ” มือเล็กเปลี่ยนทิศทางของกระบอกปืนไปที่ร่างสูงทันที
“ ทำไมนายทำแบบนี้ล่ะ ... แบคฮยอน ”
“ นายถามตัวเองเถอะ นายเป็นคนเริ่มทุกอย่าง ... แล้ววันนี้ ฉันจะทำให้มันจบลงสักที ” ดวงตาคมมองร่างสูงตรงหน้าด้วยแววตาสั่นไหว ทุกสิ่งทุกอย่างในวันนี้เกิดขึ้นก็เพราะคนตรงหน้า แม้แต่ความรักที่เขาเฝ้าถนอมก็พังลงด้วยน้ำมือของร่างสูงตรงหน้า
ด้วยความคิดนี้ ทำให้เขาไม่ลังเลที่จะลั่นไกปืนทันที ....
ปัง !!!
“ ชานยอล !!!! ” ร่างเล็กของหญิงสาวถลาไปยังร่างสูงที่ทรุดลงกับพื้นทันทีที่สิ้นสุดเสียงปืน แขกในงานกรีดร้องและเริ่มวิ่งหนีกันอย่างชุลมุน สองขาเรียวก้าวเข้าไปใกล้และนั่งลงข้างร่างสูงที่อยู่ในอ้อมแขนเล็กของหญิงสาว ... ชานยอลเริ่มหายใจรวยริน
“ นายรู้บ้างไหม ... ว่าฉันรักนายขนาดไหน ? ” แบคฮยอนบรรจงถอดถุงมือหนังออกพร้อมทาบฝ่ามือเล็กลงบนแผงอกกว้างที่เริ่มชื้นไปด้วยเลือดสีแดงเข้ม ก่อนจะออกแรงจิกกดลงบนปากแผลอย่างไม่ปราณี
“ ถ้านายรู้สึกถึงมันสักนิด ... นายจะไม่ทำกับฉันแบบนี้ ”
แบคฮยอนไม่สนใจแม้แต่เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของร่างสูง
หรือ เสียงร้องไห้อ้อนวอนของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของหัวใจชานยอล
“ หลับให้สบายนะ ... ” ดวงตาของร่างสูงที่เอ่อคลอด้วยน้ำตา บัดนี้มันถูกปิดลงอย่างเงียบเชียบ ... พร้อมลมหายใจที่หยุดไปตลอดกาล
“ ส่วนเธอ ... จงอยู่รับกรรมที่ตัวเองได้ก่อเอาไว้ อยู่กับความเจ็บปวดที่รู้ว่าคนที่เธอเลือกจะฝากชีวิตด้วยไม่ใช่คนซื่อสัตย์ อยู่อย่างเดียวดายโดยไร้ซึ่งความรักจากชานยอล !! ”
กระบอกปืนเล็กถูกจ่อลงบนขมับบาง ดวงตาคมที่เอ่อล้นไปด้วยหยดน้ำตาปิดลงอย่างยอมรับชะตากรรมข้างหน้าที่เขาได้เลือกเอาไว้ … จบมันสักที
ปัง !!!
ความรัก ...
บางครั้งมันก็ทำให้เราสุขจนแทบกระอัก
แต่บางครั้งมันกลับทำให้เราทุกข์จนยากจะอธิบาย
--------------------------------- END ------------------------------------
พูดคุย ’’
กลับมาลงอีกครั้งแล้วนะคะ เรื่องนี้ของเรา .. หลังจากที่ลบไปและรีไรท์ใหม่ให้ดียิ่งขึ้น TT
ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดต้องขอโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ เรื่องนี้เป็นฟิค exo เรื่องแรกที่เราแต่งค่ะ
อ่านจบแล้วห้ามทำร้ายร่างกายคนแต่งใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ เดี๋ยวชานยอลเสียใจ #ยุ้ยจี
ขอบคุณที่ยังติดตามอ่านจนจบนะคะ ถึงแม้จะหายไปนาน
เรื่องต่อไป รับรอง... ฟินกันถ้วนหน้าค่ะ
ขอ “ คนละเม้นท์ ” เป็นกำลังใจหน่อยนะคะ ^^
ความคิดเห็น