ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ARCANA : Age of divine and gunpowder

    ลำดับตอนที่ #7 : To be stronger

    • อัปเดตล่าสุด 10 มิ.ย. 49


    07 : To be stronger

    ---------------------------------------------------------------------


    ดวงอาทิตย์สีส้มสาดแสงอันอบอุ่นลงมายังทุ่งหญ้าเหมือนอย่างเคย ลมเย็นๆ พัดพาเอากลิ่นของฤดูใบไม้ร่วงมาพร้อมทั้งเกสรของดอกหญ้าสีขาวดั่งปุยเมฆ นกน้อยที่กำลังเกาะกิ่งไม้อยู่ บัดนี้กำลังสนใจชายหนุ่มที่กำลังขมีขมันฝึกซ้อมฝีมือการรุกรับประชิดตัวกับอาจารย์หญิงของเขา หมัดพุ่งไปในทิศทางที่ถูกต้อง พละกำลังยังรุนแรง แต่ก็ยังไม่สามารถสัมผัสกับเป้าหมายที่เล็งไว้ได้แม้แต่เพียงครั้งเดียว เหงื่อไหลลงมาชโลมกายของเขาจนเปียกปอน เขายิ่งร้อนใจขึ้นเมื่อพบว่า อาจารย์ของเขาคงไม่ยอมให้เรื่องจบง่ายๆ เป็นแน่ ถ้าผลการฝึกของวันนี้ยังไม่แสดงออกมาให้ประจักษ์ ด้วยความรีบร้อน ทำให้ลูกเตะตอกส้นของเขาพลาดอีกครั้ง ก่อนที่โลกทั้งใบจะตีลังกากลับหัว


    ตึง !!!


    "โอ๊ย !!"


    ชิกิลงไปนอนคู้อยู่บนพื้น ท่าทุ่มข้ามไหล่เมื่อสักครู่อาศัยช่องว่างในพริบตาเดียวของเขา มุดเข้ามาจับข้อเท้าและคอเสื้อ กระชากโครมเดียวทำเอาชิกิลงไปกินหญ้า อาจารย์ปาร์โก้ปัดเศษฝุ่นออกจากมือ แล้วบ่นเป็นครั้งที่สองร้อยน่าจะได้ เกี่ยวกับการเปิดช่องว่างขณะออกท่า


    "นี่ หนุ่มน้อย" เธอเอามือเท้าเอว ขยับแว่นขึ้นลง ท่าทางเหมือนครูฝ่ายปกครองไม่มีผิด "ยังจำไม่ได้อีกเหรอ ว่าท่าต่อเนื่องระยะกลางน่ะ ใช้ขาไม่ได้ เพราะจังหวะยกมันมีสองเสต็ป ให้พยายามต่อด้วยหมัดหรือศอกไล่ออกระยะไกลก่อนค่อยจบด้วยท่าขา"


    "ขอโทษครับ..." เขาพูดเสียงอ่อยๆ แต่ก็ยังนอนแผ่อยู่บนพื้น ทั้งตัวฟกช้ำดำเขียวเต็มไปหมด


    "พักครึ่งชั่วโมงได้"


    อารินเดินทอดน่องมาหาชิกิ เธอนั่งยองๆ อยู่ข้างกาย พลางเอานิ้วจิ้มๆ ที่สีข้าง เมื่อได้ยินเสียงชิกิร้องโอยออกมาก็รู้สึกโล่งใจนิดหน่อยที่ยังอยู่เป็นชิ้นเดียวอยู่ เธอจับแขนเขาเบาๆ เพื่อให้ชิกิได้มีหลักพยุงตัวลุกขึ้น แล้วลากสังขารตัวเองไปที่ริมต้นไม้ใหญ่ ที่นั่นปาร์โก้รออยู่แล้วพร้อมกับน้ำใบบัวบกกระติกใหญ่ อาจารย์สาวยื่นแก้วที่ใส่น้ำไว้แล้วให้ พลางหัวเราะเบาๆ กับสภาพดูไม่จืดของชิกิ


    "ฝึกให้หนัก พักให้เต็มที่ มีเรี่ยวมีแรงแล้วค่อยฝึกกันต่อ ไม่จำเป็นต้องเก่งขึ้นพรวดพราดในวันเดียวก็ได้นะหนุ่มเอ๋ย"


    "ครับ..." ชิกิตอบอย่างว่าง่าย แล้วดื่มน้ำใบบัวบกไปอึกใหญ่ อาจารย์คงเตรียมไว้เพื่อรักษาอาการช้ำในของเขาแน่ๆ เขานึกแล้วก็ขอบคุณอาจารย์อยู่ในใจ


    "ต่อไปก็ตาหนูฝึกแล้วนะสาวน้อย" เธอหันมาทางอาริน "บอกตรงๆ ว่า ฉันดูกี่ทีก็ไม่มีเบื่อเลยนะ เวทย์มนตร์น่ะ"


    "มันไม่ใช่การแสดงนะคะ มันเป็นหนึ่งในวิถีชีวิตของพวกเรา" อารินแย้ง


    "น่า น่า เอาเถอะ พี่สาวก็ไม่อยากจะเถียงเรื่องปรัชญาอะไรกับหนูหรอกจ้ะ เริ่มเถอะ ก่อนที่เจ้าหนุ่มนี่จะกระอักเลือดเอาซะก่อน"


    อารินหยุดสำรวมสมาธิ ตั้งใจให้มั่นกับบาดแผลแตกเหนือคิ้วของชิกิ  เธอหลับตาพริ้ม แล้วร่ายคาถาเบาๆ  แสงสีขาวสุกสกาวหมุนไล่มาจากข้อมือวนไปตามปลายนิ้ว สู่บาดแผลของชิกิ มันค่อยๆ สมานตัวอย่างช้าๆ และปิดสนิทในเวลาไม่นาน กลับมาเป็นเหมือนก่อนที่จะโดนหมัดขวาตรงของอาจารย์ปาร์โก้เข้าไป  ชิกิหันมาหาอารินช้าๆ แล้วพูดว่า


    "ขอบใจนะ อาริน... ฉันเป็นหนี้บุญคุณเธออีกแล้ว"


    "ไม่เกี่ยวหรอกย่ะ !!" เธอบ่นใส่เข้าให้  "ฉันทำแบบนี้เพราะว่าฉันจะฝึกฝนการใช้เวทย์ต่างหาก แถมอีกอย่าง แถวนี้คนเจ็บก็มีแต่นายเท่านั้นด้วย"


    อารินหลบตาชิกิเล็กน้อย ปาร์โก้สังเกตเห็นหน้าของเธอแดงขึ้นมานิดหนึ่ง


    "ถ้าไม่อยากให้ฉันต้องมาช่วยนายบ่อยๆ ก็เก่งขึ้นจนไม่ต้องเจ็บตัวซักทีสิ..."


    "อืม... ขอบใจจริงๆ นะ ที่อุตส่าห์เป็นห่วงผม" ชิกิยิ้ม แล้วพูดออกมาหน้าตาเฉย "ผมจะรีบเก่งขึ้นเพื่อคุณนะ"


    "บ้า บ้า บ้า บ้า ตาบ๊อง --- ไม่รู้ด้วยแล้ว !!!"

    อารินลุกขึ้นแล้วเธอก็วิ่งจี๋ไปทางแม่น้ำทันที ทิ้งให้ชิกิทำหน้าเอ๋ออยู่คนเดียว  ปาร์โก้แทบจะหัวเราะตกต้นไม้ตายเมื่อเธอได้ยินชิกิพูด เธอโดดลงจากคาคบไม้ลงมานั่งใกล้ๆ ชิกิ แล้วถามตรงๆ


    "นี่ หนุ่ม--- สำหรับนาย เด็กคนนั้นคืออะไรเหรอ? เพราะอะไรถึงพูดแบบเมื่อกี้ล่ะ?"


    "ผมทำเรื่องร้ายๆ กับเธอไว้มากครับ ผมจึงตั้งใจว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ชดใช้สิ่งที่ทำกับเธอลงไป"


    "โธ่เอ๋ย หนุ่มเอ๊ย..." ปาร์โก้คราง "รู้มั้ยน่ะ พูดแบบนั้นแล้ว สำหรับเด็กผู้หญิงน่ะ มันหมายความว่าอะไร"


    "อะไรเหรอครับ?" ชิกิถามตามตรง


    ปาร์โก้เพียงแต่ตบบ่าเขาเบาๆ เท่านั้น แล้วตอบว่า
    "ชีวิตยังอีกยาวไกล หนุ่ม...  บางครั้งแค่คำพูดก็สั่นสะเทือนขุนเขาได้นะ  หึหึ..."


    แล้วเธอก็เดินไปเปิดกระเป๋า หยิบหีบเพลงปากมาเป่าเล่น ทิ้งให้ชิกินั่งงงกับคำพูดที่ดูเหมือนกับปริศนาคำทายอยู่คนเดียว


    -----------------------------------------------------


    อารินนั่งเอาเท้าแช่น้ำอยู่ที่ริมตลิ่ง เธอถอดกระโปรงยาวและเสื้อคลุมที่ใส่มาหลายวันไปซักแล้วตากไว้ที่ต้นไม้ใกล้ๆ ร่างกายเหลือเพียงชุดชั้นในและเสื้อทูนิคสีขาว เธอลดความฟุ้งซ่านเพราะคำพูดของตานั่นมาได้พอสมควรแล้วกับการลงแรงซักผ้าไป ตอนนี้เธอก็กำลังคิดจะอาบน้ำเสียที เพราะหลังจากออกมาจากโรงเตี๊ยม Flaming lizard ก็นับเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่ต้องนอนกลางดิน กินกลางทรายมาตลอด ที่ทำได้อย่างมากก็เพียงเช็ดตัวเพราะต้องประหยัดน้ำไว้ดื่ม เมื่อมาพบแม่น้ำเย็นสะอาดแบบนี้ ก็อดใจไม่ไหว อารินจึงค่อยๆ เปลือยกายลงไปอยู่ในแม่น้ำสายเล็กนั้น แล้วลูบไล้ทำความสะอาดร่างกาย แต่เธอได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวดังอยู่ด้วนหลังพอดี เมื่อเธอหันไปเห็นสิ่งที่กำลังมา เธอก็กรีดร้องดังลั่น


    "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ----------------- !!!"


    "อ๊ะ ?! ขอโทษครับ !!!"


    ชิกิรีบหันหลังทันที เขากะจะมาขอโทษที่ทำให้อารินรู้สึกไม่ดี แค่เธอตามมานี่เขาก็เกรงใจและลำบากใจว่าจะทำให้อารินต้องมาตกระกำลำบากกับเขาพอแรงอยู่แล้ว แต่เมื่อได้พบภาพเมื่อกี้เข้า ก็ลืมหมดเลยว่าจะพูดอะไรบ้าง


    "เมื่อกี้นี้... ขอโทษนะ"


    "เอ๋? "


    ชิกิที่ตั้งใจจะมาขอโทษ กลับถูกอารินขอโทษซะเอง เธอพูดมาจากหลังก้อนหินในแม่น้ำที่เธอแอบอยู่
    "ฉันรู้...ว่านายพูดอะไรไม่ค่อยจะคิดเท่าไหร่ เอาเป็นว่าให้อภัยก็แล้วกัน--- ฉันเองก็ผิดที่ไม่ใจเย็นซะก่อน"


    "ไม่หรอกครับ" ชิกิพูด "เดิมที อารินเองก็มีสิทธิ์ที่จะเกลียดผมอยู่แล้ว ผมแค่กลัวว่าจะทำให้อารินต้อง...เอ่อ..."


    "ฉันไม่ชอบนายเลยซักนิดเดียว" เธอพูดขึ้น


    ...ถูกแล้วละ มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น...  ชิกิคิดในใจและยิ้มอย่างเศร้าๆ


    "แต่ฉันก็ไม่ได้เกลียดนายหรอกนะ..."


    สายตาของทั้งสองคนประสานกัน เหมือนจะมองทะลุเข้าไปในจิตใจของอีกฝั่ง ไม่ต้องสื่อสารด้วยคำพูด ใช้เพียงตาในการบอกความรู้สึกซึ่งกันและกัน  ทั้งคู่จ้องกันเป็นเวลานานเท่าไหร่ก็ไม่ทราบได้ จนในที่สุด ชิกิก็หยิบผ้าเช็ดตัวออกมาจากเป้สนามของเขา แล้วส่งให้อาริน ทำให้อารินรู้สึกตัวว่า เธอยังเปลือยอยู่นานแล้ว เธอหน้าแดงไปถึงหู ก่อนจะหยิบสารพัดของใกล้ตัวไม่ว่าจะเป็นถ้วยถังกะละมังหม้อ หินแม่น้ำ ระดมปาใส่ชิกิไม่ยั้งมือ


    "ตาบ้า ตาบ๊อง ! โรคจิตถ้ำมอง ลามก ! บ้า บ้า บ้า บ้า บ้า บ้า บ้า -----!!! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ !!! ฉันเกลียดนายที่สุดเลย บ้า !!!"



    --------------------------------------------------------------------------------------



    "ลุกขึ้นเถอะ ลาวี"

    ราชันย์ผู้วิเศษ โคมอส เดินลงมาจากที่นั่งเพื่อมาดึงลาวีให้ลุกขึ้น เขาปัดผมสีขาวของเขาเล็กน้อย แล้วพาเธอไปนั่งที่เก้าอี้ของสิบสองนักเวทย์แห่ง High Council

    "แต่ ท่านคะ----"


    "มาท่งท่านอะไรกันเล่า ลาวีที่รัก" โคมอสพูด "ถึงแม้ฉันจะเป็นผู้นำแห่งผองผู้ใช้พลังเวทย์มนตร์ทั้งมวล แต่ฉันก็ยังเป็นแค่ตาแก่หงำเหงือกขี้งอนเหมือนเดิมนั่นแหละ ให้คนหนุ่มสาวมาคุกเข่าให้ ไม่ดีเลย...ไม่ดีเลย... เอ้า ลุกเถอะ"


    ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ราชันย์ผู้วิเศษ โคมอส ซ้าก  ถึงแม้เขาจะเป็นผู้นำและศูนย์รวมทางจิตใจของเหล่านักเวทย์น้อยใหญ่ในดินแดนแห่ง Tulla นี้ เขาก็ไม่ได้ประพฤติตนเหนือกว่าคนทั่วไปเลย ชายแก่อายุเหยียบหกสิบคนนี้พาร่างกายบึกบึนที่ดูเหมือนชาวนามากกว่ามหาจอมเวทย์ไปช่วยชาวบ้านเก็บผลไม้ เดินดูตลาด ดื่มเหล้าตามโรงเตี๊ยมทั่วไปเหมือนทุกคน อีกทั้งยังช่วยเหลือผู้คนทั่วไปโดยไม่เกี่ยงงอนแม้ว่าจะมีงานที่ต้องทำรัดตัวในฐานะผู้นำสมาพันธ์เวทย์ Tulla ก็ตาม ทุกคนในเมืองนี้จึงรักและเคารพชายผู้นี้มากยิ่งกว่าใครๆ


    "ขอบใจมาก ที่อุตส่าห์เร่งรีบมารายงานให้พวกเรารู้ด้วยตัวเองแบบนี้... จริงๆ แล้วแค่ส่งจดหมายติดมากับนกพิราบก็ได้" โคมอสพูดกับลาวีด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน


    "แล้วจะทำอย่างไรต่อล่ะคะ ท่านโคมอส?"

    "ทางเรารู้เรื่องนี้มาก่อนหน้าแล้ว และจะส่งคนไปรับ -- ความลับแห่งเวทย์ตะวันออก—มาเอง… จริงๆ แล้วเขาก็มาแล้วละ แต่บาดเจ็บแย่เลย แย่...แย่..."


    "ท่านโคมอส--- เรื่องที่เราคุยไว้... ผมรู้สึกว่าเธอคนนี้น่าจะทำได้นะครับ จากที่ได้ยินมาเธอเป็นนักเวทย์สาย Supporter ที่เก่งมากคนหนึ่งเลยทีเดียว" จอมเวทย์ระดับสูงคนหนึ่งพูดขึ้น

    "โอ้... จริงด้วยสินะ ลาวี---" โคมอสหันมาถาม "หนูเป็นจอมเวทย์ระดับไหนนะ?"

    "Supporter คลาสสอง ระดับ 9 ค่ะ"

    "โอ้ ดี ดี--- อีกนิดเดียวก็ได้เป็นจอมเวทย์คลาสหนึ่งแล้วสินะ..."


    "อีกไม่นานเราจะมีงานให้หนูช่วยนะจ๊ะ" จอมเวทย์หญิงในชุดสีน้ำเงินพูดขึ้น "สำหรับตอนนี้ ให้หนูไปพักผ่อนซะก่อนนะ แล้วจะพาไปเจอกับคนอื่นๆ ที่จะร่วมงานกับหนู"


    โคมอสเดินออกไปตามเอานักเวทย์ฝึกหัดสองคนเข้ามาด้วยตัวเอง ซึ่งส่งผลให้สองคนนั้นตื่นเต้นมากจนแทบจะเดินสะดุดชายผ้าคลุมตัวเองหกคะมำ พร้อมทั้งละล่ำละลักบอกว่าไม่ต้องมาตามเองก็ได้ ขอเพียงปรบมือเรียกเขาก็เข้ามาแล้ว  สองคนนั้นพาลาวีไปที่ห้องพัก เมื่อเธอเดินผ่านระเบียง ทอดสายตาไปทางทิศตะวันตก เห็นแนวป่าอยู่หลังเทือกเขาอันห่างไกล จิตใจก็พลันนึกถึงหมู่บ้าน Shrouded hills อีกครั้ง เธอเบือนหน้าหนีแล้วรีบเดินตามสองคนนั้นไป


    "โซล..."

    -----------------------------------------------------


    หลังจากพาเดินทางมาเป็นเวลานาน ในที่สุดปาร์โก้ก็พูดขึ้นมาว่า

    "เอาละ ถึงซะที"


    เบื้องหน้าเธอ หลังป่าโปร่งที่ดูไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์นัก เป็นหน้าผาสูงชัน ที่มีเหมืองเจาะเข้าไปในหน้าผาหิน ดูแล้วก็เหมือนเหมืองทั่วไปที่มีการขุดทองตามแนวเทือกเขา Stonewall range และก็ถูกทิ้งร้างเมื่อพบว่าเหมืองไม่ให้ผลผลิตแล้ว แต่ปาร์โก้ปลดกระเป๋าลง แล้วหยิบเอาปืนลูกซอง ไรเฟิลซุ่มยิง ปืนกลเบา กับอีกสารพัดจะปืนขึ้นมาพกไว้ตามตัว อารินและชิกิหันมามองหน้ากัน ก่อนจะตัดสินใจถามให้รู้เรื่อง


    "เอ่อ อาจารย์ครับ จะทำอะไรเหรอครับ?" ชิกิถาม


    "ทำงานน่ะสิ"


    "ง่า... แล้วงานอะไรล่ะครับ? ท่าทางอย่างจะไปก่อสงครามกับใครงั้นแหละ"


    ปาร์โก้ยิ้มแป้น แล้วหันมาบอกกับทั้งสองคนด้วยหน้าตามีความสุขที่สุด

    "ปล้นจ้ะ"

    ------------------------------------------------------------------------------

    TO BE CONTINUED

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×