ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Potential.
Ep04 : Potential.
-----------------------------------------------------------------------------------
ติ๋ง...
ติ๋ง...
ติ๋ง...
ติ๋ง...
ชิกินั่งฟังเสียงหยดน้ำที่ตกลงบนพื้นหินเป็นจังหวะไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีอะไรทำ หลังจากที่เขากินอาหารที่มีมาให้ นอนเล่นบนเสื่อเก่าๆ  หรือลองแงะลูกกรง เขาก็พบว่านั่งฟังเสียงน้ำหยดนี่แก้เบื่อได้ดีที่สุด
\"อ๊ะ... ครบสามร้อยหยดแล้วแฮะ\"
มีเสียงดังมาจากกรงตรงข้าม
\"ทำบ้าอะไรวะ ชิกิ\"
\"นับเสียงน้ำหยด\" เขาบอกไปตามตรง \"แล้วแกล่ะ\"
\"นั่งดูจิ้งหรีด\" อาริฮิโกะตอบกลับมา
\"เฮ่ออ... มันก็ติงต๊องพอกันแหละวะ\"
ติ๋ง...
ติ๋ง...
ติ๋ง...
ติ๋ง...
เวลาผ่านไปเงียบๆ ในโรงนาที่ถูกดัดแปลงให้เป็นคุกชั่วคราว แต่แน่นหนาอย่างเหลือเชื่อ แค่ซี่กรงไม้ไผ่ธรรมดาๆ แต่กลับแข็งแรงเหมือนเหล็กกล้าจนพังไม่ได้ ชิกิสันนิษฐานว่า คงลงเวทย์ไว้แน่ๆ เพราะไม่น่าจะแข็งได้ขนาดนี้
เขาชะโงกออกไปมองนอกหน้าต่างเล็กๆ  ซึ่งเขาได้เห็นภาพทหารในชุดฟอร์มฟ้าจำนวนมาก ถูกลากไปกองรวมๆ กัน เป็นกองสูง ส่วนพวกนักเวทที่เสียชีวิตไปก็นำมาเรียงกันเป็นแถวยาว ให้ญาติๆ มารับศพกลับไป  แต่บางคนก็ไม่มีมารับ เพราะครอบครัวทั้งหมดนอนอยู่ในแถวเหมือนกัน จากตรงนี้เขายังได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ เธอกอดศพสามีที่เลือดชุ่มและร้องไห้ไปด้วย  ชิกิหันหลังกลับลงมานั่งบนพื้นหิน  ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
\"...ก็สงครามนี่นะ\" เขาปลอบใจตัวเองเงียบๆ
ถาดอาหารถูกกระแทกส่งๆ เข้ามาทางใต้ลูกกรง ขนมปังฝรั่งเศสที่อยู่บนถาดเกือบจะตกลงไปกลิ้งบนพื้น ไม่ต้องพูดถึงซุปข้าวโพดที่หกกระจายไปเกินครึ่ง
\"เฮ่ย หนูเอริน เบานิดก็ได้น่า\" ยามรักษาการณ์บอกคนส่ง
\"จริงๆ ไม่ต้องให้พวกมันกินซะได้ก็ดีค่ะ\"
คนที่เอาอาหารมาส่งเป็นหญิงสาวผมน้ำเงินถักเปียยาวคนหนึ่ง ดวงตากลมโตที่อยู่บนใบหน้าขาวใสค้อนควับเข้าใส่ลุง เธอชักมือสวยๆ ที่อยู่ใต้ถุงมือหนังเปลือยนิ้วกลับออกมาจากลูกกรงเหมือนจะติดเชื้อเทคโนโลยีถ้าสัมผัสนานๆ กระโปรงสีน้ำตาลยาวเข้าชุดกับเสื้อสีเดียวกันสะบัดเบาๆ เมื่อเธอลุกขึ้นส่งถาดอาหารด้วยวิธีเดียวกันเข้าไปให้อาริฮิโกะและคนอื่นๆ  คุณเลขาฯ พลวิทยุรู้สึกจะโชคร้ายที่สุด เพราะชามใส่ซุบดันตีลังกากลับหัวตอนส่ง เลยต้องกินขนมปังเปล่าๆ ที่แข็งอย่างกับจะเอามาทำกระบองกังฟูได้
\"ฮ่ะฮ่ะ... ยังไงพวกนี้ก็เป็นตัวประกันสำคัญที่เราจะเอาไปแลกกับนักเวทย์ที่จักรวรรดิ์จับไปนี่นะเอริน  ดูแลดีๆ ก็ไม่เสียหายหรอกน่า\" ลุงยามพูดขำๆ
ตอนนี้อย่างน้อยชิกิก็รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย ที่ทางจักรวรรดิ์ยอมเปิดโต๊ะเจรจาแลกเปลี่ยนกับทางสหพันธ์เวทย์ Tulla เพื่อเอาตัวเขากลับ
\"ขอบใจนะครับ ลุง...\"
\"เงียบไป ไอ้พวกจักรวรรดิ์ !!\"
เสียงตวาดหนักๆของลุงทำเอาชิกิถอยกรูดไปติดกำแพง
\"ฉันไม่ได้รู้สึกดีกับพวกแกแม้ซักปลายนิ้วก้อย !!  ดูซิ ว่าไอ้พวกงี่เง่าที่แกพามาน่ะมันทำอะไรกับหมู่บ้านอันสงบสุขของเราไว้บ้าง !!!  ตอนนี้แม้แต่พวกเด็กๆ ยังต้องมาทำพิธี --\' บัค \'-- เวทย์กันแล้ว !!!\"
เอรินที่นิ่งฟังมานานเดินออกไปทางประตู
\"ลุงคะ... หนูขอตัวก่อน\"
ชิกิพยายามจะเรียก
\"เอ่อ คุณครับ... แล้ว...\"
ผัวะ !!!
หมัดลุ่นๆ ยิงข้ามลูกกรงเข้ากลางจมูกของชิกิพอดี เขาลงไปนอนคลุกฝุ่น เลือดไหลเป็นทางยาวออกมาจากรูจมูก เอรินมองดูชิกิผู้น่าสมเพชด้วยสายตาเคียดแค้น ก่อนจะหันหลังกลับไป
\"แค่นี้คงไม่เป็นไรนะคะ ลุง\"
ลุงยักไหล่ แล้วส่งสายตาเย็นชาข้ามลูกกรงไปหาเหยื่อกำปั้น  \"เมื่อกี้ลุงไม่เห็นอะไรเลย พอดีขยี้ตาอยู่\"
เอรินจ้ำพรวดๆ ออกประตูโรงนาไป ประตูปิดตามหลังดังปัง ทำเอาเศษขี้ฝุ่นร่วงกราวลงมาจากหลังคาขนานใหญ่  ชิกิเพิ่งเริ่มชันกายลุกขึ้นได้หลังจากที่มึนติ้วมาสักพัก เขารวบรวมความกล้า ถามถึงสิ่งที่ข้องใจ
\"ลุงครับ... อะไรคือ --\' บัค \'-- เหรอ ? \"
\"นี่\"  ลุงหันเก้าอี้เข้าหาชิกิที่อีกฝั่งของกรง  \"แกจะมาจัดการกับพวกเรานักเวทย์ โดยที่ไม่รู้อะไรเลยสักนิดเดียวเกี่ยวกับนักเวทย์เนี่ยนะ ?? เฮ่อะ... น่าขำสิ้นดี\"
ลุงยกขวดเหล้ารัมมาจิบนิดๆ  \" สมควรแล้วที่พวกแกแพ้ \"
\"แล้วอะไรคือการบัค เวทย์เหรอครับ? \"  ชิกิยังไม่ลดละความพยายาม เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจเหมือนพยายามจะให้เขารู้ให้ได้ แต่ตัวเขาเองก็อยากรู้จริงๆ นั่นแหละ
\"ดูที่นอกหน้าต่างสิ  แล้วแกจะรู้เอง\"
ชายหนุ่มหยีตามองฝ่าแสงแดดจ้าเพราะปรับสายตาไม่ทัน  แต่สักพักเขาก็เห็นเด็กๆ จำนวนมาก กำลังเข้าแถวให้พวกผู้ใหญ่ทำพิธีอะไรบางอย่างให้  เมื่อเด็กๆ เดินเข้าไปอยู่ในวงกลมไสยเวทย์แล้ว ก็มีแสงล้อมรอบตัวเด็กนั้น  แต่ทั้งๆ ที่เป็นวงกลมเดียวกันแท้ๆ แต่สีสันของแสงที่ห่อหุ้มกายก็ยังต่างกัน  กระบวนการนี้ใช้เวลาสักพัก  เมื่อแสงจ้าดับลง เด็กๆ พวกนั้นก็ไปด้านหลังเพื่อซักซ้อมการใช้เวทย์ที่สามารถใช้ได้เดี๋ยวนั้นเลย ชิกิถึงกับอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
\"หรือว่า การบัค เวทย์ คือการทำพิธีปลุกพลังเวทย์??\"
\"มหัศจรรย์ใช่มั้ยล่ะ\"  ลุงตอบอย่างภูมิใจ  \"มันคือการทำพิธีรับอำนาจเวทย์มนตร์จากธรรมชาติเข้าสู่กายจิตต่างหาก เหมือนกับการขออนุญาตจิตวิญญาณแห่งเวทย์เพื่อยืมพลังมาใช้นั่นแหละ\"
\"แล้วทำไมเด็กๆ พวกนั้น ถึงได้แสงต่างกันเหรอครับ ?\" ชิกิถามต่อ
\"อ้อ เด็กพวกนี้มีความสามารถในสายเวทย์ที่ต่างกัน การบัค เวทย์จึงได้เวทย์ที่ต่างกันไปด้วยไง  โดยปรกติก็ได้เวทย์ตามที่คนเขียนวงไสยเวทย์มีน่ะแหละนะ แต่บางครั้งก็มีการบัคที่ไม่ได้เวทย์เหมือนกัน เพราะคนให้กับคนรับอยู่ในสายที่ขัดกันด้วย\"
ชิกิฟังแล้วก็เห็นด้วยเหมือนกัน เพราะเด็กบางคนที่มีสีต่างจากเพื่อนๆ ก็ต้องไปรับเวทย์ที่วงใหม่  แต่ละคนที่ได้บัคแล้วก็จะมีสัญลักษณ์เป็นจี้ห้อยคอรูปร่างต่างๆ เพื่อจำแนกสายเวทย์ให้ชัดเจน
\"แล้วสายเวทย์นี่มีอะไรบ้างเหรอครับ?\"
\"ก็มีเวทย์สายเอเลเมนท์ แล้วก็... เฮ้ย !!!\" ลุงเพิ่งรู้ตัว  \"ทำไมฉันต้องมาโม้ให้แกฟังเป็นควุ้งเป็นแควด้วยวะ?! อยู่เงียบๆ โง่ๆ ไปแหละ ดีแล้ว !! ถึงยังไงพวกแกรู้ไปก็บัคไม่ได้\"
\"ทำไมถึงบัคไม่ได้ล่ะครับ !?\" ชิกิลุกพรวด
ลุงหันหลังกลับไปช้าๆ และปล่อยเวลาให้หมดไปกับเหล้ารัม
\"จิตใจของพวกแกชาวเทคโนโลยีน่ะ สกปรกเกินไป...\"
----------------------------------------------------------------------------------------------
ปึง !!!
\"ผมไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ !!!\"
มากิฮิสะ โทโนะ พ่อของชิกิ โทโนะ  ตบโต๊ะโครม  ทั้งห้องประชุมเงียบกริบ  ประธานในที่ประชุมกล่าวต่อ โดยไม่สนใจต่อการรบกวน
\"... เอาเป็นว่าตกลงตามนั้นนะ ทุกท่าน  ขอให้นายพล โคห์เลอร์ อิมเมลแมนน์ เป็นผู้จัดการเรื่องการเจรจาที่จะมาถึงในวันพรุ่งนี้... เอาละ เลิกประชุมได้\"
\"ครับผม\" นายพลลุกขึ้นทำความเคารพประธาน เตรียมตัวเก็บเอกสารออกจากห้องประชุม แต่มากิฮิสะยังพูดต่อ
\"ผมยอมไม่ได้ที่เราด่วนตัดสินใจโดยไม่ทดลองหาทางประนีประนอมก่อนนะครับ ท่านประธาน !! อย่างนี้ก็เท่ากับเราปิดทางออกอย่างสันติกับสหพันธ์เวทย์ทุลล่าแล้วนะครับ !!! \"
\"ถ้าทางทุลล่าไม่ประนีประนอมให้เราก่อน เราก็ไม่ควรที่จะยอมทางฝั่งนั้น นี่คือศักดิ์ศรีของพวกเราชาว Unified Kingdom\" ผู้แทนจากคาลาดอนพูดขึ้น
\"เรื่องศักดิ์ศรีนั่นมันเทียบกับชีวิตคนได้เหรอ !!! นายทหารและเจ้าหน้าที่ของเราหลายคนตกเป็นตัวประกันของทางฝั่งนั้นนะครับ !!!\"
\"หรือว่าคุณจะยอมรับผิดชอบกับการที่เราต้องเสียจอมเวทย์ระดับสูงคืนไปให้พวกมันเสริมความแข็งแกร่งของกองทัพพวกมันอีก ? พลเอกมากิฮิสะ?\" ตัวแทนจากเมืองท่า Ashbury พูดบ้าง
มากิฮิสะพยายามแย้งต่อ  \"ผมจะ...!!\"
\"สภาไม่รับข้อคิดเห็นเพิ่มเติมแล้ว- - -  \' แผน \' ได้ถูกกำหนดไปแล้ว... ยอมรับเสียเถอะ นายพล  ว่าลูกชายของคุณน่ะ ไร้ความสามารถ ถึงทำให้แผนนี้ผ่านที่ประชุมมาได้\"
นายพลมากิฮิสะเพียงคนเดียว ไม่สามารถจะต่อสู้กับสภาทั้งสภาได้  เขากำหมัดแน่น แล้วหันหลังให้ท่านประธาน เดินออกจากห้องประชุมไป ทิ้งไว้เพียงเสียงรองเท้าบู๊ทดังก้องไปตามทางเดินหินอ่อนของสภากลางจนเลือนไป
\' เจ้านี่อาจจะเป็นตัวปัญหานะ โคห์เลอร์ \'  ประธานสภาพูดเบาๆ พอให้ได้ยินกันลองคน
\"ครับ... ผมรู้\"
โคห์เลอร์เอานิ้วมาคลึงหนวดเล่น พลางครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่างที่คนอื่นก็ไม่สามารถจะเดาออกได้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เอรินออกมายืนรับลมที่เนินใกล้ๆ โรงนา  เธอนั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ท่ามกลางฝูงแกะ พลางมองท้องฟ้ายามค่ำคืน  ดวงดาวที่เป็นดาวประจำตัวของเทพลุฟต์ (Luft) ที่เป็นเทพแห่งลม ส่องสว่างเป็นแสงสีฟ้าอ่อนๆ  วันนี้แสงดูเจิดจ้ากว่าทุกวัน  สาวน้อยหวนนึกไปถึงเมื่อเย็นที่โบสถ์ เฮ็นริเอตต้าที่ทำนายอะไรก็แม่นไปหมด ทดลองทำนายด้วยไพ่ถึงสิ่งที่จะเกิดกับเธอในอนาคต ภาพไพ่สามใบในมือของเพื่อนยังติดตรึงอยู่ในหัว
\"คู่รัก (The couple) , ลม (The breeze)  กับชะตากรรม (The destiny) งั้นเหรอ...\"
เอรินนอนราบลงไปบนพื้นหญ้า  ลูกแกะตัวหนึ่งเดินเข้ามาหา เธอยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วอุ้มมันขึ้นมากอด นึกถึงสิ่งที่จะเกิดจากความหมายในไพ่สามใบ
\"เอ... หรือว่า เราจะมีแฟนเป็นชายหนุ่มที่ลอยมากับสายลม แล้วพูดว่าเป็นชะตากรรมของเราที่ได้มาพบกัน อะไรอย่างนี้น้า~~~ คิกคิก \"
เมื่อนึกถึงลม เอรินก็นึกอะไรออกอีกอย่าง...
มันคือเพลงที่แม่เคยร้องให้ฟัง เมื่อสมัยก่อน ตอนที่เธอยังเป็นเด็กน้อย...
ตอนที่แม่... ยังมีชีวิตอยู่...
โอ- - - ข้าแต่ทวยเทพเทวา
    ขอเทพธิดา จงปกปักเจ้า
        ให้เทพ Selune เอา - - -
        ... จันทร์มาให้ลูกกอด
            ให้ธิดาลุฟต์แห่งลม
            ... โบกไฟอย่าให้มอด
                ให้ลูกอบอุ่นตลอด เหมือนทุ่งหญ้าแห่งอิธากา - - -
เธอนึกท่อนต่อไปไม่ออก  ความทรงจำสมัยเด็กนั้นเธอจำอะไรไม่ค่อยได้ซักเท่าไหร่ แต่เธอก็ยังจำอ้อมกอดของแม่ที่โอบอุ้มเธอไว้ในฤดูหนาวที่หมู่บ้านแห่งนี้ ที่เธอเติบโตมา ได้เป็นอย่างดี
ลมเริ่มพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ เอรินกระชับเสื้อโค้ทให้มั่นกับตัวเพื่อกันหนาว
\"แล้วทำไมฉันต้องออกมานั่งดูแกะด้วยนะ?  กลับดีกว่าเรา...\"
ลมพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างผิดปรกติ  ใบไม้ปลิวหลุดออกจากต้น กิ่งของต้นโอ๊คสั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง รับกับลูกโอ๊คแข็งๆ ที่พากันหลุดออกจากขั้ว ลมยังพัดแรงขึ้นทุกที  ฝูงแกะที่ตื่นกลัววิ่งอ้าวกลับเข้าไปทางหมู่บ้าน ทิ้งเอรินให้ยืนโดดเดี่ยวอยู่กลางทุ่งหญ้าที่โบกสะบัดไปตามแรงลมประหนึ่งผ้าที่ตากไว้ที่ราวในวันพายุเข้า  เอรินไม่มีทางเลือก เธอมุ่งหน้าเข้าหาโรงนาที่เป็นที่คุมขังคนของจักรวรรดิ์  \' โรงนาสร้างมาอย่างแข็งแรง คงพอเป็นที่หลบภัยได้ \' เธอคิด
แต่ลมทั้งหมดดูเหมือนจะพุ่งเข้าหาโรงนาที่ว่า  ตอนนี้ในโรงนากลายเป็นที่ๆ อันตรายกว่าด้านนอกเสียแล้ว  เอรินตั้งท่าจะหนีกลับ แต่เธอยังทันนึกถึง...
\"คุณลุง... คุณลุงอยู่ในนั้น !!!\"
เอรินค่อยๆ ก้าวเดินไปช้าๆ ไม่ให้กระแสลมที่กรรโชกคลั่งกระชากเธอจนล้ม ก้าวเล็กๆ ของเธอค่อยๆ พาตัวไปใกล้ประตูมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทันใดนั้น...
ซูมมมม- - - - -  !!!
พลังลมที่อยู่ๆก็รุนแรงขึ้นมาวูบเดียว ดูดเอรินเข้ามาพร้อมประตูที่หักสะบั้น เอรินลอยหวือไปชนกับกองฟาง เธอลงจอดอย่างนุ่มๆ พร้อมๆ กับที่ลมที่พัดอู้มาตลอดก็หยุดลงเหมือนปิดสวิตช์  สาวน้อยตะกายตัวออกมาได้จากกองฟางก็มองหาคนที่จะช่วย
\"คุณลุงค๊าา- - - - - - อะ...\"
เอรินยืนค้าง เพราะตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
\"อะไร... กันนี่... ??\"
ทั้งโรงนามีสภาพเหมือนถูกกองทัพย่อยๆ ถล่มเอา  ลูกกรงถูกตัดเป็นท่อน ทั้งคานทั้งคราดคันไถ เกวียนและระหัดวิดน้ำ สิ่งของสารพัดสารเพที่อยู่ในห้องมีร่องรอยเหมือนโดนดาบญี่ปุ่นคมๆ ฟันเอาทั้งสิ้น  เอรินรีบวิ่งไปประคองคุณลุงที่นอนสลบเหมือดอยู่บนพื้น ดูเหมือนคุณลุงจะไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าหัวโนที่เกิดจากท่อนไม้ที่มากับลม  อาริฮิโกะ คุณเลขาฯพลวิทยุ และคนอื่นที่โดนจับเอาไว้ก็ค่อยๆ โงหัวขึ้นมาจากท่าหมอบ  จากร่องรอยรอบๆ เธอพอจะสรุปได้ว่า ถ้าลุงไม่ได้โดนท่อนไม้ลงไปนอนสลบบนพื้น ป่านนี้ลุงคงได้กลายเป็นหมูสับแน่ๆ
ที่ปลายโรงนา  ใจกลางแห่งความวินาศสันตะโรนั้น.. ชิกินอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่
\"เฮ้ย นาย นาย นายๆ นาย !!!\" เอรินวิ่งเข้าไปเขย่าคอเสื้อของชิกิ \"นายทำอะไรของนายน่ะ บอกมานะ  !!\"
ชิกิค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างเหนื่อยล้า แต่ยังตอบได้ชัดเจนดี
\"เอ่อ... ผม... ได้ยินเพลงอะไรก็ไม่รู้ ... แล้ว... ผมก็...\" ชิกิตอบไม่เป็นประโยค  \"...หลังจากนั้น... แล้วก็มีลม... มัน... สบาย... สบายมากๆ เลยครับ...\"
กลุ่มชาวบ้านวิ่งตึงตังเข้ามาหา และต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
\"เอรินจัง เป็นอะไรมั้ย !?!?\" เฮ็นริเอตต้าโผเข้ากอดสาวน้อย
\"อะ... เอ่อ... ก็สบายดีอยู่จ้ะ\"
\"ใครเป็นคนทำอย่างนี้กันเนี่ย !!! หรือว่าเป็นหน่วยรบพิเศษของพวกมัน !!!\" ชาวบ้านคนหนึ่งพูด
\"หนู... หนูไม่รู้...\" เธอตอบตามตรง
\"ยังไงก็แล้วแต่ เราต้องคุมตัวพวกนี้ไว้ก่อน เร็ว\"
ชิกิที่ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องรู้ราวอะไร มองกวาดไปรอบๆ ด้วยสติอันเลือนราง
อาริฮิโกะกับคนอื่นๆ โดนหิ้วปีกออกไป....
เพลงที่คุ้นเคย...
และอ้อมแขนของหญิงสาวที่แสนจะอบอุ่น.....
แล้วเขาก็หลับตาลง ปล่อยให้จิตใจลอยเข้าสู่นิทรา
---------------------------------------------------------------------
TO BE CONTINUED
-----------------------------------------------------------------------------------
ติ๋ง...
ติ๋ง...
ติ๋ง...
ติ๋ง...
ชิกินั่งฟังเสียงหยดน้ำที่ตกลงบนพื้นหินเป็นจังหวะไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีอะไรทำ หลังจากที่เขากินอาหารที่มีมาให้ นอนเล่นบนเสื่อเก่าๆ  หรือลองแงะลูกกรง เขาก็พบว่านั่งฟังเสียงน้ำหยดนี่แก้เบื่อได้ดีที่สุด
\"อ๊ะ... ครบสามร้อยหยดแล้วแฮะ\"
มีเสียงดังมาจากกรงตรงข้าม
\"ทำบ้าอะไรวะ ชิกิ\"
\"นับเสียงน้ำหยด\" เขาบอกไปตามตรง \"แล้วแกล่ะ\"
\"นั่งดูจิ้งหรีด\" อาริฮิโกะตอบกลับมา
\"เฮ่ออ... มันก็ติงต๊องพอกันแหละวะ\"
ติ๋ง...
ติ๋ง...
ติ๋ง...
ติ๋ง...
เวลาผ่านไปเงียบๆ ในโรงนาที่ถูกดัดแปลงให้เป็นคุกชั่วคราว แต่แน่นหนาอย่างเหลือเชื่อ แค่ซี่กรงไม้ไผ่ธรรมดาๆ แต่กลับแข็งแรงเหมือนเหล็กกล้าจนพังไม่ได้ ชิกิสันนิษฐานว่า คงลงเวทย์ไว้แน่ๆ เพราะไม่น่าจะแข็งได้ขนาดนี้
เขาชะโงกออกไปมองนอกหน้าต่างเล็กๆ  ซึ่งเขาได้เห็นภาพทหารในชุดฟอร์มฟ้าจำนวนมาก ถูกลากไปกองรวมๆ กัน เป็นกองสูง ส่วนพวกนักเวทที่เสียชีวิตไปก็นำมาเรียงกันเป็นแถวยาว ให้ญาติๆ มารับศพกลับไป  แต่บางคนก็ไม่มีมารับ เพราะครอบครัวทั้งหมดนอนอยู่ในแถวเหมือนกัน จากตรงนี้เขายังได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ เธอกอดศพสามีที่เลือดชุ่มและร้องไห้ไปด้วย  ชิกิหันหลังกลับลงมานั่งบนพื้นหิน  ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
\"...ก็สงครามนี่นะ\" เขาปลอบใจตัวเองเงียบๆ
ถาดอาหารถูกกระแทกส่งๆ เข้ามาทางใต้ลูกกรง ขนมปังฝรั่งเศสที่อยู่บนถาดเกือบจะตกลงไปกลิ้งบนพื้น ไม่ต้องพูดถึงซุปข้าวโพดที่หกกระจายไปเกินครึ่ง
\"เฮ่ย หนูเอริน เบานิดก็ได้น่า\" ยามรักษาการณ์บอกคนส่ง
\"จริงๆ ไม่ต้องให้พวกมันกินซะได้ก็ดีค่ะ\"
คนที่เอาอาหารมาส่งเป็นหญิงสาวผมน้ำเงินถักเปียยาวคนหนึ่ง ดวงตากลมโตที่อยู่บนใบหน้าขาวใสค้อนควับเข้าใส่ลุง เธอชักมือสวยๆ ที่อยู่ใต้ถุงมือหนังเปลือยนิ้วกลับออกมาจากลูกกรงเหมือนจะติดเชื้อเทคโนโลยีถ้าสัมผัสนานๆ กระโปรงสีน้ำตาลยาวเข้าชุดกับเสื้อสีเดียวกันสะบัดเบาๆ เมื่อเธอลุกขึ้นส่งถาดอาหารด้วยวิธีเดียวกันเข้าไปให้อาริฮิโกะและคนอื่นๆ  คุณเลขาฯ พลวิทยุรู้สึกจะโชคร้ายที่สุด เพราะชามใส่ซุบดันตีลังกากลับหัวตอนส่ง เลยต้องกินขนมปังเปล่าๆ ที่แข็งอย่างกับจะเอามาทำกระบองกังฟูได้
\"ฮ่ะฮ่ะ... ยังไงพวกนี้ก็เป็นตัวประกันสำคัญที่เราจะเอาไปแลกกับนักเวทย์ที่จักรวรรดิ์จับไปนี่นะเอริน  ดูแลดีๆ ก็ไม่เสียหายหรอกน่า\" ลุงยามพูดขำๆ
ตอนนี้อย่างน้อยชิกิก็รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย ที่ทางจักรวรรดิ์ยอมเปิดโต๊ะเจรจาแลกเปลี่ยนกับทางสหพันธ์เวทย์ Tulla เพื่อเอาตัวเขากลับ
\"ขอบใจนะครับ ลุง...\"
\"เงียบไป ไอ้พวกจักรวรรดิ์ !!\"
เสียงตวาดหนักๆของลุงทำเอาชิกิถอยกรูดไปติดกำแพง
\"ฉันไม่ได้รู้สึกดีกับพวกแกแม้ซักปลายนิ้วก้อย !!  ดูซิ ว่าไอ้พวกงี่เง่าที่แกพามาน่ะมันทำอะไรกับหมู่บ้านอันสงบสุขของเราไว้บ้าง !!!  ตอนนี้แม้แต่พวกเด็กๆ ยังต้องมาทำพิธี --\' บัค \'-- เวทย์กันแล้ว !!!\"
เอรินที่นิ่งฟังมานานเดินออกไปทางประตู
\"ลุงคะ... หนูขอตัวก่อน\"
ชิกิพยายามจะเรียก
\"เอ่อ คุณครับ... แล้ว...\"
ผัวะ !!!
หมัดลุ่นๆ ยิงข้ามลูกกรงเข้ากลางจมูกของชิกิพอดี เขาลงไปนอนคลุกฝุ่น เลือดไหลเป็นทางยาวออกมาจากรูจมูก เอรินมองดูชิกิผู้น่าสมเพชด้วยสายตาเคียดแค้น ก่อนจะหันหลังกลับไป
\"แค่นี้คงไม่เป็นไรนะคะ ลุง\"
ลุงยักไหล่ แล้วส่งสายตาเย็นชาข้ามลูกกรงไปหาเหยื่อกำปั้น  \"เมื่อกี้ลุงไม่เห็นอะไรเลย พอดีขยี้ตาอยู่\"
เอรินจ้ำพรวดๆ ออกประตูโรงนาไป ประตูปิดตามหลังดังปัง ทำเอาเศษขี้ฝุ่นร่วงกราวลงมาจากหลังคาขนานใหญ่  ชิกิเพิ่งเริ่มชันกายลุกขึ้นได้หลังจากที่มึนติ้วมาสักพัก เขารวบรวมความกล้า ถามถึงสิ่งที่ข้องใจ
\"ลุงครับ... อะไรคือ --\' บัค \'-- เหรอ ? \"
\"นี่\"  ลุงหันเก้าอี้เข้าหาชิกิที่อีกฝั่งของกรง  \"แกจะมาจัดการกับพวกเรานักเวทย์ โดยที่ไม่รู้อะไรเลยสักนิดเดียวเกี่ยวกับนักเวทย์เนี่ยนะ ?? เฮ่อะ... น่าขำสิ้นดี\"
ลุงยกขวดเหล้ารัมมาจิบนิดๆ  \" สมควรแล้วที่พวกแกแพ้ \"
\"แล้วอะไรคือการบัค เวทย์เหรอครับ? \"  ชิกิยังไม่ลดละความพยายาม เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจเหมือนพยายามจะให้เขารู้ให้ได้ แต่ตัวเขาเองก็อยากรู้จริงๆ นั่นแหละ
\"ดูที่นอกหน้าต่างสิ  แล้วแกจะรู้เอง\"
ชายหนุ่มหยีตามองฝ่าแสงแดดจ้าเพราะปรับสายตาไม่ทัน  แต่สักพักเขาก็เห็นเด็กๆ จำนวนมาก กำลังเข้าแถวให้พวกผู้ใหญ่ทำพิธีอะไรบางอย่างให้  เมื่อเด็กๆ เดินเข้าไปอยู่ในวงกลมไสยเวทย์แล้ว ก็มีแสงล้อมรอบตัวเด็กนั้น  แต่ทั้งๆ ที่เป็นวงกลมเดียวกันแท้ๆ แต่สีสันของแสงที่ห่อหุ้มกายก็ยังต่างกัน  กระบวนการนี้ใช้เวลาสักพัก  เมื่อแสงจ้าดับลง เด็กๆ พวกนั้นก็ไปด้านหลังเพื่อซักซ้อมการใช้เวทย์ที่สามารถใช้ได้เดี๋ยวนั้นเลย ชิกิถึงกับอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
\"หรือว่า การบัค เวทย์ คือการทำพิธีปลุกพลังเวทย์??\"
\"มหัศจรรย์ใช่มั้ยล่ะ\"  ลุงตอบอย่างภูมิใจ  \"มันคือการทำพิธีรับอำนาจเวทย์มนตร์จากธรรมชาติเข้าสู่กายจิตต่างหาก เหมือนกับการขออนุญาตจิตวิญญาณแห่งเวทย์เพื่อยืมพลังมาใช้นั่นแหละ\"
\"แล้วทำไมเด็กๆ พวกนั้น ถึงได้แสงต่างกันเหรอครับ ?\" ชิกิถามต่อ
\"อ้อ เด็กพวกนี้มีความสามารถในสายเวทย์ที่ต่างกัน การบัค เวทย์จึงได้เวทย์ที่ต่างกันไปด้วยไง  โดยปรกติก็ได้เวทย์ตามที่คนเขียนวงไสยเวทย์มีน่ะแหละนะ แต่บางครั้งก็มีการบัคที่ไม่ได้เวทย์เหมือนกัน เพราะคนให้กับคนรับอยู่ในสายที่ขัดกันด้วย\"
ชิกิฟังแล้วก็เห็นด้วยเหมือนกัน เพราะเด็กบางคนที่มีสีต่างจากเพื่อนๆ ก็ต้องไปรับเวทย์ที่วงใหม่  แต่ละคนที่ได้บัคแล้วก็จะมีสัญลักษณ์เป็นจี้ห้อยคอรูปร่างต่างๆ เพื่อจำแนกสายเวทย์ให้ชัดเจน
\"แล้วสายเวทย์นี่มีอะไรบ้างเหรอครับ?\"
\"ก็มีเวทย์สายเอเลเมนท์ แล้วก็... เฮ้ย !!!\" ลุงเพิ่งรู้ตัว  \"ทำไมฉันต้องมาโม้ให้แกฟังเป็นควุ้งเป็นแควด้วยวะ?! อยู่เงียบๆ โง่ๆ ไปแหละ ดีแล้ว !! ถึงยังไงพวกแกรู้ไปก็บัคไม่ได้\"
\"ทำไมถึงบัคไม่ได้ล่ะครับ !?\" ชิกิลุกพรวด
ลุงหันหลังกลับไปช้าๆ และปล่อยเวลาให้หมดไปกับเหล้ารัม
\"จิตใจของพวกแกชาวเทคโนโลยีน่ะ สกปรกเกินไป...\"
----------------------------------------------------------------------------------------------
ปึง !!!
\"ผมไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ !!!\"
มากิฮิสะ โทโนะ พ่อของชิกิ โทโนะ  ตบโต๊ะโครม  ทั้งห้องประชุมเงียบกริบ  ประธานในที่ประชุมกล่าวต่อ โดยไม่สนใจต่อการรบกวน
\"... เอาเป็นว่าตกลงตามนั้นนะ ทุกท่าน  ขอให้นายพล โคห์เลอร์ อิมเมลแมนน์ เป็นผู้จัดการเรื่องการเจรจาที่จะมาถึงในวันพรุ่งนี้... เอาละ เลิกประชุมได้\"
\"ครับผม\" นายพลลุกขึ้นทำความเคารพประธาน เตรียมตัวเก็บเอกสารออกจากห้องประชุม แต่มากิฮิสะยังพูดต่อ
\"ผมยอมไม่ได้ที่เราด่วนตัดสินใจโดยไม่ทดลองหาทางประนีประนอมก่อนนะครับ ท่านประธาน !! อย่างนี้ก็เท่ากับเราปิดทางออกอย่างสันติกับสหพันธ์เวทย์ทุลล่าแล้วนะครับ !!! \"
\"ถ้าทางทุลล่าไม่ประนีประนอมให้เราก่อน เราก็ไม่ควรที่จะยอมทางฝั่งนั้น นี่คือศักดิ์ศรีของพวกเราชาว Unified Kingdom\" ผู้แทนจากคาลาดอนพูดขึ้น
\"เรื่องศักดิ์ศรีนั่นมันเทียบกับชีวิตคนได้เหรอ !!! นายทหารและเจ้าหน้าที่ของเราหลายคนตกเป็นตัวประกันของทางฝั่งนั้นนะครับ !!!\"
\"หรือว่าคุณจะยอมรับผิดชอบกับการที่เราต้องเสียจอมเวทย์ระดับสูงคืนไปให้พวกมันเสริมความแข็งแกร่งของกองทัพพวกมันอีก ? พลเอกมากิฮิสะ?\" ตัวแทนจากเมืองท่า Ashbury พูดบ้าง
มากิฮิสะพยายามแย้งต่อ  \"ผมจะ...!!\"
\"สภาไม่รับข้อคิดเห็นเพิ่มเติมแล้ว- - -  \' แผน \' ได้ถูกกำหนดไปแล้ว... ยอมรับเสียเถอะ นายพล  ว่าลูกชายของคุณน่ะ ไร้ความสามารถ ถึงทำให้แผนนี้ผ่านที่ประชุมมาได้\"
นายพลมากิฮิสะเพียงคนเดียว ไม่สามารถจะต่อสู้กับสภาทั้งสภาได้  เขากำหมัดแน่น แล้วหันหลังให้ท่านประธาน เดินออกจากห้องประชุมไป ทิ้งไว้เพียงเสียงรองเท้าบู๊ทดังก้องไปตามทางเดินหินอ่อนของสภากลางจนเลือนไป
\' เจ้านี่อาจจะเป็นตัวปัญหานะ โคห์เลอร์ \'  ประธานสภาพูดเบาๆ พอให้ได้ยินกันลองคน
\"ครับ... ผมรู้\"
โคห์เลอร์เอานิ้วมาคลึงหนวดเล่น พลางครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่างที่คนอื่นก็ไม่สามารถจะเดาออกได้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เอรินออกมายืนรับลมที่เนินใกล้ๆ โรงนา  เธอนั่งจิบโกโก้อุ่นๆ ท่ามกลางฝูงแกะ พลางมองท้องฟ้ายามค่ำคืน  ดวงดาวที่เป็นดาวประจำตัวของเทพลุฟต์ (Luft) ที่เป็นเทพแห่งลม ส่องสว่างเป็นแสงสีฟ้าอ่อนๆ  วันนี้แสงดูเจิดจ้ากว่าทุกวัน  สาวน้อยหวนนึกไปถึงเมื่อเย็นที่โบสถ์ เฮ็นริเอตต้าที่ทำนายอะไรก็แม่นไปหมด ทดลองทำนายด้วยไพ่ถึงสิ่งที่จะเกิดกับเธอในอนาคต ภาพไพ่สามใบในมือของเพื่อนยังติดตรึงอยู่ในหัว
\"คู่รัก (The couple) , ลม (The breeze)  กับชะตากรรม (The destiny) งั้นเหรอ...\"
เอรินนอนราบลงไปบนพื้นหญ้า  ลูกแกะตัวหนึ่งเดินเข้ามาหา เธอยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วอุ้มมันขึ้นมากอด นึกถึงสิ่งที่จะเกิดจากความหมายในไพ่สามใบ
\"เอ... หรือว่า เราจะมีแฟนเป็นชายหนุ่มที่ลอยมากับสายลม แล้วพูดว่าเป็นชะตากรรมของเราที่ได้มาพบกัน อะไรอย่างนี้น้า~~~ คิกคิก \"
เมื่อนึกถึงลม เอรินก็นึกอะไรออกอีกอย่าง...
มันคือเพลงที่แม่เคยร้องให้ฟัง เมื่อสมัยก่อน ตอนที่เธอยังเป็นเด็กน้อย...
ตอนที่แม่... ยังมีชีวิตอยู่...
โอ- - - ข้าแต่ทวยเทพเทวา
    ขอเทพธิดา จงปกปักเจ้า
        ให้เทพ Selune เอา - - -
        ... จันทร์มาให้ลูกกอด
            ให้ธิดาลุฟต์แห่งลม
            ... โบกไฟอย่าให้มอด
                ให้ลูกอบอุ่นตลอด เหมือนทุ่งหญ้าแห่งอิธากา - - -
เธอนึกท่อนต่อไปไม่ออก  ความทรงจำสมัยเด็กนั้นเธอจำอะไรไม่ค่อยได้ซักเท่าไหร่ แต่เธอก็ยังจำอ้อมกอดของแม่ที่โอบอุ้มเธอไว้ในฤดูหนาวที่หมู่บ้านแห่งนี้ ที่เธอเติบโตมา ได้เป็นอย่างดี
ลมเริ่มพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ เอรินกระชับเสื้อโค้ทให้มั่นกับตัวเพื่อกันหนาว
\"แล้วทำไมฉันต้องออกมานั่งดูแกะด้วยนะ?  กลับดีกว่าเรา...\"
ลมพัดแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างผิดปรกติ  ใบไม้ปลิวหลุดออกจากต้น กิ่งของต้นโอ๊คสั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง รับกับลูกโอ๊คแข็งๆ ที่พากันหลุดออกจากขั้ว ลมยังพัดแรงขึ้นทุกที  ฝูงแกะที่ตื่นกลัววิ่งอ้าวกลับเข้าไปทางหมู่บ้าน ทิ้งเอรินให้ยืนโดดเดี่ยวอยู่กลางทุ่งหญ้าที่โบกสะบัดไปตามแรงลมประหนึ่งผ้าที่ตากไว้ที่ราวในวันพายุเข้า  เอรินไม่มีทางเลือก เธอมุ่งหน้าเข้าหาโรงนาที่เป็นที่คุมขังคนของจักรวรรดิ์  \' โรงนาสร้างมาอย่างแข็งแรง คงพอเป็นที่หลบภัยได้ \' เธอคิด
แต่ลมทั้งหมดดูเหมือนจะพุ่งเข้าหาโรงนาที่ว่า  ตอนนี้ในโรงนากลายเป็นที่ๆ อันตรายกว่าด้านนอกเสียแล้ว  เอรินตั้งท่าจะหนีกลับ แต่เธอยังทันนึกถึง...
\"คุณลุง... คุณลุงอยู่ในนั้น !!!\"
เอรินค่อยๆ ก้าวเดินไปช้าๆ ไม่ให้กระแสลมที่กรรโชกคลั่งกระชากเธอจนล้ม ก้าวเล็กๆ ของเธอค่อยๆ พาตัวไปใกล้ประตูมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทันใดนั้น...
ซูมมมม- - - - -  !!!
พลังลมที่อยู่ๆก็รุนแรงขึ้นมาวูบเดียว ดูดเอรินเข้ามาพร้อมประตูที่หักสะบั้น เอรินลอยหวือไปชนกับกองฟาง เธอลงจอดอย่างนุ่มๆ พร้อมๆ กับที่ลมที่พัดอู้มาตลอดก็หยุดลงเหมือนปิดสวิตช์  สาวน้อยตะกายตัวออกมาได้จากกองฟางก็มองหาคนที่จะช่วย
\"คุณลุงค๊าา- - - - - - อะ...\"
เอรินยืนค้าง เพราะตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
\"อะไร... กันนี่... ??\"
ทั้งโรงนามีสภาพเหมือนถูกกองทัพย่อยๆ ถล่มเอา  ลูกกรงถูกตัดเป็นท่อน ทั้งคานทั้งคราดคันไถ เกวียนและระหัดวิดน้ำ สิ่งของสารพัดสารเพที่อยู่ในห้องมีร่องรอยเหมือนโดนดาบญี่ปุ่นคมๆ ฟันเอาทั้งสิ้น  เอรินรีบวิ่งไปประคองคุณลุงที่นอนสลบเหมือดอยู่บนพื้น ดูเหมือนคุณลุงจะไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าหัวโนที่เกิดจากท่อนไม้ที่มากับลม  อาริฮิโกะ คุณเลขาฯพลวิทยุ และคนอื่นที่โดนจับเอาไว้ก็ค่อยๆ โงหัวขึ้นมาจากท่าหมอบ  จากร่องรอยรอบๆ เธอพอจะสรุปได้ว่า ถ้าลุงไม่ได้โดนท่อนไม้ลงไปนอนสลบบนพื้น ป่านนี้ลุงคงได้กลายเป็นหมูสับแน่ๆ
ที่ปลายโรงนา  ใจกลางแห่งความวินาศสันตะโรนั้น.. ชิกินอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่
\"เฮ้ย นาย นาย นายๆ นาย !!!\" เอรินวิ่งเข้าไปเขย่าคอเสื้อของชิกิ \"นายทำอะไรของนายน่ะ บอกมานะ  !!\"
ชิกิค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างเหนื่อยล้า แต่ยังตอบได้ชัดเจนดี
\"เอ่อ... ผม... ได้ยินเพลงอะไรก็ไม่รู้ ... แล้ว... ผมก็...\" ชิกิตอบไม่เป็นประโยค  \"...หลังจากนั้น... แล้วก็มีลม... มัน... สบาย... สบายมากๆ เลยครับ...\"
กลุ่มชาวบ้านวิ่งตึงตังเข้ามาหา และต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
\"เอรินจัง เป็นอะไรมั้ย !?!?\" เฮ็นริเอตต้าโผเข้ากอดสาวน้อย
\"อะ... เอ่อ... ก็สบายดีอยู่จ้ะ\"
\"ใครเป็นคนทำอย่างนี้กันเนี่ย !!! หรือว่าเป็นหน่วยรบพิเศษของพวกมัน !!!\" ชาวบ้านคนหนึ่งพูด
\"หนู... หนูไม่รู้...\" เธอตอบตามตรง
\"ยังไงก็แล้วแต่ เราต้องคุมตัวพวกนี้ไว้ก่อน เร็ว\"
ชิกิที่ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่องรู้ราวอะไร มองกวาดไปรอบๆ ด้วยสติอันเลือนราง
อาริฮิโกะกับคนอื่นๆ โดนหิ้วปีกออกไป....
เพลงที่คุ้นเคย...
และอ้อมแขนของหญิงสาวที่แสนจะอบอุ่น.....
แล้วเขาก็หลับตาลง ปล่อยให้จิตใจลอยเข้าสู่นิทรา
---------------------------------------------------------------------
TO BE CONTINUED
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น