ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ BNHA/MHA X OC ]SNOWFLAKES

    ลำดับตอนที่ #6 : 05 — ความโดดเด่น

    • อัปเดตล่าสุด 27 มิ.ย. 66


     

    05 — ความโดดเด่น

     


     

    บ้านหลังเดิมที่คุ้นเคยในความทรงจำ บ้านที่รวมเอาความทรงจำในช่วงวัยเยาว์ไว้ บ้านของครอบครัวอากิฮิโระ เป็นบ้านที่คิเคียวไม่อยากกลับมาเหยียบอีกเลย

     

    มือเรียวออกแรงเคาะประตูเบาๆ เป็นมารยาท ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นก็ได้ ยิ่งกับหญิงสาวที่อยู่ที่บ้านนี้ด้วยแล้ว

     

    “ไปอยู่ที่อื่นนานเสียจนลืมไปแล้วหรือว่าถ้ากลับมาไม่ต้องเคาะประตูน่ะ?”

     

    เสียงของหญิงสาววัยกลางคนเอ่ยดังขึ้นไม่นานหลังจากที่คิเคียวเข้ามาภายในตัวบ้าน , หญิงที่เป็นเจ้าของบ้านและมีศักดิ์เป็นมารดาของเธอกำลังมองตรงมายังเธอจากบริเวณโซฟาในห้องรับแขก

     

    ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เราสองคนก็เข้ากันไม่ได้ 

     

    เธอไม่ตอบอะไรผู้เป็นมารดา เลือกที่จะเอ่ยคำถามกลับไปแทน

     

    “เรียกกลับมาที่นี่ทำไม? จู่ๆ ก็นึกถึงกันบ้างแล้วงั้นหรอ?” เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ใบหน้าที่เคยเรียบเฉยของหญิงวัยกลางคนกลับเริ่มบึ้งตึง

     

    “หรือจะสั่งอะไรอีกล่ะ? ยังไงลูกคนนี้ก็เป็นได้แค่ ‘หุ่นมาริโอเน็ตต์’ ที่สมบูรณ์แบบของคุณนี่นา?” เธอป้องปากหัวเราะ ท่าทีที่แสนจะน่าโมโหถูกคิเคียวงัดมาใช้ทั้งหมด แววตาสองสีจับจ้องไปยังมารดาของตนด้วยแววตาชิงชัง

     

    “คิเคียว แกไม่มีสิทธิ์มายั่วโมโหฉัน!” หล่อนตวาดเสียงดัง น้ำเสียงเต็มไปด้วยเจตนาที่ต้องการจะควบคุมเธออย่างไม่ปิดบังเหมือนอย่างเคย คิเคียวแสยะยิ้มยั่วโมโห ร่างกายของเธอพลันแข็งตรึงอยู่ครู่หนึ่ง

     

    “ทำไมจะไม่มีสิทธิ์ล่ะคะ? คุณแม่ ยังไงฉันก็เป็นลูกของคุณแม่นะคะ” 

     

    “ฮะๆ ช่างเถอะค่ะ เสียเวลามากกว่านี้คงไม่ดี เพราะฉันเกลียดขี้หน้าคุณมากเลยค่ะ ช่วยบอกเหตุผลที่เรียกมาคืออะไรหน่อยได้ไหมคะ?” คิเคียวเลิกทำท่าที่ยั่วโมโหและหันไปสบตากับอีกฝ่ายตรงๆ

     

    “แกคงยังไม่ลืมใช่ไหมว่าหน้าที่ของแกคืออะไร?” อากิฮิโระ ไอ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่แฝงไปด้วยอำนาจและความถือดีมองไปยัง ‘หุ่นที่สมบูรณ์แบบ’ ของเธอ

     

    “ไม่ลืมหรอกค่ะ ก็คุณต้องการใช้ฉันเป็นฮีโร่ที่เหนือกว่าออลไมท์นี่คะ เป็นตัวแทนของทั้งคุณพ่อและคุณแม่” คิเคียวเห็นว่าหล่อนยกยิ้มอย่างพอใจ ความโกรธที่พยายามข่มไว้กลับเริ่มล้นราวกับกำลังจะทะลัก

     

    คิเคียวเกลียดบ้านหลังนี้ และเธอเกลียดคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ที่สุด มันไม่ใช่ความรู้สึกที่จะมอดดับไปได้ง่ายๆ มันเป็นความเกลียดชังที่ฝังซึมลึกเข้าไปในกระดูก 

     

    “ใช่แล้วล่ะ แกต้องทำให้ได้ เพราะแกคือหุ่นที่สมบูรณ์แบบของฉัน ไม่ใช่ไอ้หุ่นที่ไม่ได้เรื่องอย่างพี่ชายแก” ไอยังคงพูดต่อราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับประโยคที่พูดออกมา และนั่นมันทำให้คิเคียวโกรธ

     

    คิเคียวเกลียดผู้หญิงคนนี้ ทำไมถึงพูดถึงพี่ชายของเธอได้แบบนั้น? พี่ชายที่รักหล่อนมากกว่าใคร

     

    “ฉันรู้ดีว่าแกเกลียดฉัน แต่แกขัดขืนฉันไม่ได้ เพราะแกเป็น ‘หุ่น’ ของฉัน” ไอยิ้มร้ายมองมายัง ‘หุ่น’ ของเธออย่างเยาะเย้ย

     

    “เพราะฉันรู้ดีว่าแกไม่มีทางขัดขืนได้ ฉันถึงปล่อยให้แกไปใช้ชีวิตที่อื่น แต่ดูเหมือนมันจะทำให้แกได้ใจนะ” แววตาที่ใช้มองมีแต่ความเกลียดชังและไม่ชอบใจอยู่เต็มไปหมด

     

    “ฉันคงต้องลงโทษหุ่นที่ไม่ยอมเชื่อฟังอย่างว่านอนสอนง่ายเสียหน่อยแล้วล่ะ” 

     

    ทันใดนั้นภาพก็ตัดไป

     

     

     

     

    คิเคียวตื่นขึ้นมาอีกครั้งภายในบ้านหลังเดิมที่เธอสลบไป แต่ที่ต่างออกไปเสียหน่อยคือไม่มีร่องรอยของหญิงสาวผู้มีศักดิ์เป็นมารดาอีกแล้ว

     

    พอเธอกำลังจะลุกขึ้นยืน ร่างกายก็พลันปวดร้าว อีกแล้ว— เป็นแบบนี้อีกแล้ว ไม่นานเธอก็รู้สึกเวียนหัวจนจะอ้วก ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้กินอะไร แต่กลับอ้วกออกมา มันไม่มีอะไรนอกจากน้ำลาย

     

    ความปวดแสบปวดร้อนที่ตรงหน้าอกเป็นหลักฐานชั้นดีที่ทำให้เธอรู้ว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้น รอยช้ำตามตัวก็พอจะรู้ว่าเมื่อคืนเธอโดนอะไรมาบ้าง และนั่นคือปัญหาใหญ่

     

    วันนี้เธอยังต้องไปโรงเรียน และมันคงไม่ดีแน่หากจะไปโรงเรียนด้วยสภาพที่มีรอยช้ำอยู่เช่นนี้ จะให้พันผ้าพันแผลปกปิดรอยมันก็ดูประหลาดเกินไป ยิ่งรอยรัดที่คอ…

     

    ช่วยไม่ได้ ไม่มีทางเลือกแล้ว คงต้องใช้มัน…

     

     

     

     

    คิเคียวมาถึงโรงเรียนยูเอในเวลาที่สายกว่าทุกวัน หน้าโรงเรียนที่เต็มไปด้วยนักข่าวมารอทำข่าวการมาเป็นอาจารย์สอนในยูเอของออลไมท์ ทำเอาคิเคียวหงุดหงิดจนแทบจะข่มอารมณ์ไว้ไม่ได้ 

     

    พอขอทางก็ไม่ฟัง ตื้อจะเอาคำตอบอยู่ได้ พอได้เป็นนักข่าวกันแล้วมันลืมมารยาททิ้งไว้ให้หมารึไง?

     

    เฮงซวยชะมัด สุดท้ายเธอก็ด่าออกไปจนได้ อาศัยจังหวะนักข่าวกำลังอึ้ง เธอก็เดินหนีเข้าไปในโรงเรียนโดยไม่หันกลับมามองด้านหลังอีก

     

    พอเปิดประตูห้องเข้ามาก็พบความวุ่นวายเหมือนอย่างเคย ไม่รู้ทำไมพอได้มองภาพความวุ่นวายตรงหน้า ราวกับเรื่องที่เจอมาเมื่อคืนดูจะเบาลงไปนิดหน่อย

     

    แต่มันคงเพราะที่นี่ไม่มีใครรู้จักเธอมั้งหรือต่อให้รู้ก็ไม่เข้ามาวุ่นวาย คิเคียวเลยมีพื้นที่ของตัวเองมั้ง

     

    เธอเดินไปนั่งที่เหมือนอย่างเคย ไม่นานอาจารย์ไอซาวะก็เดินเข้ามา ใบหน้าของเขายังคงติดง่วงงุนเหมือนอย่างเคย

     

    “การฝึกซ้อมต่อสู้เมื่อวานทุกคนคงเหนื่อยกันน่าดู”

     

    “ฉันเห็นวีทีอาร์กับผลคะแนนแล้ว” ไอซาวะหันไปมองบาคุโกก่อนจะเอ่ยประโยคต่อมาว่า

     

    “บาคุโก นายน่ะมีศักยภาพ เลิกทำตัวเป็นเด็กได้แล้ว”

     

    บาคุโกที่ถูกทักก็ทำสีหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนจะเสตามองไปทางอื่นพลางขานรับอย่างไม่เต็มใจ

     

    ไอซาวะยังคงไปต่อไม่รอให้ทุกคนได้ตั้งตัว คราวนี้เป้าหมายคือมิโดริยะ

     

    “แล้วก็ มิโดริยะ…รอบนี้ทำแขนเดี้ยงอีกแล้วสินะ” ทันทีที่ชื่อถูกเอ่ยออกจากปาก มิโดริยะก็แปลงสภาพเป็นต้นไม้เหี่ยวลงทันทีที่ได้ยินไอซาวะเรียกชื่อตนเอง

     

    “ควบคุมพลังอัตลักษณ์ให้ได้ เลิกเอาแต่อ้างว่า ‘ทำไม่ได้’ สักที ไม่งั้นคงให้ผ่านไม่ได้หรอกนะ” ยิ่งเฉาหนักกว่าเดิมพอเจอประโยคนี้

     

    “ฉันเกลียดการพูดเรื่องเดิมซ้ำๆ ถ้านายทำข้อนี้ได้ นายก็จะทำอะไรได้อีกหลายอย่าง” และกลับมายืนต้นอย่างมีสุขภาพดีภายในหนึ่งประโยค พลางขานรับอย่างมั่นใจ คิเคียวมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยแววตาเรียบเฉย คงเป็นสกิลพาสซีฟที่ต้องมีมั้ง ไอการคิดบวกเนี่ย

     

    “ขอโทษที่กระทันหันไปหน่อย แต่วันนี้พวกเธอต้อง…”

     

    “มาเลือกหัวหน้าห้องกัน”

     

    สิ้นเสียงของไอซาวะ ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความโกลาหล

     

    อันที่จริงปกติแล้วหน้าที่ ‘หัวหน้าห้อง’ หากเป็นคลาสเรียนที่ไม่ใช่คลาสเรียนฮีโร่ มันจะเป็นตำแหน่งที่คนเกี่ยงกันมากที่สุด แต่พอเป็นคลาสเรียนฮีโร่ จากตำแหน่งที่ไม่มีใครอยากได้ จะกลายเป็น ตำแหน่งกิติมศักดิ์ที่ทุกคนอยากได้ขึ้นมาทันที

     

    ไม่ว่าใครก็เสนอตนเองว่าจะเป็นหัวหน้าห้อง เสียงถกเถียงยังคงดังขึ้นอยู่เรื่อยๆ อาจารย์ที่เป็นตัวต้นเรื่องทำการมุดหายเข้าไปในถุงนอนสีเหลือคู่ใจแล้วหลับแบบไม่สนโลกไปแล้วเรียบร้อย คิเคียวมองความวุ่นวายตรงหน้าด้วยอารมณ์หงุดหงิด

     

    เพราะว่าเจอเรื่องเมื่อวันก่อนมา วันนี้เธอรู้ดีว่าตัวเองอารมณ์ค่อนข้างอ่อนไหว นิดๆ หน่อยๆ ก็หงุดหงิดแล้ว เธอที่ไม่สนใจเรื่องหัวหน้าห้อง (เพราะเป็นมาตลอดประถมแล้ว เป็นจนเอียน) ก็เลยชิงฟุบโต๊ะหลับไปแบบไม่สนใจใครเหมือนอาจารย์ประจำชั้นเสียเลย

     

    ขอยืมไอเดียหน่อยละกันนะคะอาจารย์…

     

     

    คิเคียวตื่นขึ้นมาด้วยการปลุกของจิโร่ เคียวกะ คงเลือกหัวหน้าห้องเสร็จแล้วมั้ง คงเป็นยาโอโยโรสึกที่ได้ตำแหน่ง คิเคียวคิดแบบนั้นในตอนแรก แต่พอได้ลืมตามองกระดานหน้าห้องชัดๆ 

     

    ทำไมชื่อเธอถึงไปอยู่บนกระดานแล้วได้คะแนนโหวตเยอะที่สุด? สายตาพึงพอใจของยาโอโยโรสึคืออะไร??

     

    มีแต่เรื่องที่ไม่เข้าใจ? แต่ที่แน่ๆ เธอไม่เป็นหัวหน้าห้องเด็ดขาด

     

    “ขอสละสิทธิ์ค่ะ ให้สิทธิ์การเป็นหัวหน้าห้องแก่ อีดะ เท็นยะค่ะ” ไม่ต้องรอให้ใครพูดแสดงความยินดีให้เธอ คิเคียวชิงพูดสละสิทธิ์และยกสิทธิ์นั้นให้อีดะไปในทันที

     

    แค่เรื่องของเธอ เธอยังเอาตัวเองแทบไม่รอด เธอไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องคนอื่นขนาดนั้นหรอกนะ

     

    “โอเคใช่มั้ยคะอาจารย์ไอซาวะ”เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้า คิเคียวก็ถือว่าการดีลนี้สำเร็จผลแล้ว

     

    “งั้นตามนี้นะ อีดะเป็นหัวหน้าห้อง ส่วนมิโดริยะเป็นรองหัวหน้าห้อง” 

     

     

     

     

    คาบพักกลางวันที่แสนจะวุ่นวาย วันนี้คิเคียวถูกยาโอโยโรสึลากมากินข้าวกับกลุ่มนักเรียนหญิงของห้อง พลางถูกซักเรื่องที่ว่าทำไมไม่ยอมเป็นหัวหน้าห้อง

     

    “ทำไมคิเคียวซังถึงไม่ยอมเป็นหัวหน้าห้องล่ะคะ?” ยาโอโยโรสึถาม

     

    “นั่นสิ อากิฮิโระซังออกจะเหมาะกับตำแหน่งนี้นะ” เป็นจิโร่ เคียวกะที่มารับไม้ต่อ

     

    “ฉันไม่อยากหาภาระให้ตัวเอง อีกอย่างฉันไม่สนใจการทำงานหัวหน้าห้องเลยสักนิด”

     

    “มันก็ดีกว่าใช่ไหมถ้าจะโยนตำแหน่งนี้ไปให้คนที่ดูเหมาะและอยากเป็นน่ะ?” 

     

    “อีดะคุงเหมาะกับตำแหน่งนี้หรอ?” เป็นฮากาคุเระที่เอ่ยถาม

     

    “อย่างน้อยก็เหมาะกว่ามิโดริยะนะ”

     

    “แต่มิโดริยะจังก็เป็นรองหัวหน้านี่” อาซุย ทสึยุเอ่ย

     

    “ถ้ามีเหตุการณ์อะไรสักอย่างเกิดขึ้นแล้วทำให้เขารู้ว่าตัวเองไม่เหมาะ คงตัดสินใจยกตำแหน่งให้คนอื่นแหละ”

     

    และไอ้เหตุการณ์ที่คิเคียวพูดขึ้นมาลอยๆ นั่น ก็เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน

     

     

     

    ขอสรุปความวุ่นวายง่ายๆ คือ นักข่าวบุก นักเรียนเตลิด และสงบลงในไม่นานหลังจากที่อีดะลอยขึ้นไปประกาศเสียงดังว่าเป็นแค่นักข่าวเท่านั้น 

     

    หลังจากความวุ่นวายจบลง คิเคียวก็พาร่างตัวเองกลับมายังห้องเรียนได้อย่างปลอดภัย เพื่อนร่วมห้องยังคงคุยกันเรื่องที่เกิดขึ้นในคาบพัก ก่อนจะเงียบลงเมื่ออาจารย์ไอซาวะเดินเข้ามา

     

    “คาบฮีโร่พื้นฐานวันนี้มีฉัน ออลไมท์ แล้วก็อาจารย์อีกท่านหนึ่งรวมเป็นสามคนคอยสังเกตุการณ์อยู่ด้วย”

     

    “ขออนุญาตถามครับ! เป็นเนื้อหาแบบไหนหรอครับ?” ท่ามกลางสีหน้าแปลกใจของเหล่านักเรียน เซโระ ฮันตะก็เอ่ยถามขึ้น

     

    “การฝึกซ้อมช่วยเหลือเหตุภัยพิบัติธรรมชาติต่างๆ อย่างน้ำท่วม” ไอซาวะพูดพลางชูป้าย ‘RESCUE’ ขึ้นมา

     

    “ครั้งนี้พวกเธอเลือกชุดคอสตูมได้ตามใจ ในนั้นคงจะมีชุดคอสตูมที่ใช้ในเหตุการณ์เฉพาะอยู่” ไม่ว่าเปล่า มือก็กดเรียกชั้นเก็บชุดคอสตูมออกมาจากผนัง

     

    “ลานฝึกซ้อมอยู่ห่างจากที่นี่พอสมควร เพราะงั้นเราจะนั่งรถบัสไปกัน”

     

    “แค่นี้แหละ ไปเตรียมตัวได้”

     

     

     

     

     

    บรรยากาศภายในรถบัสค่อนข้างคึกคัก คิเคียวที่นั่งข้างๆ จิโร่ เคียวกะ ที่ไม่ได้เป็นคนพูดมากอะไรจึงไม่ได้รู้สึกหนวกหูอะไร ไม่นานก็ได้ยินบทสนทนาที่น่าสนใจจนตอนแรกที่กะว่าจะพักสายตาเสียหน่อยก็ต้องเปลี่ยนใจ

     

    “อัตลักษณ์ของนายกับออลไมท์คล้ายกันมากเลยนะ” อาซุย ทสึยุเอ่ยขึ้น 

     

    คิเคียวลอบมองทั้งสองด้วยความสนใจ คล้ายกันงั้นหรือ? ถ้าจะพูดในมุมมองคิเคียวล่ะก็ เธอคิดว่ามันเหมือนกันจนแทบจะเป็นอันเดียวกันเลยดีกว่า

     

    “งะ งั้นหรอครับ! เอ่อ แต่ว่าผม คือแบบว่า…” มิโดริยะที่ไม่รู้ล่กอะไรยิ่งดูน่าสงสัยในสายตาของคิเคียว

     

    แต่มันก็แค่สงสัยล่ะนะ ถ้าอัตลักษณ์ของออลไมท์มาอยู่ที่มิโดริยะมันเกี่ยวอะไรกับเธออะ ก็ไม่นี่ เพราะงั้นช่างเถอะ

     

    “เดี๋ยวก่อนนะ ซึยุจัง”

     

    “ออลไมท์น่ะ ไม่มีทางบาดเจ็บแบบนั้นหรอกนะ” คิริชิมะ เอ่ยแย้งขึ้น

     

    “ถึงจะคล้ายแต่ก็ไม่ใช่อยู่ดี”

     

    “แต่มีอัตลักษณ์เรียบง่ายประเภทเสริมพลังแบบนี้ก็ดีอยู่นะ ทำอะไรเจ๋งๆ ได้ตั้งหลายอย่าง”

     

    ทุกคนเริ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องอัตลักษณ์ของตัวเองจากระทั่ง

     

    “แต่ว่านะถ้าทั้งเปล่งประกายและสุดยอดน่ะต้องยกให้บาคุโกเขาล่ะนะ”

     

    “บาคุโกจังน่ะทั้งชอบหัวร้อนแล้วก็อาละวาด คงไม่มีใครมาชอบหรอก” เป็นอาซุย ทสึยุเช่นเดิมที่เอ่ยตัดมู้ด

     

    คิเคียวแทบกลั้นขำไม่อยู่ ให้ตายสิ หน้าคนที่ถูกพาดพิงคือแทบจะไปกัดคนอื่น

     

    คิเคียวเห็นด้วยนะิถ้าจะมีใครมาชอบ พวกนั้นคงชอบพวกโวยวายเป็นหมาปอมเห่าแบ้กๆๆๆๆ แหละ

     

    “แต่นอกจากบาคุโกก็มีโทโดโรกิหรืออากิฮิโระนี่ถึงอัตลักษณ์ทั้งเจ๋งแถมยังหน้าตาดีจนเปล่งประกายอีก”

     

    “นั่นสิเนอะ ยังไงสองคนนี้ถ้าได้เป็นโปรฮีโร่คงมีคนมาชอบเยอะแน่!” 

     

    บาคุโกได้ยินดังนั้นจึงระเบิดขึ้นมา เหมือนจะทนไม่ไหวแล้ว เลือดความเป็นที่หนึ่งมันเดือดพล่าน

     

    แต่การโวยวายของบาคุโกจบลงด้วยเสียงของอาจารย์ไอซาวะ

     

    และแล้วพวกเราก็มาถึงสถานที่ฝึกในคาบเรียนนี้จนได้

     

     

    สถานที่ฝึกในครั้งนี้คือ ‘ลานจำลองอุบัติภัย’ หรือเรียกย่อๆ ว่า ยูเอสเจ และอาจารย์อีกคนที่จะมาคุมการฝึกก็คือ ‘หมายเลข 13’ โปรฮีโร่สายกู้ภัย การฝึกในครั้งนี้มุ่งเน้นให้พวกเรามีควาสามารถในการกู้ภัยในสถานการณ์ต่างๆ ได้

     

    อาจารย์อีกคนที่ควรจะอยู่ที่นี่คือออลไมท์ แต่ดูเหมือนคาบนี้คงจะต้องเรียนกันแบบไม่มีเขาแล้ว

     

    พวกเราเข้าไปภายในโดมขนาดใหญ่ ทุกคนต่างตื่นตาตื่นใจต่อสิ่งที่เห็นตรงหน้า หมายเลขสิบสามอธิบายถึงความน่ากลัวของอัตลักษณ์อยู่พักหนึ่ง พอพวกเราตัดสินใจจะเริ่มการเรียนการสอนก็ดันเจอเรื่องเซอร์ไพรส์เข้าจนได้

     

    มีวิลเลินเข้ามาอยู่ในรั้วโรงเรียนและมากันเยอะเสียด้วย นักเรียนส่วนใหญ่ยังตั้งสติกันไม่ได้เมื่อตกใจกับความจริงตรงหน้า อย่างการมีวิลเลินบุกเข้ามาในโรงเรียน

     

    พร้อมแสดงเจตจำนงอันแสนยิ่งใหญ่อย่าง ‘การฆ่าออลไมท์’ อาจารย์ไอซาวะที่ตั้งตัวได้ก่อนใครตัดสินใจลงไปรับมือกับวิลเลินกลุ่มใหญ่ที่วิ่งตรงมายังพวกเธอ ฝากฝังให้หมายเลขสิบสามดูแลพวกนักเรียน

     

    แต่ไม่ทันไรพวกเราก็พลาดท่า เราถูกจับแยกกันจนได้ ด้วยอัตลักษณ์ของวิลเลินที่มากับตัวคนที่ดูเหมือนเป็นผู้นำของการบุกโจมตีครั้งนี้

     

    คิเคียวหลับตาลงท่ามกลางหมอกสีดำที่ปกคลุมทั่วร่างพลางคิดในใจ

     

    น่ารำคาญจริง มีเรื่องอีกแล้ว ช่วงนี้ดวงซวยชะมัด ควรไปทำบุญดีมั้ยนะ?

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     




     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×