ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ BNHA/MHA X OC ]SNOWFLAKES

    ลำดับตอนที่ #2 : 02 — การสอบเข้าโรงเรียนยูเอแผนกฮีโร่

    • อัปเดตล่าสุด 20 มิ.ย. 66


        02 — การสอบเข้าโรงเรียนยูเอแผนกฮีโร่

     


        

        คิเคียวไม่เคยอยากเป็นฮีโร่ และไม่ได้ชื่นชอบฮีโร่คนใดเลย มันน่าแปลกใช่ไหม? ที่เด็กที่ไม่มีความสนใจเกี่ยวกับฮีโร่เลยสักนิดมาสมัครสอบเรียนที่โรงเรียนยูเอแผนกฮีโร่

     

    ใช่ มันแปลกมาก แต่จะให้ทำอย่างไรได้ ชีวิตของคิเคียวไม่มีตัวเลือกมากนัก ตั้งแต่ที่สูญเสีย “ที่อยู่” ของตัวเองไป คิเคียวยังไม่สามารถหลุดพ้นจากที่ๆ อยู่ตอนนี้ได้ จึงได้แต่อดทนให้มันผ่านไป

     

    ทั้งๆ ที่วันนี้ควรเป็นวันที่ควรจะพร้อมทั้งกายและใจแท้ๆ แต่กลับรู้สึกหดหู่ใจเช่นนี้  ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ อดคิดแบบนี้กับตัวเองไม่ได้ มันก็แค่สอบ สอบให้มันจบไปเท่านั้นคิเคียว

     

    ความทรงจำที่น่าคิดถึงพลันฉายขึ้นในหัว เสียงที่ฟังกี่ครั้งก็รู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น เสียงที่น่าคิดถึง แต่ไม่มีวันได้ฟังอีกแล้ว เป็นคนๆ เดียวที่ยังฉุดรั้งให้คิเคียวไม่แตกสลายไปมากกว่านี้ 

     

        “พี่น่ะอยากเป็นฮีโร่ที่เจิดจ้าและเปล่งประกายเหมือนกับออลไมท์ล่ะ! คอยดูพี่ด้วยนะ!”

     

    เด็กชายคนนั้นไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ช่างสว่างสดใส คนที่พูดว่าอยากจะเป็นฮีโร่แม้จะถูกทำร้ายจากฮีโร่ คนที่ยิ้มรับแม้จะเจ็บปวดเพียงใดเพื่อให้คนอื่นสบายใจ คนที่แสนดีคนนั้น มันควรเป็นเขาต่างหาก คนที่ควรจะได้มาสอบมันควรเป็นพี่ต่างหาก ไม่ใช่เธอ

     

      ใช้เวลาเตรียมตัวไม่นาน ที่พักของเธอค่อนข้างอยู่ใกล้ยูเอ เพราะงั้นต่อให้ออกจากบ้านสายคิเคียวก็มั่นใจว่าตนจะไปถึงทันสอบ แต่ก็นะ ไปก่อนเวลาเพื่อเตรียมตัวและทบทวนก่อนสอบก็เป็นเรื่องดี

     

    ว่าแล้วก็หันไปคว้ากระเป๋า ใส่รองเท้าคู่โปรด ก่อนจะหันมาบอกประโยคที่ไม่มีแม้แต่คนขานรับ

     

    “ไปก่อนนะ”

     

         เธอมาถึงยูเอในก่อนเวลาสอบพอสมควร วันนี้เป็นวันที่อากาศเป็นใจ ท้องฟ้าปรอดโปร่ง ช่างเป็นบรรยากาศที่ราวกับต้อนรับเรื่องใหม่ๆ เป็นจุดเริ่มต้นก้าวสำคัญ

     

    แต่ทั้งๆ ที่อากาศดีแบบนี่ความรู้สึกแย่ๆ ก็ยังคงอยู่ในใจ ไม่รู้ทำไมทั้งๆ ที่ควรจะรู้สึกดีเมื่อเห็นท้องฟ้าเช่นนี้ในสถานที่สอบเข้าเรียนต่อของตัวเอง เธอกลับรู้สึกแย่เสียอย่างนั้น ยิ่งมองก็ยิ่งนึกถึงคนที่จากไป

     

    ไม่มีประโยชน์อะไรกับการมองท้องฟ้า คิเคียวจึงละความสนใจและไปเตรียมตัวรอสอบข้อเขียนในช่วงเช้าแทน แม้ความรู้สึกแย่ๆ จะยังไม่จางหายไปก็ตาม

     

     

          การสอบข้อเขียนโรงเรียนยูเอง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก อาจจะเพราะเธอเตรียมตัวมาดีจึงไม่มีตรงไหนที่น่ากังวลใจ เธอเก็งข้อสอบกับทบทวนมาไม่น้อยเพราะเห็นว่าเป็นโรงเรียนชั้นนำที่มีอัตราคนสอบผ่านต่ำ เกณฑ์คะแนนสูง แต่พอเจอข้อสอบจริงๆ กลับง่ายกว่าที่คาดไว้มาก ค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อย

     

    หลังจากสอบข้อเขียนในช่วงเช้าเสร็จ ในภาคบ่ายจะเป็นการสอบภาคปฏิบัติ

     

         หลังจากที่เข้ามายังหอประชุมสำหรับการชี้แจงการสอบภาคปฏิบัติสำหรับผู้ประสงค์สอบเข้าแผนกฮีโร่เรียบร้อย คิเคียวอดที่จะรู้สึกแปลกๆ กับการที่โรงเรียนมีงบมาให้ถลุงเล่น (หุ่นหลายแบบและมีจำนวนมาก) แต่ก็เพราะสังคมเชิดชูฮีโร่ ต้องการฮีโร่นี่นะ ไม่แปลกใจถ้ารัฐบาลจะทุ่มเทผลิตฮีโร่รุ่นใหม่ๆ

     

    คิเคียวได้นั่งข้างผู้ชายผมสีสาหร่าย ที่เอาแต่นั่งแพนิคกับตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าใครมาเป็นผู้บรรยายกติกา ถ้าให้พูดตามตรง คิเคียวค่อนข้างรำคาญ พึมพำเรื่องฮีโร่ที่มาบรรยายกติกาไม่หยุด ต่อให้ไม่รู้จักกันคิเคียวก็ค่อนข้างมั่นใจว่า นายหัวเขียวข้างๆ นี่เนิร์ดฮีโร่แน่นอน 

     

    เห้อ พูดแล้วก็หนวกหูชะมัดยาด

     

    ไม่ทันไรนายหัวเขียวก็ถูกดุโดยนายคิ้วจริงจัง นายหัวฟางข้างๆ นายหัวเขียวก็เอาแต่เขม่นอะไรก็ไม่รู้

     

    อยากกลับบ้านชะมัด พวกมาสอบฮีโร่เนี่ยมีแต่คนสุดโต่งรึไงกันนะ หรือถ้าไม่บ้าหรือสุดโต่งมันจะเป็นฮีโร่ไม่ได้กัน?

     

    คิเคียวไม่ได้ใส่ใจฟังที่ฮีโร่พูดนัก เธอฟังแค่หุ่นยนต์มีกี่ประเภท แต่ละตัวมีแต้มประจำอยู่เท่าไหร่ เพียงเท่านั้น

     

    น่ารำคาญชะมัด รีบๆ พูด รีบๆ ไปที่สอบจะได้ไหม อยากกลับบ้าน จะอ้วกอยู่แล้ว

     

     

        สนามสอบ E 

     

    คิเคียวยืนเหม่อมองสนามสอบของตนเองด้วยแววตาเรียบเฉย ขอย้ำอีกครั้ง คิเคียวรู้สึกว่ายูเอใช้งบได้สิ้นเปลืองจริงๆ แทบการสอบก็ไม่เป็นกลางเอาเสียเลย ให้สู้กับหุ่น? มันจะไม่เป็นการพลาดอัตลักษณ์ดีๆ ที่ใช้กับหุ่นไม่ได้ แต่มีประโยชน์เวลาใช้กับคนหรือสิ่งมีชีวิตหรอกหรือ? แต่ก็ช่างมันเถอะ

     

    มันไม่เกี่ยวกับเธอ ใครจะตก ใครจะผ่านก็เรื่องของคนอื่น ที่เธอต้องทำมีแค่สอบให้ผ่านแค่นั้น

     

    ยัยนั่นจะได้ไม่มาวุ่นวายอีก แค่สอบให้ผ่านก็พอ ยัยนั่นจะได้ไม่มาวุ่นวายอีก ทำให้ได้คิเคียว แกต้องผ่านเท่านั้น

     

    ถ้าพลาดก็เท่ากับตาย จะพลาดไม่ได้เด็ดขาด

     

    ทันทีที่ประตู้เริ่มเปิดออก คิเคียวก็ใช้อัตลักษณ์ของตนเองทันที เปลวไฟสีฟ้าพวยพุ่งออกมาจากทั้งมือและเท้าของคิเคียว ไฟที่มือของเธอ เธอบีบอัดมันให้แรงดันไฟดันให้ตัวเธอลอยเหนือพื้น ก่อนที่เธอจะบีบอัดเปลวไฟที่มือและเท้าและใช้มันเป็นไอพ่น ส่งเธอเข้าประตูสนามสอบไปโดยไม่รอแม้แต่เสียงประกาศเข้าสอบ เพราะเธอคิดว่าของแบบนั้นไม่มีหรอก

     

    ในชีวิตจริง ไม่มีใครมาให้สัญญาณเริ่มหรอกนะ

     

     

        สนามสอบค่อนข้างใหญ่พอสมควร แต่มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอเลยสักนิด เธอให้แรงดันไฟส่งตัวเองขึ้นไปลอยตัวอยู่บนฟ้าในระยะความสูงที่สามารถมองเห็นจากทั่วสนาม ทำให้เธอสามารถเห็นหุ่นได้เกือบทั้งหมดที่อยู่ในลานโล่ง

     

    มันอาจจะดูน่ากลัว หากมองในมุมคนอื่น หุ่นพวกนี้มีขนาดใหญ่ หากไม่ระวังให้ดีมันอาจจะทับตัวผู้สอบได้ อีกทั้งมันยังเป็นเหล็ก ที่ต้องใช้แรงในการทำลายหรือสร้างความเสียหาย บางอัตลักษณ์แม้จะเป็นสายกายภาพหรือสายที่ใช้โจมตีได้อาจจะแพ้ทาง และคงไม่ต้องพูดถึงพวกสายที่ใช้กับคนหรือสิ่งมีชีวิตได้เพียงอย่างเดียว อย่างเช่น ล้างสมอง พลังประเภทนี้แพ้ทางแบบสุดกู่ แต่มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอเลยสักนิด 

     

    คิเคียวหลับตาลงก่อนจะนึกภาพดาบเพลิงจำนวนมากลอยอยู่ในอากาศ เธอรู้สึกได้ถึงเปลวไฟถูกดูดออกไป ดาบเพลิงมากมายปรากฎเป็นที่ประจักษ์ให้แก่สายตาผู้เข้าสอบในสนามเดียวกันและอาจารย์ที่ดูอยู่ในห้องมอนิเตอร์ 

     

    คิเคียวจดจำตำแหน่งหุ่นที่มีคะแนนมากเท่าที่ตาเห็นไว้และบังคับให้ดาบเพลิงที่อยู่ด้านหลังพุ่งไปทำลายหุ่นพวกนั้นให้สิ้นซาก 

     

    คิเคียวไม่ต้องการกวาดคะแนนคนเดียวจนหมด เห็นใจ? เปล่าหรอก เธอแค่ไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องทำเช่นนั้น เธอคำนวนแต้มที่คิดว่าจะผ่าน และเธอจะทำแต้มถึงแค่แต้มที่มันจะทำให้เธอผ่านเท่านั้น เธอไม่ได้อยากเป็นที่หนึ่ง มันไร้สาระ

     

    หลังจากที่ดาบเพลิงพุ่งไปโจมตีหุ่นทุกตัวที่เธอล็อคเป้าไว้หมดแล้ว คิเคียวก็ไปไล่หาหุ่นที่มีแต้มเยอะๆ ที่เธอคาดว่าน่าจะซ่อนอยู่ในตึกทันที

     

    ท่ามกลางความมึนงงและความเจ็บใจหรือแค้นเคืองของผู้เข้าสอบ

     

     

        ภายในห้องมอนิเตอร์

     

    คณะอาจารย์โรงเรียนยูเอกำลังตกตะลึง ในคราแรกพวกเขากำลังสนใจเด็กชายผมชี้ฟูสีบลอนด์คล้ายเม่นในสนามสอบ A ที่มีทักษะการต่อสู้ที่น่าตะลึง แต่เมื่อมีใครสักคนในห้องชี้ให้เหล่าอาจารย์ดูคิเคียวในสนามสอบ E พวกเขาก็ต้องตื่นตะลึง

     

     “อากิฮิโระ คิเคียว ผลการเรียนดีเยี่ยม คะแนนเต็มตลอดทุกปีการศึกษา และผลสอบเข้าที่ตรวจแล้วก็เต็มหมดทุกวิชา เป็นลูกสาวของโปรฮีโร่ซันเดธที่เสียไปเมื่อสามปีก่อน”

     

    เสียงของอีเรเซอร์เฮด โปรฮีโร่ใต้ดินที่มีอัตลักษณ์ที่สามารถลบอัตลักษณ์คนอื่นได้ชั่วคราวตราบใดที่ยังมองเห็นและอยู่ในระยะสายตาเอ่ยขึ้นท่ามกลางความตื่นตกใจ

     

    ไม่ใช่ว่าตัวเขาไม่ตกใจ เขาก็ตกใจ ลูกสาวของโปรฮีโร่คนนั้นงั้นหรือ? 

     

     ในฐานะที่เขาทำงานในวงการฮีโร่ใต้ดิน เขามักได้ยินข่าวลือแปลกๆ เกี่ยวกับโปรฮีโร่ซันเดธเสมอ แต่ตอนนั้นเขาไม่ได้สนใจ จนกระทั่งการตายของโปรฮีโร่ซันเดธ เขารับผิดชอบดคีนี้ร่วมกับตำรวจอีกสักสามสี่คน มันเป็นการตายที่แปลกประหลาด เขาไม่สามารถหาตัวคนร้ายได้ พวกเรารู้ว่าเขาถูกฆ่าตาย แต่กลับหาตัวคนร้ายไม่ได้ สุดท้ายก็กลายเป็นคดีที่ปิดไม่ลงไป

     

    อีเรเซอร์เฮดประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าโปรฮีโร่คนนั้นจะมีลูกสาวด้วย เท่าที่เขารู้มาบ้าง ครอบครัวอากิฮิโระมีแต่ลูกชายที่ยังอยู่ ลูกสาวเสียไปแล้ว แต่นี่อะไร? ลูกสาว? แม้จะสงสัย แต่มันคงเป็นเรื่องในครอบครัว เขาจึงปล่อยผ่านไป

     

     “อากิฮิโระจังมีความเชี่ยวชาญในการใช้อัตลักษณ์มากเลยนะ”

     

     “สังเกตุได้จากการที่ใช้ไฟส่งตัวเองอย่างไม่ลังเล เลือกสมรภูมิที่ตนได้เปรียบ ควบคุมอัตลักษณ์ได้อย่างดี ไม่ไปโดนผู้เข้าสอบคนอื่น ดาบเพลิงทุกอันพุ่งทะลุร่างของหุ่นเท่านั้น”

     

    อีเรเซอร์พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของอาจารย์ใหญ่เนสึ เด็กคนนี้มีความสามารถมาก ทั้งยังประเมินสถานการณ์ได้ดี ใจเย็น คิดรอบคอบ ไม่สร้างความเสียหายให้แก่บริเวณโดยรอบจนเกินไป เขาค่อนข้างถูกใจเด็กคนนี้พอสมควร

     

    เขาหวังว่าจะเจอเธอในคลาสของเขา

     

     

     

     

        การสอบจบลงแล้ว เธอทำคะแนนได้ 88 คะแนนจากการทำลายหุ่น เธอค่อนข้างมั่นใจว่าจะสอบติด เธอไม่แน่ใจว่ามีคะแนนช่วยเหลือด้วยไหม เพราะเธอไม่คิดว่าเขาจะคิดคะแนนแค่การทำลายหุ่นเพียงอย่างเดียว ถ้าหากคิดเธอก็คงได้คะแนนเกิน 88 เพราะเธอช่วยไปสองสามคน

     

    แต่ช่างเถอะ ขอให้มันผ่านก็พอ

     

     

     

     

         ไม่นานหลังจากนั้นเธอได้ผลสอบมาอยู่ในมือ คนที่มาประกาศผลคือฮีโร่สักคนที่เธอไม่คุ้นหน้า หน้าตาดูเหมือนคนอดนอน สภาพเหมือนตาลุงซารารี่แมนที่โดนบริษัทสั่งให้ทำโอทีติดกันเจ็ดวัน

     

    เธอฟังคร่าวๆ ได้ใจความง่ายๆ คือ เธอสอบผ่าน และเธอได้ที่หนึ่งของการสอบ

     

    อันหลังเธอรู้สึกไม่อยากได้เลยสักนิด ฟังดูก็รู้ว่าเป็นตำแหน่งที่มีปัญหา ใครจะไปรู้ว่าเธออาจจะโดนหาเรื่องจากคนที่คิดว่าตัวเองเจ๋งมากที่สุดในโลกนี้และมั่นใจว่าตนเป็นที่หนึ่ง มาวุ่นวายกับเธอเพียงเพราะเธอได้คะแนนมากกว่าก็ได้

     

    หลังจากฮีโร่คนนั้นพูดรายละเอียดที่เธอควรรู้ครบถ้วนแล้ววิดิโอก็จบลง คิเคียวเหม่อมองอยู่อีกสักพักก่อนจะลุกไปติดต่อหายัยคนนั้นเพื่อแจ้งข่าว

     

     “สอบติดแล้ว”

     

    “พอใจแล้วใช่ไหม?“

     

     “อืม”

     

    สายถูกวางแล้ว แต่เสียงเย็นชาที่อีกฝ่ายใช้พูดกับเธอก็บาดลึกเข้าไปในหัวใจไม่จางหาย

     

    คิเคียวคิดว่ามันก็ดีแล้ว แบบนี้ก็ดีแล้ว ยัยผู้หญิงคนนั้นไม่มีวันรักเธอ ไม่เคยรักเธอ ตั้งแต่แรกและตลอดไป

     

    แม่ไม่มีวันรักเธอ เพราะแม่รักตัวเองยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น

     

    เป็นความจริงที่รู้อยู่แก่ใจ แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่ดี ทั้งๆ ที่เธอก็เกลียดหล่อนมากแท้ๆ

     

     

    ไปเตรียมตัวสำหรับชั้นเรียนใหม่ดีกว่าคิเคียว อย่าไปใส่ใจเลย

     

    อดทนต่อไปนะ อีกนิดเดียวก็จะได้เป็นอิสระแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×