ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] TFBOYS ❀

    ลำดับตอนที่ #14 : [ TFBoys x You ] Dream Come True : 1

    • อัปเดตล่าสุด 5 ต.ค. 59


     
    - 1 -

          เสียงเพลงบรรเลงช้าๆจากกล่องดนตรีไขลานในวัยเด็กที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงกำลังดังคลอเบาๆขณะที่ฉันกำลังอ่านฟิคTFBoys x Youอย่างเพลิดเพลินในห้องนอนของตนเองยามค่ำคืน

          ขณะที่กำลังอ่านฟิคฉันก็นั่งอมยิ้มไปด้วยอย่างมีความสุขพลางแอบคิดเล่นๆในใจว่าถ้าหากชีวิตจริงของฉันเป็นเหมือนในนิยายก็คงจะดีถ้าหากฉันได้ใกล้ชิดกับบอยแบนด์ชื่อดังอย่างTFBoysแบบในนิยายมันจะฟินแค่ไหนกันนะโอ้ยยคิดแล้วก็แอบเขินเบาๆฉันนั่งจินตนาการอย่างเพ้อฝันแล้วยิ้มอยู่คนเดียวราวกับคนบ้าก่อนจะหันหน้าไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังที่แสดงเวลาห้าทุ่มครึ่งซึ่งทำให้ฉันต้องหยุดการอ่านฟิคไว้แต่เพียงเท่านี้แล้วจึงลุกไปปิดไฟเพื่อเข้านอน

          ฉันนอนลงบนเตียงแสนนุ่มของตนเองพร้อมกับจินตนาการถึงเรื่องราวแสนหวานจากฟิคที่เพิ่งอ่านไปเมื่อครู่ฉันนอนคิดจินตนาการไปเรื่อยจนไม่รู้ตัวว่าหลับไปตอนไหนกว่าจะมารู้ตัวอีกทีก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้นซะแล้ว

     

    เช้าวันต่อมา...

    กรี๊งงงงง

            เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นในเวลาตีห้าครึ่งตามที่ตั้งไว้ฉันเอื้อมมือไปกดปิดเสียงของมันและทิ้งตัวนอนลงบนเตียงอีกครั้งอย่างเพลียๆและในตอนนั้นเองฉันก็รู้สึกว่ามีมือของใครสักคนมาสะกิดที่ไหล่ของฉันเบาๆซึ่งแน่นอนว่าฉันทำเป็นไม่สนใจและแกล้งหลับต่อจนกระทั่งฉันรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ จากอีกฝ่ายที่ลอยออกมากระทบกับใบหน้าของฉันจึงทำให้ฉันต้องลืมตาขึ้นมา

            และแล้วฉันก็ต้องตกใจจนแทบช็อกตายคาเตียง เพราะว่าคนที่มาปลุกฉันคือ ‘เซียนซี’ หนุ่มสุดหล่อจากวง TFBoysและตอนนี้ใบหน้าของฉันกับใบหน้าของเขาก็อยู่ใกล้กันมากจนได้กลิ่นลมหายใจของกันและกัน ทำเอาฉันใจสั่นแรงจนแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว

            “ พี่ รีบตื่นได้แล้ว เดี๋ยวไปโรงเรียนไม่ทันหรอก” เซียนซีพูดกับฉันที่นอนอยู่บนเตียงนอนด้วยเสียงทุ้มต่ำแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนโดยที่ตอนนี้ใบหน้าของเขาอยู่ห่างจากฉันเพียงนิดเดียว

            ‘นะ นายช่วยถอยออกไปหน่อยจะได้ไหม ฉันเขินจะแย่อยู่แล้วนะ’ ฉันพูดกับตัวเองในใจแล้วหลับตาปี๋ก่อนจะเบือนหน้าหนีไม่ยอมจ้องตาเขา ซึ่งในตอนนั้นเองฉันก็ฉุกคิดได้ถึงความผิดปกติบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้

            ‘เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมจู่ๆ เซียนซีถึงมาอยู่ในห้องนอนของฉันได้ล่ะ หรือว่านี้จะเป็นความฝัน’ ฉันนอนหลับตาคิดในขณะที่เซียนซีกำลังจ้องหน้าฉันอยู่ แต่แล้วเสียงทุ้มของเซียนซีก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะการคิดของฉันเสียก่อน

            “ พี่.. ” เขาลากเสียงยาวแล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะค่อยๆ ถอยห่างออกไปจากร่างของฉัน แล้วพูดต่ออีกประโยคหนึ่งขึ้นมา

            “ พี่จะนอนอยู่แบบนี้อีกนานไหม รีบลุกไปอาบน้ำได้แล้ว ถ้าช้าผมจะไม่ไปส่งพี่ที่โรงเรียนนะ ”

            “วะ ว่าไงนะ ไปส่งฉันหรอ ” ฉันรีบลุกผึงจากเตียงที่กำลังนอนอยู่แล้วหันมาถามเขา เพราะฉันไม่มั่นใจว่าตัวเองหูฟาดไปหรือเปล่าที่ได้ยินว่าเซียนซีจะไปส่งที่โรงเรียน

            “ ใช่ ผมจะไปส่งพี่ที่โรงเรียน ”เซียนซีพูดออกมาอย่างช้าๆ ชัดๆ จนทำให้ฉันเกือบจะหัวใจวายตายกับสิ่งที่ได้ยิน  โอ้! มายก็อดด นี้! ฉันกำลังฝันอยู่ใช่ไหม

            ฉันนั่งนิ่งไม่พูดอะไร เพราะว่ากำลังตกใจกับสิ่งที่เกิด ซึ่งฉันว่าใครที่ได้เจอแบบฉันก็คงต้องตกใจด้วยกันทั้งนั้นแหละ ที่อยู่ๆ ชายหนุ่มในฝันอย่าง ‘เซียนซี’ ก็มาปรากฏตัวในห้องนอนของฉันอย่างไม่ทราบสาเหตุว่ามาได้อย่างไร แถมยังบอกว่าจะไปส่งฉันที่โรงเรียนอีก ใครที่เจอเหตุการณ์แบบฉันคงต้องฟินตัวแตกตายแน่ๆ

            ตอนนี้ฉันแสดงสีหน้าออกมาไม่ถูกเลยจริงๆ ว่าจะทำหน้างงหรือจะยิ้มดี เพราะอีกใจหนึ่งก็สงสัยว่าทำไมเซียนซีถึงโผล่มาในห้องนอนของฉัน แต่อีกใจก็แอบฟินที่ชายในฝันมาอยู่ในห้องนอนของฉัน แถมยังมาปลุกแล้วอาสาจะไปส่งอีก

            ถึงแม้ว่าฉันจะยังสับสนและงงมากๆ กับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ แต่ฉันคงทำอะไรไม่ได้นอกเสียจากเล่นไปตามเกมของมัน ไหนๆ เซียนซีก็บอกว่าจะไปส่งฉันที่โรงเรียนแล้วนี้ ฉันก็โอเค! ไปส่งก็ไปส่งเพราะถ้ามันเป็นความฝันจริงๆ ฉันอยากจะรู้เหมือนกันว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นต่อจากนี้อีก

            “ โอเค งั้นฉันขออาบน้ำแต่งตัวแป๊บหนึ่งนะ ”

            “ งั้นผมลงไปรอพี่ข้างล่างนะ เร็วๆ ด้วยล่ะพี่สาวคนสวย ถ้าช้าเดี๋ยวไม่ไปส่งที่โรงเรียนซะเลย ” เซียนซีพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแล้วขยิบตาให้ฉันหนึ่งทีก่อนจะเดินลงไปข้างล่าง ท่าขยิบตาของเขาเมื่อครู่ มันช่างเป็นท่าที่ดูแล้วสดใสน่ารักมาก โอ้ยย หัวใจละลายแล้วค่า ฉันนั่งฟินและเคลิ้มกับท่าทางแสนน่ารักของเขาราวกับคนสติหลุด #เหตุเกิดเพราะความฟินแท้ๆ

     

            หลังจากที่ฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จฉันก็รีบลงไปข้างล่าง เพราะต้องไปโรงเรียนพร้อมกับหนุ่มสุดหล่ออย่าง ‘เซียนซี’ และเมื่อลงไปถึงข้างล่างฉันก็เห็นเซียนซียืนเล่นโทรศัพท์รออยู่ข้างรถจักรยานสีดำที่หน้าบ้านของฉัน

            “ รอนานไหม ” ฉันถามเขา

            “ ไม่นานหรอก สำหรับ(ชื่อคุณ)ให้นานแค่ไหนผมก็รอได้”เซียนซีพูดแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ฉันก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาจับแก้มของฉันแล้วออกแรงดึงเบาๆ อย่างต้องการจะหยอกเล่นทำเอาฉันใจสั่นและเขินมากจนแทบจะละลายอยู่แล้ว

            “ ระ เรารีบไปกันเถอะ มะ มัวแต่เล่นอยู่เดี๋ยวก็สายกันพอดี ” ฉันพูดออกมาอย่างตะกุกตะกักด้วยความเขินอายที่มีอยู่เหลือล้นในเวลานี้

            เมื่อเซียนซีได้ยินที่ฉันพูดเขาก็ปล่อยมือออกจากแก้มของฉัน แล้วเดินไปขี่จักรยานเพื่อที่จะเตรียมตัวไปส่งฉันที่โรงเรียน

            “ ขอบคุณมากนะที่ไปส่ง ” ฉันบอกเขาแล้วเดินไปนั่งซ้อนท้ายจักรยานของเขาก่อนจะเอามือจับขอบเบาะที่ตัวเองนั่งอยู่อย่างแน่นเพื่อไม่ให้ปลิวตกจักรยานไปเสียก่อนที่จะเดินทางไปถึงโรงเรียน

            “ ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจไปส่งพี่อยู่แล้ว ”เซียนซีหันมาตอบฉันแล้วใช้มือของเขาเอื่อมมาจับมือของฉันที่เกาะขอบเบาะไว้แน่นให้ย้ายมาจับที่เอวของเขาแทน

            “ จับที่เอวผมดีกว่าครับ ปลอดภัยกว่าเยอะ ” เซียนซีพูดแล้วหันมายิ้มให้ฉันก่อนจะปั่นจักรยานออกไปจากบ้านเพื่อไปส่งฉันตามที่พูดไว้

     

            การเดินทางโดยรถจักรยานจากบ้านถึงโรงเรียนนั้นใช้เวลาไม่นานนัก และในตอนนี้เซียนซีก็ปั่นจักรยานจนเกือบจะถึงหน้าประตูรั้วใหญ่ของโรงเรียนแล้ว ฉันเกาะที่เอวของเขาอย่างแน่น เพราะว่าเซียนซีกำลังเร่งความเร็วในการปั่นจักรยานเพื่อให้ถึงโรงเรียนเร็วขึ้น

            ในขณะที่เซียนซีกำลังปั่นจักรยานด้วยความเร็วที่มากขึ้นนั้น มือของฉันที่จับเอวของเขาเริ่มชื้นไปด้วยเหงื่อ และที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าฉันไม่ค่อยชอบการขับรถด้วยความเร็ว ถึงแม้ว่าการขับรถเร็วมันจะสนุกแต่มันก็เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุไม่น้อยเลยที่เดียว ฉันจึงไม่ค่อยชอบสักเท่าไร

            ในขณะที่มืออันชื้นเหงื่อของฉันกำลังเกาะเอวของเขาอย่างแน่น เซียนซีก็ใช้มือข้างหนึ่งของเขาจับเข้าที่มือของฉันซึ่งชื้นไปด้วยเหงื่อก่อนจะพูดกับฉันในขณะที่ปั่นจักรยานไปด้วย

            “ เกาะแน่นๆ นะ จะถึงแล้ว ”เซียนซีบอกพร้อมกับใช้มือของเขาดึงตัวฉันให้เข้าไปติดชิดกับลำตัวของเขามากขึ้น จนใบหน้าของฉันเข้าไปอิงแนบชิดกับแผ่นหลังของเขาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ การกระทำของเขาทำเอาฉันแอบใจสั่นอย่างเบาๆ อยู่ที่เบาะหลังของจักรยานแต่เพียงผู้เดียว

            “ ถึงแล้ว ”เซียนซีจอดรถจักรยานตรงหน้าประตูรั้วใหญ่ของโรงเรียนก่อนจะหันหน้ามาพูดกับฉันอีกหนึ่งประโยค

            “ พี่เดินเข้าไปในโรงเรียนก่อนเลยนะครับ เดี๋ยวผมจะเอาจักรยานไปจอดแล้วคงไปซื้ออะไรกินที่ตลาดข้างโรงเรียนด้วย บ๊าย บายนะครับ พี่สาว ” เซียนซีพูดแล้วโบกมือลาฉันก่อนจะส่งยิ้มหวานๆ มาให้ฉันอีกรอบหนึ่ง โอ้โห้! เซียนซี นายจะทำตัวน่ารักไปถึงไหน รู้ไหมว่าฉันทั้งฟินทั้งเขินจนแทบจะจิกกระโปรงตัวเองขาดอยู่แล้วเนี่ย

            “ บ๊าย บายจ้า ” ฉันโบกมือลาเซียนซีที่กำลังยืนยิ้มให้ฉันอยู่ แล้วจึงค่อยขี่จักรยานออกไป ทิ้งให้ฉันยืนอยู่ที่หน้าโรงเรียนคนเดียว

            ฉันยืนมองโรงเรียนและหันซ้ายหันขวาเพื่อสังเกตทุกๆ อย่างโดยรอบอย่างละเอียด เพราะในโลกแห่งความฝันที่ฉันกำลังยืนอยู่ตอนนี้อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นอีกเมื่อไรก็ได้

     

            ฉันเดินเข้าไปในอาคารเรียนและสังเกตสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวอย่างละเอียดแต่ก็ไม่พบถึงความผิดปกติใดๆ ฉันจึงเดินขึ้นไปบนห้องเรียนเพื่อที่จะไปนั่งพัก แต่แล้วฉันก็ได้พบกับเรื่องไม่คาดฝันที่กำลังเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

            “ นะ นี่ มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ”ฉันพึมพัมอยู่คนเดียวด้วยความตกใจ เพราะเมื่อฉันเดินเข้ามาในห้องเรียนก็พบว่าเพื่อนๆ ในห้องของฉันหายไปกันหมดเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกมากเพราะถึงแม้ว่าจะยังไม่ใช่เวลาเข้าเรียนแต่ก็ต้องมีเด็กสักกลุ่มสองกลุ่มมานั่งเล่นกันอยู่บนห้องบ้าง แต่ตอนนี้กลับไม่มีใครอยู่เลย นอกเสียจากกลุ่มเด็กผู้ชายสามคนที่กำลังนั่งคุยกันอยู่อย่างสนุกสนานตรงหลังห้อง

            ซึ่งผู้ชายสามคนที่กำลังนั่งคุยกันอยู่นั้นก็เป็นคนที่ฉันรู้จัก แต่คำว่า ‘รู้จัก’ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพื่อนร่วมชั้นหรือคนที่รู้จักในชีวิตจริงๆ แต่ที่รู้จักก็เพราะว่าเขาเป็น ‘นักร้อง’ ชื่อดัง ซึ่งผู้ชายสามคนที่นั่งอยู่หลังห้องนั้นประกอบไปด้วย ‘หวัง จุนไค’ ลีดเดอร์สุดหล่อแห่งวง TFBoysและ ‘หลิว จื่อฮง’ เด็กหนุ่มที่น่ารักสดใส ส่วนคนสุดท้ายคือ ‘ติง เฉิงซิน’ เด็กฝึกหน้าใสจากค่าย TF Entertainment

            ฉันยืนมองพวกเขาด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำราวกับจังหวะเพลงแดนซ์มันๆ ในผับ แล้วในขณะที่ฉันกำลังยืนมองพวกเขาเหล่านั้นอยู่ ฉันก็รู้สึกได้ว่ามีร่างของใครสักคนเดินเข้ามาชนฉันจากด้านหลัง จึงทำให้ฉันทรงตัวไม่อยู่และลื่นถลาหงายหน้าไปข้างหลัง

            ในตอนนั้นฉันคิดว่าคงต้องล้มหัวฟาดพื้นแล้วแน่ๆ แต่ก็เหมือนโชคช่วย เมื่อมีชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาช้อนร่างของฉันก่อนจะตกถึงพื้นได้ทันเวลาพอดี ฉันหลับตาปี๋ด้วยความกลัวก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาแล้วก็พบว่าคนที่มาช้อนร่างของฉันไว้ คือ ‘หวัง หยวน’ หนึ่งในสมาชิกวง TFBoys

            “นะ นาย” ฉันพูดติดอ่างด้วยความตกใจ เพราะว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่มีความสุขอย่างนี้มาก่อน นอกจะได้นั่งซ้อนท้ายจักรยานของเซียนซีแล้ว ยังเจอหยวนมาช่วยรับร่างของฉันไว้ไม่ให้กระแทกพื้นอีก โอ๊ยย ฟินจังเลยจ้า จะเป็นไปได้ไหมนะ ถ้าฉันจะขอฝันแบบนี้ตลอดไปเลย

            “ ขอโทษนะครับ เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ ”หยวนถามฉันก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้เพียงเล็กน้อยแล้วมองหน้าของฉันอย่างสำนึกผิดที่ทำให้ฉันลื่นล้ม

            “ไม่เป็นไรค่ะ”ฉันบอกเขา แล้วใช้มือข้างหนึ่งยันตัวให้ลุกขึ้นมายืนได้ตามปกติ ก่อนจะมองไปยังกลุ่มของ ‘จุนไค’ ‘จื่อฮง’ และ ‘เฉิงเฉิง’ ที่กำลังมองฉันอยู่จากหลังห้อง

            “ ไปกันเถอะครับ ไปหาที่นั่งกัน ” หยวนหันมาพูดกับฉันแล้วดึงตัวฉันให้เดินตามเขาไปตรงบริเวณหลังห้อง แล้วจึงหยุดเดินเมื่อมาถึงโต๊ะที่กลุ่มของจุนไคนั่งเล่นกันอยู่

            หยวนจัดการลากเก้าอี้ที่อยู่บริเวณนั้นมาให้ฉันนั่งร่วมกลุ่มกับ ‘จุนไค’ ‘จื่อฮง’ และ ‘เฉิงเฉิง’ ส่วน ‘หยวน’ ก็ไม่ได้ไปนั่งที่ไหนไกลแต่ลากเก้ามานั่งข้างๆ ฉันนี้แหละ โอ้! พระเจ้าช่วย อะไรมันจะโรแมนติกปานนี้ การที่ฉันได้นั่งร่วมกลุ่มกับหนุ่มสุดหล่อทั้งสี่คน มันคงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลยในชีวิตจริง

            “ สวัสดี ”จุนไคหันมามองหน้าฉันแล้วเอ่ยคำทักทาย

            “ เอ่อ.. สะ สวัสดีค่ะ ”ฉันตอบเขาไปด้วยน้ำเสียงเบาๆ และตะกุกตะกักเล็กน้อย

            “ เป็นอะไรไป เธอดูเกร็งๆ นะ ” จุนไคมองฉันอย่างจ้องจับผิด ซึ่งการกระทำแบบนั้นของเขาทำให้ฉันยิ่งเกร็งมากเข้าไปอีก ตอนนี้ฉันเกร็งมากจนมือไม้เริ่มสั่นเนื่องจากกำลังเขินจัด และดูเหมือนว่าจุนไคจะสังเกตเห็นได้ถึงความผิดปกติของฉันเขาจึงยื่นมือของเขามาจับที่มือของฉันเบาๆ ก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาใกล้แล้วกระซิบที่ข้างหูของฉันอย่างแผ่วเบาราวกับว่าเรื่องที่จะบอกออกไปนั้นเป็นความลับระหว่างเราแค่สองคน

            “ ไม่ต้องเขินนะ อยู่กับฉันทำตัวสบายๆ ก็พอ ”จุนไคกระซิบประโยคนั้นและจึงค่อยผละออกจากฉัน ก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิม ซึ่งในเวลาต่อมาไม่นานเสียงแซวจากเฉิงเฉิงก็ดังขึ้นทำลายความเงียบ

            “ พี่จุนไคนี้ไม่ธรรมดาเลยนะ เพิ่งเจอผู้หญิงคนนี้แค่ครั้งแรกก็กล้าทำขนาดนี้เลยหรอ ” เฉิงเฉิงเอ่ยแซวจุนไคหลังจากที่เพิ่งเห็นท่าที่จุนไคกระซิบที่ข้างหูฉันไปเมื่อครู่

            “นั้นสิ เพิ่งจะเจอกันแค่ครั้งแรกเอง ว่าแต่เธอชื่ออะไรหรอ?” จื่อฮงพูดขึ้นแล้วหันหน้ามาถามฉัน

            “ ฉันชื่อ(ชื่อคุณ) ”

            “ อ่อ ชื่อน่ารักจังครับ ”จื่อฮงตอบฉันหลังจากที่ฉันบอกชื่อออกไป

            “ ขอบคุณค่ะ ”ฉันกล่าวตอบไปตามมารยาทแล้วยิ้มให้จื่อฮง ซึ่งจื่อฮงก็ยิ้มให้ฉันด้วยเหมือนกัน รอยยิ้มอันสดใสของจื่อฮงทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงนิดๆ ด้วยความรู้สึกดีใจกับการที่เขาชมชื่อของฉันว่าเป็นชื่อที่น่ารัก

            “ แหมๆ พอได้โอกาสก็ชวนสาวคุยเลยนะ จื่อฮง ”จุนไคเอ่ยแซวจื่อฮง

            “ พี่ก็เหมือนกันแหละ เจอสาวแค่ครั้งแรกก็มีกระซิบข้างหูกันด้วย ธรรมดาซะที่ไหน ”จื่อฮงตอบจุนไค

            “ นี้! พวกนายเงียบๆ กันไปเลย ”หยวนที่นั่งเงียบอยู่นานตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังมากนักแต่ก็ทำให้ทุกคนเงียบได้ แล้วจึงพูดอีกประโยคหนึ่งขึ้นมา

            “ฉันอุตส่าห์เจอสาวน้อยน่ารักคนนี้ก่อนใครเลยด้วยซ้ำ แต่เราสองคนแทบจะไม่ได้คุยกันเลย นั้นก็เพราะว่าพวกนายเอาแต่ชวนเธอคุยเพราะฉะนั้นต่อจากนี้ฉันขออยู่กับ(ชื่อคุณ)สองต่อสองบ้างแล้วกัน”หยวนบอกทุกคนในกลุ่มที่นั่งฟังอยู่ก่อนจะหันมามองฉันแล้วจูงมือข้างขวาของฉันให้เดินออกจากวงสนทนาตามเขาไป

            แต่แล้วในขณะที่ฉันกำลังเดินตามหยวนไป จุนไคก็เดินเข้ามาจับมือข้างซ้ายของฉันที่ยังว่างอยู่เอาไว้แล้วพูดกับหยวนว่า..

            “ ฉันคงปล่อยให้(ชื่อคุณ)ไปอยู่กับนายสองต่อสองไม่ได้หรอก ”จุนไคบอกหยวนด้วยสีหน้าที่จริงจัง ซึ่งฉันเองก็ได้แต่มองจุนไคและหยวนสลับไปสลับมา โดยที่ยังแอบเก็บอาการฟินเล็กๆ เอาไว้ในหัวใจ เพราะว่าเกิดมาเพิ่งจะเคยเจอเหตุการณ์ที่แบบโดนผู้ชายหล่อสองคนเข้ามาจับมือฉันแต่เป็นคนละข้างและฉันก็เป็นผู้โชคดีที่ได้จับมือกับหนุ่มหล่อทั้งสองคน #งานนี้มีแต่ฟินกับฟินค่ะ

            “ ทำไม?”หยวนหันมาถามจุนไค ซึ่งจุนไคไม่ได้พูดอะไรกับอีกฝ่าย แต่เขาบอกคำตอบด้วยการดึงร่างของฉันไปจากหยวน ทำให้มือของฉันที่ถูกหยวนจับอยู่เป็นอันต้องหลุดออกจากกันโดยอัตโนมัติ

            “ เพราะว่า.. ”จุนไคพูดกับหยวนด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ดูมีพลังบางที่ทำให้ต้องฟังต่ออย่างไม่อาจละเลยได้

            “ เพราะว่าอะไร?” หยวนถามย้ำและจ้องเขม็งมาที่จุนไคอย่างรอฟังคำตอบ โดยที่ไม่ได้มีเพียงแค่ฉันกับหยวนที่รอฟังคำตอบจากจุนไค คนอื่นๆ ในวงสนทนาก็จดจ่อกับสิ่งที่จุนไคกำลังจะพูดด้วยเหมือนกัน

            “ เพราะว่าเธอคนนี้ ฉันจองแล้ว ”จุนไคหันไปตอบหยวนและทุกๆ คนด้วยน้ำเสียงที่ดังพอสมควรอย่างกับต้องการจะประกาศให้โลกรู้ว่าฉันถูกเขาจองแล้ว ควรจะฟินขนาดไหนดีนะกับการเป็นผู้หญิงที่ถูกจุนไคจอง

            แต่เรื่องราวในฝันแสนหวานของฉันคงไม่ได้มีแค่สีชมพูเท่านั้นน่ะสิ เพราะว่าจู่ๆ หยวนก็ดึงร่างของฉันที่ถูกจุนไคจับมืออยู่อย่างหลวมๆ ให้ไปอยู่ข้างเขาแทน แล้วค่อยหันไปพูดกับจุนไคต่ออีกรอบหนึ่ง

            “ งั้นนายก็คงมาจ้องช้าไปแล้วแหละ เพราะว่าเธอคนนี้เป็นของฉันแล้ว ”หยวนพูดแล้วแสยะยิ้มให้จุนไค ซึ่งฉันและทุกคนในวงสนทนาก็ได้แต่อึ้งและนิ่งค้างไปตามๆ กันกับคำตอบของหยวน #โอ้! นี้กำลังจะเกิดศึกชิงนางขึ้นแล้วใช่มั้ยย



    H&H
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×