คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [ Qian x Hong ] Love Rain : 2
- 2 -
หลังจากที่โดนประตูอัดใส่หน้าเข้าอย่างแรง เซียนซีก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นกุมศีรษะ
ของตนเองที่ปวดหนึบ เขาหลับตาลงแล้วยืนนิ่งอยู่กับที่ครู่หนึ่งเพื่อตั้งสติก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วสบถกับตนเอง
เบาๆ ด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด
" บ้า เอ้ย ! " เขาสบถออกมาอย่างอารมณ์เสียก่อนจะผลักประตูห้องพักครูเข้าไปแล้วรีบวิ่งตามจื่อฮงไปทันที
จื่อฮงเดินไปยังโต๊ะของอาจารย์แล้ววางหนังสือแบบฝึกหัดลงบนโต๊ะเพื่อส่งงานอย่างไม่ได้สนใจเซียนซีที่วิ่ง
ตามมาเลยแม้แต่น้อย จนกระทั้งอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ในระยะประชิดเกินกว่าจะจินตนาการได้
" จื่อฮง " น้ำเสียงเรียบและเยือกเย็นของเซียนซีดังอยู่ที่ข้างหูของจื่อฮงทำให้ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกแล้วรีบเขยิบ
ตัวเองให้ห่างออกมาจากเซียนซีทันที
" ไม่คิดจะขอโทษกันสักหน่อยเลยหรอ ? " เซียนซีถามพร้อมกับวางหนังสือแบบฝึกหัดที่ถืออยู่ลงบนโต๊ะ
อย่างเบาๆ แล้วหันหน้าไปหาจื่อฮงที่ยืนนิ่งค้างอยู่ราวกับโดนมนต์สะกด
" ไม่ " จื่อฮงตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินหนีเซียนซีไปอีกทาง ร่างเล็กรีบวิ่งออกไปจากห้องพักครู
โดยมีเซียนซีตามมาติดๆ
" นี้ ! จะตามมาอีกนานมั้ย ? " จื่อฮงหันหน้ากลับไปหาเซียนซีที่เดินตามหลังมา แล้วพูดกึ่งตวาดใส่อีกฝ่าย
หลังจากที่ทั้งคู่วิ่งออกมาจากห้องพักครูได้ไกลพอสมควรแล้ว
" นายนี้มันนิสัยแย่จริงๆ เลย ฉันอุตส่าห์ช่วยแบกหนังสือหนักๆ มาส่งให้ ขอบคุณสักคำก็ไม่มี " เซียนซีตอบ
จื่อฮงด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์โมโหและสีหน้าที่แสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน
จื่อฮงได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อจนทำอะไรไม่ถูก เพราะ ทุกอย่างที่เซียนซีพูดเปรียบเป็นดั่งเข็มที่แทงทะลุลงไป
ถึงหัวใจของเขา เขารู้ตัวดีว่าเขามันนิสัยแย่ แต่ที่แย่กว่านั้น คือการที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะพูดคำว่า ขอโทษ
กับเซียนซี ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายผิดแท้ๆ
เคยไหม... ทั้งที่รู้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดแต่กลับไม่รู้ว่าจะ ขอโทษ อีกฝ่ายยังไง
" นี้ ! สรุปว่านายไม่คิดจะ ‘ขอโทษ‘ ฉันจริงๆ ใช่มั้ย ? " เซียนซีถามจื่อฮงอีกรอบด้วยท่าทางที่ยังโมโหอยู่
" ไม่... " จื่อฮงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาเสียจนเสียงที่พูดออกมาแทบจะถูกกลืนหายไปในอากาศ
ก่อนจะพูดอีกประโยคหนึ่งขึ้นมาเสริมด้วยน้ำเสียงดังมากกว่าเดิมเพียงนิดหน่อย
" ไม่จำเป็นต้องขอโทษ เพราะ นายถามฉันในเรื่องที่ไม่ควรถามก่อน " จื่อฮงตอบพร้อมกับจ้องหน้าเซียนซี
" ถามว่า นายสนิทกับจุนไคมั้ย นี้น่ะหรอ เรื่องที่ไม่ควรถาม ? " เซียนซีถามกลับ
ส่วนจื่อฮงก็ได้แต่ยืนนิ่งๆ ไม่ตอบอะไร เพราะว่า เขาไม่อยากจะพูดอะไรออกไปมากกว่านี้
จนทำให้อีกฝ่ายรู้เรื่องระหว่างเขากับจุนไค เพราะถ้ามีใครรู้เรื่องนี้เข้าล่ะก็.. มันคงจะไม่ดีแน่ๆ
" ไม่ตอบ .. ใช่ ฉันมันผิดเองแหละ ที่ไปถามในเรื่องที่ไม่ควรถาม แต่นายไม่ต้องห่วงหรอก
เพราะต่อไปนี้ ฉันจะไม่ถามและไม่ช่วยเหลือคนอย่างนายอีกต่อไปแล้ว " เมื่อเซียนซีพูดจบ
เขาก็เดินจากไปทันที ทิ้งให้ร่างเล็กยืนนิ่งอยู่เพียงลำพังโดยมีสายลมเอื่อยๆ พัด เข้ามากระทบกับผิวเบาๆ
เซียนซีเดินลงมาจากบันไดของอาคารเรียนก่อนจะเดินไปยังประตูทางออก เพื่อที่จะกลับบ้านแต่ทว่า...
ฟ้าฝนคงไม่เป็นใจซะแล้วล่ะ
ครืน ครืน... เสียงของท้องฟ้าเบื้องบนคำรามออกมาเป็นระยะๆ เหมือนเป็นดั่งสัญญาณเตือนให้ผู้คนที่อยู่
เบื้องล่างรู้ว่าฝนกำลังจะตกในอีกไม่ช้าต่อจากนี้ ผู้คนมากมายต่างนำร่มและเสื้อกันฝนออกมาใช้กันอย่างล้นหลาม
คงเหลือแต่เซียนซีที่ยังยืนอยู่หน้าประตูทางออกของอาคารเรียนและมองขึ้นไปยังฟ้าสีเทาอันมืดครึ้มอยู่พักหนึ่ง
ก่อนที่จะมีหยดน้ำเล็กๆ หยด แปะ แปะ ลงมาที่พื้น และแล้วฝนก็เทลงมาอย่างหนักในเวลาต่อมา
‘สงสัยคงต้องรอ จนกว่าฝนจะหยุดซะแล้ว‘ เซียนซียืนคิดอยู่คนเดียวในใจ ก่อนจะรู้สึกตัวได้ว่า
มีร่างของใครคนหนึ่งมายืนอยู่ข้างหลัง ทำให้เซียนซีต้องหันไปมองแล้วก็พบว่าเป็นจื่อฮง ...
" กลับด้วยกันมั้ย ? " จื่อฮงถามเซียนซี แต่เซียนซีได้แต่ยืนนิ่งไม่ตอบอะไร จื่อฮงจึงเอาร่มออกมา
จากกระเป๋านักเรียน ก่อนจะกางร่มออกแล้วเดินผ่านเซียนซีไปอยู่ที่หน้าประตูทางออกของอาคารเรียน
แล้วจึงหันหน้ามาหาเซียนซี ก่อนจะถามเขาซ้ำอีกรอบ
" นายไม่ได้พกร่มมาใช่หรือป่าว จะกลับด้วยกันมั้ย ? "
ในขณะที่จื่อฮงถามเขาซ้ำอีกหนึ่งครั้ง เซียนซีเองก็กำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ว่าควรจะตอบอย่างไรดี
ทั้งที่มันไม่ใช่คำถามที่ตอบยากเลยสักนิดเดียว แต่ปัญหาก็คือ ทำม๊าย ทำไม! มันต้องเป็นจื่อฮงที่เขาต้องกลับบ้าน
ด้วยล่ะเนี่ย
และแล้วในขณะที่ต่างฝ่ายต่างเงียบกันอยู่นั้นเอง จื่อฮงจึงเป็นฝ่ายเอื้อมมือเข้าไปดึงแขนของเซียนซีเบาๆ
ให้เดินเข้ามาอยู่ในร่มเดียวกันกับเขา
" กลับด้วยกันเถอะ " จื่อฮงหันไปกระซิบกับเซียนซีที่ยืนอยู่ข้างตนเองอย่างเบาๆ หลังจากนั้นเขาก็
จูงมือเซียนซี แล้วเดินต่อไปข้างหน้าเพื่อที่จะกลับบ้าน โดยที่สายฝนจากเบื้องบนยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด แล้วเริ่มตกแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เซียนซีต้องเขยิบตัวเข้าไปอยู่ในร่มให้มาก
ขึ้นเพื่อไม่ให้ฝนจากภายนอกสาดเข้ามาถูกร่างกายของเขามากเกินไป ซึ่งนั้นทำให้ร่างของเขาเข้าไปชิดกับ
จื่อฮงมากขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
" ขอโทษนะ.. " จู่ๆ จื่อฮงก็พูดขึ้นมา จึงทำให้เซียนซีที่กำลังเดินมองฟ้ามองฝนอย่างเพลินๆ
หันมาสนใจจดจ่ออยู่กับคำพูดของจื่อฮงทันที
" เพิ่งจะมาขอโทษตอนนี้เนี่ยนะ สายไปมั้ย? " เซียนซีตอบ
" ไม่รู้สิ.. " จื่อฮงพูดออกมาสั้นๆ ก่อนจะเงียบไป ซึ่งเซียนซีก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ทั้งสองคนเดินต่อไปท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ละอองของสายฝนและลมเย็นๆ พัดเข้ามา
กระทบกับผิวกายของพวกเขาอย่างเบาๆ ทำให้รู้สึกเย็นสดชื่นเสียเหลือเกิน เส้นทางเบื้องหน้าของพวกเขา
เป็นประตูใหญ่ของโรงเรียน ที่มีนักเรียนเดินเข้าออกกันเต็มไปหมดในเวลาเย็นหลังเลิกเรียน แต่ก่อนที่ทั้งสอง
จะได้เดินออกจากประตูโรงเรียน จื่อฮงก็เป็นฝ่ายที่หยุดเดินเสียก่อน จึงทำให้เซียนซีต้องหยุดเดินตามไปด้วย
" ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่ามันสายไปหรือป่าว.. แต่ฉันคิดว่า ฉันควรจะขอโทษนาย " จื่อฮงพูดออกมาอย่างเบาๆ
จนเหมือนกับว่าเสียงของเขาแทบจะกลืนไปกับสายฝนที่ตกลงมา โดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าเซียนซีเลยสักนิดเดียว
" ... " เซียนซีหันไปมองหน้าของจื่อฮงโดยที่ไม่ได้ตอบอะไรออกไป
ก่อนจะเดินต่อไปข้างหน้าเมื่อจื่อฮงเริ่มเดินต่อไป พวกเขาสองคนเดินไปเรื่อยๆ จนพ้นประตูทางออกของโรงเรียน
เมื่อพ้นประตูทางออกของโรงเรียนมาได้สักพักแล้ว ทั้งสองคนก็ไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาอีก จนกระทั้งจื่อฮงเป็นฝ่ายพูดก่อน
" นายยังโกรธฉันอยู่ใช่มั้ย ? "
" โกรธ.. "
" งั้นหรอ ขอโทษด้วย.. แต่ฉันคงไม่มีวิธีอะไร ที่ทำให้นายหายโกรธได้หรอกนะ " จื่อฮงตอบ
" แต่ฉันว่า มันมีอยู่วิธีหนึ่งนะ " เซียนซีตอบ
" อะไร ? " จื่อฮงถามด้วยความสงสัย แล้วเซียนซีก็ใช้มือของตนแย่งร่มที่จื่อฮงถืออยู่ ก่อนจะผลักร่างเล็ก
ให้พ้นออกไปจากรัศมีของร่มที่บังฝนอยู่อย่างเบาๆ จนทำให้ร่างเล็กของ
" ก็แบบนี้ไง ฮ่าๆๆ " เซียนซีตอบพร้อมกับอมยิ้มไปด้วย ที่ได้แกล้งอีกฝ่าย
ตอนนี้เสื้อผ้าของจื่อฮงเริ่มเปียกมากขึ้นทุกทีเนื่องจากถูกฝนที่ตกลงมาสาดใส่ แต่เขากลับไม่มีท่าทีว่าจะ
สะทกสะท้านเลยสักนิด ร่างเล็กมองหน้าเซียนซีที่ยืนถือร่มอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะแอบยิ้มมุมปากเล็กๆ แล้วพูดว่า..
" โดนประตูอัดใส่หน้าแล้ว ยังไม่เข็ดใช่มั้ย ? อยากโดนหนักกว่านี้ใช่มั้ย ฮ่าๆๆ " จื่อฮงพูด
พร้อมกับอมยิ้มที่มุมปากไปด้วย เมื่อพูดจบ จื่อฮงก็เดินกึ่งวิ่งเข้าไปหาเซียนซี
เพื่อพยายามจะแย่งร่มคืนจากอีกฝ่าย
แต่เมื่อเซียนซีเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะเข้ามาใกล้ เขาเลยถอยหลังหนีออกไปอีก จึงทำให้จื่อฮง
ต้องวิ่งไล่ตามเซียนซี จนดูเหมือนกับว่าพวกเขาสองคนกำลังเล่นวิ่งไล่จับกันอยู่
ท่ามกลางสายฝนที่กำลังโปรยปรายลงมา โดยมีพายุและลมหนาวพัดเข้ามาในขณะที่ฝนตก
จึงทำให้เม็ดฝนที่ตกลงมาปลิวไปตามแรงลมจนดูคล้ายกับละอองหิมะ
ช่วงที่ทั้งสองกำลังวิ่งเล่นกันอยู่อย่างมีความสุข จื่อฮงก็รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังจะมีบางอย่าง
เกิดในใจของเขา ทั้งที่จื่อฮงไม่ชอบให้ใครมาเล่นแบบนี้ แต่ทำไมตอนนี้ ตอนที่วิ่งไล่จับอยู่กับเซียนซี
เขาถึงได้รู้สึกสนุกและมีความสุข จนทำให้คนหน้านิ่งอย่างเขายิ้มออกมาได้กันนะ
" อย่าหนีนะ เอาร่มฉันคืนมา " จื่อฮงวิ่งตามเซียนซีพร้อมกับตะโกนบอกอีกฝ่าย แต่เซียนซีกลับแกล้ง
จื่อฮงโดยการทำเป็นไม่สนใจคำพูดของเขาและวิ่งหนีร่างเล็กต่อไปเรื่อยๆ
แต่ไม่ได้ไกลไปจากจุดที่พวกเขาสองคนอยู่เมื่อสักครู่มากนัก
และแล้วในขณะที่จื่อฮงกำลังวิ่งตามเซียนซีอยู่นั้นเอง จื่อฮงก็สะดุดล้มลงไปอย่างกะทันหัน
เนื่องจากพื้นฟุตบาทนั้นเต็มไปด้วยน้ำ ร่างเล็กที่วิ่งอย่างไม่ทันระวังจึงลื่นล้มลงไป
เมื่อเซียนซีเห็นว่าจื่อฮงหกล้มอยู่กลางทาง เขาจึงรีบย้อนกลับไปหาจื่อฮง แล้วเห็นว่าจื่อฮงกำลังนั่งอยู่บน
ฟุตบาทที่มีน้ำเจิ่งนองเต็มไปหมด
" เป็นอะไรเปล่า ? " เซียนซีตะโกนถาม หลังจากที่เดินกึ่งวิ่งกลับมาหาจื่อฮง ก่อนจะนั่งยองๆ
ลงข้างร่างเล็ก โดยที่เขายังคงถือร่มกันฝนเอาไว้ แต่ไม่ได้ยกขึ้นมาบังฝนให้ร่างเล็กที่ล้มอยู่บนพื้นด้วย
" เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร แค่ล้มเฉยๆ " จื่อฮงเงยหน้าขึ้นมามองเซียนซีที่กำลังนั่งยองๆ
อยู่ตรงหน้าของตนเอง ก่อนจะยกมือขึ้นมากอดตัวเองอย่างหลวมๆ เพราะว่าละอองฝนและลมที่พัดเข้ามา
ถูกร่างกายทำให้เขาเริ่มที่จะรู้สึกหนาวซะแล้วสิ
เมื่อเซียนซีเห็นว่าร่างของจื่อฮงกำลังถูกฝนสาด เขาจึงยกร่มขึ้นมาบังให้จื่อฮง แต่เนื่องจากร่มที่เขาถืออยู่
มีขนาดเล็ก จึงทำให้เซียนซีต้องเขยิบตัวเข้าไปใกล้ๆ กับจื่อฮง
ขณะที่เซียนซีกำลังเขยิบเข้ามาใกล้ จื่อฮงที่ล้มอยู่บนพื้นนั้นเอาแต่จ้องมองเซียนซี
ด้วยใบหน้านิ่งเฉยและไร้การตอบสนองใดๆ จนทำเอาเซียนซีที่มองมันอยู่ในระยะประชิด
เผลอหัวเราะออกมาเล็กๆ ก่อนจะ เปิดบทสนทนากับอีกฝ่ายก่อน..
" ลุกไหวมั้ย? " เซียนซียื่นมือออกไปให้อีกฝ่ายจับ จื่อฮงจึงจับมือของเซียนซีแล้วทั้งคู่ก็ลุกขึ้นมาจาก
พื้นด้วยกัน แต่ในขณะที่จื่อฮงกำลังลุกขึ้นมานั้น เขาก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ขาข้างขวา จนทำให้จื่อฮงสะดุด
และเอียงตัวเซล้มไปหาเซียนซี
ส่วนเซียนซีเมื่อเห็นว่าจื่อฮงกำลังล้มลงมาก็รีบเอียงตัวเข้ามารับร่างของจื่อฮงเอาไว้
ทำให้ใบหน้าของจื่อฮงซบลงมาที่แผงอกของเขาพอดี
" ให้ฉันช่วยพยุงนายแล้วกันนะ " เซียนซีพูด จื่อฮงจึงเงยหน้าขึ้นมามองเซียนซี ในขณะที่เซียนซีก็ก้มมอง
จื่อฮงที่ซบแผงอกของเขาอยู่ จึงทำให้สายตาของทั้งคู่ได้ประสานกันโดยบังเอิญ
ในบรรยากาศที่ฝนกำลังตกพร่ำๆ เป็นละอองและท้องฟ้าสีเทาหม่น ทั้งคู่สบตากัน โดยไม่มีใครพูดอะไรออกมา
เหมือนดั่งเวลาหยุดค้าง เหมือนดั่งทุกอย่างหยุดนิ่ง ไร้การเคลื่อนไหวของสรรพสิ่งใดๆ ในโลก
" โอ้ย.." จื่อฮงอุทานออกมา แล้วก็ทำท่าเหมือนจะลื่นล้มลงไปอีกรอบ จึงทำให้ทั้งคู่ได้สติขึ้นมา
หลังจากที่เงียบกันไปนาน แต่จื่อฮงยังรู้สึกเจ็บที่ขาอยู่ จึงลองถกขางกางเกงขึ้นดูก็พบว่า
ที่ขาของเขามีแผลถลอกจากการล้มเมื่อกี้
" ฉันว่านายเดินไม่ไหวหรอก นายขี่หลังฉันดีกว่า เดี๋ยวฉันไปส่งที่บ้านเอง " คำพูดของเซียนซี
ทำให้จื่อฮงถึงกับอึ้งค้างไปเลย นี้! เขาต้องทำขนาดนี้เลยหรอ มันโอเวอร์ไปมั้ย
" ไม่ต้องหรอก " จื่อฮงปฏิเสธ แต่เซียนซีไม่ยอม เขาเดินไปขวางจื่อฮงข้างหน้า แล้วยืนหันหลังให้
พร้อมกับบอกว่า..
" ขึ้นมาเถอะ ถือว่า เป็นการขอโทษ ที่ฉันทำให้นายเจ็บแล้วกัน " จื่อฮงลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบตกลง
" ก็ได้.. " จื่อฮงตอบแล้วก็ปีนขึ้นหลังเซียนซี
" นายนี้ ตัวหนักเหมือนกันนะ ถือร่มกันฝนให้หน่อยสิ " เซียนซีบอกแล้วยื่นร่มให้จื่อฮง ตอนนี้จื่อฮงอยู่
ในท่าที่ใช้มือข้างหนึ่งกอดคอเซียนซีเอาไว้ขณะขี่หลัง ส่วนอีกมือก็ถือร่มบังฝนให้ตนเองและเซียนซี
" ไม่ต้องพูดมากเลย ก็นายบอกว่าอยากให้ฉันขี่หลังเองไม่ใช่หรอ " จื่อฮงบ่นออกมาในขณะที่อยู่
บนหลังเซียนซี
" นายนี้ ปากร้ายจริงๆ เลยนะ ปล่อยลงกลางทางเลยดีไหมเนี่ย ? " เซียนซีบอกพร้อมกับแกล้ง
โยกตัวให้เอนไปทางด้านหลัง เพื่อแกล้งจื่อฮงรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะตกลงไปจากหลังของเซียนซี
ทำให้จื่อฮงต้องเอามือกอดคอเซียนซีเอาไว้อย่างแน่น จนให้พวกเขารู้สึกหวั่นไหวเล็กๆ
เวลาที่ผิวกายของเราสองได้เสียดสีและสัมผัสกับอย่างเบาๆ ในยามฝนพร่ำที่เนื้อตัวเปียกปอน
" หยุดนะ เดี๋ยวฉันก็ตกลงไปหรอก " จื่อฮงตะโกนบอก เซียนซีจึงเลิกแกล้งจื่อฮงแล้วกลับมายืนให้ท่าปกติ
" บ้านของนายอยู่ที่ไหน? "
" เดินตรงจากที่นี้ไปอีกนิดหนึ่ง แล้วเลี้ยวขวา มันจะมีซอยเล็กๆอยู่ตรงนั้น ส่วนบ้านฉันก็อยู่ในซอยนั้นล่ะ " จื่อฮงตอบ
" งั้นตอนที่ฉันเดินไป นายก็บอกทางไปด้วยแล้วกัน ไม่เคยไปเลย กลัวหลง "
" ได้ "
และแล้วเซียนซีก็พาจื่อฮงมาส่งถึงบ้านโดยใช้เวลาไม่นานนัก เนื่องจากบ้านของจื่อฮงไม่ได้อยู่ไกลจาก
โรงเรียน แม้ว่าฝนยังคงตกปรอยๆ อยู่ตลอดทางแต่ก็ยังดีกว่าตกลงมาหนักๆเหมือนตอนแรก
เมื่อถึงบ้านแล้วจื่อฮงก็ลงมาจากหลังของเซียนซีทันที
" ขอบคุณนะ ที่พามาส่ง แต่วันหลังไม่นายต้องแบกฉันมาอีกแล้วนะ " จื่อฮงพูดขึ้นมา
" อ่อ ไม่อยากให้ฉันแบกมาส่ง แสดงว่านายอยากเดินกลับบ้านกับฉันแทนใช่ไหม บอกมาๆ " เซียนซี
ตอบด้วยท่าทางที่ดูขี้เล่น
" ยังไม่ได้บอกเลย ว่าอยากจะกลับด้วย อย่าคิดไปเองได้ป่ะ " จื่อฮงตอบออกไปแบบนั้น ทั้งที่ในใจของเขา
กลับรู้สึกว่ามันโรแมนติคดีนะ ที่มีคนมาให้ขี่หลังแล้วพากลับบ้าน เหมือนในนิยายเลย
" ฉันแค่พูดเล่นเฉยๆ ไม่เห็นต้องทำหน้าดุใส่เลย "
" ก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำหน้าดุใส่แต่นายชอบมากวนฉันก่อนนี้ "
" งั้นหรอ…"
" อ่ะ ฉันให้ยืมร่ม ฝนยังตกปรอยๆ อยู่เลย เดี๋ยวนายจะไม่สบาย ถ้าเดินตากฝนกลับบ้าน
จื่อฮงบอกและยื่นร่มที่ตนถืออยู่ในเซียนซี ก่อนจะเดินไปเปิดประตูรั้วบ้าน
" ขอบคุณมาก ฉันกลับก่อนนะ " เซียนซีพูดก่อนจะโบกมือลาจื่อฮง แล้วเดินจากไป
" อืม " จื่อฮงได้แต่ตอบสั้นๆ โดยไม่ได้โบกมือลาเซียนซีเลย ถึงแม้ภายนอกจื่อฮงจะทำเป็นไม่สนใจว่า
เซียนซีจะอยู่หรือจะไปไหนแต่จริงๆ แล้ว มันไม่ใช่เลย เขาแค่ไม่ชอบคุยกับคนที่ไม่สนิทเท่านั้นเอง
" เซียนซี กลับบ้านดีๆ นะ " จื่อฮงที่ทำท่าเหมือนกำลังจะเข้าบ้านออกมาอีกรอบแล้วตะโกนบอกอีกฝ่าย
ซึ่งทำให้เซียนซีหันหลังกลับมามอง ก่อนจะโบกมือบ๊ายบายจื่อฮงอีกรอบ
" อืม นายเองก็เหมือนกัน โชคดีนะ ไปล่ะ " เซียนซีบอกและยิ้มให้จื่อฮงก่อนจะค่อยๆ เดินจากไปจนลับสายตา
บางทีการที่ได้เดินกลับบ้านกับใครสักคนในวันที่ฝนพร่ำ มันก็รู้สึกมีความสุขเหมือนกันนะ
ความคิดเห็น