ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] TFBOYS ❀

    ลำดับตอนที่ #10 : [ Qian x Hong ] Love Rain : 1

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ค. 59




    - 1 -
     

               เพิ่งจะเป็นเวลาบ่ายสามโมงกว่าแท้ๆ แต่ทำไมท้องฟ้ากลับเป็นสีเทาหม่นมืดครึ้มราวกับพลบค่ำ

    อาจเป็นเพราะเมฆก้อนใหญ่สีดำทะมึนกำลังก่อตัวอยู่ด้านบนมันจึงได้บดบังแสงอาทิตย์สีทองที่ควรจะสาดส่อง

    ลงมาในยามเย็นให้หายไปจนหมด ลมพายุพัดแรงจนพาเอาเศษฝุ่นและใบไม้ที่ตกอยู่บนพื้นให้ลอยปลิ้วว่อน

    ไปในอากาศ เสียงฟ้าร้องครืนๆ เหมือนเป็นลางบอกเหตุว่าฝนกำลังจะตกลงมาในอีกไม่ช้า

               " ฝนจะตกอีกแล้วหรอ เฮ้อ ! น่าเบื่อ " หวังหยวนบ่นพึมพำในขณะที่กำลังนั่งปั่นงาน สุดชีวิต

    มือข้างหนึ่งเขียนตัวหนังสือหวัดๆ ลงบนหนังสือแบบฝึกหัดอย่างลวกๆ เพื่อให้งานเสร็จเร็ว

    ทันใดนั้นเองเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ! จนทำให้หวังหยวนต้องเงยหน้าขึ้นมามอง

               " เสร็จยัง ? " เสียงของจื่อฮงที่ยืนทำหน้าถมึงอยู่ตรงหน้าโต๊ะ ถามหวังหยวน

               " แปปนึ่งนะ จะเสร็จแล้ว " หวังหยวนรีบตวัดปลายปากกาลงบนแบบฝึกหัดอย่างรวดเร็ว

    จนในที่สุดมันก็เสร็จสักที !

               " อ่ะ เสร็จแล้ว ฝากส่งด้วยนะ " หวังหยวนวางแบบฝึกหัดทิ้งไว้บนโต๊ะแล้วรีบออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

    โดยไม่ได้สนใจจื่อฮงที่ต้องแบกเอาหนังสือแบบฝึกหัดของเพื่อนทั้งห้องไปส่งอาจารย์คนเดียวเลย

    แต่ช่างมันเถอะ เขาชินแล้ว ชินแล้วกับการอยู่คนเดียว !

               จื่อฮงยืนมองหนังสือแบบฝึกหัดกองโตอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยกมันออกมาจากห้องแล้วเดินไปที่บันได

    เพื่อที่จะขึ้นไปส่งอาจารย์ที่ชั้นหกโดยที่ห้องเรียนของเขาอยู่แค่ชั้นสอง

    หนังสือหนักๆ กับการเดินขึ้นบันไดอีกหลายชั้นแค่คิดก็เหนื่อยแล้ว

               ขณะที่จื่อฮงกำลังจะก้าวขึ้นบันได อยู่ๆ ก็มีร่างของใครคนหนึ่งวิ่งลงบันไดมาอย่างรวดเร็วทำให้

    ร่างของเขาชนเข้ากับร่างบางของจื่อฮงอย่างจังจนทำให้จื่อฮงเสียหลักล้มลงไปนอนกองอยู่บนพื้นทางเดิน

    ส่วนหนังสือแบบฝึกหัดกองโตนั้นก็หล่นกระจายเกลื่อนพื้นเต็มไปหมด

               " ขอโทษนะครับ ขอโทษนะครับ " ร่างสูงที่วิ่งลงมาจากบันไดอย่างรวดเร็วเมื่อครู่

    ยืนหยุดนิ่งอยู่ตรงหน้าจื่อฮงก่อนจะพูดขอโทษรัวๆ ไปหลายครั้งแล้วก้มตัวลงมาเก็บหนังสือแบบฝึกหัด

    ที่หล่นกระจายเกลื่อนพื้น

               " ไอ้ เซียนซีจะรีบไปไหนวะ รอกันก่อนดิ " เสียงทุ้มของใครบางคนดังแว่วมาจากบันได

    ทำให้จื่อฮงหันหน้าไปมองยังที่มาของเสียงก่อนจะพบว่าคนๆ นั้น กำลังเดินลงบันไดมาอย่างช้า ๆ

    เสียงนั้นเขาจำมันได้ดี ถึงแม้จะไม่เห็นหน้าคนที่พูดแต่เขาก็จำมันได้เสมอว่าเสียงนั้น เป็นเสียงของจุนไค

               " อ้าว จุนไคจะกลับบ้านยัง ? " เซียนซีที่กำลังเก็บหนังสือแบบฝึกหัดที่กระจายอยู่เกลื่อนพื้น

    เงยหน้าขึ้นถามจุนไคที่เพิ่งลงบันไดมา

               " จะกลับแล้ว ฉันไม่ได้เอาร่มมา ถ้าฝนตกคงกลับลำบากแย่ " จุนไคพูดด้วย น้ำเสียงเรียบๆ

    ก่อนจะปรายตาไปมองที่จื่อฮงเพียงแวบเดียวแล้วกำลังจะเดินจากไปแต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

    ทำให้เท้าของจุนไคที่จะก้าวออกไปนั้นต้องหยุดชะงักอย่างกระทันหัน

               " เดี๋ยว! ยืมร่มเรามั้ย ? ถ้าฝนตกคงกลับลำบากแย่ " จื่อฮงเดินมาอยู่ข้างหลังจุนไค

    ก่อนจะหยิบร่มออกมาจากกระเป๋านักเรียนแล้วส่งให้จุนไค

               " ขอบใจนะ แต่นายเก็บไว้ใช้เถอะ " จุนไคหันหลังกลับมาตอบจื่อฮงแล้วยิ้มหวานๆ ให้กับอีกฝ่าย

    หลังจากนั้นก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก จุนไคจากไปแล้ว.. สีหน้าของจื่อฮงเจื่อนลงในทันที

    ก่อนจะเก็บร่มใส่กระเป๋านักเรียนแล้วยืนมองจุนไคที่เดินจากไป ความรักที่อีกฝ่ายไม่เคยเห็นคุณค่า

    ความรักที่เติมให้เท่าไรก็ไม่เต็ม ความรักที่มีให้เขาเพียงข้างเดียวเสมอมา มันเจ็บอย่างนี้นี่เอง


               " นี้ ! คุณมัวยืนเหม่ออะไรอยู่ มาช่วยผมเก็บหนังสือบางสิ นายเป็นคนทำตกเองแท้ๆ

    มันไม่ใช่หน้าที่ของผมที่ต้องมานั่งเก็บให้เลยนะ " เซียนซีพูดขึ้นในขณะที่เก็บหนังสือแบบฝึกหัด

    ที่กระจายเต็มพื้นมารวมกันเป็นกองเดียวกันเสร็จ ซึ่งเสียงนั้นก็ทำให้จื่อฮงหันขวับมาหาเซียนซีทันที

               " ถ้านายไม่ชนฉันก่อน มันก็ไม่ตกกระจายเกลื่อนพื้นแบบนี้หรอก "

               " นี้ ! นายว่าฉันเป็นคนผิดงั้นหรอ ? " เซียนซีถามพร้อมกับทำหน้างงๆ

               " ถ้าใช่ แล้วจะทำไม ! " จื่อฮงเถียงกลับอย่างไม่ยอมลดละ จนทำให้เซียนซีต้องถอนหายใจ

    ออกมาเฮือกใหญ่ หมอนี้นอกจากหน้าตาจะดูไม่เป็นมิตรแล้วยังจะปากเสียอีก

               " ช่างเถอะ ยังไงก็หมดธุระของฉันแล้ว นายก็แบกเอาหนังสือหนักๆ ไปสั่งอาจารย์คนเดียวแล้วกัน "

    เซียนซีพูดขึ้นแล้วกำลังจะก้าวเท้าเดินออกไป แต่แล้วก็ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาต้องหันกลับไปมอง

    ที่จื่อฮงอีกรอบ ภาพที่เขาเห็นคือจื่อฮงกำลังแบกหนังสือหนักๆ เดินขึ้นบันไดไปคนเดียว

    ซึ่งดูจากท่าทางแล้วไม่น่าไปถึงห้องพักครูที่อยู่ชั้นหกได้

    เพราะแค่ชั้นนี้ร่างเล็กก็ทำท่าเหมือนจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่คาบันไดอยู่แล้ว

               เซียนซีเห็นภาพนั้นแล้วทำให้อดหงุดหงิดขึ้นมาไม่ได้เขาจึงวิ่งขึ้นบันไดตามจื่อฮงไปแล้ว

    ไปยืนดักอยู่ข้างหน้าร่างเล็กที่กำลังเดินขึ้นบันได

               " อย่าขว้างทาง จะไปไหนก็ไป " จื่อฮงพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

               " ไม่ได้มาขว้างจะมาช่วย " เซียนซีพูดขึ้นบ้าง

               " ช่วยเป็นภาระ " จื่อฮงตอบเสียงเรียบแล้วเดินหลบเซียนซีไปอีกทางหลังจากนั้นก็ขึ้นบันไดต่อไป

               " เปล่า ฉันมาช่วยจริงๆ หนังสือนั้นเวลาแบกคนเดียวมันหนักมากมั้ย ? "

               " ถามแปลก นี้ตาบอดหรือว่าโง่กันแน่ ! ก็ต้องหนักสิ " จื่อฮงหันมาตอบอย่างหงุดหงิดแล้วหันกลับไป

               " ก็เพราะมันหนักไง ฉันเลยจะมาช่วยถือ " คำพูดของเซียนซีทำเอาจื่อฮงหันขวับไปหาเขาทันที

    จริงๆ ก็อยากให้มีคนช่วยนะ แต่ไม่เอาดีกว่า หมอนี้คงไม่คิดจะช่วยเขาฟรีๆ แน่ ! ท่าทางดูเจ้าเล่ห์ไม่เบา

               " ขอบใจนะ แต่ไม่ต้อง " จื่อฮงเดินขึ้นบันไดต่อไปแต่เซียนซีไม่รอช้าเขารีบเดินมาขว้างข้างหน้าอีกครั้ง

    ทำให้จื่อฮงต้องหยุดเดิน

               " ให้ฉันช่วยดีกว่านะ " พูดแล้วเซียนซีก็เอื้อมมือไปแบ่งหนังสือแบบฝึกหัดออกมาจาก

    จื่อฮงที่ยืนถืออยู่ประมาณครึ่งหนึ่ง จื่อฮงได้แต่ยืนนิ่งมองอีกฝ่ายอย่างงงๆ แต่ก็ดีนะ ตอนนี้รู้สึกว่าเบาลงเยอะเลย

               " ไปกันเถอะ " เซียนซีบอกและหันไปยิ้มให้จื่อฮง รอยยิ้มนั้นช่างดูสดใสและมีเสน่ห์

    ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเวลาที่ได้เห็นรอยยิ้มที่ดูสดใสแบบนี้ จื่อฮงถึงรู้สึกเหมือนว่าหัวใจมีอาการผิดปกติ

    รอยยิ้มที่ดูสดใส รอยยิ้มที่จะเปลี่ยนโลกทั้งใบให้กลับมาสวยงามอีกครั้ง เขาอยากจะยิ้มให้ได้แบบนั้นจัง

               ระหว่างทางเดินขึ้นบันไดจากชั้นสองถึงชั้นหกทั้งสองต่างเงียบกันมาตลอดทาง

    จนกระทั้งตอนที่จะถึงห้องพักครูเซียนซีก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน

               " เอ่อ นายชื่ออะไรหรอ? เราชื่อเซียนซีนะ "

               " จื่อฮงครับ " จื่อฮงตอบพร้อมกับพยายามยิ้มให้อีกฝ่ายเวลาพูด ต้องใช้คำว่าพยายามนะ

    เพราะจื่อฮงเขาเป็นคนยิ้มไม่เป็น

               " ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ " จู่ๆ เซียนซีก็ระเบิดหัวเราะออกมาชุดใหญ่

               " หัวเราะอะไรไม่ทราบ "

               " หน้านายเวลายิ้มน่ะ... มันดูแปลกๆ ไม่เต็มใจยิ้มให้ฉันก็ไม่ต้องฝืนหรอกนะ "

               " ก็ไม่ได้เต็มใจ แค่ยิ้มเป็นมารยาท " จื่อฮงทำหน้าเบ้ ก่อนจะถอยหายใจออกมาเบาๆ

    พอแล้ว วันหลังเขาจะไม่ยิ้มอีกแล้ว ยิ้มที่ไรคนอื่นก็หาว่ามันดูแปลกๆ ทุกที หมดอารมณ์จะยิ้มแล้ว

               " ว่าแต่นายรู้จักจุนไคด้วยหรอ ? " คำถามนั้นทำเอาจื่อฮงแทบสะอึก

               " รู้จัก ทำไมหรอ ? "

               " แล้วนายสนิทกับจุนไคมั้ย ? " จื่อฮงหยุดฝีเท้าที่กำลังจะก้าวออกไป เมื่อได้ยินคำถามของเซียนซี

    หมอนี้ไปรู้อะไรมากันแน่ ?

               " ฉันไม่จำเป็นต้องตอบนาย " พูดจบจื่อฮงก็รีบเดินไปให้ถึงห้องพักครูอย่างรวดเร็ว

    แต่เซียนซีไวกว่าจึงมายืนขว้างอยู่หน้าประตูห้องพักครู

               " ทำไม ทำไมต้องหนีด้วยหรือว่าสิ่งที่ฉันคิด.. มันเป็นความจริง " จื่อฮงเริ่มอารมณ์เดือด

    เมื่อได้ยินคำถามเหล่านั้นจากเซียนซี คิดอะไร หมอนี้กำลังคิดอะไรอยู่ ?

               " ถอยไป ! " จื่อฮงเตือนเซียนซี

               " ไม่ ! จนกว่านายจะตอบคำถามของฉัน "

               " ไม่ถอย ใช่มั้ย ? "

               " ใช่ ! ไม่ถอย "

               " ก็แล้วแต่เลย " จื่อฮงพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่งก่อนจะเดินหลบเซียนซีไปอีกทางแล้วทำท่าจะผลักประตูอีกบาน

    เข้าไปอย่างไม่สนใจเซียนซีที่ยืนอยู่

               " เดี๋ยว! เรายังคุยกันไม่จบนะ " เซียนซีรีบวิ่งไปหาจื่อฮงที่ยังยืนผลักประตูให้เปิดค้างอยู่แต่พอเซียนซี

    จะเดินเข้ามาใกล้ จื่อฮงก็ปิดประตูใส่หน้าเซียนซีจนทำให้เซียนซีวิ่งพุ่งเข้าไปชนกับประตูอย่างจัง

               ปึกกก !!! เมื่อจื่อฮงปล่อยมือออกจากประตูทั้งหัวและใบหน้าของเซียนซีจึงชนกับประตู

    ที่ตีเข้ามาอย่างแรง โอ๊ยยยย !! เจ็บนี้อีกนาน เจ็บนี้ไม่ลืม ใบหน้าของเขาตอนนี้เริ่มช้าอย่างบอกไม่ถูก

    หัวที่ชนเข้ากับประตูอย่างแรงก็มีอาการเจ็บและมึนผสมกัน จื่อฮง !! เรื่องของเราไม่จบแค่นี้แน่




    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×