คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : อุบายในห้องนำที่มืดมิด
“คุณโคทาโร่ มีอะไรกันน่ะ?” ยามาชิโระเข้ามาถามยูกิ
“มีการฆาตกรรมเกิดขึ้นในห้องน้ำน่ะค่ะ” ยาซึมิตอบแทน
“หา!! อะไรนะ!! มีคนตายด้วยเหรอ?” ยามาชิโระถึงกับเหงื่อตก
“ใช่ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” ยูกิรีบออกตัว
ณ ห้องควบคุมไฟฟ้า
“เอ๋ เบรกเกอร์อันนี้น่ะเหรอ?” ผู้หมวคสึวะถามพนักงาน
“ใช่ค่ะ”
“มีเชือกผูกอยู่ด้วยนี่นา” ผู้หมวดมิซึอิเห็นเข้าพอดี
“ปลายอีกข้างของเชือกเป็นห่วงเปียกๆด้วยค่ะ” ยูกิพูด
“ตรงนี้มีรอยเปียกด้วย” ยาซึมิชี้ที่พื้นข้างๆเบรกเกอร์
“เอ
มีเชือกผูกที่เชือกนั่นอีกเส้นนี่นา” ผู้หมวดสึวะพูด
“อยู่ใกล้ๆกับเบรกเกอร์” ผู้หมวดมิซึอิบอก
“ปลายอีกข้างหนึ่งของเชือกนี้ผูกกับกล่องเครื่องมือนี่” ยูกิชี้ที่กล่องเครื่องมือที่อยู่ข้างๆ
“อย่างนี้เอง คนร้ายตัดไฟโดยเอาเชือกผูกเบรกเกอร์กับน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆไว้ แล้วนำเชือกอีกเส้นผูกกับกล่องเครื่องมือแขวนไว้ พอน้ำแข็งละลายจนกล่องเครื่องมือมีน้ำหนักมากกว่าน้ำแข็ง ก็จะดึงเบรกเกอร์ลง ทำให้ไฟดับได้เองไงล่ะ” ผู้หมวดมิซึอิบอก
“หมายความว่าไม่ว่าใครก็ตัดไฟได้สินะ” ผู้หมวดหนุ่มหันมาที่ชายทั้ง 4 คน
“อะ
อะไรกัน”
“ปัญหาก็คือ วิธีการสังหารสินะ”
“ใช่ คนร้ายทำยังไงยึงยิงผู้ตายในความมืดได้?”
‘นั่นสินะ เรายังไม่รู้เลย’ ยูกิคิด
“อ
เอ่อ คือว่าที่จริง ในร้านน่ะ เรามีเรื่องทะเลาะกับทาคาดะที่ตายด้วยน่ะครับ” ซายามะพูด
“จริงเหรอ?” ผู้หมวดหนุ่มตกใจ
“ครับ รุนแรงด้วย” คาวาดะพูด
“แล้วสาเหตุที่ทะเลาะกันล่ะ?”
“เขาเขียนบทความกล่าวหาผมที่ผมไปแอบอ้างเอาผลงานของเขาไปน่ะครับ ทั้งที่ผมไม่ได้ทำ พอผมพูดถึงบทความนั่น เขาก็หาว่าไม่ได้เขียน”
“แล้วเขาก็ผลักซายามะที่เข้าไปห้ามจนล้มด้วย” โมริตะพูด
“ยังงั้นเหรอ?”
“ครับ”
“งั้นแสดงว่า พวกคุณ 2 คนก็มีเหตุจูงใจที่จะฆ่าเขาใช่มั้ยล่ะครับ?”
“แต่ผมมองเขาไม่เห็นในความมืดเลยนะครับ” คาวาดะหน้าเสีย
“จริงครับ” ซายามะสนับสนุน
‘เอ๋?’ ยูกิเหมือนคิดอะไรได้
“มีอะไรเหรอ? ยูกิ
ยูกิ!” ยาซึมิเรียก
“อ๋อ เปล่าหรอก” ยูกิสะดุ้งก่อนตอบ
“คุณโคทาโร่
คุณโคทาโร่ อยู่ไหนน่ะ” เสียงของยามาชิโระดังมาจากข้างนอก
“อยู่นี่ค่ะ” ยูกิตอบรับพร้อมวิ่งออกไปหา
!!!
ยูกิเหมือนจะคิดอะไรออกแล้ว
“นี่ เรากลับกันดีกว่านะ เรื่องนี้ให้ตำรวจจัดการดีกว่า” ยามาชิโระพูด
ยูกิไม่ตอบ แล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำที่เกิดเหตุ
ไปดูที่อ่างล้างหน้า
!!!
‘เข้าใจแล้ว
วิธีที่คนร้ายจับตำแหน่งผู้ตายในความมืด ตัวคนร้าย และหลักฐานด้วย ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว’
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ? ยูกิ จู่ๆก็วิ่งมา” ยาซึมิที่วิ่งตามมาถาม
“ฉันรู้หมดแล้ว ทุกอย่างที่เกี่ยวกับคดีนี้”
“หา!!! อะไรนะ!! เธอรู้หมดแล้ว?”
“ใช่”
“แล้วหลักฐานล่ะ?”
“มีแล้วล่ะ”
“ดีละ ถ้างั้นก็
”
“พวกเราคือ Pretty Spies!!!” ทั้งสองคนร้องออกมาพร้อมกัน
“ผู้หมวดครับ ที่ปืนไม่มีรอยนิ้วมือใครเลย” ตำรวจคนหนึ่งมาพูดกับผู้หมวดมิซึอิ
“หมายความว่ายังไงกัน!?”
“เอาละครับทุกคน ผมจะตรวจสอบที่นี่อีกหน่อย ให้พวกคุณไปรอที่ห้องอื่นก่อนก็แล้วกัน” ผู้หมวดสึวะบอก
“เดี๋ยวก่อนค่ะ ผู้หมวด!!!” เสียงหนึ่งดังขึ้น
“เอ๋ เสียงใครน่ะ?” ผู้หมวดหนุ่มงง
“เสียงของพวกเรา Pretty Spies ไงล่ะคะ!!!” สองเด็กสาวพูดพร้อมกัน
“หมายความว่าไง ที่ไม่ให้พวกเขาไปน่ะ?” ผู้หมวดหนุ่มถาม
“เพราะว่า
เรารู้ทุกอย่างแล้วนะสิคะ” ยูกิพูด
“ว
ว่าไงนะ!!!” ทุกคนอุทานพร้อมกัน
“เป็นความจริงเหรอ!?” ผู้หมวดมิซึอิทำหน้าประหลาดใจ
“ใช่ค่ะ ถ้าเราปล่อยคนร้ายไป เขาอาจจะทำลายหลักฐานก็ได้น่ะค่ะ”
“เอ๋!!!”
“แล้วไงล่ะ ข้อสรุปคดีของพวกเธอน่ะ?” ผู้หมวดสึวะถาม
“เริ่มจากวิธีตัดไฟ วิธีนี้แน่นอนไม่ว่าใครก็ทำได้ แต่ต้องมีการคำนวณระยะเวลาตั้งแต่เริ่มวางกลไกจนถึงเวลาไฟดับ รวมถึงความยาวของเชือกและขนาดของน้ำแข็ง เพื่อให้กลไกทำงานในเวลาที่ต้องการได้พอดี ดังนั้นคนร้ายจึงจะต้องมาที่นี่แล้วหลายครั้งเพื่อทดลองวางกลไก และคนร้ายต้องเป็นคนที่เอ่ยปากชวนทุกคนไปห้องน้ำด้วย ว่าไงคะ? คุณโคยาม่า” ยูกิอธิบาย
“คนที่เอ่ยปากชวนเหรอครับ เอ่อ
อ๋อ คาวาดะน่ะ!”
“หา!!!” ทุกคนตกใจ
“ค
คาวาดะ นี่
นายเองเหรอ?” ซายามะพูด หน้าตาประหลาดใจ
“อะไรกันๆ นี่แค่ผมเอ่ยปากชวนทุกคนไปห้องน้ำก็ถูกหาว่าเป็นคนร้ายแล้วเหรอ?” คาวาดะยักไหล่
“ที่ฉันสงสัยคุณก็เพราะว่า
คุณพูดแบบนี้”
“แต่ผมมองเขาไม่เห็นในความมืดเลยนะครับ”
“คุณพยายามจะทำให้ทุกคนคิดว่า การที่จะยิงผู้ตายได้ ต้องมองเห็นอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจ”
“หมายความว่ายังไง?” ผู้หมวดหนุ่มงง
“การยิงผู้ตายในความมืด ไม่จำเป็นต้องมองเห็นหรอกนะคะ”
“ว่าไงนะ!!!”
“พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ? ถ้าไม่เห็นแล้วฉันจะยิงเขาได้ยังไง?” คาวาดะถามสีหน้าท้าทาย
“งั้นผู้หมวดทั้งสองคน ช่วยพวกเราหน่อยนะคะ”
“อะไรเหรอ?” ผู้หมวดทั้งสองคนงง
“ผู้หมวดสึวะช่วยไปดับไฟที่ห้องน้ำหน่อยสิคะ”
“เอ๋”
ผู้หมวดสึวะไปปิดไฟที่สวิตซ์
ฟุ่บ
ไฟดับแล้ว
“ผู้หมวดมิซึอิ ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหนรู้มั้ยคะ?”
“เอ
เมื่อกี๊ยังอยู่ข้างหน้าอยู่เลย ตอนนี้พวกเธออยู่ข้างๆ ฉันแล้วเรอะ?”
“ผู้หมวดสึวะ เปิดไฟได้ค่ะ”
“ได้”
แว่บ
ไฟเปิดแล้ว
“อ้าว พวกเธออยู่ข้างๆฉันจริงๆเหรอ?”
“ถ
ถ้างั้นก็
” ผู้หมวดหนุ่มประหลาดใจ
“ใช่ค่ะ ถ้าใช้เสียงละก็ สามารถจับตำแหน่งของผู้ตายได้แล้วน่ะค่ะ”
“แล้วทำไมที่เสื้อเขาไม่มีเขม่าดินปืนล่ะ?”
“เพราะเขาพับแขนเสื้อขึ้นยังไงล่ะคะ”
“อย่างนี้นี่เอง”
“สรุปวิธีการของคุณคาวาดะ เป็นแบบนี้ค่ะ” ยาซึมิอธิบายบ้าง
“ตอนเข้าห้องน้ำ คุณเลือกที่ๆอยู่ใกล้ผู้ตายพอประมาณ เพื่อไม่ให้ใครขวางเวลายิง แต่ถ้าใกล้เกินไปก็จะถูกสงสัย เมื่อไฟดับคุณก็รีบสวมถุงมือและพับแขนเสื้อขึ้น แล้วก็เอาปืนที่ซ่อนไว้ในเสื้อออกมา รอเวลาที่ผู้ตายจะพูด พอผู้ตายเริ่มพูด คุณก็หันปืนไปทางต้นเสียงโดยเอาปืนสอดไว้ใต้แขนซ้าย แล้วจัดการยิงปืนไป 2 นัดติดๆกัน จากนั้นคุณก็รีบโยนปืนไป ถอดถุงมือออกเก็บ แล้วก็หันกลับมาล้างมือที่อ่างล้างหน้า จากนั้นก็คลี่แขนเสื้อกลับที่เดิมก่อนที่ไฟจะมา
ที่คุณใช้ปืนเก็บเสียง ก็เพราะว่าถ้าคนข้างนอกได้ยินเสียงปืนจะรีบมาที่ห้องน้ำก่อนที่คุณจะทันโยนปืนไป”
“แล้วเสียงที่ได้ยินนั่นล่ะ?” คาวาดะเริ่มเหงื่อตก
“เสียงแรกคือเสียงปืน เสียงที่สองคือเสียงที่คุณโยนปืนลงพื้น และเสียงที่สามคือเสียงที่คุณเปิดน้ำล้างมือนั่นเองยังไงล่ะคะ”
“ตอนนี้แขนเสื้อของคุณก็น่าจะเปียกที่ด้านในนะ เพราะคุณต้องรีบคลี่แขนเสื้อลงก่อนที่แขนและมือของคุณจะแห้ง” ยูกิพูดบ้าง
“ขอดูหน่อยนะครับ” ผู้หมวดหนุ่มถลกแขนเสื้อของคาวาดะ
“อืม เปียกข้างในจริงๆ ด้วย ว่าไงครับคุณคาวาดะ”
“ก็ผมชอบพับแขนเสื้อเวลาล้างมือนี่นา ของแบบนี้เป็นหลักฐานไม่ได้หรอก” คาวาดะยังไม่ยอม
“ผู้หมวดคะ ยังมีอีกอย่างค่ะ ดูที่อ่างล้างหน้านี่สิคะ” ยูกิชี้ไปที่อ่างล้างหน้าที่คาวาดะอยู่ตอนเกิดเหตุ
“ไหน น
นี่มัน!!” ผู้หมวดหนุ่มถึงกับชะงัก
“มีคราบเขม่าดินปืนติดอยู่แถวๆท่อระบายน้ำนี่นา”
“นี่เป็นหลักฐานว่ามีคนล้างเอาคราบเขม่าดินปืนออกที่อ่างล้างหน้านี่ไงคะ” ยาซึมิบอก
“ต
แต่ว่านะคนที่ทำอาจเป็นคนอื่นก็ได้นี่นา” คาวาดะแก้ตัว
“งั้นหลักฐานที่อยู่ที่ตัวคุณล่ะ จะว่ายังไง?”
“อะ
เอ่อ
” คาวาดะถึงกับพูดไม่ออก
“มีอะไรล่ะ?” ผู้หมวดมิซึอิถาม
“ถุงมือของคุณ ที่เปื้อนคราบเขม่าดินปืนอยู่ยังไงล่ะคะ” ยูกิชี้ไปที่กระเป๋ากางเกงของ คาวาดะ
“การซ่อนถุงมือในห้องน้ำ ตำรวจต้องค้นเจอแน่ ถ้าจะทิ้งที่ข้างๆศพ ก็ต้องถูกเอาไปตรวจสอบหารอยนิ้วมือและเหงื่อแน่ คุณจึงต้องเก็บมันไว้ตลอดเวลา ใช่มัยล่ะคะ?”
“ขอโทษนะครับ ขอดูหน่อย” ผู้หมวดหนุ่มเดินไปหา
“ไม่ต้องหรอกครับ มีอยู่แล้วล่ะ ที่ตัวผมเนี่ย” คาวาดะเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง
เขาหยิบถุงมือออกมา
“เอาไปตรวจสอบซิ” ผู้หมวดสาวหันไปสั่งลูกน้อง
“ครับ”
“ทำไมล่ะ
ทำไมนายถึงฆ่าเขาล่ะ คาวาดะ” โมริตะถาม
“หรือว่าเรื่องบทความนั่น
” โคยาม่าพูด
“เป็นความจริง” ซายามะพูด
“ใช่ บทความที่มันเขียนน่ะเป็นความจริง เพราะมันแค้นที่ฉันเอาผลงานไปแอบอ้างเป็นชื่อฉัน แล้วพอฉันถามถึงมัน มันก็บอกว่าไม่ได้ทำได้หน้าตาเฉย ฉันก็เลยรู้ว่า มันกะแอบเก็บไเป็นความลับให้บรรณาะการที่บริษัทดู ฉันก็เลยคิดจะฆ่ามัน โดยวางแผนแบบนี้แหละ” คาวาดะพูดน้ำเสียงเคียดแค้น
“ยังไงซะคนที่ผิดก็คือคุณเองนั่นแหละ” ผู้หมวดสึวะว่าพร้อมนำกุญแจมือสวมให้เขา
คาวาดะไม่พูดอะไรอีก ได้แต่เดินก้มหน้าออกไป
เด็กสาวทั้งสองมองตามเขาไปจนลับตา
สีหน้าของทั้งสอง เหมือนเข้าใจความรู้สึกของคาวาดะในตอนนี้
เขามีสีหน้าสำนึกผิด จากใจจริง
รถตำรวจวิ่งออกจากร้านอาหารไป
“ไง ยูกิ นี่เป็นงานแรกเลยนะ” ยาซึมิเอ่ยหลังจากที่ออกมาจากร้านอาหาร
“ใช่ งานชิ้นแรกของ Pretty Spies เลยนะเนี่ย”
“Pretty Spies เหรอ?” ยามาชิโระงง
“เป็นชื่อกลุ่มนักสืบของเรายังไงล่ะ” ยูกิตอบ
“งั้นเหรอ?”
ทั้งสามคนหัวเราะพร้อมกัน
-จบตอน-
ความคิดเห็น