คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Negligible LOVE ( 100% ภาคแรก) PG13
คุยกันสักนิด ช่วงแพนด้าทอล์ก
ฟิกเรื่องนี้เครดิตมาจากในฝันตัวเองค่ะ ฝันถึงคู่นี้ในฝัน เพราะสงสัยเมื่อคืนโด๊ปคู่นี้ตอนออกใหม่ล่าสุด ทั้งพิงค์โกลด์ 4 กับ pray in abyss ch 11 ค่ะ น้องอากิกับอาซามิ สถานะเลยประมาณนี้ พยายามแต่งไม่ให้ OOC (out of character ค่ะ )อาจมีอะไรเพิ่มเติมปรับเปลี่ยนจากในฝันบ้างนิดๆหน่อยๆแต่เอาเป็นว่าใกล้เคียงมาก ตัดทอนปรับแต่งน้อยมาก ขอบคุณความฝันที่ช่วยคิดพล๊อตค่ะ
ทาคาบะ อากิฮิโตะ เคาะที่ประตูไม้บานใหญ่ของห้องชุดคอนโดสุดหรูใจกลางเมือง ที่ภายในเหมือนคฤหาสน์หลังงามย่อมๆ คิริชิมะเลขาแว่นของเจ้าของบ้านเปิดแง้มประตูมาด้วยสีหน้าเฉยเมย
“ทาคาบะ นายนี่เองมีธุระอะไรกับบอส?”
“ต้องมีธุระด้วยเหรอไงถึงจะมาได้” ร่างบางตอบกวนๆ กระชับเป้ใบเขื่องที่บ่าแล้วก็ผลักประตูเข้าไปอย่างชิวๆ
คิริชิมะถอนใจเบาๆ “ท่านอาซามิกำลังแต่งตัวอยู่เตรียมจะออกไปธุระ...นายรออยู่โซฟานี่แหละ”
อากิฮิโตะยักไหล่เล็กน้อยแล้วก็เปิดประตูเข้าไปในห้องส่วนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าของบ้าน ผ่านสุโอบอดี้การ์ดของอาซามิ โดยอีกฝ่ายก็ได้แต่เพียงยืนมอง
“เพิ่งจะเย็นเอง จะออกไปทำงานแล้วเหรออาซามิ?” อากิฮิโตะถาม วางเป้ลงบนพื้น สายตาสอดส่องเข้าไปด้านในเห็นร่างสูงเจ้าของบ้านกำลังกลัดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวอยู่หน้ากระจกตู้เสื้อผ้าในห้องแต่งตัว ปกติแล้วอาซามิจะเข้าไปตรวจงานที่คลับช่วงหัวค่ำ
อาซามิเดินออกมา “แปลกนะปกติฉันไม่เรียกก็ไม่เคยคิดจะมาที่นี่ มีธุระอะไร”
อากิฮิโตะเดาะลิ้น “ช่วงนี้หนีนักเลงที่ตามมากวนฉันถึงห้องเช่าน่ะสิ รำคาญชะมัด” เขาบอกเหตุผลที่มา “ขออยู่ด้วยสักพักได้มั้ย”
ชายหนุ่มไม่ตอบ ไม่พยักหน้า แต่เดินกลับเข้าไปในห้องแต่งตัวต่อ
อากิฮิโตะเริ่มฉุน จะตกลงหรือไม่ตกลงกันแน่ จึงเดินตามเข้าไป
“นี่เดี๋ยวจะช่วยเลือกเนคไทล์ให้ เอาสีไหนดีน้า” ทำเป็นน้ำเสียงร่าเริง ก็ไม่มีที่ไหนอื่นจะให้เขาซุกหัวนอนแล้วนี่ เจ้าโคที่เขาชอบไปขออาศัยอยู่ด้วยก็ดันอยู่ในช่วงอินเลิฟกับแฟนสาวซะด้วยสิ
ร่างบางหยิบเนคไทล์สีเทาจากในลิ้นชักมาหนึ่งเส้นพลางหมุนตัวลงไปทาบที่ลำคอหนา
“เหมาะดีน้า” ว่าพลางยิ้มแหะ
ชายหนุ่มเอาปัดมือออกเชิงปฏิเสธเบาๆ “เชิ๊ตทักซิโด้ก็ต้องคู่กับหูกระต่ายสิ” อาซามิตอบเรียบๆ เดินไปหยิบหูกระต่ายสีดำมาผูกเอง
อากิฮิโตะยืนจ๋อย มองอาซามิซักพักก็ชวนคุยขึ้นมาใหม่ “อ่า จะไปงานเลี้ยงเหรอ เป็นทางการสินะ....เอ่อ งานอะไรเหรอ?”
“งานเลี้ยงวันเกิดหัวหน้าพรรคน่ะ นายเองก็น่าจะรู้นี่ถามทำไม ฉันยังแปลกใจด้วยซ้ำวันนี้นักการเมืองมากันให้มาก นายไม่ไปทำข่าวรึไง”
“เอ่อ...งานนี้ฉันไม่ได้ตามน่ะ” อากิฮิโตะชวดงานนี้ไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เพราะที่สนพ.ของเขามีบัตรเชิญสื่อมวลชนแค่ใบเดียว แล้วใบนั้นก็ถูกเจ้าลุงเครา รุ่นพี่นักข่าวคว้าไปครองตามระเบียบ
“น่าเสียดายนะ” อาซามิยิ้มเยาะ “หวังว่าคงไม่คิดจะลอบเข้าไปด้วยวิธีอื่นหรอกใช่มั้ย”
“ไม่หรอกน่า รุ่นพี่สนพ.ฉันเข้าไปทำงานในฐานะสื่อแล้วต่างหาก อุ๊ฟ” ร่างบางปิดปากตัวเอง นี่เขาเผลอพูดถึงความไม่เอาอ่าวของตัวเองที่โดนรุ่นพี่แย่งงานต่อหน้าเจ้าอาซามิอีกแล้วเหรอนี่
“คงหวังไว้มากสินะ” ฝ่ามือหนาลูบมาที่หัวเขา อากิฮิโตะหน้าแดง ลูบไปลูบมาทำไมเรียวนิ้วยาวถึงได้ทำมาเป็นสางผมเขาไปได้นะ
“ถึงขนาดลงทุนย้อมหัวดำเพื่องานนี้โดยเฉพาะเลยซินะ หึๆ” นิ้วยาวยังคงสางไม่หยุด
“นายผมดำสนิทแบบนี้ก็ดูแปลกตาดี แต่ว่า...” อาซามิชักมือกลับ ไปแต่งตัวต่อแล้วพูดต่อว่า “จะย้อมเองทั้งทีอย่าให้โคนผมมันยังทองอยู่จะได้มั้ย มันตลก” ชายหนุ่มจงใจหัวเราะเยาะ
“เรื่องของฉันน่า ย้อมเองก็ได้งี้แหละ แค่ดูข้างหน้าโอเคก็พอแล้ว ข้างหลังมันมองไม่เห็นนี่ จะไปให้ร้านย้อมก็แพงง่ะ” อากิฮิโตะบอกอย่างฉุนๆ เอามือจัดทรงผมที่อาซามิทำให้ตอนนี้มันยุ่งเหยิงให้เรียบ วางแผนในใจว่าเดี๋ยวรอเงินเดือนออกจะไปร้านทำผมอีกฝ่ายจะได้ไม่มาแซวอีก เพราะมันคงตลกจริงอย่างชายหนุ่มว่า
“ว่าแต่นายชอบแบบไหนล่ะ” อากิฮิโตะถามบ้างไม่ยอมให้ตัวเองโดนแหย่ฝ่ายเดียว เอามือสางผมดำนุ่มมือของอีกฝ่ายบ้าง “สีอ่อนหรือสีเข้ม? ฉันเองก็จะได้ลองเปลี่ยนดูบ้าง เพราะผมดำสนิทแบบนี้ของนาย...”
อากิฮิโตะเชยคางแกร่งของอีกฝ่ายให้หันมามองตรงๆ “ก็ไม่ได้รังเกียจ ออกจะชอบมากเสียด้วยซ้ำ” ว่าพลางประกบปากเบาๆลงบนริมฝีปากหนา ชายหนุ่มรับจูบตอบ เรียวลิ้นหนาล่วงล้ำเข้ามาในอุ้งปากเล็กๆ ความวาบหวามส่งผ่านมาเพียงชั่วครู่ก่อนอีกฝ่ายผละไป
“ไว้แค่นี้ก่อนละกันวันนี้ฉันรีบ” ว่าแล้วก็ไปหยิบสูทจากในตู้ออกมาสวมใส่เป็นขั้นตอนสุดท้าย
อากิฮิโตะที่ยังไม่หายหน้าแดง ถามอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ “ตกลงฉันมาขอค้างที่นี่ได้ใช่มั้ย?”
ร่างสูงหันมาสบตาชั่วครู่ก่อนจะเปิดประตูออกไปอีกห้องที่เลขาทั้งสองรออยู่ “ก็เอาสิ ตามใจ”
ในช่วงที่อาซามิไปงานเลี้ยงพรรคการเมือง จะให้เด็กหนุ่มไฮเปอร์อย่างอากิฮิโตะนั่งนอนเล่นก็ใช่ที่ ร่างบางที่แอบเอากางเกงว่ายน้ำติดกระเป๋ามาในเป้ด้วยก็ตัดสินใจไปใช้บริการสระว่ายน้ำในคลับสุดหรูของคอนโดแห่งนี้ แต่พอออกไปพ้นประตูห้องเท่านั้นแหละ
“คุณทาคาบะ จะไปไหนครับ” บอดี้การ์ดในชุดสูทสีดำที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูห้องถามขึ้น
“เอ๋ ปกติไม่เห็นมีคนเฝ้าประตูนี่นา” ร่างบางชิงถาม ตกใจพอดู
“ท่านอาซามิเป็นกังวลว่าคุณจะแอบออกไปทำงานคืนนี้โดยไม่มีบัตรเชิญครับ” บอดี้การ์ดตัวเขื่องตอบตามจริง
อากิฮิโตะเดาะลิ้น คิดในใจ นี่กลัวเราจะสร้างความยุ่งยาก(ทำงานแล้วโดนจับได้)จนถึงกับใช้คนมาเฝ้าเลยเหรอ ตาบ้าไว้ใจกันบ้างสิ บอกว่าไม่ไปก็ไม่ไปไงเล่า
ร่างบางนึกโมโหแต่ก็ปฏิเสธ “ไม่ได้ไปไหน จะไปว่ายน้ำในสระ หน้าร้อนนี่มันร้อนน่ะ ไม่เชื่อจะลงไปเฝ้าที่สระก็ได้นะ ฮึ” พออากิฮิโตะเดินไปยังที่กดลิฟต์ บอดี้การ์ดคนที่ว่าก็เดินตามมาด้วย คุยติดต่ออะไรกับใครสักคนในหูฟัง อากิฮิโตะไม่ได้ใส่ใจ จะตามเขาไปที่สระก็เชิญ
อากิฮิโตะเห็นมีคนสามคนว่ายน้ำอยู่ในสระอยู่ก่อนแล้ว เป็นชายสองหญิงหนึ่งคงจะเป็นเจ้าของห้องในคอนโดนี้ จะว่าไปก็คงมีฐานะร่ำรวยมากถึงสามารถเช่าห้องหนึ่งในตึกคอนโดของอาซามิได้ อย่างเขาน่ะหรือถ้าอยากว่ายน้ำต้องไปใช้สระว่ายน้ำประจำตำบลที่มีแต่พ่อแม่พาเด็กๆมาว่ายเล่นกัน ร่างบางส่ายหน้าให้กับตัวเองเล็กน้อยก่อนเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ตอนเดินออกมาก็จ๊ะเอ๋ให้กับคนของอาซามิเพิ่มอีกสองมายืนเฝ้าแถวๆประตูทางเข้าสระ และที่น่าตกใจกว่าคือ คนที่ว่ายในสระหายไปกันหมด
“อะไรกันเนี่ยยย คนอื่นหายไปไหนกันหมด” อากิฮิโตะตะโกนถาม
บอดี้การ์ดคนเดิมจึงเดินเข้ามาแจ้งว่า “คือผมติดต่อไปแล้วท่านอาซามิ แจ้งว่าวันนี้ให้เราดำเนินการปิดสระได้ เพราะฉะนั้นคุณทาคาบะเชิญตามสบายครับ”
“นี่ฉันไม่ได้เป็นอภิสิทธิ์ชนอะไรนะ”
“แต่คอนโดนี้เป็นของท่านอาซามิครับ”
“ทำแบบนี้เดี๋ยวธุรกิจเสียหายหรอก” อากิฮิโตะก็ยังบ่น ถึงแม่จะพอรู้เหตุผลกลายๆที่ว่าอีกฝ่ายคงไม่อยากให้ใครมาเห็นหุ่นเขา นี่ตัวเขากลายเป็นสมบัติอาซามิไปแล้วเหรอที่ต้องเก็บตัวไว้ไม่ให้คนอื่นมาเห็น...ไร้สาระจริงๆ
อากิฮิโตะว่ายน้ำในสระอยู่คนเดียวได้ประมาณชั่วโมง ก็เริ่มรู้สึกหิว แถมตอนออกมาก็เช็คแล้วว่าในตู้เย็นว่างเปล่าเลยคิดว่าจะไปซื้อข้าวกล่องมากินจากร้านสะดวกซื้อแถวนี้ เพราะร้านของสดพวกผักกับเนื้อคงจะปิดกันไปแล้ว
พออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย อากิฮิโตะก็แจ้งคนของอาซามิว่าเขาจะไปซื้ออาหารแถวนี้มาทานซักหน่อย พวกบอดี้การ์ดเดินตามไปส่งเขาถึงลอบบี้ด้านล่างคอนโดแล้วก็ไม่ได้ตามอากิฮิโตะไปอีก คงเห็นว่าต่อให้หนีไปตอนนี้ก็คงไม่สามารถไปที่ๆจัดงานได้ เพราะตอนนี้เริ่มดึกแล้ว แถมที่จัดงานก็เป็นโรงแรมดังแถวฮิโรชิม่าซึ่งตั้งอยู่ไกลจากที่นี่มาก
อากิฮิโตะเดินไปร้านสะดวกซื้อ ซื้อของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นมาเล็กน้อยเพราะต้องประหยัด บ่นกับตัวเองในใจ “รออีกสามวันๆ เงินค่าต้นฉบับจะออก” เขาเดินกลับมาที่คอนโดอาซามิ เห็นพวกชายชุดดำคนของอาซามิจับกลุ่มดูดบุหรี่ปุ๋ยๆพูดคุยกันบางอย่าง
“นี่ฉันว่าคนรักท่านประธานคนนี้ไม่ไหวเอาซะเลยน้า” หนึ่งในสามคนนั้นพูดขึ้นมา อากิฮิโตะถึงกับหยุดเดินกึ๊ก ก็ไม่ได้อยากจะฟังหรอกนะ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะอยากรู้ว่าตัวเองจะถูกนินทาว่าอะไรบ้าง เรื่องที่เขาเป็นคนรักของอาซามิเนี่ย ต่อให้เด็กอมมือก็คงดูออกละมั้ง
“ไม่ไหวนี่ยังไง?” อีกคนนึงถาม
“ก็เห็นเป็นเด็กที่ดูเอาการเอางานดีนี่” คนที่สามช่วยเสริม
“เรื่องนั้นก็คงเป็นข้อดี แต่ความเหมาะสมน่ะ ความเหมาะสม ท่านประธานน่ะ เป็นถึงท่านอาซามิ เรียวอิจิสิผู้นั้นเชียวนะ คนสูงส่งแบบนั้นมาเลือกอะไรเด็กพรรค์นี้เนี่ย ถึงจะลงเอยกับผู้หญิงคนไหนไม่ได้ก็เถอะ แต่ถ้าเป็นเด็กคนนั้นแล้วฉันล่ะไม่เข้าใจเอาเสียเลย”
“แล้วใครล่ะที่ว่าเหมาะน่ะ” บอดี้การ์ดตัวเขื่องที่อากิฮิโตะเจอครั้งแรกตอนเฝ้าอยู่หน้าประตูถามต่อ
“คนนี้รึเปล่า คนที่เป็นลูกน้องท่านอาซามิเหมือนพวกเราไง สุโดคุง ผจกคลับ Draceana”
“ใช่ ก่อนหน้านี้ที่จะมีเด็กทาคาบะโผล่ออกมาท่านอาซามิก็ดูเหมือนตกเป็นข่าวรักๆใคร่ๆกับอดีตนายแบบคนนี้สินะ ก่อนหน้านี้คงสนิทกันมากพอดูถึงขนาดท่านอาซามิบอกให้ทิ้งวงการแล้วมาช่วยดูแลคลับเลยนี่”
“คนนี้ดีกว่าตั้งเยอะ หน้าสวยกว่า แต่งตัวดูดีมีสไตล์ ดูเป็นคนมีสกุล ท่านประธานคงควงได้ไม่อายใครเลย”
“แต่เด็กทาคาบะดูปอนๆไปหน่อยสินะ” บอดี้การ์ดตัวเขื่องเริ่มเห็นด้วย “โวบวายโผงผาง มอซอ แถมจนขนาดต้องมาขออาศัยอยู่กับท่านอาซามิด้วยความจำเป็นบ่อยๆ”
“ยิ่งทำตัวไม่ค่อยน่ารัก ไม่ค่อยใส่ใจรูปลักษณ์ตัวเองด้วย ท่านประธานคงรู้สึกเป็นของแปลกใหม่ละมั้ง ก็ไม่รู้จะเบื่อเมื่อไหร่ละนะ หึๆ” ว่าแล้วกลุ่มชายสูทดำก็พากันหัวเราะ
อากิฮิโตะก้าวเดินฉับๆผ่านไป คนพวกนั้นก็หยุดหัวเราะเสียจนเงียบกริบ คงรู้แล้วสินะว่าเขาได้ยิน ร่างบางรู้สึกเสียหน้า แต่จะให้โต้ตอบอะไรได้ ในเมื่อมันเป็นความจริง เขาที่แต่งตัวแค่เสื้อกล้ามดำกับกางเกงยีนส์ขาสามส่วนไปซื้อเบนโตะคงจะดูไม่เหมาะสมกับเจ้านายเหนือหัวของพวกนี้จริงๆนั่นแหละ นั่นสินะ เบื่อเมื่อไหร่ก็คงเมื่อนั้น ถูกเตะออกไปจากชีวิตอาซามิก็ช่าง เขาไม่เห็นจะต้องแคร์เลย ที่วันนี้อยู่ตรงจุดๆนี้ได้ก็เพราะอีกฝ่ายต้องการเขา เรียกหาเขาต่างหาก ไม่ใช่เขาซะหน่อยที่เรียกร้องหาอีกฝ่าย
อากิฮิโตะนั่งกินเบนโตะไปดูทีวีไป เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
สายเรียกเข้าอาซามิ
“ทำอะไรอยู่เหรอ?” เสียงทุ้มถามมาจากปลายสาย
“เพิ่งกินข้าวเสร็จ” ร่างบางตอบกลับไปอย่างงอนๆ
“เป็นอะไรเสียงอย่างนั้น” ชายหนุ่มสงสัย
“ว่าแต่นาย เมื่อไหร่จะกลับ?” อากิฮิโตะถาม พยายามปรับเสียงให้ปกติปกปิดความว้าวุ่นในใจ
“งานเลี้ยงเลิกแล้วแต่ตอนนี้พาท่านสส.มารับรองต่อที่ชิออนน่ะ นายก็นอนไปได้เลยนะไม่ต้องรอ” อาซามิเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ ตอนนี้เกือบห้าทุ่ม
“ถ้างั้นจะกลับได้สักกี่โมงเหรอ? ตีสาม? ถ้าแค่นั้นล่ะก็ฉันดูหนังผีฆ่าเวลารอก็ได้”
“อยากให้ฉันรีบกลับไปกอดนายเร็วๆขนาดนั้นเชียวเหรอ” อาซามิหัวเราะเล็กน้อย “เอาเถอะ ก็ประมาณนั้นแหละ ถ้าฉันกอดนายวันนี้จะได้ไม่จำเป็นต้องเจอกับนายสักพัก...”
“เอ๊ะ นายว่าไงนะ เดี๋ยวซิ เฮ้....” อากิฮิโตะร้องถามแต่ก็พบว่าแบทตัวเองหมดพอดี หน้อจอเป็นสีดำสนิท
“หมายความว่าไงกันอาซามิ...” อากิฮิโตะค่อยๆเลื่อนมือถือจากหูลงมา วางมันแปะไว้ข้างตัว แล้วกอดเข่า
“สำหรับนายแล้วฉันเป็นอะไรกันแน่? คนที่นานๆนายก็คิดอยากจะกอดทีงั้นเหรอ ก่อนนั้นไม่เห็นเป็นแบบนี้ ดีแต่อยากจะผูกมัดฉันไว้ ถ้านายรู้ว่าฉันจะมาวันนี้คงจะชิงหลบหน้าไปก่อนแล้วสินะ ตาบ้า บ้าๆๆ คนใจร้าย” อากิฮิโตะลุกยืนขึ้นแล้วหยิบเสื้อที่เอาไปแขวนแล้วจากในตู้เสื้อผ้า หยิบออกมาก่อนนำเสื้อทั้งหมดใส่กลับไปในกระเป๋าเป้
“ถ้าคิดว่าถ้าได้กอดวันนี้จะไม่จำเป็นต้องมาเจอฉันไปอีกนานละก็ เอาสิ ถ้าคนมันไม่สำคัญขนาดนั้นวันนี้ฉันไปนอนที่อื่นก็ได้ไม่ยอมให้นายกอดหรอก” ขณะคิดจะไปขอร้องทาคาโตะเพื่อนอีกคนที่อาศัยอยู่บ้านกับพ่อแม่เพื่อไปขอซุกหัวนอนด้วยคนคืนนี้ มือก็ไปสะดุดกับกรอบรูปภายในเป้ที่เขาจะนำมาให้อาซามิเพื่อเซอร์ไพรส์
อากิฮิโตะเปิดกระดาษห่อสีน้ำตาลออก รูปนี้ถ่ายตอนฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาไม่นานนี้เอง เขาและอาซามิอยู่ในท่ามกลางกลีบซากูระที่กำลังโปรยปราย ใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่มกำลังยิ้มน้อยๆหันมองมาทางกล้อง รูปนี้ลูกน้องอาซามิช่วยถ่ายให้
หยดน้ำตาหนึ่งหยดตกลงบนกระจกกรอบรูป ทำไมตัวเขายิ้มกว้างอย่างมีความสุขได้ขนาดนี้นะ เขาไม่ได้สวมถุงมือเพราะต้องถือกล้องถ่ายรูป ความจริงวันนั้นหนาวเอาการเลยเชียว แต่ที่ไม่หนาวเพราะอาซามิคงจับมือเขาอีกข้างไว้ตลอดมั้ง ถ้าวันใดวันนึงขาดความอบอุ่นนี้ไปเขาจะทำไงล่ะ... อากิฮิโตะตัดใจตั้งกรอบรูปไว้ที่หัวเตียง อีกฝ่ายจะเก็บไปทิ้งหรือทำไรกับมันก็เชิญ
อากิฮิโตะออกมาจากห้องโดยข้างนอกไม่มีใครเฝ้า ร่างบางออกมายังที่จอดมอเตอร์ไซค์ภายนอกอาคาร เหลียวมองไปอีกครั้งในห้องที่เขาเพิ่งจากมาเมื่อครู่ที่ปิดไฟมืด ก่อนเปิดไฟหน้ารถและสตารทเครื่องยนต์ออกเดินทาง
TBC
ความคิดเห็น