ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Dragon Family The Musical

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 9 :: เปิดตัว ::

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 54


     9  

    // Ruj’s Says //

              สายตาของผมจับจ้องไปที่ร่างของโตโน่ที่นอนไม่ได้สติบนเตียง ก่อนจะย่อตัวลงไปพูดข้างหู

                “ พี่โตโน่ครับ ผมอยากจะขอโทษที่ทำพี่แรงไปหน่อย ผมแค่... ”

                “ ไม่เป็นไรหรอก ” ไม่ทันที่ผมจะพูดจบ พี่โตโน่ก็แทรกขึ้นมา

                เขาลุกขึ้นมานั่งบนเตียง พลางมองหน้าผมที่เต็มไปด้วยพลาสเตอร์แปะตามแผลบนใบหน้าและมีผ้าพันแผลพันรอบๆหัว

                “ นายรับงานวันนี้เลยละกันเนอะ ”

                โตโน่หยิบอะไรบางอย่างออกมาจากลิ้นชัก ก่อนจะนำมันมาใส่ในมือผม ผมสังเกตดูดีๆว่ามันคือเข็มกลัดรูปมังกรสีทองเปล่งประกายชวนน่าเกรงขาม 2 อัน

                “นี่คือสัญลักษณ์ประจำแก๊งค์ ให้ติดที่เสื้อหรือเนคไทก็ได้ ส่วนอีกของน้องนาย อ้อ!...” นายโตโน่เปิดแฟ้มออก “ส่วน Mission แรกของนาย หึหึ ก็แค่เปิดตัวว่าที่บอดี้การ์ดคนใหม่แค่นั้นเอง”

                “หา!?” ผมออกอาการเหวอรับประทานเล็กน้อย

                “เอางี้ สั้นๆ ง่ายๆเลยละกัน นายไปลุยกับพวกมันเดี่ยวๆแล้วกวนตีนไอ้เก่งมันซะ เข้าใจยัง ฉันนอนหละ” แล้วโตโน่ก็ฟุบลงไปหลับบนเตียง โดยไม่บอกกล่าว

                “เฮ้ยย!!!! ไอ้พี่โตโน่....โธ่...ก็ได้(วะ)ครับ T^T

     

                “อ่ะ เอาไป” ผมยื่นเข็มกลัดให้ริท

                “อะไรอ่ะครับพี่ สวยจัง” ริททำตาโตหลังจากที่ดูเข็มกลัด

                “เข็มกลัดประจำแก๊งค์ พี่โน่ฝากมาให้นายช่วยติดทุกครั้ง”

                “แล้วคุณชายจะไปไหน??” ริทออกปากถามขณะที่ผมคว้าเสื้อคลุมหนังดำมาสวมทับ

                “เอิ่ม...คือแค่จะไปทำ Mission นิดหน่อยอ่ะ คิดว่าไม่ถึงกับได้เลือดหรอกมั้ง”

                “ก็อย่าให้มันเกิดก็แล้วกัน ผมขี้เกียจเอาแอลกอฮอล์มาเคลียร์แผลให้”

                “คร้าบผม ^^ ไอ่คุณตัวเล็ก คุณชายไปละ บ๊ายบาย เจอกันเมื่อชาติที่ต้องการนะเว้ยยย...”

                “เช่นกันว่ะคร้าบ ไอ่คุณชาย”

                ผมเหน็บปืนพร้อมติดที่เก็บเสียงไว้ที่เข็มขัด ก่อนจะขึ้นควบมอเตอร์ไซค์ ดิ่งไปที่คฤหาสน์ของไอ่แก๊งค์บัวบานตามแผนที่บอกไว้

     

    // Ritz’s Says //

                หลังจากที่พี่รุจออกไปได้ประมาณ 10 นาที ก็มีผู้ชายคนนึงวิ่งเข้ามา สีหน้าดูตื่นๆเหมือนมีอะไร

                “น้องครับ เห็นพี่รุจป้ะ”

                “เค้าเพิ่งออกไปเมื่อตะกี๊ครับ”

                “โอเคๆ ขอบคุณครับ” เขารีบวิ่งออกไปแต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกของผม

                “พี่ครับ เดี๋ยวก่อน”

                “อะไรอ่ะครับน้อง พี่มีอะไรเหรอ??” เขาหันหน้ามาช้าๆ

                “พี่มีอะไรกับพี่ชายผม บอกกับผมก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมจะบอกเค้าอีกที”

                “ไม่เป็นไรครับ” เขาทำท่าจะหันหลังไป แต่ผมก็เดินมาจับบ่า

                “และผมจะบอกพี่เป็นครั้งสุดท้าย พี่ทำของตกครับ พี่ดิว...”

                ผมยื่นบัตรประชาชนส่งให้พี่ดิว เขารับมาอย่างเกร็งๆก่อนจะเดินฉับๆจากไป

     

    // Ruj’s Says //

              เอี๊ยดดดดด....!!!!!!!

     

                เสียงล้อมอเตอร์ไซค์ไถกับพื้นชวนให้เสียวฟัน ผมถอดหมวกกันน็อคแล้วหยิบแว่นดำมาใส่ ก่อนที่จะแอบอยู่หลังมอเตอร์ไซค์ ผมมองเห็นรปภ.ร่างยักษ์สองคนกำลังยืนหลับยาม...(-.,-|||) ผมชักปืนขึ้นมาเปลี่ยนกระสุนเป้นยาสลบ ก่อนจะเล็งไปตรงนั้น

                “ชอบหลับยามกันใช่มั้ย ได้หลับยาวสมใจอยากแน่ -___-++

               

                ฟิ้ววว...จึ้ก! โครมมมม!!!!!!

     

                เสร็จไปหนึ่ง...

    “เหอ!?” ยามร่างยักษ์อีกคนหนึ่งสะดุ้งตื่น แล้วเห็นเพื่อนของมันนอนสลบ มันก้มลงเขย่าเพื่อนร่างยักษ์ของมันทันที

                “เฮ้ย!! ไอ้เหี้ยม ไอ้เหี้ยม ตื่นดิวะ เป็นไรป้ะเนี่ย”

     

                ฟิ้ววว...จึ้ก! โครมมมม!!!!!!

     

                เสร็จไปอีกหนึ่ง...ผมเก็บปืนแล้ววิ่งไปที่หน้าประตู จัดการสอยกล้องวงจรปิดทุกตัวที่ประดับทั่วบริเวณหน้าคฤหาสน์ด้วยปืนกระบอกเดิม (แล้วจะเก็บมันทำแป๊ะอาราย...-ไรเตอร์)

                ทันใดนั้นเอง ก็มีชายชุดดำที่แต่ละคนมีรูปร่างกำยำ บึกบึน ความสูงน่าจะไม่ต่ำกว่าสองเมตรมายืนขวางหน้าผมราวๆห้าหกคน ทุกคนมีกระบองไฟฟ้าอยู่ในมือคนละหนึ่งอัน

                “มีธุระอะไร” เขาถามเสียงห้วน

                “ฉันจะมาพบเจ้านายของพวกแก” ในเมื่อห้วนมา ก็ห้วนกลับละวะ

                “ขอทราบประวัติบุคคลหน่อย เผื่อจะเป็นคนที่เจ้านายไม่ต้องการพบ”

                “งั้นเรอะ...เหอะ ฉันเองก็คงจะคิดว่าคงจะไม่ใช่คนที่ไอ้วาโยต้องการพบแน่นอน เพราะฉันคือ...” ผมหัวเราะในลำคอ พลางเปิดเสื้อคลุมเผยให้เห็นเข็มกลัดรูปมังกรสีทองติดอยู่ที่เสื้อเชิ้ตบริเวณหน้าอกด้านซ้าย “จะบอกให้ก็ได้ ฉันเป็นบอดี้การ์ดคนใหม่ของนายภาคินไงล่ะ”

                พวกมันมองหน้ากันแล้วพยักหน้าให้แก่กัน แล้วหันมาหาผม

                “พวกของศัตรูเจ้านายเราใช่มั้ย...เฮ้ย!! พวกเรา ไม่ต้องเสียเวลา ฆ่ามันนนนน!!!!!”

                “เฮ้อ...ท่าทางคงจะหลีกเลี่ยงความรุนแรงไม่พ้นแล้วสิ”

                ผมว่าพลางหลบหมัดและกระบองไฟฟ้าที่เหวี่ยงเข้ามาอย่างง่ายดาย แล้วกระแทกหมัดกลับและซัดลูกเตะใส่ในบางโอกาส จนพวกมันทุกคนจนล้มนอนร้องคราง

                “ที่แท้ก็โตแต่ตัวแต่ที่จริงมันอ่อนหัดกันหมดทุกคนเลยนี่หว่า”

                “เฮ้ย!!!! นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นมาวะเนี่ย แล้วพวกแกทำงานประสาอะไรกัน ถึงปล่อยให้คนนอกเข้ามาได้”

                เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้นมาพร้อมกับเจ้าของเสียง เป็นชายหนุ่มร่างสูง(แต่เตี้ยกว่าผม) ตัวขาววอกยังกะโอโม่ดีๆเลย หรือว่าเจ้าหมอนี่จะเป็น...

                ช...ชัดเลย ใช่มันจริงๆด้วย...!!!

                “ยินดีที่ได้พบนะครับคุณวาโย แหม...ลูกน้องของพวกคุณฝีมือดีจริงๆนะครับเนี่ย เจ็บกันเป็นแถวเลย” ผมถอดแว่นดำออก เผยให้เห้นหน้าตาจริงๆของผม

                “แก...อ..อ..ไอ้ศุภรุจ”

                “ใช่แล้วนายเก่ง ยังอุตส่าห์จำฉันได้อีกเนอะ ^^ ตอนนี้ฉันเป็นบอดี้การ์ดคนใหม่ของคุณโตโน่ ศัตรูตัวฉกาจของคุณไง”

                ผมเดินตรงไปยังห้องทำงานของเก่งโดยไม่ได้สนใจใคร เก่งตามมาพร้อมจ่อกระบอกปืนมาที่กลางหลัง แต่นั่นไม้ได้ทำให้ผมกลัวมันเลยแม้แต่น้อย

                “ฉันว่าอย่าใช้ความรุนแรงเลยเพื่อน” ผมพูดเสียงเรียบพลางปัดปืนออกจากมือของเก่ง

                “ใครเพื่อนแกห๊ะ!!!!!

                “อ้อ!...ส่วนไอ้นี่น่ะ ฉันขอนะ..ครับ” ผมหยิบแผ่น CD บนโต๊ะทำงานของเก่งขึ้นมาอวด แต่ดูเหมือนมันจะเป็นการปั่นหัวอยู่...

                “เอามานี่นะโว้ยยย!!!!

                ควับ!!!!

                “แต๋แน...” ผมชักแผ่นหลบไปด้านหลัง

                ควับ!!!!

                “แต๋แน...” คราวนี้เหวี่ยงกลับมาด้านหน้า ตอนนี้ไอ้เก่งท่าจะโกรธจนควันออกหูแล้ว ผมกระโดดขึ้นหน้าต่าง

                “ท่าทาง CD นี่คงจะสำคัญกับนายมากเลยนะเนี่ย”

                “อย่าเอามันไปนะเว้ย”

                “ฉันไปนะเฟ้ยยยย!!!!!!

                “เฮ้ย!! เกต เธอไปเช็คข้อมูลซิ ว่ามันเป็นอะไรรึป่าว ส่วนเซน จัดการมัน อย่าให้มันหนีไปได้”

                ผมรีบซิ่งออกจากคฤหาสน์ทันที โดยมีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ เฮอะ...เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับคนอย่างรุจ ถ้าอยากจะเอาชนะละก็ รอไป 10 ปีเห๊อะ...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×