ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปาฏิหาริย์รักมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #17 : ปัญหาเคลียร์ด่วนComplete...100%

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 57


    SQWEEZ

    “จอดรถ” คำสั่งสั้นๆของจรินดาทำให้บราวด์ทำสีหน้าแปลกใจแต่ก็ยอมจอดให้ “จอดทำไม” นิคาร์โกหันไปถามจรินดา เธอไม่ตอบแต่ทำท่าจะเปิดประตูรถเขาเลยคว้ามือเธอไว้

         “อะไรอีกล่ะ” เขาถามอย่างไม่เข้าใจ อะไรกันอยู่ดีๆก็ตั้งท่าจะลงจากรถไม่บอกไม่กล่าวสาเหตุกันซักคำ

         “ไม่อยากอยู่กับคนหลายใจ” เธอตอบพลางเชิ่ดหน้า แล้วจะลงจากรถอีกแต่เขาก็รั้งไว้ไม่ยอมปล่อย

         “ปล่อย!

         “ไม่!

         “บอกให้ปล่อยไง!

         “ก็บอกว่าไม่ไง!” เขาเถียงกลับทำให้เธอยอมนิ่งแล้วทำหน้าหงุดหงิด

         เขาพยักหน้ากับแนลว์และบราวด์เล็กน้อยทำให้ทั้งสองเดินออกจากรถไป “ควรจะเป็นพี่มากกว่ารึปล่าวที่ต้องโกรธ” เขาเปิดฉากพูดทำให้เธอชักสีหน้า

         “ทรายพูดผิดตรงไหน..พี่ทริคก็คงเป็นเหมือนผู้ชายรวยๆทั่วไปที่ควงผู้หญิงสลับหน้ามากกว่าถุงเท้า” จรินดาย้อน ทำให้เขาทำหน้านิ่ง

         “ทรายเอาอะไรมาตัดสินพี่” เขาถามทำให้เธอเงียบ

         “ก็ทุกอย่างมันบอกอยู่แล้วว่าตอนที่ทรายอยู่กับพี่ทริคพี่ทริคเป็นคนยังไง” เธอตอบเสียงเบาทำให้เขาถอนหายใจออกมา

         “ทุกอย่างที่พี่ทำ...พี่ทำกับทรายแค่คนเดียว” เขากระซิบชิดหูทำให้เธอหัวใจพองโตขึ้นมาทันที แต่ก็ทำสีหน้านิ่งเพื่อไม่ให้เขารู้ว่าเธอคิดเช่นไร

         “ผู้ชายทุกคนก็คงพูดแบบนี้เวลาที่ผู้หญิงโกรธใช่มั้ยคะ” เธอถามเสียงติดกระเง้ากระง้อด

         “ผู้ชายคนอื่นพี่ไม่รู้ว่าเขาทำแบบนี้เพราะอะไร สำหรับพี่พี่พูดความจริงไม่ได้ต้องการให้ทรายหายโกรธ แต่อยากให้ทรายคิดเองว่าควรจะโกรธพี่หรือปรับความเข้าใจกันดีๆ” เขาพูดทำให้จรินดาท่าทางดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

         “ก็เล่ามาสิคะ ทรายจะได้ไม่คิดเองแบบนี้” เธอบอกทำให้เขาอมยิ้มน้อยๆกับแก้มป่องของเธอเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังผิด

         “ถึงพี่จะไปอยู่ที่นั่นถึง10ปีแต่ก็ใช่ว่าพี่จะยอมรับวัฒนธรรมของที่นั่น พี่ชอบประเทศไทยมากกว่า ชอบที่เขามีภรรยาแค่คนเดียว ชอบที่เขาซื่อสัตว์ต่อกัน ชอบที่เขายิ้มให้กันไม่ใช่ทำหน้านิ่งใส่กัน พี่ชอบทุกอย่างที่เป็นไทย ทรายไม่รู้หรอกว่าพี่ไปอยู่นั่นมันเหงาแค่ไหน วันวันก็เจอแต่นักธุรกิจที่ท่าทางดูดีแต่ก็ไร้น้ำใจและหวังแต่ผลประโยชน์ ส่วนเรื่องผู้หญิง....พี่ก็ไม่ได้เปลี่ยนบ่อยขนาดนั้น” เขาพูดเสียงอุบอิบประโยคสุดท้ายแต่เธอก็ได้ยินเต็มสองหู ทำให้เธอทำตาโตทันที

         “ก็มีใช่มั้ยล่ะ!” เธอร้องวี๊ดด้วยความเคือง เขาเลยดึงเธอเข้ามาโอบไว้

         “ก็มีไง..แต่ก็ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรกันเลยนะ..แค่ควงออกงานเท่านั้น” นิคาร์โกพูดเสียงหนักแน่น ทำให้เธอทำหน้าบูดบึ้ง

         “ไม่เชื่อหรอก..”

         “พิสูจน์มั้ยล่ะ” ถามทำให้เธอส่ายหน้าหวือรัวๆ

         “ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่องเลย..ยังไงทรายก็โกรธ” เธอพูดแล้วทำหน้างอนๆ

         “รู้ว่าตัวเองผิดยังจะให้เค้าง้ออีก” นิคาร์โกเปรยทำให้เธอเชิ่ดหน้าใส่

         “โอเค๊!ทรายผิดเองค่ะ!ขอโทษ!” จรินดาพูดเสียงหงุดหงิดทำให้เขาหัวเราะร่า

         “ก็แค่นั้น..ทีหลังก็อย่าฟอร์มเยอะนักนะเด็กน้อย..เดี๋ยวเรืองเล็กมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่” เขาพูดแล้วบีบจมูกจรินดาอย่างหมั่นเขี้ยวทำให้เธอทำหน้ามุ่ย

         “พี่ทริคก็รู้ว่าทรายป็นยังไง..ยอมๆหน่อยไม่ได้รึไง” เธอทำหน้ายู่

         “จะให้พี่ยอมตลอดก็ไม่ได้หรอกนะ..เดี๋ยวเขาก็หาว่าพี่กลัวเมียกันพอดี”เขาพูดทำให้จรินดาตีไหล่เขาอย่างแรง

         “ทรายไม่ใช่เมียนะ!” เธอค้านเสียงหลง แต่เขาก็ยิ้มให้แล้วยักคิ้ว

         “ไม่รู้ล่ะ..ยังไงพี่ก็ถือว่าทรายเป็นเมียพี่แล้ว” เขาตอบหน้าตายแล้วฉกจูบแก้มเธออย่างรวดเร็วทำให้เธอทำหน้าเหวอ

         “พี่ทริค!” เธอตะโกนลั่นแต่เขาก็ไม่ได้สนใจและยิ้มให้ อยู่ที่นู่นเขาแทบจะไม่ได้ยิ้มเลย ก็มีบ้างในบางครั้งแต่ก็น้อยจนนับครั้งได้ ไม่รู้เหมือนกันพออยู่ที่นี่มีแต่เรื่องให้ยิ้มตลอดเวลาจนเขาก็อดแปลกใจไม่ได้จริงๆ

         “ก่อนออกมาอยากทรายอยากฟังเพลงใช่มั้ย..งั้นก็ไปฟังกันดีกว่าเนอะ” เขาปัดไปเรื่องอื่นแล้วเรียกแนลว์กับบราวด์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลมาขับรถต่อ

    -Loading…25%-

    -20.00น.-

         จรินดาและนิคาร์โกอยู่ที่ผับแห่งหนึ่ง และตอนนี้กำลังนั่งอยู่ตรงบาร์เล็กๆกันสองคน “คออ่อนรึปล่าว” เขาถามทำให้เธอยิ้ม

         “ไม่อ่อนแล้วก็ไม่ได้คอทองแดงค่ะ” เธอตอบแล้วซดค็อกเทลหมดรวดเดียวทำให้เขาถอนหายใจน้อยๆแล้วส่ายหน้ากับความอวดดีของเธอ

         “นึกยังไงพาทรายมาที่นี่ล่ะคะ”

         “มาแก้อดีตไง” เขาตอบทำให้จรินดาชักสีหน้างงทันที

         “อดีต?

         “ก็เราเจอกันที่ผับนี้ตอนเราทะเลาะกัน..พี่ก็แค่อยากจะลบเลือนความรู้สึกนั้นตอนอยู่ที่นี่” เขาอธิบายทำให้จรินดาพยักหน้าน้อยๆแล้วค็อกเทลแก้วใหม่ก็มาเสิร์ฟอีกครั้ง

         “ผมขอรัมแก้วนึง” นิคาร์โกบอกพนักงานทำให้เธอหันมามองหน้า

         “มองอีกแล้ว..พี่ทำอะไรผิดอีกแล้วหรอ” เขาถามอย่างงงงวยเมื่อพนักงานเดินไปแล้ว

         “รัมที่นี่เกือบ40ดีกรีเลยนะคะ” เธอพูด แต่เขาก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะตกใจหรือทึ่ง

         “ที่นู้นเกือบ70ดีกรีพี่ยังไม่โวยวายเลย” เขาตอบทำให้เธอตาค้าง

         “ขี้เมารึปล่าวเนี่ย” เธอประชดทำให้เขาหัวเราะในลำคอแล้วโอวเอวเธอไว้ “ถ้าขี้เมาแล้วจะหล่อขนาดนี้หรอ” เขาพูดทำให้จรินดายู่หน้าอย่างหมั่นไส้

         “ค่ะๆ..หล่อที่สู้ดดด!” เธอพูดเสียงประชดและก็ได้ยินเสียงหัวเราะจากแนลว์และบราวด์แว่วมา เขาเลยหันขวับไปหาทำให้ทั้งสองหยุดหัวเราะแทบไม่ทัน

         “ชมแฟนตัวเองแบบจริงใจบ้างก็ได้นะ” เขาพูดเสียงงอนทำให้เธอหลุดหัวเราะออกมา เมื่อเห็นสีหน้าของเขา

         “ก็คนไม่หล่อจริงๆ เอ๊ย!ไม่ใช่ค่ะไม่ใช่...คนหล่อเค้าไม้ต้องบอกก็หล่ออยู่แล้วค่ะ” เธอรีบแก้ก่อนที่จะนิคาร์โกจะชักสีหน้าด้วยอารมณ์ฉุนๆ

         จากนั้นเขาก็ไม่พูดอะไรกับเธออีกเลยเอาแต่กระดกรัมที่สั่งมาไม่หยุด เธอมองแล้วมองอีกเขาก็ไม่ยอมหยุดซักทีจนเธอต้องปรามเขาไว้ก่อนที่เขาจะเมาเดินโซเซกลับบ้านตั้งแต่วันแรก “กินไม่หยุดแบบนี้ทรายทิ้งไว้ที่นี่นะคะคงไม่แบกกลับบ้านแน่ๆ” เธอพูดติดตลกแต่เขาก็ทำหน้านิ่งใส่แล้วตอบ

         “ลูกน้องพี่ก็มีไม่ต้องลำบากทรายหรอก” เขาตอบแล้วกลับมาซดแก้วเหล้าต่อ แต่เธอก็ห้ามไว้อีกครั้ง

         “แค่นี้ก็งอนกันแล้วหรอคะ” เธอพูดเสียงปนอ้อนน้อยๆแต่เขาก็ทำหน้าบึ้งใส่

         “ผู้ชายอะไรขี้ใจน้อยจัง” เธอบ่นเบาๆแต่เขาก็เถียง

         “พี่ไม่ได้ขี้ใจน้อยแต่ทรายว่าพี่ไม่หล่อมันเรื่องใหญ่มากเลยนะ” เขาพูดเสียงโกรธๆ ก็มันจริงนี่หน่า มีแต่คนบอกว่าเขาหล่อ อย่างน้อยผู้หญิงครึ่งค่อนประเทศก็อยากได้เขาเป็นสามีกันทั้งนั้น แล้วนี่อะไร!เธอบอกว่าเขาไม่หล่อ มันทำให้ความมั่นใจเขาลดลงเยอะมากเลยนะ นี่ฉุนนะฉุน!

         ที่เขาบอกทำให้เธอหัวเราะออกมาอย่างนึกขัน เรื่องความหล่อมันสำคัญกับเขามากขนาดนั้นเลยหรืออย่างไรนะ

         ยิ่งเห็นเขากัดปากตัวเองแล้วขมวดคิ้วเป็นปมยุ่งก็ยิ่งทำให้เธอเข้าใจว่าเขาขาดความมั่นใจจริงๆ “ทำไมต้องทำหน้าอย่างนั้นคะ..เดี๋ยวความหล่อหายหมดนะ” เธอพูดเสียงหวานแล้วกดหัวคิ้วให้เขาคลายออก

         “คนหล่อเค้ามีออร่านะคะไม่ต้องพูดก็รู้ว่าหล่อ..ที่ทรายบอกก็แค่แกล้งเองทำไมต้องเครียดด้วยล่ะคะอายุก็มากแล้วเดี๋ยวตีนกาก็ถามหาหรอกนะคะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” เธอพูดปลอบแล้วก็แหย่ต้องทำให้เขาทำหน้าง้ำงอมากกว่าเดิม

         “ก็บอกแล้วไงว่ายังไม่แก่..ซิกแพ็คพี่ก็มาครบ กล้ามพี่ก็สวยไม่เชื่อพี่จะเปิดให้ดูเดี๋ยวนี้แหละ!” เขาพูดด้วยความโกรธแล้วลุกขึ้นถอดสูทออกแล้วทำท่าจะถอดเสื้อออกด้วยเรียกสายตาจากสาวๆในผับที่เดินผ่านไปผ่านมาเป็นอย่างดี

         โชคดีที่เธอตะครุบไว้ทันแล้วกดตัวเขานั่งลง “พี่ทริค!เล่นอะไรเนี่ย!ก็บอกอยู่หยกๆว่าทรายล้อเล่นไงคะ” เธอเอ็ด ทำให้เขากลับมายิ้มอีกครั้ง

         “เมาแล้วมั้งคะ..อยู่ดีๆก็ทำหน้าบึ้งอยู่ดีๆก็ยิ้ม” หรือว่าวัยทองโชคดีที่เธอยั้งปากไว้ทันไม่อย่างนั้นคนอายุ20ปลายๆคงได้อาละวาดอีกแน่ๆ

         “ไม่ได้เมา..หึงพี่ใช่มั้ยล่า” เขาพูดแล้วยิ้มอย่างอย่างผิดทำให้เธอตีไหล่เขาแล้วชักสีหน้าใส่

         “ขี้ตู่อีกแล้วพี่ทริค..เอาอะไรมาตัดสินคะ” เธอพูดแล้วหลบตาไปด้วย ทำไมใจวูบๆแปลกนะ!

         “โอ๋ๆไม่เป็นไรๆเดี๋ยวคืนนี้พี่ค่อยถอดให้ดูก็ได้เนอะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!” เขาพูดแล้วตวัดเอวเธอมานั่งลงบนตักตัวเอง จากนั้นก็หัวเราะออกมาเมื่อเธอดิ้นเป็นพัลวัน เคยได้ยินรึปล่าวล่ะหัวเราะทีหลังมันดังกว่านะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า

    -Loading…52.99%-

         “อ้าว!สวัสดีครับคุณทราย” เสียงทุ้มอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้เธอและนิคาร์โกหันไปมอง

         “สวัสดีค่ะ..คุณมิ๊ก” เธอตอบกลับเสียงเรียบ แต่ก็ฉีกยิ้มให้น้อยๆอย่างเบื่อหน่าย

         “มาทำอะไรหรอครับ” ชนะพลถามเธอเสียงสดใส แต่เธอนี่ต่างจากเขาสุดขั้ว

         “เรื่องส่วนตัวค่ะ..ว่าแต่สิณีได้มาด้วยรึปล่าว”

         “เอ่อ..ไม่ได้มาหรอกครับ ผมนัดลูกค้าเอาไว้” เขาตอบแล้วหลบสายตา แค่นี้ก็รู้แล้วว่าเขาโกหก ไม่รู้ว่าสิณีภิรมณ์ไปหลงเสน่ห์นายนี่ได้ยังไง แค่เห็นผิวเผินก็รู้ได้แล้วว่าเจ้าชู้แค่ไหน อย่างเพื่อนเธอเอาไม่อยู่หรอกเชื่อเถอะ

         “ลูกค้านี่ผู้หญิงหรือผู้ชายหรอคะ” จรินดาพูดเสียงประชดด้วยความไม่พอใจ

         “ผมขายเครื่องเพชรนะครับ ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้หญิงกันทั้งนั้น ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะครับ”

         “อ้อปล่าวหรอกค่ะ..ก็แค่..ระแวงเท่านั้นเอง แล้วนัดลูกค้าไว้ตอนไหนคะ อยากพบจังเลย” จรินดาถามแล้วด้วยความ(ไม่)จริงใจ

         “สามสี่ทุ่มนั้นแหละครับ..ตอนกลางวันเค้าไม่ค่อยว่าง...ผมขอนั่งคุยกับคุณทรายไปก่อนได้มั้ยครับคงอีกนานเลย” ชนะพลพูดแล้วมองดูนาฬิกา เธอเลยลอบถอนหายใจเบาๆจากนั้นก็หันไปหานิคาร์โกที่ปั้นหน้าเรียบเฉยรออยู่แล้ว

         “ก็ได้ค่ะ..พี่ทริคคะ..นี่คุณชนะพลค่ะสามีเพื่อนทรายเอง” จรินดาแนะนำเขาก็ไม่สนใจแล้วหันไปกระดกแก้วเหล้าต่อ รู้ได้เลยว่าเขางอนอีกแล้ว

         รู้สึกว่าแต่ละคนที่ร่วมวงสนทนาไม่ได้อยู่ไหนฟิลลิ่งเดียวกันเลยซักคน ชนะพลก็ดูร่าเริงมีความสุข เธอก็ตามน้ำไป แต่นิคาร์โกนี่สิไม่ยิ้มไม่พูดอะไรเลยซักคำ เธอนี่ก็กังวลไปไกลนั่งระสับระส่ายไปมาอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก นี่มันก็นานเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วนิคาร์โกก็ไม่ปริปากพูดอะไรซักคำ

         “ตอนนั้นผมเห็นข่าวในหนังสือพิมพ์ว่าคุณทรายเลื่อนการหมั้นอย่างไม่มีกำหนด มีอะไรกันหรอครับ” เมื่อถึงคำถามนี้เธอก็ไม่รู้จะตอบกลับไปว่าอะไรดี

         “เอ่อ..ฉัน..เอ่อ”

         “ก็ทรายเจอเนื้อคู่ตัวจริงแล้วไง..อย่าเซ้าซี้ให้มันมากน่ารำคาญ! นั่งรอลูกค้าไปคนเดียวละกันฉันกับทรายคุยกับนายมานานแล้ว” นิคาร์โกพูดเสียงเรียบ แล้วกระชากเธอให้เดินตามมา

         เมื่อขึ้นรถได้ รถก็เคลื่อนออกไปทันที ระหว่างทางก็มีแต่ความเงียบเข้าปกคลุมจนเป็นเธอเองที่จะหายใจไม่ออก “พี่ทริคคะ” เธอพูดเสียงติดแหบ เพราะรู้สึกกลัวเขาอย่างบอกไม่ถูก

         “คบซ้อนเลยหรอ” เขาเปรยทำให้จรินดาขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างงงงวย

         “คบซ้อน?พี่ทริคกำลังหมายถึงอะไร” เธอถามอย่างไม่เข้าใจ เขาก็หัวเราะในลำคอ “นอกจากประกาศจะหมั้นกับวัฒนาแล้วก็ยังเป็นกิ๊กกับสามีเพื่อนด้วยใช่มั้ย” คำถามของเขาทำให้เธอเริ่มเดือดปุดๆทันที

         “ทำไม..พี่ทริคถึงคิดแบบนั้นล่ะคะ”

         “ก็ทรายทำเหมือนว่าหึงไอ้นั่น..หรือจะโลกสวยบอกว่าหึงแทนเพื่อน พูดแบบนั้นใครมันจะไปเชื่อ หึ!” เขาพูดอย่างเหยียดๆทำให้เธอเริ่มกำมือแน่นขึ้นเรื่อยๆ

         “ทรายไม่ได้หึงค่ะ!ที่ทริคดูไม่ออกหรอว่ามิ๊กเค้าเจ้าชู้แค่ไหน..ทรายก็แค่ระแวงแทนสิณี ทรายไม่อยากให้สิณีเจ็บ...”

         “แล้วจะเอาอะไรมายืนยันล่ะ” เขาสวนกลับมาทำให้เธอถอนหายใจแล้วนั่งก้มหน้าอย่างสงบสติอารมณ์

         “ไม่มีค่ะ..ทรายก็มีแค่...ความซื่อสัตย์ ความซื่อสัตย์ที่พี่ทริคไม่เคยมองเห็น”

    -Loading…71%-

    เธอตอบแล้วเสมองไปนอกหน้าต่างที่เงียบเหงากว่าทุกๆวัน “เอาเถอะค่ะ...ทรายไม่อยากทะเลาะด้วย..ก็แค่จะบอกว่าทุกอย่างที่ทรายบอกเป็นความจริงทั้งหมด แล้วแต่ตัวพี่เองว่าจะเชื่อทรายดีรึปล่าว” จรินดาพูดเขาก็มองอย่างไม่ละสายตา ดวงตาดูอ่อนลงเล็กน้อย เริ่มลังเลใจเมื่อเห็นสีหน้าสลดของร่างเล็ก

         เขาถอนหายใจออกมาแล้วกระถบตัวเข้ามาใกล้เธอจากนั้นก็รั้งให้เธอซบลงบนอกเขาถึงแม้ว่าเธอจะต่อต้านเล็กน้อย “ปล่อยค่ะ” เธอพูดแล้วพยายามดันออกแต่เขาก็ไม่เลิกล้มความตั้งใจ

         “อยู่นิ่งๆสิ...หลับตาลง” เขาสั่งอย่างแผ่วเบาทำให้จรินดานิ่งเงียบแล้วหลับตาตาม

         “อุ่นมั้ย” เขาถามอีกครั้งเธอก็พยักหน้า

         “ขอโทษ...” เสียงเขาพูดแผ่วเบาทำให้เธอขวดคิ้วน้อยๆอย่างสงสัย อย่างเขาน่ะหรอจะขอโทษเด็กอย่างเธอ

         “ว่าอะไรนะคะ” เมื่อเขาพูดเสียงกระซิบเธอก็กระซิบตามเขาไปซะด้วย

         “พี่บอกว่าขอโทษ...ขอโทษที่พูดแบบนั้นแต่พี่ก็ยังไม่เชื่อทรายเต็มร้อยหรอกนะ” เขาพูดดักคอทำให้เธอยู่หน้าแต่ก็ยังไม่ลืมตาขึ้น

         “ค่ะ!แล้วจะให้ทรายหลับตาทำไมคะเนี่ย”

         “ก็ให้ทรายพักผ่อนไง...อกพี่น่ะอุ่นจะตาย” คำพูดนี้ของเขาทำให้เธอลืมตาแล้วลุกขึ้นมานั่งเหมือนเดิมอย่างหมั่นไส้ แล้วนี่เขาพูดผิดตรงไหนหรอ

         “อ้าว!ลืมตาทำไมล่ะ..มาเร็วนอนสิอุตส่าห์เป็นหมอนให้เลยนะ” เขาพูดอย่างใจป้ำแล้วรั้งตัวเธอมานอนอีกครั้ง จากนั้นก็ลูบหัวเธอเบาๆ

         “ก็เลิกหลงตัวเองสิคะ..นี่เราโกรธกันอยู่นะคะพี่ทริค” เธอพูดเสียงเขียวแล้วเตือนว่าตอนนี้กำลังโกรธอยู่เขาอมยิ้ม กับท่าทางจริงจังของเธอ

         “เอาเป็นว่าเรายุติเรื่องนี้กันซักพักก่อนเนอะ..ทรายก็งีบไปก่อนก็ได้เดี๋ยวถึงแล้วพี่เรียกเอง” เขาพูดแล้วจุ๊บเหม่ง?เธอทีนึง

         และไม่นานนักลมหายใจเธอก็สม่ำเสมอ เขาก็มองดูนอกหน้าต่างอย่างสบายใจ โดยลืมไปซะสนิทว่ามีลูกน้องอีกสองคนนั่งร่วมทางมาด้วยตลอด

         “เจ้านายนี่แถเก่งจัง” แนลว์พูดทำให้นิคาร์โกหันขวับไปหาทันที

         “ฉันแถเมื่อไหร่”

         “ก็ตอนขึ้นรถมายังโกรธคุณทรายอยู่ไม่ใช่หรอครับ แล้วไหงทำไมเป็นคนสงบศึกซะเอง” แนลว์ถาม บราวด์ที่บังคับพวงมาลัยรถก็พยักหน้าเห็นด้วยเสริม

         “ก็ทรายทำฉันโกรธไม่ลงเอง..พูดซะฉันเหมือนคนผิดเลย” เขาตอบเสียงเบาพอให้ได้ยิน แนลว์กับบราวด์เลยปล่อยก๊ากออกมา เขาเลยงงเป็นไก่ตาแตก นี่เขาทำให้อะไรให้ขำ นี่ซีเรียสนะ!

         “แกขำอะไรกันวะ” นิคาร์โกถามอย่างหาเรื่องเสียงเบาเพราะถ้าตะเบ่งเสียงมากๆเดี๋ยวคนที่นอนอยู่ได้สะดุ้งตื่นกันพอดี

         “ก็ปกติเวลาเจ้านายโกรธก็จะเงียบม๊ากกกกก!!ไม่ยอมพูดอะไรเลย ถึงใครจะทักก็ไม่ยอมพูดแถมยังทำหน้าเหมือนยักษ์อีกแต่นี่อะไร คุณทรายทักคำเดียวเจ้านายก็รีบสวนเลย เดี๋ยวเสียฟอร์มนะคร้าบบบ” แนลว์พูดเสียงยิ้มๆ หน้าเขาก็ซับสีเลือดขึ้นมาเล็กน้อย

         “ก็คนนี้ฉันจริงจัง..มันจะผิดอะไรที่ฉันต้องการให้มันเคลียร์ให้จบเร็วๆ..ขืนปล่อยให้โกรธกันนานๆฉันกลัวว่าหมาแถวนี้มันจะคาบไป” เขาพูดส่งผลกระทบถึงแนลว์ที่ทำตาโตจนแทบถลน

         “เจ้านายว่าใครเป็นหมา!” แนลว์ร้องเสียงหลง แต่เขาก็ยังทำหน้านิ่งใส่

         “หมาตัวที่ถามฉันอยู่นี่แหละ..แกจะเองไงเคลียร์ให้จบเลยดีกว่า แกห้ามยุ่งกับเมียฉันอีกเด็ดขาด!” เขาสั่งเสียงจริงจัง แนลว์ก็โอดครวญ

         “ทำไมเจ้านายหึงไม่เข้าท่าอย่างนี้ล่ะครับ..ผมก็แค่เป็นเพื่อนคุยให้คุณทรายไม่ได้แปลว่าจะชอบกันซะหน่อย นี่ถ้าบราวด์ไปคุยกับคุณทรายอีกคนมีหวังเจ้านายไม่ไล่พวกเราออกหมดทุกคนหรอครับ” แนลว์พูด นิคาร์โกก็ชักสีหน้าใส่อย่างไม่ยอมแพ้

         “แล้วใครใช้ให้แกคุย!

         “คุณทรายไงครับ!

         “แล้วแกจะทำตามทำไมห๊ะ!ฉันไม่ได้สั่งนะ!

         “ก็เจ้านายบอกเองนี่ครับว่าคุณทรายเป็นเมียเจ้านาย!ผมว่าคำสั่งคุณทรายก็ไม่ได้ต่างอะไรจากเจ้านายมากหรอกครับ!” แนลว์เถียงไม่หยุดจนเขาแทบจะบีบคอมันอยู่รอมร่อ แต่จรินดาก็นอนหลับสบายอยู่คาอกเขา! ทำไมอะไรๆมันก็ขัดใจไปหมดเลยนะ!

         หลังจากเงียบได้รถก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่แนลว์ก็ยังมิวายเปรยขึ้นอีก “บราวด์ๆฉันว่าอีกไม่นานเราอยู่ข้างคุณทรายดีกว่าว่ะ..เซ้นส์ฉันมันบอกว่าตอนแฮปปี้เอนดิ้งเจ้านายกลัวเมียแน่ๆ”

         “ไอ้แนลว์” เขาพูดอย่างอดกลั้นอารมณ์สุดๆ ถึงคฤหาสน์เมื่อไหร่เขาจะเตะตูดมันให้หนำใจเล๊ย! มีลูกน้องกวนตีนมันก็มีสีสันนะ แต่ถ้ามันมากไปก้อยากจะยัดพระบาทใส่ปากมันจริงๆ-.-

    -complete…100%-

    งื้ออออ!มาแล้วน๊าาา^^ จริงๆกะจะลงตั้งแต่เมื่อวานแต่พอดีว่าไปเลี้ยงวันเกิดย้อนหลังรีดเดอร์ผู้น่ารักก็เลยอดเสพ?นิยายกันไป แต่ยังไงก้ไม่โกรธกันเนอะ รักกันเหมือนเดิม^^

     

        

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×