ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปาฏิหาริย์รักมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #3 : เป็นห่วงหรือเย็นชา

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 57


    SQWEEZ จรินดาตบไปที่ใบหน้าของนิคาร์โกอย่างแรง จนหน้าของเขาหันตามไปด้วย จากนั้นเขาก็หันมาหาเธอพร้อมกับเห็นเลือดซิบเล็กน้อยที่มุมปากของเขา " ออกไป!ฉันไม่อยากยุ่งกับนายอีก!ไอเลว " จรินดาพูดแล้วชี้นิ้วไล่เขาพร้อมกับน้ำตาที่ปริ่มๆจะไหลแต่ก็พยายามที่จะกลั้นมันเอาไว้อย่างสุดความสามารถ
         นิคาร์โกก็ไม่อยากจะอยู่ที่นี่อีกแม้แต่วินาทีเดียว รีบเดินออกไปจากห้องลงบันไดแล้วเดินออกจากตัวคฤหาสน์โดยไม่ได้บอกลาใครเลยแม้แต่น้อย " กลับคฤหาสน์!!! " นิคาร์โกจะโกนลั่นทำให้การ์ดที่รออยู่หน้าคฤหาสน์รีบวิ่งมาเปิดประตูทันที จากนั้นรถก็เคลื่อนออกจากคฤหาสน์ไป
         ส่วนจรินดาที่นั่งคุ้ดคู้อยู่ตรงมุมห้อง น้ำตาไหลลงมาไม่ขาดสายด้วยความน้อยใจแต่เพียงไม่กี่นาทีเธอก็ปาดน้ำตาลวกๆแล้วกดโทรศัพท์หาใครคนหนึ่ง
         " ฮัลโหล..มายเฟรนด์ขาาาา...วันนี้ไปดริ้ง!เป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ " เธอพูดด้วยเสียงสดใสเป็นพิเศษ
         " แกเป็นอะไรรึปล่าวเนี่ยทราย..ร่าเริงเกินขนาดนะ " มายเฟรนด์ เพื่อนสาวประเภทสองของเธอพูด
         " ปล่าวนี่!!..เอาเป็นว่าเจอกันร้านประจำสองทุ่มละกันนะ " เธอขึ้นเสียงสูง จากนั้นก็กดตัดสายไป
         " ฉันว่าไม่จริงหรอกย่ะ " มายเฟรนด์พูดดกับโทรศัพท์ตัวเองแล้วก็ถอนหายใจกับเพื่อนของตัวเอง
    เวลาสองทุ่มตรงจรินดาก็เข้ามาในผับแห่งหนึ่งในย่านวิภาวดีร้านประจำที่เธอกับมาเฟรนด์ชอบเข้ามานั่งดื่มกัน ปกติจะเป็นเพื่อนของเธอมากกว่าที่จะเป็นคนเลือกโต๊ะแต่คราวนี่นางยังไม่มาเธอเลยเลือกโต๊ะเอง แต่ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วแต่เพื่อนของเธอยังไม่มาเลยเกิดอาการหัวเสียอย่างรุนแรงโทรศัพท์หามายเฟรนด์ทันที
         " นี่!มายด์อยู่ไหนแล้ว!นี่มันเลยเวลานัดมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ!! " จรินดาพูดด้วยอาการหัวเสีย
         " ทรายจ๋าาา..เค้าขอโทษนะตะเอง..วันนี้ฉันลืมไปว่าฮันนี่นัดฉันมาดินเนอร์ใต้แสงเทียนน่ะ..ขอโทษน๊าาแค่นี้ก่อนนะฮันนี่มาแล้ว " พูดจบนางก็รีบกดตัดสายทันที
         " เพื่อนบ้า!..นี่ฉันอุตส่าห์ฝ่ารถติดมาเพื่อเจอแกแต่แกกลับไปเดตกับแฟนโดยลืมฉันไว้เนี่ยนะ " จรินดาพูดด้วยความอารมณ์เสีย แต่อยู่ดีๆก็มีพนักงานเดินทาเสิร์ฟค็อกเทลให้ทั้งที่เธอไม่ได้สั่ง
         " ขอโทษนะคะ..ค็อกเทลแก้วนี่ฉันไม่ได้สั่ง " 
         " ผู้ชายคนนั้นบอกให้เอามาให้ครับ " พนักงานตอบจากนั้นก็เดินออกไป
         จรินดาหันไปตามทิศทางก็เจอชายคนหนึ่งท่าทางดูเป็นหนุ่มเจ้าสำอางค์คนนึงทีเดียวรูปร่างดูสูง เขากำลังมองมายังเธอ ยกแก้วในมือของตัวเองเล็กน้อยแล้วเดินมายืนตรงหน้าเธอ
         " ขอโทษนะครับ..ตรงนั้นมีคนนั่งรึปล่าว " เขากล่าวแล้วส่งยิ้มทรงเสน่ห์มา แต่เธอก็ดูไม่สนใจเท่าไหร่
         " ไม่มีค่ะ..เพื่อนไม่มาแล้ว " เธอตอบเสียงเรียบแล้วผายมือให้เขานั่ง
         เขายิ้มแล้วเดินไปนั่งลง " ผมมิ๊กครับ ชนะพล " เขาแนะนำตัวแล้วยื่นมือไปหาเธอ
         " ฉันทรายค่ะ จรินดา " เธอพูดแล้วยื่นมือไปจับเขา
         " ไม่ทราบว่ามีเจ้าของหัวใจรึยังครับ " ชนะถามแล้วยิ้มให้เธออีกครั้ง
         " มีแล้วค่ะ..ได้ยินข่าวรึปล่าวคะที่ฉันกำลังจะหมั้นกับวัฒนา ดุริยางค์กุล น่ะค่ะ " เธอพูดแล้วยิ้มเมื่อเห็นหน้าของชนะพลดูเจื่อนลงไป
         " อุ๊ยขอโทษนะครับวันนี้ผมคงต้องไปก่อนพอดีลืมไปว่าลืมเอกสารนิดหน่อยน่ะครับ " ชนะพลพูดแล้วยิ้มจากนั้นก็เดินออกไปด้วยอาการหัวเสีย

         ส่วนเธอก็ยิ้มอย่างสะใจเมื่อเห็นเขาหน้าเสียแล้วเดินออกไป " โทษนะ..ฉันไม่สุงสิงกับคนในผับ " เธอพูดจากนั้นก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกมาเพื่อที่จะกลับบ้าน
         แต่บรรยากาศข้างในมันมืดจนเธอชนกับใครคนนึง เขารับเธอไว้ซึ่งเธอก็มองเห็นหน้าเขาไม่ชัด " ขอโทษค่ะ " เธอพูดแต่เขาคนนั้นกลับดึงตัวเธอไปข้างนอกและเมื่อออกมาในที่สว่างก็พบว่าเป็นนิคาร์โกเธอตกใจอย่างมากไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้
         " พี่ทริค " เธอพูดด้วยความตกใจ 
         " เข้าสถานที่แบบนี้ด้วยหรอ " เขาถามสีหน้าและแววตาดูเย็นชาอย่างน่ากลัว แต่เวลาสิบปีอะไรๆมันก็เปลี่ยนไปทั้งนั้นแหละ เธอเลยไม่สนใจอะไรแล้วตอบกลับไปสีหน้าเรียบตึง
         " แล้วมันหนักหัวนายหรอ..ฉันไม่ได้ไปนั่งกินบนหัวนายนี่ " เธอตอบแต่เขากลับร่ายสายตาไปทั่วร่างของเธอ
         เธอใส่เกาะอกขนนกสีดำกับการเกงขาสั้นเสมอหูสีขาว เธอรีบนำมือมาปิดไว้ทันที
         " นี่!นายอย่ามามองฉันแบบนี้นะ! " จรินดาต่อว่าด้วยอารมณ์ขุ่นมัวที่เขากวาดสายตามองเธออย่างไร้มารยาท
         " ทำไม..ทำไมฉันจะมองไม่ได้..อย่างเธอคงให้เขาดูทั้งวันทั้งคืนทั้งนอกทั้งในแล้วล่ะมั้ง " เขาพูดอย่างเหยียดหยามทำให้เธอกำมือแน่นแล้วหันหลังเตรียมตัวเดินออกไป แต่เขาก็กระชากแขนเธอจนตัวเธอปลิวไปติดกับอกแกร่งของเขา
         " โอ๊ย! " เธอพูดพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อคลอเพราะเจ็บทั้งใจเจ็บทั้งกาย
         " ทำไม..พูดแค่นี้ถึงต้องเดินหนีเลยหรอ " นิคาร์โกพูดแล้วก้มหน้าลงมาถามอย่างใกล้ชิด
         " ที่เดินหนีน่ะ..ไม่ใช่อะไรหรอก..แค่ไม่อยากพูดกับคนปากหมา! " 
         
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×